เรือนไทย

General Category => หน้าต่างโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: นกข. ที่ 25 มิ.ย. 01, 19:34



กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 25 มิ.ย. 01, 19:34
เปลี่ยนบรรยากาศให้เบาๆ ลงหน่อย รับผลการเยือนพม่าของท่านนายกฯ

เรื่องตำราเรียนนั้น อ่านข่าวที่ไหนสักแห่งว่าผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่าทางพม่าเขาจะดูให้ต่อไป ก็รอติดตามผลกันต่อไปนะครับ

โดยไม่เกี่ยวกับเรื่องตำราพม่าแล้ว ผมยังติดใจประเด็นที่มีท่านหนึ่งตั้งไว้ว่า คนไทยเราไม่รู้จักเพื่อนบ้านของเราเท่าใดนัก ทำอย่างไรจึงจะรู้จักเพื่อนบ้านของเรามากขึ้น ผมเห็นว่าคำปรารภนี้มีส่วนจริงทีเดียว

พม่ากับไทยเป็นเพื่อนบ้านกัน รบกันก็เคยรบแน่ละ แต่ก็มีการติดต่อสื่อสารถ่ายทอดอะไรไหลไปไหลมากันเยอะเหมือนกัน ลองนั่งไล่ดูว่ามีอะไรที่เกี่ยวกับพม่าในวัฒนธรรมไทยมั่ง

วิธีการจับยามดูฤกษ์ แบบยามอุบากอง (ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นพม่า)
ตำนานพระอุปคุต พระอรหันต์ผู้มีอิทธิฤทธิ์ที่ปกติประทับอยู่ที่สะดือทะเล (ทั้งพม่าทั้งมอญนับถือมาก - พระอุปคุตนี่เป็นอะไรกับพระนารายณ์ไม่รู้นะครับ องค์นั้นอยู่เกษียรสมุทร) และดูเหมือนมาเป็นพระบัวเข็ม ที่ตามเคล็ดต้องใส่น้ำหล่อฐานท่านไว้ด้วย พระอุปคุตนี้ คนไทยบางคนไปเที่ยวพม่ากลับมาเล่าว่าพม่ามีพระที่นับถือกันรูปหนึ่ง ชื่อ อู ป่า โก๊ะ - ก็อุปคุตนั้นแหละครับ
วิธีปฏิบัติวิปัสสนาบางสำนักที่พระไทยท่านไปเรียนมาจากทางพม่า แถวๆ พ.ศ. 2490 เป็นต้นมา
เพลงไทยเดิมที่ครูไทยได้แรงบันดาลใจจากสำเนียงพม่า เช่นพม่ารำขวาน -พม่าเห่ - พม่าเขว (เด็กอนุบาลร้องเพลงนี้ในเนื้อว่า ช้างๆๆๆๆๆ น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า...) -พม่าประเทศ (คือเพลงที่วิทยุประเทศไทยเปิดเวลาจะเทียบเวลา) ส่วนทางพม่า ได้ข่าวว่ารับศิลปนาฏศิลปไทยไปสมัยที่กวาดต้อนคนไทยจากอยุธยาไปพม่า เลยได้เรียนวิชาฟ้อนรำไทยด้วย และยังเรียกว่าละครโยเดีย
แกงฮังเล ข้าวซอย และอาหารทางเหนือหลายอย่าง เฮากิ๋นเหมือนพม่า หรือพม่ามากินเหมือนเฮาก็ไม่รู้เจ้า
วรรณกรรมเรื่องราชาธิราชทั้งเรื่อง เป็นเรื่องของพม่ากับมอญ
คุณสันติ ลุนเผ่ นักร้องเพลงปลุกใจรักชาติ (ไทย) สมัยก่อน เป็นเชื้อสายชาวพม่า เข้าใจว่าหม่องลุนเผ่ คุณพ่อ (?) ของคุณสันติ เป็นหมอรักษาตา มาเปิดร้านหมอในเมืองไทยตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ฯลฯ


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 22 มิ.ย. 01, 00:29
พม่ากับมอญเป็นชนชาติที่รุกรับขับเคี่ยวกันมามากในประวัติศาสตร์ แต่ในทางวัฒนธรรมก็มีอะไรที่รับถ่ายทอดกันไปมาเหมือนกัน

