เรือนไทย

 เข้ามารายงานตัวทักทายคุณเทาชมพูและบรรดาแฟนเก่าของกระทู้นี้ค่ะ

 ตามคุณทองรักมาชมคุณย่าโซเฟียด้วยค่ะ

 ไม่ทราบว่ารูปคุณย่ารูปนี้จะทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นหรือเปล่า
นะคะ หรืออาจจะลดอุณหภูมิลงก็ได้ เพราะอุตส่าห์มีทะเล
เป็นฉากหลัง  โซเฟียเธอสวยคมเข้มจริง ๆ ด้วยค่ะคุณเทาชมพู
ชวนให้คิดว่าผู้หญิงสวยเข้ม(แข็ง) แบบนี้เหมาะจะมีคู่ชีวิตแบบไหนกันนะ แล้วคู่ชีวิตเธอจริง ๆ คือใครหรือคะ

 Only movie she stars which I watched is Grumpier Old Men ka. She still looks sexy na ka.

 คุณๆ 3 ภ. ไม่ได้เข้ามา ไปไหนไม่ทราบ คงจะไปเที่ยวสงกรานต์กับหลานๆ กระทู้นี้เลยค่อนข้างเงียบเหงาเลยนะคะ

ดิฉันก็ไม่ค่อยรู้อะไรมากเกี่ยวกับดาราคลาสสิค แค่เคยเห็นบ้างเท่านั้น เข้ามาก็ได้แต่มาฟังท่านอื่นๆคุยกันและมาดูรูปค่ะ

 สวัสดีค่ะ  มาช้าไปมั้ยคะ กลัวว่าคุณเทาชมพูจะปิดกระทู้แล้ว

ขอโยงคุยถึงยุค เดซี่ อาร์เนส กับดิโน มาร์ตินก่อนนะคะ ยุคนั้นคู่แต่งงานระหว่างดิโน่ กับโอลิเวีย เป็นที่กรี๊ดกราดมากค่ะ เพราะ ดิโน่ปิ๊ง โอลิเวีย ตั้งแต่แรกเห็น ยังกะ นิยายเลย แล้วดิโน่ก็หล่อน่ารักมาก  พึ่งทราบว่าเขาเสียชีวิตไป๑๕ปีแล้ว  
โอลิเวียเคยมาเมืองไทย กระเตงลูกเดินเล่นแถว สยามฯ ด้วยนะคะ ไม่ทราบเป็นลูกดิโน่หรือเปล่า เธอดูมอมแมมแบบพวกฮิปปีเชียวค่ะ ตอนนั้น

อยากคุยถึงดาราอีกคนที่ดังในหมู่สาวๆ ยุค ฮิปปี้นะคะ เขาชื่อ ซาจิด ข่าน เป็นดารานำเข้าจาก อินเดีย ตอนเด็กเขาเล่นเรื่องธรณีกันแสง ของราชกาปูร์ พ่อซาซิกาปูร์ ดาราอินเดีย สุดหล่อ
ซาจิด ข่าน เข้ามาเล่นหนังชุดทางทีวีคะ เกี่ยวกับช้าง ชื่อ มายา
คู่กันเจ นอร์ธ ดาราวัยรุ่นสมัยนั้น
ตอนนี้เขาเป็นยอย่างไรบ้างก็ไม่ทราบ เขาร้องเพลงมีอัลบั้มของตัวเอง เพลงที่เรารู้จักดี(แต่หลายคนร้อง)ก็  geting to know you ค่ะ  
แล้วเลยไปคิดถึง บ็อบบี้ เชอร์แมน ที่คนแถวนี้เขามีส่วนคล้าย
บ็อบบี้ก็เป็นนักร้องค่ะ ดังมาก่อน เดวิดแคสซีดี้ จากวง แพทริก แฟมิลี่

ยังมีอะไรคุยอีกเยอะค่ะ  ถ้ายังไม่เบื่อเสียก่อนนะคะ

มีคนถามหา นอร์มา เชียเรอร์ค่ะ  
พรุ่งนี้ดิฉันจจะคุยรายละเอียดถึงเธอเพิ่มเติมนะคะ

 สวัสดีค่ะ คุณสร้อยสน
ดีใจจังที่มาช่วยต่อชีวิตกระทู้นี้
แถมท่าทางจะคุยสนุกอีกด้วย
อยากเห็นรูปบ็อบบี้ เชอร์แมนจังค่ะ
ทองรักรู้จักแต่เดวิด แคสซีดี้    

 มารายงานตัวค่ะ  ขอบพระคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นค่ะ
ก็จะพยายามคุยไปเรื่อยๆนะคะ อันที่จริงคุยกันอยู่บ่อยๆในวงญาติ แต่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร  ยังมีเรื่องเก่าๆที่นอกเหนึอจากเรื่องดาราอีกหลายเรื่องค่ะ  ที่อยากคุย

นอร์มา  เชียเรอร์ เป็นดารายุคหนังเงียบ รุ่นเกรต้า การ์โบค่ะเธอเอาตัวรอดสามารถกลับมาแสดงหนังมีเสียงได้เพราะเสียงเธอเพราะ คุณเทาชมพูเคยโพสต์รูปเธอที่เล่นคู่กับ ไทโรน หรือแอรอล ฟินน์ นะค่ะ  มาทีแล้ว แต่เป็นรูปด้านข้าง (ยังมีกลอนชมโฉมอยู่ใน สตีอก สองบทค่ะ ดิฉันแอบเห็น)

ส่วนบ็อบบี้เชอร์แมนนี่ ดิฉันเองว่าตาจมูกปาก คาง เขามีส่วนคล้ายเอลวิสตอนหนุ่มๆนะคะ แต่ผมจะคนทรงเลย บ็อบบี้จะไว้ผมเป็นบ็อบ ป้ายข้างไม่แสกชัดเจน เป็นทรงที่หนุ่มๆเขาคิดว่าเขาหล่อมาก เวลาเล่นกีตาร์ ต้องก้มนิดๆ ให้ผมห้อยลงมา
สมัยนั้นถ้าไปชมว่าเขาเหมือนเอลวิสน่ะ เขาโกรธค่ะเพราะว่าเชยไป  แล้วคงจะนึกออกนะคะว่าคนที่ถูกชมว่าหล่อเหมือนแกงกระหรี่เป็ดจะทำหน้างอแค่ไหน

คุณเทาชมพูจำ ซิดนีย์ ปอยเตียร์จากTo sir with love ได้มั้ยคะ
รู้สึกเขาจะเป็นดาราผิวดำคนแรกที่ได้รับออสการ์

ดาราผิวดำในยุคก่อนมีใครกันบ้างคะ สมัยนั้นรู้สึกจะมีแต่นักร้องเสียมากนะคะ

 คุณทองรัก  นอร์มารูปนี้สวยน่าประทับใจมากค่ะ  ไม่เคยเห็นมาก่อน
ดาราผิวดำ...ยุคเก่าแก่น่าจะเป็นตัวประกอบเสียส่วนใหญ่ อย่างที่เล่นเป็นแม่บ้านและคนใช้ใน Gone with the Wind
ดาราระดับพระเอก  นึกไม่ออกนอกจากซิดนีย์ ปอยเตียร์  นางเอกยิ่งนึกไม่ออกใหญ่เลยค่ะ

 ขอบคุณค่ะ คุณเทาชมพู รูปนี้สวยจริง ๆ ด้วยทั้งนางแบบ สีเสื้อผ้า และการจัดแสง (เข้ากั๊น เข้ากัน) ทองรักได้มาจากเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งค่ะ เขาเป็นคอลัมนิสต์ที่เขียนบทความเกี่ยวกับภาพยนตร์ต่างประเทศ ให้มาทั้งรูปแล้วก็ประวัติอย่างละเอียดอีก 1 ปึก  เสียดายที่เธอไม่ได้เล่นเน็ตไม่งั้น ทองรักคงจะไปฉุดมาคุยด้วยที่บ้านนี้แล้วค่ะ

 สวยมากค่ะ กลอนบทนี้เป็นของเธอ

งามพิมพ์พักตร์ผ่องพรรณใครสรรสร้าง
งามสล้างรูปทรงดังหงส์เหิน
งามเนตรน้องชายตามาเผชิญ
พิศจนเพลินไม่อยากจะจากไกล

หนุ่มๆ ทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็กมารุมหน้าจอนี่สลอนเลยค่ะ

 เกิดความคิดใหม่ว่าจะขอคุยเรื่องหนังเก่าๆที่เคยดู นำก่อน เผื่อถ้าใครมีรูปที่ของดาราในเรื่องนั้นจะได้แปะให้ดูกันบ้าง เพราะเท่าที่ดูๆ ดาราคลาสสิกจริงๆ ถูกคุณหนุ่มๆเขาชิงเอ่ยถึงไปเกือบหมดแล้วมังคะ

ดิฉันชอบเรื่องImmitation of lifeค่ะ หนังปีไหนไม่ทราบแน่ แต่เป็นหนังขาวดำ เป็นเรื่องความสัมพันธ์ของแม่ลูกสองคู่ผิวขาวกับผิวดำ
ดารานำคือ ลานา เทอร์เนอร์ค่ะ  แซนดร้า ดี รับบทลูกสาว
แล้วดาราผิวดำที่เป็นตัวแม่ ซึ่งในเรื่องเป็นคนรับใช้ของลานาเธอชื่อ ฮวนนิต้า มัวร์ค่ะ เธอเล่นได้ประทับใจสุดๆ ส่วนลูกสาว ในเรื่องดิฉันจำชื่อเธอไม่ได้ สวย ไม่ดูเป็นคนดำเลย และนี่เป็นปมในเรื่องที่เจ้าตัวพยายามปกปิดคนอื่นว่ามีแม่เป็นนิโกร  
เรื่องนี้ประทับใจมากค่ะ(คนตรงนี่พยักหน้ากันหงึกหงักเห็นด้วย)
ข้อสำคัญทั้งแม่และลูกคู่ผิวดำได้เข้าชิงออสการ์ด้วยค่ะ

 อันนี้ขอนอกประเด็นนิดนึงค่ะ มีคนฝากเพลงนี้มาแปะให้คุณเทาชมพูบอกว่าอ่านนิยายเรื่องหนึ่งที่กำลังฮิตตอนนี้แล้วคิดถึงเพลงนี้ค่ะ

ดวงฤดีของพี่นี้หนอ.....ถูกใครฉ้อช่วงชิงไป
พี่ถวิลหาทรามวัย..ฝันถึง(ฝันถึง)
คะนึงถึง(คะนีงถึง)......ยอดดวงใจ(ยอดดวงใจ)
ยอดชีวิตรู้หรือไม่หนอกานดา
เช้าสายบ่ายเย็นพี่เห็นหน้า(พี่เห็นหน้า)
โอ้ขวัญตา (โอ้ขวัญตา)  ...พี่ปรารถนาดวงฤดี
รักเธอเสมอ...รักเธอเสมอ.....รักเธอเสมอ
ตราบฟ้าสิ้นดาว เวหาหาวสิ้นรัชนี
ดวงตะวันหยุดส่องพื้นปฐพี
ทุกเวลานาทีถ้อยคำนี้ไม่กลับกลาย..
รักเธอเสมอ.....รักเธอเสมอ.....รักเธอเสมอ.....

