เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: นทีสีทันดร ที่ 04 เม.ย. 06, 12:42



กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 04 เม.ย. 06, 12:42
 สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวเรือนไทยทุกคน รู้สึกว่าช่วงนี้เรือนไทยจะเงียบเหงาจัง ผมเลยมาเพิ่มอีกสักกระทู้ให้มีบรรยากาศเรียนรู้เพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย
ตอนนี้ผมฝึกงานอยู่ที่รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรครับ ทราบประวัติท่านเจ้าพระยาเพียงเล็กน้อยเอง เลยอยากให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่ทราบประวัติของท่านช่วยมาโพสเล่าให้อ่านหน่อยนะครับ โดยเฉพาะท่านออกญาฯ รู้สึกว่าท่านจะทราบเรื่องราวเกี่ยวกับราชสำนักเป็นอย่างดี


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 04 เม.ย. 06, 17:51
 พอดีมีหนังสือเฉลิมพระเกียรติ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ ๖ เนื่องในโอกาสที่วันประสูติครบ ๑๐๐ ปี ๑๕ เมษายน ๒๕๔๘ ซึ่งมีประวัติเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ผู้เป็นพระบรรพบุรุษของเสด็จพระนางฯ อยู่ในมือ

แต่ก็เงื้อง่าเล็งอยู่นาน ไม่เห็นออกญาธรรมาฯ เข้ามาตามที่คุณนทีสีทันดรกำลังตามหา ก็ขอเริ่มสรุปเล่าเรื่องมาให้ฟัง เป็นการขัดตาทัพไปพลางๆ นะครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 04 เม.ย. 06, 17:55
 เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) เป็นบุตรคนโตของเจ้าพระยาคทาธรธรณินทร์ (เยีย อภัยวงศ์) กับท่านผู้หญิงทับทิม เกิดที่เมืองพระตะบอง ในสมัยรัชกาลที่ ๔ เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๔๐๔

ท่านผู้หญิงทับทิมนั้น ท่านเป็นพวกบุนนาค เป็นบุตรเจ้าพระยามหาเสนา (น้อย) ลูกพี่ลูกน้องกับเจ้าพระยามหาเสนา (บุนนาค) ต้นสกุลบุนนาค เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตกก็หนีพม่าไปอยู่กัมพูชา และมีธิดาคนหนึ่งคือทับทิม ซึ่งต่อมาคือท่านผู้หญิงของเจ้าพระยาอภัยฯ นี่แหละครับ

สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในรัชกาลที่ ๕ จึงนับญาติกับเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ว่าเป็นคนในตระกูลบุนนาคเช่นเดียวกันท่าน


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 04 เม.ย. 06, 18:00
 ในวัยเยาว์ ท่านเจ้าคุณบิดาได้นำบุตรชายคนโตเข้าถวายตัวเป็นมหาดเล็กในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ศึกษาราชการในสำนักสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ จนได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นข้าราชการกรมมหาดเล็ก มีบรรดาศักดิ์เป็นนายรองเล่ห์อาวุธ รองหุ้มแพรมหาดเล็ก ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็น พระอภัยพิทักษ์ ออกไปดำรงตำแหน่งผู้ช่วยราชการเจ้าเมืองพระตะบองอยู่กับเจ้าคุณบิดา

ครั้นเจ้าพระยาคทาธรฯ (เยีย) ผู้บิดา ถึงแก่อสัญกรรม พระอภัยพิทักษ์ (ชุ่ม) ก็ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระยาคทาธรธรณินทร์ ผู้สำเร็จราชการเมืองพระตะบอง สืบแทน


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 04 เม.ย. 06, 18:21
 ผู้หลักผู้ใหญ่ในราชสำนักสมัยนั้นยกย่องพระยาคทาธรฯ เป็นอันมากว่ามีกิริยามารยาทงาม รอบรู้ราชการ คุ้นเคยกับพระบรมวงศานุวงศ์และขุนนางมากราย ที่สำคัญคือมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ เป็นที่สุด

เห็นได้จากเมื่อมีพระบรมราโชบายรวมศูนย์ คือจัดวิธีการปกครองหัวเมืองเขมรเสียใหม่  โดยรวมเมืองพระตะบองและเมืองใกล้เคียงที่เคยขึ้นต่อไทย จัดตั้งเป็น "มณฑลเขมร" ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น "มณฑลตะวันออก" และ "มณฑลบูรพา" ในที่สุด ให้มีสมุหเทศาภิบาลปกครอง มีเมืองศรีโสภณเป็นศูนย์กลาง ซึ่งนับเป็นการทอนอำนาจเจ้าเมืองพระตะบองโดยตรง แต่พระยาคทาธรฯ ก็สนองพระบรมราโชบายนี้เต็มที่ ไม่มีทีท่ากระด้างกระเดื่องแต่อย่างใด

ขณะนั้นเมืองพระตะบองเป็นเหมือนเมืองหน้าด่านกันชนระหว่างไทยกับเขมรซึ่งตกเป็นของฝรั่งเศส พระยาคทาธรฯ จึงต้องระวังตัวมาก ถ้าไปมีท่าทีประจบประแจงฝรั่งเศส ทางไทยก็จะระแวง ครั้นถ้าไปก้าวร้าวอวดดี ฝรั่งเศสก็จะหาว่ารุกราน แต่พระยาคทาธรฯ ก็รักษาตัวได้อย่างดี ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายฝรั่งเศสก็ไม่ได้รู้สึกขัดเคืองแต่อย่างใด

เมื่อพระยาคทาธรฯ เป็นผู้สำเร็จฯ เมืองพระตะบอง ก็เลยเรียกได้ว่าท่านตกอยู่ในวงล้อมของฝรั่งเศส แถมยังมีสมุหเทศาภิบาลที่เมืองศรีโสภณกำกับอยู่อีกชั้นหนึ่ง แต่ต่อมาเมื่อพุทธศักราช ๒๔๔๖ พระยาศักดาภิเดชวรฤทธิ์ (ดั่น) สมุหเทศาภิบาลมณฑลเขมรถึงแก่อนิจกรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านเป็นทั้งสมุหเทศาฯ มณฑลบูรพา ควบกับผู้สำเร็จฯ เมืองพระตะบองทั้งสองตำแหน่ง


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 04 เม.ย. 06, 18:29
 ในศกที่ท่านได้รับหน้าที่ควบสองตำแหน่งนั้นเอง ฝรั่งเศสก็หาเรื่องเข้ามารุกรานถึงเขตไทย ยึดเมืองจันทบุรี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงเจรจาแลกเปลี่ยนดินแดนคืน โดยยกฝั่งขวาแม่น้ำโขง ได้แก่เมืองมโนไพร และจำปาศักดิ์ ให้ฝรั่งเศสไป แต่ฝรั่งเศสยังใช้เล่ห์เหลี่ยม พอรับเอาดินแดนแลกเปลี่ยนคืนนั้นแล้ว ก็หันไปยึดเมืองตราดและเกาะต่างๆ จนถึงเกาะกูด ต่อเป็นของแถม ในที่สุดไทยจึงต้องทำสัญญาอีกครั้งเมื่อปี ๒๔๔๙ ยกมณฑลบูรพา ซึ่งมีเมืองพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ซึ่งเคยขึ้นต่อไทยมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ ให้ฝรั่งเศสไป เพื่อและเมืองตราดและเกาะต่างๆ กลับคืนมา

ระหว่างที่ไทยมีปัญหาพิพาทอยู่กับฝรั่งเศส พระยาคทาทรฯ ได้กราบบังคมทูลพระกรุณาว่า

"บิดาและปู่ได้เป็นข้าทูลละอองธุลีพระบาทมาหลายชั่วชั้นบรรพบุรุษแล้ว ไม่ปรารถนาจะย้ายไปเป็นข้ากรุงกัมพูชา ถ้าพระราชทานเมืองพระตะบอง เสียมราฐ ไปเป็นของกรุงกัมพูชาเมื่อใด ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต อพยพครอบครัวบุตรหลาน และภูมิลำเนา เข้ามารับราชการสนองพระเดชพระคุณอยู่ในกรุงเทพฯ"


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 04 เม.ย. 06, 18:29
 ขออนุญาตพักไว้เท่านี้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาเล่าต่อครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 04 เม.ย. 06, 18:32
 ขอบคุณคุณ UP มากครับ ได้ความรู้เยอะเลย ที่รพ.เจ้าพระยาฯก็มีอนุสาวรีย์ของท่าน และมีรูปปั้นไก่มากมาย มีที่มายังไงพี่ UP ช้วยเล่าหน่อยนะครับ และที่มาของสมุนไพรอภัยภูเบศรมีที่มาอย่างไร คนไม่รบกวนคุณ Up มากนะครับ
ปล. ไปอยู่เวรต่อล่ะครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 04 เม.ย. 06, 18:35

เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์)


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 04 เม.ย. 06, 18:40
 เรื่อง "ไก่" นั้นเล่าคร่าวๆ ก่อนว่าเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ท่านชอบผจญภัย เป็นนักนิยมไพร แล้วก็มีอุปนิสัยออกแนว "ลูกทุ่ง" ถึงไหนถึงกัน ฉะนั้น กล่าวกันว่าท่านชอบการชนไก่ ตามวิถีชาวบ้านสมัยนั้น

