กระทู้: ภาษาอเมริกันวันละคำ Glass Ceiling เริ่มกระทู้โดย: ปัญจมา ที่ 01 เม.ย. 12, 22:42 Glass Ceiling
เพดานที่มองไม่เห็น องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้วันที่ 8 มีนาคมของทุกปีเป็น "วันสตรีสากล" ทั้งนี้เพื่อรำลึกถึงประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อสิทธิของแรงงานสตรีทั่วโลก รวมทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนทั่วไปได้ตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญของสตรีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอีกด้วย ด้วยเหตุที่สังคมอเมริกันเป็นสังคมที่ให้ความสำคัญกับความเสมอภาคระหว่างหญิง-ชายค่อนข้างมาก กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ หรือ US Department of State จึงนำเรื่องราวการต่อสู้ของสตรีจากทั่วทุกมุมโลกมาแปะให้บุคคลทั่วไปได้อ่านผ่าน facebook ของหน่วยงานอยู่เป็นระยะ ๆ ตลอดทั้งเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้เดือนนี้กลายเป็นเดือนสำหรับสตรีไปโดยปริยาย ใครสนใจก็เข้าไปอ่านกันได้ที่ http://www.facebook.com/democracychallenge เมื่อดูเผิน ๆ แล้ว สังคมอเมริกันดูเหมือนจะเป็นสังคมที่ตระหนักถึงความสำคัญของผู้หญิงต่ออนาคตของประเทศได้ดีกว่าสังคมของประเทศในแถบเอเชียหรือแอฟริกา รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้เข้าไปมีบทบาทในการบริหารประเทศมาโดยตลอด ดังนั้น การที่สตรีจะเข้าไปรับตำแหน่งสูง ๆ ในรัฐบาลหรือสถาบันสำคัญ ๆ ของรัฐในอเมริกาจึงไม่ใช่เรื่องแปลก กระทู้: ภาษาอเมริกันวันละคำ Glass Ceiling เริ่มกระทู้โดย: ปัญจมา ที่ 01 เม.ย. 12, 22:43 ใครที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองของที่โน่นมาพอสมควรก็คงจะทราบดีว่าแม้แต่นางฮิลลารี คลินตันเองก็ไม่ใช่สตรีคนแรกที่ได้รับเลือกให้เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ และก่อนที่นางสาวคอนโดลีซ่า ไรซ์จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ เมื่อปีพ.ศ. 2548 นั้น เธอก็เคยสร้างประวัติศาสตร์มาแล้วด้วยการเป็นสตรีคนแรกที่ได้รับเลือกให้เข้าดำรงตำแหน่ง National Security Advisor หรือที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดี สหรัฐฯ อันเป็นตำแหน่งที่ทรงอิทธิพลยิ่งทั้งต่อการเมืองภายในประเทศเองและการเมืองระหว่างประเทศด้วย
หันไปดูในสภาคองเกรสบ้าง หลายคนคงทราบว่า ส.ส. ซึ่งเป็นประธานของพรรคการเมืองเสียงข้างน้อยคนปัจจุบันก็เป็นผู้หญิง เธอคนนี้มีชื่อว่าแนนซี่ เปโลซี่ ผู้เคยดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ มาแล้วในช่วงปี 2551-2554 (สมัยที่พรรคเดโมแครตยังมีเสียงข้างมากในสภาอยู่) นับเป็นสตรีคนแรกและเดียวในประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐฯ ที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ แม้ผู้หญิงจะมีโอกาสได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูง ๆ ในแวดวงการเมืองการปกครองของอเมริกันอยู่บ่อย ๆ แต่ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำระหว่างหญิงกับชายในภาคเอกชนของสหรัฐฯ นั้นกลับเป็นปัญหาที่ดำเนินมาอย่างยืดเยื้อยาวนาน และไม่มีทีท่าว่าจะได้รับการแก้ไขให้ลุล่วงไปได้เสียที ต่อให้สังคมเจริญรุดหน้าไปสักเท่าไหร่ ต่อให้ผู้หญิงมีการศึกษาสูงและมีศักยภาพในการทำงานทัดเทียมกับชายเพียงไร ผู้หญิงอเมริกันก็ยังต้องวิ่งชน glass ceiling อยู่ตลอดเวลาในสถานที่ทำงาน กระทู้: ภาษาอเมริกันวันละคำ Glass Ceiling เริ่มกระทู้โดย: ปัญจมา ที่ 01 เม.