เห็นแผนที่คุณ Siamese แล้วอึ้งเลยครับ ถ้าเห็นแต่แรกคงไม่ต้องงมอยู่เป็นนานสองนานเลยครับ พอจะขยายส่วนที่เลียบชายฝั่งญวนขึ้นไปอีกได้ไหมครับ ยังมีหลายจุดที่ผมยังหาพิกัดแน่นอนไม่ได้เลยครับ
ฟังไว้ แต่ด้วยความเคารพนะครับ ผมไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ ผืนน้ำทะเลมันกว้างใหญ่ไพศาลเมื่อเทียบกับพื้นที่เกาะทั้งหลาย เรือก็ไม่ได้มีความเร็วมากเสียจนจะเป็นอุปสรรคในการเบี่ยงหลบเกาะ หรือเสียเวลามาก
ในประชุมพงศาวดารฉบับที่ ๖๗ เรื่องจดหมายเหตุเกี่ยวกับเขมรและญวนในรัชกาลที่ ๓ ฉบับที่ ๒๐ ระยะทางเรือใบไปเมืองญวน มีความเกี่ยวกับการเดินเรือในอ่าวไทยดังนี้
แต่ปากน้ำเมืองไซ่ง่อนมาทะเลทางใน ล้าลมดีครึ่งวันถึงปากน้ำเมืองสมีถ้อ แต่ปากน้ำเมือยล่องโห้มาครึ่งวันถึงปากน้ำเมืองล่องโห้ แต่ปากน้ำเมือยล่องโห้มาครึ่งวันถึงปากน้ำเมืองปาศักดิ์ แต่ปากน้ำเมืองปาศักดิ์มาครึ่งวันถึงเกาะอุยเลย ถ้าคลื่นลมกล้าเรือเดินในเกาะอุยเลยถ้าคลื่นลมปกคิเรือเดินนอกเกาะอุยเลยใน เกาะมัน ๆ กับเกาะอุยเลยตรงกัน ห่างกันทางประมาณครึ่งวัน ถ้าเรือสำเภา เรือปากใต้แล่นนอกเกาะมัน ถ้าเรือศีร์ษะญวนยาว ๑๑ วา ๑๒ วา เดินทางในเกาะมันในเกาะอุยเลยออกจากท้ายเกาะอุยเลยแลเห็นปากน้ำเมืองเขมา แต่เมืองเขมามาวันหนึ่งถึงเมืองเตกเซีย
แต่เมืองเตกเซียมาวันหนึ่งถึงเมืองพุทไธมาศ แต่เมืองพุทไธมาศมาครึ่งวันถึงเมืองกำปอด แลเห็นเกาะตุนอยู่ทิศสำเภาประมาณครึ่งวัน แต่เมืองกำปอดมาครึ่งวันถึงฉองตงมึง สำหรับเรือไปมาแวะเข้าตักน้ำหาฟืน แต่ตงมึงมาวันครึ่งถึงเมืองกระพงโสม แต่เมืองกระพงโสมมาวันครึ่ง มาแต่ไซ่ง่อนทาง ๖ วัน ๗ วันถึงเกาะกง
แต่เกาะกงมาวันหนึ่งถึงเกาะกูด เกาะช้าง หน้าเมืองตราด แต่เกาะช้างมาวันหนึ่งถึงแหลมสิงห์ปากน้ำเมืองจันทบุรี แต่ปากน้ำเมืองจันทบุรีมาวันหนึ่งถึงเกาะสม็ด แต่เกาะเสม็ดครึ่งวันถึงปากน้ำเมืองระยอง แต่ปากน้ำเมืองระยองมาครึ่งวันถึงช่องแสมสาร แต่ช่องแสมสารมาวันหนึ่งถึงเกาะศรีชังหน้าเมืองบางละมุง แต่เกาะศรีชังวันหนึ่ง แต่ไซ่ง่อนมา ๑๓ วัน ๑๔ วันถึงปากน้ำเจ้าพระยา
