เรือนไทย

 พระบรมวงศานุวงศ์ประทับอยู่ที่พระตำหนักหรือพระราชวังใดกันบ้างวานคุณเทาชมพูให้ความรู้ด้วยนะคะเท่าที่ทราบสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ทรงประทับอยู่ที่วังสุโขทัย สมเด็จพระเทพประทับอยู่ที่วังสระประทุม(ใช่หรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ) แล้วราชสกุลต่าง ๆ มีตำหนักหรือมีวังมั้ย

 ตอบได้แต่ตำหนักหรือวังของราชสกุลต่างๆในอดีต  ที่อยู่นอกพระบรมมหาราชวังค่ะ
ถ้าอยากทราบก็บอกด้วย  เพราะคำตอบยาวมาก  พิมพ์ได้วันละเล็กละน้อย

 เรียนคุณเทาชมพู ขอบคุณคะที่กรุณาภ้าเป็นไปได้ก็อยากทราบตำหนักหรือวังทั้ง 127 ราชสกุลเลยยิ่งดีคะจะเป็นพระคุณอย่างสูง( ราชสกุลมีทั้งหมด 127 ราชสกุลใช่หรือเปล่าคะ)            

 วังปลายเนิน เป็นของราชตระกูลจิตรพงศ์ (หรือจิตรพงษ์ ไม่แน่ใจ) ซึ่งเป็นทายาทของ กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ถ้าจำไม่ผิด มรว.จักรรถ เป็นเจ้าของค่ะ

 คุณปิ่นมณี เป็นคนที่ค่อนข้างจะมีอารมณ์ขันนะคะ

 ขอบคุณคะ คุณแพร การมีอารมณ์ขันทำให้เราไม่เครียดคะและทำให้เรามองโลกในแง่ดีด้วยนะคะ

คือ...วีจำได้ว่าเคยไปที่เรือนไทยที่หนึ่ง จำไม่ได้ว่าอยู่แถวถนนพระอาทิตย์หรือเปล่า แต่เขาเรียกกันว่าบ้านคึกฤทธิ์น่ะค่ะ เพราะเคยเป็นที่พำนักของ ม.ร.ว คึกฤทธิ์มาก่อน ปัจจุบันรู้สึกจะเปิดให้เป็นคล้าย ๆ พิพิธภัณฑ์นะคะ ไม่รู้ว่าเป็นที่เดียวกับที่คุณหยดน้ำกล่าวถึงหรือเปล่า

 บ้านของ  ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ อยู่ที่ซอยสวนพลูคับผม  เป็นบ้านเรือนไทย  ซึ่งเปิดให้เข้าชม

 แล้วมีพระองค์ใดประดับอยู่ที่พระบรมมหาราชวังรึเปล่าครับ

 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ  ทรงประทับอยู่ที่อาคารรับรองผู้ติดตามระดับสูงของพระราชอาคันตุกะ  ด้านหลังพระที่นั่งบรมพิมาน  ครับ

 มาพูดถึงพระตำหนักในพระบมมหาราชวังดีกว่า

 ขอโทษภาพผิด ภาพนี้เป็นภาพเรือนก๊กออ

 พระตำหนัก สมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัคราชเทวี พระเจ้าอยูหัว รัชกาลที่5 ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างเป็นที่ประทับของ สมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัคราชเทวี และพระราชธิดา และพระเชษฐาภคินี เป็นพระตำหนัก2ชั้น เดิมเป็นพระตำหนัก3ชั้น แต่ได้ทรุดโทรมลง :ซึ้งอยู่คู่กับตำหนักเจ้าจอมมารดาแส ลักษณะไกล้คียงกัน แต่พระตำหนักของพระราชเทวีจะงดงามกว่า

 ต้นราชสกุล กัลยาณวงศ์ คือพระองค์เจ้ากัลยาณประวัติ พักอยู่ที่ตำหนักหรือวังใดมาก่อนค่ะและอยากโพสรูปตำหนักหรือวังให้ด้วยค่ะ

 เกิดวังปารุสก์พระนิพนธ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ครับ
แก้คห.ที่๑๓

 มีรูปอีกไหมครับคุณ อยากได้จังเลย!

