เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
อ่าน: 23275 กาพย์-โคลง-กลอน และคติสอนใจ
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
 เมื่อ 06 ก.พ. 01, 00:57

พอดีจะแปะกาพย์เปิดข้าวของจิตร ภูมิศักดิ์
ในกระทู้เพลงไทย

แต่ผิดพลาดเลยขออนุญาติเปิดเป็นกระทู้ใหม่ดีกว่า
/>
เพื่อท่านใดมีคำประพันธ์ที่มีคติสอนใจดีๆ จะได้แบ่งกันครับ


/>
อันนี้ไปลอกมาจากบ้านผะหมีครับ href='http://pamee.hypermart.net/verse.html#top'
target='_blank'>http://pamee.hypermart.net/verse.html#top
/>


เปิบข้าวทุกคราวคำ............จงสูจำเป็นอาจิณ
/>
เหงื่อกูที่สูกิน......................จึงก่อเกิดมาเป็นคน
/>
ข้าวนี้น่ะมีรส......................ให้ชนชิมทุกชั้นชน
/>
เบื้องหลังสิทุกข์ทน..............และขมขื่นจนเขียวคาว
บันทึกการเข้า
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 15 ม.ค. 01, 05:00

อันนี้ก็เด็ด ... ไม่ทราบว่ามาจากไหน ใครแต่งครับ?

เจ็ดวันเว้นว่างดีดซ้อม.........ดนตรี
อักขระห้าวันหนี...................เนิ่นช้า
สามวันจากนารี....................เป็นอื่น
วันหนึ่งเว้นล้างหน้า..............อับเศร้าศรีหมอง
บันทึกการเข้า
ภูมิ
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 15 ม.ค. 01, 08:05

อันที่๒นี่พึ่งเคยเห็นครบบท
บรรทัด๒กับ ๔ พึ่งเคยเห็น
(เอ โครงนี่เขานับกันอย่างไร ลืมซะเเล้ว จะว่า ท่อนก็รู้สึกไม่ใช่
จะว่าบาท ก็ไม่เชิง)

จะใช่จากโครงโลกนิติหรือเปล่า
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 15 ม.ค. 01, 09:03

คุณ Jor คำประพันธ์ในข้อ ๑ มาจากโคลงโลกนิติค่ะ  
ของเดิมเป็นภาษิตข้อคิดของอินเดียโบราณ   เมื่อมาถึงไทยก็มีหลายสำนวนด้วยกัน ผิดเพี้ยนกันไปบ้าง  ต่อมาสมเด็จกรมพระยาเดชาดิศรทรงมาชำระเรียบเรียงและรวบรวมขึ้นใหม่

คุณภูมิ   โคลงนับกันเป็น"บท"  มี ๔ บรรทัด
แต่ละบรรทัดเรียกว่า "บาท" ค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 15 ม.ค. 01, 16:37

คุณJor เอาบทนี้มาฝากค่ะ

จะหามณีรัตน์.......รุจิเลิศก็อาจหา
เพราะมีวนิชค้า.....และดนูก็มั่งมี
ก็แต่จะหาซึ่ง.........ภริยาและมิตรดี
ผิทรัพยะมากมี......ก็บ่ได้ประดุจใจ
("มัทนะพาธา" พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)

นรชาติบัณฑิต ย่อมไม่กังวลสิ่งที่ไม่เห็นทางจะได้  ไม่โทมนัสถึงสิ่งที่เสียไป ไม่ตะลึงหลงเลอะแม้ในยามวิบัติ
("หิโตปเทศ" ของ เสฐียรโกเศศ)

บทนี้ยากหน่อย  ใครจะลองตีความดูบ้างคะ

พระสมุทรไหวหวาดห้วย........คลองสรวล
เมรุพลวกปลวกสำรวล.............ร่าเร้า
สีหราชร่ำคร่ำครวญ................สุนัขเยาะ หยันนา
สุริยส่องยามเย็นเข้า.................หิ่งห้อยยินดี
(โคลงโลกนิติ)
บันทึกการเข้า
เพลิน
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 15 ม.ค. 01, 18:57

"น้ำที่ใสเย็นสนานชำระกาย สายสร้อยไข่มุกสวมศอ
น้ำมันจันทร์ชโลมลูบไล้ สิ่งเหล่านี้
ได้ในเวลาเหนื่อย ร้อนร่าน ย่อมเป็นที่บานกมล

แต่ได้สนทนากับผู้ที่เป็นสัตบุรุษ
ฟังน้ำวาจาแจ่มบริสุทธิ์สุนทรไพเราะ เป็นสติควรสดับ
นับว่าได้ความชื่นรื่นสรานใจยิ่งกว่า
"

หิโตปเทศ

แทนใจแด่เพื่อนๆเรือนไทยที่น่ารักทุกคนค่ะ เว็บนี้คุยสนุกกว่าที่ไหน

ขอโทษด้วยนะคะ พิมพ์ยอผู้หยิงไม่ได้ค่ะ
บันทึกการเข้า
เพลิน
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 15 ม.ค. 01, 19:05

ต่อด้วยโคลงบทนี้ละกันค่ะ

ใดใดในโลกล้วน......อนิจจัง
คงแต่บาปบุนยัง.......เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง........ตรึงแน่น อยู่นา
ตามแต่บาปบุนแล้.....ก่อเกื้อ รักษา

