เรือนไทย

General Category => หน้าต่างโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ย. 07, 19:08



กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ย. 07, 19:08
ต่อจากกระทู้เดิม
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=2320.msg43733;topicseen#msg43733

ประเดิมด้วยหนึ่งในสิบหนังรักอมตะตลอดกาล ของ American Film Institute
คือ Love Story ในปี 1970 ตามคำขอของคุณ Sila

ดาราคือไรอัน โอนีล และอาลี แม็คกรอว์  กำลังหนุ่มสาวหล่อสวยเข้ากันดีทั้งคู่


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ย. 07, 19:16
จาก 1970 ถึง 2007  พล็อตเรื่องนี้อาจจะได้ยินได้เห็นกันจนจืดไปแล้วก็ได้  แต่ย้อนหลังไป   เป็นความรักคลาสสิคของหนุ่มสาว ดูแล้วน้ำตาท่วมโรง
ประโยคอมตะของหนัง ก็คือ
"Love means never having to say you're sorry."
ไทยเอามาแปลว่า  เมื่อจะรัก  ก็ไม่มีคำว่าเสียใจ

ความจริง ประโยคอังกฤษที่ว่านี้   พูดผิดจากสคริปต์   ประโยคที่ถูกคือ
"Love means not ever having to say you're sorry."
รัก  หมายถึงว่าคุณไม่มีวันที่จะต้องพูดคำว่า "ขอโทษที่ทำผิดไปแล้ว"
แปลอีกที ว่าความรัก คือสิ่งที่คุณทำลงไปแล้วจะไม่มีวันเสียใจ ภายหลัง


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 23 ก.ย. 07, 22:18
 :P :'( :'( :'( :-*


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 07, 09:30
เรื่องนี้ทำจากนิยายขายดีของอีริค ซีกัล    เขาเป็นคนเขียนบทหนังเอง  ก็เลยหมดปัญหาว่าจะถูกเปลี่ยนเนื้อเรื่องจนคนเขียนจำไม่ได้
พล็อตเรื่องไม่มีอะไรมาก  หนุ่มหล่อรวย พบสาวจนแต่สวยและเก่ง ในมหาวิทยาลัย    ทั้งคู่ฟันฝ่ากำแพงอุปสรรคมาใช้ชีวิตคู่   ด้วยรักแท้ที่มีต่อกัน   พ่อฝ่ายชายขัดขวางยังไงก็ไม่สำเร็จ
มารร้ายในเรื่องไม่ใช่พ่อผัวแม่ผัว  หรือนางอิจฉากรี๊ดๆ     แต่เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น คือชะตากรรม
กำหนดให้พระเอกนางเอกที่รักกันสุดหัวใจ ต้องพลัดพรากจากกันตลอดกาลด้วยโรคมะเร็งทางฝ่ายนางเอก

นิยายหรือหนังหรือละคร ที่โศกซึ้งตรึงใจคน มีสูตรสำเร็จอยู่แบบหนึ่งว่า ให้ความตายมาพรากคู่ที่รักกันจริง ในจังหวะชีวิตที่กำลังพอเหมาะเจาะ   
คือเขาและเธอเป็นหนุ่มสาวสวยงาม  รักกันปานกลืนกิน   ร่วมใจกันฟันฝ่าอุปสรรคแต่ไม่พ้น   ฝ่ายหนึ่งตายไปในอ้อมแขนของอีกฝ่าย

ถ้าหากว่าพระเอกนางเอกอยู่กินกันไปจนแก่ แล้วถึงจะป่วยตาย  อย่างนั้นไม่ซึ้งค่ะ   มันเป็นธรรมชาติเกินไป
หรือถ้าหากว่าอยู่ด้วยกันไม่ไหว ต่างคนต่างไม่มีความสุข  ต่อให้ตายก็ไม่โศกแน่นอน
อยู่แบบแฮปปี้เอนดิ้ง คนดูชอบใจ   แต่ไม่ซาบซึ้งเท่ากับตาย จนน้ำตาท่วมโรง

สูตรแบบ Love Story  หนังฮอลลีวู้ดและไม่ใชฮอลลีวูดทำอีกหลายเรื่อง  มากมายจนเฝือ      ก็เลยไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเท่าไร

สูตรอีกอย่างคือเรื่องแบบนี้พระเอกต้องหล่อและนางเอกต้องสวย    อย่าเอาดาราหน้าธรรมดาๆมาเล่นเป็นอันขาด


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 24 ก.ย. 07, 10:05
        นึกย้อนกลับไปครั้งยังเด็กอยู่ได้รับรู้ว่า หนังจากนิยายเรื่องนี้ดังข้ามโลก คนดูต่างซาบซึ้งใจ ทั้งยังได้เข้าชิงตุ๊กตาทอง
หลายรางวัล ถึงเวลาได้ดูกลับไม่ค่อยซึ้งเศร้า เพราะยังไม่ค่อยเข้าใจชีวิต - ความตาย  ครับ
        ความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ อย่างหนึ่งอาจเป็นเพราะแหวกออกมาได้ตรงเวลากระมังครับ คนดู(ผู้ใหญ่-วัยรุ่น)ได้ดูหนังเรื่องน้อยและง่าย
ชื่อเรื่องก็ทื่อๆ ตรงๆ แต่ปรุงได้ถึงรสโดนใจ เลยทำให้หนังเล็กๆ เรื่องนี้ประสบความสำเร็จมากมาย ทั้งยังทิ้งมรดก - ลิวคีเมียไว้ให้หนังเรื่องอื่น
ได้ใช้ในภายหลังด้วย


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 24 ก.ย. 07, 13:29
มารายงานตัวครับผม ;D
นึกถึงโฆษณาตัวนี้ (http://www.adintrend.com/show_ad.php?id=1474)ที่เคยโด่งดังมาราวๆปีหนึ่งได้ครับ

แปลกนะครับ เนื้อเรื่องไปพ้องกับหนังฮอลลีวูดเรื่องนี้จนได้ ;)


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.ย. 07, 09:25
แปลกมากค่ะ  ;)

Love Story ทำให้พระเอกนางเอกดังทะลุฟ้าทั้งคู่    ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงตุ๊กตาทอง   อาลีไปได้รางวัลลูกโลกทองมา   ไรอันก็เป็นดาวจรัสแสงเล่นอีกหลายเรื่อง
มาถึงปลาย 1070s  ชื่อเสียงของหนุ่มไรอัน  ก็ชักจะตกจากจอเงิน เมื่อมีดาราหนุ่มหล่อหน้าใหม่เข้ามาแทนที่   เขาหันไปเล่นหนังทีวีแทน   
มาดังอีกครั้ง ไม่ใช่ด้วยฝีมือ แต่ด้วยเรื่องส่วนตัว คือได้นางฟ้าชาลี ฟาร่าห์ ฟอว์เซ็ตต์มาเป็นแฟน 
แล้วก็ดังอีก คราวนี้เป็นข่าวหน้าหนึ่งด้วยเรื่องทำร้ายลูกชาย แต่พลาดไปโดนแฟนสาวของลูกชาย    สืบเนื่องจากปัญหาลูกเสพยา     เป็นปัญหานุงนังในบ้านมายาวนาน

ส่วนอาลีที่ทำท่าว่าจะไปด้วยดี ก็แต่งงานกับสตีฟ แมคควีน ดาราหนังบู๊อีกคนของโลกมายา  แล้วตัดสินใจอำลาอาชีพไปเป็นแม่บ้านให้สามี
หลายปีต่อมา เธอหย่าจากสตีฟ  กลับมาสู่จอเงินอีกครั้ง
แต่ด้วยอายุที่มากขึ้น ไม่สดใสเหมือนก่อน     โอกาสที่เคยมีก็เหมือนกระแสน้ำ ผ่านไปแล้วไม่ย้อนกลับคืนมา  น่าเสียดายจริงๆ

รูปข้างล่างนี้คือไรอันกับอาลี ถ่ายเมื่อปี  ๒๐๐๔     เอามาฝากคุณ Sila คงไม่ถึงกับใจเสียนะคะ  ก็มันผ่านมาตั้ง ๓๔ ปีแล้วนี่นาจากรูปบนสุด


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.ย. 07, 09:34
นี่คือดาราทีวียอดนิยมอีกกลุ่มหนึ่งของหนังทีวียอดฮิทในยุค 1970s 
นางฟ้าชาลี ชุดแรก
ฟาร่าห์ ฟอว์เซ็ตต์  เคท แจ๊คสัน และแจ๊คลีน สมิธ

เราอาจจะมองเห็นเงารางๆของเอมม่า พีลอยู่หน่อยๆ  ในรูปแบบของสาวสวยหวานที่เล่นบทนักบู๊
สามสาวนี้มีรูปลักษณ์ทุกอย่างตรงข้ามกับบทนักสู้     เคท ค่อยยังชั่วหน่อยที่เป็นนักแสดงอาชีพมาก่อน   แสดงบทแกร่งกร้าวได้ไม่เลวนัก
แต่ฟาร่าห์และแจ๊คลีนเป็นนางแบบ   มาเล่นบทนักสืบหญิง ก็ยังคงความสวยเซกซี่และความหวานตามแบบตัวเองไว้ครบ   ไม่ได้แปลงตัวเองให้เข้ากับบท   จะเล่นบทบู๊ก็เล่นไป แต่แต่งเนื้อแต่งตัวทำผมเผ้าเป็นสาวงามบนแคทวอร์คเช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม  คนสร้างก็ฉลาดมาก    เอาคนสวยสะดุดตามาเล่น ยังไงคนดูก็ชอบ  เรตติ้งจึงพุ่งทะลุเพดาน   ออกอากาศตั้งแต่กันยายน 1976 ถึงมิถุนายน 1981  ยาวนานถึง 5 ปี  รวม 110 ตอน


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 25 ก.ย. 07, 09:58
เล่าบรรยากาศของช่วงปีนั้นในเมืองไทยประกอบหน่อยดีไหมคะ
เมืองไทยเราสมัยหนึ่ง  หนังจะเข้าช้ากว่าอเมริกาประมาณสองเดือนอย่างเร็ว เพราะฉะนั้น ข่าวการโปรโมทหนัง ก็จะมาพอดีกับที่อิทธิพลเริ่มครอบงำสาวๆหนุ่มๆยุคนั้น เรามีวันรุ่นแต่งตัวสไตล์ม้อดกันเต็มเมือง ไม่งั้นไม่เก๋
พอหนังมา ถึงจะรู้ตอนจบ เราก็ยังชอบฉากพระเอก นางเอก ฉากหิมะ และโรลเลอร์สเก็ต หรือสกีอยู่ดี ในหนัง พระเอกน่ะ มีสกุลรุนชาติ แบบนามสกุลมีหมายเลข เก๋มาก จำพ่อพระเอกได้ น่าจะเป็นตาเรย์ มิลลัน และแน่นอนค่ะ อาลี แม็คกรอว์ เป็นขวัญใจ เพราะความสวยแบบลูกผสมnative americanของเธอ
ยุคนั้น ดิฉันประทับใจดาราสาวสวยอย่างอาลี สไตล์ผมและแต่งตัวแบบฮิปปี้ส์ของเธอพอๆกับชอบแคนดิซ เบอร์เก้น ซึ่งดูหรูกว่าหน่อย ดูแล้วละเมอ สวยธรรมชาติ อิสระ เท่ห์ๆค่ะ..
ตั้งข้อสังเกตว่า หนังดังเพราะอาลีเป็นภรรยาของรอเบิร์ต อีแวนส์ โพรดิวเซอร์ใหญ่ รูปหล่อ เก่ง ทุ่มทุนสร้างและโพรโมทภรรยามาก ตอนหลังตามประสาสาวงาม ทิ้งสามีไปหลงเสน่ห์นอกจอแต่งงานกับพ่อหนุ่มปืนโต เป็นที่น่าอิจฉาของพวกเราชาวคลั่งหน้าแมนๆ ลุยๆ ตาสีฟ้าอย่างสตีฟ แมคควีน..


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 25 ก.ย. 07, 11:09
ยังติดตามอยู่นะคะ ซึ่งก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่า  พ้นจาก หนูน้อยบีเวอร์ ทรามวัยกายสิทธิ์ แม่ชีกายสิทธิ์ แม่มดเจ้าเสน่ห์ และบ้านเล็กในป่าใหญ่ มีอะไรที่เราประทับใจอีก  ยังมีอีกเรื่องค่ะ  แต่ดิฉันจำชื่อไม่ได้  น่าจะเป็นเรื่อง พระจันทร์กระดาษ จำชื่อภาษาอังกฤษไม่ได้นะคะ  เป็นเรื่องของนักศึกษากฎหมายในมหาวิทยาลัย  ดิฉันยังจำตอนหนึ่งของเรื่องได้ประทับใจที่อาจารย์สอนนักศึกษา เรื่องการเกิดสัญญา  กติกา จนไปสู่กฎหมาย  ด้วยการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความชุลมุนวุ่นวาย จนนักศึกษาต้องทำสัญญา กติกา ร่วมกัน  แล้วอาจารย์มาเฉลยในภายหลังว่าเป็นความตั้งใจของอาจารย์เอง  เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้จริง ๆ  ตั้งแต่นั้นมาดิฉันเข้าใจเลยว่า  การเรียนการสอนไม่ใช่แค่การที่ครูมายืนสาธยายความรู้หน้าห้อง  หรือให้นักเรียนเข้าห้องสมุดค้นคว้าหามาอ่านเท่านั้น 

ส่วนทุกเรื่องที่ทุกท่านกำลังสนทนากันก็เรียกว่า อยู่ร่วมยุคสมัยค่ะ  แต่ก็มานึกได้เมื่อตามอ่านนี่แหละค่ะ  ดิฉันลำดับเวลาไม่ค่อยได้เท่าไหร่นะคะ  จำได้ว่ามีอีกเรื่อง  เป็นเรื่องของหน่วยดับเพลิง  หน่วยแพทย์ฉุกเฉินค่ะ  ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องเดียวกัน หรือคนละเรื่อง  แล้วพอโต ๆ มาเรียนมหาวิทยาลัยแล้วก็เป็นเรื่อง ฉลามบก ค่ะ จำชื่อพระเอกได้แม่นยำ อีริค เอสทราด้า เพราะเพื่อนดิฉันหลงใหลมาก หน้าปกหนังสือ สมุด เรียนทุกเล่มเป็นรูปพระเอกคนนี้หมด  อ้อ มี มนุษย์ค้างคาว อีกเรื่องซินะคะ  แต่ไม่แน่ใจว่าคุณเทาชมพูได้เสนอไปแล้วหรือยัง  เพราะไปตามย้อนอ่านยังไม่หมดค่ะ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.ย. 07, 11:15
จำได้แต่ว่าอาลีแต่งงานแล้วก็อำลาโลกมายาไปหลายปี   ส่วนสตีฟ ดังมาจากหนังทีวี ไอ้ปืนโต กับหนังคาวบอยดังอีกเรื่องเมื่อปี 1960  เรื่อง The Magnificent Seven  
แต่อ่านพบที่ไหนสักแห่งว่า เรื่องนี้ได้เค้ามาจากหนังญี่ปุ่นชื่อเจ็ดเซียนซามูไร

พระเอกนำใน  The Magnificent Seven  คือยูล บรินเนอร์   หรือ King Mongkut แห่ง The King and I  เอารูปมาลงให้ดู พร้อมกับสตีฟ แม็คควีน ขวัญใจคุณกุ้งแห้ง

คุณกุ้งแห้งคะ  โดยส่วนตัว ดิฉันเชียร์ยูล บรินเนอร์ค่ะ    เห็นว่าเท่กว่าสตีฟ แม็คควีนแยะ  ทั้งๆหัวโล้นก็เถอะ  
เป็นไงไม่รู้ซี     ไม่ค่อยถูกชะตากับพระเอกหน้าตาแบบสตีฟเท่าไหร่



กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 25 ก.ย. 07, 11:37
ขอบคุณอาจารย์ค่ะ ที่ยกให้สตีฟ พ่อหนุ่มผมทองตาสีฟ้าที่ไม่หล่อคนนี้เป็นขวัญใจดิฉัน ชอบเขาตรงที่เป็นหนุ่มสู้ชีวิต คลั่งความเร็ว  เกลียดการดูถูกเหยียดหยามคนด้อยโอกาส แต่ไม่ชอบที่เขาสนับสนุนนิกสัน และสงครามเวียดนามค่ะ
หนังที่ดิฉันพอจำได้ว่าเคยดูของเขา เป็นเรื่อง Papillon ที่เล่นกับดัสติน The Getawayที่เล่นกับอาลี Lemansที่ดังระเบิด แต่ปวดหู และThe Sand Pebblesค่ะ

พูดถึงเขา เพลงนี้ของเชริล โครว์ ต้องไปหามาฟังซะแล้ว

We got rockstars in the Whitehouse
All our popstars look like porn
All my heroes hit the highway
They don't hang out here no more
You can tell me on my cellphone
You can page me all night long
But you won't catch this freebird
I'll already be long gone
Like Steve McQueen
All we need's a fast machine
And we're gonna make it all right  


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.ย. 07, 12:08
เอารูปอีริค เอสทราด้า กับแลรี่ วิลคอกซ์ จาก Chips(1977) มาฝากคุณ pakun ก่อนนะคะ   
รูปนี้สมัยแกยังหล่อล่ำอยู่

ส่วนประวัติขวัญใจของคุณกุ้งแห้ง อยู่ที่นี่ค่ะ   ผลงานเจ๋งมากๆ 
http://us.imdb.com/name/nm0000537/bio
จำเขาได้จาก ๒ เรื่อง The Great Escape และ Nevada  Smith


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ก.ย. 07, 12:39
       ยังพอจะจำภาพอาลี แม็คกรอว์ยิ้มเผยฟันหน้าที่เกเก๋จากนิตยสารสตาร์พิคส์ได้ ไม่ทราบว่าปัจจุบันฟันซี่นั้น
ยังเหมือนเดิมหรือเปล่า แต่สตาร์พิคส์ยังอยู่   
       จากเรื่องรัก-เลิฟสตอรี่ ๘ ปีต่อมาเป็น เรื่องของโอลิเวอร์ เคยดูจากวิดีโอเทปแต่จำไม่ค่อยได้แล้วครับ
พระเอกพ่อม่ายได้พบนางเอกคนใหม่คือ แคนดิซ เบอร์เกน ที่คุณกุ้งแห้งปลื้ม แต่คนดูไม่ปลื้มหนัง
     
         ตอนดูนางฟ้าชาลี ชอบเคทที่สุดครับ เพราะเธอดูเท่ ฉลาด  ในขณะที่ฟาราห์ไม่ค่อยฉลาด ออกตลกๆ และแจ๊คลีนก็สวยไป
จำเสียงพากย์ของช่องสามได้ว่า คุณกรณิการ์ ชัยพานิช(เธอยังคงพากย์หนังอยู่ เป็นผู้ให้เสียงแม่นางแดจังกึม)ให้เสียงเคท
ฟาราห์น่าจะเป็นเสียงของคุณศิริพร วงษ์สวัสดิ์ และคุณกรรณิการ์ ธรรมเกษรให้เสียงแจ๊คลีนครับ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 25 ก.ย. 07, 13:49
ดิฉันก็รู้สึกเหมือนคุณsilaค่ะ คือชอบบุคลิกของเคท ดูเข้ากับบทหัวโจกจอมวางแผนในกลุ่มนางฟ้า ส่วนฟาราห์และแจคลีนเป็นตัวดึงดูดทางเพศที่ไม่อาจละสายตาได้
ตอนที่ยูบีซีเปิดและนำหนังชุดนี้มารีรัน ก็ดูอยู่ รู้สึกเดาล่วงหน้าได้เป็นฉากๆ แต่ก็ยังชอบอยู่ดี ชอบเสื้อผ้าค่ะ เคทจะถูกวางเสื้อผ้าให้ใส่แต่เชิ้ต กั๊ก และกางเกงทะมัดทะแมง ฟาราห์จะเน้นที่รอยยิ้มสว่างไสวเปี่ยมเสน่ห์ จนลืมดูเสื้อผ้าของเธอ ส่วนแจ็คลีนนั้นหวานเป็นหลัก จึงมักจะใส่เสื้อผ้าหญิงๆ บางทีภาพโปรโมทคนอื่นใส่ชุดปกติ ส่วนคุณเธอนั้นสะโพกผายโดนให้ใส่บิกินี่ท่าเดียว
ที่ชอบนางฟ้าชาลีไม่ใช่เพราะชอบผู้หญิงด้วยกัน แต่ชอบดูแฟชั่นค่ะ บางชุดก็สวย บางทีก็เสร่อดี..
สู้เอมม่าพีลไม่ได้.. อมตะ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.ย. 07, 15:44
นางฟ้าทั้งสาม ถ่ายเมื่อปีก่อน
แจ๊คลีน เหมือนเดิมมากที่สุด  เป็นสาวสองพันปี  เคท ก็ยังสวย
สองคนนี้  หาหมอได้เก่ง
ส่วนฟาร่าห์  ทำหน้าใหม่ ผิดจากเดิมเห็นชัด


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 25 ก.ย. 07, 16:34
ส่วนฟาร่าห์  ทำหน้าใหม่ ผิดจากเดิมเห็นชัด
 :'( :'( :'( :( :o
ฟาราห์เป็นนางฟ้าที่น่าสงสารค่ะ หลังจากรับเคมีบำบัดโรคมะเร็งลำไส้ หมอบอกเธอว่าหายสนิทเดือนกุมภา แต่จากการเช็คล่าสุด เดือนพค. มะเร็งกลับมาอีก
นางฟ้าใจเด็ดบอกไม่รับแล้ว เคมี เธอเลือกเอาวิธีฝังแร่แทน เพื่อให้รังสีรักษาส่วนที่เป็น วิธีนี้ อบจ.เอ๊ยผู้ว่าRudy Giuliani แห่งนิวยอร์คเพิ่งใช้ได้ผลไปในปี 2000
แจ็คลีนเพื่อนนางฟ้าบอกว่า ฟาราห์รับมือกับโรคนี้ด้วยทัศนคติบวก เหมือนทุกอย่างในชวิตที่เธอเผชิญมาตลอด


