อาจจะเป็นไปได้น่ะครับ เพราะเป็นมือขวาของเจ้าเมืองนิ แล้วก็นามสกุล ลาเฮศักดิ์สิทธิ์นี้ เหมือนว่าเจ้าเมืองตานีเป็นคนประทานให้ จากคนเก่าที่เล่ากันมา
ถ้านามสกุล ลาเฮศักดิ์สิทธิ์ เป็นนามสกุลที่เจ้าเมืองตานีตั้งให้ ตามที่คุณ Thosawad ให้ข้อมูล
ก็ควรอาจจะสันนิษฐานต่อไปได้ว่า เจ้าเมืองตานีคนนั้น คือใคร ตรงนี้ตามได้ไม่ยาก
เพราะเอาพระราชบัญญัติขนานนามสกุล ในรัชกาลที่ ๖ เป็นเขตเวลาที่จะค้นหาได้
ปัญหาก็คือ เจ้าเมืองเมืองตานี หรือ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี คนดังกล่าว เป็นคนคนเดียวกัน
กับเจ้าเมืองเมืองตานีที่หลวงปริพันธ์ประสิทธิ์ได้รับราชการเป็นมือขวาหรือไม่
นี่คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ที่ดำรงตำแหน่งในช่วงรัชกาลที่ ๖ - ๗
1. พระยาสุรพลพิพิธ(เป๋า สุมนดิษฐ์) พ.ศ. 2452 - 2455
2. พระนราภิบาล (เปลี่ยน กาญจนารัณย์) พ.ศ. 2455 - 2462
3. พระสมานไมตรีราษฎร์ (ล้วน พิศลยบุตร) 23 ธ.ค. 2462 - 31 ม.ค. 2465
4. พระธุระนัยพินิจ (ฮะ สมบัติศิริ) 1 ก.ค. 2465 - 31 มี.ค. 2468
5. พระสมานไมตรีราษฎร์ (ล้วน พิศลยบุตร) 1 เม.ย. 2468 - 31 มี.ค. 2469
6. พระยาเพชราภิบาลนฤเบศร์ (ล้วน พิศลยบุตร) 1 เม.ย. 2469 - 31 มี.ค. 2471
7. พระวิเทศปัตตนาทร (แจ้ง สุวรรณจินดา) 1 เม.ย. 2471 - 31 มี.ค. 2472
8. พระยารัตนภักดี (แจ้ง สุวรรณจินดา) 1 เม.ย. 2472 - 28 ก.พ. 2476
เอาล่ะ ข้อสงสัยยังไม่หมดเท่านั้น ยังมีข้อสงสัยต่อไปว่า
เจ้าเมืองตานี หรือผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี (คนใดก็ไม่ทราบได้) ได้ตั้งนามสกุลลาเฮศักดิ์สิทธิ์
แก่หลวงปริพันธ์ประสิทธิ์โดยตรง หรือตั้งนามสกุลนี้ให้แก่ญาติพี่น้องลูกหลานทายาทหลวงปริพันธ์ประสิทธิ์กันแน่
ถ้าตั้งนามสกุลให้แก่หลวงปริพันธ์ประสิทธิ์โดยตรง แสดงว่าเป็นข้าราชการร่วมสมัยกัน
แต่ถ้าไม่ใช่ ก็คงเป็นลูกหลานของคุณหลวงที่ได้รับนามสกุลนั้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี
ยังเหลือเรื่องบรรดาศักดิ์ข้าราชการชั้นประทวนอีก เอาไว้วิเคราะห์ในความเห็นถัดไปดีกว่า