มหาเจดีย์องค์ใหญ่ที่พม่า ที่เราเรียกว่าชเวดากองนั้น ใครก็จำไม่ได้แล้วเคยเขียนไว้ ผมไปอ่านจากที่ไหนก็ลืม บอกว่าควรจะออกเสียง ส่วยตะโก้ง บอกความหมายไว้เสร็จว่าเกี่ยวกับอะไรทองๆ นี่แหละ แต่ผมจำไม่ได้เสียแล้ว

เมืองแปรของท่านยาขอบที่เขียนให้เป็นเมืองของตะละแม่กุสุมานั้น ดูเหมือนชื่อพม่าจะชื่อเมืองโปรม

เคยอ่านเจอว่าแถวๆ ยานนาวาในกรุงเทพฯ นี่เอง แต่ก่อนเป็นหมู่บ้านชาวทวาย สมัยก่อนคนแถวนั้นไม่พูดภาษาไทยกันสักเท่าไหร่ พูดภาษาพม่า หรือภาษาทวายกันทั้งละแวก


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: ne sais que ที่ 22 มิ.ย. 01, 00:31
แหม! คุณนกข.ครับ ถ้าจะขอเรียกคุณว่า สารานุกนมเคลื่อนที่  จะเปนไรไหมครับ คุณนกข.คงจะเป็นหนอนหนังสือตัวยง เลยนะครับ เลยทำให้ทราบเรื่องราวที่ น่าสนใจมากมาย ทั้งเรื่อง ศิลปวัฒนธรรม ความเคลื่อนไหวบนโลก และ เกี่ยวกับคอมฯ  

เห็นด้วยครับว่า เราไม่รู้จักคนใกล้ชิดของเราดีนัก ก็คงต้องสาวเรื่องมาจาก อดีต มังครับ ที่เรามีความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านทางการสงครามเสียเป็นส่วนใหญ่ เลยศึกษากันแต่ทางเดินทัพ มิได้เจาะไปที่ประเด็นอื่น แต่ ปัจจุบันก็เป็นที่น่ายินดีที่ มธ. เปิดคณะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขึ้น ก็จะยังผลสู่ความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านของเราในอนาคต


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: ด.เด็ก ที่ 22 มิ.ย. 01, 08:46
ส่วยตะโก้งก็ชเวดากองนั่นแหละครับ แปลว่าเจดีย์ทอง นัยว่าทองที่เอามาเป็นทองที่ลอกมาจากกรุงศรีฯคราวเผากรุงครั้งที่สอง ส่วนสาวที่นิยมว่าสวยนั้นต้อง
"อกครุฑ ตูดพม่า นัยน์ตาแขก"
รายละเอียดของประโยคนี้ต้องคุณนิลกังขาผู้สันทัดกรณีมาบอกครับ


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 22 มิ.ย. 01, 09:13
ราชาธิราชเป็นพงศาวดารมอญที่ถูกแปลเป็นไทยในช่วงทำ "พม่าศึกษา" ช่วงต้นรัตนโกสินทร์ ส่วนข้าวซอย แกงฮังเล นั้นผมอยากจะเดาว่าเป็นอาหารของ "คนไท" เนื่องจากในประวัติศาสตร์นั้น กลุ่มรัฐไทซึ่งได้แก่ ล้านนา ไทยใหญ่(ชาน) สิบสองปันนา ลาว นั้นมีความสัมพันธ์กันใกล้ชิดกันมากกว่าสยามซึ่งอยู่ในลุ่มเจ้าพระยาครับ คงต้องวานผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารมาต่อมังครับ ไม่ทราบคุณพวงร้อยจะได้กลิ่นหรือยัง มาช่วยกันเปิดประเด็นต่อหน่อยสิครับ