 ขอขยายความเห็นที่ ๒๓ ครับ  วังริมถนนราชดำเนินนอกตรงข้ามกับกองบัญชาการกองทัพภาคที่ ๑ ที่ว่า เป็นวังปารุสกวันนั้น  เดิมตรงนี้มี ๒ วังด้วยกันครับ  คือ พระตำหนักจิตรลดา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร (ต่อมาคือ รัชกาลที่ ๖) คือองค์ที่อยู่ตรงมุมถนนราชดำเนินนอกตัดกับถนนศรีอยุธยา ซึ่งปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ส่วนตำหนักปารุสกวันนั้นคือ ตำหนักองค์ที่อยู่ริมถนนราชดำเนินนอกตัดกับถนนพิษณุโลก ซึ่งเป็นตำหนักเดิมของสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ  ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระตำหนักจิตรลดาให้แก่สมเด็จพระอนุชาธิราชฯ  จึงได้ทรงใช้พระตำหนักจิตรลดานี้เป็นที่รับแขกมาตลอดพระชนม์ชีพ  ตรงนี้ขอแถมข้อสังเกตุไว้สักนิดว่า  โดยที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ นั้น เคยทรงกรมเป็นกรมขุนเทพทวาราวดี ซึ่งหมายถึงกรุงศรีอยุธยา  เมื่อพระราชทานนามถนนที่ผ่านข้างตำหนักทั้งสองนี้จึงได้โปรดพระราชทานนามถนนตามพระนามกรม คือ ศรีอยุธยา = กรมขุนเทพทวาราวดี (กรุงศรีอยุธยา)  และ พิษณุโลก = กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ

ถัดไปอีกฟากถนนบริเวณที่เป็นกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน  เดิมก็เตรียมที่จะจัดวังมาก่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปดให้สร้างขึ้นจะพระราชทานให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร  แต่การก่อสร้างยังไม่ทันแล้วเสร็จพอดีสิ้นรัชกาลเสียก่อน  แม้กระนั้นก็ได้พระราชทานชื่อไว้แล้วว่า วังจันทรเกษม  พยานยืนยันคือพระราชลัญจกรพระวชิราวุธทรงสัปตปฎลเศวตฉัตรที่ซุ้มประตูด้านถนนราชสีมา  บริเวณที่เป็นคุรุสภาในปัจจุบัน  วังจันทรเกษมนี้ต่อมาในรัชกาลที่ ๖ โปรดให้สร้างต่อจนแล้วเสร็จและได้พระราชทานให้เป็นที่ตั้งกองบัญชาการกรมมหรสพ ซึ่งเป็นส่วนราชการในสังกัดกรมมหาดเล็ก  เมื่อสิ้นรัชกาลแล้วกรมมหรสพถูกยุบเลิกจึงได้ใช้เป็นที่ตั้งกระทรวงศึกษาธิการต่อมา  และในช่วงหนึ่งที่มีปํญหาเรื่องการฝึกหัดครูทางราชการจึงได้ใช้สถานที่ของวังจันทรเกษม (บริเวณที่เป็นคุรุสภาในปัจจุบัน)นี้เป็นที่ตั้งโรงเรียนฝึกหัดครู  ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่ตั้งถาวรที่ซอยประสานมิตร  แล้วพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒในปัจจุบัน

 วันนี้ขอแวบมาถามหน่อยครับ พอดีได้ยินชื่อ "วังวิทยุ"มา แต่ไม่ทราบครับว่าอยู่บริเวณไหน
รู้มาผิวเผินเหมือนกับว่าจะเป็นวังในราชสกุลรังสิต ก็เท่านี้เองครับ

