กระทู้: บทกวี รำลึกสมเด็จพระสังฆราชาธิคุณ ของ ราตรี ประดับดาว เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ต.ค. 13, 20:55 (http://www.watbowon.com/Monk/ja/06/images/sy001.jpg) ปลาบปลื้มใจในสมเด็จพระสังฆราช ปุณโยภาสครบร้อยพระชันษา วันที่สามตุลาคมที่ผ่านมา นับเป็นหนึ่งบุญญาพระนวมินทร์ เพราะพระองค์คือพระอภิบาล หนึ่งในปรากฏการณ์รัตนโกสินทร์ สองประมุขสุขประศาสน์ราชธานินทร์ สองพระปิ่นคุณธรรมความงามดี หนึ่งพระองค์ทรงธรรมนำพุทธจักร ทั้งเทศไทยใจจงรักเป็นสักขี พุทธศาสนิกชนบนปฐพี ยกย่องเป็นปูชนียประมุข แปดสิบหกปีทองครองบรรพชิต คือลิขิตแห่งพระธรรมเพื่อนำสุข นำปวงชนปลูกปัญญาหนีป่าทุกข์ ละเข็ญขุกจากมืดมิดอวิชชา สี่สิบหกปีนำพระธรรมทูต พร้อมพระสูตรเผยแผ่พุทธศาสนา สร้างวัดไทยสองร้อยแห่งทั่วโลกา สมฉายาพระ”ผู้เจริญดี”* ด้วยเกียรติคุณ ”วิปัสสนาธุระ” จึ่งเป็น “พระญาณสังวร” สมศักดิ์ศรี ทรงแตกฉานหลายภาษาบรรดามี พร้อมพาทีพระลิขิตวิจิตรจำนรรจ์ พระนิพนธ์มากมายหลายบรรณบรรพ หลากตำรับร้อยแก้วร้อยกรองสรรพ์ พระมรดกจักดำรงไว้วงวรรณ เป็นอนันต์อำนรรฆค่าคงคุณธรรม แล้ววันที่ไม่ปรารถนาก็มาถึง โลกตะลึงเกินข่าวลือที่ร้อยร่ำ เป็นความจริงยิ่งกว่าร้อยทุกถ้อยคำ น้ำเนตรพรำเพราะเคว้งคว้างกลางดวงใจ หลายหลากพระบารมีที่โปรดโลก นำวิโมกขวิถีที่แจ่มใส เป็นวิมุตติมรรคาปุณยาลัย ชนซึ้งในพระเมตตาพระบารมี ทรงอุทิศพลีพระองค์ธำรงศาสน์ “พระอภิบาล”พระปิ่นราชจักรีศรี เลิศพระจริยวัตรสังฆบดี เสด็จที่พระนิพพานนิรันดร์เทอญ (*พระฉายา”สุวฑฺฒโน”) เกล้ากระหม่อม ราตรี ประดับดาว ร้อยกรอง กระทู้: บทกวี รำลึกสมเด็จพระสังฆราชาธิคุณ ของ ราตรี ประดับดาว เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 ธ.ค. 15, 08:57 น้อมถวายอภิสัมมานสักการะแด่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
แสงเพลิงสุดท้าย คำร้อง : ฐิตวํโสภิกขุ วัดปทุมวนาราม ทำนอง : เดชาณัฎฐ์ ธีรดุริยสฤษฏ์ และ รัชต์พงษ์ สมศรี เรียบเรียง : เจษฎา สุขทรามร ขับร้อง : ปาน ธนพร แวกประยูร http://www.youtube.com/watch?v=4mnztEUHSjg#ws (http://www.youtube.com/watch?v=4mnztEUHSjg#ws) ดาวส่องคู่จันทร์ประกายวับวาววาม ในรัตติกาลยังมีแสงงามกระจ่างวิถี ค่ำคืนที่แสงแห่งไฟ ประกายสุดท้ายที่มี แห่งทุกชีวีจุดแสงธรรมเคียงจันทร์ดวงงาม ฟ้าเปิดประทานแสงทองของดวงใจ ก่อนดับสลายสู่ควันไฟละลายคืนฟ้า ชีวิตของคนหนึ่งคน ผ่านพ้นจนวันลับลา กำเนิดขึ้นมาเพื่อโลกาจารึกสืบไป แสงเพลิงสุดท้ายที่เผาผลาญสังขารสิ้นไป แสงทองของใจเจริญส่องใสไม่มีราคี แสงเพลิงสุดท้ายเจียระไนสุดยอดความดี คือแสงชีวีที่สู่แสงแก้วแห่งพระธรรม แสงจันทร์ส่องฟ้าถึงอำลาในแสงสุดท้าย แสงธรรมฝากไว้สว่างในใจไม่เปลี่ยนแปรผัน แสงนวลปัญญาก่อกำเนิดค่านับอนันต์ คือแสงแห่งธรรมเคียงคู่โลกาไม่มีสิ้นสูญ สิ้นทุกข์สุขที่แท้จึงได้พบพาน สู่ทางธรรมบันดาลในชาติสุดท้าย ส่งฟ้าสู่ดินแดนที่หมดผองภัย สถิตไว้ในแดนธรรมพระนฤพาน สถิตไว้เพียงความดีชั่วนิจนิรันดร์ สถิตไว้ในรอยธรรม...พระญาณสังวร |