เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: สมศักดิ์ ที่ 29 เม.ย. 06, 16:53



กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: สมศักดิ์ ที่ 29 เม.ย. 06, 16:53
 แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาลหรือเพราะปรีดีสนับสนุน?"


เรียนทุกท่าน

ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้เข้ามาตั้งกระทู้ถามข้อมูลที่เกี่ยวกับพระราชพินัยกรรม ร.6 และผมได้แจ้งให้ทราบว่า ผมกำลังอยู่ระหว่างการเขียนบทความเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับการขึ้นครองราชย์ของในหลวงอานันท์ รัชกาลที่ 8

บทความดังกล่าวได้เขียนเสร็จบางส่วนแล้ว ข้างล่างนี้คือ link ไปสู่ web page ซึ่งมีบทความดังกล่าว (ในรูป pdf file) เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาลหรือเพราะปรีดีสนับสนุน?" ผู้สนใจสามารถ download ไปอ่านได้

 http://www.geocities.com/somsak_j/

บทความฉบับร่างส่วนที่ให้ download นี้ ค่อนข้างยาว คือ 30 หน้า (ขนาดไฟล์ประมาณ 709kb) แต่ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดของบทความ พูดง่ายๆคือยังไม่จบ อย่างไรก็ตาม เฉพาะส่วนที่ให้ download นี้ สามารถอ่านเข้าใจได้ในตัวเอง (เกี่ยวกับการขึ้นครองราชย์ของพระปกเกล้า โดยเฉพาะปัญหา พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ มีสิทธิ์ขึ้นครองราชย์ หรือไม่)

ส่วนที่เหลือของบทความ ซึ่งยังไม่เสร็จ จะพูดถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างพระปกเกล้ากับรัฐบาลคณะราษฎรที่นำไปสู่การสละราชย์ และการเลือกพระมหากษัตริย์องค์ใหม่ ซึ่งได้แก่พระองค์เจ้าอานันท์



ผมขอเรียนตรงๆว่า หลายท่านที่เป็นสมาชิกประจำเว็บไซต์แห่งนี้ อ่านบทความผมแล้ว อาจจะรู้สึกไม่สู้ตรงกับความคิด ความเคยชิน หรือรสนิยมของท่านได้ ซึ่งผมจำเป็นต้องขอเรียนเตือนไว้ล่วงหน้า (คืออาจจะรู้สึกผมกำลังพยายาม "รับประทาน" ใครต่อใคร นี่พูดตามสำนวนของคุณ pipat ซึ่งเขียนถึงบทความของผมเรื่องวันจักรีในกระทู้หนึ่งก่อนหน้านี้) อย่างไรก็ตาม หวังว่า อย่างน้อย ท่านอาจจะได้ประโยชน์บ้าง แม้จะในทางที่กระตุ้นความคิดในเชิงไม่เห็นด้วย

ผมโพสต์กระทู้นี้ และบทความให้ download ในลักษณะเป็นการขอบคุณ สมาชิกหลายท่านที่ช่วยกรุณาให้ความรู้ในเรื่องที่ผมถาม และเรื่องอื่นๆ การตีความ ความรู้ต่างๆนั้น อาจจะไม่ตรงกัน แต่ผมก็ขอบคุณในน้ำใจ


ท่านใดมีข้อวิจารณ์หรือโต้แย้งบทความที่ผมให้ download ก็เรียนเชิญตามอัธยาศัยนะครับ


ขอบคุณอีกครั้ง


ปล. สำหรับท่านที่อ่านแล้วมีข้อวิจารณ์โต้แย้ง หากผมมา respond ช้าหน่อย ต้องขออภัยล่วงหน้า งานผมค่อนข้างมากช่วงนี้ ขอบคุณครับ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: สมศักดิ์ ที่ 29 เม.ย. 06, 19:35
 ขออภัยครับ ที่อยู่ใหม่สำหรับ download บทความ


ขออภัยครับ เนื่องจากความไม่ประสีประสาในเรื่อง cyberspace ของผม จึงนึกว่า webpage ของ geocities ที่ไปใช้นั้น เพียงแต่เราไปฝาก ไฟล์ไว้ ก็ใช้ได้ ใครอยากจะ download ก็ไปคลิ๊กเอา ผมเพิ่งไปอ่านพวกตัวหนังสือเล็กๆ รายละเอียดต่างๆ จึงพบว่า เขามี limit ของสิ่งที่เรียกว่า file transfer (ต้องขอบคุณคุณ กานต์ ที่โพสต์ข้อความในกระทู้ก่อนหน้านี้ ทำให้ผมเอะใจ) และสำหรับกรณี webpage ฟรี ที่ผมใช้อยู่นี้ เขาอนุญาตให้ limit เพียง ชม.ละ 4MB เศษ หมายความว่า ในกรณีนี้ ถ้ามีคน โอนถ่าย ไฟล์ของผมประมาณ 4-5 คน ในชั่วโมงนั้น ก็ไม่สามารถทำได้อีก

ขออภัยจริงๆครับในความยุ่งยากสำหรับท่านทั้งหลายที่พยายามจะ download แล้วไม่สำเร็จ

คราวนี้ผมลองใหม่ ไปสมัครเว็บ YouSendIt แล้วเอาไฟล์ไปฝากที่นั่นแทน

ขอให้ทุกท่านที่สนใจ ลองไป download ที่นั่นนะครับ (ตาม links ต่อไปนี้) ผมเข้าใจว่า แต่ละครั้งที่ฝาก อาจจะ load ได้ประมาณ 25 ครั้ง ผมฝากให้ 2 อัน ก็หมายถึง download ได้ 50 ครั้ง ผมใช้ชื่อไฟล์คนละชื่อ (ไทย-อังกฤษ) แต่ความจริง เป็นอันเดียวกัน ดังนั้นโปรดเลือกอันเดียวก็พอนะครับ ถ้าหมดเมื่อไร ผมสามารถ update ได้อีก

 http://download.yousendit.com/23438DB60A5151E2


 http://download.yousendit.com/F43CE8BA5590D192


(ที่เก่า ถ้าว่างๆ ก็ลองดูใหม่ก็ได้ ถ้าในแต่ละ ชม. ไม่เกิน 4MB ก็จะยังได้อยู่)


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: Rinda ที่ 29 เม.ย. 06, 22:44
 เรียน คุณสมศักดิ์ค่ะ

เขียนสนุกค่ะ ดิฉันยังอ่านไม่จบ แต่มีเหตุให้ต้องจรก่อน แล้วจะดาวน์โหลดมาอ่านต่อค่ะ

พระมหากษัตริย์ไทยบางพระองค์ อาจไม่ทรงทราบสิทธิ์ของพระองค์เมื่อเสด็จสวรรคตแล้ว
ไม่ทราบจะอธิบายอย่างไรดีจึงจะไม่ให้สื่อผิด ง่ะ แน่นอนว่าพระองค์ทรงสิทธิ์การยกทรัพย์สินให้ผู้ใดก็ได้
แต่พระองค์ไม่ทรงมีสิทธิ์ไปกะเกณฑ์ให้ผู้นั้นๆ ใช้จ่ายทรัพย์อย่างไร ในเมืองนอกมี กม. trustee รองรับ
ดังนั้น อาจตั้งทรัสตีขึ้นบริหารทรัพย์ได้ พินัยกรรมที่ล้นเกล้าฯ ร. 7 ทำหลายอัน void หมด ด้วยเหตุผลที่ว่า
คนตายไม่อาจบังคับคนเป็นให้ทำกิจใดๆตามความประสงค์ของผู้ตาย

ฉันใดฉันนั้น ถ้าพระองค์กำลังจะเสด็จสวรรคต หากจะทรงตั้งใครก็ตั้งตั้งยังมีพระชนม์ หากตั้งหลังสิ้นใจ
บัลลังก์ไม่อาจบังคับได้เหมือนบังคับมรดก เสียใจที่หมดเวลา ไม่อาจสื่อความคิดตัวเองให้กระจ่างได้ในวันนี้

วันหน้าจะมาต่อค่ะ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: หยดน้ำ ที่ 30 เม.ย. 06, 22:39
 มาแสดงความเห็นเล้กๆ  น้อยๆ  ครับ

ผมเห็นว่าถึงแม้รัฐบาล  และสภาฯ  ในขณะนั้นจะมีบทบาทสำคัญในการเลือกพระมหากษัตริย์รัชกาลที่  8  แต่จากที่ผมเคยศึกษามาบ้าง  ผมเห็นว่านายปรีดีมีบทบาทน้อยมากในการสนับสนุนให้พระองค์เจ้าอานันทฯ  ขึ้นเป็นรัชทายาท  ยิ่งการอ้างว่านายปรีดีได้มีส่วนตีความฐานะของเจ้านายที่มีสิทธิ์ในราชบัลลังก์  ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีระหว่างวันที่  2 - 7  มีนาคม  2477  นั้น  ยิ่งฟังดูขัดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อย่างยิ่ง  เพราะก่อนที่ในหลวงรัชกาลที่  7  จะสละราชสมบัติในวันที่  2  มีนาคม  ศกนั้น  หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์  1  ในคณะผู้แทนที่รัฐบาลส่งไปเข้าเฝ้าฯ  พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ประเทศอังกฤษนั้น  ในระหว่างเดินทางกลับสยาม  วันที่  19  ก.พ.  2477  ได้ขอเข้าเฝ้าพระองค์เจ้าอานันทมหิดล  และเข้าพบหม่อมสังวาลย์  เพื่อแจ้งเรื่องที่รัฐบาลอยากให้พระองค์เจ้าอานันท์ฯ  เป็นพระเจ้าแผ่นดินองค์ต่อไป  ทั้งในระหว่างนั้นหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ได้ขอเฝ้าพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์  เพื่อแจ้งเรื่องที่รัฐบาลอยากให้พระองค์ทรงรับตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์  แต่พระองค์จุลฯ  ได้ทรงปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งดังกล่าว  

ดังนั้นโดยส่วนตัวแล้วผมเห็นว่ารัฐบาลในขณะนั้น  ไม่ว่าจะด้วยต้องการทำตามพระราชประสงค์รัชกาลที่  7  หรือด้วยเหตุผลใดก็ตาม  พระองค์อานันท์ฯ  ได้ถูกเลือกให้เป็นรัชทายาทตั้งแต่แรกแล้วหากการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ  ไม่ประสบความสำเร็จ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 01 พ.ค. 06, 12:52
อาจารย์สมศักดิ์ให้เกียรติมาอย่างจำเพาะเจาะจง  จะไม่ฉลองศรัทธาก็กระไรอยู่
ผมชอบนะครับบทความที่อ่านแล้วรู้สึกไม่เห็นด้วย ชอบพอกับบทความที่อ่านแล้วเถึยงไม่ออก รู้สึกดีกันไปคนละแบบ
บทความขนาดมหึมาที่ยังไม่จบ (...จ๊าาาาก 30 หน้าเนี่ยนะ ยังไม่จบ)  ทำให้ผมคิดถึง 2 คน
คนที่หนึ่ง เวลานั่งรถไปด้วยกันนี่ต้องคอยเตือน แกเห็นซอยเป็นไม่ได้ ต้องแวะ บอกว่าอยากรู้มันจะไปออกที่ใหน
อีกคนหนึ่ง เวลาไปหาที่บ้าน จุดนั่งคุย จะค่อยๆ ร่นออกมา จนทุกวันนี้ต้องนั่งคุยนอกบ้าน คือแกไม่ทิ้งขยะเลยครับ เก็บทุกอย่างเข้าบ้านหมด
ผมนึกว่าตั้งแต่เอ๊ดเวิร์ด ฮอเลตต์ คารร์ เสร็จงานประวัติศาสตร์รัสเซีย 14 เล่มยักษ์แล้ว นักประวัติศาสตร์จะเลิกเขียนหนังสือแบบยาวกว่าเหตุการณ์จริงเสียแล้ว
นับถือพลังงานของอาจารย์สมศักดิ์จริงๆ แค่ผมอ่านไปครึ่งหนึ่งยังต้องพักหลายหน ทำให้จับความได้กระท่อนกระแท่นว่า
1 ปรีดีอ้างผิด ร. 8 ครองราชย์ตามกฎมณเฑียรบาล ไม่ใช่เพราะตัวเองสนับสนุน
2 รายละเอียดยิบย่อยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างร. 6 กับพระอนุชา
3 มีการกราบ ร.7 หรือไม่ อย่างไร เมื่อไร
4 ร. 7 ทะเลาะกับคณะราษฎร์ ยังไม่มีรายละเอียด
********
คำวิจารณ์
อาจารย์สมศักดิ์คงไม่อยากให้ชม เลยมาแจกในเวบที่นิยมเจ้าอย่างที่นี่ หาไม่แกคงเปิดบล็อกประเภทเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดของแกเองไปแล้ว (ถ้ามี บอกนะครับ จะไปเป็นแฟนด้วยคน)
ผมเลยจะขอวิจารณ์ตรงๆว่า
เนื่องจากเรื่องนี้ไม่ใช่การค้นพบใหม่ แต่เป็นการผลิตซ้ำประเด็นเดิม เราจึงต้องใช้เกณฑ์ที่ว่า การผลิตซ้ำนี้ มีคุณภาพพอแก่การสนใจเพียงใด
มีสองประเด็นเท่านั้น ที่จะรองรับคุณค่าของงานแบบนี้

ก ความเฉียบคมของคำวินิจฉัย หรือคำวินิจฉัยนี้ถึงระดับฎีกาหรือยัง สะเด็ดน้ำ หมดข้อกังขาหรือไม่ แปลว่า ต่อไปไม่ต้องมาเถึยงกันเรื่องนี้อีกแล้ว เว้นแต่มีหลักฐานวิกฤตจริงๆ

