มาตามเทียบชวนครับ
ว่าด้วยผลงานชุดเชอร์ล็อค โฮล์มส์ที่คนอื่นๆเขียน หรือที่เรียกกันว่า "จำลักษณ์เชอร์ล็อค โฮล์มส์" (pastiche) นั้น อันที่จริงแล้วก็มีผลงานที่สร้างความสับสนเกรียวกราวในวงการหนังสืออยู่บ้างเหมือนกัน มีเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งชื่อว่า "The Man who was Wanted" ได้รับการค้นพบในเอกสารต้นฉบับของโคนัน ดอยล์ภายหลังจากเขาเสียชีวิต ในเวลานั้นทุกคนต่างลงความเห็นกันว่านี่แหละคือผลงานที่ตกค้างอยู่ของดอยล์ ลูกชายของดอยล์เองได้อ่านแล้วก็มั่นใจเหมือนกันว่าพ่อเขียนแน่นอน และสุดท้ายเรื่องสั้นเรื่องนี้ก็ได้รับการตีพิมพ์พร้อมกับคำจั่วหัวว่า "ค้นพบใหม่" ไปๆมาๆปรากฎว่าเรื่องโอละพ่อ คนเขียนตัวจริงนามว่าอาร์เธ่อร์ วิเทเค่อร์ออกมาบอกว่าไม่ใช่ นั่นคือผลงานของเขา เรื่องนี้ถึงกับมีการฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล สุดท้ายวิเทเค่อร์เป็นฝ่ายชนะ
ความจริงก็คือโคนัน ดอยล์เป็นคนซื้อต้นฉบับนี้ไว้จากวิเทเค่อร์ในราคาสิบกินี ซึ่งเข้าใจว่าคงจะเอาไปตีพิมพ์ในชื่อของตัวเองในภายหลัง นอกจากนี้ดอยล์ยังเคยยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เขาก็เคยทำอย่างนี้มาแล้วในราคาที่เท่ากัน แต่ไม่เปิดเผยว่ามันคือเรื่องอะไร ที่แน่ๆคือ อย่างน้อยก็มีจำลักษณ์เชอร์ล็อค โฮล์มส์เรื่องหนึ่ง คือ "The Man who was Wanted" แล้ว ที่มีคุณภาพใกล้เคียงงานแม่แบบ หรือที่ในภาษาของชาวเชอร์ล็อคเรียกว่าบุพคัมภีร์ (canon) ของดอยล์ จนสร้างความสับสนในวงการหนังสือของฝรั่งได้
จะว่าไปจำลักษณ์เชอร์ล็อค โฮล์มส์ก็สนุกดีนะครับ เท่าที่เคยอ่านและเคยทำมาหลายเล่ม ก็มีหลายเรื่องที่จัดอยู่ในประเภท "ของดี" ที่ "ฅอ" ไม่ควรพลาด อย่างนวนิยายเรื่อง
The Seven Percent Solution ของนิโคล้าส มายเอ้อร์ ก็ได้รับการยอมรับ ยกให้อยู่ในทำเนียบ 100 อันดับดีเด่นตลอดกาลของสมาคมนักเขียนรหัสคดีแห่งอเมริกา (MWA)
ส่วนเรื่องที่ดอยล์เขียนโฮล์มส์ไม่เลิกนั้น ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเหตุผลทั้งหมดคือเรื่องอัฐเรื่องสตางค์แ้ท้ๆ เพราะจุดเริ่มต้นของการเขียนโฮล์มส์นั้นก็มาจากเรื่องเงินก่อน ดอยล์ได้ดิบได้ดีในอาชีพนี้และมีคนจำชื่อเขาไ้ด้ก็มาจากนิยายชุดนี้ ในขณะที่นิยายแนวพงศาวดารที่ดอยล์รักกลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร รู้สึกว่าแกก็บ่นกระปอดกระแปดของแกมาทั้งชีวิตว่าเบื่อแล้ว ไม่เอาแล้ว แต่ลองดูเส้นเวลาของแกจะเห็นว่าแกก็หากินกับยอดนักสืบของแกเรื่อยมา