ขอตั้งข้อสังเกตว่าการถ่ายทอดวัฒนธรรมของไทยกับพม่านั้นมีค่อนข้างจะน้อย ดูว่าส่วนที่พม่ารับจากไทยไปนั้นจะมีมากกว่าอันเนื่องมาจากการกวาดต้อนช่างฝีมือ นางละคร และสารพัดผู้เชี่ยวชาญจากโยเดียไปในช่วงการเสียกรุงทั้งสองครั้ง ที่ว่าการถ่ายทอดวัฒนธรรมมีน้อยนั้นขอตั้งข้อสังเกตไว้สองอย่างคือ
1.มีการสงครามกันระหว่างอยุธยากับพม่าอยู่เป็นส่วนมากของช่วงเวลาที่พม่าแข็งแกร่งมีอิทธิพลในลุ่มแม่น้ำอิรวดีและสาละวิน
2.ต่างฝ่ายมีเส้นทางการค้าของตนเอง ไม่ต้องพึ่งพากัน อยุธยาอาศัยอ่าวไทย ส่วนพม่าใช้อ่าวเมาะตะมะ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เกิดความขัดแย้งกับสยามและพม่าบ่อยมาก ที่สำคัญคือ บริเวณนี้เป็นดินแดนของชาวมอญ
ในแง่ความสัมพันธ์ยุคใหม่ ผมไม่แน่ใจนักว่าพม่าจะรับวัฒนธรรมของไทยเข้าไปมากกว่าหรือไม่ เพราะไม่เคยเข้าไปในพื้นที่ที่เรีกว่า"เจริญ"ของพม่าปัจจุบัน ซึ่งคนอาจจะดู UBC กันอยู่ แต่เท่าที่เคยขับรถเข้าไปในแดนพม่าตรงด่านเจดีย์สามองค์ น่าสังเกตว่าคนพม่าแถวนั้นฟังภาษาไทยกันไม่เข้าใจ ต่างจากชายแดนลาว และเขมรที่เคยไปสัมผัสมา ถ้าจะให้เดาก็คงต้องเป็นเพราะไม่มีโทรทัศน์ดูกันแน่เลยครับ :)


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: โมโน ที่ 22 มิ.ย. 01, 11:32
ข้าวซอย ผมเคยได้ยินมาว่าเป็นอาหาร ของ จีนฮ่อ นะครับ พวกนี้เป็นมุสลิม อาหารเลยมีลักษณะ จีนปนแขก คือ มีเส้นหมี่ ใส่ในน้ำแกง ผิดถูกประการใดไม่รับรองครับ


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: นิรันดร์ ที่ 22 มิ.ย. 01, 11:59
ตอนเด็ก ๆ เรายังโง่อยู่ ก็ชกกับเพื่อนบ้าง
ตอนโต เราก็คบเป็นเพื่อนที่ดีกันได้

ทำไมไทย มอญ พม่า ไทยใหญ่ จะเป็นเพื่อนที่ดีกันไม่ได้เชียวหรือ
ทะเลาะกัน ไม่ว่าใครชนะ ก็เจ็บกันทั้งสองฝ่าย

ดีใจอะไรกันนักหนาที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเจ็บได้มากกว่าเรา


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: นิรันดร์ ที่ 22 มิ.ย. 01, 13:22
ค่ำคืนเดือนหงาย พม่าขี่ควายว่าจะไปแทงกบ
เล เล้ เหล่ เล้ เหล่ เล้ เล เล   เล เล้ เหล่ เล้ เหล่ เล้ เล เล
เอาหอกมาถือ อีกมือถือคบ ๆ
เสียงร้อง อ๊บ ๆ ส่องคบเข้าไปดู
จะผูกไอ้โทนเอาไว้ที่โคน ประดู่ ๆ
ขยับย่องป้องหูชอหอกเงื้อแทง
เล เล้ เหล่ เล้ เหล่ เล้ เล เล   เล เล้ เหล่ เล้ เหล่ เล้ เล เล
ได้กบมามากหลาย พม่าชอบใจเอาหอกสะพายยิ้มเฉ่ง
เล เล้ เหล่ เล้ เหล่ เล้ เล เล   เล เล้ เหล่ เล้ เหล่ เล้ เล เล
จะถลกหนังเอามาย่างไฟแดง ๆ
จะเอาลงหม้อแกง ผัดพะแนงใบกะเพา
จะผัดเปรี้ยวหวาน รับประทานแกล้มเหล้า ๆ (ห้ามเอาอย่างบรรทัดนี้นะครับ)
ไอ้ตัวไหนยังสาว จะต้มยำโฮกฮือ
เล เล้ เหล่ เล้ เหล่ เล้ เล เล   เล เล้ เหล่ เล้ เหล่ เล้ เล เล

