ส่วนคนนี้แค่โฉบไปมาบนจอ แต่ในด้านเสียงเพลง เธอดังมาก ๆ ทั้งที่บ้านของเธอและที่บ้านเรา
Lesley Gore เป็นนักร้องในยุคเดียวกับ 2 คนแรก ในวัยเพียง 17 ขวบ เธอประเดิมอาชีพนักร้องด้วยเพลงดังสนั่นที่อเมริกาในปี 1963 ชื่อเพลง It’s my party
(เธอเกิดปี 1946 อ่อนกว่า Helen Reddy, Carly Simon และเท่ากับ Linda Ronstadt แต่ความที่เธอดังเร็วกว่า เลยกลายเป็นนักร้องในยุค 60s ขณะที่ HR (เกิด 1941) CS (เกิด 1943) เกิดก่อนแต่ดังช้ากว่าจึงกลายเป็นนักร้องในยุค 70s ซึ่ง 2 ยุคนี้มีแนวเพลงต่างกัน ส่วน LR เกิดปีเดียวกันแต่ดังทีหลังก็เลยกลายเป็นนักร้องในยุค 70s เช่นกัน)
ความดังของเพลง It's ฯ นี้นอกจากทำนองติดหูแล้ว เนื้อร้องยังน่าสนุก แถมน้ำเสียงของเธอก็ไปกันได้ดี เนื้อเพลงกล่าวถึงสาวน้อย Lesley (ในเนื้อเพลงไม่ได้บอกว่าเธอชื่ออะไรก็เลยเหมาเอาว่าคือคนร้องนั่นแหละ) ที่โดนแฟนหนุ่ม Johnny และเพื่อนสาวคนสนิท Judy พร้อมใจกันหักหลังด้วยการแอบไปคั่วกันเอง หนำซ้ำยังควงกันมาหยามหน้าในงานวันเกิดของเธอ
เนื้อเพลงน้ำเน่าแบบนี้ถูกใจวัยรุ่นวุ่นรักโดยเฉพาะสาว ๆ ในยุคนั้นต่างกรี๊ดกันสลบ ส่งผลให้ยอดขายพุ่งหน้าตั้งไปติดอันดับหนึ่งของตารางเพลง billboard และค้างอยู่นานถึง 2 สัปดาห์ซึ่งในยุคนั้นหานักร้องหญิงทำสถิติแบบนี้ได้ยาก
กระแสรุนแรงแบบนี้ทำให้ บ. แผ่นเสียงต้นสังกัด ใช้กลยุทธ์น้ำขึ้นให้รีบตัก ไม่รอช้าที่จะจับเธอมาร้องเพลงที่ 2 ออกสู่ตลาดตามมาติด ๆ ภายในช่วงเวลาห่างกันเพียง 2 เดือน
เนื้อเพลงของเพลงที่ 2 Judy’s turn to cry นี้เป็นตอนต่อจากเพลงแรก กล่าวถึงในที่สุด Johnny แฟนหนุ่มของเธอก็กลับใจแล้วทิ้งโค้งวกกลับมาหาเธอ (ด้วยสาเหตุอะไรต้องฟังเพลงเอา) เป็นชัยชนะของสาวน้อย Lesley เหนือนัง Judy เพื่อนจอมหักหลัง (เป็นผมละก็ขอตบไอ้ ‘หน้าหม้อ’ Johnny ซัก 40 ทีก่อนแล้วค่อยรับกลับเข้ามาในอ้อมกอด)
เพลงที่ 2 นี้ดังตามคาดแม้จะไม่ถล่มหูเท่าเพลงแรก อย่างไรก็ตาม 2 เพลงดังกล่าวความที่เป็นเพลงที่มีเนื้อหาต่อเนื่องกันเหมือนหนังชุดทางทีวี และออกอากาศในเวลาไล่หลังกันไม่นาน เหล่าดีเจวิทยุจึงสนุกกับการเปิดเพลงทั้งสองติดต่อกันไป
นี่คือเรื่องราวความรักของสาวน้อย Lesley ที่ชาวอเมริกันร่วมยุคล้วนได้ยินมานมนาน
ในปี 1986 เพื่อนผมคนหนึ่งซื้อแผ่นเสียง Lesley Gore, the Anthology มาให้ ผมดีใจจนเนื้อเต้น ที่ถึงกับเนื้อเต้นเพราะเธอไม่เอาตังค์ ถ้ามาคิดตังค์ทีหลัง ผมคงต้องเปลี่ยนจาก ดีใจจนเนื้อเต้น เป็น ดีใจมาก