คำร่ำลือเช่นนี้เป็นเหตุให้มีผู้มากราบไหว้แก้บนที่อนุสาวรีย์ของท่านด้วยตุ๊กตาไก่ หรือการชนไก่ ครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 เม.ย. 06, 19:07
 ระหว่างรอคุณ UP มาเล่าต่อในวันพรุ่งนี้
ขอคั่นด้วยภาพของสาวสวย
ชื่อตรีดาว อภัยวงศ์  
เชื้อสายของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เธอเป็นอาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ค่ะ
หลายคนคงจำเธอได้จากรายการ "เรียงร้อยถ้อยไทย"  


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 11:25
 มาเล่าต่อตามสัญญาครับ

ว่ากันว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงซาบซึ้งในน้ำใจจงรักภักดีของพระยาคทาธรธรณินทร์ (ชุ่ม) เป็นอย่างมาก เพราะจริงๆ แล้วถ้าเจ้าคุณคทาธรฯ จะอยู่เมืองพระตะบองต่อไป ฝ่ายฝรั่งเศสก็คงยินดีชุบเลี้ยง เพราะท่านมีวาสนาบารมีมาก

ครั้นถึงคราวที่ไทยทำสัญญายกดินแดนมณฑลบูรพาให้ฝรั่งเศส พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ จึงทรงตั้งเงื่อนไขว่าให้ฝรั่งเศสชดใช้เงินค่าขนย้ายสัมภาระสำมะโนครัวให้แก่พระยาคทาธรฯ เป็นจำนวนถึงปีละแสนเหรียญ ทุกปีจนตลอดชีวิต และให้ยอมให้พระยาคทาธรฯ ย้ายครอบครัวและสมบัติเข้ากรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวกตามประสงค์ทุกประการ พระยาคทาธรฯ จึงได้เริ่มอพยพครอบครัวเข้าเมืองไทยผ่านทางปราจีนบุรี

เล่าลือกันว่าการลำเลียงทรัพย์สินครั้งนั้นยิ่งใหญ่เป็นกองคาราวานมโหฬารมาก เพราะจะว่าไปแล้วก็ไม่ใช่เพียงย้ายบ้านเท่านั้น แต่เปรียบได้กับการย้ายเมืองที่เคยตั้งมั่นมานับร้อยปี

นายควง อภัยวงศ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นบุตรคนหนึ่งของท่านเจ้าคุณฯ ได้เคยเล่าไว้ว่า

"เมื่อเราย้ายครอบครัวมา ผมอายุ ๔ ขวบ ก็จำอะไรไม่ค่อยได้นอกจากซน ขี่ช้างบ้าง ขี่ม้าบ้าง ถ้าท่านอยากรู้ว่าเขามากันยังไง โปรดอ่านดูหนังสือตาไซฟาเดน (Seiden-faden) เวลานั้นมียศเป็นนายร้อยตำรวจเอก ซึ่งมีหน้าที่ไปรับ และยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ อย่างล้นพ้น ให้เกณฑ์คนเกณฑ์เกวียนไปรับ นอกจากเราจะบรรทุกเอามาจากทางโน้นแล้ว ยังมีพลเมืองเขมรที่ติดตามมาอีกมาก เราเดินทางรอนแรมมาตามป่า ไม่มีถนนอย่างเวลานี้ เป็นเวลาแรมเดือนกว่าจะมาถึงปราจีนบุรี"


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 11:42
 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงคำนึงถึงความจงรักภักดีของพระยาคทาธรธรณินทร์ (ชุ่ม) ผู้สำเร็จราชการเมืองพระตะบองและสมุหเทศาภิบาลมณฑลบูรพา คนสุดท้าย ในวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๔๕๐ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็น

"เจ้าพระยาอภัยภูเบศร บรมนเรศร์สวามิภักดิ์ สมบูรณ์ศักดิ์สกุลพันธ์ ยุตธรรม์สุรภาพอัธยาศรัย อภัยพิริยบรากรมพาหุ"

มีตำแหน่งในราชการกระทรวงมหาดไทย ถือศักดินา ๑๐,๐๐๐ ไร่ เช่นเดียวกับเจ้าพระยาทั้งหลาย และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ปฐมจุลจอมเกล้า ประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรพรรดิมาลา

เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม) ได้ปลูกตึกหลังใหญ่อยู่ที่ยศเส ซึ่งบัดนี้คือบริเวณกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นที่พำนักในกรุงเทพมหานคร

ต่อมาได้กราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่เมืองปราจีนบุรีอีกแห่งหนึ่ง เพราะท่านนิยมไพร ชอบผจญภัย เที่ยวป่าล่าสัตว์ การอยู่ในกรุง ไม่ใคร่จะต้องอัธยาศัยท่านเจ้าพระยาฯ นัก เมื่อได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จึงไปสร้างบ้านเรือนอยู่ปราจีนบุรีแต่นั้นมา

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงทราบว่าเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ชอบเที่ยวป่า ในปีหนึ่ง จึงมีพระราชประสงค์จะเสด็จประพาสเมืองปราจีนบุรี ท่านเจ้าพระยาฯ ก็ตื่นเต้นยินดีมาก จัดเตรียมช้างม้าพาหนะทุกอย่าง และตัวท่านเองก็ขึ้นขี่คอช้างเป็นควาญ คอยนำเสด็จประพาสทั่วดงศรีมหาโพธิ์ เป็นที่ทรงสำราญพระราชหฤทัยอย่างมาก ดังที่มีพระราชหัตถเลขาพระราชทานแก่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร (ต่อมาคือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) ถึงสองฉบับ ใจความเกี่ยวกับเจ้าพระยาอภัยภูเบศร มีดังนี้

"เวลาบ่าย ได้ลงเรือแจวขึ้นไปบ้านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปประมาณสัก ๑๕ มินิต ที่เขาได้เลือกดีในแถบนี้ แลเห็นเขาดูเหมือนอยู่ใกล้ แต่ระยะทาง ๓ เส้นเศษ"

"รุ่งขึ้นวันที่ ๑๘ ขึ้นช้างพังหลังดีของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร อยู่ข้างจะย่อม เดินไม่เต็มฝีย่าง หลังเรียบดี ชื่อ กปุม ลองทายดูถีว่าจะแปลว่ากระไร พอพ่อได้ยินก็เข้าใจ แต่เพื่อจะให้รู้แน่จึงถามคำแปล ก็ได้ความว่าดอกไม้ตูม คือคำที่เราใช้ว่ากระพุม หรือกรรพุม ยอกรกรรพุม ก็คือทำอุ้งมือเป็นตูม เป็นภาษาที่ใช้ในคำไทย... เจ้าพระยาอภัยภูเบศรทำกับข้าวป่าเลี้ยง คือ ไก่เผา ปลาเผา มีผัดน้ำพริก ซึ่งเป็นของจะทำได้ในป่าง่ายๆ ไม่สู้ต้องการภาชนะสำหรับหุงต้ม ทำอร่อยดีมาก เลี้ยงกันแล้วกลับลงมาท่า ได้เลี้ยงน้ำชาอย่างสูงคือขนมจีนแกงไก่อีกครั้ง แล้วจึงได้ลงเรือล่องลงมาพลับพลาเมืองปราจีน ...ลืมบอกว่าช้างที่ไปวันนี้ เจ้าพระยาอภัยภูเบศรทำคอเอง คล่องแคล่วดีมาก แต่ช้างใหญ่ๆ เขาส่งออกไปตระเตรียมที่สำหรับจะตามช้างสำคัญ... ที่เลี้ยงช้างเจ้าพระยาอภัยภูเบศรย้ายจากปราจีนไปเลี้ยงสระขุด อยู่ในนี้แกทนปรับไปกินนาเขาไม่ไหว เพราะเหตุที่ดงพระรามเดี๋ยวนี้เป็นไร่ไปเกือบทั้งดงเสียแล้ว"

ต่อมา เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้ปลูกตึกหลังใหญ่ทรงยุโรปบนที่ดินของท่าน ด้วยหวังจะได้รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นครั้งที่สอง แต่ไม่ทันได้เสด็จประพาสอีกครั้ง ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 11:56
 เล่ากันว่าท่านเจ้าพระยาฯ เสียใจมากที่ตึกดังกล่าวไม่ได้จัดเป็นที่รับเสด็จ และท่านก็ถือเสมอว่าตึกนั้นเป็นส่วนที่สร้างเพื่อถวายแด่พระมหากษัตริย์ ท่านจะไม่ยอมเข้าพักแรมในตึกใหญ่ดังกล่าวเป็นอันขาด แต่จะพำนักอยู่ในเรือนของท่านด้านหลังตึกแทน

ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ตึกดังกล่าวก็ได้ใช้เป็นที่รับเสด็จสมความตั้งใจของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เสด็จประพาสเมืองปราจีนบุรี เมื่อพุทธศักราช ๒๔๕๕ ท่านเจ้าพระยาฯ ได้จัดตึกใหญ่นั้นเป็นที่ประทับแรมอย่างสมพระเกียรติ เมื่อเสด็จกลับ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ ชั้นที่ ๒ และพระราชทานยศเป็น "มหาเสวกโท" ประจำราชสำนักกระทรวงวัง นับแต่นั้นเป็นต้นมา

ครั้นพุทธศักราช ๒๔๖๐ ได้ทรงพระมหากรุณาพระราชทานนามสกุลแก่เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม) และผู้สืบเชื้อยายต่อจากนั้นไปว่า "อภัยวงศ์"

