กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ต.ค. 13, 16:26 คำว่า เบิกพระเนตร มีความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ว่า
“เปิดตา, เป็นคำใช้สำหรับพิธีฝังหรือเขียนพระเนตรพระพุทธรูป ซึ่งถือว่าเมื่อได้เบิกพระเนตรแล้วจึงเป็นองค์พระโดยสมบูรณ์" ทำไมถึงต้องเบิกพระเนตร จึงจะเป็นองค์พระโดยสมบูรณ์ สร้างเสร็จเรียบร้อยทั้งองค์แล้ว ไม่นับว่าสมบูรณ์หรือ? กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 31 ต.ค. 13, 16:33 เด็กดีมาขานชื่อก่อนเลยครับ :-*
กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ต.ค. 13, 18:19 การเบิกพระเนตร ทำกันมาตั้งแต่สมัยไหนยังไม่พบหลักฐาน แต่ศ.ยอร์ช เซเดส์ ผู้เชี่ยวชาญทางโบราณคดี เคยเล่าเรื่อง "เบิกพระเนตร" ที่ท่านเคยเห็นมาจากชวา ว่า
" ทางขวาบาหลีมีการสร้างเทวรูปสนองพระองค์ผู้วายชนม์ เพื่อเชิญพระวิญญาณให้เข้าไปสิงอยู่ สำหรับอนุชนจะได้เซ่นสรวงต่อไป...และเมื่อวายชนม์แล้วทายาทก็ต้องปลุกให้กลับมีชีวิตขึ้นอีก ด้วยวิธีเบิกพระเนตรเทวรูปสนองพระองค์ (หรือศิวลึงค์)" ส.พลายน้อย นำคำบอกเล่าของศ.เซเดส์ มาอธิบายเพิ่มเติมว่า " รูปปฏิมาจะเป็นที่นับถือบูชาไม่ได้ นอกจากจะเป็นรูปที่มีชีวิตโดยเทวดาเข้าไปสิงอยู่ ดังนั้นจะเห็นว่า หลังจากที่ได้เชิญเทวดาเข้าไปสิงแล้ว รูปปฏิมานั้นก็จะมี "ชีวิต" ขึ้น นั่นคือเขาจะเบิกพระเนตรรูปปฏิมานั้น การที่รูปนั้นถูกเบิกพระเนตรก็เท่ากับว่ารูปนั้นมีชีวิตขึ้นเอง คือลืมตาได้ นี่เห็นจะเป็นจุดประสงค์และความเข้าใจของเจ้าตำรับการเบิกพระเนตร อย่างไม่เป็นปัญหา" กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ย. 13, 13:12 เรื่องเบิกพระเนตรพระพุทธรูป อาจารย์เกษม บุญศรี เขียนไว้ในสารานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่ม ๑๗ ว่า
" เมื่อปั้นหรือหล่อพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นพระประธานในสถานที่นั้น ๆ เช่น ในถ้ำ ในโบสถ์ ก่อนที่จะก่อองค์พระ ท่านตั้งพิธีสวดพุทธาภิเษก หิน อิฐ กรวด ทรายที่จะก่อก่อน แล้วจึงจะลงมือสร้าง ส่วนที่หล่อ ก็ต้องตั้งพิธีสวดพุทธาภิเษก ในเวลาสุมทองและต้องลงอักขระพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณในแผ่นโลหะ เป็นแผ่นทองคำ เงิน นาก ทองเหลือง ทองแดง หรืออย่างอื่นตามต้องการ แล้วเอาลงสุมในเบ้าตามที่มี เมื่อปั้นหรือหล่อแต่งเสร็จแล้ว เมื่อจะนำไปประดิษฐานตามที่ซึ่งกำหนดไว้ แล้วตั้งพิธีเบิกพระเนตรก่อน แต่จะประกอบพิธีให้บูชาพระ อาราธนาศีล สมาทานศีล แล้วอาราธนาพระเถระรูปใดรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนมาเป็นผู้ประกอบพิธีนั้น ท่านจะบริกรรมคาถาบทที่ ๑ ว่า “พุทฺโธ โลกํ วิทู กรณํ อรหํ พุทโธ พุทธสส โลกวิทู” ต่อจากนั้นบริกรรมคาถาบทที่ ๒ และบทที่ ๓ ต่อไป ก็เป็นเสร็จการเบิกพระเนตร " ต่อจากนี้เป็นพิธีฉลองซึ่งทำพร้อมกันติดต่อกันไป คือต้องตั้งเครื่องสังเวยเทวดาอารักษ์ที่จะเชิญให้มาคุ้มครองพระพุทธรูปองค์นั้น พระเถระผู้เป็นประธานจะทำพิธีเจิมองค์พระ โดยปรกติเจิมที่ผ้าทิพย์ ๓ จุด เมื่อพิธีเจิมแล้ว ต่อนี้อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์สวดพระปริตร ฟังพระปริตรจบ แล้วถวายอาหารบิณฑบาต ถวายสักการะ จตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา เจ้าภาพกรวดน้ำ ฟังพระอนุโมทนา จบแล้วส่งพระ เป็นเสร็จพิธีฉลองพระ กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ย. 13, 13:18 หลวงปู่สุภา กันตสีโล ทำพิธีเบิกพระเนตร
กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ย. 13, 13:34 ในการเบิกพระเนตร แต่เดิม ช่างฝังพระเนตรด้วยรัตนชาติอันมีค่า เช่น นิล แทนตาดำ มุกแทน ตาขาว ต่อมาเขียนด้วยสีดำ สีขาว ทั้งหมดนี้ ช่างต้องฝังหรือเขียนเสร็จก่อนทำพิธีเบิกพระเนตร
กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: ธาราสินธุ์ ที่ 02 พ.ย. 13, 15:11 ขออนุญาตเพิ่มเติมค่ะ
ดูเหมือนว่า การเบิกเนตร จะมีในพุทธมหายานเช่นกันด้วยใช่ไหมคะ ? ที่จะทำการเบิตเนตร เทวรูปองค์สำคัญ หรือ กระทั่ง ตุ๊กตาสิงโตหน้าวัด คลับคล้ายคลับคลาว่า จะเคยอ่านเจอในบทความของ Lilian TOO กูรูฮวงจุ้ยว่า นักพรตเคร่ง ๆ สมัยก่อน จะใช้เลือดแต้มตรงดวงตาของสิงโต หรือ หมาฝู หน้าวัด เพื่อปลุกให้รูปปั้นนั้นมีชีวิตขึ้นมาค่ะ อันนี้ ไม่ทราบว่าเกี่ยวกันรึเปล่านะคะ แต่กูรูฮวงจุ้ยอีกท่าน เคยบอกไว้ว่า อวัยวะในร่างกายคนเราที่เป็น หยาง มากที่สุด คือ ดวงตา กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 02 พ.ย. 13, 15:18 การเบิกเนตร ในสมัยรัชกาลที่ ๕ มีการเบิกเนตรพระพุทธรูป และ เทวรูป ด้วยครับ
กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 พ.ย. 13, 18:00 สมัยนี้ก็ยังมีการเบิกพระเนตรเทวรูปอยู่เช่นเดิมค่ะ
กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 พ.ย. 13, 19:52 ทางฝ่ายญี่ปุ่น ที่คล้ายคลึงกันเห็นจะเป็นการเขียนสีดำที่ตาของตุ๊กตาไม้ "ดะรุมะ" だるま daruma แต่จุดประสงค์คงแตกต่างกัน การขอพรกับตุ๊กตาดะรุมะ ทำได้โดยใช้หมึกสีเขียนตาดำข้างหนึ่งของตุ๊กตาและทำการขอพร และจะเก็บตุ๊กตาไว้บนหิ้ง และเมื่อพรให้ผลจะเติมตาอีกข้างให้สมบูรณ์
ดะรุมะ (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%94%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%B0) เป็นตุ๊กตาไม้ของญี่ปุ่น มีลักษณะกลมไม่มีแขนและขา และเชื่อว่าใบหน้ามีที่มาจากลักษณะหน้าตาของ พระโพธิธรรม (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1) (ซึ่งชื่อว่า ดะรุมะ ในภาษาญี่ปุ่น) หรือที่ชาวกำลังภายในรู้จักกันในนาม "อาจารย์ตั๊กม้อ" (http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png) กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 พ.ย. 13, 19:53 ทางฝ่ายญี่ปุ่น ที่คล้ายคลึงกันเห็นจะเป็นการเขียนสีดำที่ตาของตุ๊กตาไม้ "ดะรุมะ" だるま daruma แต่จุดประสงค์คงแตกต่างกัน การขอพรกับตุ๊กตาดะรุมะ ทำได้โดยใช้หมึกสีเขียนตาดำข้างหนึ่งของตุ๊กตาและทำการขอพร และจะเก็บตุ๊กตาไว้บนหิ้ง และเมื่อพรให้ผลจะเติมตาอีกข้างให้สมบูรณ์ ยังไม่ได้ขอพร ขอพรแล้ว สมหวังตามพรแล้ว กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 พ.ย. 13, 20:07 ออกจากญี่ปุ่นไปดูที่จีนกันบ้างนะคะ
