"ถือว่ารัฐบาลไทยไม่รับรอง" จนเป็นเรื่องนั่นแหละ ความยากจึงอยู่ที่เหตุเหล่านี้
ที่ต้องประกาศเช่นนั้น
อาจเป็นเพราะว่า ยังไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ชัดเจน แต่เมื่อคณะเอกชนสามารถพิสูจน์เรื่องอัฐิได้เช่นนี้ ก็จะยิ่งมีความชอบธรรมมากขึ้นในการดำเนินการเรื่องนี้ในแผ่นดินของชาติอื่น กระแสสนับสนุนก็คงตามมาอีกมากมาย รัฐบาลก็อาจจะต้องเปลี่ยนท่าทีก็ได้
เพียงแต่ ถ้าผลออกมาว่าไม่ใช่ ก็จะยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสุขุมรอบคอบ ของรัฐบาลเช่นกัน..
อีกนิดเดียวครับ เพิ่งจะสังเกตุเห็น
ตอนที่อดีตอธิบดีกรมศิลปากรออกมาแถลงนั้น ก็ว่าตามหลักฐานที่พบพระอัฐิแล้ว(เห็นจากรูปถ่าย)นั่นแหละ หลังจากนั้นทางเอกชนยังไม่พบอะไรเพิ่มขึ้นอีกเลย ไม่แน่ หากได้อนุญาตให้ขุดหาต่อก็อาจจะพบเพิ่มได้
ส่วนที่ว่า(เอกชน)มีความชอบธรรมในการดำเนินการเรื่องนี้ในแผ่นดินของชาติอื่น มากน้อยเพียงใด ผมว่ามันไม่น่าจะใช่ประเด็น
ประการแรก ที่ทำไปในครั้งแรกจนถึงขั้นพบหลักฐานนั้น ได้ทำไปในฐานะตัวแทนของรัฐบาลไทย ยังไงๆก็ชอบธรรมอยู่แล้ว
ประการที่สอง หลังจากถูกระงับ เพราะทางพม่าไม่พอใจท่าทีของรัฐบาลไทย เอกชนไทยก็ถอนตัวจากองค์กรร่วมพม่า-ไทย เปลี่ยนฐานะเป็นผู้บริจาคเท่านั้น ก็ชอบธรรมอยู่ดี