ผมเห็นดังนี้
1 ลอจิกแปลกๆ คืออ่านแล้วเหมือนนั่งถกกันอย่างที่ต่างฝ่ายต่างก็ยังไม่พร้อม แต่ยกประเด็นมาว่าไปเรื่อยๆ ผมว่าบทความที่ดีต้องกระชับกว่านี้นะครับ
เช่นอาจารย์มีมติว่าปรีดี(หรือสาวก) ตู่ อ้างการตั้ง ร. 8 เพื่อหลีกข้อหาปลงพระชนม์ ผมว่ามันยังเป็นข้อสังเกตที่มีนัยยะสำคัญน้อยมากนะครับ
ท่านปรีดีเป็นนักกฏหมายระดับเอกอุ ท่านคงไม่อ้างการพูดเรื่อยเปื่อยหรือคำนินทาว่าร้ายเพื่อชำระตนเองดอก
ข้อที่ผมงงมากกับการให้เหตุผลคือข้อที่เกี่ยวกับเจ้าฟ้าจักรพงษ์ว่า
".....การถูกฝรั่งจูงโดยได้เป็นกษัตริย์กับไม่ได้เป็นกษัตริย์ ย่อมต่างกันอย่างมหาศาล"
คือมันเป็นข้อเสนอปลายเปิด แค่นั่งทำความเข้าใจจุดนี้ ผมเสียเวลาไปจนลืมสาระที่อาจารย์เขียนไปชั่วขณะทีเดียว
อาจารย์"รับประทาน"นายหนหวยว่า ที่แกเขียนออกมาเกี่ยวกับเจ้าฟ้าฯกรมพระนครสวรรค์กอดพระศอปรึกษา ร. 7
"ชวนให้นึกถึงฉากใน “ยี่เกจักรๆวงศ์ๆ” เสียมากกว่า"
ผมว่าถ้านายหนหวยผิดพลาดตรงใหนก็ชี้ออกมาเลย สำนวนของเขาไม่เกี่ยวกับความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ อาจารย์สรุปแบบนี้คนอ่านไม่ได้ประโยชน์ครับ

สรุปก็คือ ถ้าบทความนี้ เป็นการชำระหลักฐาน เพื่อใช้สอนเด็ก ถือว่ายังชำระไม่หมด เด็กยังต้องควานหาวินิจฉัยอื่นๆมาเปรียบเทียบต่อ (อีกแยะด้วย)
ผมขออนุญาตเปรียบเทียบอย่างนี้นะครับ อาจารย์ขจร สุขพานิช เขียนเรื่อง บางเกาะ เกาะรัตนโกสินทร์ (2516) สั้นกว่า 30 หน้าของอาจารย์นี้ราวๆ 5 เท่า แต่อ่านแล้วจบครับ ใช้เป็นตัวบทได้เลย ผ่านมากว่า 30 ปี ยังไม่มีใครแก้ไขเป็นอื่นได้

2 อาจารย์สรุปผิดครับ ท่านปรีดีไม่ได้แสดงข้อผิดพลาดอันใดเลยในสิ่งที่อาจารย์ยกมา ท่านบอกว่า
"คณะรัฐมนตรีได้ปรึกษากันในระหว่างเวลา ๕ วันตั้งแต่วันที่ ๒ ถึงวันที่ ๗ มีนาคม"
ถามว่า ในเวลานั้น มีใครใหญ่กว่าครม.(คือคณะราษฎร์) ไหมครับ เพิ่งชนะสงคราม เจ้านายชั้นสูงถูกขับออกหมด จะเลิกระบอบกษัตริย์ยังทำได้เลย แต่เขายังต้องใช้เวลาถึง 5 วันต่อปัญหาเล็กๆ นี้ เขาต้องทำเรื่องใหญ่แน่นอน
อาจารย์ต้องอ่าน"นัยยะ" ที่ ร. 7 ถวายดอกไม้เงินดอกไม้ทองแก่สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนริศฯ(พระยศขณะนั้นนะครับ เดี๋ยวอัดผมแบบอัดนายสุพจน์อีก) ว่าหมายความอย่างไร
แล้วทำไมจึงต้องถวายต่อให้แก่พระเทพบิดรของพระบรมราชจักรีวงศ์ที่หน้าพระแก้วมรกต นี่เป็นระบบสัญลักษณ์ที่น่าจะอ่านง่ายนะครับ
ดังนั้น ผมเห็นว่า ใครพูดอะไรก้อถูกทั้งนั้นครับ ต่างอ้างหลักฐานคนละเล่ม ยกเว้นอาจารย์สมศักดิ์คนเดียว ที่ทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะดันออกบทความฎีกาเรื่องนี้มา


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 01 พ.ค. 06, 12:57
 ต่อนะครับ ไม่อยากให้ลากหน้าจอยาวเกิน เลยแบ่งเป็นสองท่อน
--------------------------
ข ความสมบูรณ์ของอุปกรณ์รองรับการวินิจฉัย
1 รำคาญเรื่องราชาศัพท์ครับ เช่น
"นครสวรรค์ลงนั่งกราบประชาธิปก"
ในการเขียนเรื่องสถาบัน การใช้ศัพท์ที่ไม่เหมาะสมย่อมชี้ว่าคนเขียนไม่เข้าใจเรื่องย่อยที่สัมพันธ์กับเหตุการณ์ ดังนี้แล้วความลึกในงานจะมีได้อย่างไร มิใช่หมายความว่าต้องเก่งราชาศัพท์นะครับ นั่นมันพวกพระเอกลิเก
2 เขียนปวส.แบบละเอียด แต่ข้อมูลหยาบ และขาดการประเมินน้ำหนักเอกสาร อันนี้ผมว่าเป็นจุดอ่อนอยางยิ่ง ตรวจดูแล้ว อาจารย์ใช้เอกสารอ้างอิงราว 20 รายการ ทุกรายการเป็น"ของแห้ง" คือเผยแพร่แล้วทั้งนั้น ทำให้การวินิจฉัยขาดความ"ขลัง"ไปหลายกิโลครับ
ผมไม่เห็นด้วยกับการใช้เทคนิค historicism ในบทความนี้อย่างมาก เพราะยังมีหลักฐานอีกเป็นร้อยที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีนี้ (กรณีนั่งกราบ) ที่ยกมายังไม่พอให้วินิจฉัย
และการเชื่อรายงานการประชุมนี่ผมว่า "ตลก" มาก
อาจารย์คงเคยประชุมมามาก มีรายงานชิ้นใหนในชีวิตที่ใช้เป็นข้อเท็จจริงได้ ผมว่าปล่อยให้พวกนักกฏหมายเชื่อไปเถอะครับ เรื่องรายงานการประชุม นักประวัติศาสตร์ควร"หาเรื่อง"มากกว่านั้น
ความจริงรายงานของพระองค์ธานีนี่ แทบไม่ต้องอ้างเลยก็ได้ เหตุการณ์ตั้งแต่กบฏ ร.ศ. 130 เป็นต้นมา มีน้ำหนักมากกว่าเอกสารแผ่นกระดาษทุกใบ
3 มีข้อให้โต้แย้งเล็กๆน้อยๆ ที่ชี้ว่าผู้เขียนยังไม่ใช่มือวางอันดับหนึ่งในเรื่องนี้
ข้อนี้สำคัญนะครับ เพราะพอคิดว่าอาจารย์ไม่รู้ว่าคุณไข่มุกด์เป็นผู้หญิงนะครับ ราคาของบทความตกฮวบเลย และแกยังไม่ใช่นักวิชาการฝ่ายขวา นอกจากกินเบียร์เก่งแล้ว ผมยังไม่เห็นว่า"เธอ"จะเป็นอะไรได้
-อาจารย์รู้ได้ไงว่าสุพจน์และปรีดีไม่รู้เรื่องข้อตกลงลับ ที่ ร. 6 ทำไว้
-สุพจน์ไม่ผิดเรื่องฐานันดรศักดิ์ "กรมพระ" แกใช้พระยศหลังสุด ตามความนิยมทั่วๆไป
4 ต้องขออนุญาต"รับประทาน"อาจารย์สมศักดิ์เป็นการปิดท้ายว่า นี่เป็นวิชาการแนวฉูดฉาด เหมาะเป็นบทหนังสารคดี มีการแทรกความเห็นส่วนตัวเข้าในหลักฐาน
"โดยที่เขาไม่รู้ตัวถึงความสำคัญต่อประเด็นที่เขากำลังเขียนเอง"


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ค. 06, 13:15
 "ข้อนี้สำคัญนะครับ เพราะพอคิดว่าอาจารย์ไม่รู้ว่าคุณไข่มุกด์เป็นผู้หญิงนะครับ ราคาของบทความตกฮวบเลย และแกยังไม่ใช่นักวิชาการฝ่ายขวา นอกจากกินเบียร์เก่งแล้ว ผมยังไม่เห็นว่า"เธอ"จะเป็นอะไรได้"

ขอใช้สิทธิ์พาดพิงแทนคุณไข่มุกด์ ผู้ซึ่งไม่มีโอกาสจะมาถามคุณพิพัฒน์หรือใครอีกแล้ว
ความเป็นหญิงหรือชายมาเกี่ยวอะไรด้วยล่ะคะ
สมมุติว่าดิฉันเกิดไปรู้ว่าคุณพิพัฒน์ไม่ใช่ผู้ชาย่ แต่เป็นนามแฝงของหญิงสาว
เรื่องที่เล่าสู่กันฟังจะราคาเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่เชียวหรือ

คุณไข่มุกด์น่ะเป็นได้หลายอย่างเชียวละ  อย่างน้อยคำนำหน้าคุณไข่มุกด์ก็บอกความสามารถได้นะคะ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: สมศักดิ์ ที่ 01 พ.ค. 06, 14:46
 ขอบคุณคุณ pipat ที่อุตส่าห์เขียน comment มาหลายอย่าง พอดีผมติดทำอย่างอื่นอยู่ แวะเข้ามาดูสั้นๆเท่านั้น จึงขอเอาประเด็นเดียวก่อนนะครับ ประเด็นอื่นๆ จึงค่อยมาว่ากันใหม่ภายหน้า

ความจริง ผมทราบอยู่ว่า ผู้มีคำว่า "คุณ" นำหน้า เช่น กรณี ไข่มุกด์ ชูโต นี้ หมายถึง ผู้หญิงที่ได้ "สายสะพาย" (เครื่องราชอิสริยาภรณ์) ระดับ คุณหญิง เพียงแต่ไม่ได้แต่งงาน (มีสามี) จึงให้เรียกว่า "คุณ" แทนที่จะเป็น "คุณหญิง" (อาจารย์ทางประวัติศาสตร์มีชื่อท่านหนึ่ง คือ อ.คุณวรุณยุภา ก็เรียกกันเชนนี้)
ทีนี้เรื่องสรรพนาม นี่ ผมลองกลับไปอ่านดู ผมออกจะงงตัวเองเล็กน้อยที่ใช้ "เขา" แต่เท่าที่ผมจำได้ ผมรู้สึกไม่ชอบ "เธอ" ในแง่ที่เป็นสรรพนามในบริบทของบทความเกี่ยวกับการถกเถียงกันนัก ผมเลยใส่ "เขา" แล้วก็อาจจะใส่เขาไปโดยไม่รู้สึกในแง่ gender (เพศสภาพ) ของสรรพนาม รุนแรง เท่าคุณ pipat อันที่จริง ในบทความนั้น มีคำว่า "เธอ" อยู่หลายครั้งมากๆ และทุกครั้ง พาดพิงถึง ผู้ชาย! ผมเองอ่านในบริบทที่เจ้านายหรือคนสมัยก่อนใช้คำนี้เรียกผู้ชาย ก็ไม่รู้สึกอะไร เวลาใช้เขา ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกถึง เพศ มากเท่าที่คุณ pipat หรือท่านอื่นอาจจะรู้สึกกัน แต่เมื่อถูกทัก ผมก็ว่า คงถือเป็นเรื่องผิดไปที่ใช้ ก็ยินดีจะเปลี่ยนให้ (แต่ไม่แน่ใจจะเปลี่ยนเป็น เธอ หรือเลี่ยงไปเลย)
อย่างไรก็ตาม ผมออกจะรู้สึกนี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ระดับ "ตกฮวบ" อะไร อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ ผู้อ่านท่านอื่นๆจะลองชั่งน้ำหนักดู ว่าเมื่อ่านถึงตรงย่อหน้าดังกล่าวแล้ว รู้สึก "ฮวบ" ตามคุณ pipat หรือไม่
ขอบคุณครับ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: สมศักดิ์ ที่ 01 พ.ค. 06, 15:08
 ขอต่ออีกนิด เรื่องราชาศํพท์ (เรื่องอื่นคงต้องขอผลัดจริงๆ)

คุณ pipat เขียนว่า

" รำคาญเรื่องราชาศัพท์ครับ เช่น
"นครสวรรค์ลงนั่งกราบประชาธิปก"
ในการเขียนเรื่องสถาบัน การใช้ศัพท์ที่ไม่เหมาะสมย่อมชี้ว่าคนเขียนไม่เข้าใจเรื่องย่อยที่สัมพันธ์กับเหตุการณ์ ดังนี้แล้วความลึกในงานจะมีได้อย่างไร มิใช่หมายความว่าต้องเก่งราชาศัพท์นะครับ นั่นมันพวกพระเอกลิเก"

ความจริง เมื่อผมเขียนเชิง warning ล่วงหน้า เรื่องว่า สิ่งที่ผมเขียน อาจจะไม่ถูกใจ ถูกรสนิยมฯลฯ สมาชิกประจำทีนี้ ผมเกือบจะเขียนอย่างเจาะจงเรื่อง ราชาศัพท์ ลงไปแล้ว แต่สุดท้ายไม่เขียน เพราะคิดว่า นอกจากเรื่องราชาศัพท์ แล้วยังมีเรื่องอื่นอีก ที่อาจจะไม่ถูกใจ

คือเรื่องราชาศัพท์นี้ ผมเขียนเช่นนั้นอย่างจงใจ คือ จงใจ ที่จะไม่ใช้ อย่างคงเส้นคงวา หรือ อย่างละเอียดยิบทุกครั้ง ดังที่คุณ pipat หรือหลายคนในทีนี้อาจจะทำกัน เรื่องนี้มีเหตุผลหลายอย่างมาก (และนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำไมผมไม่เขียนอธิบายไปก่อนนี้ เพราะอธิบายแล้วจะยาว)

อย่างแรกสุด เลยนะครับ ในบทความที่ยาวเป็น สิบๆหน้า ในเชิง stylistic หากเขียน ราชาศัพท์อย่างละเอียดถี่ยิบ ผมว่า คงไม่ใช่บทความวิชาการแล้ว จะกลายเป็นพงศาวดารไป บทความนี้เป็นบทความเชิงวิชาการ ที่ต้องการเสนอประเด็น (ข้อมูลและ arguments ต่างๆ) ไม่ใช่ บทอาเศรียรวาทสดุดี (หรือพงศาวดาร) ซึ่งเขียนขึ้น โดยมีจุดประสงค์สำคัญ เพื่อการ "ประณามพจน์" ดังนั้น การเขียนราชาศัพท์อย่างถี่ยิบ จึงไม่จำเป็นในความเห็นของผม