ส.พลายน้อยอธิบายว่า " ลัทธิเบิกพระเนตรอย่างพระพุทธรูป เรียกว่า "ไคกวง" แปลว่า "ไขแสงสว่าง" และมีพิธีเซ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ถือว่าจะเข้าไปสิงสถิตอยู่ในรูปที่สร้างนั้นด้วย บางทีเอางูหรือสัตว์เลื้อยคลานที่เป็นๆ บรรจุไว้ในรูป คือทำช่องไว้ในเบื้องหลัง เมื่อบรรจุสัตว์ลงไปแล้วก็อุดรูเสีย บางทีฆ่าไก่ตัวผู้เอาเลือดทาอกรูป ชนิดเนื่องด้วยชีวิตสัตว์นี้มักจะทำเฉพาะรูปจ้าว หรือเทพารักษ์ในลัทธิเต๋า แต่พระพุทธรูปหรือพระโพธิสัตว์ไม่ทำเช่นนั้น" ในประเทศไทย มีการทำไคกวงพระโพธิสัตว์ด้วยค่ะ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.423403957711038.107431.340228922695209&type=3 กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 พ.ย. 13, 20:08 ไคกวงเทพเจ้ากวนอู
กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 พ.ย. 13, 10:17 ตำราเก่าบอกเล่าถึงพิธีเบิกพระเนตร ตามนี้ค่ะ
๑ ใช้ดินสอดำหรือเหล็กจารเบิกพระเนตรก็ได้ ๒ ถ้าเบิกก่อนเพล เบิกได้หลายองค์พร้อมกัน ๓ ถ้าเบิกนอกเพล ให้เรียกค่าน้ำมนต์เรียงองค์ ๔ ถ้าตั้งบัลลังก์พระประธาน ฐานที่นั่งพระพุทธรูป หรือเบิกพระเนตรพระใหญ่ คาถาทำน้ำมนต์และคาถาเบิกพระเนตรเป็นอย่างเดียวกัน แต่เครื่องสักการบูชาต่างกัน ๕ เครื่องบูชาประกอบด้วยบายศรีซ้ายขวา หัวหมู ๑ ขนมสำรับ ๑ ผ้าขาว ๑ ผืน ขันล้างหน้าลูกหนึ่ง ๖ เอาข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียนบูชาพระก่อน เงินขวัญข้าวอีก ๖ บาท เมื่อเบิกพระเนตรข้างขวา ให้ท่องมนต์ว่า พุทธังเนตตัง สะระนัง คัจฉามิ (ว่าพุทธัง ๓ หน) เมื่อเบิกพระเนตรข้างซ้าย ให้ท่องมนต์ว่า ทักขิเนตตัง สะระนัง คัจฉามิ( ว่าทักขิ ๓ หน) จากนั้นท่องคาถาพระเจ้าเปิดโลก ว่า สหัสสเนตโต เทวิญโท ทิพจักขุง วิโสทายิ แล้วเอาน้ำมนต์ประพรมตามตัว แล้วท่องมนต์ว่า พุทธังคุ้ม ธัมมังกัน พระสังฆังรักษา คุ้มเสนียดจัญไรแก่เราแล จบ กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: ตูมตั้งบังใบ ที่ 10 พ.ย. 13, 16:33 ผมกลับคิดในทางกลับกันครับ ผมคิดว่าเราไม่มีความจำเป็นต้องเบิกเนตรพระพุทธรูปหรอกครับ พระพุทธรูปก็เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า ท่านก็เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น จากกิเลสทั้งปวงแล้ว เราเองต่างหากที่ยังมืดมนไปทุกสิ่ง แต่ทำไมถึงมีความคิดไปเบิกเนตรท่านให้ตื่น ในเมื่อท่านตื่นอย่างบริบูรณ์แล้ว ผมจำไม่ได้ว่าเป็นคำพูดของพระรูปใด ท่านกล่าว พระต่อให้สร้างจากวัสดุไม่มีค่าอะไร กราบไหว้บูชาทุกวัน เทวดาท่านก็ลงมารักษาเอง ต่อให้สร้างจากทองคำ แต่ไม่เคารพกราบไหว้บูชา เทวดาก็ไม่มาสนใจ...ไม่ได้ขวางกระทู้นพครับ แต่เห็นพิธีกรรมหลายอย่างในปัจจุบัน ดูแล้วก็กระพี้ทั้งนั้น
กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 พ.ย. 13, 18:06 พระที่ควรพกคือ พยายาม
พระที่ควรห้ามคือ พยาบาท พระที่ไม่ควรปรามาสคือ พระรัตนตรัย พระที่ควรอยู่ในใจคือ พระคุณคน คำของ พระมหาสมปอง ตาลปุตโต (http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png) กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 พ.ย. 13, 18:26 เบิกพระเนตร เป็นธรรมเนียมความเชื่อ ซึ่งก่อให้เกิดพิธีกรรมอย่างหนึ่งขึ้นมาเท่านั้นละค่ะ
คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ ไม่มีใครห้าม จะทำหรือไม่ทำก็ได้เช่นกัน กระทู้: เบิกพระเนตร เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 ก.ย. 14, 09:50 จดหมายเหตุหมอสมิธ เขียนโฆษณาไว้ว่า มีห้างฟากไบเดก ถนนเฟื่องนคร มีจำหน่ายพระแก้ว เนตร เกศ ยังไม่ได้เบิก
แสดงว่ามีการ "เบิกเกศ" ด้วยสิเนี่ย |