๑.
เป็นเรือนไม้ ฝาไม้ไผ่ที่เอามาผ่าแล้วแบะออกมา (ไมทราบเขาเรียกอะไร) ผนังระหว่างห้องเป็นไม้ไผ่ขัดแตะ ยกพื้นพอเดินลอดได้สบาย น่าอยู่ดีเหมือนกัน
เขาเรียกว่า "ฟาก" คำเดียวกับที่อยู่ในคำว่า "ตกฟาก"
ฟาก ลำไม้ไผ่เป็นต้นที่ผ่าแล้วสับให้แตกออกเป็นอันเล็ก ๆ แต่ไม่ขาดจากกัน แล้วแบคว่ำออกเป็นแผ่น โดยมากใช้ปูเป็นพื้นเรือน เรียกว่า ฟากสับ, ส่วนที่ทำเป็นซี่แล้วใช้หวายหรือเถาวัลย์ถักให้ติดกันเป็นผืน เรียกว่าฟากซี่ หรือ ซี่ฟาก.
คำเดียวกับที่อยู่ในคำว่า "ตกฟาก"
ตกฟาก เกิด, เรียกเวลาที่เด็กออกพ้นครรภ์มารดาว่า เวลาตกฟาก (พื้นเรือนโบราณโดยมากเป็นฟาก); โดยปริยายใช้ในลักษณะที่พูดคํา เถียงคําไม่หยุดปากว่า เถียงคําไม่ตกฟาก.
๒.
อีกทีได้ยินพ่อเล่าให้แม่ฟังว่า นั่งกินข้าวกลางวันที่สโมสรนายทหารที่สนามบิน มี พล.อ.โท มานพ สุริยะ นั่งอยู่ด้วย เป็นเพื่อนกัน ตอนนั้นท่านเป็นนักบินลองเครื่อง เครื่องที่ซ่อมเสร็จ พล.อ.โท มานพ ก็มักจะเอาไปบิน คนบินก็ต้องไว้ใจคนซ่อม คนซ่อมก็ต้องไว้้ใจคนบิน ประกอบกับทั้งสองคนจบจากอเมริกาด้วยกัน (พล.อ.โท มานพ จบจาก West Point) ระหว่างทานอาหารมีนักบินญี่ปุ่นยศนาวาเอกเข้ามาหา (ใช้สโมสรร่วมกัน) บอก พล.อ.โท มานพ ว่าอยากชวนให้ไปดูอะไรหน่อย ไม่ทราบว่าท่านไม่ไว้ใจญี่ปุ่นหรือเห็นท่าทีไม่ค่อยดี เลยชวนพ่อไปด้วย ญี่ปุ่นพาขึ้นเครื่องบิน ดูเหมือนจะไปแถวโคกกระเทียม แล้วบินลงต่ำชี้ให้ดูลานหญ้ายาวๆท่าทางเป็น runway ถามสองคนว่านั่นอะไร ต่างก็ตีหน้าตาย พูดว่าท่าทางยังกับเป็นสนามบิน สนามบินอะไร ไม่ทราบแถวนี้ไม่น่าจะมีสนามบิน ตกลงเป็นสนามบินที่เสรีไทยไปสร้างไว้ พ่อมาเล่าให้แม่ฟังบอกว่าใจไม่ดี คิดว่าจะโดนยิงทิ้งซะแล้ว
พันตรี ควง เล่าว่า อย่างสนามบินลับของเราก็เหมือนกัน พวกญี่ปุ่นมาประท้วงตั้งแต่เช้า เอาแผนที่ออกมากางให้ดู แล้วชี้ว่านี่สนามบินลับอยู่ทางเหนือ ความจริงท่านก็ทราบว่าเป็นสนามบินลับที่พวกเสรีไทยเขาทำขึ้น แต่ท่านบอกว่าไม่จริงกระมัง เขาก็ยืนยันว่าจริงซี เขาถ่ายรูปมาด้วย ท่านก็ว่าถ้ายังงั้นพรุ่งนี้ตั้งกรรมการผสมไปตรวจ แล้วก็ตกลงตั้งกรรมการผสมไทยญี่ปุ่นขึ้น
แล้วท่านก็วิ่งไปบอกหลวงประดิษฐ์ ฯ ว่า นี่.....อาจารย์ ต้องรีบจัดการปลูกพืชอะไรไว้นะ พรุ่งนี้กรรมการผสมจะไปตรวจ ถ้าเขาจับได้ผมไม่รู้ด้วยนะ ฝ่ายหลวงประดิษฐ์ ฯ ก็ส่งวิทยุสั่งการให้ปลูกต้นกัญชา ต้นอะไร รดน้ำกันใหญ่ พวกกรรมการผสมไปดูก็เห็นมีพืชปลูกอยู่จริง ๆ เรื่องก็เลิกกันไป
๓.
พ่อกับผมนอนหงายดูเครื่องบิน เห็นเปิดประตูใต้ท้องปล่อยระเบิดลงมาชุดละ ๗ ลูก พ่อบอกว่า เราไม่เป็นไรหรอกเพราะปล่อยเหนือหัว จะไปแย่ที่คนอื่น วันนั้นสถานีรถไฟหัวรถโดนหนัก มีระเบิดเวลาดังอยู่ตลอดคืน
อังศุมาลินกับแม่อรแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เห็นเครื่องบินสามลำบินผ่านหัวไป แม่อรพูดด้วยความกังวลว่า "ตรงนี้จะปลอดภัยแน่หรือลูก เครื่องบินอยู่บนหัวแบบนี้" อังศุมาลินจึงอธิบายว่า "ถ้าเครื่องบินอยู่ตรงกลางหัวเราแบบนี้รับรองว่าเราไม่เป็นไรแน่ค่ะ หนูรู้มาว่าลูกระเบิดที่ถูกทิ้งลงมาจะวิ่งไปข้างหน้าเครื่องบินเสมอ"
จากบทละครเรื่องคู่กรรม เวอร์ชั่นที่กำลังฉายอยู่ที่ช่องห้า