จำเรื่องเล่าสมัยก่อนได้เรื่องหนึ่ง ในยุคสมัยจอมพลสฤษดิ์ จะจริงเท็จอย่างไรไม่ทราบ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มีฝูงห่าตั๊กแตนปาทังก้ามางกินพืชไร่ในภาคอิสาน พืชผลเสียหายเป็นจำนวนมากมาย ก็มีคนลองเอาตั๊กแตนไปทอดกิน ความอร่อยก็ขยายต่อปากต่อปาก และขยายไปทางสื่อหนังสือพิมพ์ ปีต่อมา ชาวบ้านเลยเอาตาข่ายมาขึงดักจับไปกิน ปาทังก้าที่ว่าร้ายนักสู้ไม่ไหว เลยไม่ยอมมาเป็นฝูงห่าให้เห็นอีกเลย ทราบว่าปัจจุบันนี้ก็ยังใช้วิธีนี้ดักจับอยู่ แต่ก็ได้ปริมาณไม่มากนัก ราคาตั๊กแตนทอดจึงสูงหน่อย คุยกับแม่ค้าแถวพัทยา เขาบอกว่าบางที่ก็ขาดตลาดเหมือนกัน
ดิฉันก็เคยอ่านพบเหมือนกันว่า เป็นวิธีปราบตั๊กแตนปาทังก้าที่ได้ผลแบบรัฐบาลและกระทรวงเกษตรนึกไม่ถึง คือเอามาเป็นอาหารจานเด็ดเสียเลย แต่ที่มีหลักฐานอีกอย่างคือหนูนาที่ลงกินข้าวในนา ปราบกันไม่หวัดไม่ไหวสมัยยุคจอมพลถนอม ทางการมีนโยบายให้ชาวบ้านเอามากินได้ บอกว่าสะอาดปลอดภัย เพราะมันกินแต่ข้าวในนา ไม่สกปรกเป็นพาหะกาฬโรคเหมือนหนูบ้าน ถึงกับตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "กระต่ายนา" มีผู้ว่าฯนักพัฒนาท่านหนึ่งสร้างผลงาน ย่างกระต่ายนาพวกนี้ เอาไปส่งถึงทำเนียบ สื่อเล่นข่าวกันหน้าหนึ่งทีเดียว ตอนนี้ไม่ได้ข่าวเรื่องกระต่ายนามานานเต็มที ไม่รู้ว่าแพ้ราบไปแบบเดียวกับตั๊กแตนหรือเปล่า
เคยมีคนถามไปทางหนังสือพิมพ์เหมือนกันว่าหอยเชอรี่ กินได้ไหม ถ้าเอามากินได้เหมือนยำหอยแครง เห็นทีจะปราบได้อยู่หมัดอีกชนิดหนึ่ง ข้อนี้ถ้าคุณตั้งไม่เคยกินหอยเชอรี่ เห็นจะต้องส่งคำถามต่อไปยังซายาเพ็ญชมพูละค่ะ