ประการต่อมา ผมเอง เคยชินในลักษณะนี้เอง คือ เขียนและอ่านบทความภาษาอังกฤษค่อนข้างประจำ ในงานภาษาอังกฤษ เมื่อพูดถึงเจ้า แม้แต่ระดับกษัตริย์นั้น ก็ใช้เรียกชื่อตรงๆเท่านั้น เช่น Prajadhipok, Nakhon Sawan ฯลฯ และอื่นๆ อีก (ขอให้สังเกตว่า เวลาเจ้านายเขียนคุยกันเอง ก็เรียกกันเองเช่นนี้เหมือนกัน เช่น กรมนครไชยศรี Chira เฉยๆ เป็นต้น) อันนี้ คนไม่เคยชิน ก็อาจจะว่า "ดัดจริต" ได้ ผมก็ไม่ว่าอะไร แต่เพียงชี้แจงให้ทราบว่า แต่ละคนมีความคุ้นเคยของการเขียนงานไม่เหมือนกัน เรื่องนี้ คลุมไม่เฉพาะกับเจ้านาย แม้แต่กับสามัญชน เช่น คำว่า "พิบูล" อันที่จริง คำนี้ ในภาษาไทย ไม่เขียนกันทั่วไป เมื่อพาดพิงถึง "จอมพล ป" แต่ในบทความของผม ผมใช้คำนี้บ่อย เป็นความเคยชิน แบบที่ฝรั่งเองพาดพิงถึงท่านผู้นี้ว่า Phibul เป็นปกติ

ประการสุดท้าย คือ คุณ pipat คงทราบว่า การใช้ราชาศัพท์ ไม่ใช่เรื่องทางกฎหมาย อันที่จริง ไม่มีกฎหมายใดๆทั้งสิ้นที่ระบุว่า การใช้ราชาศัพท์เป็นข้อบังคับทางกฎหมาย (ไม่เช่นนั้น ในงาน concert ต่างๆ ที่แม้จะจัดต่อหน้าพระพักตร์ ยังมีการ "ขออนุญาตไม่ใช่ราชาศัพท์ชั่วคราว" พวก MC เหล่านั้น คงถูกจับเข้าคุก หรือถูกปรับไปตามๆกัน) ประเด็นของผมคือ การเขียนอย่างจงใจไม่ใช้ราชาศัพท์ถี่ยิบเช่นที่ใช้กันนี้ เป็นการ make a point อย่างหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่า หลายท่านในทีนี้ คงไม่ถูกหูนัก แต่ point ของการอ่านงานที่ไม่ถูกหูเรา อย่างหนึ่ง ก็คือการกระตุ้นให้ตั้งคำถามกับ belief ต่างๆ ที่เรา hold อยู่ (พูดในทางกลับกัน ก็เหมือนกับที่ผมอ่านงานที่ใช้ราชาศัพท์อย่างถี่ยิบ ที่เขียนกันในทีนี้แหละครับ ผมก็อ่าน อย่างเพื่อกระตุ้นสมองของผมเช่นกัน)

เรื่องพวกนี้ ความจริง คงอภิปรายกันได้ยาวกว่านี้มาก แต่ต้องขอแค่นี้ก่อนก็แล้วกันครับ

ขอบคุณอีกครั้งใน comment


ปล. ประเด็นที่ว่า คนไม่ใช่ราชาศัพท์ (หรือใช้ "ไม่เหมาะสม" ตามคำคุณ pipat) แสดงว่า "ไม่เข้าใจเรื่องย่อยที่สัมพันธ์กับเหตุการณ์" ไม่น่าจะจริงกระมัง มี "เรื่องย่อย" และ "เรื่องใหญ่" จำนวนมากที่เกี่ยวกับเจ้านาย ที่ผมค่อนข้างเชื่อว่า ผม"เข้าใจ" หรือ "รู้" ดีไม่น้อยกว่าใครๆ แน่ๆ (กรณีท่านอื่นที่ไม่ใช้ หรือใช้ไม่ละเอียดอีกหลายท่านก็เช่นกัน) ประเด็นคือ การใช้ราชาศัพท์ ไม่เกี่ยวกับการเข้าใจไม่เข้าใจ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ค. 06, 15:12
ขอแก้นิดนะคะ  ไม่ใช่ประเด็นใหญ่อะไรก็จริง แต่ก็ขออธิบายเผื่อจะได้เข้าใจกันถูกต้อง

สตรีที่ได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า  ชั้นจตุตถจุลจอมเกล้า  ตติยจุลจอมเกล้า หรือ ทุติยจุลจอมเกล้า
มีสิทธิ์ใช้คำนำหน้าว่า"คุณหญิง" (กรณีสมรสแล้ว) และ  "คุณ"(กรณียังไม่ได้สมรส)
ไม่ได้สายสะพายหรอกค่ะ  ได้เครื่องราชฯลักษณะเป็นเหรียญตราห้อยลงมาจากโบผูก

ดังนั้นที่อาจารย์บอกว่า "สายสะพายระดับคุณหญิง" ก็ต้องขอบอกว่าไม่ใช่
ผู้ที่ได้สายสะพาย ต้องระดับ" ท่านผู้หญิง" ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ ค่ะ  เหนือว่าทุติยจุลจอมเกล้าขึ้นไปอีก


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 01 พ.ค. 06, 15:22

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดที่ คุณไข่มุกด์ ชูโต ได้รับพระราชทานคือตรา "ตติยจุลจอมเกล้า" เป็นดวงห้อยกับแพรชมพูผูกรูปแมลงปอ ดังภาพครับ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: สมศักดิ์ ที่ 01 พ.ค. 06, 15:29
 ต้องขอบคุณ คุณเทาชมพู นะครับ

(1) อันแรกนี่ถามนะครับ เรื่อง "สายสะพาย" (เครื่องราช) นี่ผมไม่มีความรู้พอครับ แต่ผมสงสัยอยู่ว่า ตอนแรกคุณเท่าชมพูเองเขียนว่า "มีสิทธิ์ใช้คำนำหน้าว่า"คุณหญิง" (กรณีสมรสแล้ว) และ "คุณ"(กรณียังไม่ได้สมรส)" แต่ตอนหลัง บอกว่า "ต้องระดับ" ท่านผู้หญิง" " ? ไม่ทราบ ผมเข้าใจผิดหรือเปล่า แต่ถ้า ประโยคแรกที่เพิ่งอ้างมา เรื่อง ""มีสิทธิ์ใช้คำนำหน้าว่า"คุณหญิง" (กรณีสมรสแล้ว) และ "คุณ"(กรณียังไม่ได้สมรส)" " อันนี้ก็ตรงกับที่ผมเขียน ไม่ใช่หรือครับ? ยกเว้นแต่จะเป็นระดับ "ท่านผุ้หญิง"

(2) คำว่า "สายสะพาย" นี่ผมเขียนแบบเข้าใจว่าเป็นการเรียกแบบทั่วๆไปน่ะครับ (อย่างน้อยคงผมเอง) แต่ที่ว่า "เครื่องราช" นี่ได้จริงๆเป็นเหรียญผูกโบห้อยนี่ผมทราบอยู่ครับ หรือว่า "สายสะพาย" นี่มีความหมายเฉพาะ? ถ้าใช่อันนี้ผมต้องขออภัยล่วงหน้า แต่ที่ผ่านมาผมใช้คำนี้แบบ loose ในความหมาย "เครื่องราช" น่ะครับ


ความจริง ผมจะเข้ามาเติมนิดหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องคำนะครับ

โปรดสังเกตว่า คุณ pipat ใช้คำเรียก "ปรีดี" ว่า "ท่านปรีดี" ความจริง ผมเอง ไม่เคยใช้ อย่างจงใจเหมือนกัน อันนี้ผมไม่เหมือนคนอื่นในสถาบันที่ผมทำงานอยู่หรอกครับ เพราะใครๆเขาเรียก "ท่านปรีดี" ทั้งนั้น แต่ผมจงใจ ไม่เรียกเอง ซึ่งก็เหมือนกับประเด็นเรื่องราชาศัพท์นั่นแหละครับ สำหรับผม งานเขียน เป็นเรื่องเชิง ถกเถียง ทางความคิด ไม่ใช่เรื่องการ "ประณามพจน์" ดังนั้น จึงจงใจหลีกเลี่ยงไม่ใช้ทั้งนั้น ไม่ว่ากับใคร


ปล. ต้องไปจริงๆละครับ คราวนี้ ขอบคุณคุณเทาชมพู และท่านอื่นที่จะมาเขียนต่อ แล้วผมค่อยกลับมาอ่านหรือ respond คราวหน้านะครับ ขอบคุณครับ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: สมศักดิ์ ที่ 01 พ.ค. 06, 15:34
 ขออภัยคุณเทาชมพูครับ คงเพราะผมรีบเกินไป ผมกลับไปอ่านคุณเทาชมพูดอีกคร้งก่อนจะ log out จึงคิดว่า คงเป็นความเข้าใจผิดของตัวเอง

คือคุณเทาชมพูจะบอกว่า "สายสะพาย" หมายถึงระดับ "ท่านผู้หญิง"? ถ้าเช่นนั้น ผมเป็นฝ่าย ปน ระดับ เอง ขออภัย (คือ คุณหญิง ยังไม่ได้ "สายสะพาย" ได้แต่เครื่องราช?) คือ ความเป็น คุณหญิง กับ "สายสะพาย" ต้องแยกจากกัน?

ขอบคุณครับ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ค. 06, 15:41
เอ  ดิฉันก็ไม่แน่ใจนักนะคะคุณสมศักดิ์ ว่าการที่ใครคนหนึ่งระบุพระนามของเจ้านายอย่างครบถ้วนตามที่ทรงมีเป็นทางการ จะเรียกว่าใช้ราชาศัพท์
อาจจะเป็นคนละเรื่องกันก็ได้

การระบุชื่อบุคคลในงานวิชาการนั้น  ตามแบบแผนที่เราไปเอามาจากฝรั่ง  เขาก็ให้เรียกชื่อกันอย่างที่มีเป็นทางการ  
ถ้าคุณเขียนงานวิชาการเกี่ยวกับประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น  คุณจะเขียนเต็มๆยังงี้ ก็ได้ หรือจะเขียน President Lincoln ก็ได้ ถ้าไม่อยากจะเรียกทั้งชื่อทั้งสกุลทั้งตำแหน่ง ซ้ำๆกันทุกครั้งในแต่ละหน้า

แต่คุณจะเรียกท่านว่า  Abe  ยังงี้ไม่ได้แน่  

ฉันใดก็ฉันนั้น  เรียกจอมพลป. ว่า พิบูล ในงานวิชาการ ดิฉันก็ว่าไม่ถูก   แต่ถ้าจะอ้างว่าทีฝรั่งยังเขียนว่า Piboon( หรือ Phibul แล้วแต่จะสะกดยังไง)  ก็มองเห็นสิ่งที่ควรอะลุ้มอล่วยอย่างหนึ่งว่า
ชื่อไทยเรานั้นอ่านยาก เขียนยาก สะกดยากและยังยาวเหยียดเต็มกลืนจริงๆสำหรับฝรั่ง    เขาย่อลงมาเพื่อสะดวกลิ้นและความจำทั้งคนเขียนและคนอ่าน ก็น่าเห็นใจ
แต่คนไทยด้วยกันไม่ได้ติดขัดเรื่องความยากยังงั้น   และยังเขียนเป็นภาษาไทยอีกด้วย     ก็ไม่น่ายกฝรั่งมาอ้าง   ถ้าเขียนเป็นภาษาฝรั่งให้ฝรั่งอ่าน ยังมีข้อแก้ตัวได้

แต่ละท่านที่กว่าจะได้มีโอกาสเขียนผลงานวิชาการ  ก็ล้วนแต่สติปัญญาดี เรียนจบเกินปริญญาตรีกันแล้วทั้งนั้น  จะมายากกับการจำหรือเรียกชื่อราชทินนามและพระนามต่างๆ ก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ถ้าเป็นความสมัครใจจะเรียก "นครสวรรค์" "ประชาธิปก" " ดำรง" เพื่อแสดงเอกลักษณ์เฉพาะตน ก็บอกได้ตรงๆค่ะ
ว่าผมอยากจะเรียกของผมยังงี้

มันไม่ผิดกฎหมายข้อไหน  ก็ยอมรับ   แต่ถ้าดิฉันจะนึกตำหนิว่าเป็นการผิดกาลเทศะ   เป็นความไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง   ไม่รู้จักให้เกียรติผู้ที่เราไม่มีเหตุผลจะไปหลู่เกียรติแม้แต่ในเรื่องเล็กๆน้อยๆ  ดิฉันก็ไม่ผิดกฎหมายเหมือนกันใช่ไหม


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ค. 06, 15:46
 นึกว่าตัวเองอธิบายอะไรง่ายแล้วนา    เพิ่งรู้ว่ายากสำหรับคุณสมศักดิ์
งั้นเขียนแบบนี้
ท่านผู้หญิง  มี สายสะพาย กับเครื่องราชอิสริยาภรณ์
คุณหญิง     มี  เครื่องราชอิสริยาภรณ์ อย่างเดียว  

สายสะพายชั้นคุณหญิง  ไม่มี
สายสะพายชั้นท่านผู้หญิง   มี


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ค. 06, 15:50
พิมพ์ค.ห.13 มาแล้ว   ลองสวมวิญญาณ"ด๊อกเตอร์ดู"
คำนี้น่าจะสะกิดต่อมคอมเม้นท์ของคุณสมศักดิ์ แน่ๆ
"เป็นความไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง "

คุณเทาชมพูเอาอะไรมาวัดว่ามนุษย์คนไหนต่ำหรือสูง?? สำหรับผม....ฯลฯ

แต่ไม่ลบละค่ะ เอาไว้ยังงี้  ดูซิว่าจะทำนายถูกไหม


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 01 พ.ค. 06, 15:50
 ขอตอบคำถามของคุณสมศักดิ์ แทนคุณเทาชมพูไปพลางก่อนนะครับ

การพิจารณาเรื่อง "คุณหญิง-ท่านผู้หญิง" คำนึงถึง "ตระกูล" ของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานเป็นหลัก เท่านั้นเองครับ

หากได้ตระกูลอื่นใดไม่ว่าจะเป็น ช้างเผือก (สีแดง) มงกุฎไทย (สีน้ำเงิน) ดิเรกคุณาภรณ์ (สีเขียว) ฯลฯ ไม่ว่าชั้นได้ลำดับใด ก็ไม่ได้เป็น "คุณหญิง-ท่านผู้หญิง"

แต่ถ้าสตรีได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูล...