ไม่มีต้นฉบับในมือ ไม่แน่ใจว่าจำถูกหรือเปล่านะคะ
คิดว่ามาจากลิลิตพระลอค่ะ
บันทึกการเข้า
เพลิน
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 15 ม.ค. 01, 19:20

มีความสุขที่ได้โพสต์ ขออีกบทนึงละกันนะคะ

ใครเป็นลูกศิษย์ท่านพุทธทาส คง "ซึ้ง" กับบทนี้ไม่มากก็น้อย

ไม้ร่าย
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

ลมร่ายไม้ร่ายระเริงเสียง.........ส่ายเพียงแผ่นฟ้าภูผาไหว
แดดสาดส่องปรุทะลุใบ..........ไล้ไม้โลมไม้ลงมาดิน
หริ่งหริ่งเรื่อยรับระยับไม้..........ร่ายเพลงแห่งไพรและเพิงหิน
ผีเสื้อใบไม้พริบพรายบิน.........ค่อยร่วงค่อยรินระเริงรำ
ความนิ่งมีในความไม่นิ่ง...........ลึกซึ้งหนึ่งสิ่งในสิ่งส่ำ
หยัดร่างหยั่งรากแกร่งกรากกรำ..ทำโดยไม่ทำตลอดทา
ดวงแดดเลือนดับกับพื้นทราย....ใบไม้ทักทายกับลมป่า
ความเงียบกึกก้องอยู่โลกา........เสียงของธรรมดาอันได้ยิน

เพราะจังเลยเนอะ

ต้องออกตัวอีกแล้วนะคะว่าไม่มีต้นฉบับกับตัว
หากใครพบข้อผิดพลาดขอความกรุณาแก้ให้ด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 15 ม.ค. 01, 19:39

ไพเราะมากค่ะ คุณเพลิน

อ่านแล้วนึกถึงอีกบทของท่านพุทธทาส
สั้นๆ แต่ชอบมาก

In the silence of mind, one can listen to grass.
จิตว่างได้ยินหญ้าพูด
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 15 ม.ค. 01, 20:01

คุณจ้อ  ที่นี่มีสุภาษิตไทยให้อ่านจนอิ่มเลยค่ะ

http://203.154.104.10/service/mod/heritage/nation/proverb/proverb.htm' target='_blank'>http://203.154.104.10/service/mod/heritage/nation/proverb/proverb.htm
บันทึกการเข้า
แม่หญิง
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 15 ม.ค. 01, 22:21

พระราชนิพนธ์ในพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ค่ะ

ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน
ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี
ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี
ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน
บันทึกการเข้า
นกข.
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 16 ม.ค. 01, 01:48

โคลงบทนี้เคยเป็นต้นเค้าของการเขียนเรื่องสั้นเรื่องหนึ่ง หลายปีมาแล้วครับ ตั้งแต่ยังไม่มี ปปช. (แต่มี ปปป. แล้ว) มาจากโลกนิติ- มั้งนะ?

อ่านจบแล้วจะเห็นเหมือนผมไหมครับว่า เป็นเรื่องสั้นชั้นดีได้หนึ่งเรื่องทีเดียว
- จ่ายทรัพย์วันละบาทซื้อ มังสา
นายหนึ่งเลี้ยงพยัคฆา ไป่อ้วน
สองสามสี่นายมา กำกับ (กันเฮย?)
บังทรัพย์สี่ส่วนถ้วน เสร็จสิ้นเสือตายฯ

นักหัดเขียนมือสมัครเล่นคนหนึ่งที่ผมรู้จักดี เคยเอาไปขยายเป็นเรื่องสั้นชื่อ "ทอง ชิ้นเนื้อ และมนตรีพระราชา"  ตั้งแต่ - เอ ขอนึกก่อน ราวๆ ก่อน 2535 นะครับ ยุคที่มีการยึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน โดยข้ออ้างว่ามีนักการเมืองบางคน "ร่ำรวยผิดปกติ"  (สมัยนี้เราไม่ค่อยได้ยินสำนวนนี้แล้ว)

โคลงบทที่ว่าปลวกหัวเยาะเยาะภูเขา ฯลฯ ค่อนข้างลึกซึ้งครับ ขอนึกนานๆ หน่อย
บันทึกการเข้า
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 16 ม.ค. 01, 02:57

ขอบคุณครับคุณเทาชมพู ผมอ่านจนอิ่มไปเลย
บันทึกการเข้า
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 16 ม.ค. 01, 04:02

โคลงบทที่สองของคุณเทาชมพู เห็นคุณ นกข. คิดนานๆ
ผมขอคิดนานบ้างแล้วกัน

แต่บทแรกที่เอามาฝากนี่ อ่านแล้วสะกิดใจ ตะหงิดๆ
สงสัยผมจะต้องรีบหาซะแล้วสิครับ ... แหะๆๆ
บันทึกการเข้า
ภูมิ
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 16 ม.ค. 01, 09:14

อ.ชนก เขียนเอาไว้
อันความรู้หาได้จากการเรียน
ส่วนฝีมือเราต้องเพียรฝึกฝน
ชื่อเสียงนั้นเป็นเพียงลมปากคน
อย่ากังวลใส่ใจให้มากความ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.073 วินาที กับ 19 คำสั่ง