มหาเสวกโท เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ป่วยด้วยโรคเบาหวานเรื้อรังอยู่หลายปี เมื่อเข้าปัจฉิมกาลแห่งชีวิต ท่านได้หันมาบำเพ็ญกุศลเป็นอันมาก เช่น บริจาคทรัพย์สร้างโรงเรียน โรงพยาบาล และที่สำคัญคือได้บูรณปฏิสังขรณ์ วัดแก้วพิจิตร ที่เมืองปราจีนบุรี ทั้งวัด โดยท่านเป็นผู้อำนวยการก่อสร้างและออกแบบเอง อุโบสถวัดแก้วพิจิตรจัดว่าเป็นศิลปะผสมผสานระหว่างไทย เขมร และยุโรปที่ท่านเจ้าพระยาฯ ประยุกต์ขึ้นอย่างงดงามวิจิตร และนับเป็นวัดประจำสกุล "อภัยวงศ์"

เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ถึงแก่อสัญกรรมที่เมืองปราจีนบุรี เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๔๖๕ สิริอายุ ๖๑ ปี

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งศพบนตึกใหญ่ที่ท่านสร้างไว้รับเสด็จ นับเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้พำนักร่างของท่านบนตึกที่สร้างขึ้นด้วยแรงแห่งความจักรักภักดีต่อพระบรมราชจักรีวงศ์ พร้อมพระราชทานโกศและเครื่องประกอบเกียรติยศศพตามเกียรติยศเจ้าพระยาทุกประการ

ครั้นถึงอวสานแห่งการศพ ก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระราชทานเพลิงศพ ณ วัดแก้วพิจิตร ตามความประสงค์ ในงานพระราชทานเพลิงศพของท่านนั้น มีเจ้านายและขุนนางผู้ใหญ่ อุตสาหะเสด็จและเดินทางมาเป็นจำนวนมาก มี สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นอาทิ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 11:59

เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์)


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 12:05
 "บุตรธิดาของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์)"

ท่านเจ้าพระยาฯ มีบุตรธิดาหลายคน เฉพาะที่เกิดจากเอกภริยา คือคุณหญิงสอิ้ง คทาธรธรณินทร์ ซึ่งถึงแก่กรรมสมัยเจ้าพระยาฯ ท่านยังเป็นพระยาคทาทรฯ นั้นได้แก่

หม่อมเชื่อม กฤดากร ณ อยุธยา ในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจรูญศักดิ์กฤดากร
คุณหญิงรื่น กัลยาณวัฒนวิศิษฎ์ ภริยาพระยากัลยาณวัฒนวิศิษฎ์ (เชียร กัลยาณมิตร)
พระยาอภัยภูเบศร (เลื่อม อภัยวงศ์)
พระอภัยวงศ์วรเศรษฐ (ช่วง อภัยวงศ์)

บุตรคนอื่นๆ ของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ที่มีชื่อเสียง เช่น

นายหมิว อภัยวงศ์ สถาปนิกผู้ออกแบบอาคารหลังคารูปโดมของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
หลวงโกวิทอภัยวงศ์ หรือ นายควง อภัยวงศ์  อดีตนายกรัฐมนตรี ๔ สมัย
นายเชียด อภัยวงศ์ สามีของหม่อมหลวงพวงร้อย สนิทวงศ์ (ท่านผู้หญิงพวงร้อย อภัยวงศ์)


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 05 เม.ย. 06, 12:11

ได้อ่านประวัติของท่านแล้วก็ซาบซึ้งในความจงรักภักดีของท่านต่อพระราชวงศ์จักรีจริงๆ
ตึกทรงฝรั่งคงหมายถึงตึกหลังนี้นะครับ ด้านหน้าประดิษฐานอนุสาวรีย์ของท่าน ตอนนี้ตึกกำลังบูรณะอยู่ครับ เดี๋ยววันหลังจะถ่ายรูปมาฝากชาวเรื่อนทุกคนครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 12:17
 "หลานเจ้าพระยาอภัยภูเบศร"

พระยาอภัยภูเบศร (เลื่อม อภัยวงศ์) บุตรคนโตของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ซึ่งได้รับพระราชทานตราจุลจอมเกล้าสืบตระกูล และเป็นผู้ได้รับพระราชทานราชทินนาม "อภัยภูเบศร" เช่นเดียวกับบิดานั้น มีภริยาคนหนึ่ง เกิดในสกุลบุนนาค ชื่อ "เล็ก" มีบุตรธิดาหลายคน คนสำคัญที่สุดชื่อติ๋ว หรือเครือแก้ว ต่อมาได้ถวายตัวเป็นข้าราชสำนักในรัชกาลที่ ๖ ได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า "สุวัทนา" และต่อมาได้ถวายตัวเจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

ในวันที่ ๑๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๖๘ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนาเจ้าจอมสุวัทนา ขึ้นเป็นเจ้า มีพระนามว่า

"พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี"

ขอเชิญความตอนหนึ่งในพระบรมราชโองการสถาปนาที่กล่าวถึงเชื้อสกุลอภัยวงศ์ ดังต่อไปนี้

"อนึ่ง เจ้าจอมสุวัทนา ก็เป็นเชื้อสกุลที่บรรพบุรุษทั้ง ๒ ฝ่ายได้รับราชการ มีความดีความชอบในราชการได้รับพระราชทานพระมหากรุณาของสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินต่อเนื่องกันมาหลายชั่วคน คือข้างฝ่ายบิดาของเจ้าจอมสุวัทนาเป็นเชื้อสายของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งเคยได้รับราชการเป็นผู้สำเร็จราชการเมืองพระตะบองต่างพระเนตรพระกรรณ ตั้งแต่รัชกาลแห่งพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ จนมาเมื่อเร็วๆ นี้..."

ครั้นวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๔๖๘ พระนางเจ้าสุวัทนาฯ ได้มีพระประสูติกาลพระหน่อพระองค์แรก และพระองค์เดียวในรัชกาลที่ ๖ คือ "สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี" (ในรัชกาลที่ ๘ และรัชกาลปัจจุบัน มีคำนำพระนามว่า "สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ")

นับได้ว่าพระนางเจ้าสุวัทนาฯ คือหลานคนสำคัญยิ่งของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

สำหรับพระประวัติ ของพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ ๖ โปรดบทความดูตามลิ้งก์นี้ครับ

 http://www.siamchronicle.com/news/view_article.html?article_id=e4de2b43564e2bf45ba202a31ec5d7be  


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 12:22

พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ ๖


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 12:40
 พระนางเจ้าสุวัทนาฯ นี้เองที่หลานท่านเจ้าพระยาฯ ที่ได้ทำหน้าที่ชุบชีวิตตึกใหญ่ทรงยุโรปและนาม "เจ้าพระยาอภัยภูเบศร" ให้มีเชื่อเสียงโด่งดังขึ้นอีกครั้ง ดังที่คุณนทีสีทันดรกล่าวถึงในความเห็นที่ ๑๖

เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าจอมสุวัทนา พระอภัยวงศ์วรเศรษฐ (ช่วง อภัยวงศ์) ผู้รับมรดกบ้านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ที่ปราจีนบุรี จึงได้ขอพระราชทานน้อมเกล้าฯ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของเจ้าพระยาอภัยภูเบศรในจังหวัดปราจีนบุรีแด่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เป็นของทูลพระขวัญ และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ ก็ทรงพระมหากรุณาพระราชทานเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าจอมสุวัทนา

อย่างไรก็ดี พระนางเจ้าสุวัทนาฯ ก็ไม่ได้ทรงนำไปใช้สอยเป็นประโยชน์ส่วนพระองค์ หากแต่ทรงพระกรุณาประทานตึกและที่ดินรวมทั้งสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในบริเวณที่ดินอันเป็นสมบัติของเจ้าพระยาอภัยภูเบศรทั้งหมด ให้แก่ทางราชการมณฑลทหารบกที่ ๒ เพื่อให้ปรับเป็นสถานพยาบาลสำหรับทหารและประชาชนในละแวกใกล้เคียง

ต่อมากระทรวงมหาดไทยได้เลือกหาที่ดินสำหรบสร้างโรงพยาบาลประจำจังหวัด กระทรวงกลาโหมจึงมอบที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวแก่กระทรวงมหาดไทย และได้ปรับปรุงต่อเติมเป็นโรงพยาบาล แล้วเสร็จ เปิดให้บริการแก่ผู้ป่วยทั่วไปเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๘๔

เมื่อสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี เสด็จจากประเทศอังกฤษ นิวัตประเทศไทยเป็นการถาวรแล้วเมื่อพุทธศักราช ๒๕๐๒ ได้ทรงพระกรุณาเอาพระทัยใส่อุปการะกิจการของโรงพยาบาลนี้เป็นอย่างยิ่ง เมื่อทางราชการกราบทูลขอประทานนามโรงพยาบาล ก็โปรดประทานนามว่า "โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร" เพื่อเป็นเกียรติแก่พระบรรพบุรุษ

ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ พร้อมด้วยพระนางเจ้าสุวัทนาฯ เสด็จไปทรงเปิดป้ายนามโรงพยาบาลด้วยพระองค์เอง และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ก็ทรงรับโรงพยาบาลไว้ในพระอุปถัมภ์

ฉะนั้น โรงพยาบาลประจำจังหวัดปราจีนบุรี จึงมีนามว่า "โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี" เป็นเกียรติยศพิเศษต่างจากโรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วไป

ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ได้เสด็จไปทรงเยี่ยมกิจการหลายครั้ง และทรงพระกรุณาพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์บำรุงโรงพยาบาลอยู่เนืองๆ ตราบจนทุกวันนี้


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 12:54

พระนางเจ้าสุวัทนาฯ และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ (หลานและเหลนของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร)