 คิก คิก ขออนุญาตแก้ข้อสงสัยคุณเทาชมพูเรื่องเพลงก่อนนะคะ รู้สึก คุณชายถนัดศรีจะเป็นผู้ร้องค่ะ แต่คนที่ร้องโหยหวนอยู่แถวนี้ท่าทางจะเป็นถนัดถู  ถนัดไถ
นิยายที่ว่านี่นางเอกไม่ได้ชื่อดวงฤดีค่ะ แต่ชื่อของเธอแปลว่าน้ำสีครามอะไรทำนองนี้
ส่วนเพลงนี้บรรยายความรู้สึกของพระเอกที่ชื่อของเขาแปลว่าทองแท่ง เพราะว่าขณะนี้พ่อทองแท่งกำลังหม่ำแห้วผสมระกำ อาบน้ำใบบัวบกเพราะ"ดวงฤดี"ของเขา คล้ายๆจะถูกฉ้อช่วงชิงไปมังคะ
รูปนอร์มาสวยทุกรูปค่ะ ดูกันเพลินทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็ก คงมีกำลังใจวุ่นกับงานกันอีกแยะเลย

 เข้ามาชมรูปสาวสวยนอร์มา พร้อมกับฟังเพลงที่ "บอกอายุ"    คนร้องด้วยคนค่ะ (อายุคนฟังไม่เกี่ยวนะคะ)
ทองรักนึกชื่อนิยายเรื่องนั้นออกแล้วค่ะ
ตอนนี้กำลังตามลุ้นสุดชีวิต ขออนุญาตนอกเรื่องนิดนึงได้ไหมคะ
คือทองรักชอบเพลงที่อยู่ในนิยายเรื่องนี้ตอนล่าสุดน่ะค่ะ
ที่ขึ้นต้นว่า
แม้อยู่ห่างนงนุชสุดฟากฟ้า ถึงภูผากั้นขวางทางสมาน....

นี่ชื่อเพลงอะไรหรือคะ คุณสร้อยสนหรือท่านอื่น ๆ พอจะทราบบ้างไหมคะ

 ชื่อเพลง สุดฟากฟ้า ค่ะ ใครร้องแต่เดิมไม่ทราบ แต่ทนงศักดิ์ ภักดีเทวานำมาร้อง ไพเราะมาก

แม้อยู่ห่างนงนุชสุดฟากฟ้า
เหมือนภูผากั้นขวางทางสมาน
อำนาจรักดินฟ้าดลบันดาล
ให้พบพานพ้องประพาสไม่คลาดคลาย

แต่รักแล้วดวงแก้วมาลาลับ
เหมือนโลกดับสิ้นแสงสุรีย์ฉาย
เหมือนจันทร(อ่านว่าจัน-ทอน)ร่อนฟ้าถลาทลาย
สุดสายแสนสวาทประหลาดลอย

 ขอบพระคุณ คุณเทาชมพูมากค่ะ
ทองรักต้องรีบไปหาเทปเพลงนี้มาฟังบ้างแล้ว
ปกติก็ชอบเสียงคุณทนงศักดิ์อยู่แล้วด้วย
ตอนอ่านนิยายเรื่องนั้น ชอบเนื้อร้องเพลงนี้มากเลยค่ะ
ประทับใจจริง ๆ

 ตอนนี้ สุดฟากฟ้าก็เลยเป็นเพลงท้อปฮิต ของแถวนี้ค่ะ
ไพเราะจริงๆเนื้อร้องก็ซาบซึ้ง  (แต่ต้องฟังทุกวันติดๆกันมาสองสามวันแล้ว)

คุณเทาชมพูจำ แนนซี่ กวาน ได้มั้ยคะ เธอดังมาจากเรื่อง โลกของซูซี่ หว่อง เพลงดังของเรื่อง เพลงนี้ค่ะ

I hear the bell call dingdong ding dong disturb my heart
each time you say love me  then i say eachtime for ding dong to start
each time you say love me  ding dong  ding dong
i know i  don't wait too  long
to hear the bells call ding dong  
to hear the bells call .......... ding dong  

โอย กว่าจะจบ มีคนร้องให้ฟังหงิง หงิง อยู่ตรงนี้ค่ะ ไม่แน่ใจว่าถูกหรือผิด เจ้าตัวเขาก็ร้องจากความจำ

 แนนซี่ กวาน สวยดีนะคะ ไม่ขาวจั๊ว ผมดำยาวตรงๆ ผอมบาง ขาสวย เล่นหนังอยู่หลายเรื่อง เคยเล่นหนังของ วอลท์ ดิสนีย์ เลียนแบบ โรบินสันครูโซ คู่กับดิก แวนไดค์(มังคะ) เป็นสาวชาวเกาะ

 จำหนังเรื่องนี้ได้ค่ะ คุณสร้อยสน เพราะทองรักชอบ William Holden พระเอกเรื่องนี้ค่ะ รู้สึกว่าเมื่อไม่นานมานี้ UBC ก็เอามาฉายอีก จำเพลงข้างบนได้ด้วยค่ะ  เคยร้องเล่นบ่อยๆ
เสียดายจังที่ไม่มีคนมาร้องให้ฟังเหมือนคุณสร้อยสน    

 จำได้ค่ะ  โลกของซูซี่ วองเอามาฉายทางยูบีซี เลยได้ดูพร้อมหนังอื่นๆที่เธอเล่นอีกหนึ่งหรือสองเรื่อง

เอาประวัติมาให้อ่าน เสียดายหารูปไม่ได้ค่ะ

แนนซี่ กวานเกิด ๑๙๓๙  ปีนี้ก็๖๓แล้ว
เป็นลูกครึ่ง พ่อจีน แม่อังกฤษ  เรียนอยู่ที่ Royal Ballet School ของอังกฤษตอนฮอลลีวู้ดตาไวไปเห็นเข้าเมื่ออายุได้ ๑๘
บทเด่นที่ได้คือโสเภณีสาวฮ่องกง น่ารักน่าสงสาร ชื่อซูซี่ วอง คู่กับวิลเลียม โฮลเดนในบทศิลปินหนุ่มอเมริกัน  ใน The World of Susie  Wong ดังระเบิดในปี ๑๙๖๐

พล็อตโรมานซ์ระหว่างหนุ่มดีๆกับโสเภณีสาวน่ารักไร้เดียงสา  ขายได้หมด ไม่ว่ายุคไหน  ตั้งแต่นิยาย La Dame aux Camilias ของ Alexandre Dumas fils เมื่อศตวรรษที่ ๑๙  มาจนซูซี่ วองใน 1960 และ Pretty Woman ผู้หญิงบานฉ่ำที่ส่งให้จูเลีย โรเบิตส์ดังเป็นพลุแตกสิบกว่าปีก่อน


กลับมาที่แนนซี่
ผลจากซูซี่ วอง เธอได้เล่นอีกเรื่องคือ Flower Drum Song  หนังเพลงที่แทบไม่มีเนื้อ มีแต่น้ำ  แต่โชว์ความสวยและฝีเท้าของนางเอกเต็มที่
เพราะแนนซี่เรียนบัลเล่ต์มาก่อน เธอจึงเต้นระบำเก่งมาก  ได้รับบทเต้นระบำในหนังเบาๆอีกหลายเรื่อง
เป็นดาราเอเชียที่ฮิทที่สุดในยุค ๑๙๖๐

อายุมากขึ้น ความสวยเริ่มถดถอย  งานก็น้อยลง    แนนซี่ออกจากอเมริกาไปอยู่กับพ่อที่ฮ่องกงเมื่อ ๑๙๗๒    แต่งงานมีลูกเต้าไปตามระเบียบ  จนแก่ก็กลับมาเป็นดารารับเชิญนิดๆหน่อยๆในหนังทีวีช่วง ๙๐s  
ปัจจุบันเธอเป็นนักธุรกิจหญิงเจ้าของผลิตภัณฑ์ครีมไข่มุก  ยี่ห้ออะไรไม่ทราบ ใครสนใจจะใช้เชิญสืบหาเองละกันค่ะ

ชอบรูปวูปี้มากค่ะ  หน้าตาเธอฉลาดจริงๆ ดูสดใสและขี้เล่น
ดิฉันดู Sister Act อัดวิดีโอไว้ด้วยนะคะ

 ต้องปรบมือดังๆให้คุณทองรักเลยค่ะ

หวังว่าจะมีเรื่องของหนุ่ม  William Holden มาให้ชมมั่งนะคะ

รูปแนนซี่บางมุมดิฉันไปนึกถึงปวีณา ชารีฟ น่ะค่ะ ทั้งๆที่แนนซี่มีเชิ้อจีน(อ้อมีคนค้านว่าต้นขาเธอใหญ่ออก แน่ะ)

กระทู้นี่เราไม่ต้องรีบร้อนนะคะ คุยกันจนกว่าจะตกหน้าแรก เห็นที่ผ่านๆมา เจ้าประจำเล่นชวนคุณเทาชมพูคุยกันฟุ้งจนถึงหลักร้อย ในเวลาไม่กี่วัน

 ดิฉันก็เลยนึกถึงหนังที่เกี่ยวกับหนุ่มอเมริกัน กับสาวชาวตะวันออกได้อีกเรื่อง

ซาโยนาระ ค่ะ เรื่องนี้มาลอน แบรนโด หล่อเชียว นางเอกชื่ออะไร หน้าตายังไงนึกไม่ออก จำได้ว่าสวยดีเหมือนกัน

ดิฉันไปจำหน้าคนที่แสดงบทนางรองที่ฆ่าตัวตาย(ในเรื่อง)กับสามีชาวอเมริกันเพราะถูกขัดขวางเรื่องความรัก
หน้าตาเธอหยีๆแบบญี่ปุ่นสมัยก่อนเลยค่ะ คิ้วดำ ตัดผมม้าเต่อๆ
เธอมาเล่นเป็นแม่บ้านให้พระเอกในหนังทีวีชุด Eddy's father ที่ชื่อไทยว่าพ่อเรือพ่วงค่ะ

