เริ่มเห็นจุดร่วมจากทั้งสองฝั่งแล้วครับ สมมุติว่าเรื่องเรือนหลังใหญ่ยังไม่ต้องเอามาเกี่ยวข้อง
เนื่องจากจุฬายังไม่ได้ปฏิเสธเรื่องการเคยมีอยู่ของเรือนผู้บัญชาการหลังใหญ่
อีกทั้งจุฬาฯ ไม่ได้อ้างว่าเรือนหลังเล็กเคยใช้เป็นที่เรียนสถาปัตฯ
ดังนั้นจึงพอรับฟังได้ว่า จุฬาฯ ทราบดีว่าเรือนทั้งสองหลังไม่ใช่สถานที่เดียวกัน
ประเด็นข้อขัดแย้งจึงน่าจะอยู่ที่เรือนหลังเล็ก
ฝ่ายสนับสนุนจุฬาควรหาข้อมูลสนับสนุนว่าพระยาภะรตราชาเคยอยู่ที่นั่น
ในทางตรงข้าม
ฝ่ายคัดค้านควรหาข้อมูลหักล้างว่าพระยาภะรตราชาไม่เคยพักอาศัยในเรือนหลังนั้นเลย
แนวทางนี้พอไหวไหมครับ
ประเด็นคือ ขณะนี้ไม่มีข้อขัดแยังดังกล่าว คณะทำงานโครงการอนุรักษ์เรือนพักอาจารย์แล้วตั้งชื่อว่าเรือนภะรตราชา ยอมรับข้อมูลของอาจารย์สิน พวงสุวรรณว่า เรือนนั้นพระยาภะรตไม่เคยพำนักอยู่ แต่นำชื่อท่านมาตั้งให้เป็นเกียรติ