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 13:04

ตึกทรงยุโรปที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ปลูกขึ้นเพื่อรับเสด็จนั้น ปัจจุบันมีนามว่า "ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร" อยู่ในบริเวณโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นตึกสองชั้นแบบยุโรป สมัยเรอเนสซองส์ มีมุขด้านหน้า ตรงกลางเป็นโดม ผนังด้านนอกเป็นปูนปั้นลายพรรณพฤกษาประดับซุ้มประตูและหน้าต่าง

กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว

ภายในตึกจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ ปีกด้านหนึ่งจัดเป็นส่วนนิทรรศการประวัติของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พระประวัติพระอุปถัมภิกาของโรงพยาบาล คือ พระนางเจ้าสุวัทนาฯ ในฐานะที่ทรงเป็นหลานปู่ของท่านเจ้าพระยาฯ และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ในฐานะที่ทรงเป็นเหลนของท่านเจ้าพระยา รวมถึงประวัติโรงพยาบาล

อีกปีกหนึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร รวบรวมอนุรักษ์ตำราไทย สมุนไพรไทย การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรี อีกทั้งยังเป็นแหล่งการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร และการแพทย์ของท้องถิ่น


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 13:07

หน้าบันประดับปูนปั้นรูปต้นไม้ในกระถาง บนหลังคาตึกมีเครื่องวัดทิศทางลมทำจากโลหะที่ยอดสุดหล่อเป็นรูปไก่ ครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 13:08

ลืม attach ภาพครับ ภาพนี้สำหรับคำบรรยายในความเห็นที่ ๒๒


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 13:10

มุมหนึ่งภายในตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ชั้นบน


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 13:11

ชั้นล่างจัดเป็นพิพิธภัณฑ์สมุนไพร มีตู้บรรจุเครื่องยาไทยและอุปกรณ์การแพทย์แผนไทยจำนวนมาก


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 13:16

บัดนี้ ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดปราจีนบุรี สมาชิกเรือนไทยท่านใดยังไม่เคยไปก็ขอแนะนำให้หาโอกาสไปเยี่ยมชมนะครับ อยู่ภายในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ถนนปราจีนอนุสรณ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๓ กิโลเมตร

ที่หน้าตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร มีอนุสาวรีย์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) มีผู้คนไปกราบไหว้อยู่มิได้ขาด


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 13:32

ผมไม่ได้ไปมาหลายปีแล้ว ไม่ทราบว่าเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงไร คงได้ยินแต่ชื่อเสียงของสมุนไพรอภัยภูเบศรที่โด่งดังไปทั่ว ส่งมาขายแม้กระทั่งที่เมืองนอกเมืองนา ถ้าเป็นในเมืองไทยนี่ก็เป็นที่แพร่หลาย หาซื้อได้ไม่ยากเลย

ส่วนภาพตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ในโรงพยาบาล คงต้องพึ่งคุณนทีสีทันดรกรุณารับเป็นธุระนำมาให้ชมกัน

ยังมีอีกสถานที่หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับท่านเจ้าพระยาฯ ซึ่งควรไปเยี่ยมชม ได้แก่ วัดแก้วพิจิตร ซึ่งมีสถาปัตยกรรมงดงามแปลกตามากอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล วัดนี้มีพระประธานที่ไม่เหมือนที่ใด เป็นปางที่ ออกแบบสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงออกแบบ พระหัตถ์ขวาคว่ำส่วนพระหัตถ์ซ้ายหงายบนพระชานุทั้งสอง หล่อด้วยนากทั้งองค์  มีนามว่า "พระอภัยทาน"

ท่านใดประสงค์จะไปกราบรำลึกถึงคุณูปการของท่านก็ควรอ้อมไปด้านหลังพระประธาน ไปกราบได้ที่ฐานตอนล่างเบื้องพระปฤษฎางค์ของพระอภัยทานซึ่งเป็นที่บรรจุอัฐิ เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ครับ

คงต้องรอคุณนทีสีทันดรนำภาพมาให้ชมครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 13:36

"บิดาและปู่ได้เป็นข้าทูลละอองธุลีพระบาทมาหลายชั่วชั้นบรรพบุรุษแล้ว ไม่ปรารถนาจะย้ายไปเป็นข้ากรุงกัมพูชา ถ้าพระราชทานเมืองพระตะบอง เสียมราฐ ไปเป็นของกรุงกัมพูชาเมื่อใด ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต อพยพครอบครัวบุตรหลาน และภูมิลำเนา เข้ามารับราชการสนองพระเดชพระคุณอยู่ในกรุงเทพฯ"

เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์)


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 13:39
 ขอแก้ไขข้อความ "พระนางเจ้าสุวัทนาฯ นี้เองที่หลานท่านเจ้าพระยาฯ ที่ได้ทำหน้าที่ชุบชีวิตตึกใหญ่ทรงยุโรปและนาม 'เจ้าพระยาอภัยภูเบศร' ให้มีเชื่อเสียงโด่งดังขึ้นอีกครั้ง" ในความเห็นที่ ๑๙ เป็น "พระนางเจ้าสุวัทนาฯ นี้เองคือหลานท่านเจ้าพระยาฯ ที่ได้ทำหน้าที่ชุบชีวิตตึกใหญ่ทรงยุโรปและนาม 'เจ้าพระยาอภัยภูเบศร' ให้มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นอีกครั้ง "


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 13:57
 ขอแถลงเพื่อประโยชน์แก่การค้นคว้าเพิ่มเติม

ข้อเขียนข้างต้นนี้ผมสรุปความมาจาก

"หนังสือเฉลิมพระเกียรติ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ ๖"

ที่สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ทรงพระกรุณาโปรดให้พิมพ์สนองพระเดชพระคุณพระชนนี เนื่องในโอกาสที่วันประสูติครบ ๑๐๐ ปี ๑๕ เมษายน ๒๕๔๘

ประกอบด้วย ๓ ภาค

ภาค ๑ พระประวัติเสด็จพระนางฯ นั้นเรียบเรียงโดยคณะข้าราชบริพาร

ภาค ๒ ประวัติ ท้าวศรีสุนทรนาฏ (แก้ว พนมวัน ณ อยุธยา) พระอัยยิกาในเสด็จพระนางฯ นั้น เป็นพระนิพนธ์ในสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

ภาค ๓ ประวัติเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เรียบเรียงโดยศาสตราจารย์ ดร. วิษณุ เครืองาม และรองศาสตราจารย์ธงทอง จันทรางศุ ครับ (บทความนี้พิมพ์ครั้งแรกเมื่อพุทธศักราช ๒๕๔๕ ในหนังสืออนุสรณ์ในโอกาสที่ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ พระราชทานพระอนุเคราะห์ในการฌาปนกิจศพ นางวนิดา แก่นอบเชย --ผู้ใหญ่ในสกุลอภัยวงศ์)

ผมอาศัยข้อมูลจากภาค ๑ ประกอบกับภาค ๒ เป็นหลัก พร้อมทั้งคำบอกเล่าที่ผู้ใหญ่บางท่านเคยเล่าให้ฟังครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 05 เม.ย. 06, 14:00

แก้ไขครับ ...ผมอาศัยข้อมูลจากภาค ๑ ประกอบกับภาค ๓ เป็นหลัก พร้อมทั้งคำบอกเล่าที่ผู้ใหญ่บางท่านเคยเล่าให้ฟังครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 06 เม.ย. 06, 08:16
 เมื่อวานผมไปถ่ายรูปตึกทรงยุโรปดังกล่าวมาบางส่วนแล้วล่ะครับ แต่ยังไม่ได้ลดไฟล์ให้น้อยกว่า 50 KB จะลองพยายามดูนะครับ
ปล.รูปที่คุณ UP ลงไว้ประกอบก็ช่วยให้เห็นภาพของตึกหลังนี้ได้อย่างดีพอสมควรเลยล่ะครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 12:52
 มาโพสรูปตามสัญญาครับ รูปแรกเป็นตึกทรงยุโรปที่รพ.ครับ ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงซ่อมแซมอยู่


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 12:54
 ช่วงนี้กำลังซ่อมแซมภายนอกอยู่ครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 12:55

รูปของคคหที่ 34 ครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 12:58

รูปนี้ถ่ายจากมุมสูงจากตึกข้างๆจะเห็นความงดงามของโดมและลายปูนปั้นได้อย่างชัดเจนครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 13:01

รู้สึกว่ารูปที่แล้วจะไม่ค่อยชัดอย่างที่บรรยายแฮะ ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยครับ มือใหม่ รูปนี้เป็นรูปหลังคาตึกที่มีเครื่องวัดทิศทางลมทำจากโลหะรูปไก่ ตอนถ่ายมีนกมาเกาะที่หางไก่คุยกันสองตัวครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 13:06

รูปเมื่อครั้งที่รัชกาลที่ 6 ประพาสปราจีนบุรี และทรงประทับแรมที่ตึกทรงยุโรป


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 13:10

งานศพเจ้าพระยาอภัยภูเบศร "พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งศพบนตึกใหญ่ที่ท่านสร้างไว้รับเสด็จ นับเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้พำนักร่างของท่านบนตึกที่สร้างขึ้นด้วยแรงแห่งความจักรักภักดีต่อพระบรมราชจักรีวงศ์ พร้อมพระราชทานโกศและเครื่องประกอบเกียรติยศศพตามเกียรติยศเจ้าพระยาทุกประการ"