พอพิมพ์ถึงตรงนี้เพลง ซาโยนาระ แว่วมาเลยค่ะ

 แปลกจังทองรักจำเรื่องซาโยนาระได้เฉพาะตรงที่พระเอกหล่อมากกับที่นางรองฆ่าตัวตายเหมือนคุณสร้อยสนเลยค่ะ
ส่วนอื่นจำไม่ได้เลยเพราะเคยดูนานมากกกแล้ว
ตอนจบของเรื่องก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำไป  เรื่องนี้เนื้อเรื่องคล้ายกับ Madam Butterfly หรือเปล่าคะ คุณสร้อยสน
รูป Dorothy สวยจังเลยค่ะคุณเทาชมพู

 โดโรธีสวย หวานดีจังค่ะคุณเทาชมพู
กลอนบทนี้ ยกให้เธอเลยค่ะ

อันว่าน้ำอ้อยหวานปานจะหยด
เหล่ามวลมดตอมกินถวิลหา
ยังไม่หวานปานเทียบเปรียบสุดา
แก้วกันยาหวานซึ้งตรึงฤทัย

 ตอนจบ ซาโยนาระ สมหวังค่ะ คุณทองรักไม่เศร้าหรอก  มีคนจะเล่ารายละเอียดอีกนิดหน่อยเพิ่มเติม ขอผัดเป็นพรุ่งนี้นะคะ

ซาโยนาระ (ชั่วคราวค่ะ)

 ตอนจบพระเอกตัดสินใจใช้ชีวิตกับนางเอก ส่วนหญิงสาวอเมริกันที่พ่อแม่ของพระเอกอยากให้แต่งงานด้วย(แหม เป็นรูปแบบบังคับเลยค่ะ) เธอใจกว้างเปิดทางให้แต่รู้สึกว่าถึงเธอจะไม่เปิดทาง พระเอกก็ไม่ยอมทำตามใจพ่อแม่ค่ะ

อ้อ คุณดวงเทียนคงทราบว่า วิลเลียม  โฮลเดน ไปเฝ้าเง็กเชียน(ตามสำนวนคนแถวนี้) ตั้งแต่ทศวรรษ ๘๐ แล้วนะคะ ตอนนี้อาจจะมาเกิดเป็นหนุ่มน้อย หลานชายของพวกเราก็ได้มั้ง ฮิ ฮิ

 ตอนนี้มดจะอดน้ำตาลอีกนานล่ะค่ะ คนผลิตเขากำลังยุ่งๆ

ได้ชื่อสาวหน้าหยี ผมม้าเต่อแล้วค่ะ เธอชื่อ มิโยชิ ยูเมกิ
ที่เหลือให้คุณดวงเทียนมาคุยต่อ ถ้าได้รูปเธอก็ดีนะคะ ดิฉันได้ข้อมูลมาว่าเธอค่อนข้างดังเชียว

ยังมีหนังที่เกี่ยวกับหนุ่มตะวันตกผมทองกับสาวตะวันออกอีกเรื่องที่อยากคุยค่ะ หนังไม่เก่ามาก คุณทองรักอาจจะได้ดูตอนฉายที่โรงด้วย  ดิฉันชอบตัวพระเอกมาก คุณเทาชมพูเคยนำเรื่องของเขามาคุยแล้ว

 ทองรักเอาเนื้อเพลงมาฝากคุณเทาชมพูค่ะ
อยากฟังเพลงนี้จังเลย วานคุณสร้อยสนช่วยให้
คนชอบร้องเพลงแถวนั้น ร้องให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ
แต่ต้องระวังอย่าไปร้องผิด เป็นร้องให้คุณดวงเทียนฟังล่ะ

I met a little girl in Hong Kong town
And I said can you tell me please,
Where's that love I've never found.
Unravel me this riddle.
What is love, what can it be.
And in her eyes were butterflies
As she replied to me,

Love Is A Many Splendored Thing
Love is a many splendored thing
It's the April rose that only grows in the early spring
Love is nature's way of giving a reason to be living
The golden crown that makes a man a king
Once on a high and windy hill
In the morning mist two lovers kissed
and the world stood still
Then your fingers touched my silent heart
and taught it how to sing
Yes, true love's a many splendored thing
Once on a high and windy hill
In the morning mist two lovers kissed
and the world stood still
Then your fingers touched my silent heart
and taught it how to sing
Yes, true love's a many splendored thing.

 Umeki Miyoshi ที่เล่นเป็นนางรองสาวผมม้าในเรื่องซาโยนาระ เธอเป็นสาวญี่ปุ่นค่ะ เกิดที่ฮอกไกโด เมื่อวันที่ 3 เมษายน 1929 ตามประวัติบอกว่าก่อนที่จะไปอเมริกาเธอเคยเป็นนักร้องในไนท์คลับที่ญี่ปุ่นมาก่อน Sayonara เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอค่ะ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าชิงออสการ์ในปี 1957 หลายรางวัลด้วยกัน อาทิเช่น ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ดารานำชายยอดเยี่ยม ดาราสมทบชายและหญิงยอดเยี่ยม ฯลฯ และได้รับรางวัลดาราสมทบชายและหญิงยอดเยี่ยมค่ะ (ภาพยนตร์ที่ได้รางวัลยอดเยี่ยมปีนั้นคือ The Bridge on The River Kwai และดารานำชายยอดเยี่ยมก็มาจากเรื่องนี้ค่ะ) มิโยชิเธอแสดงในเรื่อง Flower Drum Song ที่แนนซี่กวานเป็นนางเอกด้วยค่ะ

 ตายแล้วคุณทองรักขา ขออภัย ดิฉันติดปากไปคิดถึงเพื่อนสาวที่คุยกันถูกคอ
แหม  นี่ถ้าเราเป็นแฟนกันก็เป็นเรื่องซีคะ แบบ ฉางกายน่ะ ชื่อที่ติดปาก
คุณดวงเทียนของดิฉันคงหนาวๆร้อนๆแน่เลย

เพลงนี้เพราะมากค่ะ ไม่แน่ใจว่าคนชอบร้องเพลงจะโก่งคอร้องได้จบมั้ย

เจนนิเฟอร์ โจนส์ ดูเป็นสาวจีนได้สนิทเลยค่ะคุณเทาชมมพู ดูเป็นสาวจีนที่ฉลาดเสียด้วย

 มีคนฝากมาแซว(อีกแล้ว)ว่า พ่อวิลเลียมนี่ ของคุณทองรัก(คุณทองรัก คุณทองรัก คุณทองรัก ต้องท่องหลายๆรอบ) ชรอยจะตรงสเปคสาวชาวเอเชีย เลยได้รับบทแบบนี้ บ่อยๆ  จริงมั้ยเอ่ย คุณทองรักขา

 ฮิฮิ ดีแล้วค่ะที่เราไม่ใช่แฟนกัน ไม่งั้นคุณสร้อยสนอาจตกที่นั่งลำบากกว่ามังคละเทวีก็ได้ค่ะ  

"ในความรัก (หรือความชอบ) มักจะไม่มีเหตุผล
เพราะถ้ามีเหตุผล มันก็ไม่ไม่ใช่ความรัก"
นักเขียนใหญ่ท่านหนึ่งที่ทองรักชื่นชมมาก เคยบอกไว้ในงานเขียนชิ้นหนึ่งของท่านค่ะ ทองรักฝากคำตอบนี้ผ่านคุณสร้อยสนไปให้คนชอบแซวด้วยนะคะ
ความจริงมีดาราหนุ่มอีกคนที่ทองรักชอบมาก และอยากคุยถึงแต่ไม่แน่ใจว่ามีใครจำได้ไหมคะ บุคลิกเธอจะคนละแบบกับ      วิลเลียมเลยค่ะ คนนี้ติดจะบู๊หน่อย Tom Selleck ไงคะ เธอเล่นหนังทีวีชุดมือปราบแม็กนั่ม โด่งดังมากเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว จำได้ว่าช่วงนั้นติดหนังเรื่องนี้งอมแงมเลยค่ะ หลังจากนั้นก็ได้ดู ทอม แสดงภาพยนตร์เรื่อง Coma ที่เนื้อเรื่องน่าจะทันสมัยมากสำหรับเวลานี้นะคะ คือเป็นเรื่องเกี่ยวกับหมอที่ทำให้คนไข้สุขภาพดีเกิดอาการโคมาแล้วหมอก็จัดการขโมยอวัยวะของคนไข้ไปขายไงคะ ทอมเป็นคนไข้ที่กลายเป็นคนมีอาการโคมา ส่วนนางเอกเป็นนักสืบตามไปช่วยพระเอกให้รอดมาได้ ขนาดดูมาเป็น 10 ปีแล้วภาพยังติดตาอยู่เลยค่ะและไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้จริง

 ขอบคุณคุณเทาชมพูมากค่ะ  ทอม เซลเลคอายุ 57 ปี
เชียวหรือคะ ยังดูหล่อและสมาร์ทมากเลยค่ะ

 เปิดกระทู้เข้ามาก็ต้องรีบอุดหู เสียงกรี๊ด ของสาวใกล้ตัวค่ะ
แหม คนโปรดของคุณเธอซะด้วย

เรื่องThree Men and a Baby รู้สึกจะเลียนแบบหนังของยุโรปนะคะเรื่องคล้ายๆกัน แต่ไอ้กันจะทำหนังตลกและตื้นกว่ามาก(คนชอบหนังฮอลลีวู้ด ค้อนตาคว่ำแล้วค่ะ)

แล้วคนโปรดของดิฉัน คุณทองรักทายออกมั้ยคะ เขาเล่นเป็นเจ้าชาย ต่างแดนมาปิ๊งไกด์สาวชาวอาทิตย์อุทัย แต่เรื่องที่ดังมากๆของเขา เป็นหนัง ไซ ไฟ ที่พระเอก ถูกตามล่า หนังเรื่องนี้ดังขนาดต้องทำมาฉายในทีวี

คุณเทาชมพูคุยถึงเขาไปแล้วค่ะ แต่ถ้ามีรูปให้ดูก็อยากดูอีกค่ะ

 เรายังไม่ได้คุยถึงแอนโทนี ควินค่ะ ถ้ามีเรื่องหรือภาพของเขา ก็ นำมาคุยกันบ้างก็ดี

ชอบรูปที่๖๘ค่ะ ส่วนรูปที่๖๙ไม่ชอบค่ะ ดิฉันเป็นโรคแพ้ขน(ชายหนุ่ม) ดูมันยุ่บยั่บ พิกล

พ่อทอมนี่  ผมแกสวยนะคะหยักศก แบบนี้ไว้ยาวเกาะต้นคอดูดี๊ ดี

 ขอทายว่าคนโปรดของคุณสร้อยสนคือ ไมเคิล ยอร์คใช่ไหมค่ะ
หนังเรื่องนั้นชื่อ Seven Night in Japan ค่ะ พล็อตเรื่องคล้าย
Roman Holiday นะคะ ตอนที่หนังเรื่องนี้เข้าฉายทองรัก
ยังครึ่งเด็กครึ่งวัยรุ่นอยู่เลยค่ะ

 ถูกตัองแท้แน่นอนค่ะ  ดิฉันชอบเขาตั้งแต่เล่นเป็นพี่ชายของจูเลียตนู่นเลยค่ะ   ผมเขาจริงๆสีทองสวยเชียว หน้าตาไม่หล่อแต่ดูดี ชอบหนุ่มชายรูปร่างประมาณนี้แหละค่ะ

วันจันทร์ถ้าคุณทองรักไม่มีอะไรคุยเพิ่มจะมาเปิดประเด็นถึงหนังเรื่องอื่นต่อนะคะ (ถ้าไงหารูปหวานใจดิฉันมาให้มั่งก็ดีค่ะ)

 Hae...hae...I know only Tom Selleck ka.