ใครทราบบ้างครับ ต้มยำโฮกฮือเป็นอย่างไร

เพลงพม่านี้ คุณยายผมสอนให้ร้องเล่นตอนเป็นเด็ก ๆ
ผมก็มีเชื้อสายพม่า(ที่จริงเป็นมอญ)เหมือนกัน ต้นตระกูลก็แถว ๆ ปทุมธานี
(สงสัยว่าจะถูกกวาดต้อนมาสมัย ร.1 ไม่แน่ใจนะครับตรงนี้)
ผมรักเมืองไทย แล้วก็ไม่อยากให้เราทะเลาะกับพม่า
ไม่ทะเลาะกับใครเลย ดีที่สุดใช่ไหมครับ


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: ดารา ที่ 22 มิ.ย. 01, 15:06
ศูนย์หนึ่งอย่างพึงจร   แม้ราญรอน จะอัปปรา
ศูนย์สอง  เร่งยาตรา  จะมีลาภสวัสดี
สี่ศูนย์พูลผล จรดล ลาภมากมี
ปลอดศูนย์ พูนสวัสดิ์  ภับพิบัติ  ลาภไม่มี
กากบาทตัวอัปรีย์  แม้จรรีจะอัปปรา


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 22 มิ.ย. 01, 15:43
ที่คุณดารายกมา คือตำราดูยามอุบากองครับ ว่ากันว่าต้นตำรับชื่อ อู บา กอง

แหมคุณ ด. ... ผมไม่ชำนาญเรื่องอกครุฑ ... พม่า นาครับ ไม่เคยคลำ แฮ่ะๆ รู้แต่ว่า ดอว์ พม่าแปลว่าคุณนาย คุณผู้หญิง แต่ที่เมืองไทยกลายเป็นไปเกี่ยวกับผู้ชายแทน....

ข้าวซอยเป็นอาหารจีนฮ่อ? น่าสนใจครับ แต่แกงฮังเลนี้ น่าจะเป็นของพม่า ดูเหมือนพม่าจะเรียกฮินเล แต่ก็เป็นไปได้ว่าพม่าเองรับไปจากไทผ่านทางไตใหญ่รัฐฉาน


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 22 มิ.ย. 01, 17:35
พูดถึงจีนฮ่อผมรู้สึกแปลกๆนะครับ จีนฮ่อเป็นมุสลิมหรือครับ ไม่เคยได้ยินเลย (ไม่ได้ว่าไม่ใช่นะครับ แต่ไม่รู้) ผมก็สงสัยอยู่นานแล้วว่าฮ่อหรือห้อนี้ ในปัจจุบันเราหมายถึงชนกลุ่มไหนกันครับ ผมเคยทราบแต่ว่าฮ่อที่ปรากฎในประวัติศาสตร์ก็คือจีนนั่นเอง

เรื่องฮินเล กับฮังเล น่าสังเกตว่าภาษาพม่านั้นเสียงตัวสะกด แม่กน แม่กม แม่กง เขาจะแยกไม่ออก (เช่นเดียวกับภาษาญี่ปุ่น) ในแง่ของการกร่อนเสียงแล้วดูว่า ฮินเล จะมาจาก ฮังเลมากกว่าที่ฮังเลจะมาจากฮินเลครับ


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: วรวิชญ ที่ 22 มิ.ย. 01, 18:04
พม่าเรียกไทยใหญ่ว่าฉาน คำว่าฉานมาจากสยาม พม่าเรียกคนไทยว่าโยเดีย เพราะออกเสียงอะยุดทะยาไม่ชินกับลิ้น
ในอินโดนีเซียมีชื่อเมือง ดีจากาต้า คนอินโดเรียกว่าดอกยา คำนี้ก็มาจาก อยุธยาเขต


