ท่าน ก.ศ.ร.กุหลาบ สามารถสร้างความปั่นป่วนให้วงการประวัติศาสตร์ได้ไม่น้อย
หากท่านจะเขียนนิยาย คงไม่มีใครว่าอะไร
จะเชื่ออะไรก็ต้องตรวจสอบข้อมูลกันให้ดี เพราะ โลกเสมือนจริงที่คนเล่าเรื่องจงใจสร้างขึ้นนั้น พาเราออกทะเลไปไกล ๆ ได้
ในยุคสมัยของนายกุหลาบนั้น คนรู้มีน้อยกว่าคนไม่รู้ และความรู้มักจำกัดอยู่ในหมู่เจ้านาย พระ และขุนนางสูงศักดิ์ นายกุหลาบได้คบหาสมาคมกับผู้รู้ทั้งหลายเหล่านั้น จนได้ความรู้มา สิ่งนายกุหลาบเขียนและพิมพ์เผยแพร่นั้น เกิดแต่ความตั้งใจที่จะให้ความรู้ผู้คนทั่วไป (แต่คนทั่วไปคงไม่มีเงินจะเป็นสมาชิกรับหนังสือของนายกุหลาบดอก) เพราะถ้านายกุหลาบไม่พิมพ์หนังสือเองแล้ว คงจะได้เหลือเงินให้ลูกหลานตั้งตัวต่อมาได้ไม่น้อย เรื่องนี้สหายสองคนโอบย่อมทราบดี อาจจะเล่าได้อย่างพิสดาร (หรือไม่ก็ไปย้อนอ่านกระทู้ใหม่ตั้งแต่ต้นก็ได้)
สิ่งที่นายกุหลาบเขียนย่อมมีที่เกินจริงบ้าง แต่สิ่งเหล่านั้นตรวจสอบได้ เช่นถ้าเป็นเอกสารพงศาวดาร ก็ดูสอบกับเอกสารประชุมพงศาวดารที่พิมพ์โดยหอพระสมุดก็จะรู้ที่ผิดถูก หรือจะไม่จุจิตจุใจก็เอาไปเทียบเคียงกับหนังสือหรือเอกสารอื่นก็ได้
เรื่องต้นตระกูลนั้น นายกุหลาบเขียนและสอบถามมาจากคนในสายตระกูลน้อยนั้น ถ้ามีที่ผิดพลาด ก็น่าจะมีคนทักท้วงกันบ้าง เพราะแต่ละตระกูลที่นายกุหลาบชักสาขาญาติมาแจงสี่เบี้ยนั้น มีที่เป็นขุนนางไม่น้อย เจ้าจอมฝ่ายในก็มาก ก็ถ้าอะไรที่นายกุหลาบยกไปถึงสมัยสุโขทัย อยุธยาตอนต้น หรือบางทีร้ายกว่านั้นยกโยงไปถึงเมืองรามราชในอินเดีย เห็นสุดวิสัยจะเชื่อได้ ก็อย่าได้เชื่อ เลือกเอาแต่ที่ใกล้กาลปัจจุบันดีกว่า เหมือนมะพร้าวนั่นล่ะครับ เมื่อจะเอามาทำแกงทำขนม ต้องปอกต้องเกลาเปลือกออก ขูดเอาแต่เนื้อมะพร้าวมาคั้นเป็นกระทิ จึงทำแกงรับประทานได้
แต่จะเชื่อหรือไม่ว่า หลังจากสมัยของนายกุหลาบแล้วอีกหลายสิบปีต่อมา นักเขียนหลายท่านที่มีงานเขียนเป็นที่ยอมรับนับถือกันทั่วหย่อมย่านบ้านเรือน ต่างก็พากันลอกงานเขียนของนายกุหลาบมาเป็นงานของตัวกันเฉย ๆโดยไม่อ้างถึงนายกุหลาบสักแอะ หนักกว่านั้น บางคนลอกมาทั้งดุ้นเลย ตัดออกสัก ๒-๓ คำ อันนี้ผู้เคยอ่านงานของนายกุหลาบมาสองสามเข่งท่านเทศน์แจงให้ฟัง คนไทยเรานี่ก็แปลก เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลซดน้ำแกงกันให้พรืดๆ