มาขอเรียนถามอาจารย์หลายๆท่านในนี้หน่อยครับผม

 อยากถามท่านผู้รู้หน่อยว่าอาคารร้างที่อยู่ตรงหัวมุมตรงแยกพญาไท เป็นวังของใครครับ คงจะเป็นวังของเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งเป็นแน่  ตรงข้ามสำนักงานเขตราชเทวีนะครับ
    ขอบคุฯครับ

 วังวิทยุ  ถ้าจำไม่ผิด เป็นของหม่อมเจ้าปิยะรังสิต รังสิต และพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต
จำได้ว่าอยู่ใกล้สถานทูตสหรัฐ ฝั่งเดียวกัน  
ถ้าคุณมาจากทางสวนลุมพินีจะถึงสถานทูตก่อน แล้วผ่านไปจะถึงวังวิทยุ
ตอนนี้นึกไม่ออกแล้วว่ายังอยู่หรือเปล่า   เพราะผ่านถนนวิทยุทีไรเห็นแต่อาคารศูนย์การค้าสูงๆเต็มไปหมด

 วังที่อยู่ริมถนนวิทยุมีอยู่  5  วังครับ  ได้แก่

1.  วังสมเด็จเจ้าฟ้าหญิงวไลยอลงกรณ์  อยู่บริเวณโรงแรมใกล้กับหัวมุมถนนวิทยุครับ
2.  วังพระองค์เจ้าหญิงประภาพรรณพิไลย  ปัจจุบันเป็นอาคารสำนักงานเอกชน
3.  วังพระองค์เจ้าหญิงพิสมัยพิมลสัตย์
4.  วังพระองค์เจ้าหญิงเยาวภาพงศ์สนิท
5.  วังสมเด็จฯ  กรมพระยาชัยนาทนเรนทร  (พระองค์เจ้ารังสิตฯ)  อยู่ใกล้กับสถานทูตอเมริกันเหมือนที่คุณเทาชมพูบอกอ่ะครับ  ด้านหลังจะติดกับซอยร่วมฤดี  แต่เดิมพระองค์เจ้ารังสิตฯ  ทรงมีวังอยู่ที่ถนนหลวงฟากใต้  ตรงข้ามกับวัดเทพศิรินทร์  แต่ตำหนักสร้างด้วยไม้ใช้เป็นที่ประทับชั่วคราว  ต่อมามาเมื่อวังที่ถนนหลวงเกิดไฟไหม่หมด  จึงได้มาสร้างวังส่วนพระองค์เมื่อปี  2468  ปัจจุบันกรรมสิทธิ์เป็นของทายาท

 อาคารร้างที่อยู่ตรงหัวมุมสี่แยกพญาไท  เป็นวังของพระนางเธอลักษมีลาวัณ  ในรัชกาลที่  6  ครับ  ชื่อวังลักษมีวิลาศ  ถ้าผมจำไม่ผิดพระนางทรงประทับอยู่วังนี้ตั้งแต่ทรงแยกกันอยู่กับรัชกาลที่  6  จนกระทั่งถูกลอบปลงพระชนม์ครับ

 ขอบคุณมากครับ อีกนิดครับ ปัจจุบันอยู่ในการดูแลของใครครับ  เพราะทราบมาว่าพระนางเธอไม่มีพระโอรสหรือพระธิดา ทำให้เป็นเหตุต้องทรงแยกกันอยู่กับร.6

 เท่าที่ผมทราบภายหลังจากพระนางสิ้นพระชนม์แล้ว  วังนี้ได้ตกเป็นของผู้อื่นอีกหลายมือครับ  ไม่ได้เป็นของทายาท  ว่ากันว่าวังนี้เฮี้ยนน่ะครับ  ตอนนี้น่าจะอยู่ในระหว่างการขายทอดตลาดอ่ะครับ  หรืออาจจะมีใครซื้อไปแล้วก็ได้ครับ  ยังไงรอท่านผู้รู้ท่านอื่นมาตอบจะชัวรืกว่าครับ

 อยากทราบว่าวังเก่า(หรือบ้านเก่า?)ที่อยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี อยู่ทางฝั่งที่จะขึ้นรถไปทางสถานีหมอชิตจะเห็นชัดมาก ดิฉันไปยืนดูบ่อยๆ ไม่ทราบว่าเป็นของท่านใดคะ สงสัยมานานแล้วค่ะ