 ขอบคุญม้าก มากค่ะ

คุณเทาชมพูเล่าเรื่องของเขาไปแล้ว ละเอียดพอสมควร ไมเคิล จบ การศึกษามีระดับค่ะเป็นดาราที่สามารถคนหนึ่ง
ดิฉันเป็นโรคเดียวกับหนุ่มแถวนี้ ค่อนข้างจะปลื้มดาราอังกฤษ

มีเรื่องแถมเกี่ยวกับสาวญี่ปุ่น คิ้วดำนิดนึงค่ะ
 คือเมื่อตอนดิฉัน เรียนมัธยม โรงเรียนหญิงล้วน เคยมีใครไม่ทราบนำหนังของเธอที่แสดงนำกับแนนซี่กวานมาฉาย
พระเอกที่คู่กัยเธอ รู้สึกจะเป็นดาราจีน หล่อเชียวค่ะ ตรงกันข้ามกับคนที่คู่กับแนนซี่ หน้าตา รูปร่างเป็นอาเสี่ยเปี๊ยบเลย

แหม ที่สำคัญ มีบทที่หนูยุ่น นี่จู จุ๊บกับพระเอกด้วย  M. to M.
ซะด้วยค่า เล่นเอาสาวน้อยสมัยนั้นกิ๊วก๊าว กันใหญ่
อันที่จริงก็เคยดูกันแล้วค่ะ บทแบบนี้ แต่ได้มาดูที่ในโรงเรียน นี่
แหม ยาก บรรยายจริงๆ(นึกถึงหน้าคุณครู กับมาแมร์ที่คุมพวกเรามาดูน่ะ ค่ะ ฮิ ฮิ)

 เอาล่ะ ค่ะ ชวนคุยเรื่องหนังอีกเรื่อง
Great Gasby  ค่ะ จำได้มั้ยเอ่ย
เรดฟอร์ดเรื่องนี้เริ่มจะมีริ้ว มีรอย แล้วค่ะ แต่ที่อยากพูดถึงคือ มีอา ฟาโวร์  นางเอกของเรื่อง บทของเธอเรื่องนี้ (หนุ่มๆค่อนว่า) ดัดจริตดีเหลือเกิน  ที่ดิฉันชอบมากคือ แฟชั่น ค่ะ ชุดสไตล์นี้สวยจริงๆ ดูดีทั้งชายทั้งหญิง โทนสีที่ใช้ก็นุ่มนวลดีมาก

ดิฉันรู้จักเธอมาตั้งแต่เล่นหนังทีวี Payton place (สะกดไม่ถูกค่ะ)
จำได้ว่าเธอเล่นเรื่องนั้นชื่อเอลิสัน แต่เรื่องจำไม่ได้เลย

 The Great Gassby สร้างจากนวนิยายคลาสิคของ
สก็อต ฟิตเจอร์รัลด์ เคยสร้างเป็นภาพยนตร์ก่อนหน้านี้มา 2
ครั้งแล้วค่ะ จำได้ว่าตอนที่ดูหนังเรื่องนี้ (รวมทั้งตอนที่เรียนนวนิยายเรื่องนี้ตอน ปี 4 ด้วย) ไม่ค่อยประทับใจเท่าไร      เพราะตอนนั้นยังอายุน้อยมังคะ ไม่ชอบพระเอกยากจนค่ะ อิ๊อิ๊
ทองรักชอบเรดฟอร์ดจากเรื่อง The Way We Were มากกว่าค่ะ เห็นจะเป็นเพราะชอบเนื้อเรื่องด้วยมั๊ง  ความรักของหนุ่มสาวที่อุดมการณ์ต่างกัน ดูตอนเป็นหนุ่มเป็นสาวได้อารมณ์ร่วมดีจัง แต่ไม่รู้ว่าถ้ามาดูตอนนี้จะรู้สึกยังไงนะคะ

 ขอบคุณค่า  ยังรออีกนิดเผื่อคุณทองรักจะไปเต๊าะ เพื่อนสาวที่ทำเรื่องดาราได้ แฟชั่นยุคนั้นสวยจริงๆค่ะ(มีคนพยักหน้าหงึกๆเห็นด้วย)  ผมของนางเอกเป็นลอนสวยจังเห็นสาวน้อยสมัยนี้แล้วอ่อนใจ  เหมือนโดนแกล้งตัด(สำนวนคุณอาค่อนหลาน)

ไปดูรูปตัวเองยุคเซเวนตี้แล้วก็เขิน ช่วงนั้นแฟชั่มไม่สวยเลย ดีตรงผมกับไม่อวดเนื้อหนังเท่าหลานๆสมัยนี้(ตอนนั้นโชว์แต่ขาค่ะ)

พอเปรียบกับรูปยุคคุณแม่ต้องอายม้วนต้วนเลย ยุคนั้นเขาแต่งตัวกันสวยจริง ดูเมื่อไหร่ก็รู้สึกว่าสวยอยู่ดีค่ะ

 ขอโทษนะคะคุณทองรัก ทิ้งกระทู้ไปนาน
ขอบคุณมากกก  ค่ะสำหรับรูปสวยๆพวกนี้
ดีใจที่ได้เห็น บาร์บารา พาร์กิ้น อีกครั้ง เธอสวย คมดีนะคะ ไปนึกถึงที่เธอเล่นเรื่อง Valley of the dolls  กับ แพทตี้ ดุ๊ก และชารอน เทด(รู้จักเธอมั้ยคะ)  เนื้อเรื่องของสามสาวที่ชิงดีชิงเด่นในวงการมายา  เอสแซกท์ นำมาทำละครชื่อ วังน้ำวน เรื่องเกือบจะลอกมาทีเดียว

ย้อนมาคุยเรื่องมีอา อีกนิดค่ะ ดิฉันก็ว่าเธอไม่สวยมากนัก แต่สมัยนั้นจำได้ว่าสื่อมวลชน เมืองนอกเขียนเชียร์เธอเสียเลิศลอย
ชื่นชมแม้กระทั่งสไตล์การแต่งหน้าของเธอ

เห็นทรงพูดเดิ้ล แล้วขำมากค่ะสมัยนั้นเกือบจะเกิดศึกสายเลือดระหว่างพี่น้องทีเดียว
ดิฉันไม่เคยไว้หรอกค่ะ ตัดบ๊อบมีผมม้า อยู่นานมากเชียว

DVD หนังเก่าทาง Amazon.com ทำให้เลือกซื้อหนังคลาสสิกเก่าๆมาดูได้หลายเรื่อง
โดยเฉพาะหนังคลาสสิกที่ทำออกมาสำหรับเด็ก    หลายเรื่อง ฮอลลีวู้ด ไม่นำมาทำใหม่อีกแล้ว   ใครชอบก็ได้แต่ซื้อหนังเก่าพวกนี้มาสะสมไว้ 
เพราะหลายเรื่องก็ทำจากวรรณคดีคลาสสิก  อย่างเช่น Gulliver's Travels, Zinbad ,Jack the Giant Killer

พระเอกที่แทบจะผูกขาดหนังแฟนตาซีแบบนี้ ชื่อเคอร์วิน แม็ทธิวส์     รูปหล่อและเล่นเก่ง   โดยเฉพาะเมื่อต้องเล่นคนเดียว ทำท่าทำทางเหมือนกำลังรบกับยักษ์  พูดกับคนตัวจิ๋ว   ฟันดาบกับโครงกระดูกฯลฯ เขาก็ทำได้เนียน

ตัวจริง หน้าตาเป็นแบบนี้

เคอร์วิน แม็ทธิวส์ เป็นครูร.ร.หนุ่มจากวิสคอนซินมาก่อนจะเข้าวงการดารา   ในเมื่อรูปหล่อเตะตา บริษัทโคลัมเบียก็ตกลงเซ็นสัญญา  เขาเล่นหนังฟิล์มนัวร์มาก่อนจะมาเล่นหนังแฟนตาซี สำหรับเยาวชน ซึ่งกลายเป็นหนังคลาสสิกทั้ง ๓ เรื่อง คือ The 7th Voyage of Sinbad(1958), The 3 Worlds of Gulliver (1960), and Jack the Giant Killer (1962)
หลังจากนั้นก็ไปเล่นหนังสายลับแบบเจมส์บอนด์ บ้าง  หนังสยองขวัญบ้าง จนอายุมากเกินกว่าจะเล่นเป็นพระเอกรูปหล่อได้อย่างเมื่อก่อน  เขาก็อำลาวงการเมื่ออายุราว ๕๐
ไปทำธุรกิจค้าขายเครื่องเรือน ที่ซานฟรานซิสโก แม้ว่าออกจากวงการนานมากแล้ว แต่หนังที่ทำ DVD กับเอามาฉายซ้ำทางทีวี ทำให้เคอร์วินได้รับจดหมายจากแฟนเด็กๆ และแฟนเก่าแก่ที่ยังจำเขาได้ ไม่ขาดสาย
ยังความปลื้มปีติให้เจ้าตัวอย่างมาก
เคอร์วินเป็นเกย์ ไม่ได้แต่งงาน แต่อยู่กับเพื่อนชายคนเดียวมายาวนานถึง 46ปี  จนถึงแก่กรรมไปอย่างสงบในปี ๒๐๐๗ นี้เอง  อายุ ๘๑ ปี

      คลับคล้ายว่าจะเคยดูหนังนิทานของเขาครับ

         ค้นข้อมูลจาก imdb.com พบว่าเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อต้นเดือนนี้เอง - 5 July 07 ด้วย
ภาวะหัวใจวาย (heart attack) ข้อมูลว่า

         Kerwin died overnight in his sleep at age 81 in his San Francisco home,
survived by his partner of 46 years Tom Nicoll.