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 13:12

ภาพขณะเคลื่อนย้ายศพจากตึกใหญ่ไปยังวัดแก้วพิจิตร


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 13:14

ภาพในช่วงที่ใช้ตึกใหญ่เป็นโรงพยาบาล


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 13:15

บรรยากาศในโรงพยาบาล ซึ่งได้ชื่อว่าสวยที่สุดในสมัยนั้น


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 13:16

ภาพถ่ายมุมเดียวกันในปัจจุบัน


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 13:18

ที่สวนหย่อมด้านหน้าอนุสาวรีย์ของท่าน มีรูปปั้นไก่เรียงราย เยอะพอสมควรทีเดียวครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 13:21

วันที่ไปถ่ายรูป คงมีคนมาบนไก่ชนจริงๆ เลยได้ภาพนี้แหละครับ มีไกชนตัวเล็กๆ 3 ตัวตีกันอยู่ครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 13:23

รูปโรงพยาบาลในปัจจุบันครับ รูปนี้เป็นตึกผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยฉุกเฉินครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 13:24

ต้นไทรใหญ่หน้าโรงพบาบาลครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 13:36

ที่ด้านล่างต้นไทรมีพระนามาภิไธยย่อของ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ และพระนางเจ้าสุวัทนาฯ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 13:38

รูปสุดท้ายแล้วครับ เป็นแม่น้ำปราจีนที่ผ่านหน้าโรงพยาบาล ที่เห็นสีฟ้าๆคือกระชังเลี้ยงปลาทับทิมครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 07 เม.ย. 06, 13:40
 รูปของวัดแก้วพิจิตรของติดไว้ก่อนนะครับ ถ้ามีโอกาสไปวัดเมื่อไหร่จะเก็บมาฝากชาวเรือนไทยทุกคนครับ
ปล.กลับหอผู้ป่วยก่อนล่ะครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 07 เม.ย. 06, 17:54
 ขอบคุณคุณนทีสีทันดรมากครับสำหรับภาพ โดยเฉพาะภาพในความเห็นที่ ๔๘ ผมไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าที่ป้ายโรงพยาบาลยังมีอักษรพระนามของทั้งสองพระองค์ติดอยู่ เพราะป้ายแรกดั้งเดิมที่สมเด็จเจ้าฟ้าฯ เสด็จมาทรงเปิดนั้น ก็มีอักษรพระนามของทั้งสองพระองค์แบบนี้ แต่ทำด้วยไม้ แล้วจะหามาให้ชมครับ

ส่วนภาพที่ ๔๐ นั้นก็น่าดูมากทีเดียว วิธีเชิญโกศศพของท่านเจ้าพระยาฯ ไม่ได้ใช้วิธีหิ้วลงบันไดภายในอาคารอย่างปกติ แต่ใช้วิธีต่ออัฒจันทร์ไม้ชั่วคราวยกลงมาจากระเบียงชั้นบนอย่างนั้นเลย

เคยได้เห็นในหนังสืองานศพของคุณวนิดา แก่นอบเชย มีภาพขณะที่เชิญศพท่านเจ้าพระยาฯ ล่องแพใหญ่ไปตามแม่น้ำปราจีนบุรีไปยังวัดแก้วพิจิตรด้วย ดูโก้มาก

ไม่ทราบที่โรงพยาบาลมีภาพนั้นมั้ยครับ ถ้ามี รบกวนคุณนทีสีทันดรถ่ายมาให้ชมกันหน่อย พอดีผมไม่มีหนังสืองานศพเล่มนั้นอยู่ในมือครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 07 เม.ย. 06, 22:04
 มีคนจำนวนไม่น้อยเข้าใจว่าต้นสกุลอภัยวงศ์นั้นเป็นเขมร บ้างก็ตั้งข้อรังเกียจ ทั้งนี้คงจับความเอาจากการที่บรรพบุรุษหลายชั่วคนเป็นเจ้าเมืองพระตะบอง แท้จริงแล้วต้นตระกูลคือ เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) ซึ่งเป็นคนไทยเกิดสมัยปลายอยุธยา แต่รับพระบรมราชโองการจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ให้ไปปกครองเขมรต่างพระเนตรพระกรรณ

จริงอยู่ บรรพชนในสกุลหลายคนเกิดที่เขมร บ้างก็ไปดองกับเจ้านายเขมรด้วย แต่สมัยโน้นพระตะบองเป็นส่วนหนึ่งของไทย จึงถือได้โดยนิตินัยว่าท่านเหล่านั้นเป็นไทย

เมื่อพุทธศักราช ๒๕๐๖ นายควง อภัยวงศ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้แสดงปาฐกถาเรื่องชีวิตของท่านเอง ณ หอประชุมคุรุสภา ท่านได้กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า

"แน่ละ การที่เราไปอยู่เมืองเขมรมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ จนกระทั่งปลายรัชกาลที่ ๕ นั้น การปะปนระหว่างเขมรกับพวกผมนี่มีมากมาย ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร คราวนี้ท่านก็พิจารณาเอาเองเถิดว่าผมจะเป็นเขมรหรือคนไทย"


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 08 เม.ย. 06, 13:31
 ผมจะลองไปหารูปที่คุณ UP พูดถึงดูนะครับ
ขอนอกเรื่องแ๊ป๊บนึงนะครับ เมื่อวานซืนนั่งรถผ่านสถานีตำรวจภูธร เห็นศาลเจ้าพ่อสำอางอยู่ และเผอิญผมได้มีโอกาสไปพักที่บ้านท่านผู้ว่าฯก็พบว่ามีปล่องชิ้นส่วนของโรงงานล้างแร่ทองคำในสมัยพระปรีชากลการ (สำอาง อมาตยกุล) อยู่ด้วย  วันหลังจะลงรูปให้ดูนะครับ เห็นว่าเรื่องของพระปรีชากลการน่าสนใจดี แม้ท่านจะถูกประหารชีวิตแต่ชาวปราจีนฯก็สร้างศาลให้ท่านเนื่องจากท่านทำประโยชน์ให้จังหวัดมากมาย เรื่องของท่านมีอยู่ในกระทู้นี้ครับ
 http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Cid=130&Pid=45442  


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 08 เม.ย. 06, 13:37
 ในคคหที่ 24 ครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: ออกญาธรรมาธิกรณ์ ที่ 09 เม.ย. 06, 00:53
 สวยครับ คุณนที

ป.ล.ขอโทษทีครับ ที่ไม่ได้เข้ามาตอบ เพราะเพิ่งเห็นครับผม ถ้าตอบก็คง เป็น 1 ใน 3 ของที่คุณอัพตอบครับ แหะๆ..


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: ออกญาธรรมาธิกรณ์ ที่ 09 เม.ย. 06, 11:58

อ่อ นำรูป พระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) มาให้ดูครับ

เจ้าพระยาอภัยภูเบศร แบน รู้สึกจะเป็นต้นตระกูล อภัยวงศ์ ใช่ไหมครับ และเป็นผู้สำเร็จราชการเมืองเสียมราช เป็นผู้ที่นำพระแสงขรรค์ไชยศรี พระแสงราชกกุธภัณฑ์ สำคัญที่หายสาบสูญไปของราชวงศ์เขมร ที่ชาวบ้านพบในทะเลสาบ มาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย รัชกาลที่ ๑

เมื่อพระแสงนี้มาถึง พระบรมมหาราชวัง ก็มีอัศนีบาต สำแดงอภินิหาร ลงมาที่ประตูพระบรมมหาราชวัง รัชกาลที่ ๑ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งชื่อ ประตูว่า วิเศษไชยศรี  ครับผม


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: ออกญาธรรมาธิกรณ์ ที่ 09 เม.ย. 06, 12:06
 เมื่อสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ ฯ และพระนางเจ้าสุวัทนาฯ เสด็จทรงเปิดโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 09 เม.ย. 06, 12:42



ครับ ท่านออกญาฯ เรื่องพระแสงขรรค์ไชยศรีนั้น พระยาเทวาธิราช (ป.มาลากุล) สมุหพระราชพิธี บันทึกไว้ว่า



"พระแสงขรรค์ไชยศรี พระแสงองค์นี้ ตัวพระขรรค์เป็นของเก่า ฝีมือทำงามนักแล เป็นฝีมือเดียวกันกับพระนครวัด จมตกอยู่ในท้องทะเลสาบนครเสียมราฐ ชาวประมงทอดแหได้เมื่อปี พ.ศ.๒๓๒๗ เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) ให้ข้าราชการนำมาทูลเกล้าฯ ถวาย เมื่อวันที่พระแสงนี้มาถึง อัศนีบาตตกลงในพระนครถึง ๗ แห่ง มีที่ประตูวิเศษไชยศรี และประตูวิมานไชยศรี (พิมานไชยศรี--UP) เป็นต้น อันเป็นทางที่พระแสงขรรค์อังค์นี้ได้ผ่าน และการที่ประตูพระบรมมหาราชวังมีสร้อยชื่อว่า 'ชัยศรี' ทั้ง ๒ ประตู เช่นเดียวกับสร้อยชื่อพระแสงขรรค์องค์นี้ก็เพราะเหตุนั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดให้ทำด้ามและฝักขึ้นด้วยทองคำลงยาประดับมณี ใช้เป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์"



ประวัติเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) ผู้เป็นต้นสกุลอภัยวงศ์ และเป็น "ทวด" ของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม) นั้น ออกจะมีอีกมากพิสดาร แล้วจะนำมาเล่าให้ฟังต่อไปครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 09 เม.ย. 06, 12:44
 สำหรับคำบรรยายใต้ภาพในความเห็นที่ ๕๖ นั้นคลาดเคลื่อนครับ จริงๆ แล้วเป็นภาพ "เจ้า" พระยาอภัยภูเบศร ("ชุ่ม" อภัยวงศ์) ไม่ใช่พระยาอภัยภูเบศร (เลื่อม)