 ไม่ทราบครับบ้านคนมีออกจะเยอะ

 เมื่อเร็วๆ นี้ (วลีที่นิยมใช้แพร่หลายมากในหมู่นักประชาสัมพันธ์ เมื่อต้องการจะไม่เอ่ยถึงวันเวลาที่จำกัดไม่ว่าจะเพราะจำไม่ได้ หรือเพื่อผลทางประชาสัมพันธ์ในการส่งข่าวแจก) ผู้เขียนกับคนใกล้เคียงได้รับเชิญไปร่วมงานเปิดแนะนำหนังสือ “หนังสือภาพพระราชโอรส พระราชธิดา พระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ซึ่งเป็นหนังสือดีมากๆ ราคาถูกเพียง ๑,๕๐๐ บาท จัดทำโดย ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต ธิดาใน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต กับ ม.จ.ปิยะรังสิต รังสิต งานนั้นจัดขึ้น ณ วังวิทยุ โดย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ทรงพระกรุณาเสด็จเป็นองค์ประธานของงาน  วังวิทยุแสดงว่าคงเป็นที่ประทับอยู่ครับ  จากhttp://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetail.asp?stcolumnid=633&stissueid=2430&stcolcatid=2&stauthorid=17

 อ๋อจำได้แล้ว สมัยก่อนผมถามป้าทุกวัน ไอ้ตึกที่ตอนนี้มีสักกะสีเขียวๆ ที่เขาบอกว่าไกล้จะรื้อนะหรอครับ ผมถามป้าผมเขาก็บอกว่าไม่รู้ไม่รู้อยู่เรื่อย ทุกครั้งผมพยายามมองเข้าไปเห็นบ้านเก่าๆผุผุพังๆสภาพดูไม่ค่อยจะได้นะครับ แต่ถ้าอยู่ในสภาพดีคงจะสวยมากนะครับ ที่อยู่ไกล้ๆกับโรงพยาบาลลเดชา และโรงแรมสยามซิตี้  ในเวป http://diary.jorjae.com/list.phpเขาเล่าถึงวังนี้แบบสยองๆไม่อยากเล่าเลยมันน่ากลัว  ต้องขอคมาลาโทษสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายด้วย เรื่องเล่าจากป่าช้า ตอนที่1 ภาพหลอนจากบ้านร้างข้างตึก (สี่แยกพญาไท) ค่ำคืนวันศุกร์สิ้นเดือนมักจะเป็นวันที่ใครก้อต้องไปเที่ยว ปาร์ตี้กัน แต่ผมเองก้อไม่มีอะไรจะทำนั่งเคลีย์งานอยู่คนเดียว ทำงานเรื่อยๆจนเพลิน ดูเวลาปาไป 5 ทุ่มกว่าๆแล้ว ได้เวลากลับบ้านแล้วเรา... ตึกที่ผมทำงานดันมีกฏงี่เง่าๆๆเรื่องนึงที่หกากเวลาเกิน 4 ทุ่มแล้วลิฟฟ์จะปิดต้องโทรเรียก รปภ. ด้านล่างกดลิฟฟ์มารับผมที่ชั้น11 แล้วตัวอาคารผมใครเคยเดินทางมาสี่แยกพญาไทจะสังเกตได้ว่าตรงหัวมุมสี่แยกพญาไทตัดกับถนนศรีอยุธยาจะมีบ้านร้างเก่าๆหลังนึง เป็นของเจ้าขุนมูลนายเก่าๆท่านนึงเป็นข้าหลวงใหญ่สมัยนานมาแล้ว เป็นคนเชื้อสายแขก แล้วบ้านของท่านได้บริจาคให้กับสากาชาดแล้ว ผมเองโทรเรียกยามด้านล่างมารับผมเเล้วกะลังรอลิฟฟ์อยู่เวลาก้อปาไปเกือบเที่ยงคื่น ระหว่างที่ผมรอลิฟ์ผมก้อมองออกไปด้านนอกกระจกผ่านบ้านหลังดังกล่าว สิ่งที่ผมไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ผมพยายามจ้องมองบ้านหลังดังกล่าวด้วยความสงสัย...สิ่งที่ผมเห็นผมต้องจำไปจนวันตายเลยครับ.....มีสิ่งผิดปกติมีความเคลือ่นไหวที่บ้านหลังนั้น....ผมๆ..............ไม่กล้ามองกลับไปอีกรอบว่าที่ผมเห็นเป็นสิ่งที่ผมคิดไปเองหรือเปล่าแต่ไม่ใช่ผมหันกลบัไปมองอีกครั้ง...........ทำให้ผมแน่ใจว่า... มันคือ...ติดตามตอนสองนะครับเพราะว่าผมเขียนต่อไม่ได้อีกแล้วเพราะขณะกำลังเขียนไดอารี่อยู่มีลมๆพัดไปมาตลอดและการเขียนมีอุปสรรคไม่ว่าไฟที่ออฟฟิศจะดับอีกหรือเปล่าขณะที่ผมกะลังเขียนไดอารี่นี้ผมก้อเขียนที่ออฟฟิศนี้ครับผมว่าเรื่องที่ผมกำลังเขียนต้องอะไรซักอย่างที่ทำให้มีอุปสรรค เชื่อไหมครับไฟที่ออฟิศผมดับไปสองรอบแล้วคร้บ...บื้อ....ผมจะมาเขียนตอนสองหลังจากวันนี้นะครับเพราะผมแน่ใจว่าทำการเขียนต่อที่นี้ไม่ได้แน่นอนคร้าบ...................ติดตามตอนสองนะครับ.............