ย. 12, 22:44 Glass ceiling นั้นเป็นคำอุปมา แปลเป็นไทยตรงตัวว่า “เพดานกระจก” แต่นัยที่แฝงอยู่ก็ทำให้ความหมายของคำคำนี้น่าจะใกล้เคียงกับคำว่า “เพดานที่มองไม่เห็น” ในภาษาไทยมากกว่า อเมริกาชนเขาใช้คำอุปมานี้เวลาพูดถึงอุปสรรคที่มองเห็นไม่ได้ด้วยตาเปล่าซึ่งคอยกีดกันผู้หญิงไม่ให้ก้าวขึ้นไปรับตำแหน่งสูง ๆ ในสถานที่ทำงานหรือได้รับค่าตอบแทนที่ทัดเทียมกับชาย แม้ว่าจะอยู่ในตำแหน่งงานที่ใกล้เคียงกันก็ตาม
ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดในการยืนยันว่าใครคือผู้ริเริ่มนำคำว่า glass ceiling นี้มาใช้เปรียบเปรยอุปสรรคที่ผู้หญิงต้องเผชิญในออฟฟิศ เอกสารบางฉบับระบุว่าหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลคือผู้ที่เริ่มนำคำนี้มาใช้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2528 แต่บางฉบับก็บอกว่ามีการใช้คำนี้กันอย่างแพร่หลายมาก่อนหน้านั้นสัก 2-3 ปีแล้ว โดยเฉพาะในหมู่นักเขียนที่ให้ความสนใจกับสถานะของสตรีในแวดวงธุรกิจ ถ้าพูดถึง glass ceiling เฉย ๆ โดยไม่มีตัวอย่างสนับสนุนคนอ่านก็อาจจะไม่เชื่อว่าเพดานที่มองไม่เห็นแบบนี้มีจริงในสังคมอเมริกัน ผู้เขียนเลยจะขออนุญาตอ้างอิงการสำรวจเมื่อปี 2554 ขององค์กรเอกชนชื่อ Catalystซึ่งเป็นองค์กรที่พยายามส่งเสริมสิทธิสตรีในแวดวงธุรกิจให้ทัดเทียมกับชายเสียหน่อย ผลการสำรวจของ Catalyst ชี้ให้เห็นว่า ในบรรดาบริษัทที่มีรายได้สูงสุด 500 บริษัทของสหรัฐฯ หรือที่เขาเรียกว่า Fortune 500 นั้น มีกรรมการบริษัทที่เป็นผู้หญิงแค่ร้อยละ 15 ของกรรมการทั้งหมด และในบรรดาผู้ที่ดำรงตำแหน่ง CEO ของบริษัทเหล่านี้ CEO ที่เป็นผู้หญิงก็คิดเป็นสัดส่วนได้แค่ร้อยละ 3 เท่านั้นของ CEO ทั้งหมด ทีนี้หันมาดูรายได้บ้าง ถ้าเทียบระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายในแวดวงธุรกิจที่อยู่ในตำแหน่งเดียวหรือใกล้เคียงกันแล้ว รายงานสำรวจชิ้นนี้ระบุว่า รายได้ของผู้หญิงจะคิดเป็นแค่สามในสี่ของรายได้ผู้ชายเท่านั้น และถ้าหากเราจับผู้หญิงที่เพิ่งจบปริญญาโทหลักสูตรบริหารธุรกิจมายืนข้าง ๆ ผู้ชายที่จบโทสาขาเดียวกัน โดยที่ต่างคนต่างก็เริ่มทำงานเป็นครั้งแรก นอกจากเราจะพบว่าเงินเดือนของผู้หญิงโดยเฉลี่ยจะต่ำกว่าผู้ชายถึง $4,600 แล้ว เรายังจะพบด้วยว่า ตำแหน่งที่บริษัทต่าง ๆ จะเสนอให้ผู้ชายซึ่งจบปริญญาโทบริหารธุรกิจทำนั้น มักจะสูงกว่าตำแหน่งที่ผู้หญิงซึ่งจบปริญญาสาขาเดียวกันจะได้รับเสมอ กระทู้: ภาษาอเมริกันวันละคำ Glass Ceiling เริ่มกระทู้โดย: ปัญจมา ที่ 01 เม.ย. 12, 22:46 นอกจากนี้ ผู้ชายเองก็มักจะไต่บันไดในองค์กรหรือ climb the corporate ladder ขึ้นไปได้เร็วกว่าผู้หญิงอีกต่างหาก การสำรวจของ Catalyst เขาระบุว่า ถ้าหากผู้ชายกับผู้หญิงเริ่มทำงานที่ตำแหน่งเดียวกัน ผู้ชายจะได้เลื่อนตำแหน่งเร็วกว่าผู้หญิง นอกจากนี้ เวลาที่เงินเดือนผู้ชายได้รับการปรับขึ้นนั้น อัตราที่ปรับขึ้นก็จะเป็นอัตราที่สูงกว่าผู้หญิงอีกด้วย
Glass ceiling จะพังลงได้ก็ต่อเมื่อความเชื่อที่ว่าผู้หญิงไม่สามารถจะทุ่มเทให้กับการงานได้มากเท่าผู้ชายนั้นหมดไป แต่วันนั้นจะมาถึงเมื่อไหร่ก็คงไม่มีใครตอบได้ กระทู้: ภาษาอเมริกันวันละคำ Glass Ceiling เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 06 เม.ย. 12, 09:38 เพดานแก้วในการเมืองไทย
http://www.youtube.com/watch?v=yOHJOFSZEeE&feature=player_embedded#! ;D |