"จุลจอมเกล้า" (สีชมพู)

ก็หมายความว่าจะได้รับคำนำหน้านามใหม่ว่า "คุณหญิง" หรือ "ท่านผู้หญิง"

๑. คุณหญิง

จตุตถจุลจอมเกล้า
ตติยจุลจอมเกล้า
ตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ
ทุติยจุลจอมเกล้า

๔ ชั้นข้างต้นนี้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ลักษณะเป็นแพรผูกรูป "แมลงปอ" "สีชมพู"  (รูปแบบของดวงห้อยต่างๆ กันไป)

มีคำนำหน้านามว่า "คุณหญิง" (กรณีสมรสแล้ว)
มีคำนำหน้านามว่า "คุณ" (กรณียังไม่ได้สมรส)

๒. ท่านผู้หญิง

ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ
ปฐมจุลจอมเกล้า

๒ ชั้นข้างต้นนี้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ลักษณะเป็น "สายสะพาย" "สีชมพู" (มีดาราประดับเพิ่มในกรณีปฐมจุลจอมเกล้า)

มีคำนำหน้านามว่า "ท่านผู้หญิง" (กรณีสมรสแล้ว)
มีคำนำหน้านามว่า "คุณ" (กรณียังไม่ได้สมรส)

ทั้งนี้ หากเป็นหม่อมราชวงศ์ หม่อมหลวง และหม่อมในเจ้านาย ยังมีหลักเกณฑ์ปลีกย่อยอีก ของดไว้ไม่กล่าว ณ ที่นี้ เพราะเท่านี้ก็ยืดยาวมากแล้ว


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 01 พ.ค. 06, 15:51
 อ้าว..พอกดส่งไป ปรากฏว่าเห็นความเห็นของคุณเทาชมพูขึ้นมาแล้ว ขอประทานโทษครับ อธิบายซ้ำซ้อน


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ค. 06, 16:04
 ไม่เป็นไรค่ะ คุณ UP ช่วยกันอธิบาย ได้เข้าใจกันง่ายขึ้น


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 01 พ.ค. 06, 16:07
 ขอยกภาษาฝรั่งมาเปรียบ เพื่อความเข้าใจเรื่องคำว่า "ตระกูล" ซึ่งอาจจะง่ายขึ้นสำหรับคุณสมศักดิ์ครับ

คำว่าตระกูลนั้นก็คือ "Order"

กรณีตระกูลจุลจอมเกล้านั้น คงเหมือนเครื่องราชฯ ของฝรั่ง เฉพาะบาง Order เท่านั้นถึงจะได้มี Knighthood บาง Order ถึงได้ชั้นสูงส่งสุดขีดแค่ไหนก็ไม่ได้ถึงสถานภาพ Knight

ปัจจุบัน ในประเทศไทย สตรีที่ได้รับพระราชทานตราใน Order ที่ชื่อ The Most Illustrious Order of Chula Chom Klao เท่านั้นถึงจะเป็นสตรีบรรดาศักดิ์


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 01 พ.ค. 06, 16:47
 ดีใจที่อาจารย์สมศักดิ์(เอ หรือเรียกนาย...ดีหว่า   แซวนิดนะครับ) ประสบความสำเร็จในการขอรับดอกไม้และก้อนอิฐจากงานเขียนชิ้นนี้

ผมต้องขอโทษอาจารย์เทาฯ ในเรื่องพาดพิงพี่ไข่มุกดิ์ที่นับถือว่า เพศสภาพของท่านหาใช่เหตุให้บทความเลวลงได้ดอก แต่การเรียกเธอเป็นเขาต่างหาก ทำให้ความรู้สึกของผมเลวลง ผมงงอย่างที่สุดที่มีนักวิชาการไทย (ขอเน้นนะครับว่าไทย) เรียกพี่สาวจอมห้าวท่านนี้ว่า "เขา"
อันนี้กระผมรับมุขไม่ทันน่ะขอรับ

ส่วนการเรียกเจ้านายด้วยชื่อสั้นๆนั้น พระองค์จุลฯ ทรงอธิบายเหตุผลแล้ว ใครที่อ่านหนังสือไทยออกก็น่าจะรู้ความเหมาะสมได้ด้วยตนเอง อันนี้ต้องโทษเรื่องการอบรมบ่มนิสัย และศักยภาพทางภาษา ผมไม่เห็นจิตร ภูมิศักดิ์ หรือส. ธรรมยศ เวลาที่วิจารณ์สถาบันอย่างร้ายแรง ต้องใช้โครงสร้างไทยปนฝรั่งเรียกขานชื่อให้ลักหลั่นประดักประเดิดแบบนี้ ถ้ารับไม่ได้กับความยอกย้อนมีชั้นมีเชิงของภาษาไทย ก็เขียนเป็นภาษาปะกิตให้สิ้นเรื่อง ใช้ He She It ได้สมอยาก โดยไม่ต้องมาพะวงกับเรื่องกระจอกงอกง่อยอย่างการใช้ภาษา"ต่ำ-สูง"ประเภทนี้เลย

ผมรู้แน่แท้ว่าอาจารย์สมศักดิ์ เข้าใจ "เรื่องย่อย" และ "เรื่องใหญ่" จำนวนมากที่เกี่ยวกับเจ้านาย อย่าง "เข้าใจ" หรือ "รู้" ดีไม่น้อยกว่าใครๆ แน่ๆ แต่ให้บังเอิญว่าภาษาของท่านนั้น มันแสดงไปในทางตรงกันข้ามเท่านั้น

กรณีปรีดีนั้น จะเรียกท่าน เรียกคุณก้อได้ จะเรียกดอกเตอร์ก้อได้ จะเรียกอะไรก้อได้ มันสะท้อนผู้เรียกทั้งนั้นแหละครับ
พ่อผมสอนให้เคารพผู้ควรเคารพ ขนาดท่านที่แสดงความเห็นในเวบนี้ ซึ่งผมรู้จักผ่านเพียงตัวหนังสือไม่กี่ตัว ผมยังเคารพนับถือ สัมมะหาอะไรกับคนที่นำประชาธิปไตยมาให้ประเทศนี้ และมีส่วนอย่างยิ่งใหญ่มิให้เราเป็นประเทศเชลยศึก เราจะแสดงความเคารพบ้างมากหรือน้อยตามควรแก่โอกาส ก็ควรทำมิใช่หรือ

และสุดท้ายนะครับ การใช้ราชาศัพท์เกี่ยวกับกฏหมายและถึงติดคุกแน่ครับ อย่าล้อเล่นนา


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ค. 06, 17:17
ดิฉันก็รับมุขคุณพิพัฒน์เรื่องคุณไข่มุกด์ไม่ทันเหมือนกันค่ะ  มุขหล่นตุ้บลงมากลางหัว  เลยจี๊ดขึ้นมานิดหน่อย
แม้ว่าดิฉันเรียนคนละสำนักกับคุณไข่มุกด์  แต่ก็เคยมีโอกาสวิสาสะกันบ้าง  ตอนนั้นเธอเป็นผู้ใหญ่พร้อมด้วยชื่อเสียงและเกียรติยศ  ส่วนเราเป็นพวกโนเนมสุดปลายแถว
เท่าที่รู้จักฝีมือช่าง ตลอดจนความคิดอ่านและศรัทธา  คุณไข่มุกด์ก็มีคุณสมบัติน่านับถือ  ยังระลึกถึงเธออยู่  ส่วนเรื่องห้าวของเธอนั้นเลื่องลือกันมาก ไม่เคยประจักษ์แก่ตา  

กระทู้นี้เห็นทีจะยาว


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 01 พ.ค. 06, 18:11
 สาวคณะจิตรกรรมฯ นั้นหายากและห้าวทุกคน
เริ่มตั้งแต่อาจารย์ลาวัณย์ลงมา ไม่มีคนปกติเลยครับ แต่ทุกคนก็กลายเป็นคนธรรมดา เมื่อไปเทียบกับพี่อังคาร อันนั้นขนาดอาจารย์ฝรั่งยังยอมแพ้ (ไม่ได้ไล่แกออกนะครับ) ขอเลิกสอน

ผมขอโทษอีกที ที่ใช้มุขส่วนตัวผิดกาละเทศะไปหน่อย


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ค. 06, 18:33
 ดิฉันว่าความวิเศษและพิเศษของชาวหน้าพระลาน  กินแถวไปครบทุกคณะละค่ะ ไม่เฉพาะแต่สาวห้าวชาวจิตรกรรม
เป็นที่น่าอัศจรรย์ในเอกลักษณ์    
บางครั้งแค่วิสาสะผ่านจอมอนิเตอร์   อ่านความคิดที่สื่อออกมาทางภาษาไม่กี่กระทู้   ก็รู้แล้วว่าต้องเคยนั่งแถวร้านมิ่งหลีมาก่อนแน่ๆอย่างน้อย 4 ปี
แต่ถ้าเข้ารั้วสีชมพูไปถึงพวก"สินกำ"  พวกนั้นก็จะเป็นอีกแบบ ไม่เหมือนกันอยู่ดี

ไม่ต้องขอโทษซ้ำซากค่ะ   ใช้มุขผิดบ่อยๆก็ดี  มันจะกลายเป็นปกติไปเอง


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ค. 06, 18:38
 ลืมไป  พจนานุกรมราชบัณฑิตฯให้ใช้ มุก ไม่ใช่ มุข    
ใช้ มุข มาจนชิน  รู้สึกสนิทใจกว่า มุก
ถือว่าวันนี้ใช้พจนานุกรมของมติชนสัก 1 วันก็แล้วกัน  เจ้าของ เขาก็ชาวหน้าพระลานเหมือนกันนี่


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 01 พ.ค. 06, 20:41
 อาจารย์พูดถึงพจนานุกรมฉบับนี้ ผมเลยนึกถึงมุขตลกที่เกี่ยวข้องได้ ลองค้นคำว่า "เข" สิครับ
พอได้ผลแล้ว ลองค้นคำว่า "เหล่" ดู

สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศฯ ทรงเตือนว่า ความบกพร่องจะเป็นอนุสาวรีย์แห่งความอาย ตั้งประจานอยู่อย่างนั้น
ผมนึกว่าอนุสาวรีย์ เข-เหล่ นี้จะรื้อไปแล้ว
ที่ใหนได้ มากลายร่างเป็น cyber wase ข้ามเทคโนโลยีเฉยเลย


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 01 พ.ค. 06, 20:56
 คุณ pipat ช่างหาเรื่องให้ผมได้ขำขันดีจริงๆ ครับ ลองเปิดดู "เข" กับ "เหล่" แล้ว ความหมายน่ารักมาก ตกลงเลยไม่ทราบว่า "ดีกรี" ความเขหรือเหล่นั้นมากน้อยต่างกันแค่ไหน

...คุณ pipat ลองค้นคำว่า "เจ้าฟ้าหญิงสิรินธร" ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานดูสิครับ

เอ..ไหงกระทู้นี้ถึงเป็นเรื่องพจนานุกรมไปได้เนี่ย


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ค. 06, 21:12
 เอามาลงให้ช่วยกันขำ
:  เข
นิยาม :  เหล่น้อย (ใช้แก่ตา).
ปรับปรุง :  98/4/2
****************
:  เหล่
นิยาม :  เขมาก (ใช้แก่ตา).
ปรับปรุง :  98/4/2

เข แปลว่า เหล่น้อย   เหล่ แปลว่า เขมาก
กรรมการคงไม่รู้จะอธิบายคำว่า เข และเหล่ ยังไง

คำที่คุณ UP ให้ไปดู   เคยได้ยินคุณหมอท่านหนึ่งประท้วงให้แก้ไขความหมาย มาหลายปีแล้ว  เพิ่งรู้ว่ายังไม่ได้แก้ไข  อย่างน้อยก็ในฉบับออนไลน์

ค้น :  เจ้าฟ้าหญิงสิรินธร
คำ :  เจ้าฟ้าหญิงสิรินธร
เสียง :  เจ้า-ฟ้า-หฺยิง-สิ-ริน-ทอน
คำตั้ง :  เจ้าฟ้าหญิงสิรินธร
ชนิด :  
ที่ใช้ :  
ที่มา :  
นิยาม :  
ภาพ :  
อ้างอิง :  ดู ตาพอง ๒
ปรับปรุง :  98/4/2

คำว่า ตาพอง ๒ ที่บอกว่าอ้างอิง  ตามไปดู ได้คำอธิบายออกมาว่า
ค้น :  ตาพอง
คำ :  ตาพอง ๒
เสียง :  ตา-พอง
คำตั้ง :  ตาพอง ๒
ชนิด :  น.
ที่ใช้ :  
ที่มา :  
นิยาม :  ชื่อนกนางแอ่นชนิด Pseudochelidon sirintarae ในวงศ์ Hirundinidae ลำตัวสีดำ มีแต้มขาวตรงโคนหาง ตาและขอบตาขาว ปากเหลือง เฉพาะตัวผู้มีหางยาวคล้ายเส้นลวด ๒ เส้น พบบริเวณบึงบอระเพ็ด, นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร ก็เรียก.

พจนานุกรมให้ความหมายของ "เจ้าฟ้าหญิงสิรินธร" ว่า เป็นชื่อนกนางแอ่นชนิดหนึ่ง  มีความหมายเดียว   !