      อดคิดถึง และเสียดาย Rock Hudson ไม่ได้ เขาน่าจะมีอายุยืนนานเท่านี้ ไม่จากไปก่อน
และ/หรือ หากเขาเป็นเอดส์ในช่วงหลังที่มียาต้านไวรัสประสิทธิภาพดี เขาก็คงก็จะมีชีวิตอยู่ได้นานอย่างนี้ ครับ
   

แอนโทนี่  ฮอฟกิ้น   เป็นดาราดังมานานหรือยังครับ  ผมได้ดูแล้วประทับใจบทบาทหลายเรื่อง  โดยเฉพาะเรื่อง silence of the lamp แล้วตอนหนุ่มๆลุงแกหล่อไม๊ครับ  ถ้าใครกรุณามีรูปลุงโทนี่ตอนหนุ่มๆ  จักขอบพระคุณมากครับ.....
อิอิ.....อ่านกระทู้แล้วได้แต่อ่าน...อิอิ  ไม่ทันจริงๆครับ  ผมน่ะน่ารักแต่  ลินด์เซย์  โลฮาน เท่านั้นมีเวลาคงต้องหาหนังคลาสสิคมาดูบ้างแล้วล่ะ  เคยดูเมื่อสองปีที่แล้วเรื่องนึงน่าประทับใจมาก  แต่หนังคงนานมาก  เรื่อง  To sir with love  ก็น้ำตาคลอเป็นแถวพระเอกเป็นคนผิวสี   ไม่ทราบว่ารู้จักกันหรือเปล่าครับ  ยังอยากดูอีกที่ผมดูเป็นม้วนวิดีโออยู่บ้านคุณลุงสงสัยคงเสื่อมแล้วก็ไม่ทราบ  ไม่รู้มีวีซีดีหรือเปล่า

เสียดายร็อค ฮัดสันเช่นกันค่ะ    ตอนเขาตาย ข่าวลงว่าเขาเป็นเหยื่อรายใหญ่ที่สุดของโรคเอดส์ เท่าที่มีมา
กระตุ้นให้คนหันมาตระหนักถึงมหันตภัยของโรคนี้มากขึ้น

เลยเอารูปสมัยร็อค ยังหนุ่มหล่อมากๆ เล่นหนังระดับยักษ์สมชื่อ Giant (1956)กับเอลิซาเบธ เทย์เลอร์ มาฝากคุณศิลา ให้รำลึกความหลัง

น่าเศร้า  เอดส์ไม่ละเว้นปรานีใคร   ตอนตาย ร็อคอายุ ๕๙  แต่ดูหน้าตาเหมือนสัก ๗๙

เซอร์แอนโทนี ฮอปกินส์   เป็นดาราอังกฤษ ที่เริ่มต้นอาชีพจากละครเวทีคลาสสิคในลอนดอน ก่อนจะมาดังที่หนังใหญ่ของฮอลลีวู้ด   ได้ตุ๊กตาทองจาก The Silence of the Lambs(1991) และได้รับพระราชทานยศเป็น ท่านเซอร์ จากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ เมื่อปี 1993
บท ดร.ฮันนิบาล ฆาตกรโรคจิตในหนังตุ๊กตาทอง ได้รับคัดเลือกเป็นตัวร้ายโหดอันดับ  ๑   จากAmerican Film Institute's Villains list  ในวาระครบรอบ n ๑๐๐ ปีของการจัดอันดับยอดพระเอก และผู้ร้ายยิ่งใหญ่สุดในประวัติการณ์ภาพยนตร์

เป็นดาราที่ดังถึงขีดสุดเพราะฝีมือ   ไม่หล่อค่ะ

มือไว คลิกส่งไปก่อนทันแนบรูป  หนุ่มที่สุด หาเจอแค่นี้เอง

To Sir  With Love เป็นหนังเก่ายุคปี 1967 ที่ดังมาก ส่งชื่อของซิดนีย์ ปัวติเออร์(หรือคนไทยออกเสียงว่า ปอยเตียร์)ให้ดังระเบิด    เพลงไตเติ้ลของหนังก็ฮิทติดอันดับด้วยค่ะ
ทำให้เกิดหนังทำนองนี้ตามมาอีกหลายเรื่อง
เรื่องนี้ทำภาค ๒ สำหรับฉายทางทีวี  ในปี 1996  เมื่อครูหนุ่มผิวดำคนเก่า ตอนนี้แก่แล้ว อำลาอาชีพครูในลอนดอนหลังจากทำงานมา ๓๐ ปี  กลับมาชิคาโก รับตำแหน่งครูในร.ร.เด็กเฮ้วที่แสบกว่าร.ร.แรก  มีดาราวัยรุ่นจากหนังเรื่องแรกมาเป็นดารารับเชิญ
ตอนเรื่องนี้ทำหนัง     กระแสเหยียดผิวในอเมริกายังแรงมาก    ในเรื่องถึงแย้มๆว่านักเรียนสาวคนสวยในเรื่อง แสดงโดยจูดี้ กีสัน หลงรักครูหนุ่มผิวดำ  ก็เพียงแต่แย้มๆเท่านั้น   ไม่มีบทรักหรือแม้แต่จะแสดงความในใจต่อกัน

เอารูปซิดนีย์ตอนหนุ่มๆมาให้ดูกัน  รูปนี้จาก Blackboard Jungle (1955 ) ที่เขาเล่นเป็นนักเรียนหนุ่มตัวแสบกับครูหนุ่ม  แสดงโดยเกลน ฟอร์ด

ชอบลินด์เซย ตอนเล่นเป็นหนูน้อยฝาแฝดใน The Parent Trap หนังของดิสนีย์ที่เอามาทำใหม่น่ารักกว่าเก่า     
แต่หลังจากนั้นเธอโตขึ้นมาเป็นสาวเสเพลแห่งฮอลลีวู้ด เล่นอะไรก็เลยไม่ประทับใจเท่าเก่าค่ะ
เอารูปมาฝากให้คุณ Bana ดูเล่นรูปเดียวพอ  หารูปที่ค่อยยังชั่วที่สุดในเว็บมาให้   นอกจากนี้โพสไม่ไหว    เหมาะจะลงเว็บหาคู่หรืออะไรประเภทนั้นมากกว่า

           ขอบคุณครับอาจารย์

           เคยอ่านเรื่องชีวิต(และเอดส์)ของร็อค แปลเป็นตอนๆ ลงในลลนา เมื่อหลายปีก่อน
ได้ความรู้สึกเห็นใจในความเป็นดาราหนุ่มรูปงาม ที่ต้องคอยปกปิดชีวิตอีกด้านหนึ่งไว้ ไม่ให้ใครรู้ 
และได้เห็นความเปลี่ยนแปร ไม่เที่ยงของสังขารอย่างชัดเจน

           รูปดาวค้างฟ้า Liz Taylor จากไจแอนท์ ชวนให้นึกถึงดาวดวงอื่นที่เคยร่วมแสดงกับเธอ
แต่ร่วงจากฟากฟ้าไปก่อน ทั้ง James Dean ที่โดดเด่นมากในไจแอนท์ และ Montgomery Clift
(A Place in the Sun)

           แด่คุณครูด้วยดวงใจ ดังมากทั้งหนังและเพลงประกอบชื่อเดียวกันที่ร้องโดย Lulu
สมัยก่อน ข้อความ  - to sir with love และ แด่คุณครูด้วยดวงใจ เป็นที่นิยมนำมาเขียนบนการ์ดมอบ
แด่คุณครูอยู่ช่วงหนึ่ง
            

คุณ Sila น่าจะคอหนังเก่า จำมอนตโกเมอรี่ คลิฟท์ ได้ด้วย
มอนตี้เป็นดาราชายในยุคหลังสงคราม   ดังขึ้นมาในช่วงปลาย 1940s และ 1950s  หล่อมาดชายชาตรี  เหมาะกับบททหารหนุ่มแกร่งๆ และคาวบอยบึกบึน ที่เป็นภาพลักษณ์สำคัญของหนุ่มอเมริกันยุคนั้น
เล่นหนังชีวิตก็เก่ง หนังลึกลับของฮิทช์ค็อกก็เล่นได้     เขาเป็นดาราระดับคู่แข่งของมาร์ลอน แบรนโด ทีเดียว
แต่น่าเสียดายว่าชีวิตและฝีมือที่ควรรุ่งโรจน์กว่านี้ มาสะดุดด้วยเหล้าและยา  อาจจะบวกด้วยปมสลับซับซ้อนของชีวิตส่วนตัว  เพราะสมัยนั้นรักร่วมเพศยังไม่เป็นที่ยอมรับ
ก็เลยตายไปก่อนวัยสมควร  เมื่ออายุแค่ 46 ปี  ในค.ศ. 1966

เอารูปตอนหล่อมาให้ดูค่ะ คู่กับลิซ เทย์เลอร์

หน้าด้านตรง
พระเอกนางเอกสมัยนั้น ฮอลลีวู้ดเลือกแต่หล่อขาดใจ และสวยหยาดเยิ้มทั้งเขาและเธอ

       เคยอ่านพบว่า Liz หลงรัก Monty ในตอนแรกที่ยังไม่ทราบว่าเขาเป็นเกย์ และเธอยังเป็นคนที่
ช่วยเขาจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ใบหน้าของเขากระแทกและฟันหักหลุดลงไปติดคอ  น่าชื่นชมครับ
          เป็นดาราสาว สวย(มาก)ด้วย เก่งด้วย(ไม่เห็นเลือดแล้วเป็นลม) ทั้งยังมีความรู้เรื่องปฐมพยาบาล
สามารถช่วยชีวิตคนอื่นได้

           ชอบ Monty ตอนที่ได้ดูเรื่อง From Here to Eternity ครับ
เนื้อเรื่องเข้มข้นถูกใจ ดารานำแสดงมากมายหลายคน ได้รับบทเด่นกันถ้วนหน้า และ ต่างก็ลาจากโลกนี้ไปหมดแล้ว
ตามที่อาจารย์ว่า Monty เล่นหนังเก่ง, ฝีมือการแสดงของเขาซึ่งรับบทสมทบทำให้ Burt Lancaster
ผู้รับบทนำรู้สึกหวั่น ๆ

