เรื่อง สามปอยนั้น อาจารย์ และผู้เชียวชาญทางนิรุกติศาสตร์ ชื่อกล้วยไม้วิเคราะห์กันว่า ไม่น่าจะหมายถึง การโกนจุก ........ ซึ่งก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะ การโกนจุก เป็นประเพณีของคนไทยภาคกลาง ไม่ใช่ประเพณีท้องถิ่นของล้านนา (ประเด็นนี้ ต้องอาราธนาคุณ V_Mee เชิญตอบ)
คำว่า "สามปอย" (
Vanda denisoniana) นั้น ถ้าเรียกให้เต็มชื่อก็ต้องเป็น "เอื้องสามปอยขุนตาน" หรือ "ขุนตาล" สะกดได้สองอย่างครับ
ศาสตราจารย์ ไพบูลย์ ไพรีพ่ายฤทธิ์ ได้อธิบายไว้ว่า
"ปอยเป็นภาษาเหนือ หมายถึงงานมหกรรม เช่นงานวัดเป็นต้น บางท่านบอกว่า หมายถึงงานศพเท่านั้น สามปอย จึงหมายถึงความบานทนของดอก เป็นทำนองว่า บานอยู่ได้ตั้ง 3 งาน"
คำว่า "ปอย" เพี้ยนมาจากภาษาพม่าว่า ปะวอย หมายถึงประเพณีครับ แต่ละพื้นที่ก็ใช้ต่างกัน บางแห่งก็ใช้เฉพาะงานมงคลเท่านั้น บางพื้นที่(เช่นลำปาง แถวบ้านผม)ก็ใช้เรียกรวมงานศพด้วย (ปอยศพ หรือ ปอยผีต๋าย) แต่ปอยศพนี้ น่าจะเพิ่งมีเมื่อไม่นานมาก เพราะแต่เดิมคนตายแล้ว เขาก็ต้องรีบเผาเพราะไม่มีน้ำยาดองศพ คำว่าสามปอยนี้เป็นคำเก่าแก่ น่าจะมีมาก่อนปอยศพ ก็น่าจะตัดประเด็นไปได้ (ตอนแรกก็คิดไปว่า งานศพมีกลางคืน เวลาสามปอยส่งกลิ่นพอดี คนน่าจะจดจำได้) ......ในฤดูที่ดอกสามปอยบาน(ประมาณ กุมภาพันธ์ ไปจนถึง เมษายน) ซึ่งมักจะไม่ใช่ฤดูงานบุญของทางภาคเหนือ ก็เลยไม่ทราบว่า ปอยอะไรบ้าง และในการบานแต่ละครั้งของสามปอย กินเวลาเป็นเดือนๆ ทีเดียว
......... เอาเป็นว่า มันบานนาน จนคนมางานปอยจำได้ เพราะมาปอยทีไร ก็ยังบานนนนทน หอมชื่นใจอยู่นั้นแหล่ะครับ
สามปอย เป็นไม้ดอกใหญ่ก้านยาว ความนิยมในการนำมาใช้ประโยชน์ของคนท้องถิ่นนั้น ได้เคยสอบถามผู้หลักผู้ใหญ่ ได้ความว่า ไม่นิยมนำมาประดับมวยผม(ของผู้หญิง) เหมือนเช่นดอกเอื้องผึ้ง แต่ด้วยความที่มีกลิ่นหอมในยามเย็นไปจนถึงรุ่งเช้า จึงมีความนิยมนำมาติดกับต้นไม้ใหญ่ประดับบริเวณบ้านเรือน หรือวัดวาอาราม เป็นการใช้ประโยชน์เชิงอนุรักษ์ที่ดีครับ........
ขอเชิญดูรูปสามปอย และประวัติ ได้ครับ (ต้นไม้ผมเอง เขียนเอง เชียร์ตัวเอง!!!)
http://www.thai-orchid-club.com/forum/index.php?topic=640.0