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 01 พ.ค. 06, 21:45
 เรียนอาจารย์เทาฯ ครับ

ผมเข้าใจว่าพจนานุกรมของราชบัณฑิตฯ อธิบายไว้ถูกแล้วนะครับ เพราะ "เจ้าฟ้าหญิงสิรินธร" เป็นชื่อเฉพาะของนกชนิดนี้นะครับ
แต่ถ้าจะหมายถึงสมเด็จพระเทพฯ ก็จะกลายเป็นการเอาพระอิสริยยศ "เจ้าฟ้าหญิง" มารวมกับพระนาม "สิรินธร" ไป



บางครั้งการเอาชื่อคนมาตั้งเป็นชื่อสัตว์ก็ หรือสถานที่ก็ทำให้รู้สึกแปลกๆได้เวลาพูดถึง
ยิ่งถ้ามีเรื่องในแง่ไม่ดีขึ้นมา ยิ่งฟังแล้วหดหู่หนักกว่าเป็นชื่ออื่นด้วยซ้ำไป
เช่น คนไข้ที่เข้ารักษาที่โรงพยาบาลภูมิพล แล้วหมอรักษาไม่ถูก ผมล่ะไม่อยากนึกว่าเขาจะพูดว่าอะไรบ้าง



ปล. ถ้าผมจำไม่ผิด มีปลาบู่หายากชนิดหนึ่งของไทย ได้ขอพระราชทานพระนามสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ไปตั้งชื่อปลาชนิดนี้ว่า "ปลาบู่รำไพ" สำหรับผมฟังแล้วก็แปลกๆอีกล่ะครับ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 01 พ.ค. 06, 21:47
 พอดีหาภาพได้ เลยเอามาให้ชมกันครับ

ปลาบู่รำไพพรรณี
ชื่อวิทยาศาสตร์ Vaimosa rambaiae ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 01 พ.ค. 06, 21:49

ภาพหลุดอีกแล้วครับ ขอโทษด้วยครับ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 01 พ.ค. 06, 21:52

ของแถมเล็กน้อยครับ

ตัวนี้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mahodolia mystacina ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ครับ



ถ้าว่ากันตามการอ่านชื่อวิทยาศาสตร์ ปลาตัวนี้ก็ชื่อ mystacina อยู่ในสกุล "มหิดล" ล่ะครับ อิอิ





ปล. ภาพจากสารานุกรมสำหรับเยาวชนไทยเล่ม 2 ครับ
 http://kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK2/chapter1/t2-1-l4.htm  


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ค. 06, 21:54
 ดิฉันคิดว่ากรรมการบัญญัติศัพท์ก็คงอธิบายทำนองเดียวกับคุณติบอ ว่าถูกต้องแล้ว    แต่ประโยคหลังของคุณ ดิฉันไม่แน่ใจว่าคุณหมายถึงอะไร

พระนามนี้   นานหลายปีมาแล้ว พสกนิกรชาวไทยหมายถึงพระองค์ท่าน ก่อนจะทรงเป็นสมเด็จพระเทพฯ อย่างในปัจจุบันนี้

กรรมการฯก็คงอธิบายว่า  ชื่อคนไม่มีนิยามในพจนานุกรม  สมมุติว่ามีชื่อ Queen Elizabeth ก็คงจะมีนิยามในพจนานุกรมว่าเป็นชื่อเรือลำหนึ่ง เท่านั้น

เพียงแต่อ่านแล้วมันตะขิดตะขวงใจเท่านั้นเองละค่ะ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 01 พ.ค. 06, 23:10
 หมายความว่าเท่าที่ผมเข้าใจคือ

ชื่อของนก "เจ้าฟ้าหญิงสิรินธร" เป็นวิสามานยนาม เหมือน ปลาตะเพียน นกพิราบ นกกางเขน

แต่พระนาม เจ้าฟ้าหญิงสิรินธรของสมเด็จพระเทพ เป็นการรวมพระอิสริยยศเจ้าฟ้าหญิง กับพระนามสิรินธรเข้าด้วยกันครับ




ปล. ขอคำชี้แนะจากสมาชิกวิชาการด้วยครับ
ผมมีปัญหาเรื่องการสื่อความหมายผ่านการเขียนอยู่เสมอๆครับ ไม่ทราบว่าจะแก้ปัญหาตัวเองยังไง
อ่านทวนหลายๆรอบก็แล้ว แต่ก็ยังเลิกเขียนหนังสือให้ดูสับสนไม่ได้ซะที กลุ้มใจครับ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 01 พ.ค. 06, 23:26
 ระหว่างรอจำเลยคืออาจารย์สมศักดิ์ มาแก้ต่าง เรามาเล่นพจนานุกรมกันไปพลางก็ไม่น่าจะเสียหาย
ผมเห็นท่านกรรมการ"ชำระ" เอกสารนี้มาตั้งแต่ก่อนผมเกิด จะหกสิบปีแล้วยังชำระไม่เสร็จ

ผมเรียนตามตรงว่า ผมรู้สึกอายเวลาใช้พจนานุกรม เพราะไม่เคยใช้ถูกเลย (ถูกใจน่ะครับ) อยากขีดทิ้งร่วมครึ่งเล่ม

เคยสอนสุนทรีย์ศาสตร์ เราก้อชาตินิยม เรื่มก่อร่างสร้างตัวด้วยศัพท์ไทยเลย หงายหลัง ตกเก้าอี้หัวทิ่มอาจมของราชบัณฑิต
ท่านเก็บคำไว้ว่า งาม ดังนี้
งาม น. งามแงะ........

ในทางสติปัญญาแล้ว เราคงไม่ต้องจาระนัยนะครับว่า พจนานุกรม นี่สำคัญกับเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเราแค่ใหน

ลองไปอ่านเบื้องหลังในจดหมายของเจ้าคุณอนุมานฯ ดูเถิด ผมว่ามันสยดสยองยังไงชอบกล

อย่างเช่น กาญจนาคพันธุ์ นึกอย่างไรก้อม่ายรู้ เอ่ยปากออกมาว่า คำว่า เข้า(กับเข้ากับปลา) กับคำว่าเข้า(ตามตรอกออกตามประตู) น่าจะทำให้ต่างกัน
แคนี้แหละครับ คำพังเพย "แก่เพราะกินเข้า เฒ่าเพราะอยู่นาน"
และ"เด็กเจ็ดเข้า เฒ่าเจ็ดสิบ"(อย่าไปเชื่อ)
ก้อบ๊ายบาย ถึงแก่กาลกิริยา อสัญกรรมตายโหงเลยครับท่าน

สมมติว่าจะใช้ให้ถูกหลักของท่านเจ้าคุณ มิต้องใช้ว่าแก่เพราะกินข้าวววว ฒ่าววววเพราะอยู่นาน กระมัง

เรื่องนี้ถ้าจะถกกัน เห็นจะยาวกว่าเรื่องของอาจารย์สมศักดิ์หลายชั่วอายุ และต้องคุยกันในห้องเย็น
มันเดือดครับ
.


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 01 พ.ค. 06, 23:50
 เปน คำนี้เสียงไพเราะมาก ท่านจับมาขึงพืด กลายเปน เป็น

วิธีประวิสรรชะนี(แกล้งเขียนมันอย่างงี้แหละ อยากกวน) ของท่าน สรุปง่ายๆก็คืออยากปะ ก็ปะ ไม่อยากปะ ก็ไม่ปะ

ท่านเคย"รับประทาน"คนช่างติ ว่า พจนานุกรมที่สมบูรณ์เล่มคงหนาจนพิมพ์ไม่ไหว

ผมเห็นพจนานุกรมออกสเฝิร์ด ฉบับสมบูรณ์ เกินหนาไปไม่รู้เท่าใหร่ ต้องเก็บใส่หนึ่งตู้ใหญ่ๆ กี่เล่มจำไม่ได้แล้ว ดูเหมือนเกินยี่สิบ แล้วเขาก็มีเล่มใหญ่ยักษ์ ใหญ่มาก ใหญ่โต ใหญ่ กลาง เล็ก จิ๋ว จนถึงเพื่อเด็ก ไม่เห็นเขามานั่งแก้ตัวเลย

ท่านผู้ใดเคยใช้พจนานุกรมสัมผัสสระบ้าง
เคยใช้พจนานุกรมสังสกฤตของ ...ตายจริงผมลืมชื่อท่านไปแล้ว นิยม รักไทย ท่านขุน.... หรือไงนี่แหละครับ ขออภัยจริงๆ
หรือดิคของ ส. เศรษฐบุตร (แบบห้าเล่มปกแข็งนะครับ)

ท่านเหล่านี้ไม่ได้กินภาษีของใครเลี้ยงชีพเลย ทำเพราะเป็นประทีปแห่งดวงจิตโดยแท้

เฮ้อ พูดถึงท่านเหล่านี้แล้วค่อยสงบสติอารมณ์ได้บ้าง
.


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 02 พ.ค. 06, 07:46
 เรื่องคำว่า "เจ้าฟ้าหญิงสิรินธร" นั้นถ้าพูดตามหลักการทำพจนานุกรมผมว่าไม่ผิดหรอกครับ เพียงแต่เป็นประเด็นยกมาให้กล่าวถึงได้เท่านั้นเอง

เคยมีปาฐกถาเกี่ยวกับภาษาไทย ที่บรรยายหน้าที่นั่ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปาฐกท่านหนึ่งได้ยกคำว่า "เจ้าฟ้าหญิงสิรินธร" คำนี้มาบรรยาย เป็นที่ขำขันกันมาก เจ้านายเองก็ทรงพระสรวล

ปาฐกท่านนั้นกล่าวติดตลกเป็นการปิดท้ายการบรรยายในส่วนของท่านว่า พระราชอาญามิพ้นเกล้าฯ ขอพระราชทานกราบบังคมทูลฟ้องว่าพจนานุกรมได้หมิ่นพระเดชานุภาพในใต้ฝ่าละอองพระบาท

จากนั้น ท่านก็อ่านคำนิยามติดกันเป็นพรืดว่า

"เจ้าฟ้าหญิงสิรินธร" หมายถึง นกนางแอ่นชนิดPseudochelidon sirintarae ในวงศ์ Hirundinidae ลำตัวสีดำ มีแต้มขาวตรงโคนหาง ตาและขอบตาขาว ปากเหลือง เฉพาะตัวผู้มีหางยาวคล้ายเส้นลวด ๒ เส้น พบบริเวณบึงบอระเพ็ด, ตาพอง ก็เรียก.

เรียกเสียงหัวเราะและปรบมือได้อยู่นานทีเดียว

....ยังมีสัตว์น้ำอีกชนิดหนึ่งที่ผมเห็นแล้วก็ตะขิดตะขวงใจ คือ "ปูราชินี" (พบได้แถวทองผาภูมิ กาญจนบุรี ตัวเป็นสีแดงขาวน้ำเงิน แบบแถบริ้วธงชาติเลยครับ) วันที่ผมไปทัศนาจรนั้น มีป้ายอยู่ป้ายหนึ่งติดอยู่ที่พื้น เขียนว่า "ระวังเหยียบปูราชินี"

อันตรายเหลือเกิน หากมีใบไม้สักใบตกลงมาปิดคำบางคำ ความหมายจะเปลี่ยนไปมากเพียงไร


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 02 พ.ค. 06, 10:53
 ยกมาให้ชมกันนิดหน่อยครับ

ที่จริงลักษณะของเมืองร้อนแบบประเทศไทยถือเป็นแหล่งมีสิ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง
ผู้ค้นพบก็ค้นพบใหม่อยู่เรื่อยๆ แล้วก็ตั้งชื่อกันไปเรื่อยๆ ตามแต่ใครจะตั้ง
แต่หลายปีมานี้ผมเห็นของใหม่ๆ พบใหม่ทีไร ขอพระราชทานฯ ซะทุกที
ตอนนี้เมืองไทยก็เลยมีปูอีกหลายชนิด ที่ขอพระราชทานพระนามในพระบรมวงศานุวงศ์มาตั้งชื่อนะครับ


เริ่มจากตัวนี้ก่อนเลยครับ

"ปูเจ้าพ่อหลวง"
ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ ( Potamon bhumibol )
ชื่อสามัญ คือ Mountain giant crab (เพราะเป็ปูภูเขาที่มีขนาดโตที่สุดในประเทศไทย)

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตในการนำพระปรมาภืไธย มาใช้เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนม์พรรษาครบ 6 รอบ ครับ



ภาพปูเจ้าพ่อหลวงนะครับ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 02 พ.ค. 06, 11:05

คราวนี้มาถึงปูราชินีของคุณUP นะครับ


ปูราชินี
ชื่อวิทยาศาสตร์ ( DEMANIETTA SIRIKIT )
ชื่อสามัญยังไม่มีครับ เข้าใจว่าเพราะค้นพบใหม่ได้ไม่นาน และชาวบ้านไม่ค่อยได้เข้าไปยุ่งกับแถบเขตอาศัยของปูพวกนี้มากนัก
เจ้าตัวนี้ค้นพบที่จังหวัดกาญจนบุรี จากริมลำธาร ในหมู่บ้านน้ำโจน อำเภอไทรโยค ครับ
นายสุรพล ดวงแข นักศึกษาปริญญาโท ม.มหิดล จั้งชื่อเฉลิมพระเกียรติแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา ครับ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 02 พ.ค. 06, 11:06

ว่ากันว่าปูราชินีจัดเป็นปูที่สวยที่สุดในโลกก็ว่าได้นะครับ
เพราะมีถึง 3 สี คือ ม่วง แดง และขาว
แต่บางฤดูขาปูก็จะเปลี่ยนเป็นสีขาวก็มีครับ (ผมไม่แน่ใจว่าช่วงลอกคราบใหม่หรือเปล่านะครับ)


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 02 พ.ค. 06, 11:18
 เรื่องความสูงต่ำในการออกนามผู้ใหญ่อย่างตรงๆ ในวัฒนธรรมไทยนั้น ทำให้นึกไปถึง "วัดมกุฏกษัตริยาราม" ที่คนโบราณเรียกว่า "วัดพระนามบัญญัติ" จนสิ้นรัชกาลที่ ๔ จึงกล้าเรียกวัดมกุฏฯ

ธรรมเนียมนี้ผมยังพอได้ยินอยู่บ้างในปัจจุบันนะครับ เชื่อหรือไม่? ผมเคยได้ยินผู้ใหญ่ในพระราชสำนักบางท่าน เรียกศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ว่า "ศูนย์พระนาม" ครับ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 02 พ.ค. 06, 11:25

.



ตัวถัดมาครับ "ปูเจ้าฟ้า"
เจ้าตัวนี้เป็นตัวที่ผมชอบที่สุดครับ
ชื่อวิทยาศาสตร์ของเขาคือ Phricotelphusa sirindhorn
ส่วนชื่อสามัญ เนื่องจากมีสีดำขาว แถมตาเป็นวงสีดำอีกตะหาก เลยเรียกว่า Panda Crab

ปูตัวนี้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกราบบังคมทูลขอ พระราชทานพระราชานุญาตอัญเชิญพระนามาภิไธย จากสมเด็จพระเทพฯ มาเป็นชื่อวิทยาศาสตร์ของปู เนื่องในวโรกาสที่เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพิพิธภัณฑ์สถานธรรมชาติวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ปูชนิดนี้ค้นพบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2529 ที่วนอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว อำเภอเมือง จังหวัดระนอง ครับ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 02 พ.ค. 06, 11:29

.



คราวนี้มาเป็นคู่ครับ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 02 พ.ค. 06, 11:47

ตัวถัดมาครับ ปูทูลกระหม่อม



ตัวนี้ชื่อวิทยาศาสตร์ Thaipotamon chulabhorn
ชื่อสามัญภาษาไทยคือ "ปูแป้ง" ภาษาอังกฤษคือ Mealy Crab
ชื่อที่ตั้งได้ขอพระราชทานพระอนุญาตเชิญพระนามเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์มาตั้ง ในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษาครบ 3 รอบ

สถาที่พบคือ ป่าดูนลำพัน อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคามครับ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 02 พ.ค. 06, 11:48

.