แผ่นเสียงชุดนี้ทำออกมาในโอกาสพิเศษเพราะปี 1986 นั้นหมดยุคของ LG ไปแล้ว มันเป็นแผ่นคู่ คือมี 2 แผ่นเสียงอยู่ในซอง ซึ่งหมายความว่าซองเป็นแบบ gatefold คือเปิดกางได้ ชื่อแผ่นถ้าแปลแบบกันเองก็คือแผ่นรวมเพลงของเธอนั่นเอง
เมื่อเปิดแผ่นฯ กางออกมานอกจากมีรูปของนักร้องแล้วยังมีตัวหนังสือยุ่บยั่บ ผมลงมืออ่านโดยยังไม่ต้องฟังเพลง ตัวหนังสือเล่าความเป็นมาของเพลง singles ต่าง ๆ ที่ LG ร้องเริ่มตั้งแต่เพลงแรกคือ It’s ฯ และเพลงที่สองคือ Judy’s ฯ ความเป็นมาของทั้ง 2 เพลงนี้ก็รู้ ๆ กันอยู่แล้ว แต่พอมาเพลงที่ 3 นี่ซิ ผมอ่านอย่างขะมักเขม้น ข้อมูลบอกว่า เนื้อเพลงของเพลงที่ 3 นี้คือส่วนที่หายไปอันเป็นตอนกลางของเรื่องความรักของหนู Lesley
เนื้อของเพลงที่ 3 นี้เริ่มต้นหลังจาก Johnny แฟนหนุ่มหน้าหม้อทรยศไปหลงระเริงกับเพื่อนซี้ Judy ทำให้หนู Lesley อกหักดังเป๊าะ ต้องไปนั่งคร่ำครวญหวนไห้ฟาดงวงฟาดงากับดวงดาวบนท้องฟ้า ความจริงนี่ลำดับของเพลงนี้ต้องเป็นเพลงที่ 2 แล้วจึงตามมาด้วยเพลง Judy’s ฯ เป็นเพลงที่ 3 อันเป็นตอนจบแบบ happy ending แต่ทำไม บ.แผ่นเสียงถึงเน้นเพลงแค่ 2 ตอนจบก็ไม่รู้
พล่ามมานาน ตานี้มาฟังชีวิตรัก (เน่า ๆ) ที่ครบชุดของหนู Lesley กัน
ตามลำดับเหตุการณ์ นี่คือเพลงแรก It’s my party
มาเพลงที่สองชื่อ Just let me cry นี้เป็นเพลงที่วิทยุบ้านเราเอามาเปิดและกระหน่ำเปิดจนนักฟังเพลงฝรั่งร่วมยุครู้จักเป็นอย่างดี ในขณะที่บ้านเขาไม่เคยได้ยินเพราะมันไม่ใช่ single ดีเจวิทยุจึงไม่มีสิทธิเปิดออกอากาศ เพราะติดลิขสิทธิ์
สำหรับ 2 singles ที่เล่ามาเมื่อนั่นผมไม่เคยได้ยินในยุคของมัน ไม่รู้มีใครเคยได้ยินบ้าง ที่ผมไม่เคยได้ยินอาจเป็นเพราะยังเด็ก ยังไม่รู้จักการหมุนปุ่มหาคลื่นบนหน้าปัดวิทยุ แต่เพลง Just ฯ นี้ฮิตมายาวนานหลายปี ไม่ว่าจะหมุนปุ่มไปทางซ้ายหรือขวาเป็นต้องได้ยิน ได้ยินตั้งแต่จำความได้จนกระทั่งผมโตอยู่ ม. ต้นแล้วก็ยังคงได้ยินอยู่ประปราย มันกลายเป็นอีกหนึ่งเพลงโปรดตลอดกาลของผม
ตอนที่เพื่อนซื้อแผ่นเสียงมาให้ผมถึงดีใจจนเนื้อเต้น เพราะนอกจากจะได้ฟรีแล้วยังมีเพลงนี้ของเธอรวมอยู่ด้วย ความจริงผมก็มีเพลงนี้อยู่แล้วแต่อยู่ใน cassette tape เพลง It’s ฯ นั้นเคยได้เห็นเพียงชื่อกับรู้ความดังของมัน ไม่เคยได้ยินตัวเพลง ส่วนเพลง Judy's ฯ นี่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ทำนองเพลง Just ฯ นี้ผมว่าเพราะไม่แพ้ 2 เพลง singles นั้นเลย
และจบด้วยเพลงที่ 3 คือ Judy’s turn to cry
มีต่อ...