ย้อนกลับมาที่อเมริกา ศึกระหว่างสีผิวยังไม่จาง
http://www.naewna.com/inter/292703ประท้วงใหญ่ หลังอดีตตำรวจเซนต์หลุยส์พ้นผิด
วันจันทร์ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2560, 09.50 น.
ชาวเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรีของสหรัฐ ออกมารวมตัวประท้วงเป็นวันที่สอง เพื่อแสดงความไม่พอใจที่ผู้พิพากษารัฐมิสซูรีตัดสินให้อดีตตำรวจผิวขาวเมืองเซนต์หลุยส์พ้นผิดในคดียิงชายผิวดำเสียชีวิตเมื่อปี 2554
ผู้ชุมนุมประมาณ 600 คนพากันเดินขบวนไปตามท้องถนนในเมืองเซนต์หลุยส์เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นพร้อมกับตะโกนว่าไม่มีความยุติธรรม ไม่มีสันติภาพ และชีวิตคนผิวดำก็มีค่า หลังจากนั้นในช่วงเย็นมีผู้ออกมาชุมนุมอีกราว 300 คน ผู้ประท้วงบางส่วนขว้างก้อนหินและขวดน้ำ ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์เผยว่า เจ้าหน้าที่ใช้สเปรย์พริกไทยกับผู้ประท้วงหลายราย และเกิดการตะลุมบอนกันในหลายจุด มีผู้ประท้วงถูกจับกุม 33 คน ขณะที่ตำรวจปราบจลาจล 11 นายได้รับบาดเจ็บระหว่างสกัดไม่ให้ผู้ประท้วงเคลื่อนขบวนไปยังทางหลวง
ชาวเมืองเซนต์หลุยส์ออกมาแสดงความไม่พอใจเป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังจากศาลตัดสินให้นายเจสัน สตอกลีย์ อดีตตำรวจผิวขาววัย 36 ปีพ้นผิดในข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนกรณีที่ทำให้นายแอนโธนี ลามาร์ สมิธ ชาผิวดำวัย 24 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2554 นายสตอกลีย์อ้างว่านายสมิธขับรถหลบหนีขณะเขาจะเข้าไปจับกุมในคดียาเสพติด เขาและคู่หูจึงได้ยิงเพราะคิดว่านายสมิธมีปืน นายสมิธถูกยิง 5 นัดเสียชีวิตคารถ และพบปืนในรถ อัยการแย้งว่า ตำรวจจัดฉากเพราะพบแต่ดีเอ็นเอของนายสตอกลีย์บนปืน ผู้พิพากษาชี้ว่า อัยการไม่สามารถพิสูจน์จนสิ้นข้อสงสัยอันมีเหตุผลว่าเป็นการฆาตกรรมหรือแม้แต่การฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา และศาลไม่เชื่อคำแย้งของอัยการที่ว่าตำรวจจัดฉากวางปืนไว้ในรถนายสมิธ เพราะเป็นเรื่องผิดปกติมากหากนักค้าเฮโรอีนในเขตเมืองจะไม่พกอาวุธ
ก่อนหน้านี้มีตำรวจสหรัฐพ้นผิดมาแล้วหลายคนในคดีทำให้ประชาชนเสียชีวิต เช่น คดีตำรวจยิงนายไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวดำวัย 18 ปี เมื่อปี 2557 ที่เป็นชนวนเหตุประท้วงรุนแรงหลายวันในเมืองเฟอร์กูสัน คดีตำรวจรัดคอนายเอริก การ์เนอร์ วัย 43 ปี จนขาดอากาศหายใจที่นครนิวยอร์กในปีเดียวกัน คดีนายเฟรดดี เกรย์ วัย 25 ปี คอหักในรถตำรวจในปีถัดมา