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 02 พ.ค. 06, 11:50

ภาพนี้ดุจัง


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 02 พ.ค. 06, 11:50

แบบเป็นคู่ ไม่แน่ใจว่าเกี้ยวกันอยู่หรือสู้กันแย่งสาวนะครับ แหะๆ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: Andreas ที่ 02 พ.ค. 06, 11:57
 ผมเคยถูกสอนมาว่า เวลาวิจารณ์งานของใครนั้นต้องพยายามตัดต้นทุนทางสังคมของเจ้าของผลงานนั้นออก ซึ่งก็หมายความว่าควรพิจารณางานนั้นอย่างเดียว อย่างเอาตัวบุคคลนั้นเข้ามาวิเคราะห์ด้วย...แต่วันนี้ผมปฏิบัติแตกต่างไป เนื่องจากมิต้องการจะให้เป็นแบบเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน เลยต้องทำการค้นซักหน่อยว่า อาจารย์สมศักดิ์คือใคร...สุดท้ายก็ได้คำตอบที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯนี่เอง

ผมอ่านงานเขียนของอาจารย์รวมถึงข้อโต้แย้งที่อาจารย์อธิบายมาเรื่องลักษณะของงานเขียนดังนี้ครับ  

อาจารย์บอกว่า

"อย่างแรกสุด เลยนะครับ ในบทความที่ยาวเป็น สิบๆหน้า ในเชิง stylistic หากเขียน ราชาศัพท์อย่างละเอียดถี่ยิบ ผมว่า คงไม่ใช่บทความวิชาการแล้ว จะกลายเป็นพงศาวดารไป บทความนี้เป็นบทความเชิงวิชาการ ที่ต้องการเสนอประเด็น (ข้อมูลและ arguments ต่างๆ) ไม่ใช่ บทอาเศรียรวาทสดุดี (หรือพงศาวดาร) ซึ่งเขียนขึ้น โดยมีจุดประสงค์สำคัญ เพื่อการ "ประณามพจน์" ดังนั้น การเขียนราชาศัพท์อย่างถี่ยิบ จึงไม่จำเป็นในความเห็นของผม"

ตรงนี้ผมมีข้อคิดเห็นตรงกันข้ามอย่างมาก...ต้องออกตัวไว้ก่อนนะครับว่า ผมทำงานอยู่แวดวงทางสายวิทยาศาสตร์ มิใช่ทางสายประวัติศาสตร์ แต่เมื่อเอ่ยถึงคำว่า "เอกสารทางวิชาการ" แล้ว น่าจะต้องยึดหลักความถูกต้องเป็นหลัก รวมถึงความเหมาะสมของถ้อยคำที่ใช้ เพราะเอกสารทางวิชาการย่อมมีการถูกอ้างอิง ดังนั้นต้นฉบับต้องน่าเชื่อถือและเหมาะสม ซึ่งเวลาอาจารย์ปฏิเสธที่จะใช้พระอิสริยยศ และพระนามเต็มของเจ้านายที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก เพราะพระนามของเจ้านายนั้นน่าจะติดพระองค์ไปตลอด การเรียกพระนามเต็มของเจ้านายชั้นสูงนั้น คือการแสดงความเคารพสูงสุดที่คนธรรมดาอย่างเราๆพึงกระทำ อีกอย่างการเรียกพระนามเต็มหรือราชทินนาม น่าจะแตกต่างจากคำราชาศัพท์ ที่ต้องพิจารณาคำนาม คำกิริยา และส่วนประกอบอื่นๆ

อาจารย์ชี้แจงต่ออีกว่า

"ประการต่อมา ผมเอง เคยชินในลักษณะนี้เอง คือ เขียนและอ่านบทความภาษาอังกฤษค่อนข้างประจำ ในงานภาษาอังกฤษ เมื่อพูดถึงเจ้า แม้แต่ระดับกษัตริย์นั้น ก็ใช้เรียกชื่อตรงๆเท่านั้น เช่น Prajadhipok, Nakhon Sawan ฯลฯ และอื่นๆ อีก (ขอให้สังเกตว่า เวลาเจ้านายเขียนคุยกันเอง ก็เรียกกันเองเช่นนี้เหมือนกัน เช่น กรมนครไชยศรี Chira เฉยๆ เป็นต้น) อันนี้ คนไม่เคยชิน ก็อาจจะว่า "ดัดจริต" ได้ ผมก็ไม่ว่าอะไร แต่เพียงชี้แจงให้ทราบว่า แต่ละคนมีความคุ้นเคยของการเขียนงานไม่เหมือนกัน เรื่องนี้ คลุมไม่เฉพาะกับเจ้านาย แม้แต่กับสามัญชน เช่น คำว่า "พิบูล" อันที่จริง คำนี้ ในภาษาไทย ไม่เขียนกันทั่วไป เมื่อพาดพิงถึง "จอมพล ป" แต่ในบทความของผม ผมใช้คำนี้บ่อย เป็นความเคยชิน แบบที่ฝรั่งเองพาดพิงถึงท่านผู้นี้ว่า Phibul เป็นปกติ"

พอมาถึงตรงนี้ผมก็มีข้อขัดแย้งอีกเช่นกันครับ การที่เจ้านายแต่ละพระองค์จะเรียกชื่อกันแบบธรรมดานั้น เพราะท่านมียศเสมอกัน หรือมีฐานันดรไม่แตกต่างกันมากนัก แต่การที่เราคนธรรมดา มิได้เกิดมาพร้อมฐานันดรศักดิ์เทียบเท่าจะเอ่ยพระนามของเจ้านายแบบที่เจ้านายเรียกกันเอง ผมว่าอาจจะไม่เหมาะสมนัก.....และการที่อาจารย์อ้างเรื่องบทความภาษาอังกฤษว่าเค้าใช้เรียกชื่อเฉยๆ ผมก็เคยเห็นเหมือนกัน แต่ผมว่าเพราะคนเขียนบทความเหล่านั้นไม่เข้าใจบริบทของคำว่าราชวงศ์และบุคคลทั่วไป เข้าไม่เข้าใจถึงคำว่า "การให้เกียรติและการเทิดทูนสถาบันกษัตริย์" เพราะสถาบันของเค้าไม่ได้ตอบแทนอะไรต่อประเทศมากกว่าการเป็นแค่ประมุขทางงานพิธี แต่สำหรับประเทศไทยมันแตกต่างกันมิใช่หรือครับ...อีกอย่างการเขียนบทความเป็นภาษาอังกฤษนั้น เค้าคงไม่ต้องการให้คนไทยอ่านมากนักหรอกครับ อย่างมากก็นักวิชาการ...แต่ตอนนี้อาจารย์กำลังเขียนงานให้คนไทยด้วยกันอ่าน แต่อาจารย์กลับไปใช้รูปแบบที่ฝรั่งเขียน ผมว่ามันค่อนข้างจะแปลกๆ ที่สำคัญภาษาไทย คือภาษาที่สวยงาม เพราะมีระดับชั้นของการใช้ภาษา ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาและระดับเจ้านายสูงขึ้นไป...ทำไมอาจารย์ถึงทิ้งเสนห์ของภาษานี้ไปเสียล่ะครับ....

อาจารย์พูดต่ออีกว่า

"ไม่มีกฎหมายใดๆทั้งสิ้นที่ระบุว่า การใช้ราชาศัพท์เป็นข้อบังคับทางกฎหมาย (ไม่เช่นนั้น ในงาน concert ต่างๆ ที่แม้จะจัดต่อหน้าพระพักตร์ ยังมีการ ขออนุญาตไม่ใช่ราชาศัพท์ชั่วคราวพวก MC เหล่านั้น คงถูกจับเข้าคุก หรือถูกปรับไปตามๆกัน) ประเด็นของผมคือ การเขียนอย่างจงใจไม่ใช้ราชาศัพท์ถี่ยิบเช่นที่ใช้กันนี้ เป็นการ make a point อย่างหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่า หลายท่านในทีนี้ คงไม่ถูกหูนัก แต่ point ของการอ่านงานที่ไม่ถูกหูเรา อย่างหนึ่ง ก็คือการกระตุ้นให้ตั้งคำถามกับ belief ต่างๆ ที่เรา hold อยู่"

ตอนนี้อาจารย์กำลังยกข้อบังคับทางกฎหมายขึ้นมาพิจารณาแทนความเหมาะสม...ซึ่งผมค่อนข้างจะไม่เห็นด้วยครับ...ในโลกนี้มีตั้งหลายอย่างที่กฎหมายไม่ได้ระบุไว้ แต่คนเราก็ปฏิบัติตามเพราะความเหมาะสมกันทั้งนั้น ทั้งเช่นการไหว้ การเคารพผู้อาวุโส และอื่นๆ อันนี้ก็ไม่มีกฏหมายกำหนด แต่คนไทยเราก็ทำ เพราะมันคือความเหมาะสม และช่วยทำให้เรามีรากเหง้าของตนเอง มีเอกลักษณ์มิใช่หรือครับ...การไหว้ ไม่ถูกบังคับด้วยกฏหมาย แต่เป็นการสั่งสอนและความเหมาะสม...ทุกวันนี้ทั่วโลกรู้จักเมืองไทยเพราะการไหว้ (ส่วนเล็กๆ ในส่วนใหญ่ๆ) มิใช่หรือครับ.... แม้ว่าเราจะใช้กฏหมายตามรูปแบบของฝรั่งเศษ ที่เรียกว่า written laws ก็ตาม แต่ในสายเลือดของคนไทยบางส่วนยังมี common laws อยู่นะครับ...จารีตประเพณีที่เราถือปฏิบัติกันมาอย่างยาวนานทั้งที่เกี่ยวและไม่เกี่ยวกับราชวงค์และสถาบันกษัตริย์นั้น ก็น่าจะถูก imply ว่าเป็น common laws อย่างหนึ่งใช่มั้ยครับ...สุดท้ายอาจารย์กล่าวถึงพิธีกรที่ขออนุญาตไม่ใช้ราชาศัพท์ แต่เพราะพวกเขาขอประทานอนุญาติ หรือ ขอพระราชทานอนุญาต ไม่ใช้คำราชาศัพท์ และเจ้านายท่านก็ทรงอนุญาต...ถึงได้ใม่ใช้ราชาศัพท์กันได้ อีกอย่างถ้าพิธีกรจะต้องเอ่ยถึงเจ้านายอีกครั้ง พิธีกรก็ต้องใช้ราชาศัพท์อยู่ดี เพราะเป็นการทูลหรือกราบทูลโดยตรง ...ทั้งหมดที่กล่าวมามันคือระเบียบปฏิบัติที่ปฏิบัติกันมาอย่างยาวนานทั้งสิ้นครับ...

สุดท้ายจริงๆ อาจารย์พูดมาอีกว่า ต้องการให้มีการชักจูงให้เกิดข้อวิจารณ์หรือข้ออภิปรายต่อๆไป รวมถึงคำถามต่างๆ แต่สำหรับบางคนแล้วพอลักษณะการเขียนไม่เข้าตา เค้าอาจจะไม่อ่านเลยก็ได้ครับ...

สุดท้ายอีกแล้วครับ...ด้วยความเคารพในคุณวุฒิและวัยวุฒิของอาจารย์สมศักดิ์ ..ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะลบหลู่แต่อย่างใด..เพียงแต่นำเสนอข้อวิจารณ์ส่วนตัวเท่านั้นครับ...และที่สำคัญอาวุโสผมเองก็น้อยอยู่ด้วย...ถ้าข้อเขียนใดข้างบนไม่เข้าตา..ผมขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 02 พ.ค. 06, 11:57
 บทความเรื่องสันตติวงศ์--วิจารณ์บทความ--เครื่องราชอิสริยาภรณ์--ราชาศัพท์และการออกนาม--หน้าพระลาน--พจนานุกรม--ปู  

วิวัฒนาการของกระทู้นี้น่าทำวิจัยนะครับ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 02 พ.ค. 06, 12:00

.




ตัวนี้ "ปูแม่ฟ้าหลวง" ครับ
ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Dromothelphusa sangwan
ส่วนชื่อสามัญคือ Elegant giant crab นะครับ
พบที่บ้านก้อแสนใจ กิ่งอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 02 พ.ค. 06, 12:02
 ขอโทด้วยครับ เผลอออกนอกเรื่องไปเยอะเลย เหอๆ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 02 พ.ค. 06, 13:34
 ไซเบอร์สะเปสก็สนุกอย่างนี้แหละครับ ไม่มีใครใหญ่กว่าใคร
ถ้าเดกาส์เล่นเวบ แกต้องประกาศว่า
I LINK there for I am แหงมๆ

เสียดายคุณอันดะรีอัส ไม่น่าไปสอบบาทของอาจารย์สมศักดิ์เลย กลายเป็น "เอาบาทใหญ่เข้าข่ม"(ใช้อย่างตั้งใจนะครับ ผมว่าภิกษุไม่น่ามีกิจต้องเอาบาตรไปข่มใคร) -พาให้ระย่อ
เขาว่ามา เราไม่เห็นด้วยก็ประเคนคืนไป ส่วนมารยาทนั่น เราต้องมีอยู่แล้ว ถ้าเรามีพ่อแม่เป็นคนไทย

สะตายของอาจารย์สมศักดิ์นี่ อันที่จริงก็น่าพิจารณานะครับ ลองคิดดูว่า อีกแปด-เก้าสิบปีข้างหน้า มีอาจารย์ศักดิ์สม เขียนประวัติศาสตร์อยุทธยาตอนหนึ่งว่า

ปราสาททองโกรธมาก หูกระดิกแดงฉาน สั่งพ่อครัวเอาข้าวต้มชามใหญ่ ราดหัวฑูตพม่า พร้อมด่าว่า ไอ้ชั่ว เองอย่ากำแหงมาก เดี๋ยวกูยกพวกลุยบ้านมึงให้ราบหร็อก ลากมันออกไปอัดต่อ....
เฮ้ยไอ้แห้ว เอาผ้าขี้ริ้วมาหน่อย กูจะเช็ดมือ.....

