เรือนไทย

 เมื่อวันหยุดที่ผ่านมามีโอกาสไปเที่ยววัดแถวฝั่งธนบุรี เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเรื่องงาน ก่อนไปจึงต้องทำการบ้าน  เมื่อไปเจอสภาพความเสียหายหลายๆที่แล้วใจคอหายหมดค่ะ  ขอเล่าถึงที่พอเหลืออยู่นะคะ

ที่วัดนางนองวรวิหาร ภาพผนังที่เป็นปูนเลอะเลือนจนเกือบไม่เห็นแล้วค่ะ แต่ที่บานประตูเป็นประตูมุก มีลวดลายเป็นของมงคล 108 ชนิดของจีนค่ะ  แต่ฝนไม่มีความรู้หรอกค่ะ  ว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง ที่ผนังบางส่วนที่ไม่โดนฝน  ส่วนมากคือผนังไม้  ที่ลายยังพอเหลือ เป็นลายเขียนสีทอง เป็นภาพเรื่องราวในสามก๊กค่ะ  เห็นว่าผนังไม้ไม่ค่อยดูดความชื้นมากนัก ความเสียหายจึงเกิดน้อย แต่ส่วนที่ถูกแดดถูกฝนเต็มที่ ก็ไม่เหลือค่ะ บานหน้าต่างบางบานลายเลือนไปหมดแล้ว แต่ร้องรอยลายลางๆยังปรากฎเห็นเนื้อไม้เป็นลวดลายที่พระอุโบสถ  และมองไปที่เหนือกรอบประตู หน้าต่างจะเห็นมีภาพเขียนสี  เขียนจากกระจกด้านหลังสียังสดใส  ภาพมีชีวิตชีวามากค่ะ เป็นภาพเขียนทางวัฒนธรรมจีนล้วนๆ
ที่บานประตูทางเข้าด้านในจะเขียนลายเทพฝ่ายดี คู่กับฝ่ายร้าย เป็นของคู่กัน   เรียกว่ามีธรรมะ คู่กะอธรรมค่ะ
พระพุทธรูปที่พระอุโบสถนี่เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง งามมากค่ะ

ที่วัดพิชัยญาติ  ลวดลายเขียนที่เสา ก็เป็นมังกรสวยงามมากค่ะ เขียนลายเรื่องสามก๊กเช่นกันค่ะ ลวดลายที่ผนังและเพดานสีสวยมากค่ะ

ถ้าจำไม่ผิดที่ผนังพระอุโบสถวัดใดวัดหนึ่งจะเป็นลายนกบิน ออกไปทางหงส์ ยังไม่ได้ไปค้นเทียบว่าชื่อลายอะไรค่ะ แค่เก็บภาพมาเท่านั้นค่ะ

ที่วัดราชโอรสฯ กำลังซ่อมภาพจิตรกรรมฝาผนังอยู่ค่ะ  เป็นลายเครื่องมงคล 108 อย่างเช่นกันค่ะ

แต่เมื่อได้ทราบประวัติ ทราบปัญหาก็ตระหนักค่ะว่า ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน

 พูดเหมือนใจเลยครับ   เห็นจิตรกรรมฝาผนังชำรุด มีรอยขาวด่างเหมือนฝนชะทีไร   เสียดายบอกไม่ถูก
เห็นอิตาลีเขามีภาพอายุนานๆกว่าของเราแล้วยังซ่อมแซมได้สมบูรณ์    เศร้าทุกที  
แต่ก็น่ายินดีว่าหลายวัดก็บูรณะกันไว้ไม่ท้อถอยนะครับ คุณฝอยฝนไปดูวัดสุวรรณารามที่ธนบุรียังครับ    ภาพยังสวยจับตาอยู่หลายภาพ    รีบๆชมซะ
วัดราชโอรสก็เป็นอีกแห่งที่ทำใหม่สวยมากครับ