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.ย. 07, 16:49
http://www.canada.com/topics/entertainment/story.html?id=4f0b7d73-5119-4b5d-a776-b31833024bf5&k=97897

ใจคอห่อเหี่ยว  นี่คือสภาพของฟาร่าห์  หลังจากภาพบนของสามสาวค่ะ 
คุณกุ้งแห้ง กรุณาแปลเองดีกว่า


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 25 ก.ย. 07, 17:01
ขอบพระคุณค่ะ อาจารย์ ดูแล้วหดหู่จริงๆ :'( :'( :(
น่าแปลกค่ะ ที่ดารานำทุกคนในหนังนางฟ้าชาลี นับแต่ตัวชาลีเองจอห์น ฟอร์ไซท์ เคท แจ็คสัน แจ็คลีน สมิธ รวมถึงฟาราห์เอง เป็นมะเร็งกันหมด
เคทเพิ่งรักษาและผจญกับมะเร็งเต้านมสองครั้ง แจ็คลีนเองก็เพิ่งหาย นี่มาเจอกับฟาราห์
จอห์นเป็นมะเร็งที่colon แจ็คลีนถึงกับปรารภเชิงตลกว่า นี่เป็นเพราะเราดื่มอะไรอย่างเดียวกันในน้ำ ที่กองถ่ายด้วยกันมารึเปล่านะ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.ย. 07, 20:58
เอานางฟ้าชาลี สองยุค มาให้ดูว่าเซกซี่แตกต่างกันยังไง

เรื่องมะเร็ง   ดิฉันคิดว่าอาหารแบบอเมริกันที่ส่งเสริมการกินดีอยู่ดีจนอุดมสมบูรณ์ มีส่วนมากค่ะ   
จำได้ว่าไก่อบในซูเปอร์ของเขา อบ(หรือทา)เนยเป็นมันย่อง     เลี่ยนกว่าไก่ย่างห้าดาวของเราสัก ๕ เท่าได้
เขาไม่ค่อยกินผักกันมากเท่าคนไทย   เรากินน้ำพริกผักจิ้มน่าจะปลอดภัยกว่า


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 26 ก.ย. 07, 10:33
       ดูเหมือนจะกลายเป็นกระทู้รวมดาวราศีกรกฏ (cancer) ครับ เริ่มจากนางเอกเลิฟสตอรี่เป็น leukemia ตามด้วย
lung cancer (สตีฟ แม็คควีน และ ยูล บรินเนอร์) แล้วก็ colon - breast cancers ในทีมนางฟ้าชาลี ที่ทำให้ได้
ข้อคิดเกี่ยวกับความจริงของชีวิตจากชาวเมืองมายา
         ข้อมูลเกี่ยวกับมะเร็งจาก พบแพทย์ศิริราช ครับ 

         การรับประทานอาหารมีผลต่อความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ แนะนำให้
                รับประทานผักสด ผลไม้มาก ๆ เพื่อไม่ให้ท้องผูก
                รับประทานวิตามินที่เป็น antioxidant ด้วย เช่น เบต้าคาโรทีน วิตามิน A C E และ selenium
                ไม่ควรรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีสีแดง ปรุงด้วยความร้อนสูง
         ส่วนมะเร็งเต้านมนั้น สัมพันธ์กับอายุ ประวัติในครอบครัว มีประจำเดือนนาน(มีก่อนอายุ ๑๒ ปี และหมดหลัง ๕๐ ปี)
ไม่มี หรือมีบุตรน้อย และการรับประทานอาหารที่มีไขมันสัตว์มาก         
                 
       


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.ย. 07, 10:51
พวกที่ชอบฉีดเสริมอะไรต่อมิอะไรนั่น   เกี่ยวด้วยไหมคะ กับสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปในร่างกาย

กลับมาเรื่องสบายๆกันดีกว่า
คุณ Pakun ถามเรื่องมนุษย์ค้างคาว     ก็เอารูปมาลงให้ดูกันค่ะ
เป็น Batman ชุดทีวี ปี 1966 -8   จากซ้ายไปขวา  ดาราวัยรุ่น เบิร์ต วอร์ด รับบทโรบิน     สาวคนกลาง อีวอนน์ เครก  เป็น Batgirl  และอาดัม เวสต์ เป็นมนุษย์ค้างคาว


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.ย. 07, 11:42
Superman,  Batman,  Spiderman, Wonder Woman,  Green Hornet,  Flash Gordon ,
พวกนี้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน คือเป็นซูเปอร์ฮีโร่ หรือฮีโรอีน มาก่อนในการ์ตูนที่เรียกว่า comic strips   ไม่ใช่การ์ตูนอย่างดิสนีย์
เป็นเรื่องของตัวเอกที่จำแลงกาย หรือ ปลอมตัวไปปราบคนพาล    ไปอย่างเปิดเผยไม่ได้สักคน ต้องปิดๆบังๆตำรวจ
หลังจากนั้น  ผู้สร้างหนังก็เอามาทำหนังทีวี  กลุ่มเป้าหมายคือเยาวชน

ภาพข้างล่างคือ "หน้ากากแตน" หรือ Green Hornet (1966) ฉายพร้อมแบทแมน    พระเอกคือแวน วิลเลียมส์ที่ปัจจุบันดูเหมือนจะอำลาวงการไปแล้ว   
ส่วนผู้ช่วยชื่อเคโต   รับบทโดยบรูซ ลี



กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.ย. 07, 18:32
Superman เคยเป็นหนังทีวีขาวดำหลายสิบปีมาแล้ว    เอามาทำใหม่ ชื่อ Lois & Clark: The New Adventures of Superman  ออกอากาศ 1993-97 
ดาราคือดีน เคน และเทรี่ แฮตเชอร์ ผู้โด่งดังจากละครสบู่ Desperate Housewives


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.ย. 07, 18:36
เทรี่ แฮตเชอร์ รับบทโลอิส เลน  หวานใจของซูเปอร์แมนค่ะ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ย. 07, 08:35
หนังทีวีชุดนี้ดังระเบิดในยุค 1970s ออกอากาศตั้งแต่ 1974-8 รวม 101 ตอน  พระเอกของเรื่องกลายเป็นดาราชายดังที่สุดของยุค
ดังยิ่งกว่านี้ก็คือเขาเป็นสามีของฟาร่าห์ ฟอว์เซ็ตต์ นางฟ้าคนดังที่สุด

คือ ลี เมเจอร์ส    พระเอกใน The Six Million Dollar Man  เป็นมนุษย์กึ่งหุ่นยนต์จอมพลัง วิ่งได้เร็วกว่าคนทั่วไปหลายเท่าตัว
แต่ตอนวิ่งเร็วจนสมมุติว่าสายตาคนจับไม่ทัน    ถ่ายทำเป็นวิ่งสโลว์โมชั่นค่ะ

รูปที่นำมาให้ดู ถ่ายคู่กับฟาร่าห์ซึ่งต่อมาก็หย่ากัน     ส่วนภาพขวาเป็นลี เมื่อปี 2006


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ย. 07, 08:52
หนังทีวียอดฮิทอีกเรื่อง ที่แตกแขนงไปจาก Six Milllion Dallar Man คือ Bionic Woman
เป็นสาวกึ่งหุ่นยนต์จอมพลัง แบบเดียวกับบทที่ลี เมเจอส์เล่น   ดารานำคือลินด์เซย์ แวกเนอร์
เธอได้รางวัลเอมมี่ปี 1977 ไปจากบทนี้ละค่ะ   ไบโอนิควูแมนมีเรตติ้งถล่มทลายในยุคครึ่งหลัง 1970s
รูปที่นำมาลงคือลินด์เซย์ในยุค 70s และปัจจุบัน


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 27 ก.ย. 07, 10:05
โอ รู้แล้วว่าเม็ก ไรอันคล้ายกับใครที่ดิฉันชอบ ลินด์เซย์ แว็กเนอร์น่ะเอง..หนังเรื่องนี้ต้องดูทุกอาทิตย์ค่ะ ติดงอมทั้งฝ่ายชาย ลี เมเจอรส์ และฝ่ายหญิง..
อย่าลืมอีกเรื่องนะคะ อาจารย์เทาชมพู เรื่อง แชมป์ หรือแชมเปี้ยนที่มีสองชาย หนึ่งหญิง สะกดจิต มีพลังพิเศษค่ะ ชอบมาก..พวกอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ ซึ่งฮิตมากในช่วงหนึ่ง


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ย. 07, 10:16
เรื่องนี้ป่ะ ค้า
ถ้าใช่ เป็นหนังทีวีย้อนหลังไป ปี 1968
ช่วงนั้นเรื่องมนตรา ของวิเศษ พลังจิต อิทธิปาฏิหาริย์ กำลังดังในหนังชุดทางทีวี


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 27 ก.ย. 07, 10:28
อ๊ะ ทันใจมากค่ะ ..แชรอน เกร้ก และริชาร์ด...


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 27 ก.ย. 07, 12:19

     ซีรี่ส์ช่องสามยุคนั้นฮิทมากๆ ทั้ง นางฟ้าชาลี จารชนคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์หญิง สาวน้อยมหัศจรรย์

      เรื่อง ผู้พิชิต - The Champions เป็นหนังทีวีที่ชอบมากๆ ครับ ดูเป็นประจำทางช่องสี่ ยังพอนึกภาพตอนแรกได้
ที่ทั้งสามคนประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกแถบภูเขาหิมาลัย แล้วได้รับการรักษาและได้พลังวิเศษจากผู้ที่อาศัยอยู่ในดินแดนลี้ลับนั้น
ตอนต่อๆ มา ไตเติ้ลจะเป็นภาพย้อนเหตุการณ์นั้นสั้นๆ เพื่อบอกเล่าที่มาของตัวละครทั้งสาม

---------------------------------------------------------------------------------

     ค้นดูกูเกิ้ลเรื่องการฉีดสารเสริมซิลิโคน พบว่า มีรายงาน case ที่เป็นมะเร็งเต้านมตามมาแต่ไม่บ่อยครับ และ
ยังไม่มีหลักฐานตีพิมพ์ยืนยันความสัมพันธ์กัน แต่ก็นึกไว้เนื่องจากมะเร็งบางชนิดพบได้ในภาวะที่มีการอักเสบเป็นเวลานาน
(ซึ่งพบได้จากการฉีดซิลิโคน)
     


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ย. 07, 19:21
สงสารนางฟ้าค่ะ  :(

พระเอก The Champions ชื่อสจ๊วต แดมอน  เป็นหนุ่มหน้าหวาน  จนทำเอานางเอกที่แสดงด้วยกัน หน้าห้าวไปเลย
เขาเล่นทีวีเรื่องเดียวกัน ๓๐ ปี ยาวนานมาถึงปี 2007 ในหนังสบู่เรื่อง General Hospital  (เรื่องนี้ยาวจริงๆ) เพิ่งถูกผู้สร้างจบบทไปเมื่อปีนี้เอง คงเห็นว่าอายุ ๗๐ น่าจะเกษียณได้แล้ว
รูปที่เอามาโชว์   จากซ้าย รับบทในเดอะแชมเปี้ยน  ภาพขวาเล่นเป็นปรินซ์ชาร์มมิ่งในละครเพลงของร็อดเจอร์และแฮมเมอสไตน์  เรื่อง Cinderalla 
รูปเล็กถ่ายเมื่อปี 1999 ตอนรับรางวัลเอมมี่


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 28 ก.ย. 07, 09:37
ขอบคุณอาจารย์เทาชมพูค่ะ ที่ค้นๆภาพมาให้รำลึกถึงความรู้สึกเก่าๆที่มีให้สามแคแร็คเตอร์นี้ ตอนนั้น แม้คุณเกร็กจะสง่าสุด ก็เอาใจช่วยคนเก่งหน้าน่ารักอย่างริชาร์ดเสมอ ส่วนคุณแชรอนเธอก็โหดจริงๆ
ไม่ทราบว่าเขายังมีชีวิตอยู่ และเป็นดาราระดับรางวัลด้วย
อาจารย์จำเรื่องจอห์นนี่ ยูม่าได้ไหมคะ ยังนึกถึงเพลงไตเติ้ลเวลาขึ้นมา แล้วต้องร้องตาม..จ่อนหนี่ ยูหมา...ฯลฯ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ย. 07, 11:01
หนังทีวีชุด เดอะแชมเปี้ยน เป็นหนังชุดของอังกฤษ แต่มีคุณสจ๊วต แดมอนเป็นดาราอเมริกัน   ส่วน Alexandra Bastedo (ชารอน) และWilliam Gaunt (ริชาร์ด) เป็นดาราอังกฤษ
ชารอนตอนสาวๆสวยเซกซี่ไม่เลวเหมือนกัน  ริชาร์ดก็หน้าใส ฉลาดเฉลียว

หนังทีวีชุดนี้ อายุสั้นมาก แค่ปีเดียวก็ลาโรง  มีแค่ ๓๐ ตอน   แต่พอเอามาทำดีวีดี เห็นว่าขายดี  แฟนๆซื้อไปรำลึกความหลัง
ชารอนและริชาร์ดยังอยู่ยงคงกระพันในวงการมายาอังกฤษค่ะ   แม้ว่าไม่มีพลังจิตอีกแล้ว  ;)
เอารูปมาให้ดู  อดีตกับปัจจุบัน    ชารอนอายุ ๖๑ ส่วนริชาร์ดปาเข้าไป ๗๐ แล้วค่ะ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ย. 07, 11:13
Johnny Yuma จำได้คลับคล้ายคลับคลา  มีดารา ๒ คนเล่นบทนี้

คุณกุ้งแห้งหมายถึง นิค อาดัมส์(ซ้าย) หรือว่า มาร์ค แดมอน(ขวา) คะ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 28 ก.ย. 07, 13:00
มีสองเชียวหรือคะ :o
นิค อดัมส์ค่ะ อาจารย์...


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 28 ก.ย. 07, 14:02
...เนื้อเพลง (Away away way he rode the Rebel Johnny Yuma)
Johnny Yuma was the rebel he roamed through the west
Yeah Johnny Yuma the rebel he wandered alone

มาฟังออกตอนโตนี่หละค่ะ ว่าrebelแปลว่าอะไร  และเพิ่งจำเสียงอีตาจอห์นนี่ แคชได้ ว่าร้องเพลงนี้ จากเสียงที่ร้องthe Ring of Fire


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ย. 07, 15:16
หนังทีวี  The Rebel  อยู่ในแนวเดียวกับ Gunsmoke, Bat Masterson, Have Gun Will Travel ฯลฯ ในยุค 1950s ค่ะ  พระเอกเป็นลูกทุ่งตะวันตก  ซึ่งเป็นตำนานที่อเมริกาปลื้มอยู่มาก
พระเอกพวกนี้เป็นภาพลักษณ์ของชายชาตรี  แม่นปืน   มีอุดมคติปราบคนพาลอภิบาลคนดี   
ยุค 1950s ค่อนข้างคาดหวังอุดมคติมากกว่ายุคต่อๆมาค่ะ

ส่วนชีวิตจริงของดารานำ มีสีสันกว่าหนังที่เขาเล่น 
นิค อดัมส์เป็นวัยรุ่นยุคเดียวกับเจมส์ ดีน เคยเล่นหนังใหญ่ด้วยกันมาก่อนจะพลิกบทมาเล่นหนังชุดทางทีวี
ซึ่งยุคนั้นถือว่าเกรดต่ำกว่าหนังจอเงิน   
แต่ว่านิค อาดัมส์เล่นได้มีชีวิตชีวามาก   บางคนบอกว่าเขาเล่นได้ดีเพราะจอห์นนี่ ยูม่ามีบุคลิกและนิสัยบางอย่างเหมือนตัวเขาเองค่ะ

น่าเสียดาย  นิคจบชีวิตลงเมื่อปี 1968  อายุแค่ 37 ปี   เพราะเสพยาเกินขนาด  ไม่รู้ว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือฆ่าตัวตาย หรือว่าฆาตกรรมกันแน่ 
มีเงื่อนงำหลายอย่างที่ยังไม่กระจ่างจนทุกวันนี้


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 29 ก.ย. 07, 09:56

            ทีวีซีรี่ส์แนวคาวบอยตะวันตกในสมัยนั้นที่ติดตามติดใจที่สุดคือเรื่อง The Wild Wild West - สายลับลูกทุ่ง
เสนอฉายทางช่องสี่ บางขุนพรหมครับ
      เป็นหนังที่ผสมแนวคาวบอยตะวันตก สืบสวน ไซ ไฟ ที่สนุกมาก สิ่งพิเศษของหนังที่ชอบคือสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นแฟนตาซีล้ำยุค
และ ทั้งสองสายลับคู่หูก็จับคู่กันได้เหมาะดี ไม่แพ้คู่ในขวัญใจสายลับ ครับ

      เรื่องอื่นๆ ที่ดังมาก ในตอนนั้นแต่ไม่ได้ติดตามกระชั้นชิด ก็มี Bonanza, The Virginian ทางช่องสี่ และ Maverick ยอดนักเลง
ทางช่องเจ็ด สนามเป้าครับ

       ชื่อสายลับลูกทุ่ง ทำให้นึกถึงอ. จำนง รังสิกุล ทราบว่าท่านคือผู้คิดคำว่า ลูกทุ่ง สมัยนั้นท่านสร้างพนักงานช่องสี่ที่มีความสามารถ
มากมาย คิดรูปแบบรายการต่างๆ และท่านยังเป็นผู้เปิดประตูเหมืองรูปให้คุณอาจินต์ ปัญจพรรค์จากเหมืองแร่ได้เข้ามาและกลายเป็นนักเขียน
ชื่อดัง ศิลปินแห่งชาติในที่สุด


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 07, 10:20
คุณศิลาเคยอ่านหนังสืออัตชีวประวัติของคุณอารีย์ นักดนตรี หรือยังคะ  เธอเล่าถึงชีวิตยุคทำงานช่อง ๔ ไว้มีชีวิตชีวาน่าสนใจมาก   
คุณจำนง รังสิกุล เป็นผู้บุกเบิกวิกบางขุนพรหม  เป็นสมองสั่งการได้ยอดเยี่ยม     ในยุคนั้นรายการบันเทิงที่เสริมสร้างสติปัญญามีไม่ขาดในแต่ละคืน   หนังชุดทีวีของฝรั่งที่ดีๆ ไม่มีพิษมีภัย  ก็คัดเลือกมาให้ดูกันหลายเรื่อง

หนังทีวีชุด   The Wild Wild West   มีสมญาว่า James Bond on Horseback  หรือเจมส์ บอนด์ฉบับลูกทุ่งตะวันตก   พระเอกเป็น"ภาพล้อ" ของยอดสายลับ แต่งชุดเนี้ยบเรียบกริบ  หน้าหล่อหุ่นล่ำบาดใจ   
ผจญภัยเอาชีวิตแทบไม่รอดยังไง  ชุดก็ไม่ยับ หน้าก็ไม่เยิน และผมก็ไม่ยุ่ง

เรื่องนี้ฮิทอยู่ 4 ปี ค่ะ (1965-1969) เป็นการผสมผสานหนังลูกทุ่งตะวันตกที่กำลังตกอันดับเข้ากับหนังสายลับที่เป็นเทรนด์มาแรงในครึ่งหลังของทศวรรษ 1960s

ดารารูปหล่อที่แสดงนำในบทเจมส์ เวสต์ คือ Robert Conrad เคยอ่านพบว่าเขาเป็นนักกายกรรมห้อยโหนมาก่อนจะเข้าวงการ   หลายครั้งเขาจึงเล่นบทเสี่ยงตายเสียเอง ไม่เอาสตั๊นท์แมน    ทำให้เคยพลาดหัวโหม่งพื้นซีเมนต์  บาดเจ็บจนต้องหยุดถ่ายทำไป ๓ เดือน
ส่วนคู่หูของเวสต์ ชื่ออาร์เตมุส กอร์ดอน ยอดนักประดิษฐ์และนักปลอมตัว
 แสดงโดยรอส มาร์ติน   หล่อน้อยกว่า แต่เล่นได้ลื่นและมีฝีมือกว่า   สองคนนี้เล่นเข้าคู่กันได้ด้วยดี


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 07, 10:25
โรเบิร์ต คอนราด ในวัย 30 และ 72  ค่ะ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 01 ต.ค. 07, 12:03

       ยังไม่ได้อ่านหนังสือของคุณอารีย์ครับ, หนังสือ - จากเหมืองแร่สู่เหมืองรูป ของคุณอาจินต์ ก็ไม่ได้อ่านเช่นกัน
เชื่อว่าน่าจะมีเรื่องเล่าที่น่าสนใจให้อ่านเพลิน ช่วงหลังนี้ อ่านจากเน็ท,หนังสือพิมพ์และนิตยสารเป็นส่วนมาก หนังสือเป็นเล่มได้อ่านน้อยครับ

        เคยค้นเว็บและพบเรื่องราวชีวิตคุณอารีย์ จากสกุลไทย จึงขอนำลิ้งค์มาฝากท่านอื่นๆ ที่สนใจได้รำลึกความหลัง ครับ
 
http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetailsql.asp?stcolumnid=2250&stissueid=2541&stcolcatid=1&stauthorid=39


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 07, 14:37
ขอบคุณค่ะที่ทำลิ้งค์ให้อ่านกัน
เคยเจอคุณอารีย์  ไม่กี่ปีมานี้   ยังสาว  ผิวผ่อง สวยสง่า  เดินเหินตัวตรง พูดจาไพเราะ  น่าทึ่งที่สุดคนหนึ่งที่เคยเห็นมา
รัศมีนางเอกยังเรืองรองทั่วตัว  ไม่ลดน้อยลงเลย  คุณศิลาน่าจะเคยเห็น คงทึ่งเหมือนดิฉัน
************************
Wild Wild West เอามาทำใหม่อีกครั้งในปี 1999  วิล สมิธเล่นบทเจมส เวสต์
เควิน ไคลน์เป็นอาเตมุส