เกิดมันเป็นอย่างนี้ขึ้นมา ข้อเท็จจริงที่รองรับวัฒนธรรมศักดินา มิกลายเป็นวัฒนธรรมกุ๊ยช่ายไปหรือ แปลว่าเราต้องลบอลังการณ์ศาสตร์ที่ฝังอยู่ในประวัติศาสตร์ชนชาติทั้งหมดทิ้งไป เพราะนักประวัติศาสตร์พากันนิยมนับถือ "ทฤษฎีกระตุ้นศาสตร์" ว่าเป็นวิธีเข้าถึงความจริงได้อย่างไม่มีอะไรรกหูรกตา

ถ้าอย่างนั้น ไอ้คำศักดิ์สิทธิ์ที่นักฝรั่งนิยมชอบใช้กัน ไอ้ บริบท ไอ้วาทกรรม ไอ้มโนคติแห่งความเหลื่อมล้ำ
มันก้อตกงานซีท่าน
แล้วประวัติศาสตร์คงกลายเป็นแป๊ปแป๊ปศาสตร์ คือแสดงคนเขียนอย่างบัดเดี๋ยวนั้น อดีตช่างมัน

จำได้ว่ามีฝรั่งเคยบอกว่า ทุกประวัติศาสตร์คือปัจจุบัน เพิ่งเข้าใจวันนี้เอง


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 พ.ค. 06, 16:29
 ป่านนี้คุณสมศักดิ์คงจามใหญ่แล้ว  มีคนรอในเรือนไทยแยะจริงๆ

จากปู ถึงพระเจ้าปราสาททอง
เอ ไอ้แห้วกลายเป็นมหาดเล็กเสียแล้ว  เห็นรับใช้พล นิกร กิมหงวนอยู่แท้ๆ
หรือว่าไอ้แห้วรีเจนซี่ คะ

คุณพิพัฒน์ไม่ยักเล่าฉากต่อไปไอ้แห้วจะกราบทูลว่ายังไง  
ขืนเรียก "ปราสาททอง" เฉยๆ มีหวังหัวขาด


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 02 พ.ค. 06, 17:03
 นี่ไงปัญหา
ผมวางไว้ว่าไอ้แห้วนี่ อัครเสนาบดีฝ่ายขวาเชียวนา เอ.. หรือฝ่ายซ้ายดี  ฮิ...ต้องเป็นท่านกรมท่าสิ เอ หรือจะเป็นพระยาทวายที่จูงมือหม่องเข้ามา.....
พอดีเพิ่งลองใช้ "ทฤษฎีกระตุ้นศาสตร์" ดู

เห็นชัดละครับ ว่าบรรดาการแสดงทั้งหมด ต้องพับฉาก เปลี่ยนอาชีพไปเลย

ให้อาจารย์เทาแต่งต่อดีกว่า


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 พ.ค. 06, 17:51
 คุณพิพัฒน์โยนเผือกร้อนใส่มือดิฉันอีกครั้ง   ก็รู้นี่นาว่าขนบของพวกเทวาลัย ตรงกันข้ามกับกระตุ้นศาสตร์
แปลอีกทีว่าแต่งไม่ได้ค่ะ    
ต้องปล่อยให้ท่านอัครมหาเสนาบดีหม่ำแห้วอยู่หลังม่านต่อไป สมชื่อ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: Andreas ที่ 02 พ.ค. 06, 22:01
 Dear Khun Pipat,

I do not understand what you have written regarding my opinion towards Aj. Somsak's work. Could you please explain to me more?



Dear Aj. Somsak,

As I said earlier, I do not want to disrespect you by all means. Please give me apology if it isn't a good way to respond.



Dear Khun PinkandGrey

May I ask you to delete my opinion (#47)? I am afraid that it was not polite enough and it might create the unexpected consequences. Indeed thanks,



All Regards



Andreas


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 02 พ.ค. 06, 22:54
 ถ้าคุณไม่รู้ว่าสมศักดิ์เป็นใคร
คุณแค่พิจารณาจากสิ่งที่เขาเสนอ(ซึ่งสาธุชนพึงทำดังนั้น)
แล้วคุณก็แสดงความเห็นออกไป
โดยคุณมีต้นทุนคือสำนึกอย่างบริสุทธ์ในสิ่งที่คุณไม่เห็นด้วย
นั่นแหละครับคือของมีค่า

สิ่งที่คุณเขียน ไม่มีตรงใดเลยที่ผมเห็นว่าขาดความเคารพ ผมว่าครอบครัวของคุณโชคดีมากนะครับ

ผมอ้างบาทใหญ่เข้าข่ม หมายความว่า เป็นผู้(มีบาทา)ใหญ่ ทำอะไรออกไป เด็ก(ซึ่งบาทเล็กกว่า อันนี้คุณต้องรู้เรื่องทรพีด้วย จึงจะเข้าใจ)ก็ต้องยอม เพราะบาทใหญ่กว่านี่นา

ผมเห็นว่าวิชาการไม่มีอาวุโส ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก
ดีต้องไม่เหมือนเลว ศาสตราจารย์ก็ผิดได้เหมือนเด็กนักเรียน แต่ความขายหน้าไม่เท่ากันเท่านั้น

กรณีบทความของอาจารย์สมศักดิ์ ที่จงใจจ้วงจาบสำเหนียกของ คนอ่าน เพราะแกเห็นว่าจะทำให้ความรู้ก้าวหน้า
เราไม่เห็นด้วยก็โต้แย้งไป เราไม่ได้หยาบคายหรอกครับ เราสู้กับสติปัญญาของแก

จะให้เพิ่มเติมอีกก็ยินดีครับ
คุณมีวิธีโต้แย้งที่นุ่มนวลแต่แข็งแรงมาก
ใครลบกระทู้คุณ ผมจะแช่ง


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เฟื่องแก้ว ที่ 03 พ.ค. 06, 04:36
 รู้สึกว่า คนจะลบกระทู้ได้มีอยู่ท่านเดียว คืออาจารย์เทาชมพูนะคะ
ใจคอคุณ pipat จะแช่งท่านหรือคะ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 พ.ค. 06, 08:22
 คุณเฟื่องแก้วเล่นยิงหมัดเด็ด   เดี๋ยวคุณพิพัฒน์แกจับไข้ไป
ดิฉันก็ไม่ได้ฟังเรื่องเทพเจ้าพราหมณ์ต่ออีกหลายวันน่ะซีคะ

คุณ Andreas  เป็นคนสุภาพเรียบร้อยและขี้เกรงใจคน  แม้ออกความเห็นในเชิงคัดค้านก็จะระวังความรู้สึกของผู้ที่ตัวเองคัดค้าน
พูดถึงวัยวุฒิอาจจะน้อย  แต่คุณวุฒิไม่ด้อยไปกว่าคุณสมศักดิ์หรอกค่ะ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: Andreas ที่ 03 พ.ค. 06, 08:43
 ตั้งเมื่อกี้นี้ผมโพสต์แล้วชนกับคุณเทาชมพูกลางอากาศครับ...มันเลยกระเด้งกลับมาให้ผมโพสต์ใหม่ครับ....

ก่อนอื่นต้องขอบพระคุณคุณเทาชมพูที่กล่าวชมผมครับ...และขอบพระคุณที่เข้าใจความคิดเห็นของผมเช่นกันครับ

และขอบคุณคุณpipat ที่ให้ความกระจ่างด้วยครับ...เรียนตามตรงว่าตอนแรกผมอ่านความคิดเห็นของคุณ pipat แล้วเข้าใจว่า ข้อโต้แย้งของผมกลายเป็นการยกตนข่มท่านไปเสีย....ผมก็เลยตกใจ ต้องรีบขอร้องคุณเทาชมพูลบความคิดเห็นนั้นทันที เพราะผมมิได้มีเจตนาอย่างนั้นเลยจริงๆครับ พอคุณpipat มาอธิบายเพิ่มขึ้นจึงเข้าใจมาในระดับหนึ่งครับ...ขอบคุณอีกครั้งครับ

จริงๆแล้วผมมิได้รู้จักอาจารย์สมศักดิ์เป็นการส่วนตัวแต่อย่างใดครับ แต่ที่ผมเลือกที่จะค้นหาว่าอาจารย์ท่านเป็นใครก่อนนั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจการใช้ภาษาในการโต้แย้งในครั้งนี้ครับ...พอทราบว่าท่านเป็นอาจารย์เป็นผู้ทรงคุณวุฒิและวัยวุฒิ ผมเป็นผู้น้อยจึงต้องใช้ภาษาที่แสดงความเคารพแม้จะโต้แย้งกลับก็ตามครับ...

*******
ถึงคุณเฟื่องแก้วครับ...ช่วงนี้คุณเฟื่องมีจำนวนรีพลายมากกว่าผมแล้ว....จำได้ว่าผมเจอคุณครั้งแรกที่กระทู้ Intangible Cultural Heritage มาตอนนี้คุณเฟื่องแก้วกำลังจะพัฒนาเป็นเครื่องบินแล้วครับ...

สวัสดีครับ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 03 พ.ค. 06, 09:17
 กำลังจะตอบคุณเฟื่องแก้ว โชคดีอาจารย์เทาฯ มาช่วยชีวิต

คิดจะตอบว่า การแช่งนี่ไม่ใช่ทำได้ซี้ซั้วครับ ผู้ใหญ่แช่งเด็กนี่ ทำได้เลย แต่ถ้าเด็กแช่งผู้ใหญ่ละก้อ งานช้างครับ ไปอ่านลักษณะเบ้ดเสร็จดู
เพราะฉะนั้น หากผมแช่งอาจารย์เทาละก้อ หาเรื่องใส่ตัวครับ เห็นจะไม่เกินสามวันเจ็ดวัน ไอ้ที่คิดชั่ว กลับเข้าตัวหมด ผมจำสุภาษิตที่ว่า คนดีมีเกราะคุ้ม กันภัย ไม่ได้ แต่นั่นแหละครับ ยันตร์กันแช่ง ซึ่งท่าน มีอยู่แล้วครบถ้วนบริบูรณ์

คุณอันดรีอัส ประโยคสุดท้ายของอาจารย์ ให้นำไปปิดทองเก็บไว้เป้นขวัญนะครับ
น่าอิจฉา


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เฟื่องแก้ว ที่ 03 พ.ค. 06, 20:26
 ว้ายย อาจารย์คะ รับรองว่าหนูไม่ทำอะไรคุณ pipat เด็ดขาดค่ะ
แค่ระแวดระวังแบบแมวเฝ้าเรือนเท่านั้นเอง

ว่าจะชวนคุณ pipat เผาพริกเผาเกลือด้วยซ้ำไป
แล้วก็ เผาหอม เผากระเทียม เสียด้วย
ทำลาบคั่วรับประทานกันดีกว่า อย่าแช่งกันเลย
เป็นมโนกรรมเปล่า ๆ นะคะ คุณ pipat

คุณแอนเดรียส

ยังจำได้ค่ะ กระทู้ที่จับต้องไม่ได้นั่น
คุณแอนเดรียสแสดงความเห็นดีๆ ไว้เยอะ
เกือบจะยกไปใส่ท้ายข่าวแล้วเชียว

อีกอย่าง เฟื่องเห็นด้วยอย่างแข็งแรงกับอาจารย์เทาชมพู
ว่า คุณแอนเดรียส เป็นคนสุภาพ อ่อนน้อม
และมีอัธยาศัยทางอักษรที่ดีจริงๆ ค่ะ
(คราวก่อนแค่ตอบช้า ก็ยังมาขอโทษเฟื่อง ..โถ)

นี่เฟื่องต้องสะสมไมล์เท่าไหร่คะเนี่ย
ถึงจะได้อัพเกรดเป็นเครื่องบินส่วนตัว
ต่อไปการบินไทยก็ไม่ได้แอ้มเงินเฟื่องแล้วสิ
จำนวน "ความเห็นเพิ่มเติม" ของเฟื่องเนี่ย
เพิ่มแบบไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่ค่ะ
น่าจะเปลี่ยนเป็น "ความเห็นเดิมๆ" มากกว่า


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 04 พ.ค. 06, 11:00
 สวัสดีทุก ๆ ท่านครับ
กระทู้นี้ ครึกครื้นอย่างไม่น่าเชื่อ  
1. ถึงพี่ติบอครับ
แม่ปูพร่ำสอนลูกปู เดินให้ดูตัวอย่างแม่นี้ ลูกปูก็งงอยู่ดี กี่ที ๆ ก็เข้าตัวเองหมดเลย(นิสัยแม่ปูเข้าตัวผมหมด)  
2. พอดีนึกขึ้นได้ว่า ชาวสยามเคยทำเครื่องบินได้ (จริงๆ ไม่ได้อำครับ)
เลยฝากลิงค์นี้เอาไว้ครับ
เครื่องบินทิ้งระเบิดบริพัตร
 http://www.dmbcrtaf.thaigov.net/aircraft/Bomb/boripat/boripat.htm
เครื่องบินขับไล่ประชาธิปก
 http://www.dmbcrtaf.thaigov.net/aircraft/Fighter/pachatipok/pachatipok.htm
เห็นแล้ว น่าเสียดายว่ากองทัพอากาศไม่ได้ผลิตเครื่องบินขึ้นมาอีก    


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 04 พ.ค. 06, 21:29
 ง่ะ คุณศรีจะให้ผมเป็นแม่ปูอีก 1 หน้าที่เหรอครับ ขอบายดีกว่า จะให้แบกไข่เป็นร้อยฟองไว้ที่ท้อง(ย้วยๆของผม)ด้วยนี่ผมไม่ไหวนา
แค่เฉพาะหน้าที่เรียนกับงานตอนนี้ก็ขโมยเวลาหลับเวลานอนผมมาหลายสัปดาห์จนแค่ส่องกระจกก็เจอแพนด้า ไม่ต้องไปหาชมถึงสวนสัตว์เชียงใหม่แล้วล่ะครับ

โถ่ ผมดาวน์โหลด PDF ของ อ.สมศักดิ์ไปตั้งนานอยากอ่านต่อใจจะขาด แต่ตอนนี้ยังไม่มีเวลาอ่านต่อจากที่อ่านได้ตอนดาวน์โหลดไปใหม่ๆเลยครับ แหะๆ