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: ภูมิ ที่ 22 มิ.ย. 01, 21:46
ชาวเผ่าที่นับถืออิสลามในจีน พวกที่ใหญ่ที่สุดคือ พวก ฮวย (ฮุย)
ไม่รู้ว่าจีนฮ่อคือกลุ่มนี้ด้วยหรือเปล่า
ตัวฮวย นี้เขียนด้วย สี่เหลี่ยมซ้อนกัน๒ตัว (ที่แปลว่าครั้ง หรือ หมุน)


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 22 มิ.ย. 01, 22:27
คำนั้น ทางปักกิ่งอ่านว่า หุย ครับ
พวก "เผ่าหุย"  ในจีน เป็นพวกนับถือศาสนาอิสลาม คนจีนบางทีเลยเรียกชาวมุสลิมว่าหุยไปด้วย แต่ผมเข้าใจเอาเองว่าที่จริงเป็นชื่อชนเผ่า ไม่น่าใช่ชื่อศาสนิก
หุย แปลว่าหวนคืนกลับ ได้ด้วย (แปลได้ไหมว่าที่มุสลิมจีนเรียกว่า หุย เพราะถือว่าการรับอิสลามเป็นการหวนคืนกลับไปหาพระเจ้า?? - ผมตีความเองครับ)


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 22 มิ.ย. 01, 22:28
สงสัยจะเปิดกระทู้ได้อีกอัน ว่าด้วยฮ่อ
ที่ผมได้ยินมาอีกสายหนึ่ง ว่า ฮ่อ มาจากคำว่า หัว - จงหัว - ซึ่งก็แปลว่าจีนนั่นเอง


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: วรวิชญ ที่ 23 มิ.ย. 01, 09:36
ผมเข้าใจว่าฮ่อมาจากคำว่าฮวน ฮวนนั้งคือคนที่อยู่นอกกำแพงเมือง บางครั้งคนจีนเรียกคนไทยว่าฮวนนั้ง และเรียกตัวเองว่าตึ่งนั้ง แต่จีนฮ่อที่รบกับไทยในสมัยรัชกาลที่ห้านั้น เป็นพวกที่หลบหนีการปราบปรามของรัฐบาลจีน จึงมาเป็นโจรปล้นอยู่ตามชายแดน เคยอ่านนิยายที่ยโสธรเขียนไว้ว่าหมู่บ้านตามชายแดนชาวฮ่อมีอาชีพหลักคือเป็นโจร ใครแข็งแรงกว่าก็ยกพวกไปปล้นอีกหมู่บ้าน
ส่วนเรื่องไทยรบกับเงี้ยวนั้น เงี้ยวคือชาวไทยใหญ่พวกหนึ่งมีถิ่นฐานอยู่ตามชายแดนพม่า-ไทย อาจจะเป็นพวกขุนส่าในปัจจุบัน


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: โมโน ที่ 23 มิ.ย. 01, 20:36
จีนฮ่อ หรือ ห้อ เป็นคำที่คนเมืองเชียงใหม่ เรียกคนจีน ที่อพยพ มาทางบก จากยูนนาน (เข้าใจว่าไม่จำกัดว่าจะเป็นเผ่าใด) คนจีนฮ่ออพยพมาอยู่ทางเหนือ ตั้งแต่สมัยอาณาจักรล้านนา มีทั้งนับถือศาสนาอิสลาม พุทธ และคริสต์ แต่กลุ่มใหญ่ที่สุดเป็นมุสลิมครับ
จีนฮ่อที่เป็นมุสลิม อาศัยอยู่รวมกันมากในอำเภอเมือง และ ฝาง โดยมีมัสยิดเป็นศูนย์กลางชุมชน
ชาวจีนฮ่อชอบใช้ม้าเป็นพาหนะ ผิดกับคนพื้นเมืองที่ใช้วัว (ไม่ทราบจะเป็นที่มาของคำว่า ฮ่อ หรือ ห้อ หรือไม่)
จีนฮ่ออีกกลุ่ม คือ กองทัพที่อพยพเข้ามาสมัยก๊กมินตั๋ง แพ้ ไทยเรารับเอาไว้เพื่อเป็นกันชนคอมมิวนิสต์ พวกนี้ไม่ใช่มุสลิม แต่มาจากยูนนานเหมือนกัน
ส่วนชาวจีนโพ้นทะเล ที่เดินทางมาทางเรือ ไม่เรียกจีนฮ่อครับ
(ที่มา หนังสือ เชียงใหม่ ในเครือสารคดี)