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 01 ต.ค. 07, 16:07
     เคยได้เห็นคุณอารีย์ผู้งามสง่าที่โรงละครกรุงเทพครับ   
      นานหลายปีก่อน รายการจันทร์กะพริบเสนอเรื่องราวคุณอารีย์ และได้เชิญคุณกาญจนา จินดาวัฒน์ ที่คุณอารีย์ฝึกสอนบทนางเอก
มาร่วมรายการด้วย คุณกาญจนาเล่าว่า ได้รับการสอนให้ยืนเดินนั่งวางท่าสง่า แม้ว่าในเรื่องจะเป็นแค่คนธรรมดาๆ แต่เมื่อเป็นนางเอกแล้ว
ต้องดูงามพิเศษแตกต่างจากคนอื่น จึงจะสะดุดตาพาให้พระเอก,คนดูมาชอบพอ
         


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 07, 18:43
หนังทีวีเรื่องนี้  คุณศิลา คุณ Wandee คุณ Pakun  น่าจะรู้จัก  เป็นหนังดังที่สุดเรื่องหนึ่งในครึ่งหลังของทศวรรษ 1960s


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 01 ต.ค. 07, 22:13
วิลเลียม แชทเนอร์ และเลียวนาร์ด นิมอยค่ะ กับคุณหมอรอส..ที่มาจากหนังลูกทุ่งตะวันตก..ปกหน้า ปกหลัวสาร์พิคส์สมัยหนึ่งต้องมีสองในสามนักแสดงนี้ค่ะ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 02 ต.ค. 07, 01:02
เห็นภาพแล้วรู้สึกคุ้น ๆ ค่ะ  แต่ยังนึกเรื่องไม่ออกค่ะ 

ติดใจที่คุณsila กล่าวถึงคุณจำนง รังสิกุล และวิกบางขุนพรหม  อยากตั้งคำถามต่อว่า  เมื่อก่อนเทคโนโลยี่โทรทัศน์ไทยล้าหลัง  แต่เรามีของดี ๆ ดูไม่ขาดอย่างที่คุณศิลาว่า  ตอนนี้เราก้าวหน้ามาขนาดนี้กลับไม่มีอะไรดี ๆ ให้ดูค่ะ  มันน่าคิดไหมคะ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 02 ต.ค. 07, 10:02

       ตะลุยจักรวาล หนังไซ ไฟ ที่เป็นตำนานยืนยงข้ามภพ ข้ามชาติ จากจอแก้วสู่จอเงิน มีลูกเรือรุ่นใหม่สืบต่อการตะลุยครับ

-------------------------------------------------------------------------

        เห็นว่า อ. จำนง น่าจะประมาณว่าเป็น บุคคลประเภทหนึ่งในร้อย(ปี) ครับ โทรทัศน์ไทยถือกำเนิดมามีอายุเกินกึ่งศตวรรษแล้ว
แต่ตอนนี้มองไป ไม่เห็นใครจะมีความสามารถพร้อมเพรียบเทียบเท่าท่านได้เลย
         ในยุคบุกเบิก โอกาสเปิด ไม่มีระบบเรตติ้ง ท่านได้สร้างบุคคลากร วางรูปแบบรายการมากมาย ด้วยมุ่งหมายให้ผู้คนได้ชมผลงานดีๆ
มีคุณค่า และเพราะท่านเป็นผู้ที่มีความรู้ มีฝีมืออย่างเยี่ยมยิ่ง ผู้ชมในยุคนั้นจึงได้ชมของดี ของจริงกันครับ
               
 


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ต.ค. 07, 10:28
ขอออกจากยานอวกาศเอนเทอร์ไพรส์  มาแจมคุณศิลาที่วิกบางขุนพรหม  เป็นเรื่องที่อยากพูดมานานแล้ว

ความเข้าใจต่อไปนี้ ถูกหรือผิด คุณศิลาคงมีความรู้มากกว่าดิฉัน พอจะแก้ไขให้ได้ถ้าเข้าใจผิดนะคะ

สถานีโทรทัศน์ช่อง ๔ เป็นหน่วยงานขึ้นกับกรมประชาสัมพันธ์   รัฐบาลเป็นคนตั้ง   หมายถึงว่างบประมาณส่วนใหญ่ รัฐอุดหนุน  แต่ทางสถานีก็หาสปอนเซอร์เพิ่มเติมด้วย   เห็นได้จากมีโฆษณาคั่นรายการ
แต่อย่างน้อย  การบริหารงานก็ไม่ต้องพะวงว่าจะขาดทุน หรือต้องดิ้นรนหากำไรเยอะๆลูกเดียว อย่างบริษัทเอกชน
มันสมองของสถานีคือคุณจำนง รังสิกุล ทำงานด้วยความเชื่อว่า สถานีจะก้าวหน้าด้วยดีถ้ามีคุณภาพ   ท่านจึงคิดค้นรายการสารพัด บำรุงสมอง และให้ความบันเทิง คละกันไป
การฝึกบุคลาการ ก็เอาเจ้าหน้าที่ของสถานีนี่แหละมาฝึกให้ทำงานได้หลายอย่าง  รอบตัว  นอกจากประหยัดเงินแล้วยังเป็นการผลิตบุคลากรมีคุณภาพด้วย

อีกอย่าง   ในยุคนั้น คนที่มีทีวีดูได้ ก็ต้องเป็นคนมีสตางค์พอสมควร   เพราะทีวีเครื่องหนึ่งแพงมากเมื่อเทียบกับค่าครองชีพ
ทำให้กลุ่มคนดูของช่อง ๔ เป็นกลุ่มระดับกลางและสูง  (หมายถึงรายได้และความรู้โดยเฉลี่ย)  พวกนี้ชอบรายการมีคุณภาพ    ส่วนชาวบ้านมักจะฟังวิทยุกันมากกว่า   

เวลาผ่านไป การบริหารงานก็เปลี่ยนไปตามยุค   สถานีโทรทัศน์มีเพิ่มขึ้น  เป็นของเอกชนที่ได้สัมปทานจากรัฐบ้าง  เป็นของรัฐล้วนๆบ้าง  เป็นรัฐวิสาหกิจบ้าง
เป้าหมายการบริหารงานก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป   ขึ้นกับนโยบายของผู้บริหาร ว่าจะเอากำไรเป็นหลัก หรือเอาใจนายเป็นหลัก
ยิ่งมาถึงปัจจุบัน ทุนนิยมเข้าไปอยู่ในทุกวงการ  รายการโทรทัศน์จำนวนมากจึงมีเป้าหมายสร้างกำไรให้มากที่สุด     อะไรที่ไม่ทำกำไรก็จะถูกลดปริมาณลงไป  มีไว้นิดหน่อยพอเป็นกระสายยา
เรตติ้งมาเป็นตัวกำหนดแทนมันสมองของผู้บริหาร
กลุ่มเป้าหมายก็เปลี่ยนไป  เพราะทีวีราคาถูกลง    ใครๆก็ซื้อได้    สัญญาณก็ส่งทั่วประเทศ
ชาวบ้านร้านถิ่นดูฟรีทีวี   คนที่มีทางเลือกยอมควักกระเป๋าดูยูบีซี ติดจานดาวเทียม  รับเคเบิ้ลทีวี     ยิ่งมียูทูปในอินเทอร์เน็ตแล้วไม่ต้องดูฟรีทีวีเลยก็ได้

เพราะงั้น   หลายท่านที่รู้สึกเหลืออดกับรายการอ่อนคุณภาพที่ได้ดู  คาดหวังว่าจะได้ดูอะไรดีกว่านี้   ดิฉันคิดว่าตะโกนไปก็คอแห้งเปล่าค่ะ     
รายการทุกรายการอยู่ได้ด้วยเรตติ้ง และเรตติ้งนั้นเขาก็ไม่ได้วัดจากกลุ่มคนแบบคนในเว็บนี้เสียด้วยซี


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 02 ต.ค. 07, 11:06
เห็นด้วย แต่ไม่ .....ทุกประการครับ
เรทติ้งไม่ได้วัดจากใครทั้งนั้นแหละครับ

อาจารย์จำนงเป็นคนแบบที่อาจารย์น่าจะคุ้นเคย
คือไม่ลดตัวลงทำของเลว
คนอื่นๆ นั้น เป็นอีกพันธุ์หนึ่ง จะอ้างอะไรก็ตาม ก็เป็นพวกอาจมนิยม
กำไรจากความหายนะของสังคม หมายความว่าอย่างไร
หมายความว่าเราต้องจ่ายเงิน ซื้ออาจมมาบริโภคกันทั้งบ้าน
จะบอกว่าเหม็นก็อย่าไปซื้อซี้....พูดอย่างนั้นไม่ได้ครับ สิทธิในการทำชั่ว ไม่มีนะครับ
คนทำชั่วต้องถูกประนาม

ทีวีช่องหนึ่ง ที่มีสีมากกว่าช่องอื่นๆ ทุกวันนี้ ป้อนสวะเข้าปากชาวบ้าน รับเงินอย่างเมามัน
จ่ายค่าสัม(รับ)ประทานที่ถูกกว่าคู่แข่งอย่างแทบจะไม่มีต้นทุน ได้มาอย่างไรอาจารย์น่าะรู้ดีกว่าผม
ช่องนี้ เด่นนักในการเล่นกับแม่ค้าและแม่บ้าน
ก้อมิใช่ช่องนี้หรือ ที่เคยมีกฏเหล็ก ห้ามลูกทุ่งขึ้นจอ ในขณะที่ ที่อื่นๆ เขาส่งเสริมกัน
แต่มิใช่ช่องนี้หรือ ที่เห็นพุ่มพวงเป็นแม่เหล็ก จึงเชิญมาออกอากาศ
สรุปว่า ถ้าได้เงิน เป็นไม่รังเกียจ
มีรายการหนึ่งชื่อกระจกหกคะเมนหรือไงนี่แหละ เป็นต้นแบบของรายการที่ล้มเหลวในทุกหัวข้อของการทำสื่อ
แต่ทำไมคงกระพันอยู่กับช่องที่ว่า ไม่เคยหลุดไปใหน นี่คือเพื่อนชั้นต้องมาก่อน....กระมัง

ที่น่าอนาถใจนะครับ
เขาเป็นเจ้าของบริษัทที่ทำสื่อคุณภาพ ทำรายการคอสามหน กับกบทอดกระเทียม....แต่ โทษที
รายการของบริษัทนี้ อย่าหวังเข้ามาแหยมกับช่องที่มีหลายสี....ที่เป็นบริษัทแม่ อ้าว อย่างงี้ก็มีด้วยแฮะ

เรื่องเรตติ้ง คุณกุ้งแห้งฯ คงแฉเบื้องหลังได้ดีกว่าผม
ผมทราบแต่ว่า เจ้าของฝ่ายไทยนั้น มีผลประโยชน์อีรุงตุงนังกับการกำหนดเรทติ้ง
และช่องหลายสีนั้น จะต้องเป็นอันดับหนึ่งตลอดกาล ตราบใดที่ใช้บริการผูกขาดของเอเยนซี่นี้


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 02 ต.ค. 07, 11:35
คุณจำนง รังสิกุลเป็นผู้ใหญ่ใจดี ที่ตาถึง รสนิยมดีค่ะ
ดิฉันมีโอกาสพบท่านสองฐานะ คือเป็นพ่อของเพื่อนที่ทำงาน และเป็นเพื่อนผู้อาวุโสในที่ทำงานเดียวกันสมัยอยู่ประกิต
สิ่งหนึ่งที่เสียดายคือ มีเวลาคุยกับท่านน้อยไปหน่อย แต่ก็สนุกทุกครั้งที่ท่านอุตส่าห์เดินขึ้นบันไดมาหา และมาคุยด้วยในวัยเจ็ดสิบกว่า
คุณูปการที่มีต่อวงการทีวีนั้นมหาศาลเลย
ดิฉันได้จินตนาการและความรู้ดีๆสะสมมาแต่เด็กก็เพราะรายการทีวี ละคร และหนังชุดที่มีคุณภาพจากการคัดกรองของท่านทั้งนั้น
รวมถึงรายการปัญหาสารพัดด้วย
เมื่อเปรียบเทียบกับปัญหาในรายการคุณไตรภพแล้ว จึงทนดูไม่ได้
รวมๆแล้วจึงไม่เปิดทีวีห้าช่องมันเสียเลย..
คุณจำนงท่านทำงานขนาดนี้ บ้านช่องท่านก็ธรรมดา รถราท่านก็พอมีให้ลูกชายขับไปรับไปส่งพ่อสมัยเป็นที่ปรึกษาอยู่ธนาคารกรุงเทพ
ดิฉันยังได้ติดรถไปลงบ้าง
อาจารย์ คุณพพ. พูดถึงแล้ว ทำให้คิดถึงเพื่อน คือลูกชายคุณจำนง(ไตเติ้ลที่เขาเกลียดเพราะพ่อดังกว่า)ค่ะ สงสัยต้องหาทางโทรไปแสดงความคิดถึงกันหน่อยแล้ว


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ต.ค. 07, 11:46
เจออาก้ารัวจากคุณพพ.เล่นเอามึน  คุณศิลายังไม่เข้ามาเป็นตัวช่วย

เรื่องเรตติ้ง รู้แต่ว่ามันเป็นตัวกำหนดสปอนเซอร์  เพราะสปอนเซอร์ให้ความเชื่อถือ    ก็มีสื่อพยายามจะตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของการวัดเรตติ้งเหมือนกันละค่ะ
จนบัดนี้ก็ยังไม่มีอะไรอื่น  ที่สปอนเซอร์จะหาเป็นมาตรฐานในการอุดหนุนรายการได้ นอกจากเรตติ้ง
ก็ต้องใช้ตัวนี้กำหนดกันต่อไป
ในอเมริกา รายการทีวีรายไหนอยู่ยงคงกระพัน เรตติ้งก็เป็นตัวกำหนดเหมือนกันละค่ะ

คุณกุ้งแห้งฯมาร่วมวงแล้ว  เธอรู้เรื่องนี้มากกว่าดิฉัน คงจะมีอะไรดีๆมาเล่าสู่กันฟังได้  ดิฉันรอฟังดีกว่า


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 02 ต.ค. 07, 12:03
คุณpipatเป็นนักฟันคอ ตีแสกหน้าจริง ๆ(จะฟันธงก็ไม่สมราคาคุณpipatนะคะ)  อะไรหนาช่างทำให้คุณpipatมั่นใจฟันได้ขนาดนี้  ใครฝ่าคมมีด คมไม้ คุณpipatได้ก็จะได้พบสาระที่น่าสนใจทีเดียวนะคะ 

กรณีบริษัทผลิตรายการ 3 คน กับกบ ๆ ที่คุณpipatว่า  เท่าที่ดิฉันทราบไม่น่าจะเกี่ยวกับช่องหลายสีนะคะ  แล้วตอนนี้ช่องหลายสีเขามีบริษัทสื่อมหาชนอยู่ในมือ  แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นการตัดสินใจก็ขึ้นอยู่กับคน ๆ เดียวค่ะ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 02 ต.ค. 07, 12:56
เปรียบเทียบผลงานของคนทีวีสองคน
คุณจำนง รังสิกุลและคุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์
อย่างที่อาจารย์พูด สมัยนั้น จะดูทีวีต้องมีสตางค์ รายการที่คุณจำนงคัดมาจึงมาจากรสนิยมของท่านล้วนๆ อะไรที่ฝรั่งไม่มีก็จัดเองเช่นปัญหาสารพัด ผะหมี ก็ดูเหมือนจะเคยจัดด้วยนะคะ แต่ดิฉันยังเด็กมากไม่ทราบ
ช่องห้าก็มีผู้การการุณซึ่งจัดรายการอย่างบันไดดารา แบบAFเดี๋ยวนี้ แต่ไม่ต้องส่งโหวต
เราจึงได้ดูโชว์ และภาพยนต์ที่คละเคล้าทั้งเด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี
...
เดี๋ยวเย็นๆมาต่อค่ะ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 02 ต.ค. 07, 13:15
"ผมเอารายการไปเสนอที่ต่างๆ ไม่มีใครเอา หุ้นส่วนเก่าก็ไม่เอาด้วย เพราะเขาเห็นว่า ทุกช่องปฏิเสธหมด เขาก็ไม่มั่นใจเพราะไม่เห็นอนาคต สุดท้ายผมก็เลยต้องเอารายการนี้ไปเสนอ เจ้านายเก่าที่ JSL"

จำนรรค์ ศิริตัน อดีตเจ้านายที่แสนดี บอสใหญ่แห่ง JSL ยื่นเงื่อนไขข้อเดียวคือ ขอให้ JSL เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ดีลนี้จึงปิดที่ JSL ถือหุ้น 55% ที่เหลือเป็นเช็คและหุ้นส่วน แต่ถึงจะถือหุ้น เพียงส่วนน้อย แต่อิสระทางความคิดและการทำงาน 100%
 

สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ คนสร้าง Role Model ผู้จัดการออนไลน์


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ต.ค. 07, 14:01
ขอพลิกความเห็นอีกด้านให้ดู  เพื่อจะได้เห็นกระจกสองด้าน  นะคะ

เมื่อก่อนนี้   การตัดสินว่าอะไรดีไม่ดีสำหรับผู้บริโภค มาจากยอดปิรามิด  คือผู้บริหารกิจการ    ผู้บริหารเป็นคนตัดสินใจว่า..รายการนี้ดี ควรสั่งซื้อเข้ามา    รายการด้านนี้ยังไม่มี ควรผลิตขึ้นมาให้คนได้ดู  ทำเรื่องแบบนี้น่าจะดีกว่า
ถ้าได้ผู้บริหารเก่งๆ คาดคะเนและประเมินคุณภาพหรือความนิยมได้แม่นยำ    คนดูก็ได้เสพทั้งสาระและบันเทิง
แต่เมื่อใดไปเจอผู้บริหารไม่เก่ง  ดูไม่ออกว่าอะไรดีไม่ดี  จะเอาอย่างที่ตัวต้องการตะพึดตะพือ ทั้งที่รสนิยมและสติปัญญาก็ไม่เอาไหน    กิจการนั้นก็ขาดทั้งคุณภาพและเลยไปถึงความนิยมด้วย 
ถึงกระนั้นผู้บริหารก็อาจตะแบงเอาใจตัวเองเป็นใหญ่   เถียงว่ารายการที่ตัวเลือกมานั้นเป็นของดีของถูกต้องแล้วก็ได้  ใครค้านก็ไม่ฟัง  จนคนดูหายหมดหรือกิจการเจ๊งไปนั่นแหละถึงรู้

ดังนั้น เรตติ้งจึงเข้ามามีบทบาทตัดสิน  รูปการณ์ก็เปลี่ยนไป กลายเป็นลักษณะของปิรามิดคว่ำลง

คือเอามหาชนผู้บริโภคเป็นผู้ตัดสิน   กำหนดรายการด้วยมติของคะแนนเสียงส่วนใหญ่    ไปกำหนดยอดปิรามิดอีกที ให้ผู้บริหารทำตามมติของฐานปิรามิด
ผู้บริหารจะคำนึงสิ่งเดียวคือ ผู้ดูส่วนใหญ่ต้องการอะไร  ก็ตอบสนองให้ตามนั้น   ไม่ได้เลือกตามใจผู้บริหารอีกต่อไป
มหาชนคือพระเจ้าผู้กำหนดรายการ
มองอีกนัยยะหนึ่งก็เหมือนเลือกตั้ง     ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการพรรคไหน คะแนนเสียงเป็นตัวชี้ขาด ว่าพรรคนั้นได้เข้าสภา

มติของฐานปิรามิด แสดงออกผ่านทางบริษัทวัดเรตติ้ง   เพราะไม่สามารถให้ผู้ดูหย่อนบัตรเลือกรายการได้โดยตรง 
ตราบใดเรตติ้งบอกว่าละครมีคนดูสูงกว่าสารคดี  ยังไงเสียละครก็ต้องอยู่ในช่วงเวลาทองของสถานี
ดาราคนนี้เป็นแม่เหล็ก สปอนเซอร์ก็เอาดาราคนนี้   สถานีก็ประสานงานกับบริษัทจัดละคร เอาดาราคนนี้มาเล่น
เรตติ้งก็ออกมาดี

ผู้บริหารรายการ  พูดกันตามจริง   ล้วนเป็นปัญญาชนที่รู้ดีว่าอะไรมีคุณภาพ อะไรไม่มี     แต่จะทำอย่างไรได้  หน้าที่รับผิดชอบของเขาคือทำรายการออกมาให้เป็นที่ต้อนรับอย่างสูงของคนดู   (วัดจากเรตติ้งอีกนั่นแหละ) เขาก็ต้องซัพพลายตามดีมานด์ของคนดู
ทุกคนก็รู้ทั้งรู้ว่า เทคนิคเรื่องนี้มันอ่อนมาก   ดาราคนนี้ไม่ได้เหมาะกับบท   ละครเนื้อเรื่องแบบนี้มันแสนจะน่าเอือมระอาสำหรับเขา   แต่เมื่อคนดูต้องการแบบนี้ ไม่ได้ต้องการแบบอื่น  เขาก็ต้องเสนอตามนี้
ถ้าเขาเสนอตามที่มีผู้ดูจำนวนน้อยเห็นว่าคุณภาพควรเป็นแบบนี้  แต่ผู้ดูจำนวนมากเบือนหน้าหนี ไปดูอีกช่อง    เขานั่นแหละจะลำบาก  คนดูไม่ได้มาลำบากด้วย

