เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 165 เมื่อ 05 ต.ค. 21, 11:46
|
|
#ถาม : คิดยังไงกับการที่มีคนกลุ่มหนึ่งออกมาต่อต้านวัคซีน ว่าจะทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ ? . #ตอบ : พวกต่อต้านวัคซีน หรือ anti-vax มีหลายกลุ่มมาก และมีหลายเป้าหมายหลายอเจนด้าด้วย เช่น บางกลุ่มก็ต่อต้านอเมริกา บางกลุ่มก็ต่อต้านจีน บางกลุ่มก็เป็นความเชื่อทางศาสนา แล้วก็มีการสร้างเฟคนิวส์ข่าวปลอมขึ้นมาเยอะแยะ . ปรกติแล้ว คนไทยเราไม่ค่อยมีการแอนตี้การฉีดวัคซีน จึงไม่ค่อยมีปัญหาเท่ากับในต่างประเทศ แถมโรคโควิดมันเห็นได้ชัดว่า ถ้าไม่ฉีด จะเสี่ยงป่วยหนักเสี่ยงเสียชีวิตสูงขึ้น . ปัญหาคือ กระแสโซเชี่ยล ทำให้คนจมติดอยู่กับข่าวผลกระทบเชิงลบของวัคซีนมากเกินไป (ทั้งที่อัตราส่วนที่เกิดขึ้นนั้น มีน้อยมาก) ยิ่งมีประเด็นทางการเมือง เช่น ไอโอปล่อยข่าวปลอมวัคซีนไฟเซอร์ในทางที่ไม่ดี ยิ่งทำให้คนไม่กล้าฉีดมากขึ้น . ถึงยังไง คนทุกคนที่มีสิทธิจะฉีดวัคซีนได้ ก็ควรจะฉีด อย่าหลงเชื่อพวกต่อต้านวัคซีน . #ถาม : ที่มีรายงานว่าจำนวนคนติดเชื้อ นั้นลดลง จริงหรือเปล่า ? . #ตอบ : ถ้าเอาแต่ดูรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ ที่มาจากผลคนตรวจด้วยวิธี PCR จะรู้สึกว่าตัวเลขสวย ค่าลดลงต่อเนื่อง และค่าต่ำกว่าจำนวนผู้หายป่วย อาจเพราะรัฐต้องการสร้างบรรยากาศให้ดูดี จะได้ผ่อนคลายได้ . แต่ถ้าเอาตัวเลขจากผลการตรวจด้วยชุด ATK มารวมกับผล PCR แล้วล่ะก็ ค่ารวมจะไม่ได้สวยอย่างที่เข้าใจกัน แต่ยังมีค่าสูงอยู่ ซึ่งโดยภาพรวม สถานการณ์การระบาดนั้นค่อนข้างทรงตัว ลดลงอย่างช้าๆ ไม่ได้ลดฮวบฮาบ . #ถาม : เรื่องชุดตรวจ ATK ที่ัรัฐจะแจกนี่ มันยังไงกัน ? . #ตอบ : คือ ชุด ATK นี้เป็นงบของ สปสช. ที่จะเอามาแจกประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยคณะกรรมการชุดร่าง TOR (ซึ่งสนับสนุนโดยชมรมแพทย์ชนบท) ได้เสนอให้วางสเปค กำหนดให้เป็นระดับ professional use ตามยี่ห้อที่ WHO เคยเขียนแนะนำไว้ . แต่เนื่องจาก สปสช. จัดซื้อเองไม่ได้ ต้องดำเนินงานผ่านองค์การเภสัชฯ ซึ่งทางองค์การเภสัชฯ ไม่ยอมให้กำหนดสเปคเช่นนั้ร ต้องเปิดกว้างให้มีการประมูล สุดท้าย ก็เลยได้ของยี่ห้อ Lepu ที่เป็นแบบ home use ในราคาประมูลไป 90 บาท ต่อชุด . ที่น่าคิดคือ ที่องค์การเภสัชฯ จัดหารอบใหม่มาเพื่อจำหน่ายราคาถูก ในราคา 40 บาทต่อชุด ว่าจะเป็นยี่ห้อเดิมหรือไม่ ซึ่งคุณอนุทินบอกว่า เป็นของจีน แต่เทคโนโลยีเยอรมัน .. ถ้ายี่ห้อเดิม คำถามคือ ทำไมตอนประมูลรอบแรก ถึงได้แพงกว่า . #ถาม : คิดว่าเราจะมีโอกาสกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมได้อีกไหม? . #ตอบ : โควิด แม้จะเชื้อไวรัสคนละกลุ่ม แต่พบว่ามันระบาดคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ หน้าร้อน ระบาดต่ำ แต่โอกาสระบาดหน้าฝนและหน้าหนาว สูง . ดังนั้น ในไทย น่าจะต้องระวังการกลับมาระบาดใหม่ได้อีก ในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ซึ่งอาจจะซ้ำซ้อนปัญหากับฝุ่น PM2.5 ด้วย ทำให้คนกลุ่มที่เปราะบางต่อโรคทางเดินหายใจ นะต้องเจอ 2 เรื่องพร้อมกัน . ที่น่าสนใจคือ อารมณ์ของคนไทยต่อโรคโควิด อย่างเมื่อปีที่แล้ว เรากลัวกันมาก มีคนติดเชื้อแค่หลักสิบหลักร้อยต่อวัน ก็กลัวกันไปหมด แต่ตอนนี้ ติดหลักหมื่นต่อวัน ก็ไม่ค่อยกลัวแล้ว เพราะเคยชิน คนกล้าที่จะกลับมาใช้ชีวิตตามปรกติมากขึ้น . ดังนั้น ก็มีแนวโน้มที่เราจะกลับมาเริ่มต้นใช้ชีวิตตามปรกติ แต่จะให้กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมเลย ก็ยังไม่น่าจะใช่ . ทุกอย่างอยู่ที่รัฐ ถ้า ศบค เปลี่ยนแนวคิดจากที่จะเอาชนะเชื้อโรค มาเป็นว่า "เราต้องอยู่กับเชื้อโรคมันให้ได้" ชีวิตก็น่าจะเดินต่อไปได้ง่ายขึ้น อย่างลืมว่ารายได้ของชาติหายไปเยอะมาก หลายล้านล้านบาท จากการปิดประเทศ ปิดเมือง ล็อคดาวน์ .