แต่ปากน้ำเมืองไซ่ง่อนเรือใหญ่จะเดินทางนอก ๒ วัน ถึงเกาะมันออกจากเกาะมันมาวันครึ่งถึงขวางใหญ่ แต่ขวางใหญ่มาวันหนึ่งถึงขวางน้อย แต่ขวางน้อยจะเข้ามา ถ้าเดือนยี่ เดือน ๓ สองเดือนเป็นฤดูลมตะวันออกลมอุตรา ต้องแล่นเลียบฝั่งตะวันออกมา ๓ วัน ๔ วันถึงหน้าเกาะช่องกำปั่น มาแต่เกาะช่องกำปั่นวันหนึ่งถึงเกาะไผ่ออกจาเกาะไผ่วันหนึ่งถึงหลังเต่าตรง เข้าปากน้ำเจ้าพระยาเป็นทาง ๙ วัน ๑๐ วัน ถ้าเดือน ๔ เดือน ๕ สองเดือนเป็นลมสำเภาสลาตัน ออกจากขวางน้อยแล่นข้ามมา ๔ วัน ๕ วันถึงหน้าเขาสามร้อยยอด ออกจากเขาสามร้อยยอดครึ่งวันมาถึงเจ้าลาย ออกจากเจ้าลายครึ่งวันถึงเกาะไผ่ มาวันหนึ่งถึงหลังเต่าตรงเข้าปากน้ำเจ้าพระยาเป็นทาง ๗ วันน่าสังเกตว่าแยกเส้นทางเป็นทางทะเลในสำหรับเรือเล็ก ส่วนเรือใหญ่วิ่งทะเลนอก เส้นทางทะเลนอกก็ยังแยกออกเป็นสองเส้นทาง จุดแยกอยู่ที่เกาะขวางน้อย (น่าจะเป็นเกาะหวายในจังหวัดตราด) เส้นหนึ่งจากเกาะขวางน้อยมุ่งหน้าไปชลบุรีแล้วไปปากน้ำ อีกเส้นหนึ่งมุ่งไปทางสามร้อยยอดแล้วไปปากน้ำ แต่ละเส้นทางเหมาะสมสำหรับฤดูกาลที่แตกต่างกัน
เรื่องทางทะเลใน/ทะเลนอก น่าจะมีปัจจัย 2 เรื่อง คือเรือเล็กคงทนทานคลื่นลมในทะเลลึกได้ไม่เท่าเรือใหญ่ ต้องแล่นเลียบชายฝั่ง อีกเรื่องหนึ่งคือเรือใหญ่เองแล่นเลียบชายฝั่งน่าจะมีมีอุปสรรคมากกว่าเพราะกินน้ำลึกกว่า
ส่วนเรื่องเส้นทางเกาะขวางน้อย-ชลบุรี/สามร้อยยอด อันนี้เรื่องหลักคงเป็นเรื่องลม แต่เรื่องลมจะมีตัวแปรจากเรื่องเท็คนิคการแล่นเรือเข้ามาเกี่ยวข้องได้หรือไม่ครับ อย่างเช่นการแล่นก้าวจะทำให้เรือต้องออกนอกเส้นทางไปมา ยากจะกำหนดเส้นทางแน่นอน ถ้ามีหินโสโครกอยู่ในแนว จะเพิ่มความเสี่ยงหรือไม่?
สมัยนั้นเทคโนโลยีการหาพิกัดยังจำกัดอยู่มาก ถ้าดูจากบันทึกของแกมป์เฟอร์ช่วงที่อยู่แถวชายฝั่งของจีน เขาสามารถหาพิกัดของเรือได้เฉพาะเส้นรุ้ง (latitude) ส่วนเส้นแวง (longitude) ไม่รู้เลย แผนที่ที่เขาใช้แสดงตำแหน่งหินโสโครกสำคัญก็ระบุไว้เฉพาะเส้นรุ้งเช่นกัน ดังนั้นต่อให้มีแผนที่ที่ดี ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถใช้งานแผนที่นั้นเพื่อเดินเรือหลบอุปสรรคจำนวนมากได้ง่ายนักครับเพราะไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหนแน่นอน แผนที่เดินเรือสมัยก่อนที่เคยเห็นส่วนมากจึงใช้จุดสังเกตที่สำคัญๆ เป็นจุดอ้างอิงครับ
การเลี่ยงเส้นทางแบบนี้จะยังมีให้เห็นในทางข้างหน้า เรือที่แล่นพ้นแหลมญวนแล้ว ถ้าแล่นใบตัดตรงข้ามไปกวางตุ้งหรือฮกเกี้ยน นอกจากรับลบเต็มที่แล้วยังเป็นทางตรงกว่า แต่ต้องผ่านแนวหมู่เกาะพาราเซล ผลคือนักเดินเรือสมัยก่อนต้องแล่นเรือเลียบชายฝั่งเวียดนามไปจนพ้นแนวหมู่เกาะพาราเซล แล้วจึงแล่นใบตัดข้ามทะเลจีนใต้ไปครับ