ดิฉันสังเกตว่าคุณแดงไม่ค่อยจะเป็นที่นิยมของสื่อนัก  รวมทั้งคนดูแบบในเว็บนี้  แต่คุณแดงเป็นผู้ที่คนทำงานด้วยรู้ดีว่าเธอเก็งความนิยมในละครไม่เคยพลาด    ดาราที่เธอเลือกก็ไม่พลาดเช่นกัน
เรตติ้งละครของเธอครองอันดับหนึ่งมายาวนาน หลายสิบปี   สิ่งเหล่านี้เป็นข้อเท็จจริง  พูดถึงความสำเร็จในฐานะผู้บริหาร  โดยวัดจากความนิยมของผู้ดูเป็นหลัก  ดิฉันยังไม่เคยเห็นใครเหนือกว่าเธอไปได้



กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 02 ต.ค. 07, 15:22
            หนีไปหลบกระสุน กลัวลูกหลงครับ
      ขออนุญาตแก้ข้อความของอาจารย์นิดหนึ่งครับ ตรงที่ว่า > คงมีความรู้มากกว่า <-- หาเป็นเช่นนั้นไม่ครับ
หนังสือของสองคุณอา คือคุณอาจินต์ และ คุณอารีย์ ก็ยังไม่ได้อ่าน ที่เคยอ่านบ่อยๆ คือ นิตยสารไทยโทรทัศน์ ของช่องสี่
ที่คุณอาจินต์เป็นบรรณาธิการนั้นก็นานมากโขแล้วครับ

        ทีวีช่องแรกของรัฐ ในช่วงบุกเบิกโอกาสเปิด  อ.จำนง ใช้ความสามารถสร้างคน สร้างรายการคุณภาพ และที่สำคัญมาก
อีกส่วนหนึ่งคือบุคคลระดับครูผู้มีความสามารถหลายท่านที่มาร่วมงานกับช่องสี่ ทำให้มี ละครราโชมอน ฮวนนั้งดู มีรายการเพลงไทยเดิมจาก
ทายาทดุริยพันธ์ให้ฟัง(เพลินเพลงกับนฤพนธ์) ได้เรียนภาษากับ อ.เจือ สตะเวทิน (ในรายการภาษาศิลป์) เป็นต้น
        ถ้าจำไม่ผิด บริษัทไทยโทรทัศน์ มีรายได้จากสถานีวิทยุ ท.ท.ท. ที่ได้รับความนิยมมาช่วย เนื่องจากการเปิดสถานีโทรทัศน์ต้องใช้
เงินเป็นจำนวนมากมาย ทั้ง ททท. ยังเป็นที่ฝึกบุคลากรเตรียมไว้สำหรับงานโทรทัศน์ด้วย   

        ลองจินตนาการดูว่า ในยุคปัจจุบันหากมีบุคคลที่มีความสามารถแม้ครึ่งหนึ่งของอ.จำนง ไปดูแลช่อง ๑๑ ก็คงสร้างสรรค์ผลงานที่ดี
ได้ไม่มาก ไม่นานนัก เพราะแม้ว่าเรตติ้งอาจไม่มีผลต่อการจัดรายการมากนัก แต่เพราะงบประมาณจำกัดที่เจียดให้มาจากรัฐบาล บุคลากร
คุณภาพมีไม่มากเท่ายุคก่อน และบางคนที่เมื่อได้รับการฝึกมาดีแล้วก็มักจะถูกซื้อตัวไป รายการที่ประทับใจในอดีตจึงเหลือแต่ในความทรงจำ
และ สถานีโทรทัศน์ที่อยากให้มี คงมีได้แต่ในฝันครับ

         เห็นข่าวว่าคุณประวิทย์เลิกใช้เรตติ้งเจ้าเก่าแล้ว ส่วนคุณแดงคงจะยึดเรตติ้งแบบดั้งเดิมต่อไป เพราะยังไงๆ ละครช่องเจ็ดจะแย่จะดี มากน้อย
แค่ไหนก็ไม่ต่ำสิบ ระดับคุณแดงย่อมทราบว่าของดีเป็นอย่างไร ในสมัยก่อนโน้นท่านมุ้ย(เพื่อนคุณแดง)ก็เคยมากำกับละครทางช่องเจ็ดก่อนที่ท่าน
จะไปกำกับหนังโรง แต่ท้ายที่สุดแล้ว เงิน - รายได้ของสถานี โดยเฉพาะช่วงหลังข่าวที่เป็นรายได้หลักของช่อง คือคำตอบสุดท้าย  น้ำเน่าจึงยังขุ่นข้น
ยุงจึงบินว่อนต่อไป ครับ             


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ต.ค. 07, 15:44
ทุกสิ่งทุกอย่างมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดของตัวมันเองค่ะ   หมดยุคก็หมดไป  :(
ต่อให้ผู้บริหารสถานีในยุคนี้ ตัดสินใจจำลองวิกบางขุนพรหมช่อง ๔ ขึ้นมาใหม่     ดิฉันก็ว่าไปไม่รอด  เพราะสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปหมดแล้ว  รวมทั้งรสนิยมผู้บริโภคด้วย
เราก็ต้องเดินหน้าหาสิ่งใหม่ๆต่อไป แทนที่จะพยายามเปลี่ยนสิ่งเก่าให้กลับมาเป็นของใหม่

คุณศิลาช่วยเผื่อเนื้อที่ในบังเกอร์ให้ดิฉันด้วย    หลบกระสุนคุณพพ. ตอนเข้ามาตอบ  ;D
*********************************
คุยเรื่อง Star Trek ไปพลางๆก่อนนะคะ
ตะลุยจักรวาล ชุดแรก  ออกอากาศจากปี 1966-1969  รวม 80 ตอน  ช่วงปลายๆ เรตติ้งตก ก็เลยจบการถ่ายทำกันไป
แต่เมื่อเอามารีรันซ้ำ กลับได้ความนิยมมาก จนมีการปลุกเรื่องนี้ให้ฟื้นขึ้นมาอีกถึง 6 ครั้งด้วยกัน  เป็นสถิติมหัศจรรย์ของหนังชุดทางทีวี ยังไม่มีใครทำได้เท่า
คือ
1 Star Trek: The Original Series (1966–1969) นี่คือชุดแรก
ต่อจากนั้นมี  Star Trek: The Animated Series (1973–1974)
แล้วก็มี  Star Trek: Phase II
หลังจากนั้นคือ Star Trek: The Next Generation (1987–1994)
Star Trek: Deep Space Nine (1993–1999)
Star Trek: Voyager (1995–2001)
Star Trek: Enterprise (2001–2005)

ชุดที่รู้จักกันแพร่หลายที่สุดก็คือชุดแรกค่ะ    ตัวละครอย่างคุณสป๊อคหูแหลม   กลายเป็นตัวละครอมตะในวงการทีเดียว


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ต.ค. 07, 15:47
หน้าตายานอวกาศ Enterprise


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 02 ต.ค. 07, 16:32
ผมไม่อยากค้านอาจารย์เลย แต่ผมเห็นต่างเป็นตรงกันข้าม เจ็ดสี เขาบริหารแบบสายตรง คือจากคุณแดงสู่คนดู คนอื่นไม่เกี่ยว
รายการอะไร เธอไม่ชอบ เธอก็ไม่เอา รายการอะไรเธอชอบ เราไม่ชอบก็ต้องดู
คงจะเห็นว่า เจ็ดสี เป็นช่องเดียวที่เอาเป็นเอาตายกับการถ่ายทอดกอล์ฟ และมีคุณพิษณุเป็นอมตะอยู่กับกิจการนี้
เหตุผลก็ส่วนตัวล้วนๆ

คุณลิขิต แม้จะเล่นห่วยอย่างไร แต่เขาเรียกคุณแดงว่าแม่ทุกคำ เช้าขึ้นมาก็ถึงหน้าห้องทำงาน
คุณแดงเธอก็ให้เล่นมันทุกเรื่อง ทั้งๆ ที่ไม้แขวนเสื้อยังตีบทแตกกว่า
น้องที่เล่นผูกขาดเป็นนางเอก ไม่เคยเปลี่ยนบุคลิก ส่งเสียงอย่างไร ปรายตาอย่างไร
ทำตาโตใสบริสุทธิ์อย่างไร ใส่เสื้อผ้าแบบใหน ก็ทำอย่างนั้น ยี่สิบปี ไม่ต้องพลิกบทบาท
จนเธอต้องเกษียณ(เสียที) ให้มาเป็นพิธีกร ก็เห็นอยู่โต้งๆ ว่าไม่มีความสามารถ แม้จะเปิดป้ายรางวัล
เธอก็ยังได้งาน

ทั้งหมดเป็นรสนิยมส่วนตัว ไม่เกี่ยวกะเรตติ้ง

บริษัทนี้ เป็นบริษัทส่วนตัว เธอไม่ต้องรับผิดชอบใคร ต่างจากอสมท ที่เคยมีบอร์ด แล้วกลายมาเป็นมติมหาชน
เทียบกันแล้ว อย่างอสมทนั่นแหละ จึงต้องฟังเรตติ้ง เจ็ดสีไม่ต้อง
สามสีบ่นมานานแล้วว่า บริษัทที่เอาเครื่องวัดเรตติ้ง ไปติดตามบ้านน่ะ ไม่โปร่งใส  พูดง่ายๆ ว่า ไม่ติดที่บ้านคนดูสามสีเลย
แล้วเขายังบ่นอีกว่า เขาถูกมัดมือ เพราะขยายเครือข่ายไม่ได้ เช่นที่ภูเก็ต เมื่อยี่สิบปีก่อนไม่เคยดูของเขาได้เลย
ทั้งๆ ที่กลุ่มเป้าหมายรอดูเปาบุ้นจิ้นกันตาโต ปากแห้ง
เอาแค่หนังเปาบุ้นจิ้น รวมไปถึงเรื่องญี่ปุ่น ที่เล่าเรื่องผู้หญิงคนหนึ่ง
หรือแม้แต่สติ๊กเกอร์ที่ติดตามตุ๊กๆ สมัยหนึ่งว่า อย่าปล่อยให้คนชั่วครองเมือง
ล้วนแต่สร้างกระแสขนาดหนัก และชี้ว่า ช่องอื่นเขาก็มีคนดูตรึม

แต่ในเมื่อหนังสือพิมพ์หัวเขียว เขาสนับสนุนกันอยู่ เรตติ้งอะไรก็ไม่มีทางมาปั่นหัวสาวกที่งมงายและไร้ทางเลือกได้ดอกครับ
การบริหารสถานนีทีวีของไทยนั้น ต้องใช้ตำราที่หน้าปกสีดำ พิมพ์ด้วยอักขระขอมแหละครับ จึงจะเข้าใจ

ตำราการสื่อสารสมัยใหม่ พับไปเลย


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 02 ต.ค. 07, 20:37
คุณจำนงนอกจากจะคัดเลือกรายการและวางผังดีๆจนช่องสี่บางขุนพรหมนั้น อัดแน่นด้วยกางวางโปรแกรมจัดเวลาลงรายการแบบมืออาชีพ คุณจำนงก็ยังสร้างคนดีๆ เก่งรอบตัว ที่ดิฉันได้มีโอกาสเชิญมาอ่านสป็อตและชื่นชมยามร่วมงาน เท่าที่จำได้มีดังนี้ค่ะ
คุณกำธร อ่านสป็อตที่สร้างภาพพจน์ของคุณพ่อที่ให้ความคุ้มครองกับลูกยามพายุมา เหมือนบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งที่มั่นคง มีสินทรัพย์รวมมากพอ ในช่วงวิกฤติ
คุณนันทวัน คุณแม่ใจดี เยือกเย็น มีรสนิยม
คุณสะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์ ไม่ได้เชิญมาอ่านสป็อต แต่เป็นผู้กำกับรายการสมัยดิฉันเป็นครีเอทีฟและโพรดิวเซอร์รายการเด็ก วันไหนได้คุณสะอาดกำกับ สมัยนั้นเป็นรายการสด และเราอัดเทปเก็บไว้ การตัดภาพ จับเนื้อหาจะดีที่สุด
คุณสมจินต์ ธรรมทัต ตัวผู้ร้ายที่แสนน่าเกลียด อ่านสคริปท์ยาวๆได้แม่น น้ำเสียงดีเหลือใจ โดยเฉพาะเรื่องเด็กๆ อบอุ่นมาก
คุณอารีย์ นักดนตรี เป็นผู้ประสานงานรายการเด็กที่สวย สง่า มากๆ
ส่วนคนอื่นๆเช่นนักพากย์อย่างคุณนงลักษณ์ คุณฉันทนา คุณศันสนีย์ เราก็ได้มีโอกาสติดตามจากงานพากย์หนังทั่วไป





กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 02 ต.ค. 07, 20:59
เมื่อเกษียณ คุณจำนงได้รับเชิญเป็นที่ปรึกษาแก่ธุรกิจ 2 แห่งคือ คือฝ่ายประชาสัมพันธ์ธนาคารกรุงเทพ และบ.ประกิต ท่านก็ไม่ได้อู้ รับเงินเดือนอยู่บ้าน พยายามมานั่งที่ทำงาน เด็กรุ่นหลังๆไม่ได้มีเวลาไปขอคำปรึกษาหรอกค่ะ ..ดิฉันก็เช่นกัน แต่เมื่อได้พบได้พูดคุย ก็มีกำลังใจขึ้นมาจม
คิดอยู่ในใจว่า..เออ เพื่อนเราโชคดีมีพ่อเก่งๆ (แต่พ่อมีลูก.... ฮ่าฮ่า)
ส่วนคุณคริมสันนั้น เห็นด้วยกับอาจารย์บางส่วน แต่ขอขยายความว่า คุณคริมสันนั้นเธอเฉียบมากเรื่องเลือกละครและรายการที่ถูกอกถูกใจชาวบ้านค่ะ เพื่อให้คนติด และดูดเงินค่าเวลาอันแสนแพง แต่ค่าโพรดัคชั่นถูกเป็นบ้า เราเลยได้ดูละครแบบนั้นไงคะ
ข่าวหรือละครหลังข่าวของเธอ คนถึงติดหนับ
ส่วนดารานั้น คุณคริมสันก็เป็นอย่างที่คุณพพ.พูดเปี๊ยบเลยค่ะ ..มลฤดีเป็นไง กบก็ต้องเป็นอย่างนั้น ลอกแบบกันมา สิ่งที่ดีๆก็คือให้โอกาสคนจนค่ะ ดาราไม่ต้องมาจากครอบครัวล่ำซำ ขอให้สุภาพ เชื่อฟัง มีมารยาท จะไม่ตกง่ายๆ ไม่ได้อยู่ที่ฝีมือหรอกค่ะ คุณพพ.จึงทนดูไม่ได้ไงคะ
สาร(???)คดีกระจกหกคะเมนนั้น ดิฉันเห็นด้วยอีกแล้วกับคุณพพ. เพราะดิฉันเคยซื้อเวลา และทำสคริปท์ให้ลูกค้าเอง โดนคุณเธฮเจ้าของเวลาที่ดิฉันจ้างพากย์ มาขอป่วนสคริปท์ดิฉันให้หงุดหงิดรำคาญใจเสมอ และฟุตเทจที่จ้างถ่ายก็เป็นแบบไม่มีเนื้อหา กลุ้มค่ะ..ต้องจัดการคนหนักกว่าจัดการงาน
..
ช่องของคุณคริมสัน ก็มีบุคลากรทำงานดีๆเยอะ แต่ระบบการทำงานนั้น เทียบช่องจ๋ามไม่ได้เลย.. ธนาคารที่เป็นเจ้าของตอนนี้ก็กลืนหุ้นเกือบหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหาคนที่เฉียบมาแทนเธอได้ จึงยังเห็นค่าของคุณเธออยู่
ที่เขียนมานี่ ชมหรือเปล่า คุณพพ.อาจจะงง กรุณาตีความแล้วกันค่ะ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 02 ต.ค. 07, 21:17
กลับไปที่หนังยานเอ็นเตอร์ไพรซ์ ยอมรับเลยว่า เมื่อดาราแต่ละคน แก่ลงๆ แล้วยังมาเล่นตะลุยจักรวาลในหนังใหญ่น่ะ ไม่ได้ทำให้รสชาติเลวลงเลย คนเล่นแต่ละคนในทีมเดิมก็เก่งๆทั้งนั้น..ชั่วโมงบินแก่กล้า ทำให้สนุกมากขึ้น
เอ..จำไม่ได้ค่ะว่าเรืองทำนองspaceship แต่เป็นเรือดำน้ำ ผจญภัยใต้ทะเลลึก Voyage to the Bottom of the Sea อาจารย์เทาชมพูได้เขียนถึงหรือยัง


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ต.ค. 07, 21:21
ไม่อยากค้านก็ต้องค้านคุณพิพัฒน์  เพราะที่ดิฉันรู้มาไม่ใช่อย่างนั้น
ตอบสั้นๆก็แล้วกัน
- การเลือกดารา เลือกตามความนิยมของคนดู
- การวางระบบเครือข่าย ทำไว้นานประมาณสามสิบปีแล้ว  ทำให้ได้เปรียบช่องที่เกิดทีหลังในช่วงที่ยังขยายเครือข่ายได้ไม่ทั่วประเทศ
- การบริหาร มีบอร์ดกรรมการค่ะ
- เธอถูกสื่อเล่นงานออกบ่อยไป สมัยโน้น


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ต.ค. 07, 21:35
Voyage to the Bottom of the Sea ย้อนกลับไปถึงครึ่งแรกของทศวรรษ 1960s ค่ะ   ออกอากาศ 1964-1968 รวม 110 ตอน
เดี๋ยวจะมาเล่าต่อ
ตอนนี้ขอขยายความถึง Star Trek  เอาชุดแรกดีกว่า เพราะกระทู้ชื่อดาราคลาสสิค ไม่ใช่ดาราปัจจุบัน
"ตะลุยจักรวาล" มีเสน่ห์ตรงที่ไม่ใช่แค่หนังไซ-ไฟ ธรรมดาที่หนักไปทางเทคโนโลยี  แต่ว่าแต่ละตอน เป็นเรื่องการเมืองยุคนั้นบ้าง   เป็นปรัชญาชีวิต หรือผสมผสานเอาตำนานมาเสนอในแง่ปรัชญาก็ยังมี     เรียกได้ว่ามีสัญลักษณ์ให้ตีความกันไม่หวัดไม่ไหว
ดารานำ เดิมไม่ใช่ดาราดังนัก แต่ว่าฝีมือดี     คนที่โดดเด่นที่สุดไม่ยักใช่วิลเลียม แชทเนอร์ที่เป็นพระเอก แต่เป็นมือสองคือเลียวนาร์ด นีมอยที่รับบทคุณสป๊อค  ชาววัลแคน ที่มีพลังจิตพิเศษ    หูเรียวแหลมของคุณสป๊อค เป็นเครื่องหมายประจำตัวไปเลย

ดารายุคนั้นก็เฒ่าชะแรแก่ชราไปตามวัย     เลียวนาร์ด นิมอยอำลาวงการไปแล้ว   วิลเลียม แชทเนอร์ยังอยู่แต่ไม่เหลือเค้าหล่อ   ส่วนคุณหมอประจำยาน ถึงแก่กรรมไปตั้งแต่ปี 1881



กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 03 ต.ค. 07, 00:05
อาจารย์ได้ข้อมูลมาอย่างหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นวงในกว่าผม  ที่เป็นแนวนินทาเจ้านาย
แต่ผมกล้าสรุปอย่างนี้ว่า เจ็ดสี และยักษ์หัวเขียว เดินทางมาถึงจุดที่ต้องกลืนตัวเองกลับเข้าไป
หาคนที่ทำงานตรงมารับใช้ ไม่ใช่เจ้านายทำเองอย่างแต่ก่อน

เรื่องตาแหลมนั้น ผมกลับเห็นเป็นความแปลก คล้ายๆกับที่เจ้าพ่อหัวเขียว เห็นพาดหัว ก็ประมาณยอดขายได้เลย
คุณแดงเธอก็คงระดับนั้น  .....แต่มันเป็นอดีตไปแล้ว
ถ้าอยากอยู่แถวหน้าเหมือนเดิม ต้องใช้มากกว่าสัญชาติญาน
เด็กมอไซค์ หรือสาวโรงงาน เริ่มฉลาดขึ้น พวกเขาขยับขึ้นไปดูหนังโรงได้แล้ว เล่นดีวีดี ดูหนังที่หนักขึ้น จริงจังขึ้น
ส่วนคนในวงการเอง ก็เริ่มฉีกแนวห่างจากมาตรฐานที่ท่านแต่ก่อนวางไว้ หมดเวลาสำหรับมือสมัครเล่นแระ...ฮิฮิ

เปรียบเทียบกันแล้ว วิกหนองแขม มีโครงสร้างที่แข็งแรงกว่ามาก และกล้าเดินแนวบันเทิงครบวงจร
งานนี้น่าจับตาดูครับ

ขอแวะมาหนังทีวีสักหน่อย
จะสั่งรายการไว้ล่วงหน้าเลย
1 เรื่องหมอฆ่าเมีย
2 เรื่องไอ้หนุ่มที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร ตระเวณไปตามเมืองต่างๆ
3 อุโมงค์มหัศจรรย์
4 เมืองคนยักษ์
5 แดนสนธยา

เอาแค่นี้ก่อน
เอ่อ...ผมคิดว่า จะมีความสับสนเรื่องช่องนิดหน่อย
จำได้ว่า เรามีกันแค่ 2 ช่องมานาน
นึกไม่ออกว่าเจ็ดสี กับช่องสามเข้ามาตอนใหน
และจำได้ว่า สมัยเด็ก ทีวีเปิดแค่หัวค่ำ ยกเว้นเสาร์อาทิตย์ มีรอบบ่าย
ชองทหารบกชอบเอาหนังอินตะระเดียมาฉาย
ส่วนช่องบางขุนพรหมเป็นหนังญี่ปุ่นพวกหน้ากากสิงห์ และหน้ากากเสือ...กระมัง

จำไม่ค่อยได้ครับ สมัยก่อนบ้านจน จะดูกันสโมคที ต้องเตรียมเงินสลึงนึง ไปดูที่ร้านชำปากซอย
ขึคอกันแทบหัก กว่าจะดูจบเรื่อง


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 03 ต.ค. 07, 02:28
ทราบว่าเลียวนาร์ด นิมอย กำลังทำตะลุยจักรวาลตอนใหม่ กับเจเจ อับรามห์ส จะฉายปลายปี 2008นี้ และเขาจะมารับบทคุณสป็อคด้วย มีเกร็ดเล่าขำๆว่า ทันทีที่แมท เดมอนทราบว่า เจจะทำ รีบแสดงความจำนงอยากเล่นเป็นกัปตันเคิร์คทันที เจเจปฏิเสธ บอกว่า เขาแก่ไปสำหรับบท
เจเจ ทำหนังทีวีชุดดัง lostกับหนังใหญ่ มิชชั่น อิมพอสสิเบิ้ล ตอนที่แล้ว ซึ่งไปถ่ายที่เมืองจีน เป็นคนเก่งคนหนึ่งของวงการค่ะ
เลียวนาร์ด นิมอยมีความสามารถรอบตัวนะคะ เป็นคนเขียนบทภาพยนต์สตาร์เทรคหลายตอน เป็นผู้กำกับหนังดีๆหลายเรื่อง และเสียงดีมาก เป็นคนเล่าการดำเนินเรือ่ง Armageddon ด้วย
ไม่อยากให้ตายเล้ย ทั้งในบทและนอกบท..