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 166 เมื่อ 05 ต.ค. 21, 11:47
|
|
แต่จะเปิดประเทศ ก็ต้องทำควบคู่กับการดูแลสุขอนามัยของตัวเอง ต้องให้ความสำคัญกับชุดตรวจ ATK ที่มีเพียงพอให้ใครๆ ก็ตรวจเชื้อกันได้ ต้องให้คนที่เปราะบางได้รับการฉีดวัคซีนทุกคน ส่วนใครที่ตรวจพบว่าติดเชื้อ ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แค่แยกตัวออกไปรักษา และที่สำคัญคือ ต้องเน้นมากขึ้นในเรื่อง "การระบายอากาศ" เปิดประตูหน้าต่าง ทำกิจกรรมต่่างๆ กลางแจ้ง จะปลอดภัยกว่าอยู่ในห้องปิดทึบ . #ส่งท้าย อาจารย์เจษฎาทิ้งท้ายว่า "อย่าให้โควิดเป็นเรื่องของการเมือง พยายามให้เป็นเรื่องวาระของชาติ เราจะได้ผ่านไปด้วยกันได้" ---- ขอขอบพระคุณ เนื้อหาที่สรุปโดยคุณ Peemai Sirikul
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 167 เมื่อ 31 ต.ค. 21, 13:42
|
|
สถานการณ์โควิด-๑๙ ในประเทศไทย เดือนตุลาคม ๒๕๖๔
จำนวนผู้ติดเชื้อครึ่งเดือนแรกทรงตัวอยู่ที่ระดับ ๙,๐๐๐+ - ๑๑,๐๐๐+ ราย ครึ่งเดือนหลังตั้งแต่วันที่ ๑๙ ตุลาคม จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอยู่ในระดับต่ำกว่า ๑๐,๐๐๐ ราย จำนวนผู้ติดเชื้อต่ำสุดในวันที่ ๒๖ ตุลาคม ที่ ๗,๗๐๖ ราย และผู้เสียชีวิตลดลงต่ำกว่าหนึ่งร้อยรายโดยมีตัวเลขต่ำสุดในวันที่ ๒๕ ตุลาคม ที่ ๔๔ ราย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 168 เมื่อ 31 ต.ค. 21, 19:01
|
|
จำนวนผู้ติดเชื้อระหว่าง ๑ เมษายน ๒๕๖๔ ถึง ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ จุดสูงสุดอยู่ในวันที่ ๑๓ สิงหาคม ที่ ๒๓,๔๑๘ รายคงต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน ตัวเลขผู้ติดเชื้อจึงจะลงไปอยู่ในระดับเดียวกับเดือนเมษายน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 169 เมื่อ 02 พ.ย. 21, 12:58
|
|
วันนี้ผู้เสียชีวิตจากโควิด-๑๙ เข้าหลัก ๕ ล้านคน
จำนวนผู้เสียชีวิตล้านคน (จาก ๔ ล้านถึง ๕ ล้าน) ใช้เวลา ๑๑๗ วัน เฉลี่ย ๑ แสนคนใช้เวลา ๑๑.๗ วัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 170 เมื่อ 06 พ.ย. 21, 19:39
|
|
มีข่าวดีมาบอก
ยาต้านโควิดที่ชื่อว่า “โมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) ของบริษัท Merck ได้ผลดีมาก จากศึกษาการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ในกลุ่มตัวอย่าง ๗๗๕ ราย กินวันละ ๒ ครั้ง นาน ๕ วัน มีแค่ ๗.๓% ที่ป่วยเข้าโรงพยาบาล และไม่มีใครตายด้วยโควิดเลย ส่วนอีกกลุ่มตัวอย่างหนึ่งที่ให้ยาหลอก (Placebo) ป่วยเข้าโรงพยาบาล ๑๔.