กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 22 พ.ค. 12, 10:15 เมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังสำนักช่างสิบหมู่ เพื่อวาดสีจรดพู่กันปิดภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ ที่มีความกว้าง ๓.๒๐ เมตร และมีความยาว ๑๖ เมตร
กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 22 พ.ค. 12, 10:26 เหตุแห่งการจัดทำภาพไตรภูมิ เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นร้อยปี ยังไม่มีการวาดภาพไตรภูมิขึ้นไว้เลย มีแต่ไตรภูมิฉบับกรุงธนบุรี ซึ่งคัดลอกต่อ ๆ กันมาและเทคโนโลยีการพิมพ์เข้ามามีบทบาท การคัดลอกด้วยลายมือจึงด้อยและถดถอยลงไป ดังนั้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คณะกรรมการจึงมีมติให้สร้างภาพไตรภูมิขึ้นเพื่ออนุรักษ์วิถีและปรัชญาเก่าแก่ของไทยไว้
กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 22 พ.ค. 12, 10:32 อ.ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติและ อ.ปัญญา วิจินธนสาร พร้อมลูกศิษย์อีกร่วม ๒๐ คนร่วมแสดงฝีมือวาดภาพไตรภูมิ โดยใช้ต้นแบบจาก "ไตรภูมิพระร่วง" สมัยกรุงสุโขทัยแต่มาวาดใหม่ให้สมบูรณ์ขึ้น
ไตรภูมิเป็นองค์ประกอบพื้นฐานในงานศิลปะไทยเกือบทุกแขนง ด้านสถาปัตยกรรม วัด วัง ตลอดจนกระทั่งบายศรีปากชาม ยังสะท้อนแนวคิดเรื่องไตรภูมิ ขอขอบคุณภาพจาก สำนักช่างสิบหมู่ ครับ กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 22 พ.ค. 12, 11:16 ไตรภูมิพระร่วง เป็นคำที่เรียกใช้วรรณกรรมทางศาสนาที่แต่งขึ้นโดยพระยาลิไท โดยสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงนิยามไว้ "ไตรภูมิพระร่วง" เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระยาลิไท ที่นำมาตีพิมพ์ใหม่เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๕
ชื่อดั้งเดิมชื่อ "เตภูมิกถา" ประกอบด้วย ๓ ภูมิ คือ กามภูมิ, รูปภูมิ และอรูปภูมิ และช่างไทยได้ถ่ายทอดเนื้อหาออกมาในรูป สวรรค์, มนุษย์ และนรก กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 22 พ.ค. 12, 11:22 "ปลาอานนท์พลิก" ก่อให้เกิดแผ่นดินไหว