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 07, 09:25
ใครช่วยถอดรหัสคุณพิพัฒน์หน่อยได้ไหมคะ
1 เรื่องหมอฆ่าเมีย.............นึกไม่ออกว่าหนังทีวีเรื่องอะไร
2 เรื่องไอ้หนุ่มที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร ตระเวณไปตามเมืองต่างๆ............มีหลายเรื่องนี่นา  นึกออกเรื่องหนึ่งคือ Run for Your Life
สามเรื่องนี้พอดูออกว่าเรื่องอะไร
3 อุโมงค์มหัศจรรย์    The Time Tunnel
4 เมืองคนยักษ์         Land of the Giants
5 แดนสนธยา           Twilight Zone และต่อมาอีกเรื่องคือ Night Gellery

อ้างถึง
เรื่องตาแหลมนั้น ผมกลับเห็นเป็นความแปลก คล้ายๆกับที่เจ้าพ่อหัวเขียว เห็นพาดหัว ก็ประมาณยอดขายได้เลย
คุณแดงเธอก็คงระดับนั้น  .....แต่มันเป็นอดีตไปแล้ว

ต้องแย้งคุณพพ.อีกแล้ว    ดิฉันกลับเห็นว่าการประเมินได้แม่นยำแบบนี้ เกิดจากความชำนาญและประสบการณ์ ไม่ใช่สัญชาตญาณ
มืออาชีพทุกวงการ  รู้ได้ทั้งนั้น  จะพลาดบ้างก็เปอร์เซ็นต์น้อย
- ครูเพลงเห็นเพลงของนักแต่งหน้าใหม่ ก็รู้เลยเพลงนี้จะดังหรือไม่
- แมวมองเห็นเด็กสาวเดินข้ามถนน  วิ่งตาม ส่งนามบัตรให้ไปโมเดลลิ่งเพราะดูออกว่าหน้ายังงี้ หุ่นยังงี้ เป็นดารา ละก็รุ่งแน่
- บก.เห็นนักเขียนหน้าใหม่ ส่งเรื่องมาให้ อ่านบทเดียวก็รู้แล้วว่าฝีมือระดับไหน จะไปรอดหรือไม่
การคาดการณ์แบบนี้มันไม่มีวันเป็นอดีตหรอกค่ะ      ถ้าจะเป็นอดีตคืออยู่ที่ตัวผู้คาดคะเน   เพราะทุกคนมียุคสมัยของตัวเอง 

เรื่องช่อง ๔ วิกบางขุนพรหม กับช่อง ๗ วิกสนามเป้า กลายเป็นช่องอะไร เห็นจะต้องถามคุณ Sila  หรือคุณกุ้งแห้ง 
ความเปลี่ยนแปลงในตอนนั้นดิฉันไม่รู้  คงอยู่ในช่วงที่ไม่ได้ดูทีวี    คลับคล้ายคลับคลาว่าช่อง ๔ กลายเป็นช่อง ๙ อสมท.  ช่อง ๗ ดูเหมือนกลายเป็นช่อง ๕  ทหารบก
ผิดถูกยังไง ส่งไม้ต่อค่ะ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 03 ต.ค. 07, 10:07
หมอฆ่าเมีย (จริงๆไม่ได้ฆ่า คนแขนขาดฆ่าต่างหาก) = The Fugitive ดิฉันติดหนึบหน้าทีวีเลยค่ะ เพราะอินกับหมอที่น่าสงสารมาก เมื่อเป็นหนังใหญ๋ ให้แฮริสัน ฟอร์ด กับทอมมี่ ลี โจนส์เล่น ทอมมี่ได้ออสการ์ไปเลย
.....
ช่อง ๔ คือช่อง ๙ ย้ายจากบางขุนพรหมมาที่อสมท.ค่ะ
ช่อง ๗ เดิม คือช่อง ๕ ปัจจุบันค่ะอยู่สนามเป้าเหมือนเดิม
ช่อง ๙ มีลูกสัมปทานคือ ๓ ตอนนี้อยู่อาคารมาลีนนท์
ช่อง ๕ มีลูกคือ ๗ สี ค่ะ อยู่ที่หมอชิตค่ะ



กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 03 ต.ค. 07, 10:56
ขอบคุณครับ run for your life น่ะเอง
ส่วนเรื่องหมอฆ่าเมียก็พูดตกไปหน่อย หมอ(ถูกหาว่า)ฆ่าเมีย
ชอบเรื่อง run มีตอนหนึ่งเขาไปตกหลุมรักสาว แต่ก็ต้องพรากจาก เพราะต้องหนี คำสั่งผู้กำกับ
น่าสงสารจริงๆ

เรื่องการตลาดแบบลางสังหรณ์นั้น ผมไม่ได้ปฏิเสธครับ เชื่อว่ามีจริง
แต่ปัจจุบันนี้ ผู้บริโภคหลากหลายซับซ้อนมาก ผมจึงเห็นว่า มันจบไปแล้ว
แต่ใครยังอยากจะใช้ ก็ไม่ว่าครับ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 07, 12:06
เวลาผ่านไปนานเท่าไร ตัวแปรก็เยอะเท่านั้นค่ะ 
การคาดคะเนก็ต้องปรับให้เข้ามาตรฐานใหม่   ถ้าคาดคะเนด้วยมาตรฐานเก่า อาจพลาดได้อย่างที่ว่า

ชอบ Ben Gazzara ที่เล่น Run for Your Life  เรื่องหล่อก็เรื่องหนึ่ง แต่อารมณ์เยือกเย็นที่แสดงออกทางสีหน้า ทำได้ดี ยังไม่เคยเห็นใครเล่นได้ซ้ำแบบกับเขา

ขอกลับมาถึงการบ้านที่ติดคุณกุ้งแห้งไว้ คือ Voyage to the Bottom of the Sea  หนังทีวีชุดนี้ทำจากหนังจอใหญ่    แต่ดาราเป็นคนละชุดกัน
ในหนังทีวี ได้ดาราระดับรางวัลมาเล่น คือ Richard Basehart  เป็นนายพลเรือผู้บัญชาการเนลสัน   ผู้ออกแบบเรือดำนำปรมาณู Seaview   ก็เลยต้องลงมาประจำในเรือทุกตอน  และ David Hedison ดาราหนุ่มรูปหล่อที่เคยเล่นนำในหนังชุด Five Fingers มารับบทกัปตันเรือ  ผู้การเครน
 
อันที่จริงการวางโครงเรื่องหนังชุดนี้ก็น่าหนักใจ   เพราะฉากมีแต่ห้องแคบๆ ชวนอึดอัดซ้ำซากจำเจอยู่ในเรือดำนำ  ส่วนใหญ่ก็กบดานอยู่ใต้ทะเล  หาโอกาสโผล่ขึ้นบกยากเต็มที 
ซ้ำกลุ่มนักแสดงก็ถูกบังคับด้วยบทให้มีแต่ลูกเรือชาย   หาสาวๆสวยๆ มาลงเรือไม่ได้เลย นอกจากเป็นดารารับเชิญ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 07, 12:09
แต่ทีมงานและคนเขียนบท เข้าใจสร้างเรื่อง    หนังทีวีชุดนี้เกิดฮิทติดเรตติ้งอันดับสอง ทำให้ยืนยงอยู่ได้ถึง ๔ ปี   สองปีแรกถ่ายทำเป็นหนังขาวดำ  สองปีหลังเป็นหนังสี
แนวเรื่องในปีแรกๆ เข้มข้นมาก     คนเขียนเข้าใจหยิบเอาประเด็นการเมือง และสังคมในยุคนั้นมาเป็นจุดปัญหาในเรื่อง ให้ผู้บัญชาการและผู้การเครนแก้ปัญหาด้วยความเด็ดขาดเฉียบคม   ยิงขีปนาวุธกันก็บ่อย
คนดูตื่นเต้นไปตามเนื้อเรื่องจนลืมเบื่อฉากเรือดำน้ำ     

เอารูปดารานำมาเตือนความหลัง   เล่นกันเก่งทั้งคู่ค่ะ   ริชาร์ด เบสฮาร์ทเล่นเป็นนายพลเรือราวกับเอานายพลจริงๆมาเล่น   ส่วนเดวิดหนักในทางโชว์ความผึ่งผาย  แต่มาดใช้ได้ทีเดียว


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 07, 12:36
นอกจากนี้ประดิษฐกรรมที่เอามาใส่ไว้เรื่อง คือยานดำน้ำบิน  (the flying sub)ได้ผลมาก
ยานดำน้ำบินเป็นยานขนาดเล็ก ออกแบบรูปทรงคล้ายปลากระเบน  นั่งได้ ๒ คน  เวลาออกจากเรือซีวิว จะมีช่องใต้ท้องเรือใหญ่ให้ยานเล็กค่อยๆเลื่อนตัวลงมา     
ฝ่ายกล้องมีฉ็อทเด็ดคือตอนยานดำน้ำบินแหวกคลื่นผุดจากทะเลขึ้นสู่ท้องฟ้า  ทำได้สวย  อีกตอนคือยานดำน้ำบินร่อนจากฟ้าแหวกคลื่นหายลงไปใต้ทะเล
มีสองฉ็อทซ้ำๆกัน แต่คนดูก็หลงใหลเจ้ายานนี้กันมาก   จึงมีฉากผจญภัยของดาราในยานดำน้ำบิน วิ่งแหวกใต้น้ำผจญสัตว์ยักษ์ใต้ทะเล   อยู่บ่อยๆ

ในเมื่อปีแรกผ่านไปด้วยเรตติ้งดี  ปีที่สอง ทีมงานเพิ่มบรรยากาศผจญภัย แทนที่จะเป็นเรื่องขนอาวุธมหาประลัยมาในเรือ   หรือเจอนักวิทยาศาสตร์บ้าคลั่งพยายามกุมอำนาจยึดโลก    ก็เป็นเจอสัตว์ประหลาดต่างๆใต้ทะเล   มีตั้งแต่ปลาหมึกยักษ์เล่นงานเรือดำน้ำ  ไปจนนางเงือกที่สะกดคน   ตัวอสุรกายใต้ทะเล  บางทีก็เจอเรือปีศาจในตำนาน
ยุค 1960s คนดูทีวียังชอบพวกนี้มาก   เห็นได้จากเจ้าก๊อดซิลล่าของญี่ปุ่นมาโกยคะแนนนิยมจากเด็กไทยไปไม่รู้ว่าเท่าไหร่


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 03 ต.ค. 07, 13:49
ชอบทั้งท่านนายพลและผู้การค่ะ แบ่งบทกันไปดีมาก


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 07, 14:44
เมื่อจบเรื่องนี้แล้ว  ดาราก็แยกย้ายกันไป    ริชาร์ด เบสฮาร์ทไปเล่นละครเวทีและหนังใหญ่   
ส่วนเดวิด เฮดิสันไปเล่นเป็นดารารับเชิญในหนังทีวีเรื่องอื่นๆ     รวมทั้งเล่นหนังเจมส์ บอนด์ ในยุคที่โรเจอร์ มัวร์ เล่นเป็นเจมส์ บอนด์ 
เขารับบทเฟลิกซ์ เพื่อนคู่หูของบอนด์ ถึง ๒ เรื่องด้วยกัน คือ License to Kill กับ Live and Let Die
เรื่องหลังนี้ได้ดาราสาวหน้าหวาน วัย ๒๒ มาเล่น ชื่อ Jane Seymour 


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 03 ต.ค. 07, 16:33
          ติดตามตะลุยจักรวาลไปไหนต่อไหน แต่นึกย้อนแล้วพบว่าหนังอวกาศที่ติดใจอยู่มีสองเรื่องครับ คือ
          Lost in Space - โลกพิศวง ที่มี Angela Cartwright (The Sound of Music) แล้วก็เจ้าหุ่นยนต์ยืนแกว่งแขวนสองข้างและ
ร้องว่า อันตรายๆ กับเรื่อง Space 1999 ที่นำแสดงโดย Martin Landau (Mission: Impossible - ขบวนการพยัคฆ์ร้าย)
          จากตะลุยอวกาศดิ่งลง ผจญภัยใต้ทะเลลึก เป็นหนังทีวีอีกชุดที่ชอบมาก น่าจะได้ดูทุกตอนเพราะ(จำได้ว่า) ฉายในวันหยุดตอนบ่ายๆ ครับ   


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 07, 18:45
การบ้านในกระทู้นี้ แยะค่ะ  แค่ของคุณพิพัฒน์ก็กระหน่ำมาให้ ๕ เรื่องเข้าไปแล้ว
เลยทำได้แค่เอารูปขวัญใจในวัยเด็กของคุณ Sila มาให้ดูไปก่อน     
Angela Cartwright เป็นดาราเด็กที่พอโตเป็นสาว ก็ค่อยๆจางจากวงการเช่นเดียวกับดาราเด็กอีกมาก   ไปเป็นนางแบบบ้าง  เล่นหนังบ้างนิดหน่อย
เมื่อแต่งงานมีลูกก็อำลาชีวิตดารา  ไปเปิดกิ๊ฟต์ช็อป และปัจจุบัน  คุณป้าเป็นช่างภาพอาชีพ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 04 ต.ค. 07, 06:37
ดิฉันอยากจะให้บรรดาคนหนุ่มคนสาวรุ่นนี้ ที่มีว่าที่หลานสะใภ้ดิฉันคนหนึ่งหละ มาอ่านการขุดกรุชุดนี้ เพื่อให้เขาทราบว่า ทำไม ดิฉันถึงได้ไม่เคยสนใจรายการทีวีที่เขาดูทุกวันที่เขาไม่รู้สึกเลยว่าเป็นขยะ
เมื่อเราอยู่คอนโดเดียวกัน เราได้ยินได้เห็นสิ่งที่เขาเปิด และเป็นนิสัยของเขาที่ยึดเอาทีวีเป็นเพื่อนประจำบ้าน แต่เราไม่ได้ห้ามให้เขาหยุดดู นานๆที ไม่อยากจะทนก็บอกว่า น้าไม่เคยเห็นส้มดูข่าวเช้าๆเลยนะ น้าจะดูสยามเช้านี้ทุกวันก่อนไปทำงาน เขาถึงจะเปิดไปดู เป็นช่วงพม่าจลาจลพอดี
ในความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ดิฉันอ่านหนังสือแฟชั่น ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งแบบเซเว่นทีนที่เขาซื้อได้ไม่เกี่ยงงอน มันช่วยไม่ให้เราตกยุค และช่วยสอนภาษาอังกฤษเด็กมหาวิทยาลัยที่เรียนเอกชีวะได้ไม่มีปัญหา
แต่ดิฉันปลงค่านิยมหลายอย่างที่มันแปรเปลี่ยนไป.. โดยเฉพาะเมื่อเห็นรายการทีวีเหล่านี้ เช่นที่มีพิธีกรสาวเจ้าเนื้อไร้รสนิยมนั่งสัมภาษณ์ยกย่องคนมีสตางค์ต่างๆเป็นวรรคเป็นเวร รวมถึงละครที่เต็มไปด้วยยาพิษเคลือบความบันเทิงหลายเรื่อง
ไม่น่าแปลกใจที่เด็กๆสาวๆ ที่ไม่มีผู้ปกครองคอยอบรมสั่งสอนหรือให้สติ ต่างก็ทำตัวเหมือนสำเนาของดาราพิธีกรพวกนี้ ทั้งด้านการใช้คำพูดสำเนียงแปลกๆแบบเหมือนๆกัน จนถึงมารยาทในสังคม


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ต.ค. 07, 09:09
ยาพิษอีกอย่างที่ขยันป้อน คือนางเอกในละคร ชอบแว้ดๆๆๆพระเอก    เจอหน้าแม้แต่ครั้งแรกก็ไม่มีแม้แต่มารยาทในการพูดสุภาพด้วยเลย     รำคาญมากค่ะ
บ่นแค่นี้ละค่ะ
******************************
คราวนี้ถึง The Fugitive ละค่ะ  ออกอากาศ 1963-1967
หนังชุดเรื่องนี้  เป็นเรื่องดังที่สุดเรื่องหนึ่งของยุค 1960s ได้ทั้งเงินและทั้งกล่อง  คว้าได้ทั้งรางวัลเอมมี่ ลูกโลกทอง และPGA Hall of Fame

ผู้สร้างหาพล็อตเก่ง   วางตัวเอกเก่งด้วย   คือผูกเรื่องให้พระเอกเป็นแพทย์ที่ถูกตัดสินจำคุกข้อหาฆาตกรรมภรรยา    ทั้งที่เขาบริสุทธิ์  แต่ระหว่างถูกคุมตัวไปรับโทษ เกิดอุบัติเหตุระหว่างทางทำให้หนีได้ ก็เลยหนี  ระเหเร่ร่อนไปตามที่ต่างๆ  โดยมีนายตำรวจเจ้าของคดีไล่ตามไม่ละลดเพื่อเอาตัวกลับไปเข้าคุกให้ได้    พระเอกรู้ว่าฆาตกรตัวจริงคือชายแขนขาดที่เขาเห็นออกมาจากบ้านก่อนเขาเข้าไปพบภรรยากลายเป็นศพไปแล้ว

ที่ว่าเก่งก็คือ พล็อตแบบนี้ทำให้สามารถหาฉากต่างๆ แปลกๆ มาดำเนินเรื่องได้ไม่ซ้ำซากจำเจ     ดารารับเชิญก็มีได้ไม่จำกัดแวดวง แล้วแต่พระเอกจะพเนจรไปถิ่นไหน    จะหาเหตุการณ์แปลกๆใหม่ๆอะไรก็ทำได้ไม่จำกัด   ความไม่จำกัดนี่ละค่ะทำให้น้ำไม่นิ่ง แล้วก็ไม่เน่า   เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของคนดู  คนเขียนบทก็จะไม่เบื่อ เพราะมีอะไรท้าทายใหม่ๆให้เขียนทุกอาทิตย์

ส่วนตัวละครที่บอกว่าวางเก่ง ก็คือคนสร้างหาเคล็ดมัดใจคนดูได้อยู่หมัด   พระเอกที่สง่างามแต่น่าสงสาร ย่อมทำให้คนดูทั้งรักและทั้งเอาใจช่วย     ดีกว่ามีอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างเดียว   
ในเรื่อง พระเอกพเนจรไป  หนีเอาตัวรอดพลาง เสาะหาฆาตกรตัวจริงพลาง  แต่ก็ไม่ละเว้นที่จะช่วยเหลือผู้ลำบากตกทุกข์ได้ยาก  โดยมากวิชาแพทย์ของเขาก็ช่วยชีวิตคนในแต่ละเมืองที่เขาไปถึงไว้ได้ด้วย  แต่ตอนจบของแต่ละตอน   นายตำรวจก็ได้กลิ่นตามไปถึง   พระเอกของเราก็ต้องทิ้งสาวคนรัก(ที่เจอใหม่)  หรือทิ้งเพื่อนแสนดี (ที่พบใหม่)  ทิ้งครอบครัวอบอุ่น(ที่เพิ่งได้เข้าไปร่วมเป็นสมาชิก)เตลิดหนีไปอีก

หนีอยู่ ๔ ปี   ผู้สร้างก็ไม่ได้ทิ้งให้หนีกันอยู่ชั่วนิรันดร  แต่ทำให้พระเอกได้พบเจ้าฆาตกรตัวจริง    มาถึงตอนจบ ที่เหตุการณ์คลี่คลายออกมาได้ว่าใครเป็นคนฆ่าหญิงสาวกันแน่  พระเอกก็หลุดจากข้อหา
ตอนสุดท้ายของเรื่อง สถิติผู้ดูเฉพาะตอนนี้ในอเมริกา ถล่มทลายเป็นประวัติการณ์ของหนังทีวีอเมริกัน  ไม่มีเรื่องไหนเทียบได้ทั้งก่อนหน้านี้และหลังจากนั้น
จนมาถูกทำลายสถิติในเรื่องเดียว คือ"เจ้าพ่อดัลลัส" ตอน "ใครฆ่าเจ.อาร์"  ทำให้ร่วงลงเป็นอันดับสอง แต่ก็ยังไม่มีใครมาปัดตกเป็นอันดับสามได้จนทุกวันนี้

รูปนี้คือคุณหมอพระเอก กับนายตำรวจผู้ไล่ล่าค่ะ  David Janssen เล่นเป็นหมอริชาร์ด คิมเบิล  Barry Morse เล่นเป็นหมวดฟิลิป  เจอราร์ด


