ติดตามข่าวนี้อยู่ เพื่อจะมาลงในเรือนไทย
เห็นข่าวเงียบๆไป ไม่มีคำตอบจากป.ป.ช. ว่าจริงเท็จประการใดที่เครื่องมือตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์เปรียบได้กับพระเครื่อง
มีแต่ข่าวอจ.เจษฎา ผู้ค้นพบประสิทธิภาพของ GT200 ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อค่ะ
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/88366การจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 และอัลฟ่า 6 ที่เบื้องต้นพบว่าอาจมีการทุจริต กระทั่ง สตง.ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบต่อมากรรมการ ป.ป.ช.คนหนึ่งระบุว่า การวินิจฉัยคดีนี้ ค่อนข้างลำบาก เพราะเจ้าหน้าที่รู้สึกอุ่นใจเหมือนห้อยพระ ทำให้นักวิชาการที่ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก ออกมาระบุว่าการวินิจฉัยควรใช้ข้อมูลที่เชื่อถือได้ ไม่ใช่ความรู้สึก
โดยนายเจษฎาระบุว่า กรรมการ ป.ป.ช.ควรใช้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือในการวินิจฉัยคดี การที่นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร กรรมการ ป.ป.ช.ระบุว่า การวินิจฉัยว่าใครถูกหรือผิด เป็นเรื่องยาก เพราะไม่ได้อยู่ที่มูลค่าของเครื่องจีที 200 แต่เป็นความเชื่อ เหมือนพระเครื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่นำไปใช้แล้วรู้สึกคุ้มค่า แต่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ผู้ใช้งาน จะเปลี่ยนความคิด เมื่อรู้ว่าเครื่อง GT 200 ไม่สามารถใช้งานได้จริง และคนที่เป็นกรรมการ ป.ป.ช.ออกมาพูดเช่นนี้ ถือเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะการวินิจฉัยต้องใช้ข้อมูลที่เชื่อถือได้และเป็นรูปธรรม ไม่ใช่วินิจฉัย โดยใช้ความเชื่อ
นายเจษฎาระบุด้วยว่า ขอให้ ป.ป.ช.เร่งไต่สวนสำนวนส่งให้พนักงานอัยการ และชี้แจงต่อสังคมว่ามีหน่วยงานใดบ้างที่มีความผิด หากมีอุปสรรค ก็ขอให้ชี้แจงว่าเกิดจากอะไร เพราะคดีนี้เกือบ 10 ปีแล้ว ถือว่าล่าช้า หากเทียบกับประเทศอังกฤษ ที่ดำเนินคดีกับบริษัทผู้ผลิตเครื่อง GT200 มาแล้วหลายปี ทำให้หลายฝ่ายคิดว่าอาจมีเบื้องหลัง ที่ทำให้กระบวนการไต่สวนล่าช้า
ทีมข่าวสอบถามไปที่เลขาธิการ ป.ป.ช. นายวรวิทย์ สุขบุญ ไม่ได้ให้ข้อมูลในเรื่องนี้ และขอไม่แสดงความเห็นประเด็นนี้