"นรกโลกันต์" ตายไปก็ถูกเพลิงเผาผลาญ หรือ ปีนต้นงิ้วเป็นต้น...เปรต ก็ได้อาศัยวรรณกรรมเรื่องไตรภูมินี้สร้างตัวตนขึ้นมา "สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ชั้นพรหม ชั้นดุสิต" แวดล้อมไปด้วยสิ่งสวยงามทั้งปวง เหล่านี้ล้วนเป็นคติที่คนไทยได้รับอิทธิพลจากวรรณกรรมดังกล่าว แต่โดยมากแล้วจะเน้นไม่ให้คนทำชั่ว ในภาพไตรภูมิจะเห็นบ่อนรกในชั้นที่แตกต่างกันไป กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 22 พ.ค. 12, 11:43 เอ ออกขุน ปลาอานนท์ มีเพื่อนหรือเปล่า มีอยู่ตัวเดียวท่าจะเหงาแย่
โลกันตนรก ที่ออกขุนว่ามา ใช่หรือ มีต้นงิ้วด้วย ??? กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 22 พ.ค. 12, 13:59 เอ ออกขุน ปลาอานนท์ มีเพื่อนหรือเปล่า มีอยู่ตัวเดียวท่าจะเหงาแย่ โลกันตนรก ที่ออกขุนว่ามา ใช่หรือ มีต้นงิ้วด้วย ??? ถ้าปลาอานนท์เหงา ก็เข้าไปว่ายที่ทะเลสีทันดรก็ได้ มีปลาว่ายเป็นเพื่อน 8) กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 24 พ.ค. 12, 20:00 โลกันตนรก ที่ออกขุนว่ามา ใช่หรือ มีต้นงิ้วด้วย ??? นรกภูมิ (นิรยภูมิ) มีมหานรกใหญ่ทั้ง ๘ ขุม คือ ๑. สัญชีพนรก "นรกให้ตายแล้วกลับเป็น" ๒. กาลสุตตนรก "นรกด้ายดำ" ๓. สังฆาฏนรก "นรกบดขยี้" ๔. โรรุวนรก "นรกอื้ออึงด้วยเสียงร้องไห้ครวญคราง" ๕. มหาโรรุวนรก "นรกอื้ออึงด้วยเสียงร้องไห้ครวญครางเป็นการใหญ่" ๖. ตาปนรก "นรกเร่าร้อน" ๗. มหาตาปนรก "นรกเร่าร้อนยิ่ง" ๘. อเวจีนรก "นรกปราศจากช่องว่าง" นอกจากมีนรกใหญ่ ๘ ขุมแล้ว ก็ยังมีนรกบริวารอีก ๑๖ ขุมด้วย ใต้พื้นเขาจักรวาฬ คือ "โลกันตนรก" สัตว์ทั้งหลายย่อมกัดกินเนื้อกัน ผู้ที่เห็นผิดเป็นชอบ ไม่รู้จักคุณพระรัตนตรัย ฆ่าพ่อฆ่าแม่ ย่อมเกิดในนรกนี้ โลกันตนรกนี้ ไม่ถือเป็น "นรก" ตามไตรภูมิพระร่วง กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 24 พ.ค. 12, 20:11 เอ ออกขุน ปลาอานนท์ มีเพื่อนหรือเปล่า มีอยู่ตัวเดียวท่าจะเหงาแย่ มิเหงาดอกใต้เท้า เพื่อนเยอะ ตั้ง ๗ ตัวนิ กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 25 พ.ค. 12, 09:35 แล้วปลาใหญ่ตั้ง ๗ ตัว จะให้ปลาอานนท์หนุนแผ่นดินโลกอยู่ตัวเดียวหรือ
อย่างนี้ เขาเรียกว่ากินแรงน่ะสิ ที่ตั้งคำถามทักท้วงขึ้นมา ก็เพราะว่า โลกตามไตรภูมิพระร่วง หรือ เตภูมิกถา กับไตรภูมิตามความเชื่อหรือการรับรู้สืบต่อกันมาของคนทั่วไป มีความแตกต่างกัน ไตรถูมิพระร่วงนั้น ว่าตามรายละเอียดที่เก็บประมวลข้อมูลตามพระบาลีในคัมภีร์ต่างๆ หลายสิบเล่ม มาเป็นหนังสือเล่มเดียว แต่ความเชื่อของชาวบ้านมักไม่อิงคัมภีร์ เป็นแต่ฟังคำพระเทศนาบ้าง ดูภาพฝาผนังบ้าง ผนวกกับความเชื่อของชาวบ้านแต่ละที่แต่ละถิ่น