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 04 ต.ค. 07, 10:04

     ขอบคุณ นางฟ้า Angela Cartwright จากอาจารย์ครับ
      เรื่อง Fugitive จำได้แบบคลับคล้ายคลับคลาครับ ไม่ทราบว่าคนเขียนเรื่องหยิบยืมพล็อตมาจาก เหยื่ออธรรม (Les Miserables)
หรือเปล่า และคนเขียนในยุคต่อมาก็ดัดแปลงร่างกลายเป็น มนุษย์จอมพลัง (The Incredible Hulk) 


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ต.ค. 07, 10:41
The Fugitive น่าจะเป็นการผสมผสานพล็อตของ Les Miserables ของ Victor Hugo  ว่าด้วยนักโทษผู้บริสุทธิ์ที่ถูกตำรวจผู้เคร่งครัดต่อหน้าที่ตามไล่ล่า     กับคดีฆาตกรรมจริง ที่เกิดขึ้นในปี 1954 เรียกว่า  Dr. Sam Sheppard murder case   
คุณหมอแซมถูกกล่าวหาว่าฆ่าภรรยาตาย  ถูกจำคุกยาวนานถึงสิบปี ก่อนจะอุทธรณ์ขอให้ศาลพิจารณาคดีอีกครั้ง  ศากลับการตัดสินครั้งแรก หมอก็เลยได้เป็นอิสระ  อ่านได้ที่นี่ค่ะ
http://en.wikipedia.org/wiki/Sam_Sheppard
มีหนังทีวีอีกหลายเรื่องที่มีพล็อตคล้ายๆแบบนี้ คือพระเอกเที่ยวติดตามหาใครคนหนึ่ง หรือพระเอกมีมลทินติดตัวแล้วพยายามล้างมลทิน   คือ Dustry  กับ Branded

เอาภาพดารานำ ในอดีตและภาพในปัจจุบันมาให้ดูกันค่ะ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 04 ต.ค. 07, 11:10
เป็นหนังคุณธรรมจริยธรรมที่ชอบและไม่เบื่อ สมัยเมืองไทยยังเพิ่งมีไอบีซี(เคเบิลของชิน)ใหม่ๆได้ไปอเมริกาครั้งแรก พักในอพาร์ตเมนท์ เปิดทีวีเจอช่องที่เอาหนังเรื่องนี้มารีรัน..ยังชอบอยู่เลยค่ะ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ต.ค. 07, 11:22
ยิงสปอตโฆษณา  เบน กาซซาร่าแห่ง Run for your Life ให้ดูกันไปพลางๆก่อน ค่ะ
เรื่องนี้ก็มีอะไรน่าเล่าไม่น้อยเหมือนกัน
จะมาต่อตอนกลางคืนนะคะ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 04 ต.ค. 07, 11:33
ยังตามอยู่เสมอค่ะ  แล้วก็สงสัยว่าทำไมความทรงจำในเรื่องหลัง ๆ เหล่านี้สำหรับดิฉันออกจะลางเลือน  บางเรื่องก็ไม่คุ้นเลยแฮะ 

ส่วนรายการทีวีปัจจุบันที่เราออกไม่นิยมชมชื่น  ใจหนึ่งก็คิดว่าเพราะเราดูมานาน  เห็นมาเยอะ  ก็เลยหาอะไรแปลกใหม่ให้ตื่นเต้นนิยมชมชื่นได้ยาก มั้ง
มาตรฐานการให้คุณค่าของเราก็แตกต่างจากคนทำสื่อในยุคปัจจุบัน  จะไปบอกว่ามาตรฐานของเขาไร้รสนิยมก็กระไร  ปลอบใจตัวเองว่า  ไม่มีอะไรดี ๆ ดูก็ดีเหมือนกันจะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์กว่าการนั่งเฝ้าจอทีวี 

ต่อไปเป็นรายการชวนดูค่ะ 

วันก่อน(ว่าจะพยายามใส่ใจจำวันให้ได้มาบอกก็ลืมใส่ใจเสียทุกทีค่ะ)ได้ชมรายการ โลก 360องศา ทางช่อง 5  เป็นเรื่องการเสด็จประพาสต่างแดนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ทางรายการได้เชิญอาจารย์พิชัย วาสนาส่ง มาเป็นวิทยากร  ได้ดูแล้วชื่นใจจังค่ะ  ได้ฟังอาจารย์ใช้ภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำ เวลาอาจารย์เอ่ยชื่อแต่ละเมืองในภาษาต่าง ๆ อาจารย์จะอธิบายขยายความการเรียกชื่อตามภาษาท้องถื่นเป็นอย่าง แต่ถ้าเป็นสำเนียงภาษาอังกฤษจะเป็นอย่างไร เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอาจารย์ก็นำมาเสริมเพิ่มเติมให้  ต่างจากพิธีกรยุคปัจจุบันที่เน้นหน้าตา และการแต่งตัว  แล้วก็ออกมาอ่านข้อมูลตามที่เขามีไว้ให้ ก็เท่านั้น

คืนวันพุธ หลังข่าว ช่อง 9 ค่ะ  รายการ"จุดเปลี่ยน" เสนอเรื่อง ขี้หมาที่ไม่ขี้หมา ดิฉันว่าเป็นรายการที่ดีสำหรับยุคนี้นะคะ  แต่ไม่ใช่ดีไม่มีที่ตินะคะ  แต่ก็ขอยืนยันตามมาตรฐานของดิฉันนะคะว่า  ก็ควรค่าแก่การเสียเวลาดู  ดิฉันได้ดูมา 4 - 5 ครั้ง  แต่ละครั้งก็ดีมาก ดีน้อย ขึ้น ๆ ลง ๆ ไปตามประเด็น  เดาว่าบางประเด็นคนทำตีไม่แตก  แต่ถ้าประเด็นไหนตีแตกก็ทำได้ ดี ชวนให้มีความหวังกับคนทำสื่ออยู่บ้าง  รายการนี้ผลิตโดย ทีวีบูรพา ซึ่งดิฉันทราบว่าเธอได้รับการสนับสนุนจาก JSL ค่ะ  แต่ไม่ทราบว่า JSL เกี่ยวข้องกับช่อง 7 อย่างไร  ไม่รู้จริง ๆ นะคะแล้วเป็นผู้หญิงอย่างรู้เสียด้วยซิคะ  อีกความสงสัยหนึ่งที่เฝ้าดูค่ะว่า  ช่อง 7 ถ้าไม่มีคุณแดงจะเป็นอย่างไร  ส่วนเรื่องการบริหาร จัดการของช่อง 7 ใครจะว่าดี ไม่ดี ก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะ  ทำมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้วนะคะ  จะเอาอะไรไปเถียงเธอล่ะคะ  แล้วถ้าช่อง 7 ไปบริหารจัดการอะไร ก็ยังคงเป็นบุคลิกนี้นะคะ  คือใช้ตัวบุคคลเป็นหลักค่ะ  ดิฉันเคยถามผู้คนรอบ ๆ ตัวเล่น ๆ ค่ะ  ถ้าใครชอบดูละครช่อง 7 ก็จะถามว่าทำไมไม่ดูช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง 9 ก็จะได้คำตอบประมาณ  ช่องอื่น ๆ ดูแล้วเครียด  ชอบดารา  ประเภทว่ารักจุ๋ยก็ตามดูไปทุกเรื่อง รักกบก็ตามไปทุกเรื่อง กับภาพช่องไหน ๆ ก็ไม่ชัดเท่าช่อง 7 ค่ะ

ดิฉันไม่ค่อยถนัดชี้ แยกแยะว่าอะไรดี ไม่ดี นะคะ  แต่ชอบดูค่ะว่าอะไรเป็นอย่างไร  แต่ก็สนุก และติดตามค่ะเวลาคุณpipatชี้เปรี้ยงปร้าง จนชาวเราหลบกระสุนกันจ้าละหวั่น


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 04 ต.ค. 07, 11:48
เบน กาซซาร่า น่ะ จำได้ค่ะอาจารย์ จะรออ่าน
หลังจากเรื่องที่ได้ดูตอนเด็กๆ ได้ดูเบนอีกครั้ง คราวนี้บทพ่อในเรื่อง bloodline ที่ทำจากหนังสือของ Sydney Sheldon จากนั้น ดูเหมือนเขาจะหายไปเลย


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ต.ค. 07, 19:48
Theme ของ The Fugitive และ Run for Your Life เหมือนกันในข้อหนึ่ง คือแสดงให้เห็นว่า แม้ในยามตกทุกข์ได้ยาก  ตัวละครเอกของหนังชุดนี้ก็ไม่วายเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่น ทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น   ข้อนี้ละค่ะเป็นส่วนหนึ่งที่ประทับใจคนดู

Run for Your Life ดำเนินเรื่องคล้าย The Fugitive  พระเอกเป็นทนายความหนุ่มงานกำลังรุ่ง   จู่ๆก็พบว่าเขาป่วยเป็นโรคร้าย จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน ๒ ปี     เมื่อรู้ สิ่งแรกที่คิดคือเขาจะทำชีวิตที่เหลือยังไงดี
เขาก็เลยลาออกจากงาน  เดินทางตระเวณไปตามที่ต่างๆ  เผชิญเรื่องราวร้อยแปดพันชนิด    ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน  บางทีเขาเข้าไปช่วยเหลือคนอื่น ก็ไม่มีใครรู้ว่าทำไม     เขามาถึง แล้วก็เดินทางต่อไปในช่วงสั้นๆ   ในแต่ละตอน

เรื่องนี้ถ้าไม่ได้เบน กาซซาร่ามาเล่น จะฮิทเท่านี้หรือไม่ยังน่าสงสัย   เบนเล่นดีมากค่ะ   สิ่งที่ติดใจคนดูคือรอยยิ้มเศร้าน้อยๆ  บุคลิกเยือกเย็น ไม่สะทกสะท้านต่อความลำบากหรือความตาย  เพราะยังไงเสียความตายก็เป็นเงาตามตัวเขาอยู่แล้ว   เป็นเสน่ห์ที่เร้นลับ แปลกกว่าพระเอกอื่นๆ ที่หนักไปทางแกร่งกร้าว หรือโลดโผนผจญภัย
เรื่องนี้ก็เลยฮิทอยู่ตั้งแต่ 1965-1968    ยาวนานกว่านี้ไม่ไหว  เดี๋ยวพระเอกไม่ตายเสียที จะผิดพล็อต

เบนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทอง ทั้ง ๓ ปีเลยค่ะ จากเรื่องนี้
ทุกวันนี้อายุ ๗๗ แล้ว แต่ยังมีงานหนังใหญ่ไม่ขาดสาย


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 04 ต.ค. 07, 23:46
ลืมไปค่ะ ว่าครั้งหลังสุดคือเมื่อเดือนที่แล้ว ได้ดูหนังดีเรื่อง ปารีส ฉันรักเธอ ที่สกาลา เป็นหนังสั้นๆหลายผู้กำกับ หลายๆเรื่องมารวมกัน แล้วแต่ใครจะเขียนบทว่าเป็นthemeอะไร
ลุงเบนมาเข้าฉากด้วยเรื่องหนึ่ง มีเสน่ห์ ตีบทกระจุย ประกบจีน่า โรว์แลนด์ เป็นคู่สามี ภรรยาที่นัดเจอกันที่ร้านอาหารในปารีส เพื่อตกลงเรื่องหย่า...


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ต.ค. 07, 18:09
ตอนนี้ถึงคิวหนังทีวีไซไฟ  อีกเรื่องหนึ่ง คือ The Time Tunnel 
พล็อตเรื่องวางไว้มีรสชาติทีเดียวคือ ผสมผสานวิทยาศาสตร์เข้ากับประวัติศาสตร์  เป็นเรื่องสนุก ให้เยาวชนได้เรียนรู้แบบไม่ต้องโงกหลับอย่างในชั้นเรียน
เรื่องมีอยู่ว่า นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม ๒ คน หลงติดอยู่ในอุโมงค์เวลา ซึ่งเป็นโปรเจคลับสุดยอดของอเมริกาในยุคนั้น  เป็นโปรเจคที่ส่งมนุษย์เดินทางในกาลเวลากลับไปอดีต(หรือปัจจุบัน)ได้   
แต่ด้วยอุบัติเหตุ สองคนนี้ก็เลยติดอยู่ในนั้น  เป็นนักพเนจรร่อนเร่ไปในกาลเวลายุคต่างๆทุกมุมโลก  แล้วแต่เจ้าเครื่องมือวิทยาศาสตร์มันจะส่งเขาหล่นปุ๊บลงไปในช่วงเวลาไหนของที่ตรงไหน     
ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ในห้องบังคับการก็เฝ้ามองเหตุการณ์ด้วยใจระทึก   และพยายามหาทางช่วยเมื่อสองคนนี้ตกที่คับขัน  ด้วยการย้ายเขาหนีจากกาลเวลาเดิมไปหล่นลงในกาลเวลาใหม่


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ต.ค. 07, 18:50
เรื่องนี้มีอายุงานสั้นมากค่ะ แค่ซีซั่นเดียว ๑๙๖๖-๖๗  มี ๓๐ ตอน แล้วยกเลิกไป

ผู้สร้างได้ดารารูปหล่อสองคนมาเล่น คือเจมส์ ดาร์เรนกับโรเบิร์ต คอลเบิร์ต
เจมส์เป็นดาราวัยรุ่นขวัญใจสาวๆ มาก่อนจากหนังวัยรุ่นยอดฮิทเรื่อง Gidget  และเป็นนักร้องเพลงป๊อปยอดฮิทด้วย   
เจมส์มีฝีมือมากกว่าขวัญใจวัยรุ่นอีกหลายคนในยุคเดียวกัน     จึงวนเวียนอยู่ในวงมายาได้จนถึงทศวรรษแปดสิบ  ได้เล่นในหนังชุด T.J. Hooker    ต่อจากนั้นก็ยังรับเล่นในหนังทีวีเรื่องนั้นเรื่องนี้มาจนถึงปี ๒๐๐๑
ส่วนโรเบิร์ต คอลเบิร์ต เป็นดาวดวงเล็กของวงการทีวี   เมื่อจบเรื่องนี้ก็ไปเล่นเป็นดารารับเชิญในหนังทีวีเรื่องอื่นๆไปเรื่อยๆ ได้งานในหนังสบู่เรื่อง The Young and the Restless อยู่หลายปี  ไม่ถึงกับรุ่งแต่ก็ไม่ตกงาน 
ตอนนี้  น่าจะเกษียณจากงานไปแล้ว



กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ต.ค. 07, 18:58
เรื่องนี้วางโครงไว้น่าสนใจ  แต่เรตติ้งไม่ดี อาจจะเป็นเพราะการเขียนบทไม่ดี เทคนิคในเรื่องก็อ่อนมาก
ฉากซ้ำๆกันคือในห้องบังคับการ มีนักวิทยาศาสตร์นั่งโหรงเหรงอยู่  ๒-๓  คน   มีบทซ้ำๆกันคือนั่งดูจอที่มีอุโมงค์ยักษ์แทนเครื่องทีวี    เฝ้าดูว่าพระเอก ๒ คนไปเจออะไรบ้าง  บางทีก็ภาพล้มเหมือนจอทีวีเสีย  ก็วุ่นวายกัน ปรับปุ่มโน้นเปิดปุ่มนี้จนภาพกลับมาดี
ส่วนฉากในอดีตก็ไม่อลังการ     เป็นฉากถ่ายทำในห้ห็องส่งเสียละมาก   

ส่วนการเขียนบททำได้ดีในส่วนที่เลือกเหตุการณ์ตื่นเต้นในอดีตมาเป็นฉาก   จำเพาะเจาะจงว่าสองคนนี้จะต้องหล่นลงไปในเหตุการณ์ใหญ่ๆทั้งนั้น    เช่นหล่นไปในเรือไททานิคก่อนล่ม    หล่นไปที่ป้อมอลาโมก่อนแตก   หล่นไปที่กรุงทรอยก่อนจะพ่ายแพ้แก่พวกกรีก   
สองคนก็พยายามจะเตือนคนในอดีตที่เขาเจอให้ระวังภัยที่จะเกิดขึ้น    แต่ผลก็คือจนแล้วจนรอดก็ไม่อาจแก้ไขเหตุการณ์ได้     หรือถ้าแก้ไขได้ก็อาจจะช่วยได้แค่คนบางคน  แต่เรื่องใหญ่ๆมันก็ยังเป็นอย่างที่มันเป็นอยู่ดี
หนักๆเข้า   มีแต่ความซ้ำซาก  คนดูเลยเบื่อ   ยาวได้แค่นี้เองค่ะ
แต่พล็อตดี  เห็นว่าพยายามจะสร้างกันขึ้นมาใหม่อีกครั้ง    ไม่ได้ติดตามเลยไม่รู้ว่าไปถึงไหนยังไง

ขอให้ดูอุโมงค์ของจริงที่ใช้ถ่ายทำให้ดูมหัศจรรย์    กลวงมากๆ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ต.ค. 07, 19:06
ดาราก็สังขารไม่เที่ยงเหมือนกันละน่า


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 05 ต.ค. 07, 19:26
J = จำนรรจ์
S = สุรางค์
L = ลาวัณย์

มีเรื่องน่านินทาคือ ในรัฐบาลที่แล้ว
บริษัทฯ ส่งคนไปเป็นกรรมการจัดสรรคลื่นความถี่ด้วย
ซึ่งน่าประหลาดมาก คนรับ(สัม)ประทาน จะไปควบคุมการปล่อยสัม(รับ)ประทาน เสียเอง

แต่เขาก็อ้างร้อยแปดจนได้เป็น โชคดีที่มีเหตุต้องล้มการเลือกสรรนั้น

ผมชอบดูอุโมงค์มหัศจรรย์ เพราะอยากเห็นความไม่สมเหตุผล
แต่บางครั้งก็ชวนเราเคลิ้มไปกับความน่าจะเป็น....เหมือนกันครับ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ต.ค. 07, 20:21
JSL =
Journal of Symbolic Logic
Japanese Sign Language
Japanese as a Second Language
Japan Soccer League
Jefferson Swim League
Java Search Library
Java Service Launcher
etc.
********************************
จากค.ห. 59
อ้างถึง
น้องที่เล่นผูกขาดเป็นนางเอก ไม่เคยเปลี่ยนบุคลิก ส่งเสียงอย่างไร ปรายตาอย่างไร
ทำตาโตใสบริสุทธิ์อย่างไร ใส่เสื้อผ้าแบบใหน ก็ทำอย่างนั้น ยี่สิบปี ไม่ต้องพลิกบทบาท
จนเธอต้องเกษียณ(เสียที) ให้มาเป็นพิธีกร ก็เห็นอยู่โต้งๆ ว่าไม่มีความสามารถ แม้จะเปิดป้ายรางวัล
เธอก็ยังได้งาน

ทั้งหมดเป็นรสนิยมส่วนตัว ไม่เกี่ยวกะเรตติ้ง

คุณพิพัฒน์ไม่ค่อยได้ดูละคร   ถึงไม่รู้ว่าเขาเลือกพระเอกนางเอกกันยังไง  จะอธิบายก็คงไม่เชื่อ
พอดีไปเจอกระทู้หนึ่ง น่าสนใจ  ลองอ่านดูนะคะ  แล้วจะเห็นตัวอย่างของแนวคิดการเลือกพระเอกนางเอก โดยคนดูล้วนๆ ไม่ใช่ผู้บริหาร
ถ้าสังเกต  ความเห็นส่วนใหญ่เลือกดาราที่หน้าตา และบุคลิกการลุกนั่งเดินเหิน    น้อยมากที่เน้นถึงฝีมือ
พอจะถือเป็นสุ่มตัวอย่างได้ไหม
มติของมหาชนเป็นยังไง มติของผู้บริหารก็เป็นยังงั้น - ดิฉันเชื่อตามนี้นะคะ
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5866701/A5866701.html


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 ต.ค. 07, 21:27
Jกับ Lนั้นถูกต้องแล้วค่ะ คุณพพ. แต่Sนั้น เดิมเป็นสมพงษ์ค่ะ ที่ตอนหลังแยกมาทำทีวีธันเดอร์


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 05 ต.ค. 07, 21:50
พูดกันตามจริง ผมมิได้รังเกียจเรื่องผูกขาดเป็นพระเอกนางเอกเท่ากับที่ ผู้สร้าง "ดักดาน" คิดแทนชาวบ้านว่า
ชาวบ้านชอบแบบนี้

จะอ้างอะไรก็ตาม ผมก็ยังคงท่องคาถาศักดิ์สิทธิ์ของผมว่า
มีคนบางคน ไม่ลดตัวลงทำของห่วย ผมเคยเห็นคนอย่างนี้
และเชื่อว่า จนถึงทุกวันนี้ ท่านเหล่านั้น ก็ยังรุ่งเรืองดีอยู่

แต่จะมีคนหัวดีบางคน เอาของดีของคนอื่นมาทำให้"ห่วย"
แล้วอ้างว่า ชาวบ้านไม่ชอบอย่างนู้นอย่างนี้
ผมคิดว่า เมื่อรวยมาจากเงินทองของชาวบ้าน
จิตใจสำนึกบุญคุณ ต้องมีอยู่บ้าง ต้องรู้ว่า การยัดเยียดของเสียให้ชาวบ้านทุกวัน ติดต่อกันเป็นสามสิบปี
มันเลวร้ายเกินคน

ถ้าใช้มาตรฐานมติมหาชน คนที่เปิดอาบอบนวดก็ไม่เห็นน่าจะไปตำหนิเขา
กฏหมายก็อนุญาต ชาวบ้านก็เดินมาหาเขาเอง เขาไม่ได้เอาธุรกรรมไปส่งมอบให้ถึงห้องนั่งเล่นซะเมื่อไร

พูดมากเกินไปซะแล่ว


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 ต.ค. 07, 23:39
ไม่ได้รู้จักเจ้าแม่เจ็ดสีเป็นส่วนตัว และไม่เสพละครช่องไหนตายตัวเพราะเวลาว่างจะเอาไปทำอย่างอื่นมากกว่าเปิดทีวีทุกวัน
ยอมรับว่า ละครแบบที่เธอเลือกเรื่องมานั้น ต้องชาวบ้านชอบเป็นหลัก รสชาติเด็ดเผ็ดมัน ชีวิตโลดโผนโจนทะยาน
ผู้กำกับก็สไตล์ดาราวิดิโอ
คุณเจ้าแม่ท่านคอมเมนต์เก่ง เรื่องอะไรที่พูดถึงแล้วมักไม่พลาด
เจ้าแม่แบงก์ไปเทคโอเวอร์ ก็ยัง้ต้องให้เกียรติ หาคนที่ดูเหมือนว่าจะตล๊าด ..ตลาดมาทำแล้ว ก็ยังสู้เจ้าแม่ผมม้าไม่ได้
จัดว่า เป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ เข้าใจตลาด ลึกซึ้งในเรื่องกลุ่มเป้าหมาย
มีอิทธิพลในการปั้นดาราให้อยู่ในความนิยม เมื่อปั้นได้ ก็ฆ่าได้เช่นกัน
...
ใครไม่รู้ด่าผมม้า ทรงอมตะนิรันดรกาลของเธอ..
แต่ที่แน่ๆ ไม่ว่าเธอจะไว้ผมทรงอะไร ไม่สวยแค่ไหน ในกะโหลกเธอมันก็ไม่บรรจุขี้เลื่อยหรอกค่ะ คุณพพ.