 มีอีกวัดแถวฝั่งธนฯ ค่ะ ที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ยังสวยจับตาจับใจอยู่  คือ วัดเครือวัลย์ สมัยเรียนอาจารย์พาไปดูภาพจิตรกรรม ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวในชาดก มีทั้งทศชาติ อรรถกถาชาดก และปัญญาสชาดก  ใครว่างๆแวะไปเที่ยวชมได้นะคะ    

 ยังไปไม่ถึงวัดสุวรรณาราม และวัดเครือวัลย์เลยค่ะ
ตั้งใจว่าจะไปทั้ง 2 วัด ค่ะ  และคงไปตระเวนทั่วย่านฝั่งธนฯ เลยไปทางเมืองนนท์ด้วยค่ะ

 เคยไปเที่ยววัดสุวรรณาราม  อาจารย์ที่พาไปอธิบายว่าเป็นวัดที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3    ด้วยสถาปัตยกรรมตามแบบศิลปะจีน   กุฏิของสงฆ์จะยกพื้นสูง  พระอุโบสถก็มีหลังคาแบบจีน  มีการใช้กระเบื้องสีแบบไทยผสมผสานกันบ้าง   เท่าที่จำได้จะไม่มีช่อฟ้า ใบระกา  หน้าบันประดับกระเบื้อง   เคลือบสี  ตอนบนประดิษฐ์เป็นเครื่องบูชามีดอกไม้ มังกร หงส์ ตอนล่างเป็นภาพทิวทัศน์ มีบ้านเรือน สัตว์เลี้ยง ภูเขา ต้นไม้ ตามขอบหลังคาก็ประดับกระเบื้องสี ๆ  ดอกไม้ส่วนใหญ่เป็น ดอกพุดตาลตามคติแบบจีน  หรือบางทีก็เป็นดอกเบญจมาศ
(ดอกพุดตานนี่  เป็นแบบเดียวกับดอกโบตั๋นหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ  อาจจะคล้าย ๆ กันบ้าง  ขอความรู้จากท่านผู้รู้ด้วยนะคะ)
ที่เด่นอีกอย่างหนึ่งเท่าที่จำได้ คือ มีการตกแต่งด้วยเศษถ้วยชาม

พอจำได้เท่านี้เองค่ะ  เพราะตอนที่ไปยังเรียนมัธยมอยู่เลย

 คุณผักบุ้งจำชื่อวัดผิดหรือเปล่าคะ
เพราะวัดแถวฝั่งธนมีมาก ที่สร้างด้วยศิลปแบบจีน
ไม่ค่อยแน่ใจค่ะว่าวัดสุวรรณาราม เป็นศิลปแบบจีน
เพราะยังไม่ได้ไปวัดนี้เช่นค่ะ เพียงแต่อ่านประวัติพบ เห็นรูปไม่ใช่วัดแบบศิลปจีน  แต่ในภาพอาจจะถ่ายไม่ทุกมุม ฝากคนเคยไปช่วยเล่าหน่อยค่ะ
อยากรู้เส้นทางไปด้วยค่ะ อยากจะหาโอกาสไปชมก่อนอย่างที่คุณบุคว่าไว้

 จิตรกรรมฝาผนังพระอุโบสถวัดสุทัศน์ที่ผมไปเห็นมาก็ชำรุดไปมากแล้วเช่นกัน ซึ่งนอกจากจะวาดรูปพุทธประวัติไว้อย่างพิสดารแล้ว ยังมีรูปเทวดาในศาสนาพราหมณ์จำวนวนมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นอุบายสมัยรัชกาลที่ 4 ที่เริ่มมีการเอาไสยศาสตร์ของพราหมณ์เข้ามารับใช้พุทธอย่างชัดเจน

 พระอุโบสถวัดสุทัศน์ฯ นับได้ว่าเป็นพระอุโบสถที่ยาวที่สุดในประเทศไทยค่ะ วัดสุทัศน์ฯ ยังมีคติความเชื่อในการสร้างวัดหลายประการค่ะ เคยไปทัศนศึกษา แต่จำไม่ค่อยได้ค่ะ ต้องไปขอทบทวนมาก่อนค่ะ