เข้าใจว่าท่านออกญาฯ นำมาจากหนังสือเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๖ รอบ ที่พิมพ์โดยสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ

ขอเรียนว่า คำบรรยายใต้ภาพเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม) ในหนังสือเล่มดังกล่าวผิดพลาดไปครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 เม.ย. 06, 13:38
 ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมชเล่าไว้ในเรื่อง ถกเขมร ถึงนายพุดศอร ไกด์ชาวเขมรที่เคยอยู่พระตะบองตอนเด็กๆ
แกเคยเห็นเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
ชมว่า  หน้าตาผิวพรรณงามนัก  สง่าผ่าเผย  หนวดก็งาม

ขอขยายความหน่อยว่า หนึ่งในวีทีมแถวๆนี้แหละ  เป็นเหลนทวดเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ค่ะ
แต่ดูรูปตั้งแต่ข้างบนจนข้างล่าง  แล้วยังดูไม่ออกว่ามีเค้าท่านไหน
คงต้องรอให้แก่เสียก่อน ค่อยดูกันอีกที


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 09 เม.ย. 06, 14:11
 ปริศนาคุณเทาชมพูครั้งนี้ยากเหลือเกิน (สำหรับผม)

หากเป็นเหลนปู่ทวดก็ง่ายที่จะค้นหาอยู่ หาไม่แล้วก็จนปัญญาจะสืบครับ อย่างไรก็ดี ฝากคุณเทาชมพูกรุณานำความไปแจ้งทายาทท่านเจ้าพระยาฯ มาเล่าเรื่องในสกุลให้ฟังบ้างสิครับ เผื่อจะมีที่ใดผิดพลาดไป เหลนท่านจะได้ทักได้แก้ไข ..ปล่อยให้ญาติตัวปลอมอย่างผมพูดอยู่คนเดียวมานานแล้ว ขายหน้าจริง..  


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 เม.ย. 06, 14:56
ถ้าหากว่าเปิดเสียงหน้าจอมอนิเตอร์ของคุณเหลนทวดให้คุณ UP ฟังได้
คงได้ยินเสียง "แหะๆ" เป็นคำตอบ

ไม่รู้ว่าเขาจะยอมเปิดตัวหรือเปล่านะคะ    

บางทีเหลนซึ่งเกิดทีหลังเป็นร้อยปีก็อาจจะรู้ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับคุณทวด ไม่มากเท่าผู้ที่สนใจศึกษาเรื่องราวของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  
บรรดาผู้รู้ก็กรุณาอย่าขวยเขินว่ามาเจอเหลนตัวจริง    กรุณาเล่าต่อเป็นวิทยาทานให้ผู้สนใจทั่วไปได้ฟัง  รวมทั้งดิฉันและคุณเหลนด้วย


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 09 เม.ย. 06, 21:31
 ราชทินนาม "อภัยภูเบศร" นั้นมีผู้ได้รับพระราชทานกันหลายท่านครั้บ แต่ต้องไม่ซ้ำในเวลาเดียวกัน เท่าที่ปรากฏส่วนใหญ่อยู่ในสกุลอภัยวงศ์ เช่น ในรัชกาลที่ ๑ มี เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) ในรัชกาลที่ ๓ มี พระยาอภัยภูเบศร (นอง) ในรัชกาลที่ ๕ มี เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม) ในรัชกาลที่ ๖ มี พระยาอภัยภูเบศร (เลื่อม)

จากนี้ไป จะกล่าวถึงเจ้าพระยาอภัยภูเบศรท่านแรกสมัยรัชกาลที่ ๑ ผู้เป็นต้นสกุลอภัยวงศ์ และเป็น "ทวด" ของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม) ครับ

เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) เป็นคนไทยมีช่วงชีวิตอยู่ปลายกรุงศรีอยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ช่วงรัชกาลที่ ๑ ...ผมขอแอบตั้งสมัญญาให้ท่านเป็นคน "สามกรุง"

ก่อนเล่าเรื่องเจ้าพระยาฯ ขอทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนว่า เมื่อเสียกรุงศรีอยุธยาในพุทธศักราช ๒๓๑๐ กัมพูชาที่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของไทยมาแต่โบราณก็ตั้งตนขึ้นเป็นอิสระ แต่แล้วก็มีการจลาจลชิงราชสมบัติกัน ไม่สามารถปกครองให้ราบคาบได้ สู้กันไปสู้กันมา จนเจ้านายเขมรมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระมหากษัตริย์ไทยก็หลายครั้งหลายพระองค์ เช่น พระมหาอุปราชของเขมรที่มีพระนามว่า สมเด็จพระรามราชา ที่เห็นทีจะมีราชภัยก็เสด็จมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี

ในพุทธศักราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีศุภอักษรไปยังพระเจ้าแผ่นดินเขมรว่าบัดนี้บ้านเมืองไทยกลับสู่ภาวะปกติแล้ว ให้กัมพูชาจัดต้นไม้เงินทอง ราชบรรณาการ มาถวาย ฝ่ายสมเด็จพระนารายณ์ราชา พระเจ้ากรุงกัมพูชาก็ทรงปฏิเสธว่าสมเด็จพระเจ้ากรุงธนฯ ไม่ใช่เชื้อราชวงศ์อยุธยา ก็ทรงแข็งเมือง สมเด็จพระเจ้ากรุงธนฯ จึงโปรดฯ ให้พระยาอภัยรณฤทธิ์ (ทองด้วง) กับพระยาอนุชิตชาญชัย (บุญมา) ซึ่งต่อมาคือพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ กับสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ยกทัพไปปราบ จนตีได้เสียมราฐและพระตะบอง

ยังไม่ทันไร กองทัพไทยก็ยกกลับมากรุงธนบุรีเพราะมีข่าวลือว่าสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เสด็จสวรรคต ซึ่งไม่เป็นความจริง ฝ่ายเขมรก็ได้ใจ นึกว่าไทยยกทัพหนี เลยตีย้อนมาจนถึงเมืองตราดและจันท์

สมเด็จพระเจ้ากรุงธนฯ ทรงพระพิโรธมาก จึงโปรดฯ ให้พระยาอภัยรณฤทธิ์ (ทองด้วง) ท่านเดิมซึ่งตอนนั้นได้เป็นเจ้าพระยาจักรี แล้ว ยกทัพไปตีกัมพูชาอีก ทัพนี้ตีได้ถึง โพธิสัตว์ บริบูรณ์ บันทายเพชร อีกทางหนึ่ง สมเด็จพระเจ้ากรุงธนฯ โปรดฯ ให้ สมเด็จพระรามราชา เสด็จไปด้วยอีกทัพ ตีได้ บันทายมาศ และ พนมเปญ พอเห็นว่าเขมรได้บทเรียนพอสมควรแล้ว ทัพไทยก็กลับ แล้วก็กวาดต้อนครัวเขมรมาอยู่แถวราชบุรีนับหมื่นคน ส่วนสมเด็จพระรามราชานั้น สมเด็จพระเจ้ากรุงธนฯ โปรดฯ ให้ประทับอยู่รักษาเมืองกำปอด

ต่อมาอีกไม่กี่ปี สมเด็จพระนารายณ์ราชา พระเจ้ากรุงกัมพูชาก็เกิดทรงพระราชดำริกลับพระทัยอย่างไรก็ไม่ทราบ ทรงเห็นว่าพระองค์และสมเด็จพระรามราชาจริงๆ แล้วก็เป็นญาติกันแท้ๆ เทียว ทำศึกสงครามกันไปก็วุ่นวายเดือดร้อนพลเมืองไปเปล่าๆ จึงทำศุภอักษรมากราบบังคมทูลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนฯ ว่าขอมีไมตรีและขอสละราชสมบัติ ให้ สมเด็จพระรามราชา เสวยราชย์แทน

สมเด็จพระเจ้ากรุงธนฯ ทรงพระโสมนัสยินดี และทรงอภิเษกสมเด็จพระรามราชา เป็นกษัตริย์เขมรแทน เป็นอันว่าบ้านเมืองเขมรได้สงบสุขราบคาบแต่นั้นมา

ความส่วนนี้ยังเป็นการเกริ่นคร่าวๆ ถึงเรื่องเมืองเขมร เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) จะเริ่มมีบทบาทขึ้นหลังจากนี้


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 09 เม.ย. 06, 21:37
 แต่ก่อนจะเล่าเรื่องต้นสกุลอภัยวงศ์ต่อไป ขอเล่าเรื่องอาหารการกินสักนิด พอดี ผมมีอาจารย์ที่เคารพนับถือท่านหนึ่ง เป็น "เหลนเขย" ของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม) และมีเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทกันอยู่คนหนึ่งเป็น "ลื่อ" ของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เลยมีโอกาสได้ชิมรสมือกับข้าวแปลกๆ (แต่อร่อย) โดยรสมือของทายาทชั้น "หลาน" ของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม) อยู่หลายครั้ง

ฝากคุณเทาชมพูเรียนถามคุณเหลนด้วยว่าทำ "แหนมเขมร" เป็นหรือไม่ ผมนึกแล้วหิวขึ้นมาครามครันเพราะอร่อยมากและหาที่ไหนรับประทานไม่ได้เลย นอกจากฝีมือคนในสกุลอภัยวงศ์


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 09 เม.ย. 06, 21:57
 ความเห็นที่ ๖๓ ย่อหน้าที่ ๕ ขอเติมว่า "ในพุทธศักราช ๒๓๑๒"


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 10 เม.ย. 06, 22:17
 มาต่อเรื่องเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน)