ชีวิตของดาราฮอลลีวู้ดในอดีต  หลายคนพลิกผันเพราะ "ดวง" มากกว่า "ฝีมือ"  กรณีของ Monty ก็เป็นตัวอย่างที่เห็นๆอยู่     ฝีมือเขาสามารถเทียบกับมาร์ลอน แบรนโดได้ทีเดียว  แต่แล้วก็กลับหักเหไป จนจบลง   ไม่ทันจะได้รุ่งโรจน์ยาวนานเท่าแบรนโด
 
ชีวิตแบบนี้เกิดขึ้นกับดาราชายอีกคน ที่เคยเป็นคู่แข่งสูสีกับไทโรน เพาเวอร์  ชื่อ Richard  Greene  สมัยนี้เกือบจะไม่มีใครรู้จักเขาอีกแล้ว  เพราะเขาตายไปตั้งแต่ปี 1885
แต่ในยุคก่อนสงครามโลก    ริชาร์ด กรีนเคยเป็นดาราหนุ่มรูปหล่อจากอังกฤษ  หล่อสะอาด  ยิ้มสวย  มาดคุณชาย  มาเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในอเมริกา   สาวๆแห่กันไปดูเต็มโรง
เรื่องนี้เล่นคู่กับแอนนา บีเกิ้ล ชื่อ Yellow Canary

จุดหักเหของริชาร์ด กรีนเกิดจากสงครามโลกครั้งที่ ๒   เขาอำลาวงการชั่วคราวไปเป็นทหาร
แต่กว่าจะปลดประจำการกลับมา     เส้นทางทองก็ไม่ได้ทอดผ่านหน้าอีกแล้ว ดาราชายหน้าใหม่ๆเกิดขึ้นมาแทน   หนังแนวนิยมแต่เดิมเปลี่ยนไป 
ริชาร์ดกลับไปอังกฤษเมื่อพบว่าชื่อเสียงในหนังใหญ่ชักจะตกอับลงไปจนกู้ไม่ขึ้น    ในอังกฤษนี่เอง  เขาได้เล่นหนังทีวีชุด   The Adventures of Robin Hood  ซึ่งถูกโฉลกกับเขามาก   
กรีนเล่นเป็นโรบินฮู้ด ที่เก่ง มีเสน่ห์ ขี้เล่น แต่สุขุม  บวกกับตัวแสดงร่วมที่ลงตัวกันหมด ทำให้หนังชุดนี้ขยายยาวถึง 5 ปีเต็ม  ส่งให้ริชาร์ด กรีน กลายเป็น"ตำนาน" ของโรบิน ฮู้ดที่หาดารารุ่นหลังมาเล่นเทียบได้ยาก
กว่าหนังทีวีเรื่องนี้จะอำลาจอ   กรีนก็กลายเป็นดาราโด่งดังในวงการทีวีอังกฤษ    สะสมเงินทองจากเรื่องนี้ไปใช้ชีวิตอย่างคหบดี   
นานๆก็กลับมาเล่นหนังหรือทีวีสักที  ในเรื่องเล็กๆที่ไม่ค่อยจะดังนัก เป็นประเภทหนังฟันดาบผจญภัยรุ่นเก่า    สำหรับแฟนเก่าๆที่ยังจำเขาได้อยู่
อายุมากขึ้น  อำลาวงการไป  หน้าตาและชื่อเสียงก็ค่อยๆจางหายไปจากความทรงจำของแฟนานุแฟน  จนถึงแก่กรรมเมื่ออายุได้ 67 ปี
 

โหท่านอาจารย์ครับ  ลุงโทนี่คงไม่หล่อจริงๆ (เลยไม่มีในสต็อกของอาจารย์)  ..อิอิ
แต่ยังไงก็ต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ  สำหรับน้องลินเซย์ของผม (และของใครๆอีกหลายคน)  ครับเป็นเรื่องน่าเศร้าของคนที่ประสบผลสำเร็จคือหาเงินได้ตั้งแต่เด็ก  สุราและยาเสพติดไม่ว่าบ้านไหนเมืองไหนก็เลวร้ายต่อผู้คน เป็นต้นเหตุของเอดส์อีกด้วย 
เพลงเรื่อง To sir with love  ก็เพราะนะครับท่านอาจารย์.......แหะๆ  อยากได้เนื้อเพลงจังครับ  น่าเอามาทำใหม่ใส่ดนตรีร่วมสมัยสักหน่อยคงดี

รูปลุงโทนี่หนุ่มสุดเท่าที่ผมมีครับ

Artist: Lulu
Song: To Sir With Love
Album: Best Of-From Crayons To Perfu 

Those schoolgirl days, of telling tales and biting nails are gone,
But in my mind,
I know they will still live on and on,
But how do you thank someone, who has taken you from crayons to perfume?
It isn't easy, but I'll try,

If you wanted the sky I would write across the sky in letters,
That would soar a thousand feet high,
To Sir, with Love

The time has come,
For closing books and long last looks must end,
And as I leave,
I know that I am leaving my best friend,
A friend who taught me right from wrong,
And weak from strong,
That's a lot to learn,
What, what can I give you in return?

If you wanted the moon I would try to make a start,
But I, would rather you let me give my heart,
To Sir, with Love

       เรียนถามอาจารย์เรื่องการสะกดชื่อฝรั่งเป็นไทย มีหลักเกณฑ์อย่างใดหรือเปล่าครับ
           อย่างที่อาจารย์กล่าว  ชื่อ Sidney Poitier ก็สะกด ปอยเตียร์ มาแต่แรก
           Leonard ก็ เลียวนาร์ดมาตลอด รวมทั้ง Elizabeth ที่เสียง E ไม่ไพเราะเลยใช้เป็น เอ

           เพลง To Sir  version ใหม่ล่าสุดเคยฟังทางวิทยุ เป็นของนักร้องผิวสีมีชื่อเสียง  Chaka Khan
นำมา cover ใหม่เมื่อ ๓ ปีก่อน, คุณ Bana นอนดึกลองหาฟังดู คงจะทันสมัยถูกใจ
             

         

มีหนังสือของราชบัณฑิตออกมาแล้ว เป็นหลักเกณฑ์การสะกดทับศัพท์    ชื่อหนังสือว่าอะไรเต็มๆดิฉันลืมไปแล้ว
เคยลองเอามาใช้ ปรากฏว่าอ่านยากมาก   และวิธีใช้ก็ทำให้เราต้องสะกดแปลกออกไปจากที่คุ้นเคย
เช่น Charles แทนจะให้เขียน ชาร์ลส์  ก็เป็น ชาลส์  ถือว่าตัว r ตรงกลางไม่ออกเสียง เพราะทับด้วยการันต์
fern ก็เขียน เฟิน แทนที่จะเป็น เฟิร์น
เพราะเหตุนี้ น้อง Charm นางสาวไทยคนก่อนของเรา ก็เลยกลายเป็นน้องภาชนะคู่กับจาน  สะกด ชาม แทนจะเป็น ชาร์ม
ดิฉันก็เลยไม่ค่อยจะเดินตามทางนี้เท่าไร  มองเห็นจุดอ่อนมันเยอะกว่าจุดแข็ง  รอจนให้ผิดอย่างแพร่หลายเสียก่อน ท่านก็คงยอมรับกันไปเอง  เหมือนท่านยอมรับว่า ขะมักเขม้น อ่าน ขะหมักขะเม่น  หรือขะมักขะเม่น ก็ได้    ทั้งที่มันผิดเต็มๆ

ชื่อผู้หญิงที่ขึ้นต้นด้วย E  ไม่ว่าจะเป็น Erin  Elizabeth  Evette  ออกเสียงว่า อี คนไทรุ่นคุณปู่ตะขิดตะขวงใจ    อย่างอีริน ฟังเหมือนน้องสาวอีเรียมของไอ้ขวัญ  เลยกลายเป็น เอ  เสีย ก็โล่งใจกันไปหน่อย
ถ้าคุณหลานไม่ตะขิดตะขวง จะ อี กันออกมา ก็ไม่ว่าอะไรค่ะ

        มีข่าวเทศกาลหนังอมตะระหว่าง วันที่ ๕ - ๘ ส.ค. นี้ ที่ลิโด มาเรียนอาจารย์ และฝากผู้สนใจครับ

     http://www.bangkokbiznews.com/2007/07/31/WW18_WW18_news.php?newsid=86957

     http://www.apexsiam-square.com/home.asp

        เป็นโอกาสอันดีที่คอหนัง และผู้สนใจจะได้ชมหนังใหญ่จากอดีต บนจอใหญ่ในโรงภาพยนตร์  เช่น

            Casablanca  Gone with the Wind  Ben Hur  Dr Zhivago  เป็นต้น

(แต่รอบที่ฉายสองทุ่มนั้น หนังอย่าง GWTW ซึ่งยาวร่วมสี่ชั่วโมง กว่าจะจบก็เข้าสองยาม )

 
นอกเรื่องหนังนิดหนึ่งครับ - ละครเพลงคู่กรรม ครั้งนี้ที่โรงใหม่, อาจารย์จะไปดูอีก หรือเปล่าครับ

น่าสนใจมากค่ะ  ถือโอกาสประชาสัมพันธ์ให้ผู้ชอบหนังเก่า ส่วนตัวดิฉันมี ดีวีดี ดูหมดแล้วทุกเรื่อง

ละครเพลงคู่กรรม  อยากไปดูอีกครั้งมากๆ

เอารูปลูลู เจ้าของเพลง To Sir with Love มาฝาก   รูปใหญ่ออกอัลบัมปี 2002 รูปเล็กสมัยเธอวัยรุ่น ปี 1967
(ใครทราบวิธีดึงกรอบภาพในขยายกว้างในโปรแกรม paint ช่วยบอกด้วยนะคะ
ลากเท่าไรมันก็ไม่ยอมออกจากกรอบเดิม   ทำเอารูปหายไปในฉากหลัง  ถ้าดึงให้กว้างออก)

         ชอบรูปลักษณ์ของเธอในยุคนี้ ดูดีกว่าครับ สมัยก่อน Lulu มีเพลงฮิทอีกเพลงหนึ่งชื่อ Let's Pretend

         ดูรูปดาราเก่าแล้วนึกแต่จำไม่ได้ครับว่า  พระเอกนิยายไทยสมัยก่อน ได้แก่ ชายกลาง ในบ้านทรายทอง
และ ท่านชายพจน์ ในปริศนาด้วยกระมัง ที่ผู้แต่งทั้งสองท่านใช้ดาราฝรั่งในยุคนั้นเป็นภาพร่าง