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: โมโน ที่ 23 มิ.ย. 01, 20:41
อ้อ..อาหารเหนือที่มาจากพม่าแน่ๆ ก็ "น้ำพริกอ่อง" ไงครับ


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 มิ.ย. 01, 10:25
เกร็ดอีกเล็กน้อยค่ะ
วัฒนธรรมพม่าที่ไทยรับมาคือทางทำนองเพลง  เพลงไทยที่ขึ้นต้นด้วยพม่า ทั้งหลาย ไม่ว่าพม่าเห่  พม่ากลองยาว ฯลฯ หรือเพลงเส่เหลเมา

พม่าคนหนึ่งเข้ามาอยู่ในไทย ชื่อ หม่องอูกะโด  ลูกหลานเหลนรับราชการในสมัยร. ๖ ได้รับพระราชทานนามสกุลว่า "อุกกานนท์"  พระราชทานจากนามของคุณทวดอูกะโดนี่เอง
กำลังนึกถึงพระราชนิพนธ์ปลุกใจทั้งหลายว่าเกี่ยวกับการศึกกับพม่าหรือเปล่า  นึกไม่ออก  มีแต่เรื่องขอม  และข้าศึกสมมุติจากตะวันตกค่ะ


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 25 มิ.ย. 01, 12:41
วัฒนธรรมพม่าแท้ๆนั้นเชื่อว่าน่าจะมีจำกัดมาก โดยมากแล้วจะรับมาจากมอญในช่วงที่มีการยึดครองอาณาจักรมอญครั้งแรกยุคพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ ซึ่งในครั้งนั้นมีการประดิษฐ์อักษรพม่าขึ้นใช้โดยดัดแปลงมาจากอักษรมอญ วิชาการต่างๆก็ได้รับการถ่ายทอดจากช่างและพระสงฆ์ชาวมอญ ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นกับชนเผ่าล้าหลัง(ไม่ได้มีเจตนาจะเหยียบย่ำนะครับ) ที่เข้าครอบครองอาณาจักรที่เจริญกว่า เช่นที่เกิดขึ้นในกรณี มองโกล และแมนจู กับประเทศจีน คือ ผู้รุกรานเป็นผู้รับวัฒนธรรม
เช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเสียกรุงศรีอยุธยา ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆถูกกวาดต้อนไปทำงานในพม่า ทำให้พม่ารับเอาวัฒนธรรมหลายๆอย่างจากเราไป ซึ่งเห็นได้ชัดเจนในกรณีของการฟ้อนรำที่ได้รับความนิยมในราชสำนักพม่ามากในช่วงหลังเสียกรุง


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 26 มิ.ย. 01, 00:14
นึกถึงเรื่องสั้นเรื่อง "ผมเป็นคนโยเดีย"  ของท่านทูตศักดิ์ชัย บำรุงพงศ์ หรือ " เสนีย์ เสาวพงศ์"  ครับ เรื่องนั้นท่านเขียนโดยอาศัยฉากหลังประสบการณ์จริงที่ท่านเคยรับราชการอยู่เมืองพม่า


กระทู้: พม่าในเรือนไทย...
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 26 มิ.ย. 01, 07:34
เจอเรื่องฮ่อที่เป็นมุสลิมแล้วครับ
ในประวัติศาสตร์สิบสองปันนาเอ่ยถึงกบฏ "ฮ่อหัวขาว" ซึ่งเป็นมุสลิมโพกผ้าขาวในแคว้นต้าหลี่ (ตาลีฟู) เท่าที่พบคนเผ่าไท(ไม่นับสยาม)จะเรียกจีนว่าฮ่อกันทั้งหมดนะครับ แต่ผมยังไม่เจอหนังสือที่พูดถึงที่มาของคำนี้โดยตรง คุ้นๆกับคำว่า "หัว" จากจงหัวเหมือนคุณ นกข.ครับ เหมือนเคยได้ยินมาจากที่ไหนเหมือนกัน