ต้องขอพูดย้ำๆ ซ้ำๆ ว่า เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) กับเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม) ที่สร้างตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรนั้นเป็นคนละท่านกัน เกรงว่าท่านผู้เข้ามาอ่านใหม่ๆ จะสับสน

ปลายสมัยกรุงธนบุรี เขมรก็วุ่นวายเข้าทำนองเดิม แต่คราวขุนนางเป็นต้นเหตุไม่ใช่เจ้านายทะเลาะกันเอง

ขุนนางเขมรคนหนึ่งชื่อ พระยาวิบูลยราช (ซู) ยุแหย่ให้สมเด็จพระรามราชาทรงระแวงนักองค์ธรรม พระมหาอุปราช  และลอบฆ่าเสีย

สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงเห็นว่าเมืองกัมพูชามีเหตุจลาจลวุ่นวายมาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระยายมราช (แบน) ผู้คุ้นเคยกับสมเด็จพระรามราชามาแต่เดิม ให้ไป "ช่วยราชการ" เมืองกัมพูชา แต่จริงๆ แล้วก็มีนัยแฝงอยู่เหมือนกัน เพราะการส่งขุนนางไทยไปเช่นนี้ก็ออกจะเป็นการ "กำราบ" สมเด็จพระรามราชาอยู่กลายๆ ไม่ให้หลงอำนาจ อีกนัยหนึ่งก็ช่วย "คุ้มกัน" สมเด็จพระรามราชาด้วย

สาเหตุสำคัญอีกประการที่ส่งพระยายมราช (แบน) ไปดูแลเมืองเขมร คือ เขมรเป็นเมืองกันชนที่สำคัญของไทยกับญวน ถ้าไม่มีใครไปดูแล เกิดพลาดท่าเสียทีกับญวนจะลำบาก ไทยก็แอบระแวงฝ่ายกัมพูชาอยู่หน่อยๆ เหมือนกัน เพราะเวลากัมพูชามีปัญหาทีไร เจ้านายหรือขุนนางกัมพูชาก็หนีไปพึ่งญวนเสียบ่อยๆ

ต่อมา พระยาวิบูลยราช (ซู) บ่างช่างยุคนเดิมได้คบคิดกับเจ้านายเขมรพระองค์หนึ่งคือ "ฟ้าทะละหะ (มู)" ทำกบฏต่อสมเด็จพระรามราชา จับสำเร็จโทษเสีย แล้วฟ้าทะละหะก็ขึ้นปราบดาภิเษกเป็นกษัตริย์ มีพระยาวิบูลยราชเป็นเจ้าพระยากลาโหม

ถึงตอนนี้พระยายมราช (แบน) ก็ตกที่นั่งลำบาก เพราะพระยายามราชอยู่ในฐานะคนของสมเด็จพระรามราชา

เดชะบุญ เจ้าพระยากลาโหม (ซู) กับพระยายมราช (แบน) นั้นมีไมตรีกันอยู่ จึงรอดจากการสำเร็จโทษให้ตกตามกันไป


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 10 เม.ย. 06, 22:27
 แต่กระนั้น พระยายมราช (แบน) ก็ถูกส่งไปปกครองเมืองกะพงสวาย ซึ่งไกลปืนเที่ยงอยู่มากนัก

พงศาวดารระบุว่า สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงพระพิโรธอย่างหนักที่สมเด็จพระรามราชาถูกปลงพระชนม์ ทรงพระราชดำริว่าพระยายมราช (แบน) ไม่อาจอารักขาสมเด็จพระรามราชาได้ตามพระบรมราชโองการ จึงทรงขอให้ฟ้าทะละหะส่งตัวพระยายมราชกลับมา "รับโทษ"

แต่น่าแปลกที่ตลอดเวลาที่พระยายมราช (แบน) ถูกลงโทษจำคุก กลับอยู่อย่างสุขสบาย มีเจ้าพระยาจักรี (ทองด้วง) เป็นผู้ทำนุบำรุงอย่างดี

พิเคราะห์ไปก็เห็นจะเป็นพระบรมราชกุศโลบายของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ที่จะเรียกตัวพระยายมราช (แบน) กลับมา เผื่อวันข้างหน้าจะถูกระแวงและมีราชภัยจากฟ้าทะละหะ จึงทรงขอตัวกลับมาโดยอ้างว่าเพื่อจะนำมารับโทษนั้นเอง


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 11 เม.ย. 06, 01:37
 มาโพสรูปต่อตามสัญญานะครับ โพสเฉพาะรูปชิ้นส่วนเหมืองทองในสมัยพระปรีชากลการแล้วกันนะครับ ส่วนรูปวัดแก้วพิจิตรผมจะขึ้นในกระทู้ใหม่ กระทู้นี้จะได้ไม่ยาวจนเกินไป


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 11 เม.ย. 06, 01:39
 รูปปล่องชิ้นส่วนโรงงานล้างแร่ทองคำ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 11 เม.ย. 06, 01:41
 หวังว่ารูปจะขึ้นนะครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 11 เม.ย. 06, 01:42
 แงๆ รูปไม่ขึ้นอ่ะครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 11 เม.ย. 06, 01:46
 งั้นเอาไว้ผมลงในกระทู้ใหม่หมดทีเดียวแล้วกันครับ T-T


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 11 เม.ย. 06, 02:20
 ในพุทธศักราช ๒๓๒๕ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนฯ ทรงทราบว่าเจ้าฟ้าทะละหะไปฝักใฝ่ญวน จนถึงขั้นบังอาจจะยกทัพมาทำสงครามกับไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าลูกเธอ กรมขุนอินทรพิทักษ์ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (ทองด้วง) และเจ้าพระยาสุรสีห์ (บุญมา) คุมทัพสามขบวนไปตีเขมร

สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้ขอพระบรมราชานุญาตให้นำตัว พระยายามราช (แบน) ออกจากคุก เพื่อร่วมทัพไปด้วย ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตามที่กราบบังคมทูลขอ

แต่แล้วก็เกิดเหตุร้ายในกรุงธนบุรี เป็นอันต้องเลิกทัพกลับจากกัมพูชา คืนสู่กรุงธนบุรี

เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสวยราชย์แล้ว เจ้าฟ้าทะละหะก็ยังคิดชักชวนญวนให้มาทำสงครามกับไทยอีก คราวนี้เจ้าพระยากลาโหม (ซู) ไม่เห็นด้วยกับเจ้าฟ้าทะละหะ จึงมีหนังสือบอกมาจากเมืองเขมร กราบบังคมทูลขอตัวพระยายมราช (แบน) ไปช่วยกัมพูชาสู้กับญวน อ้างว่าเพื่อนำกัมพูชากลับมาสวามิภักดิ์ต่อกรุงเทพฯ อย่างเดิม พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ จึงพระราชทานพระบรมราชานุญาต

เมื่อพระยายมราช (แบน) คุมทัพออกไปเมืองเขมรแล้ว ก็จับเจ้าฟ้าทะละหะสำเร็จโทษเสีย

จากนั้น พระยายมราชเองก็ได้เป็น "ฟ้าทะละหะ (แบน)" สำเร็จราชการกรุงกัมพูชาอยู่ระยะหนึ่ง พอขุนนางเขมรอีกฝ่ายที่เริ่มตั้งตนเป็นใหญ่ เตรียมขึ้นชิงอำนาจ ฟ้าทะละหะ (แบน) ก็ไหวตัวทัน รีบยกทัพกลับกรุงเทพมหานคร พร้อมนำเสด็จเจ้านายกัมพูชามาด้วยหลายองค์ ที่สำคัญคือ นักองค์อี และ นักองค์เภา ซึ่งต่อมาคือพระสนมเอกในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท และ นักองค์เอง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ทรงชุบเลี้ยงเป็นพระราชโอรสบุญธรรม

ส่วนชาวบ้านที่กวาดต้อนมาก็ให้ไปตั้งบ้านเรือนอยู่แถววัดสมอราย (วัดราชาธิวาส) ปัจจุบันเรียกว่า "ชุมชนบ้านเขมร"

เมื่อกลับกรุงเทพมหานครแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ทรงรำลึกถึงความจงรักภักดีของพระยายมราช (แบน) จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งเป็น

"เจ้าพระยาอภัยภูเบศร วิเศษสงคราม รามนรินทรบดี อภัยพิริยบรากรมพาหุ"

เป็นเจ้าพระยาคนแรกของสกุลอภัยวงศ์


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 11 เม.ย. 06, 02:25
 การจลาจลวุ่นวายในเขมรยังไม่จบแค่นั้น

เมื่อพระอนุชาของเจ้าฟ้าทะละหะ (มู) เรืองอำนาจ และได้เป็นฟ้าทะละหะ (แทน--ชื่อตัวว่าแทน ..ไม่ได้หมายความว่ามาแทนที่) ก็ได้มีหนังสือกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ขอพระราชทานนักองค์เองออกไปครองกรุงกัมพูชา พระพุทธยอดฟ้าฯ ทรงเกรงภยันตรายจะเกิดแก่พระราชโอรสบุญธรรม เพราะนักองค์เองยังทรงพระเยาว์นัก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) ออกไปว่าราชการต่างพระเนตรพระกรรณพลางก่อน

ฟ้าทะละหะ (แทน) ก็อึ้ง พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ก็จำต้องยอมรับอำนาจของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) ไปโดยปริยาย


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 11 เม.ย. 06, 02:28

การออกไปราชการเมืองเขมรครั้งนี้เอง ที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) ได้พระแสงขรรค์ชัยศรีจากทะเลสาบเขมร จึงได้ให้นำมาทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ที่กรุงเทพฯ ดังที่เล่าไว้ในความเห็นที่ ๕๘