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 05 ต.ค. 07, 23:53
ชัวร์......ผมยอมรับครับเรื่องนั้น
แต่เก่งไม่กลัว

กลัวคนดีอ่ะ........แต่.....
ขอท้วงจี๊ดดดดนึงคะร๊าบบบบบ
ผมยังไม่เคยเห็นเธอปั้นดารามาสักคนเลย มีแต่นักแสดง
แสดง   ....แสดง....   แสดง

ผมเคยเห็นคุณผู้หญิงที่ชอบเล่นบทเนื้อหนังมังสา...อ้อ คุณดาริน
เธอเล่นละคอนเรื่องหนึ่ง เล่นเก่งจนผมอดงงไม่ได้
สุดถนนบนทางสายเปลี่ยว....กระมัง
(ยกเว้นการออกเสียง ที่เธอต้องฝึกลูกกระเดือกให้มีพลังอีกหน่อย นอกนั้นเปอร์เฝคจริงๆ)

อย่างนี้ละครับ ที่ผมคิดว่า เป็นการสร้างขึ้นมา
การสร้างอะไรขึ้นมาสักอย่าง มันต้องการมากกว่าลางสังหรณ์ และการยัดเยียด
มันต้องการระบบมารองรับ และระบบนั้น ต้องเปิดกว้างให้รุ่นใหม่ ผ่านเข้ามาเพื่อใช้ประโยชน์
ผมไม่ชอบระบบแม่มดหมอผี ที่ไม่รู้จะอธิบายยังไง พูดแต่คำว่า เชื่อฉันแล้วดีเอง
เป็นเหมือนซ่องโจร ที่หัวหน้าแก๊งค์เดินรถทางเดียว ไม่มีใครขวางได้
สุดท้ายซิ่งสยอง พาลูกน้องตายยกรัง



กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ต.ค. 07, 08:44
อ้างถึง
การสร้างอะไรขึ้นมาสักอย่าง มันต้องการมากกว่าลางสังหรณ์ และการยัดเยียด
มันต้องการระบบมารองรับ และระบบนั้น ต้องเปิดกว้างให้รุ่นใหม่ ผ่านเข้ามาเพื่อใช้ประโยชน์
ผมไม่ชอบระบบแม่มดหมอผี ที่ไม่รู้จะอธิบายยังไง พูดแต่คำว่า เชื่อฉันแล้วดีเอง
เป็นเหมือนซ่องโจร ที่หัวหน้าแก๊งค์เดินรถทางเดียว ไม่มีใครขวางได้
สุดท้ายซิ่งสยอง พาลูกน้องตายยกรัง

ความเห็นของคุณพพ. ดิฉันรู้สึกว่าเป็นตัวอย่างสูตรสำเร็จการวิจารณ์ที่ใช้ได้กว้างขวางเกือบครอบจักรวาล  ไม่ว่าวงการอะไร ในประเทศไหน   น่าจะใช้ได้หมด   
ลองสมมุติว่าเอาไปใช้กับพรรคการเมือง (พรรคไหนก็ได้ไม่ระบุชื่อ)

"การจะสร้างพรรคการเมืองให้เจริญขึ้นมา  มันต้องการมากกว่าลางสังหรณ์ และการยัดเยียดผู้สมัครกลุ่มเดิมๆให้ประชาชนเลือก
มันต้องการระบบมารองรับ และระบบนั้น ต้องเปิดกว้างให้รุ่นใหม่ ผ่านเข้ามาเพื่อใช้ประโยชน์
ผมไม่ชอบระบบแม่มดหมอผี ที่ไม่รู้จะอธิบายยังไง หัวหน้าพรรคพูดแต่คำว่า เชื่อฉันแล้วดีเอง
เป็นเหมือนซ่องโจร ที่หัวหน้าแก๊งค์เดินรถทางเดียว ไม่มีใครขวางได้
สุดท้ายซิ่งสยอง พาลูกน้องตายยกรัง"

เปลี่ยนใหม่ เอาไปใช้กับบริษัทเอกชน(กิจการอะไรก็ได้)

"การสร้างบริษัทให้เจริญก้าวหน้า  มันต้องการมากกว่าลางสังหรณ์เรื่องวางแผนมาร์เก็ตติ้ง และการยัดเยียดสินค้าให้ผู้บริโภคผ่านอัดโฆษณาเข้าไป
มันต้องการระบบมารองรับ และระบบนั้น ต้องเปิดกว้างให้พนักงานรุ่นใหม่ๆ ผ่านเข้ามาเพื่อใช้ประโยชน์
ผมไม่ชอบระบบแม่มดหมอผี ที่ไม่รู้จะอธิบายยังไง    กรรมการผู้จัดการพูดแต่คำว่า เชื่อฉันแล้วดีเอง
เป็นเหมือนซ่องโจร ที่หัวหน้าแก๊งค์เดินรถทางเดียว ไม่มีใครขวางได้
สุดท้ายซิ่งสยอง พาลูกน้องตายยกรัง"

อีกที  เอาเป็นสถาบันการศึกษา

"การสร้างความก้าวหน้าให้สถาบัน  มันต้องการมากกว่าลางสังหรณ์ของผู้บริหารว่าควรจะมุ่งไปทางไหน และการยัดเยียดคณะใหม่ๆให้เปิดขึ้นมา
มันต้องการระบบมารองรับ และระบบนั้น ต้องเปิดกว้างให้บุคลากรรุ่นใหม่ ผ่านเข้ามาเพื่อใช้ประโยชน์
ผมไม่ชอบระบบแม่มดหมอผี ที่ไม่รู้จะอธิบายยังไง ผู้บริหารพูดแต่คำว่า เชื่อฉันแล้วดีเอง
เป็นเหมือนซ่องโจร ที่หัวหน้าแก๊งค์เดินรถทางเดียว ไม่มีใครขวางได้
สุดท้ายซิ่งสยอง พาลูกน้องตายยกรัง"

เป็นคำวิจารณ์กลางๆ ที่ไม่เปิดโอกาสให้ใครแย้งได้ เพราะไม่มีหลักฐานรองรับเลยว่า มันเป็นจริงมาแต่แรกหรือเปล่า และจะเป็นจริงตามคาดคะเนตอนท้ายได้หรือไม่
มันอาจจะกลับตาลปัตรเป็นตรงกันข้ามก็ได้    ไม่มีทางรู้ทั้งสองทางค่ะ
*******************************
มาถึงเรื่องใหม่  Land of the  Giants (1968-70)
หนังชุดไซไฟเรื่องนี้สร้างโดยเออร์วิง แอลเลน ที่ทำหนังชุดไซไฟดังมาก่อนหน้านี้ ชื่อ Lost in Space  พอ LIS จบลงเขาก็มาทำเมืองคนยักษ์
เนื้อเรื่องคล้ายๆ LIS ค่ะ คือเป็นการหลงทางของคนกลุ่มหนึ่งไปอยู่บนดาวอีกดวง
ขึ้นต้น บอกว่าเป็นอนาคตปี 1983  มียานอวกาศพาณิชย์ลำหนึ่งบินจากแอลเอไปลอนดอน  แต่เจออากาศแปรปรวนอย่างแรงกลางทาง ทำให้พลัดเข้าไปในรูหนอน (wormhole) อวกาศ จึงทะลุมิติไปตกบนดาวอีกดวง 
หน้าตาดินแดนนั้นเหมือนสหรัฐอเมริกาไม่มีผิด   แต่ว่ามีขนาดใหญ่กว่าถึง ๑๒ เท่า    นักบินและผู้โดยสารรวมหกหรือเจ็ดคนก็เลยกลายเป็นมนุษย์ตัวจิ๋ว    ต้องหลบเร้นยักษ์ไม่ให้เห็น  มิฉะนั้นจะถูกจับตัวไป
ความตื่นตาตื่นใจอยู่ที่ฉาก  ซึ่งจะต้องจัดข้าวของประกอบฉากให้ได้สัดส่วนขนาดยักษ์  ให้แนบเนียนน่าเชื่อถือ





กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ต.ค. 07, 09:16
เรื่องนี้ได้แนวมาจากอมตะวรรณกรรมเยาวชน  เรื่อง Gulliver's Travels  ตอนกัลลิเวอร์พลัดเข้าไปในเมืองคนยักษ์
เมื่อเอามาทำหนังชุด   ผู้เขียนบทพยายามสอดแทรกเนื้อหาสาระเข้าไปในเรื่องเท่าที่ทำได้    แต่ก็ไม่ค่อยคล่องตัวนัก    เพราะจุดเด่นของเรื่องคืออุปกรณ์ฉากขนาดยักษ์เสียมากกว่า   
นอกจากนี้เจอปัญหาว่าฉากส่วนใหญ่ต้องถ่ายทำในห้องส่ง   ตัวเมืองยักษ์แท้ๆไม่ค่อยมีให้เห็น เพราะวางพล็อตไว้ว่าเป็นเมืองหน้าตาเหมือนสหรัฐอเมริกาเสียแล้ว   ไปถ่ายทำเมืองจริงๆมาก็ไม่น่าตื่นตาตื่นใจ
เนื้อเรื่องก็จะวนเวียนอยู่กับพระเอกกับพวกหลบหนีจากยักษ์  ซ่อมยานเพื่อหนีกลับโลกไม่สำเร็จเสียที จนตอนสุดท้าย
จนแล้วจนรอดก็ไม่รู้ว่าดาวคนยักษ์นี้อยู่อีกมิติ  หรืออยู่ในจักรวาลมิติเดียวกัน

ดาราที่เล่นค่อนข้างโนเนมค่ะ   พระเอกหล่อล่ำแบบฮอลลีวู้ดนิยม    ชื่อ Gary Conway เป็นนายแบบโฆษณามาก่อน    และไปถ่ายแบบนู้ดทีหลัง
หนังเรื่องนี้จบลงแค่ใน ๒ ปี  นักแสดงแยกย้ายกันไป    แกรี่ไปทำงานหลังกล้อง แล้วอำลาวงการไปทำธุรกิจไร่องุ่นอยู่จนทุกวันนี้   


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 06 ต.ค. 07, 10:18

      สมัยนั้นก็ติดตามท่องกาลเวลาไปกับอุโมงค์มหัศจรรย์กับเขาด้วยครับ หนังทีวีแนวเดียวกันอีกเรื่องหนึ่งที่โด่งดังมากในยุคนั้น
คือ Doctor Who (1963) 
      เรื่องเมืองคนยักษ์ ช่วงแรกชอบเพราะสนุกและตื่นตากับข้าวของขนาดใหญ่ยักษ์ ดินสอ โต๊ะ โทรศัพท์ กล่อง ครับ แต่ดูไปนานๆ
ก็ซ้ำๆ ไม่เหมือนโลกพิศวง Lost in Space ที่เป็นเหตุการณ์บนดาวอันไกลโพ้น เปิดโอกาสให้มีอาคันตุกะแปลก ใหม่จากต่างดาว
มาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสาย


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ต.ค. 07, 14:25
ทำไมดิฉันไม่คุ้นหูกับ Dr.Who   แปลกใจ  ::)เดี๋ยวจะไปค้นดูสักที
ตั้งใจว่ากระทู้นี้จะส่งท้ายด้วย "แดนสนธยา" Twilight Zone(1959)  หนังทีวีในดวงใจของผู้ดูจำนวนมหาศาลเกือบห้าทศวรรษ

เป็นหนังชุดที่พลิกผันการสร้างหนังชุดในทีวี ตั้งแต่ก่อนออกโรงด้วยซ้ำ    เพราะร็อด เซอร์ลิง ผู้เขียนบทและผู้สร้างเคยเขียนไว้ ๑ ตอนล่วงหน้าแล้ว   กลับถูกหมกใต้ลิ้นชักไปเฉยๆเพราะผู้บริหารไม่เข้าใจความแปลกแหวกแนว  เกรงว่าจะขายไม่ออก

๒ ปีเต็มถึงมีคนเห็นแววของแก้วดวงนี้  ไปปัดฝุ่นเอาโครงการขึ้นมา   พอออกอากาศก็เปรี้ยงใหญ่ราวกับพลุ    คนดูทั่วประเทศหลงใหลกับจินตนาการบรรเจิด ทั้งลึกลับ แปลกประหลาด เชิงวิทยาศาสตร์ เชิงไสยศาสตร์ เชิงปรัชญา เชิงสัญลักษณ์ และเชิงอะไรต่อมิอะไรอีกหลายตอนที่พิสูจน์ให้เห็นว่าจินตนาการของมนุษย์ไม่มีขอบเขตจำกัด ยิ่งกว่าขอบจักรวาลเสียอีก

นี่ค่ะ  รูปของร็อค เซอร์ลิง  ราชาแห่งแดนสนธยา ตัวจริง


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 ต.ค. 07, 15:50
เป็นเรื่องดังของช่อง๔ เชียวค่ะ ต้องนั่งหน้าจอรอตอนดึก ชอบก็ชอบ บางทีก็กลัว และคิดฉงนตามไปด้วย..
กลายเป็นที่มาของฉายาช่องนี้ ว่าเป็นแดนสนธยาหลังจากเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองภายในและภายนอกไม่หยุดที่มีต่อช่องนี้ และคงจะเป็นต่อไป เพราะ..นี่คือ
แ ด น
ส น ธ ย า 
.....


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: caeruleus ที่ 07 ต.ค. 07, 04:49
Dr Who เป็นละครโทรทัศน์ของประเทศอังกฤษค่ะ ผลิตโดยสถานีบีบีซี

เริ่มฉายครั้งแรกเมื่อปีค.ศ.1963 จนถึงปี 1996
ผู้แสดงเป็น ด็อกเตอร์ คนแรกคือ วิลเลี่ยม ฮาร์ทเนล

ตอนนี้บีบีซีก็เพิ่งนำเรื่องนี้มาปัดฝุ่นใหม่ โดยผู้แสดงนำในซีซั่นแรกคือ คริสโตเฟอร์ เอ็คเคิลสตัน (Christopher Eccleston)
ส่วนปีต่อๆมาเป็น เดวิด เทนเนนท์ (David Tennant)

ตอนนี้ซีซั่น์ 3 เพิ่งจะจบไป ดิฉันก็กำลังรอตอนต่อๆไปอย่างใจจดใจจ่อ

ออกนอกเรื่องมานานแล้ว ขอคืนเวทีให้ท่านผู้รู้เรื่องหนัง/ละครเก่าๆต่อดีกว่าค่ะ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 07 ต.ค. 07, 08:45
เพิ่งเคยเห็นครีเอทีฟของหนังชุดที่ผมไม่มีวันลืม...ขอบคุณอาจารย์เทาชมพูครับ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 07 ต.ค. 07, 10:03
          ขอกล่าวถึงเขาสักหน่อยครับ
          Doctor Who และคณะท่องกาลเวลาโดยยานรูปร่างตู้โทรศัพท์ เมื่อเริ่มตอนคณะจะเดินทางมาถึง
somewhere in time ที่ใหม่ พร้อมกับตัวเลขบอกเวลาที่ยานจะเคลื่อนออกจากกาลนั้น คนดูก็ต้องลุ้นตอนท้ายเรื่องให้สมาชิก
ในคณะที่ติดพันอยู่ในเหตุการณ์สักอย่างวิ่งหน้าตั้งกลับมาให้ทันเวลาเครื่องออก

         เห็น version ใหม่มีคนพูดถึงในเว็บต่างแดน น่าสนใจนะครับ season แรกมี คริส จากหนังอังกฤษที่ชอบอย่างเช่น Jude,
Elizabeth นำแสดงด้วย

         


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ต.ค. 07, 20:36
ยอมแพ้เรื่อง Dr.Who ค่ะ ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย  ไปค้นในเว็บต่างๆ เนื้อเรื่องน่าสนุกมาก  แต่ต้องส่งไม้ต่อให้คุณ Sila แทน
*******************
"แดนสนธยา" เป็นหนังชุดทีวีที่มหัศจรรย์ยากจะหาใครเทียบ   หนังทีวีเรื่องอื่นที่ทำคล้ายๆกันไม่เห็นไปรอด เช่น Outer Limits  แม้แต่ Night Gellery ที่ร็อคเขียนบทเองก็ยังสู้ไม่ได้ 
จนแล้วจนรอดก็ยังได้เป็นที่กล่าวขวัญถึง แม้ว่าร็อค เซอร์ลิงตายไปตั้งแต่ปี 1975 แล้วก็ตาม   หนังสือรวมเรื่องสั้นลึกลับชื่อ Twilight Zone ก็ยังพิมพ์ขายอยู่
ทึ่งการวางโครงเรื่องและการผูกเรื่อง    ทุกตอนไม่ซ้ำกัน   เป็นเรื่องของมนุษย์ที่เผชิญเหตุการณ์"ไม่ธรรมดา"ซึ่งเราจะเดาคำตอบไม่ได้เลยจนจบเรื่อง     การขมวดปมและคลี่คลายปมมีอยู่มากที่นึกไม่ถึงเอาจริงๆ  แต่ก็ไม่ใช่ว่านึกไม่ถึงเพราะคนเขียนจบแบบไม่มีเหตุมีผลนะคะ
ที่สำคัญคือบรรยากาศของเรื่อง แม้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ก็จูงใจคนอื่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ
หลายตอนเป็นปรัชญาชีวิตที่น่าใคร่ครวญทีเดียว  ง่ายๆนี่แหละ แต่เราไม่ค่อยคิดกัน

ตอนที่ได้ชื่อว่ามีเรตติ้ง(น่าจะ)สูงสุด   คือ The Eyes of the Beholder   นำแสดงโดยดอนน่า ดักลาส(หรือแอลลี่ เมย์จาก Beverly Hillbilles)  เป็นเรื่องคนไข้สาวที่กำลังรับการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนแปลงดวงหน้าน่าเกลียดน่ากลัวของเธอ ให้ธรรมดาเหมือนมนุษย์อื่นเขาบ้าง
ในเรื่องบอกว่าแพทย์เคยพยายามผ่าตัดเธอหลายครั้งแล้วแต่ไม่สำเร็จ   ถ้าคราวนี้หน้าเธอไม่ดีขึ้นอีก เธอก็จะต้องถูกเนรเทศจากสังคมไปอยู่รวมกับพวกน่าเกลียดแบบเดียวกัน ณ เมืองที่เรียกชื่อว่า Los Angeles

มุมกล้องในเรื่องนี้ทำดีมากค่ะ  เราจะเห็นเพียงคนไข้มีผ้าพันแผลพันหน้าอยู่  เห็นเงาของแพทย์พยาบาลที่มาล้อมอยู่รอบๆ เดินไปมา ซุบซิบพึมพำ  เหมือนกำลังเฝ้าดูอาการ
หญิงสาวร้องไห้คร่ำครวญ ในความอาภัพของตัวเอง  เฝ้าแต่วิงวอนให้การผ่าตัดครั้งนี้สำเร็จผลเสียที
ในที่สุดผ้าพันแผลก็ถูกคลี่ออกจากดวงหน้า    มีเสียงอุทานอย่างตื่นกลัวจากแพทย์พยาบาล เมื่อเห็นดวงหน้าคนไข้  เห็นอาการผงะหงายเบือนหน้าหนี
แสดงว่าการผ่าตัดไม่สำเร็จ   เธอต้องถูกเนรเทศออกจากสังคม

กล้องเปลี่ยนมุม จับที่ดวงหน้าคนไข้สาว  เห็นดวงหน้าสวยน่ารักของดอนน่า ดักลาส   แล้วเลื่อนไปจับที่ดวงหน้าแพทย์พยาบาล  ทุกหน้าบอกความตื่นกลัวขยะแขยง ที่เห็นหน้าดอนน่า   
หน้าของพวกนี้เป็นอย่างในรูปข้างล่างนี่ละค่ะ
ฉากจบ  มีชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าหน้าตาน่าเกลียดมารับคนไข้สาว เพื่อไปอยู่ด้วยกันในดินแดนของคนแบบพวกเขา
กล้องจับให้เห็นหนุ่มรูปหล่อที่สุดคนหนึ่ง (ดูเหมือนจะเป็นสจ๊วต แดมอน) เดินมารับเธอ  แล้วค่อยๆประคองอย่างทะนุถนอม ออกไปด้วยกัน

ชื่อตอนนี้คือ (Beauty is in ) the Eyes of the beholder  เป็นการตีความโจทย์ "ความงามอยู่ที่คนมอง"  ออกมาเป็นรูปธรรมได้ชัดเจน


