จดหมายเหตุในสมัยรัชกาลที่ ๔ กล่าวเรื่องการกลบบัตรสุมเพลิงไว้ว่า
การวิวาทตบตีฟันแทงกันให้โลหิตตกในพระราชวังก็ดี และหญิงสาวใช้ทาสไทยผู้ใดคลอดแท้งลูกในพระราชวังก็ดี ท่านให้บัดพลีวังท่าน ให้ตั้งโรงพิธี ๔ ประตู ใบศรี ๔ สำรับ บัด ๕ ชั้น ๔ อัน ไก่เป็นประตูละคู่ ให้วงด้ายคารอบพระราชวัง นิมนต์พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ ๓ วัน ไปหาพ่อชีพราหมณ์มากระทำบวงสรวงตามธรรมเนียม
ให้มีระบำ พิณพาทย์ ฆ้อง กลอง ดุริยางค์ประโคมทั้ง ๔ ประตู ครั้นเสร็จพิธีแล้วให้เอาไก่นั้นไปปล่อยเสียนอกกำแพงเมือง ให้มันพาเสนียดจัญไร ภัย อุบาทว์จัญไร ไปพ้นพระนคร
เมื่อจะนำเอาไก่ที่ใช้ในการประกอบพิธีกลบบัตรสุมเพลิงไปปล่อยนอกกำแพงเมือง
เพื่อให้ไก่พาเอาเสนียดจัญไรต่างๆ ออกไปนอกเมืองนั้น โบราณท่านให้ตัดขนหางไก่ด้วย
(คงตัดขนหางสัก ๓ - ๔ เส้น พอเป็นเครื่องสังเหตุได้ว่า เป็นไก่ปล่อยแก้เสนียด
ไก่เหล่านี้ ได้ยินเล่าต่อๆ กันมาว่า นิยมเอาไปปล่อยตามวัดวาอารามนอกกำแพงเมือง
เพื่อไม่ให้คนจับเอาไก่นั้นไปฆ่าแกงกิน เพราะในเขตวัดเป็นเขตอภัยทาน
อนึ่ง การปล่อยไก่ให้นำพาเสนียดจัญไรออกไปนี้ ก็ทำในหมู่ชาวบ้านด้วย
เช่นว่า เมื่อผู้ใดเจ็บป่วยหนัก หรือได้รับอันตรายต่างๆ หรือสงสัยว่าจะเคราะห์ร้าย
ก็จะหาไก่มาทำพิธีปัดรางควานจากผู้ป่วยหรือผู้มีเคราะห์ไปอยู่ในตัวไก่ แฃ้วเอาไก่ไปปล่อยที่วัด
นี่ก็เป็นที่มาของสำนวนว่า ตัดหางปล่อยวัด ซึ่งบางเข้าใจผิดว่า เอาสุนัขมาตัดหางแล้วปล่อยที่วัด