 ผมก็ไม่รู้ว่าคนเขีนเขาพูดจริงหรือท็จ ผมยังสงสัยอยู่

 แต่เรื่องบ้านนั้นจริงครับ เขาพึ่งขายให้พวกแขกไปเอง

 อยากทราบเรื่องวังบ้านหม้อครับ

 ประวัติวังบ้านหม้อคร่าวๆ  นะครับคุณvun

ในรัชกาลที่  3  ปี  พ.ศ.  2374  เกิดไฟไหม้วังกรมหมื่นสุนทรธิบดี  ตลอดไปจนถึงบ้านหม้อซึ่งกินบริเวณกว้างมาก  ต่อมาพระเจ้าบรมวงศ์เธอ  ชั้น  2  กรมหมื่นพระพิทักษ์เทเวศร์  (พระองค์เจ้ากุญชร)  จึงได้ทรงย้ายวังจากบริเวณริมถนนพระพิพิธฟากเหนือ  ตรงข้ามวัพระเชตุพนฯ  มาสร้างใหม่ตรงที่ว่างซึ่งถูกไฟไหม้  และเสด็จประทับอยู่จนสิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่  4  จากนั้นมาวังก็ใช้เป็นที่ประทับของหม่อมเจ้าในกรม  และถูกปกครองโดยทายาทในราชสกุลชุญชร  โดยลำดับดังนี้

1.  หม่อมเจ้าใหญ่  (ในรัชกาลที่  5  ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระองค์เจ้าสิงหนาทราชดุรงค์)

2.  เจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์  (หม่อมราชวงศ์หลาน  กุญชร)
พระยาเทเวศร์

3.  พระยาเทเวศร์วงวิวัฒน์  (หม่อมหลวงวราห์  กุญชร)

4.  หม่อหลวงแฉล้ม  กุญชร

ปัจจุบันวังบ้านหม้อเหลือเพียงท้องพระโรง  ศาลาท้องพระโรง  และเก๋งด้านหน้าท้องพระโรง  อันเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีมาตั้งแต่สร้างวังครับ

 หรอครับ เห็นเขามีงานจัดงานอภิเษกสมรถกันที่นั่นนึกว่าจะมีตำหนักใหญ่โต