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ต.ค. 07, 08:52
Twilight Zone ออกอากาศตอนแรกชื่อ Where Is Everybody? เป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่จู่ๆก็พบว่าเขาเดินอยู่ในเมืองๆหนึ่ง เพียงเดียวดาย   มองไปทางไหนก็ไม่มีผู้คนให้เห็นสักคน     เขาเองก็จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหน และมาทำอะไรในเมืองนี้
ในตอนแรกเขาเข้าใจว่าเกิดอะไรสักอย่างทำให้มนุษย์สูญไปหมดจากโลก เหลือเขาเป็นคนสุดท้าย   ต่อมาเขาก็เริ่มรู้สึกว่ามีใครหรือหลายคน แอบมองเขาจากมุมต่างๆในเมือง  แต่เขาก็ค้นพบคนเหล่านั้นไม่เจอจนแล้วจนรอด
บรรยากาศในตอนแรกนี้ ให้ความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย  หวาดกลัว สับสน และงุนงง หาที่มาที่ไปไม่ได้ 
ก่อนจะมาไขปริศนาในตอนจบ  ได้เยี่ยมยอดมากค่ะ
จะบอกก็สปอยล์เรื่องหมด  ทิ้งไว้แค่นี้   บอกได้แต่ว่าเรื่องนี้ร็อด เซอร์ลิงเล่นกับจิตวิทยาใต้สำนึกของมนุษย์

มีตอนเด็ดๆทำนองนี้อีกหลายตอน    ตอนหนึ่งเป็นเรื่องหญิงสาวที่เดินช็อปในห้างสรรพสินค้า  เธอกดปุ่มลิฟต์เลื่อนขึ้นไปเพื่อจะเดินช็อปชั้นบน  แล้วพบว่าลิฟต์เปิดเข้าไปในชั้นที่ไม่มีอยู่จริงในห้างนั้น คือชั้นที่ 13
เมื่อเดินเข้าไปแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่ทีแรก   ก็พบว่าเป็นชั้นที่วางสินค้าเหมือนชั้นอื่นๆตามธรรมดา   แต่ว่าไม่มีใครอยู่ในนั้นสักคน ไม่ว่าพนักงานขายหรือลูกค้า
มีแต่หุ่นโชว์เสื้อ
 :-X :-X :-X


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 ต.ค. 07, 09:19
อาจารย์เทาชมพูคะ จำตอนไอ้หุ่นโชว์เสื้อนี่ได้ติดตา แม่นยำ..อยู่ตอนเดียว เพราะหนังสวย เป็นขาวดำ แต่ถ่ายดีมาก น่ากลัวจริงๆ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 08 ต.ค. 07, 10:14
         พอจะจำตอนที่อาจารย์เล่าได้ ทั้งตอนแรก และตอนชั้นที่ ๑๓ ส่วนตอนความงามนั้นก็คุ้นๆ ครับ
ที่โดนใจมากอีกอย่างหนึ่งของชุดแดนสนธยาคือ ดนตรีไตเติ้ล ที่หลอนและวังเวง
           ชุด โลกพิสดาร Outer Limits ก็ชอบมากครับ อินโทรเปิดมาเป็น "ภาพล้ม" บนจอทีวี ภาพทดลองออกอากาศ
ก่อนเปิดสถานีที่คุ้นตาเป็นรูปวงกลมมีชายอินเดียนแดงอยู่ด้านบน เสียงบรรยายประมาณว่า เครื่องรับโทรทัศน์ของท่านไม่ได้ขัดข้อง
           ชุด Doctor Who จำได้แต่เพียงเหตุการณ์ตอนต้นและท้ายตอนซึ่งเหมือนๆ กัน ตัวละคร เรื่องราว บรรยากาศเลือนไปแล้วครับ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ต.ค. 07, 10:04
แดนสนธยา มีหลายตอนที่จับเหตุการณ์ธรรมดาที่จบแบบไม่คาดฝัน    ระทึกใจคนดู  ก่อความรู้สึกว่าอาจจะเจอเข้ากับตัวเองเมื่อไรก็ได้   ไม่เหมือนหนังผีอย่างแดรคคิวล่าที่คนดูมักรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัว
อีกตอนที่ตรงตามนี้  เป็นเรื่องผู้หญิงที่ขับรถทางไกลคนเดียว  เธอเห็นนักโบกรถคนหนึ่งระหว่างทาง ก็ขับเลยไปไม่รับเขา   แต่พอโค้งถนนข้างหน้าเขาก็มายืนโบกรถรออยู่อีกแล้ว
ไม่ว่าเธอเร่งความเร็วสักเท่าไหน  เขาก็จะมาปรากฏตัวรออยู่ข้างหน้าทุกครั้ง ให้เธอรับขึ้นรถไปด้วย...

ไม่รู้ตอนจบค่ะ   ใครนึกออกช่วยบอกหลังไมค์ด้วย

จะเริ่มกระทู้ใหม่ด้วยหนังชุดในอดีตทางทีวีอีกนะคะ  ประเดิมด้วย Lost in Space


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 12 ต.ค. 07, 12:22
อ่านเจอมา ขอขนมาช่วยงาน
หรือเพิ่มงานหว่า.....
Since this is TVGuide's 50th Anniversary, They decided to put out their own "Top 50 Greatest Shows Of All Time"!
Here's What They Came Up With!

1. Seinfeld
2. I Love Lucy
3. The Honeymooners
4. All in the Family
5. The Sopranos
6. 60 Minutes
7. The Late Show with David Letterman
8. The Simpsons
9. The Andy Griffith Show
10. Saturday Night Live
11. The Mary Tyler Moore Show
12. The Tonight Show Starring Johnny Carson
13. The Dick Van Dyke Show
14. Hill Street Blues
15. The Ed Sullivan Show
16. The Carol Burnett Show
17. Today Show
18. Cheers
19. thirtysomething
20. St. Elsewhere
21. Friends
22. ER
23. Nightline
24. Law & Order
25. M*A*S*H
26. The Twilight Zone
27. Sesame Street
28. The Cosby Show
29. Donahue
30. Your Show of Shows
31. The Defenders
32. American Family
33. Playhouse 90
34. Frasier
35. Roseanne
36. The Fugitive
37. The X-Files
38. The Larry Sanders Show
39. The Rockford Files
40. Gunsmoke
41. Buffy the Vampire Slayer
42. Rowan & Martin's Laugh-In
43. Bonanza
44. The Bob Newhart Show
45. Twin Peaks
46. Star Trek: The Next Generation
47. Rocky and His Friends
48. Taxi
49. The Oprah Winfrey Show
50. Bewitched
Credits: TV Guide (Top 50 List), IMDB (Synopsis of Shows)


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 12 ต.ค. 07, 13:35

      เตรียมตามไป lost in space and time ต่อที่กระทู้ใหม่ ครับ     


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ต.ค. 07, 16:37
เชิญไปต่อที่กระทู้นี้ค่ะ
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=2423.msg45172#msg45172

อ้างถึง
อ่านเจอมา ขอขนมาช่วยงาน
หรือเพิ่มงานหว่า.....
"Top 50 Greatest Shows Of All Time"!


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 29 เม.ย. 08, 16:32
           ย้อนกลับมาอ่านกระทู้นี้อีกครั้งแล้ว พบว่ามีข้อความที่เห็นควรนำมาต่อเติมไว้ใน
กระทู้นี้ครับ เกี่ยวกับ อ.จำนงและลูกทุ่ง

          จากบทความเรื่องประวัติเพลงลูกทุ่งที่ปรากฏในเว็บต่างๆ กล่าวไว้ว่า

          คำว่า "เพลงลูกทุ่ง" อาจารย์จำนง รังสิกุล คิดประดิษฐ์ขึ้นใช้เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2507
เพลงลูกทุ่งมีความชัดเจนจากเพลงลูกกรุงโดยประกอบ ไชยพิพัฒน์ จัดรายการเพลงทางสถานีไทยโทรทัศน์
ใช้ชื่อรายการว่า "เพลงลูกทุ่ง"

        ส่วนข้อความจาก หนังสือ กึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทยภาค ๒ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ
เล่าโดยคุณประกอบ ไชยพิพัฒณ์ แห่งช่องสี่ บางขุนพรหม เรียบเรียงความว่า -

          วงดนตรีที่มีชื่อเสียงตามชนบท นักร้องได้แก่ สุรพล สมบัติเจริญ พยงค์ มุกดา ฯ เพลงประเภทนี้ชาวบ้านนิยมฟัง
เรียกกันโดยทั่วๆไปว่า “เพลงตลาด”
          ในสมัยรัฐบาล จอมพล ป.พิบูลสงคราม ห้ามเพลงประเภทนี้เปิดออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียงโดยทั่วไป
เพราะเนื้อความเป็นไปในทำนองต่อต้านรัฐบาล
         สมัย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ ข้อห้ามต่างๆ คลี่คลายลง พฤษภาคม ๒๕๐๗ ไทยทีวีช่อง ๔ โดยความคิดของ ท้วม ทรนง
ได้เสนอคุณ จำนง รังสิกุล (หัวหน้าฝ่ายจัดรายการ) คุณจำนง ได้กำชับให้คุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ เป็นผู้ควบคุมทำดู
โดยตั้งชื่อรายการให้ด้วยว่า “เพลงชาวบ้าน” นักร้องคือ พร ภิรมย์, ผ่องศรี วรนุช, ทูล ทองใจ
         รายการวันนั้นสถานีถูกตำหนิจากผู้ชมมากมาย บ้างก็ตั้งข้อรังเกียจจนคุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ต้องลาของดจัด

        เหตุการณ์ผ่านมาจนถึงเดือนธันวาคม ๒๕๐๗ เป็นเดือนที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ สิ้น ผมได้นำนโยบายนี้
เสนอฝ่ายจัดรายการใหม่ คุณจำนงเองก็กลัวจะไปไม่รอด ผมก็ขอต่อสู้ให้ได้รับความนิยมให้ได้ จึงเริ่มให้ผมได้มีโอกาส
จัดรายการประเภทนี้ขึ้นมาใหม่ในเดือนต่อไป โดยตั้งชื่อรายการให้ใหม่อย่างเก๋ไก๋ว่า “เพลงลูกทุ่ง”
        พอออกนัดแรก ผู้ชมเล่นงานผมเสียแย่  ผมได้พยายามสู้ต่อไป จนย่างเข้าเดือนที่ ๖ ประชาชนเริ่มยอมรับ
คนชักกล่าวขวัญถึงรายการนี้ ความนิยมนี้แทรกซึมไปตามวงดนตรีต่างๆ เริ่มเรียกวงของตนเองว่าวงดนตรีลูกทุ่ง และ
นักร้องนิยมเรียกตัวเองว่าเขาคือ นักร้องเพลงลูกทุ่งได้อย่างเต็มปาก
         ระยะนั้นมีหนังฝรั่งเข้ามาเรื่องหนึ่ง ฉายที่คิงส์ชื่อภาษาอังกฤษว่า Your Cheating Heart
ยังต้องตั้งชื่อหนังเป็นภาคภาษาไทยตามรายการนี้ว่า “เพลงลูกทุ่ง”
         ความจริงคำว่าเพลงลูกทุ่งนี้ต้องการจะตั้งให้เป็นชื่อของรายการทางทีวีมากกว่า แต่จะเป็นด้วยเหตุบังเอิญ
หรือไม่ก็ไม่ทราบที่ทั้งนักร้องและนักดนตรีได้นำไปเรียกเป็นชื่อของตัวเองเสียอย่างเหมาะสมเช่นนี้
ความหมายของคำว่า “เพลงลูกทุ่ง” จึงฝังใจผู้ชมมาจนบัดนี้

         คำว่า “เพลงลูกทุ่ง” จึงฮิตแต่นั้นมา สิ้นปีนั้นคณะกรรมการจัดงานแผ่นเสียงทองคำต้องจัดประเภท ค.ให้เพลงลูกทุ่งด้วย
         เราก็ให้คำว่า “เพลงลูกทุ่ง” มาเป็นสมบัติของประชาชนได้ ๑ คำแล้ว ส่วนคำ “ลูกกรุง” อะไรเทือกนั้น
ผมว่าเป็นความพิเรนทร์ของคนที่นำมาเปรียบเทียบมากกว่า
          แม้คำว่า “เพลงลูกทุ่ง” จะเป็นคำมงคลที่ดีแล้วก็ตาม ผู้ที่รับมรดกต่อไปก็น่าจะช่วยกันรักษาไว้ให้อยู่ในความนิยมเสมอ
.. ผมเองผู้ได้รับคำนี้มาจากคุณจำนง รังสิกุล ให้มาตั้งเป็นชื่อของรายการ ได้พยายามรักษาต่อสู้ทุกวิถีทางให้คำนี้คงอยู่ใน
ความนิยมเสมอ 

      * ตอนเด็กๆ ได้เคยชมรายการชื่อ ลูกทุ่งกรุงไทย ทางช่องสี่ ครับ มีนักแสดงของช่องนำเพลงลูกทุ่งมาร้องหลายท่าน
ได้แก่ คุณศิริพร นฤพนธ์ รอง และคุณประกอบผู้จัด เป็นต้น


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 29 เม.ย. 08, 16:45
รบกวนคุณ SILA กรุณาเล่าเรื่องเกี่ยวกับอาจารย์จำนง รังสิกุล และสานุศิษย์ของท่าน
ผู้สถาปนาบันเทิงไทยชนิดไม่ไร้สาระไว้ประดับความรู้ด้วยเถิดครับ

ผมดูทีวีไทยมาร่วม 50 ปี ก็ยังไม่เห็นว่าจะมีใครก้าวข้ามสิ่งที่ท่านทำ
(้อ้อ...อาจจะยกเว้น อาจารย์สมเกียรติ อ่อนวิมล ที่มาปฎิรูปรายการข่าวเมื่อสามสิบปีก่อน)

ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงนะครับ


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 29 เม.ย. 08, 17:10
         ตอบโดยไม่ต้องคิดเลยว่า มิอาจ ไม่สามารถ ครับ
เพราะเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องยาว ย้อนยุค ไม่มีข้อมูลคือหนังสืออยู่กับตัวเลย เช่น จากเหมืองแร่สู่เหมืองรูป ของคุณอาจินต์,
โลกมายาของอารีย์ โดยคุณอารีย์  นิตยสารไทยโทรทัศน์(คุณอาจินต์เป็นบก.)ที่เคยซื้อไว้ ก็ไม่มีเหลือแล้ว
ทุกวันนี้จึงได้แต่ตามอ่านจากเว็บต่างๆ ที่มีบทความ หรือบทคุยของผู้รู้แสดงไว้ ครับ 


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 29 เม.ย. 08, 21:23
อ้าว....เสียดายจริงครับ

ถ้างั้น โอนให้คุณกุ้งแห้งละกัน


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 30 เม.ย. 08, 09:25
      มีบทความสั้นๆ มาฝากครับ

       คุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ เขียนบทความสั้นๆ ลงหนังสือพิมพ์รำลึกถึงความหลัง หนึ่งในบุคคลที่คุณอาเขียน-กล่าวถึง
ในฐานะผู้มีพระคุณอยู่เสมอคือ อ.จำนง รังสิกุล

       * บทความบางส่วนของคุณอา จาก จุดประกายวรรณกรรม กรุงเทพธุรกิจ *

                  เมื่อผมเป็นบก.นิตยสาร "ฟ้าเมืองไทย" ตั้งแต่ พ.ศ.2512 ได้นาน 3 ปี ผมมีเกียรติสูงสุดในชีวิตการป็นบก.
ที่คุณจำนง รังสิกุลหัวหน้าฝ่ายจัดรายการไทยทีวีช่อง 4 ส่งสารคดีเรื่อง "รำวง" มาให้ผมตีพิมพ์ในฉบับวางตลาดวันที่ 27 เมษายน 2515

               คุณจำนง รังสิกุล ท่านนี้ เป็นสุภาพบุรุษที่ผมเคารพสูงสุด เพราะท่านเป็นผู้ที่รับผมเข้าทำงาน
ในฝ่ายจัดรายการทีวี ช่อง 4 เมื่อ พ.ศ. 2498 (สองพันสี่ร้อยเก้าสิบแปด) ท่านให้เงินเดือนผมเดือนละ 800 บาท
ทำให้ผมซึ่งกำลังเป็นนักเขียนไส้แห้ง ไม่อดตาย ท่านให้ผมทำหน้าที่ผู้เขียนสคริปต์ทีวี ประจำสถานี ไทยทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม พระนคร

                 แล้วในพ.ศ. 2500 ท่านได้สั่งให้ผมเป็นบรรณาธิการนิตยสาร "ไทยโทรทัศน์" รายเดือน
โดยท่านจ่ายเบี้ยเลี้ยงในการทำงานบรรณาธิการให้ผมเดือนละ 600 บาท
                 การเริ่มฝึกเป็นบรรณาธิการในครั้งนั้นทำให้ผมได้รู้จักนักเขียนหนุ่มๆ และนักเขียนสารคดีอาวุโสอีกหลายท่าน
ในเมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้นจากหน้าที่ผู้เขียนสคริปต์ทีวีประจำสถานี (station TV script writer)
              คุณจำนง รังสิกุล จึงเป็นผู้จุดประกาย "บรรณาธิการ" ให้แก่ผม - อาจินต์ ปัญจพรรค์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2500
              ท่านเลี้ยงผมไว้ในฝ่ายจัดรายการช่อง 4 นานถึง 14 ปี (จากพ.ศ. 2498 ถึง พ.ศ. 2512)....


กระทู้: เปิดกรุดาราคลาสสิกของฮอลลีวู้ด(๙)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 30 เม.ย. 08, 09:38
อีกบทความสั้นๆ จากจุดประกายวรรณกรรม เช่นกันครับ

         ผมกด-เก็บภาพ คุณจำนง รังสิกุล ผู้มีพระคุณแก่ชีวิตของผมไว้ เมื่อวันพระราชทานเพลิงศพของท่าน
ที่วัดโสมนัส หลายปีมาแล้ว

          จะกี่เดือนกี่ปีกี่ยุคกี่สมัย ผมก็ไม่มีวันลืมพระเดชพระคุณของท่านที่ชุบเลี้ยงผมตั้งแต่ผมอายุ 27 ปี
คือตั้งแต่ พ.ศ.2497 โดยรับผมเข้าทำงานในบริษัท ไทยโทรทัศน์ ไทยทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม พระนคร
จนกระทั่งผมอายุ 42 (พ.ศ.2512)

          คุณจำนง รังสิกุล คือเจ้านายที่ผมเคารพในความสามารถของท่าน และกตัญญูในพระคุณของท่าน
ที่ทำให้ผมได้มาเดินอยู่บนถนนนักเขียนอาชีพและการเขียนบทโทรทัศน์
 
            14 ปี อันทำให้ผมได้มีวิชาชีพการประพันธ์เลี้ยงชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ พ.ศ.2549
โดยท่านเมตตารับผมซึ่งตกงานมาจากเหมืองแร่ปักษ์ใต้ เข้าทำงานทีวีซึ่งท่านเป็นหัวหน้าฝ่ายจัดรายการ
            ท่านเมตตารับไว้ให้ผมทำหน้าที่เป็นผู้เขียนบทโทรทัศน์ ประจำสถานีไทยทีวี ช่อง 4 บางขุนพรหม พระนคร
ซึ่งเปิดการแพร่ภาพเมื่อ 24 มิถุนายน 2498
          จนถึง 2512 ซึ่งท่านออกจากหน้าที่ 'หัวหน้าฝ่ายจัดรายการ' มาประจำตำแหน่งเดิมของท่าน
ในกรมประชาสัมพันธ์ คือ ผู้อำนวยการกองวิทยุกระจายเสียงต่างประเทศ อันเป็นตำแหน่งสำคัญอย่างยิ่งในกรมประชาสัมพันธ์
จนเกษียณอายุราชการ แล้วธนาคารกรุงเทพเชิญท่านไปนั่งเก้าอี้ที่ปรึกษาการประชาสัมพันธ์ของธนาคารกรุงเทพ
ซึ่งท่านจัดรายการทีวี ที่ดีมีคุณค่า ทำเกียรติยศให้แก่ธนาคารกรุงเทพมากมายและยาวนาน จนท่านสิ้นบุญ หลายปีมาแล้ว

             ตัวท่านจบมัธยมปลายจากโรงเรียนอัสสัมชัญ โดยสอบได้คะแนนภาษาอังกฤษเต็ม 100%
(ผมได้มีวาสนาเห็นประกาศนียบัตรของท่าน)

           ท่านสำเร็จปริญญาตรีธรรมศาสตร์บัณฑิตรุ่น 2478 เคยรับราชการกระทรวงมหาดไทย โดยเป็นนายอำเภอเมืองภูเก็ต
แล้วมาเป็นผู้อำนวยการกองการข่าวต่างประเทศ กรมประชาสัมพันธ์ แล้วได้รับอนุมัติให้ไปเป็นเจ้าหน้าที่ประกาศและ
จัดรายการแผนกภาษาไทยของวิทยุบีบีซี ที่กรุงลอนดอน 3 ปี และรัฐบาลอนุมัติให้เป็นหัวหน้าฝ่ายจัดรายการโทรทัศน์
ของบริษัทไทยโทรทัศน์ ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งท่านบริหารงานด้วยสมรรถภาพที่เลิศล้ำเป็นที่เลื่องลือไปในวงการสื่อสารมวลชน
ของชาติไทย และท่านได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งให้เป็นอาจารย์สอนวิชาการจัดรายการโทรทัศน์ มีลูกศิษย์ลูกหามากมายหลายรุ่น

             ผมขอลงท้ายว่า ท่านเป็นผู้มีพระคุณยิ่งยวดแก่ชีวิตของผม - อาจินต์ ปัญจพรรค์
ผมภูมิใจที่สุดที่ได้กดชัตเตอร์-เก็บภาพนี้ของท่านไว้บูชาและเผยแผ่

(ในเว็บมีแต่บทความ ไม่มีภาพประกอบครับ)