เรือนไทย

General Category => หน้าต่างโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: น้ำใส ที่ 28 ส.ค. 06, 15:24



กระทู้: ..คติลาว - คติไทย..
เริ่มกระทู้โดย: น้ำใส ที่ 28 ส.ค. 06, 15:24
 วันนี้ได้ข้ามฝั่งโขงไปเยือนเพื่อนบ้าน พบสิ่งน่าสนใจ เลยนำมาฝากอ่ะครับ
อันนี้อยู่ในคอลัมน์หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของ ประเทศลาว ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุด มีภาษาและวัฒนธรรมเกือบจะแยกกันไม่ออก บางที่ท่านอาจจะอ่านเองได้โดยไม่ต้องแปลเลยครับ  .
.


กระทู้: ..คติลาว - คติไทย..
เริ่มกระทู้โดย: น้ำใส ที่ 28 ส.ค. 06, 15:26
 คำแปลเป็นไทยครับ แต่ยังคงรักษาสำนวนลาวไว้ให้มากที่สุด ผิดพลาดประการใดขออภัยท่านผู้รู้ไว้ล่วงหน้านะครับ  

****************************************************
อยู่สูงให้นอนคว่ำ  อยู่ต่ำให้นอนหงาย
                               •      นาหนอง

มีสติระวังตัว      

  *  สุภาษิตดังกล่าวแม่นคำสั่งสอนที่ปู่ย่าตายายของลาวเฮาปะไว้(-บันทึกไว้)ให้คนรุ่นหลังได้นำไปค้นคว้าเป็นคติประจำใจสืบต่อกันไปโดยมีเนื้อในสั่งสอนทุกคนที่ฮั่งมีหรือมียศถาบันดาศักดิ์ที่สูงส่ง  ควรมีน้ำใจช่วยเหลือเบิ่งแยง(-สอดส่อง) และ ก่อสร้างคนที่บ่ทันมีความก้าวหน้า  เพื่อแก่ดงเขาเจ้า(-คนทั้งปวง)ให้มีความบุกบึน(-เข้มแข็ง)กลายเป็นคนที่สามารถยืนอยู่ในสังคมได้โดย บ่ คิดน้อยคิดสั้น หรือนำตนเองเข้าไปในกลุ่มของพวกอันธพาล พวกทรยศกบฎ เพื่อก่อความวุ่นวายหรือก่อกวนความสงบของสังคม หรือว่ากลายเป็นพวกปรปักษ์ต่อผู้ที่มีผลสำเร็จในชีวิตมาแล้ว  ถ้าผู้ที่อยู่สูงแล้วพัดนอนหงายก็จะกลายเป็นคนที่หันหลังให้ผู้ที่ด้อยโอกาสหรือว่ายังทุกข์ยากลำบาก  ก็จะกลายเป็นคนทะเยอทะยานฝันหาแต่สิ่งสูงศักดิ์ เพราะเห็นแต่เดือนกับดาว บ่เห็นดินส่วนหลายยังยุ่งยากลำบาก และต้องการความช่วยเหลือจากตนเองแต่อย่างใด

  สำหรับผู้ที่อยู่ต่ำให้นอนหงายนั้น ก็หมายความว่าบุคคลใดก็ตามที่บ่ทันมีความสำเร็จในชีวิตในหน้าที่การงาน ควรได้ศึกษาเบิ่ง(-มอง)บทเรียนของผู้ที่อยู่สูงว่า เพิ้ม(ท่าน)มีการพัฒนาตัวเองดีอย่างใดจึงได้รับผลดีแนวนั้น พร้อมกันนั้นก็ต้องรู้ซอก(-ค้นหา)ถอดถอนบทเรียนจากผู้ที่ฮั่งมีเป็นดี หรือมีความก้าวหน้า เพื่อนำไปปฎิบัติตั้งหน้าพยายามให้ตัวก้าวขึ้น บ่แม่น(-ไม่ใช่)ว่าตนต่ำต้อยแล้วมีแต่หมดหวังท้อถอย และเฮ็ด(-ทำ)แต่แนวบ่ ดี อันซึงจะพาชีวิตของตนตกต่ำลงไปอีก. การเปรียบเทียบกับผู้ที่สูงกว่า แม่น(-ที่จริงคือ)วิวัฒนาการของสังคมซึ่งต้องพัฒนาให้ก้าวหน้าทันสมัยทีละก้าว ถ้าเราอยู่ต่ำแล้วนอนคว่ำ ก็จะเห็นแต่สิ่งต่ำต้อยเป็นดินเป็นห้วย หรือว่า บ่ มีกำลังใจเพื่อบุกบึนต่อสู้แก่ตนเองเลย

 รวมความว่าคำสุภาษิตดังกล่าวแม่นตักเตือนสั่งสอนให้พวกเรามีสติ ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันบนพื้นฐานต่างฝ่ายต่างให้โอกาสตัวเอง และคิดว่าก็แม่นส่วนหนึ่งของสังคม ถ้าสังคมก้าวหน้าตนเองก็จะก้าวหน้าไปนำ(-ด้วย) ตรงกันข้าม ถ้าสังคมล้าหลังแต่ตนเองก้าวหน้าคนเดียว สังคมก็บ่น่าอยู่ เพราะส่วนหลายจะมีแนวคิดที่อิจฉาบังเบียด เฮ็ด(-ทำ)ให้ตนอยู่ยากไปนำ(-ด้วย)อีก.