๑% และตายด้วยโควิด ๘ ราย อีกหนึ่งความหวังใหม่ ! ไฟเซอร์ อิงค์ (Pfizer Inc.) บริษัทยารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ แถลงเมื่อวานนี้ (๕ พฤศจิกายน) ว่า ผลการทดลองในระยะที่ ๓ สำหรับยาเม็ดชนิดรับประทานเพื่อรักษาโรคโควิด-๑๙ ของไฟเซอร์ พบว่า ยาดังกล่าวสามารถลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-๑๙ในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ถึง ๘๙% ทั้งนี้ ไฟเซอร์ตั้งชื่อยารักษาโรคโควิด-๑๙ ของตนว่า แพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) โดยผู้ป่วยจะรับประทานยาวันละ ๒ ครั้ง ๆ ละ ๓ เม็ด บริษัทไฟเซอร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ยุติการทดลองแล้ว ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิม หลังพบว่ายาดังกล่าวมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาผู้ป่วยโควิด-๑๙ และบริษัทจะส่งผลการทดลองดังกล่าวให้แก่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) หลังจากที่ไฟเซอร์ได้ยื่นเรื่องขออนุมัติการใช้ยาดังกล่าวเป็นกรณีฉุกเฉินต่อ FDA เมื่อเดือนตุลาคม ข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 171 เมื่อ 06 พ.ย. 21, 19:59
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 172 เมื่อ 12 พ.ย. 21, 08:25
|
|
วันนี้ต้องถือเป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่ง ผู้ติดเชื้อโควิด-๑๙ ของเมืองไทย เข้าหลัก ๒ ล้านคนเรียบร้อยแล้ว โดยจากล้านแรกถึงล้านที่สองใช้เวลา ๑๒ สัปดาห์ หรือ ๘๔ วัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 173 เมื่อ 12 พ.ย. 21, 09:24
|
|
ตอนนี้สถานการณ์โควิดในไทยดีขึ้นเยอะ คนไทยกลับมาใช้ชีวิต(เกือบจะ)ปกติได้แล้ว นับตัวเลขคนติดคนตายแบบคุณเพ็ญชมพูนับ ไม่นับคนหาย คนไม่ติด เลยยิ่งทำให้สถานการณ์ดูร้ายแรงหนักขึ้นไปอีก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 174 เมื่อ 12 พ.ย. 21, 09:30
|
|
ตามคำเรียกร้อง ตัวเลขผู้หายป่วยสะสมและผู้ป่วยสะสมนับตั้งแต่ ๑ เมษายน ๒๕๖๔ ไม่ใช่ตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๓ เหมือนตัวเลขข้างบน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 175 เมื่อ 12 พ.ย. 21, 09:51
|
|
หากดูตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนจนถึงวันนี้ ตัวเลขยังทรงตัวอยู่ ยังไม่ดูดีขึ้นอย่างชัดเจน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 176 เมื่อ 13 พ.ย. 21, 07:55
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 177 เมื่อ 13 พ.ย. 21, 07:59
|
|
เทียบกับช่วงต้นๆของเดือนสิงหาคม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 178 เมื่อ 13 พ.ย. 21, 12:39
|
|
ติดเชื้อน้อยลง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 179 เมื่อ 14 พ.ย. 21, 08:40
|
|
14 พฤศจิกายน 2564 เพจ “ศูนย์ข้อมูล COVID-19” รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2564 รวม 7,079 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 6,607 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 292 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 171 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 9 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,989,547 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
หายป่วยกลับบ้าน 6,917 ราย หายป่วยสะสม 1,875,420 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 95,528 ราย โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตวันนี้ 47 ราย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|