ย่อมมีรายละเอียดผิดแผกจากคัมภีร์บาลี การจะสรุปว่า ความเชื่ออย่างนี้ๆ มาแต่หนังสือไตรภูมิพระร่วง ก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะเรื่องนรกสวรรค์ ยังมีอยู่ในเรื่องพระมาลัย ซึ่งแต่ก่อนนิยมสวดฟังกันตามบ้าน ในงานศพ หรือ งานแต่งงานในยุคก่อนนั้น ภาพนรกสวรรค์ที่คนทั่วไปจำได้น่าจะมาจากพระมาลัย ซึ่งมีรายละเอียดส่วนใหญ่พ้องกับไตรภูมิ แต่ไตรภูมิมีรายละเอียดมากกว่า อย่างไรก็ดี มีผู้รู้กล่าวไว้ว่า หนังสือไตรภูมิพระร่วงไม่ใช่หนังสือที่คนรู้จักแพร่หลายมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย คนไทยรู้จักโลกสัณฐานตามไตรภูมิจากแหล่งความรู้อื่น และรู้มาก่อนที่จะมีไตรภูมิพระร่วง น่าคิดเหมือนกัน กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 25 พ.ค. 12, 10:31 แล้วปลาใหญ่ตั้ง ๗ ตัว จะให้ปลาอานนท์หนุนแผ่นดินโลกอยู่ตัวเดียวหรือ อย่างนี้ เขาเรียกว่ากินแรงน่ะสิ ปลาแบกเขาพระสุเมรุไว้ ไม่เห็นบ่น นี่แค่เจ็ดตัวไม่ทำให้สะดุ้ง สะเทือนแต่ประการใด ;D กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 25 พ.ค. 12, 10:46 ผังจักรวาล ที่ดูด้านข้างเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใข ใต้สุดจะเป็นที่อยู่ของปลาอานนท์ ในที่นี่กล่าวว่า ปลาอานนท์นั้นหนุนจักรวาล ซึ่งตีนเขาพระสุมเมรุเชื่อมกับเขาตรีกูฎ ที่ขอบจักรวาลอันตั้งอยู่รากเดียวกัน
ส่วนขุมนรกใหญ่ จะอยู่ที่เบื้องขวาของเขาสัตตบริภัณฑ์ที้งเจ็ด กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 25 พ.ค. 12, 11:26 เอ ออกขุน ปลาอานนท์ มีเพื่อนหรือเปล่า มีอยู่ตัวเดียวท่าจะเหงาแย่ มิเหงาดอกใต้เท้า เพื่อนเยอะ ตั้ง ๗ ตัวนิ ปลาใหญ่ที่หนุนโลกอยู่ หนุนแบบเป็นชั้นๆ มี 7 ตัว 1. ติมิ 2. ติมิงคละ 3. ติมิงปิงคละ 4. อานนท์ 5. ติมินท์ 6. อัชฌโรหะ 7. มหาติมิ แต่ตัวที่คนไทยได้ยินชื่อบ่อยว่าเพื่อนคือปลาอานนท์ (http://2.bp.blogspot.com/_MfX4tKGzQ5I/TAZ-MimzE-I/AAAAAAAAAjg/vXULVCVMuFc/s1600/e07.jpg) http://2.bp.blogspot.com/_MfX4tKGzQ5I/TAZ-MimzE-I/AAAAAAAAAjg/vXULVCVMuFc/s1600/e07.jpg กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 25 พ.ค. 12, 11:29 แล้วปลาใหญ่ตั้ง ๗ ตัว จะให้ปลาอานนท์หนุนแผ่นดินโลกอยู่ตัวเดียวหรือ อย่างนี้ เขาเรียกว่ากินแรงน่ะสิ แต่ถ้าดูตามรูปนี้จะเห็นว่าปลาอานนท์หนุนอยู่ตัวเดียวแท้ ๆ (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3296.0;attach=18184;image) ;D กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: นิลนนท์ ที่ 27 ก.ค. 12, 21:17 เคยได้ยินเรื่องปลาอานนท์หนุนแผ่นดินมาตั้งแต่เด็ก