ท่านชายพจน์ ของปริศนา มาจาก เออร์รอล ฟลินน์     และคุณชายกลางของพจมาน  ผู้แต่งนำมาจากเจมส์ เมสัน ค่ะ
ดูเหมือนเคยเล่าไว้แล้วในกระทู้เก่าๆ แต่หาไม่เจอแล้ว  เพราะลิ้งค์เดิมใช้ไม่ได้
เอารูปท่านชายพจน์ฝรั่งมาให้ดูอีกที

ส่วนคุณชายกลาง  ก.สุรางคนางค์ได้ต้นแบบมาจากเจมส์ เมสัน ดาราอังกฤษที่มาเป็นดาราใหญ่ของฮอลลีวู้ด

          ขอบคุณอาจารย์ครับ 
           
         Errol Flynn - เคยเห็นแต่รูป ไม่เคยดูหนังผจญภัยของเขา
         อายุเท่ากัน (เกิด 1909) แต่ผลงานไม่มากเท่า Mason เพราะจากไปก่อน เมื่ออายุ 50 ปี ด้วย heart attack
เทศกาลหนังอมตะที่ลิโด มีเรื่อง The Adventures of Robin Hood ของ Errol Flyn ด้วยครับ 

         James Mason ผลงานมากกว่าเพราะอายุยืนกว่า (75 ปี) แต่ก็จากไปด้วย heart attack เหมือนกัน
         เคยได้ดูหนังของเขาหลายเรื่อง - Prisoner of Zenda, Journey to the Center of the Earth
และ หนังในช่วงหลัง - Mandingo, Cross of Iron (ยุทธภูมิกางเขนเหล็ก) 

       ได้ check ข้อมูล  Deborah Kerr (From Here to Eternity) พบว่ายังอยู่กับสามีคนปัจจุบันในสวิตเซอร์แลนด์
ในขณะที่พระเอกคนอื่นๆ เสียชีวิตกันไปก่อนแล้ว

           นึกถึงดาราที่น่าจะเข้าข่ายต้นแบบอย่าง   Cary Grant, Stewart Granger ด้วยครับ     

ชอบกระทู้นี้ จ๊าบมากค่ะ อาจารย์เทาชมพู... ;)

เอารูปดาราคลาสสิกคนนี้มาฝากคุณกุ้งแห้งฯ
เห็นจะไม่ต้องมีคำอธิบายประกอบนะคะ

ขอบพระคุณค่ะ อาจารย์...เขาคือ คนที่คุณก็รู้ว่าใคร..... :-[

 ๖๐ ปีมาแล้ว มีหนังฮอลลีวู้ดเรื่องหนึ่งทำจากวรรณกรรมคลาสสิคสำหรับเด็กของอเมริกา เรื่อง Little Women ของหลุยซา เมย์ อัลค็อต
ชื่อภาษาไทย ว่า "สี่ดรุณี" แปลโดย อ.สนิทวงศ์  เป็นชื่อที่เหมาะเจาะจนไม่รู้จะเปลี่ยนเป็นยังไงให้ดีกว่านี้อีก
เป็นเรื่องของเด็กสาวสี่พี่น้องที่เติบโตขึ้นมายุคหลังสงครามกลางเมืองของอเมริกา  เผชิญความยากลำเค็ญทางบ้าน  เพราะพ่อผู้เป็นศาสนาจารย์ต้องทิ้งบ้านไปประจำการในสนามรบ    แม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน
แต่พี่น้องทั้งสี่ก็เข้มแข็ง เผชิญทุกข์ด้วยหัวใจสุข  น่ารักน่าเอ็นดู ไม่เคยหมดความหวัง จนพ่อกลับมาหาครอบครัวในที่สุด
แนวคิดแบบ "ไม่ระย่อมรสุม" เป็นแนวคิดที่พวกอเมริกันเมื่อศตวรรษก่อนชอบมากที่สุด
นิยายเรื่องนี้ว่ากันว่า เป็นเรื่องที่เด็กผู้หญิงทุกคนสมัยต้นศตวรรษที่ ๒๐ เรื่อยมาจนสงครามโลกครั้งที่ ๑ ต้องอ่านในฐานะ"วรรณกรรมชั้นเลิศ" สำหรับพวกเธอ
ฮอลลีวู้ดเคยทำหนังขาวดำมาก่อนแล้ว    ต่อมาในปี 1949 ก็เป็นหนังสีสวยงาม  จับดาราสาว น่ารัก ๔ คนที่กำลังดัง มาเล่นรวมกัน เป็นสี่พี่น้อง

รูปนี้ เป็นรูปประชาสัมพันธ์ของหนังเรื่องนี้
สี่พี่น้องล้อมอยู่รอบแม่ ผู้กำลังอ่านจดหมายจากสนามรบ ส่งมาจากพ่อในวันคริสต์มาส
หญิงสาวคนซ้ายสุดในภาพ เป็นพี่คนโต คือ เม็ก เป็นหญิงสาวสวย อ่อนหวาน และพยายามจะเป็นพี่ใหญ่ รับผิดชอบน้องๆตั้งแต่วัยแค่ ๑๗ ปี 
ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็น่ารักและแสนดี    มีเสน่ห์ชนะใจคนอ่าน
ผู้สวมบทนี้ได้เหมาะมาก คือดาราคนนี้ค่ะ เธอชื่อเจเน็ต ลีห์  ผู้ต่อมาโด่งดังในบทเหยื่อสาวเคราะห์ร้าย ในหนังสยองขวัญคลาสสิคของอัลเฟร็ด ฮิทช์ค็อค ชื่อ Psycho

        คลับคล้ายว่าจะเคยดูสี่ดรุณีตอนเป็นมินิซีรี่ส์ ทางทีวี ครับ 
version หนังโรงล่าสุดเมื่อ ๑๐ กว่าปีที่แล้ว มีดาราดัง Susan Sarandon เป็นแม่ และรวมดาราดรุณี
ที่เป็นที่รู้จักกันมากบ้าง น้อยบ้างในเวลาต่อมาเช่น Winona Ryder Kirsten Dunst
        เจเน็ต ลีห์ มีลูกสาวที่เกิดจากพระเอก โทนี เคอร์ทิส เป็นดาราดังพอสมควรชื่อ เจมี่ ลี เคอร์ทิส 

        ในขณะที่ Little Women เล่าเรื่องสี่ดรุณีน่ารัก น่าเอ็นดูในช่วงหลังสงครามกลางเมือง
            Gone with the Wind ก็เล่าเรื่องหนึ่งดรุณีฝ่ายใต้ที่ถูกสงครามเปลี่ยนเธอจากคุณหนูสาวใสให้กลาย
เป็นหญิงแกร่งชีวิตต้องสู้เพื่อกอบกู้สิ่งที่สูญเสียไป ไม่น่ารัก น่าเอ็นดูแต่คนอ่านเอาใจช่วย 
            จากนิยายชื่อดังมาเป็นหนังปี ๑๙๓๙ ที่ประสบความสำเร็จทั้งรายได้และรางวัล ขึ้นหิ้งเป็นหนังคลาสสิค
ประทับใจคนดู ทั้งเนื้อเรื่องและบทบาทการแสดงโดยเฉพาะพระนาง Vivien Leigh และ Clark Gable   

         รอย โรจนานนท์ (คุณหญิงแม้นมาส ชวลิต) แปลนิยายเป็นไทย - วิมานลอย พิมพ์ครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๖
หลังจากที่หนังออกฉาย
             ได้เคยอ่านเล่มที่พิมพ์โดยองค์การค้าคุรุสภาเมื่อร่วม ๒๐ ปี มาแล้ว จำได้ว่าทั้งๆ ที่ดูหนังแล้วรู้เรื่องตลอด
(หนังสร้างอย่างตรงตามนิยายโดยมีการตัดบางตอนออกไปบ้าง) แต่ก็ยังอ่านได้อย่างสนุกสนาน เพลิดเพลินมาก
              หนัง-นิยายจบแบบขัดใจคนดู ไม่แฮปปี้ เอนดิ้ง ทั้งยังเหลือเรื่องสำคัญค้างคาใจให้คนอ่านสงสัย คาดเดาว่า
นางเอกจะสามารถดึงพระเอกกลับมาได้หรือไม่

              เรียนถามอาจารย์ว่า อาจารย์คิดว่าเหตุการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร ครับ
              โดยส่วนตัวแล้ว เชื่อฝีมือสการ์เล็ท และ เชื่อว่าเขาและเธอต่างก็รู้ดีว่าทั้งสองเป็นคู่ที่เหมาะสมน้ำสมเนื้อกันที่สุดแล้ว 

               ผู้สนใจอ่าน รอย โรจนานนท์ ใน    วันที่หวนคืนของ GONE WITH THE WIND
จาก   จุดประกายวรรณกรรม ฉบับวันอาทิตย์ที่ ๓ มิ.ย. ๒๕๕๐  - เรื่องจากปก ที่ 
 
               http://www.bangkokbiznews.com/jud/wan/ ครับ

(เปิดหน้าจอแล้วเลือกฉบับข้างล่างขวาสุด ต่อๆ ไปจนถึงฉบับวันที่ ๓ มิ.ย.)