กระทู้: ..คติลาว - คติไทย..
เริ่มกระทู้โดย: โพธิ์ประทับช้าง ที่ 29 ส.ค. 06, 14:13
 ขอบคุณ คุณน้ำใส ที่นำมาเล่าให้ฟังครับ


กระทู้: ..คติลาว - คติไทย..
เริ่มกระทู้โดย: น้ำใส ที่ 30 ส.ค. 06, 14:40
 คำไทยกับคำลาวที่ออกเสียงเดียวกันแต่คนละความหมาย ทำเอาผมกับเพื่อนร่วมทีมหงายหลังไปตามๆกัน
 ไปนั่งกินน้ำ เพื่อนสั่ง มะพร้าวปั่น เราสั่ง ส้มปั่น ตอนยกมามีแต่มะพร้าวปั่นของเพื่อน ของเราไม่มี คนลาวบอก ส้มปั่น บ่ มี เรามองไปเห็นมีตั้งหลายลูก ชี้ไปที่ส้ม ถามคนลาวว่านั่นลูกอะไร คนลาวตอบ นั่นลูกหมากเกลี้ยง จึงหัวเราะออกมา โอ้ความเปิ่นของเราเอง
 คำว่าหนังสือก็สร้างความเปิ่นให้อีก คือ หนังสือ ในภาษาลาวหมายถึงกระดาษที่เป็นแผ่นๆ ( เหมือนหนังสือราชการของเรา ก็จะมาเป็นแผ่น ) ถ้าเป็นเล่ม ลาวเรียกว่า เอกสาร
คือของลาว เป็น แผ่น เรียก หนังสือ  เป็น เล่ม เรียก เอกสาร
แต่ของไทย เป็น แผ่น เรียก เอกสาร เป็น เล่ม เรียก หนังสือ
 คำว่า ท่า ภาษาลาวแปลว่า รอคอย ตอนไปพบหัวหน้าของเขา เขาก็บอกให้เรานั่งท่า เราก็สงสัยว่านั่งยังไงถึงจะถูกท่า เปิ่นอีกแล้วครับกระผม


กระทู้: ..คติลาว - คติไทย..
เริ่มกระทู้โดย: tuka007 ที่ 30 ส.ค. 06, 17:29
 นี่มังคะที่เรียก บ้านพี่เมืองน้องกัน มีอะไรคล้ายกันหลายอย่าง อาจมีผิดแปลกบ้าง อย่างที่ คุณ น้ำใสเคยเจอ

ว่าแต่ แม่ยิ๋งลาว เขาว่างามนัก จริงมั้ยคะ


กระทู้: ..คติลาว - คติไทย..
เริ่มกระทู้โดย: น้ำใส ที่ 01 ก.ย. 06, 08:39

.
สวัสดีครับคุณ โพธิ์ประทับช้าง
สวัสดีครับคุณ  tuka007

เผอิญไม่ได้นำกล้องติดไปด้วย เลยไม่ได้ถ่ายภาพ สาวลาวสวยๆมาฝากอ่ะครับ
แต่มีลิงค์ที่เขาถ่าย สาวลาว ในปฏิทินปีนี้ 2006
ที่ลาวนิยมใช้ปี คศ. กันครับ  ปี พศ.เขาไม่นิยมพูดกัน และจะเปลี่ยนปีตอนวันสงกรานต์   ต่างกับของไทยที่เปลี่ยน 1 มกราคม
อีกอย่าง วันพระไทย ส่วนใหญ่จะเร็วกว่า วันพระลาว 1 วัน สงสัยพระจันทร์ที่ลาวจะเคลื่อนที่ช้ากว่า 1 วัน    



ไปชมความงามของสาวลาวกันเถอะครับ

http://www.nokkhao.com/phpbb/viewtopic.php?p=323&sid=accb9db41ec676a4eaccb478f15189ea  


กระทู้: ..คติลาว - คติไทย..
เริ่มกระทู้โดย: น้ำใส ที่ 01 ก.ย. 06, 14:11

ชวนหัว
ของขวัญ
 โดย: บ่าวกะปิ
* ดึกค่อนคืนแล้ว ท่านนักร้องหนุ่มยัง
ยืนร้องเพลง และ ดีดกีตาร์อยู่ข้างเรือนฝ่ายสาว
+ น้อย บ่ นานก็มีของแข็งๆหล่นลงตกใส่ทางหัว
อ้ายหนุ่มจับดู มันเป็นโถที่บรรจุดอกไม้สด  พอ
แหงนขึ้นไปชั้น 2 ก็แลเห็นรอยยิ้มทั้งคำ
เว้าหวานๆจากฝ่ายหญิง
+ น้องรีบไปหน่อย ! เลย บ่ ทันได้เอาดอกไม้ออก
จากโถ.


