ออกขุน ตั้งคำถามไว้ว่า
น่าจะถามคุณหลวงเล็กเสียเหลือเกินว่า "วัดนอกกำแพงพระนคร...ท่านควรเอาไปปล่อยวัดใด ช่วยบอกข้าพเจ้าด้วยเทอญ"
วัดอะไรอยู่นอกกำแพงพระนคร ก็เอาไปปล่อยได้ทั้งนั้น จะต้องให้ระบุด้วยหรือ
ถ้าจะระบุวัด แสดงว่าคนออกกฎน่าจะมีนอกมีในอะไรกับพระวัดนั้นเป็นแน่
หรือไม่วัดที่ถูกระบุ คงจะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ย่อยๆ ขี้ไก่คงเหม็นคลุ้งไปทั้งวัด
ที่ท่านไม่ระบุ ก็เพราะให้ผู้นำไก่ไปปล่อยพิจารณาตามความเหมาะสม ความสะดวก และสติปัญญาของตนเอง
จะไปปล่อยไกลถึงวัดแถวทุ่งรังสิต แขวงเมืองปทุม หรือวัดศรีเอี่ยม แถบทุ่งบางพลี ก็ไม่ว่ากัน
อันที่จริง เมื่อหลายปีมาแล้ว ถ้าใครพอยังจำข่าวเรื่องมีการปลงพระชนม์ชีพพระราชวงศ์กษัตริย์เนปาลในพระราชวัง
ซึ่งเป็นข่าวครึกโครมสะเทือนใจไปทั่วโลก หลังจากที่ได้มีการจัดการพระศพในคราวนั้นแล้ว
ได้มีการทำพิธีคล้ายกันกับไทย คือ มีการเชิญพราหมณ์คนหนึ่งมาทำพิธีปัดรางควานในพระราชวัง
และเลี้ยงอาหารแก่พราหมณ์นั้นอย่างอิ่มหนำสำราญ เมื่อพราหมณ์เหวยเสร็จแล้วก็ได้เวลาเนรเทศพราหมณ์
คือให้พราหมณ์ขึ้นช้างออกไปนอกเมืองไกลๆ พราหมณืนี้เอง เป็นผู้อาสานำความอัปมงคลที่เกิดขึ้นออกไปจากพระราชวัง
โดยใช้ตนเองเป็นพาหะ ผมจำไม่ได้ว่่า พราหมณ์ผู้นั้นจะต้องไม่มาเข้าใกล้หรือเข้ามาในเมืองนั้นเป็นเวลานานเท่าใด
อาจจะเป็นเวลาหลายปี หรืออาจจะตลอดชีวิต ความเชื่อนั้นก็เป็นเหมือนกับการเอาไก่พาสิ่งอัปมงคลไปปล่อยที่วัด
ส่วนที่ตัดหางไก่นั้น เข้าใจว่า เป็นการทำให้เป็นเครื่องหมายสังเกตว่า นี่คือไก่ที่เขาเอามาปล่อยสะเดาะเคราะห์
หรือปล่อยเสนียด ใครเห็นเข้าก็รู้ จะไม่หลงเข้าใจว่าเป็นไก่ใครหลุดมา (ไก่หลง) แล้วจับเอาไปเลี้ยงหรือทำแกงกิน
ส่วนการตัดไก่ ก็คือทำให้เสียโฉม (แต่ไม่เสียเลือดเสียเนื้อ) ของเสียโฉมถือเป็นของอัปมงคล
แม้แต่พระพุทธรูป เทวรูป ตุ๊กตา ศาลพระภูมิ หรือสิ่งของอันใดที่หัก แตก มีรอยร้าวรอยราน ชาวบ้านมักถือว่า
ไม่ควรเก็บไว้ใช้ จะเป็นเสนียดแก่ตัวแก่บ้านและครอบครัว ให้เอาไปจำเริญ (ทิ้ง) ตามโคนโพธิ์โคนไทร
ตามวัดวาอาราม หรือทางแพร่ง ไก่ที่ตัดหางแล้ว ก็เหมือนของที่ชำรุด ต้องเอาไปปล่อยที่วัด (ของดีๆ ไม่ยักกะเอาไปปล่อยวัด)
แต่ขนหางไก่นั้น เมื่อถึงเวลาหนึ่ง ขนหางที่ถูกตัดไป ก็จะหลุดไป มีขนหางใหม่งอกขึ้นมาแทน
พอไก่ขนงามดังเดิม ทีนี้ก็ตัวใครตัวมัน ถ้าไก่เดินออกมานอกวัด ก็อาจจะถูกจับไปเลี้ยงหรือ ลงหม้อ ก็ได้
การใช้ไก่เป็นของพาเคราะห์ หรือรับเคราะห์แทนนี้ ก็คล้ายๆ กับเอาตุ๊กตาดินปั้นใส่กระบะกาบกล้วยหรือกระทงบัตรพลี
ไปเซ่นตามทางสามแพร่ง (สี่แพร่ง ห้าแพร่งก็ได้) แล้วต่อยให้หัวตุีกตาหลุด เพื่อเป็นการสะเด๊าะเขราะห์ ต่อชะตา
เหมือนกัน