ว่าจะมาเล่าถึงสี่ดรุณีต่อ เจอคุณSila ชวนไปหาวิมานลอย  คงจะออกนอกทางตามไปด้วย
แต่ก่อนอื่น ขอโพสรูปดาราสาวอีกคนที่แสดงเป็นน้องสาวของเจเน็ต ลีห์
เธอคนนี้เล่นบทที่ Kirsten Dunst มาเล่นทีหลัง คือ เอมี น้องสาวคนเล็กในหนังสือ แต่ในหนังปี 1949 เปลี่ยนเอมีเป็นน้องคนที่สาม  เพื่อให้มากาเร็ต ซัลลิแวน ดาราเด็กคนดังแห่งยุคได้เล่นเป็นน้องคนสุดท้อง
เธอคือ เอลิซาเบธ หรือลิซ เทย์เลอร์ 

ส่วนโจ  นางเอกของสี่ดรุณี  นำแสดงโดยจูน แอลลิสัน  ดาราสาวคนดังอีกเช่นกัน 
ส่วนพระเอกรูปหล่อในเรื่องคือปีเตอร์ ลอว์ฟอร์ด หนุ่มคนนี้ก็เคยดังในจอใหญ่มาก่อนจะมาเล่นเป็นพระเอกนักสืบ นิค ชาร์ลส์ใน The Thin Man

ย้อนกลับมาหาเจเน็ต ลีห์เป็นครั้งสุดท้าย  รูปนี้คือรูปสยองขวัญคลาสสิคในหนังเล็กๆขาวดำ ที่ทำให้ผู้หญิงทั้งอเมริกาและนอกอเมริกาไม่กล้าอาบน้ำฝักบัวไปตามๆกัน พักใหญ่
เรื่อง Psycho
เพราะภาพขณะเจเน็ต ลีห์ถูกฆาตกรโรคจิตจ้วงแทงขณะอาบน้ำฝักบัวอยู่นั้น   ใช้มุมกล้องเล่นกับเหตุกาณ์  ให้คนดูจินตนาการเองได้อย่างสั่นสะเทือนขวัญเป็นที่สุด
โดยเฉพาะป้าเจเน็ต เธอให้สัมภาษณ์ว่าเธอไม่ยอมอาบน้ำฝักบัวอีกเลยหลังจากเล่นหนังเรื่องนี้แล้ว

เจเน็ต ลีห์แต่งงานกับดาราหนุ่มรูปหล่อชื่อโทนี่ เคอร์ติส  มีชีวิตแต่งงานหวานชื่นน่าอิจฉา  เป็นที่นิยมชมชื่นในหมู่คนดู  จนดังมีงานไหลมาเทมา กันทั้งคู่
ทั้งๆสมัยนั้นคนดูฝรั่งเขานิยมดาราโสดมากกว่าดาราแต่งงานแล้ว
แต่ก็ไปกันไม่รอด เพราะโทนี่แอบไปมีกิ๊ก   ภรรยาอเมริกันเขาถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย  ก็เลยหย่ากัน ต่างคนต่างไปแต่งงานใหม่ 

เจเน็ต ลีห์ยังสวยพริ้ง มาดดาราไม่เสื่อมคลายแม้เข้าวัยชรา  เธอเล่นหนังทีวีเป็นดารารับเชิญบางครั้งบางคราว   
ในรูปนี้เธอไปเยี่ยมโรงถ่ายยูนิเวอร์แซลที่มีฉากบ้านในเรื่องไซโคตั้งให้เห็นในพื้นหลัง
เธอเป็นดรุณีคนแรกใน ๔ คนที่จากไปด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด เมื่อค.ศ. 2004   อายุ 77 ปี

ได้ดูไซโคแบบจะจะ ตอนเรียนวิชา Film Criticism กับ bernard trink ที่จุฬาฯค่ะ เป็นหนังขาวดำ แล้วไปดูซ้ำอีกทีที่ฟลอริดา สะใจกับกล้องสารพัดมุมที่ฮิทช์ค็อกซ์ยิงโดยรอบ
แม้จะไม่ทันได้ชื่นชมกับหนังสี่ดรุณี รุ่นเดอะ ได้ดูแค่รุ่นวิโนน่า ไรเดอร์ แต่ก็ปลื้มกับเจเน็ต ลีห์ โดยเฉพาะชอบลูกสาวของเธอ เจมี่ ลี เคอร์ติส ที่เล่นหนังตลกได้เยี่ยมจริงๆ
รหัสพันธุกรรมดาราแรงมากค่ะอาจารย์

เอารูปแม่กับลูกมาฝากคุณกุ้งแห้งเยอรมันค่ะ  หน้าตามีเค้ากัน
แต่รูปหนึ่งเป็นดารายุคผู้หญิงสวย  อีกคนอยู่ในยุคผู้หญิงเก่ง

กลับมาคุยกับคุณ Sila

มีคนเขียน Gone with the Wind วิมานลอย ภาค ๒  เพื่อตอบคำถามที่คุณถาม  แต่เรื่องนี้ก็เห็นว่าหายเงียบไป ไม่มีคนเอ่ยถึง  ดิฉันก็ยังหาไม่เจอว่าเขาเขียนว่าเร็ท และสคาเลต กลับมาหากันหรือไม่
การจบวรรณกรรมด้วยคำถามที่ไม่มีคำตอบ   ทิ้งไว้ให้คลุมเครือ เรียกเป็นศัพท์ทางวรรณกรรม ว่า Ambiguity ถือเป็นฝีมือแต่งชั้นยอดอย่างหนึ่ง(ถ้าหากว่าจงใจทำและทำได้ดี  ไม่ใช่เพราะไม่รู้จะจบยังไง)
ในขุนช้างขุนแผน  การที่พระพันวษาสั่งประหารนางวันทอง  โดยยังทิ้งคำตอบไว้ไม่มีการคลี่คลาย ว่านางเลือกจะอยู่กับใครกันแน่ ระหว่างขุนช้าง ขุนแผน หรือไม่เอาทั้งคู่ ขออยู่กับลูกชายคือพลายงาม
ถือเป็น Amibiguity  ชั้นยอดเยี่ยม ทิ้ง"คำถามที่ไม่มีคำตอบ"ไว้ในใจคน จนต้องตีความ ถกเถียง อภิปราย กันมาจนทุกวันนี้  ว่าวันทองสองใจหรือไม่
สมมุติว่าพระพันวษาใจเย็นกว่านี้   บอกว่า เอ้า ให้นางวันทองกลับไปคิดสัก ๓ วันแล้วค่อยกลับมาตอบ  ถึงตอนนั้นนางอาจจะให้คำตอบได้แล้ว
แต่ความมืดมนอันเป็นเสน่ห์ของเรื่อง คือใจของผู้หญิงไม่มีใครหยั่งถึง ก็จะหายไปจากเรื่อง
เรื่อง Hamlet ของเชกสเปียร์ก็มี Ambiguity แบบนี้เหมือนกัน  ว่าทำไมพระเอกถึงรีรอไม่ยอมจัดการอะไรลงไปสักอย่าง จนนำไปสู่จุดจบของตัวเองในตอนท้าย
แต่ถ้าพระเอกรู้จากปีศาจของพ่อ ว่าอากับแม่ลอบวางยาพิษพ่อ   พระเอกได้ฟังก็ท้าดวลกับอา ฆ่าอาตายในฉากที่ ๒   จบ   เรื่องนี้ก็เป็นได้แค่ลิเกฝรั่ง

กลับมาถึงวิมานลอย
ดิฉันคิดว่า แม้มากาเร็ต มิตเชลเอง ก็คงไม่อยากตอบ หรือตอบไม่ได้ ว่าพระเอกนางเอกจะกลับมาคืนดีกันหรือไม่
เธอคงอยากให้จบแบบทิ้งคำถามไว้  โดยมีน้ำหนัก "คืนดี" "ไม่คืนดี" ไล่เลี่ยกันมากกว่า
เพราะพระเอกนางเอกก็แข็งพอกันทั้งคู่  ไม่มีใครน้อยกว่าใคร
เมื่อพระเอกประกาศว่า ไม่กลับมาแล้ว  นางเอกประกาศว่า จะต้องเอาเขากลับมาให้ได้
แล้วจบเรื่อง

มันก็ก่อคำถามให้คนอ่านมาหลายชั่วคนแล้ว   โดยไม่มีใครรู้คำตอบแท้ๆ
ประทับใจกว่าจะจบแบบมีฉากสุดท้ายโผล่ขึ้นมา ว่าพระเอกเดินกลับมาที่คฤหาสน์ทาร่าแล้วนางเอกก็วิ่งโผเข้าไปหา จบลงมีฉากตะวันตกดินเป็นแบคกราวน์
หรือฉากสุดท้ายอีกแบบ  พระเอกแก่หง่อม ยืนนิ่งอยู่เหนือหลุมศพนางเอก  พร้อมกับบอกว่า..ฉันมาเยี่ยมเธอละนะ แต่ไม่มาคืนดีด้วย
สมดังที่ลั่นวาจาไว้
เชยทั้งสองแบบค่ะ 

             I'll think of it all to-morrow, at Tara. I can stand it then.
To-morrow, I'll think of some way to get him back. After all, to-morrow is another day.

         ครับ อาจารย์, การจบแบบค้างคาใจให้คิด ทำให้นิยายเรื่องนี้ติดอยู่ในความทรงจำ เป็นที่กล่าวถึงต่อเนื่อง
ไม่จบแล้วจบกัน

             เคยอ่านเกี่ยวกับการเขียนภาคต่อ ผู้เขียนศึกษา,วิเคราะห์ ค้นคว้า เดินทางไปยังสถานที่จริงเพื่อซึมซับ
บรรยากาศ จนตกผลึกเป็นเรื่องราว Scarlett   หนังสือขายดีแต่มีผลได้เป็นเพียงมินิซีรี่ส์ทางทีวีในปี ๑๙๙๔
             wikipedia มีเรื่องย่อครับ เริ่มเรื่อง Return to Tara ชวนให้คล้อยตาม จนถึงตอนไป Charleston
เริ่มออกอ่าวแล้วเกิดเหตุการณ์คล้ายละครไทย  ต่อจากออกอ่าวคราวนี้ข้ามไปไอร์แลนด์อีก เลยชักไม่อยากตามต่อ
ไปแล้วครับ

http://en.wikipedia.org/wiki/Scarlett_%28novel%29

ขอบคุณอาจารย์เทาชมพูค่ะ ที่เปรียบเทียบแม่ลูกได้ชัดว่าสวยคนละยุค
เจมี ลี เคอร์ติส หน้าโขกพ่อออกมา เลยสวยสู้แม่ไม่ได้ แต่หุ่นดีมาก เพิ่งทราบว่าเธอพึ่งพาศัลยกรรม แต่ตอนนี้ปล่อยตามวัยแล้ว

อาจารย์ได้เขียนถึงวิเวียน ลีห์ ช่วงที่เล่นstreetcar named desire หรือยังคะ

เคยเอารูปวิเวียน ลีห์มาลงในเปิดกรุดาราคลาสสิค กระทู้ก่อนๆ ตั้งแต่ ๑-๖  ค่ะ      แต่หาไม่เจอเพราะลิ้งค์เปลี่ยนไปแล้ว
ใน" รถรางคันนั้นชื่อปรารถนา" เธอสวยเหมือนกุหลาบโรยใกล้เฉา   มีแต่ริ้วรอยทุกข์ยากและประสาทเสีย   สมเป็นอดีตสาวงามที่ตกต่ำ
เล่นสมบทบาทมาก  ส่วนมาร์ลอน แบรนโดก็เป็นไอ้กุ๊ยหล่อล่ำ ได้สมบทอีกเหมือนกัน

 :) เอ้อ..หล่อล่ำจริงๆค่ะ ;)

ไปเปิดกรุดาราคลาสสิค ของฮอลลีวู้ด  (๘)
ที่กระทู้ใหม่
เชิญติดตามได้ค่ะ

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=2320.0