รอเรื่องเล่าของสำนักอธิการบดีฟากขะโน้นนะคะ จะแจมด้วยเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับภาพยนตร์ไทยที่ไปใช้ถ่ายทำด้วยค่ะ แลบลิ้น
นิดหน่อยแล้วกันนะครับ
อ้างถึงรีพลาย 102
ผมใช้เวลาหลายวัน จึงค่อยๆนึกออกว่าแต่ก่อน ด้านหลังตึกอธิการบดีเป็นชุมชน จะว่าเป็นแหล่งเสื่อมโทรมก็ไม่ใช่ ก็ประสาชาวบ้านๆ รู้สึกเหมือนจะมีเรือนไม้2ชั้นเสียด้วย คงปลูกอยู่มานาน บ้านส่วนมากปลูกบนพื้นดิน เปิดเป็นร้านขายของ บางบ้านประตูเหมือนเมืองปาย ยุคนั้น รับรองว่าไม่มีใครรู้จักปาย ผมก็ไม่รู้จัก
ที่รู้จักแถวนั้น เพราะไปมั่วสุมกับเพื่อนที่หอซีมะโด่ง ข้างหลังหอ เป็นถนน เดินออกมาก็เจอชุมชนหลังตึกอธิการ
เท่านี้ก่อนนะครับ ภาพพวกนี้ไม่ชัดเจ๋งเหมือนในเมือง เล่า 10 ปีไม่จบ
คงต้องขอฝากความหวังกับคุณพี่ scarlet ช่วยตามหาศาลเทพารักษ์ให้ด้วยหละครับ
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5175.0ไปดูกระทู้แล้วครับ เก่าและลึกเกิน
ไปหาเพื่อนๆที่หอชาย บางทีก็ออกมาทางด้านหลังครับ แต่น้อยครั้ง อย่างมากก็อยู่บริเวณนั้น แต่คงเป็นด้านหลังตึกอธิการพอดี เลยพอจำสภาพได้ว่าเป็นชุมชน และก็ไม่ได้สังเกตว่ามีศาลอยู่หรือเปล่า ผมไปก็ชั่วครั้งคราว ไม่ได้พักอาศัยอยู่ประจำครับ
ผมเข้าใจว่า ปัจจุบันยังมีผู้ที่เคยอยู่หอซีมะโด่งและยังมีชีวิตอยู่เป็นจำนวนมาก น่าจะเป็นร้อยท่านขึ้นไป อายุก็ไม่ได้แก่เฒ่าอะไรนัก คิดว่า(อดีต)นิสิตชายที่อยู่ที่หอจริงๆ มีโอกาสที่จะรู้และจำเรื่องนี้ได้ เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว แต่ไม่ได้เข้ามาเว็บนี้ หรือตามหาตัวไม่เจอ
เป็นไปได้ที่ว่า การที่จุฬาเลือกที่ตรงนั้นทำธรรมสถาน อาจเกี่ยวข้องกับศาลเทพารักษ์ได้ สืบไม่ยากนี่ครับ หลังตึกอธิการเพิ่งสร้างใหม่ไม่กี่สิบปี เอกสารหลักฐานหรือคนที่เกี่ยวข้องน่าจะยังมีอยู่
ธรรมสถานอยู่ติดริมรั้ว เดินไปนิดเดียวก็เจอชาวบ้าน คนที่อายุ 50 ปีขึ้นไป ถ้าอยู่ที่นี่มาแต่เดิม น่าจะพอจำได้ ผมว่าถามคนอายุ 60 ปีขึ้นไปละ คงได้ข้อมูล