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: หนูหมุด ที่ 11 เม.ย. 06, 11:04
 มาลงชื่อให้กระทู้คุณ up
เคยแต่ใช้ยาดมยี่ห้อนี้คะ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: วันเสาร์ ที่ 12 เม.ย. 06, 15:44
 ถ้าจำไม่ผิด ในราวอีก1-2 ปีข้างหน้าตึกเก่าหลังนั้นจะมีอายุครบ 100ปี เดาว่าทางมูลนิธิโรงพยาบาลคงจะจัดงานเฉลิมฉลองบ้างกระมัง


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 13 เม.ย. 06, 00:58
 มาต่อเรื่องเจ้าพระอภัยภูเบศร (แบน) ให้จบครับ

เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) ได้ปกครองบ้านเมืองเขมรให้ผาสุกสวัสดีมาได้ ๑๒ ปี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ทรงพระราชดำริบรรดาโอรสของนักองค์เอง (สมเด็จพระนารายณ์รามาธิบดี) ที่ทรงชุบเลี้ยงอยู่ในกรุงเทพมหานครนั้นเจริญอายุพอสมควรจะทรงส่งออกไปปกครองเป็นพระเจ้าแผ่นดินเขมรแล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็ทรงพระราชดำริว่าเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) มีความชอบใหญ่หลวง ครั้นจะเรียกตัวกลับก็ไม่ควร แต่ครั้นจะให้รับราชการอยู่เขมรต่อไป ก็น่ากลัวจะเกิดเรื่องวิวาทบาดหมางกับนังองค์เอง อยู่ไปก็อาจจะระแวงกัน

ด้วยเหตุนี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ จึงทรงขอกันเมืองพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ มงคลบุรี และระสือ รวม ๕ เมือง ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนไทย มาขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานคร และโปรดฯ ให้เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) มีสิทธิปกครองโดยเด็ดขาดถึงขนาดเก็บภาษีได้เอง ทั้งนี้ นักองค์เองก็ทรงยินยอม

ตระกูลอภัยวงศ์จึงได้ปกครองเขตแดนนั้นสืบมาหลายชั่วอายุคน จนถึงสมัยรัชกาลที่ ๕ ในยุคของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม) เป็นคนสุดท้าย

ลูกหลานเหลนอภัยวงศ์หลายคนก็เกิดที่นั้น จริงๆ แล้วทางการเมืองก็ถือว่าเป็นแดนไทยมาตลอด เพราะแยกต่างหากจากการปกครองของกัมพูชาในฐานะประเทศราช

เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) เจ้าเมืองพระตะบองและดินแดนใกล้เคียง ได้ปกครองบ้านเมืองอยู่ ๑๖ ปี จึงถึงแก่อสัญกรรมเมื่อพุทธศักราช ๒๓๕๓


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 13 เม.ย. 06, 01:56
 มาลงชื่ออ่านครับ ขอบพระคุณสำหรับเรื่องราวดีๆครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 15 เม.ย. 06, 03:08

ประตูพิมานไชยศรีที่ตำนานกล่าวว่าฟ้าผ่าเมื่อเชิญพระแสงขรรค์ชัยศรีลอดผ่าน (ดูความเห็นที่ ๗๕) ครับ

แต่ในรัชกาลที่ ๑ ลักษณะประตูยังไม่ได้เป็นฝรั่งแบบนี้ เพิ่งมาแปลงเป็นประตูอย่างฝรั่งเมื่อรัชกาลที่ ๕ ครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 15 เม.ย. 06, 03:13

ภาพพระแสงขรรค์ไชยศรีสวมปลอกครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 15 เม.ย. 06, 03:14
 พูดปลอกไปแล้วก็ระลึกขึ้นได้ว่าควรจะเรียก "ฝัก" มากกว่า ขอแก้เป็นฝักนะครับ ขอประทานโทษ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 16 เม.ย. 06, 01:20
 ได้กลิ่นตงิดๆ ไม่ทราบว่าสัญชาตญาณผิดพลาดหรือไม่ ว่ามีทายาทเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเข้ามาเฉวียนฉวัดแถวนี้ ไม่ทราบว่าหิ้วแหนมเขมรที่ผมโหยหามาฝากหรือไม่ เอาเป็นว่าใครก็แล้วแต่ที่ทราบเรื่องเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และเกร็ดต่างๆ ในสกุลอภัยวงศ์เพิ่มเติม ก็อย่ารีรอมาเล่าสู่กันฟังเพิ่มเติมนะครับ

เขาร่ำลือกันมาว่า เมื่อเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม) ขนทรัพย์สินถอนครัวเรือนจากเขมรเป็นกองคาราวานใหญ่เข้าสู่พระนครนั้น ทรัพย์สินเงินทองท่วมหัวท่วมหูไปหมด แม้แต่ทองแท่งหนักๆ เป็นแท่งๆ ก็มีไม่น้อย บุคคลในสกุลอภัยวงศ์เคยเล่าเกร็ดสนุกๆ ให้ฟังว่าสมัยนั้นเวลานอนแล้วสิ่งที่ลูกบ้านอภัยวงศ์จะนำมาทับชายมุ้งกันลมพัดตลบขึ้นนั้นคือ......

"ทองคำแท่ง" ครับ !


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 เม.ย. 06, 07:53
เหลนเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  กระมิดกระเมี้ยนหลังไมค์มาบอก ด้วยความไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัว ว่า
เป็นปลายสายห่างๆของเจ้าพระยาอภัยฯ หาใช่ทายาทไม่

แต่ดิฉันว่าไม่ห่างนะคะ ใกล้เชียวละ  เพราะคุณย่าเป็นลูกสาวคน(เกือบ)สุดท้องของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  มีน้องชายหรือไม่ก็น้องสาวอีก ๑ คน

เรื่องราวลึกๆจริงๆของตะกูลอภัยวงศ์ เจ้าตัวออกตัวว่าไม่ทราบมาก  จริงๆแล้วคุณ UP เธอก็เล่าเกือบจะทุกเรื่องที่ทราบไปหมดแล้ว
หลายๆเรื่องละเอียดและดีกว่าที่ทราบอีก

เหลนคนนี้ไม่เคยกินแหนมเขมรค่ะ
อาหารเขมรอย่างเดียวที่คุณย่าเคยทำให้รับประทานคือ ปอเปี๊ยะทอดสูตรเขมร
จริงๆแล้วก็คล้ายกับปอเปี๊ยะทอดของญวนแต่น้ำจิ้มต่างกัน
น้ำจิ้มของญวนเป็นผักดอก แต่ของเขมรเป็นพริกกระเทียม

คุณย่าเคยเล่าให้ฟังว่าท่านเกิดที่จังหวัดปราจีนบุรี
ไม่ได้เกิดที่พระตะบอง คงจะไม่ทราบเรื่องการย้ายเมืองจากพระตะบองมายังปราจีน
ที่อาจจะน่าสนใจหน่อยก็ตรงที่คุณย่าเป็นลูกสาวคนโปรดคนหนึ่ง
และเป็นลูกอยู่ดูแลเจ้าพระยาอภัยฯอย่างใกล้ชิด
เรียกว่านอนอยู่เป็นเพื่อนด้วยตลอดในช่วงปลายของชีวิต

ท่านเจ้าพระยาอภัยฯป่วยเป็นโรคเบาหวาน  และเดินไม่ค่อยได้
ท่านปลูกเรือนหลังเล็กๆแยกอยู่ต่างหากจากลูกหลานคนอื่นๆ
ในคืนที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรถึงแก่อสัญกรรม  คุณย่าก็นอนเฝ้าอยู่

คุณย่าคงจะอายุสิบต้นๆ  คุณย่าเล่าว่าท่านจากไปอย่างสงบ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 18 เม.ย. 06, 09:00
 ว้า..งั้นผมจะได้เลิกร้องเพลงรอครับ หวังใจว่าจะได้พบคุณเหลนเป็นการส่วนตัวในวันข้างหน้า เผื่อว่าจะกรุณาเล่าอะไรเพิ่มเติมได้อย่างไม่กระมิดกระเมี้ยน

ส่วนแหนมเขมรนั้น เห็นทีคุณเหลนจะต้องไปถามลูกหลานของพระอภัยพิทักษ์ที่ไปดองกับสกุลวรทัตครับ ท่านเป็นเจ้าของสูตร อย่างไรก็ดี ...น้ำจิ้มพริกกระเทียมของปอเปี๊ยะก็น่าสนใจ ...หิวครับ


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: UP ที่ 18 เม.ย. 06, 09:02
 พิมพ์ผิดครับ ขอแก้ไขพระอภัยพิทักษ์เป็น "พระอภัยวงศวรเศรษฐ"

พระอภัยวงศวรเศรษฐคือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเจ้าพระยาอภัยภูเบศรครับ ท่านยกทรัพย์สินทั้งหมดให้พระอภัยวงศฯ รวมทั้งตึกเจ้าพระยาอภัยฯ ในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรด้วย

แต่คุณพระอภัยฯ ท่านก็มีความจงรักภักดีล้นเหลือไม่แพ้เจ้าคุณบิดา จึงน้อมเกล้าฯ ถวายทรัพย์สินส่วนนั้นแด่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ และพระนางเจ้าสุวัทนาฯ ทั้งหมด


กระทู้: เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เริ่มกระทู้โดย: หมูน้อยในกะลา ที่ 18 เม.ย. 06, 12:44
 ขออนุญาต มาลงชื่ออ่าน เรื่องดีๆด้วยคนครับ