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 13 พ.ค. 06, 12:45
 รอดูว่าจะมีท่านผู้ใดเข้ามาเสนอข้อคิดเห็นเพิ่มเติมอบู่หลายวัน  เห็นเลียวไปคุยกันเรื่องปูก็แล้ว  ก็ยังไม่มีท่านผู้ใดมาเสนอความเห็นเพิ่มเติม  เลยขออนุญาตต่อประเด็นเรื่องพระราชพินัยกรรมก่อนเลยนะครับ  วานพรรคพวกไปค้นพระราชพินัยกรรมฉบับที่คุณสมศักดิ์กล่าวถึง  เลยคัดมาฝากกัน  สำหรับข้อ ๔ ขออนุญาตละพระนามที่ระบุไว้ในพระราชพินัยกรรม  เพราะหลานๆ ท่านยังมีชีวิตกันอยู่  และครั้งหนึ่งหลานของท่านที่ขอไม่ออกนามนั้นได้เชิญพระราชหัตถเลขาในรัชกาลที่ ๖ ที่ทรงอธิบายความในพระราชหฤทัยพระราชทานไปยังบิดาของเจ้านายที่ขออนุญาตไม่ออกพระนามนั้น  มาให้ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ได้ล่วงลับไปแล้วอ่าน  ผมเป็นบุคคลที่สามเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่ด้วยกันในวันนั้นยังไม่มีโอกาสได้อ่านลายพระราชหัตถ์นั้นเลย  แต่ทราบจากสองท่านนั้นว่า  ในลายพระราชหัตถ์นั้นได้ทรงแสดงความเป็นสุภาพบุรุษตามที่ได้ทรงรับการอบรมมาจากอังกฤษ  และทรงขอโทษบิดาของเจ้านายพระองค์นั้น  
ต่อไปนี้เป็นพระราชพินัยกรรมฉบับสุดท้าย  และเป็นฉบับ (ที่เกือบจะ) สมบูรณ์    

พระราชลัญจกรพระบรมราชโองการ

ฃ้าพเจ้ามาล้มเจ็บลงคราวนี้ รู้สึกอำนาจแห่งวัยธรรม, ไม่ควรประมาท, มีกิจการบางอย่างที่ฃ้าพเจ้าเป็นห่วง, จึ่งอยากจะสั่งไว้เสียให้รู้สึกโล่งใจ, จึ่งฃอสั่งเสนาบดีกระทรวงวัง ดังต่อไปนี้ :-

ฃ้อ ๑ ถ้าถึงเวลาที่ฃ้าพเจ้าล่วงลับไป, แม้ฃ้าพเจ้าไม่มีบุตร์ชาย, ฃ้าพเจ้าฃอมอบให้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมฃุนสุโขทัยธรรมราชาสืบสันตติวงศ์, ให้ฃ้ามหม่อมเจ้าวรานนท์ธวัช ในสมเด็จเจ้าฟ้ากรมฃุนเพชรบูรณอินทราไชยนั้นเสียเถิด, เพราะ หม่อมเจ้า วรานนท์ธวัชมีมารดาที่ไม่มีชาติสกุลอย่างใด. เกรงจะไม่เปนที่เคารพแห่งพระบรมวงศานุวงศ์, ฃ้าราชการ, และอาณาประชาชน

ฃ้อ ๒ ถ้าเมื่อฃ้าพเจ้าสิ้นชีวิตไป สุวัทนายังมีครรภ์อยู่, ฃอให้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมฃุนสุโขทัยธรรมราชาเปนผู้สำเร็จราชการไปก่อน จนกว่าลูกฃ้าพเจ้าจะประสูติ. ถ้าประสูติเปนหญิง ก็ให้เปนไปตามฃ้อ ๑ ถ้าประสูติเปนชาย ก็ให้เปนไปตามข้อ ๓ ข้างล่างนี้

ฃ้อ ๓ ถ้าเมื่อฃ้าพเจ้าสิ้นชีวิตไป มีลูกชายอยู่ แต่อายุยังไม่ครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์, ฃ้าพเจ้าฃองแสดงความ ปราร์ถนาว่า ให้เลือกสมเด็จเจ้าฟ้ากรมฃุนสุโขทัยธรรมราชา เปนผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามกฎมณเฑียรบาล
(นี่เป็นคำสั่ง (ห้าม) อีกชั้น ๑ .- ถ้าเสนาบดีจะคิดเลือกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเปนผู้สำเร็จราชการต่างพระองค์, ให้เสนาบดีกระทรวงวังคัดค้านด้วยประการทั้งปวงจนสุดกำลัง, เพราะฃ้าพเจ้าได้สังเกตเห็นมาว่า พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์นี้ไม่มีศาสนา, ไม่มีศีล, ไม่มีธรรม, วัน ๑ อาจพูดอย่างหนึ่ง, อีกวันหนึ่งอาจกลับกลอกเสียก็ได้, และฃ้าพเจ้าจะไม่ลืมเลย ว่าพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์นี้ ลิเอาราชอาณาเฃตต์ฃองพระราชวงศ์จักรีไปฃายฝรั่งเสีย ๓-๔ คราวแล้ว. ถ้าให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์นี้เปนผู้สำเร็จราชการ ลูกฃ้าพเจ้าอาจไม่มีแผ่นดินอยู่ก็ได้

ฃ้อ ๔ ต่อไปภายหน้า คงจะมีเหตุเรื่องตั้งพระบรมอัฐิ, คือจะเอาองค์ใดฃึ้นมาตั้งคู่กับฃ้าพเจ้า ฃ้าพเจ้าขอสั่งเด็ดขาดไว้เสียแต่บัดนี้ ห้ามมิให้เอาพระอัฐิ...........................................................ขึ้นมาตั้งเคียงข้าพเจ้าเป็นอันขาด เพราะตั้งแต่ได้มาเป็นเมียข้าพเจ้า ก็ได้มาบำรุงบำเรอน้ำใจข้าพเจ้าเพียง ๑ เดือนเท่านั้น ต่อแต่นี้มาหาแต่ความร้อนใจหรือรำคาญมาสู่ข้าพเจ้า อยู่เนืองนิตย์ ถ้าจะเอาผู้ใดตั้งคู่กับข้าพเจ้า ก็น่าจะตั้งอัฐิสุวัทนา ซึ่งถ้าเขามีลูกชายแล้วก็ไม่เป็นปัญหาเลย

คำสั่งนี้มอบไว้แก่เสนาบดีกระทรวงวังในตำแหน่ง ฉนั้นถ้าเสนาบดีกระทรวงวังจำเป็นต้องย้ายตำแหน่งหรือถึงอสัญกรรม ก็ให้มอบคำสั่งนี้ให้แก่เสนาบดีใหม่ ควรให้รู้กัน ๒ คนว่าเก็บไว้ที่ไหน เพื่อเสนาบดีเกิดมีเหตุฉุกละหุกขึ้น ผู้ที่รุ้อีกคน๑ จะได้มอบคำสั่งนี้แก่คนใหม่

พระราชวังพญาไท
วันที่  ๘  กันยายน พุทธศักราช ๒๔๖๘
ราม วชิราวุธ ปร.

โปรดสังเกต  ถ้าเป็นลายพระราชหัตถ์รัชกาลที่ ๖ แล้ว  คำบางคำจะทรงใช้ ฃ แทน ข  และ ฅ แทน ค


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 13 พ.ค. 06, 12:46
 ขอย้อนมาถึงบทความของคุณสมศักดิ์ที่กรุณานำมาให้อ่านกันนั้น  ผมมีข้อสังเกตที่จะเรียนเพิ่มเติม

     ๑.๑  เรื่องห้ามบุคคลที่มีชายาเป็นนางต่างด้าวมิให้สืบราชสันตติวงศ์

         ประเด็นนี้พระยาปฏิพัทธ์ภูบาล  ได้เล่าไว้ว่า  เมื่อครั้งที่ออกไปรับเสด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ (คือรัชกาลที่ ๖) ที่ประเทศญี่ปุ่น  เมื่อครั้งเสด็จนิวัติพระนคร พ.ศ. ๒๔๔๕ นั้น  สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นมีพระดำริจะถวายเจ้าหญิงญี่ปุ่นให้เป็นพระชายา  โปรดให้ทรงเลือกได้พระอัทธยาศัย  แต่สมเด็จพระบรมฯ ทรงตอบปฏิเสธ  และได้พระราชทานพระบรมราชาธิบายแก่คณะที่ไปรับเสด็จว่า  ธรรมดาของสามีภรรยาย่อมจะต้องมีปัญหากระทบกระทั่ง  เหมือนลิ้นกับฟัน  หากมีปัญหาขัดข้องใจกันขึ้นมา  ทางฝ่ายหญิงเกิดเรียกเรือรบเข้ามาปิดอ่าวเหมือน ร.ศ. ๑๑๒  ประเทศชาติมิยุ่งยากหรอกหรือ  อีกทางหนึ่งเชื่อว่า คงจะได้ทรงเห็นปัญหาวุ่นวายนี้จากประเทศต่างๆ ในยุโรปมาแล้ว  จึงทรงระมัดระวังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก  

   ดังนั้น เมื่อทรงตั้งสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ เป็นรัชทายาทจึงทรงมีสัญญาลูกผู้ชายกันไว้ว่า  หากทูลกระหม่อมจักรพงษ์ได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินจะมิทรงตั้งหม่อมคัทริน เป็นพระราชินี  และห้ามมิให้พระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์ เป็นรัชทายาท


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 13 พ.ค. 06, 12:47
 ๒  เรื่องลำดับการสืบราชสันตติวงศ์
   
        เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาสถาปนาสมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ ขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร แล้ว  ได้โปรดสถาปนา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ขึ้นเป็น สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนเทพทวาราวดี ทรงศักดินา ๕๐๐๐๐ (ปกติเจ้าฟ้าทรงกรม ศักดินา ๔๐๐๐๐) หี้พระเกียรติศักดิ์เป็นที่สองรองจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ  จึงมักจะกล่าวกันว่า  มีพระราชกระแสดำรัสสั่งให้พระราชโอรสทั้งสองท้อง (คือ สายสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และสมเด็จพระพันปีหลวง ซึ่งทรงเป็นพระขนิษฐภคินีร่วมพระชนนี) นี้  ให้นับอายุเรียงตามกัน  

ต่อมาเมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จกลับจากยุโรปแล้ว  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระชัยนวโลหะรัชกาลที่ ๕ พร้อมมีพระราชกระแสดังปรากฏในประวัติต้นรัชกาลที่ ๖ นั้นแล้ว  จึงเท่ากับว่า  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงกำหนดลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ให้เป็นไปตามแบบธรรมเนียมในยุโรป  คือ ให้นับสายสมเด็จพระพันปีหลวงตรงลงไปจนหมดเสียก่อน  จึงไปต่อที่สายสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า   แล้วจึงไปถึงสายสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลยมารศรี  และพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินินาฏตามลำดับศักดิ์ของพระชนนี

เมื่อพระราชพินัยกรรมลงวันที่  ๘  กันยายน  ๒๔๖๘  ทรงกำหนดให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้ากรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา ทรงรับรัชทายาทในกรณีที่พระนางเจ้าสุวัทนาทรงมีพระประสูติกาลเป็นพระราชธิดา  กรณีนี้จึงเท่ากับว่าได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ข้ามสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ ทั้งสามพระองค์ คือ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ  สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนครราชสีมา  และสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนเพชรบุรณ์อินทราชัย ดังนั้นทายาทของทั้งสองพระองค์ (เพราะสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนครนครราชสีมา ไม่ทรงมีพระทายาท) จึงถูกข้ามไปทั้งหมดตามกฎมณเฑียรบาล  มาตรา ๕

เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสละราชสมบัติแล้ว  จึงต้องไปเริ่มที่สายสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า  แต่ต้องข้ามสมเด็จพระบรมองค์ใหญ่ไปเพราะทรงเป็นมกุฎราชกุมารมาก่อนแล้ว  และไม่ทรงมีพระทายาทก่อนที่จะเสด็จสวรรคต  ลำดับต่อไปจึงต้องเป็นสมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงสงขลานครินทร์  แต่เมื่อหาพระองค์ไม่แล้ว  จึงต้องเลื่อนลงมาที่พระโอรส ๒ พระองค์ คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล  และพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช  จากนี้แล้วจึงจะไปถึงสมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต  และสมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ตามลำดับ
   
   การที่หลวงประดิษฐ์มนูธรรม  มาอ้างว่า  คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาถึงเรื่องการสืบราชสันตติวศ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์  และพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช ขึ้นพิจารณา (รายละอียดในหน้า ๒) นั้น   ผมกลับเห็นว่า นักกฎหมายระดับดอกเตอร์อังดรัวซ์  
ไม่น่าจะตีความกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ หมวดที่ ๓ ๔ และ ๕ พลาดไปได้ถึงขนาดนั้น  ในกรณีพระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์นั้นเข้าข่ายตามมาตรา ๑๑ (๔)  ประกอบด้วยมาตรา ๑๒  ส่วนพระองค์เจ้าวรานนท์ธวัชนั้น เข้าเกณฑ์มาตรา ๑๑ (๖) ตามพระราชพินัยกรรมที่อ้างถึงนั้น

   ส่วนที่มีการอ้างอิงถึงพระองค์อื่นๆ อีกนั้น  ก็เชื่อว่า เพียงแต่จะสร้างความชอบธรรมให้แก่คณะราษฎร์ในการที่จะอัญเชิญพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล ขึ้นครองราชย์โดยมีคณะผู้สำเร็จาชการตามหมวดที่ ๖ แห่งกฎมณเฑียรบาล  และเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลทรงรับอัญเชิญขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แล้ว  คณะราษฎร์ก็ได้ใช้อำนาจต่างๆ ผ่านทางผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน  จนเป็นเหตุให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์ ต้องปลงพระชนม์ชีพ  แล้วคณะราษฎร์ก็ได้ตั้งพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตยทิพอาภา (ซึ่งกล่าวกันว่า  ทรงเกรงใจคณะราษฎร์เป็นพิเศษ) ขึ้นเป็นประธานคณะผู้สำเร็จราชการฯ  ผมว่าxitgfHoสำคัญนั้นอยู่ตรงนี้


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 พ.ค. 06, 12:59
 ไม่ทราบจะขอบคุณคุณ V_Mee อย่างไรดี
ที่กรุณาขอให้พรรคพวกไปคัดพระราชพินัยกรรม และอุตส่าห์พิมพ์ลงมาให้พวกเราได้อ่านกัน

ข้อที่ ๔ ทำเอาอึ้งไปพักใหญ่  กริ้วมากจริงๆด้วย


กระทู้: แทนคำขอบคุณ บทความให้ download เรื่อง "ในหลวงอานันท์ขึ้นครองราชย์ตามลำดับขั้นของกฎมณเฑียรบาล
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 พ.ค. 06, 13:11
 เห็นด้วยกับค.ห. 66  
เคยได้ยินมาอย่างนั้นเหมือนกันว่า มีการใช้อำนาจผ่านทางผู้สำเร็จราชการค่อนข้างมาก  
การสิ้นพระชนม์ของกรมหมื่นอนุวัตรฯ  หลานๆบางท่านก็ไม่เชื่อว่าเป็นการปลงพระชนม์ชีพ  
แต่เรื่องนี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร คนรุ่นหลังก็คงหาหลักฐานได้แต่เพียงในตำราเท่านั้น