กระทู้: ..คติลาว - คติไทย..
เริ่มกระทู้โดย: น้ำใส ที่ 04 ก.ย. 06, 10:24

*
ตำราเรียนภาษาไทยเราเรียก ก.ไก่ แต่ ตำราเรียนของลาวเรียก ป.ปลา
ในบทเรียนชั้นประถม เขาก็สอนให้เด็กเกลียดชัง อเมริกาแล้วครับ


กระทู้: ..คติลาว - คติไทย..
เริ่มกระทู้โดย: น้ำใส ที่ 04 ก.ย. 06, 10:28

บทที่ 52

ทหารลาว   แววไวใจกล้า
บุกฟันฆ่า   เลวไล่ฝูงมาร
แนวสันดาน เมริกาชั่วร้าย
ให้หนีพ่าย  ลอบน้ำข้ามโขง


กระทู้: ..คติลาว - คติไทย..
เริ่มกระทู้โดย: น้ำใส ที่ 04 ก.ย. 06, 10:48

บทที่ 79
หมาก

หมากเขียบ  กินหวานเย็น (น้อยหน่า)
หมากเกลี้ยง  กินหวานหลาย (ส้ม)
เป็นหยัง  อเมริกาผู้โหดร้าย
จึงมักเฮ็ด(ทำ) หมากแตกฆ่าคน ?


กระทู้: ..คติลาว - คติไทย..
เริ่มกระทู้โดย: thawankesmala ที่ 15 ก.ย. 06, 09:59
 เจ็บลึกไหมพี่เมกาจ๋า

มีประเทศเดียวในโลก ที่เข้าใจภาษาไทยโดยไม่ต้องผ่านล่าม ประเทศนั้นคือลาว


กระทู้: ..คติลาว - คติไทย..
เริ่มกระทู้โดย: น้ำใส ที่ 15 ก.ย. 06, 11:01
 ตอนที่นั่งกินอาหารมื้อค่ำกัน มีฝรั่งนั่งร่วมด้วย คนไทย คนลาว ก็เลยพูดภาษาอังกฤษกันเพราะจะได้ให้ฝรั่งฟังรู้เรื่องด้วย  แต่พอกินไปเรื่อยๆ มีกินเหล้าด้วย เริ่มเมากันแล้วทีนี้คนลาวก็พูดลาว คนไทยก็พูดไทยกันสนุกสนาน ฝรั่งก็งง ทำไมคนไทยกับคนลาวพูดภาษาเหมือนกัน จึงถามขึ้นมาว่า
พวกยูคุยภาษาเดียวกัน ทำไมยูไม่รวมเป็นประเทศเดียวกันเสียเลยล่ะ
คนไทย คนลาว ได้ยินฝรั่งถามแล้วอึ้งกันทั้งสองฝ่ายเลยครับ


กระทู้: ..คติลาว - คติไทย..
เริ่มกระทู้โดย: tuka007 ที่ 15 ก.ย. 06, 12:31
 แหม  เป็นตูก้าก็จะตอบว่า แล้วที่แถวบ้านท่านก็พูดภาษาเดียวกันเกือบทุกประเทศ เหตุใดไม่รวมประเทศกันก่อนเล่า    


กระทู้: ..คติลาว - คติไทย..
เริ่มกระทู้โดย: น้ำใส ที่ 15 ก.ย. 06, 14:16

ด้านหน้าสาวลาวในชุดประจำชาติอันงดงาม
ด้านหลังสุด พระธาตุหลวง สีทองอร่ามตา เอกลักษณ์ของนครหลวงเวียงจันทน์
และถัดขึ้นมาคือ รูปปั้นของ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช   ผู้ซึ่งมีพระราชมารดาเป็นธิดาพระเจ้าเชียงใหม่  ในสมัยนั้น เชียงใหม่ขาดเจ้าผู้ครองนคร บรรดาอำมาตย์จึงไปเชิญ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช องค์นี้แหละมาครองอาณาจักรล้านนา  ต่อมาไม่นาน พระราชบิดาถูกช้างทับถึงสวรรคต ทางฝั่งลาวจึงมาเชิญกลับไปครองอาณาจักรล้านช้าง ครานั้นได้อัญเชิญพระแก้วมรกตจากเชียงใหม่ไปอยู่เวียงจันทน์ด้วยแต่นั้นมา และเป็นพระองค์เดียวกับที่ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์แห่งกรุงศรีอยุธยา ร่วมกันสร้างพระธาตุศรีสองรัก (อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย)  เพื่อเป็นสักขีพยานแสดงความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างกัน

คุณ ตูก้าครับ เท่าที่ผมรู้ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน เสปน อิตาลี เป็นคนละภาษา แต่ทางยุโรปเหนือ เคยถามคนสวีเดน ที่ทำงานใน นอรเวย์ เขายอมรับว่า ภาษาใกล้เคียงกัน จนพูดคุยกันได้โดยไม่ต้องมีล่าม