แต่ที่อ่านจากไตรภูมิพระร่วงไม่เห็นข้อความเรื่องปลาอานนท์หนุนโลก มีกล่าวถึงปลาเจ็ดชนิด ติรัจฉานอันหาตีนบมิได้ปลา ๆ ๗ ตัว ๆ หนึ่งชื่อติรนยาวได้ ๗๕ โยชน์ ตัวหนึ่งชื่อติปังคลนั้นยาวได้ ๒๕๐ โยชน์ ตัวหนึ่งชื่อ ติรปิงคลยาวได้ ๕๐ โยชน์ ตัวหนึ่งชื่ออานนท์ ตัวหนึ่งชื่อนิรย ตัวหนึ่งชื่ออชนาโรหน ตัวหนึ่งชื่อมหาติ และปลา ๔ ตัวนี้ย่อมยาวและตัวและ ๑,๐๐๐ โยชน์ ผิเมื่อปลาตัวชื่อติมรปิงคลอันยาวได้ ๕,๐๐๐ โยชน์และติงปีกซ้ายก็ดีติงปีกขวาก็ดี และติงปลายหางก็ดีติงหัวก็ดี และน้ำในสมุทรนั้นก็สะเทือนตีฟองดังหม้อแกงเดือดไกลได้ ๔๐๐ โยชน์ ผิมันติงปีกทั้งสองข้างและแกว่งหางแกว่งัววัดแวงตีน้ำเล่น น้ำนั้นสะเทือนดินตีฟองไกลได้ ๗๐๐ โยชน์ ลางคาบตีฟองไกลได้ ๘๐๐ โยชน์ แรงปลาตัวอันชื่อติมิรปิงคลนั้นมีกำลังดังกล่าวนี้แลฯ และปลา ๔ ตัวนั้นยังใหญ่กว่านี้ยิ่งมีกำลังนักแลฯ (ต้นฉบับมีความคลาดเคลื่อนอยู่ ไม่ได้แก้ไข : ติมรปิงคล น่าจะยาว 500 โยชน์) ในไตรภูมินี้กล่าวถึงปลาอานนท์ในฐานะ สัตว์ตัวหนึ่งในดิรัจฉานภูมิ ขนาดตัวและกำลังดูแล้วก็ไม่น่าใหญ่โตถึงขนาดจะแบกเขาพระสุเมรุหรือทวีปต่าง ๆ ได้) ข้อความนี้ในไตรภูมิพระร่วงน่าจะได้มาจาก อรรถกถา สังยุตตนิกาย นิทานวรรค อภิสมัยสังยุตต์ ทุกขวรรคที่ ๖ นิทานสูตรที่ 10 ก็ในมหาสมุทร ปลาใหญ่ชื่อติมิยาว ๒๐๐ โยชน์ ปลาติมิงคละยาว ๓๐๐ โยชน์ ปลาติเมรปิงคละยาว ๕๐๐ โยชน์. ปลา ๔ อย่างเหล่านี้ คือปลาอานนท์ ปลาปนันทะ ปลาอัชโฌหาระ ปลามหาติมิยาวตั้งพันโยชน์. ในปลาทั้ง ๔ อย่างนั้น ท่านแสดงด้วยปลาติเมรปิงคละนั่นเอง. เมื่อมันกระดิกหูขวา น้ำในพื้นที่ตั้ง ๕๐๐ โยชน์ก็จะเคลื่อนไหว หูซ้าย หาง หัวก็เหมือนกัน. แต่เมื่อมันกระดิกหูทั้ง ๒ ฟาดหางเอียงหัวไปมา เริ่มจะเล่นน้ำที่คนเอาใส่ภาชนะ น้ำในที่ ๗-๘ ร้อยโยชน์ก็กระเพื่อม เหมือนยกขึ้นตั้งบนเตา น้ำในพื้นที่ประมาณ ๓๐๐ โยชน์ก็ไม่อาจจะท่วมหลัง (ของมัน). มันพึงกล่าวอย่างนี้ว่า "ชนทั้งหลายกล่าวว่า มหาสมุทรนี้ลึก ความลึกของมหาสมุทรนั้นอยู่ที่ไหน. พวกเราไม่ได้น้ำแม้เพียงที่จะท่วมหลังของพวกเราได้" ในข้อนั้น พึงกล่าวว่า "มหาสมุทรตื้นสำหรับปลาเล็กเหล่าอื่น" ปฏิจจสมุปบาทก็เหมือนอย่างนั้นแหละ พึงกล่าวว่า "ง่ายสำหรับพระอานนท์ ผู้เข้าถึงญาณ (ผู้มีปัญญามาก) แต่ไม่พึงกล่าวว่า ง่ายสำหรับภิกษุเหล่าอื่น. แต่ใน เล่าเรื่องไตรภูมิ ของท่านเสฐียรโกเศศ พูดถึงปลาอานนท์ไว้ ปลาตัวใหญ่ ๗ ตัว ให้ชื่อครบทั้ง ๗ ตัวคือ ติรณะ ๑ ติปังคละ ๑ ติรปิงคละ ๑ อานนท์ ๑ นิรยะ ๑ อัชนาโรหนะ ๑ และมหาติ ๑ ปลาเหล่านี้มีขนาดใหญ่โตมาก อย่างเล็กยาว ๗๕ โยชน์ อย่างใหญ่ยาว ๕,๐๐๐ โยชน์ เพียงไหวหู หรือกระดิกหางครั้งเดียว ทะเลก็ปั้นป่วนตีฟองดังหม้อแกงเดือดไกลตั้ง ๘๐๐ โยชน์ก็มี ที่รู้จักกันคือ ปลาอานนท์ ซึ่งหนุนชมพูทวีปหรือโลกนี้อยู่ ถ้า “ปลากระดิกพลิกครีบทวีปก็ไหว เมรุไกรโยกยอดเพียงถอดถอน มัติมิงค์กลิ้งเล่นชโลธร คงคาคลอนคลื่นคลั่งฝั่งสินธู” ปลามัติมิงค์ ชื่อนี้แปลงเพื้ยนไปจาก ปลาติปังคละ ก็เลยสงสัยอยู่ว่าเรื่องปลาอานนท์หนุนโลกหรือจักรวาลมีต้นเค้ามาจากที่ใด กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: visitna ที่ 07 ส.ค. 12, 18:15 หนังสือเล่มนี้-ไตรภูมิ-ไม่เคยอ่านจบเลย
เมื่อวานไปซื้อ ชินกาลมาลีนี มาอีกเล่ม เห็นออกใหม่ราคาย่อมเยาว์ ไม่อยากไปรื้อหาเล่มเก่า วันนี้อ่านไปได้ 1/4 แล้ว เข้าใจยากแต่ดีใจ ที่ได้อ่าน กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: นิลนนท์ ที่ 13 ส.ค. 12, 01:05 ชินกาลมาลีนี คือหนังสือเกี่ยวกับอะไรครับ ฟังชื่อดูน่าสนใจ เกี่ยวกับพุทธวงศ์หรือเปล่าครับ
กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: visitna ที่ 13 ส.ค. 12, 08:59 อ่านไปครึ่งเล่มเล่าเรื่องพุทธศาสนา
เริ่มมาเล่ามาศาสนาพุทธเป็นมาอย่างไร มียกตัวอย่างชาดกหรือชาติต่างของพระพทธเจ้า มีบำเพ็ญเพียรมากี่อสงไขปีกี่โกฎิปี พระพุทธเจ้าจะมีกี่พระองค์ ใครบ้าง ต่อไปเล่าเรื่องพุทธประวัติพระพุทธเจ้า ตอนสุดท้าย(ยังอ่านไม่ถึง)จะว่าถึงเรื่องพงศาวดารเหนือ กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: visitna ที่ 14 ส.ค. 12, 12:06 อธิบายต่ออีกนิด
หลังจากเรื่องของพระพุทธเจ้าแล้ว เล่าเหตุการณ์ต่อมาหลังพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน พูดถึงเรื่องพระธาตุ การสร้างเจดีย์ และว่าถึงเรื่องกษัตริย์เมืองศรีลังกา เล่าเสียยืดยาวอ่านแล้วจำไม่ได้สักชื่อ จนจบบท แล้วขึ้นบทใหม่ ----เล่าถึงเมืองไทยเริ่มที่การสร้างเมืองหริภุญไชยเลย อ่านมาถึงตอนนี้แล้ว กระทู้: ภาพไตรภูมิ รัชกาลที่ ๙ เริ่มกระทู้โดย: prasit ที่ 14 ส.ค. 12, 15:55 มีภาพแบบเต็มๆ ใหมครับ ดูแล้วสวยงามแท้
|