เรือนไทย

General Category => หน้าต่างโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 17 ธ.ค. 14, 10:20



กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ธ.ค. 14, 10:20
ชอบ Consuelo Vanderbilt มาก เคยอ่านประวัติของเธอในหนังสือที่ซื้อมาจากอังกฤษนานมาแล้ว ก่อนมีโลกโซเชียลมีเดียในไทย
เธอเป็นคนสวย มีชีวิตดราม่ามาก
ขอหลีกทางให้คุณ SILA ค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 17 ธ.ค. 14, 10:28
เศรษฐีใหม่ มีลาภ ไม่มียศ จึงใช้ลาภแลกยศ

หลีกทางเช่นกัน ให้จขกท. คุณ han bing รับช่วงเล่าชีวิตบั้นปลายของเดอะคุณนาย ครับ ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ม.ค. 15, 16:19
คุณหาญบิงพาคนอ่านเรือนไทยไปสำรวจพระราชวังจีนกับนางสนมของฮ่องเต้เสียแล้ว  จึงขอแยกกระทู้มาเล่าถึงไฮโซอเมริกา ต่อจากกระทู้เดิมค่ะ
นางเอกของเราในกระทู้นี้คือ คอนซูเอโล แวนเดอร์บิลท์ Consuelo Vanderbilt


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ม.ค. 15, 16:38
นางเอกของเรามีบทบาทชีวิตอยู่ใน "ยุคทอง" ของอเมริกา

ยุคทองที่ว่านี้เป็นระยะเวลาสั้นๆประมาณ 30 ปีช่วงปลายศตวรรษที่ 19  จนถึงจุดสิ้นสุดของศตวรรษ คือ ค.ศ.1870-1900  เป็นยุคที่เศรษฐกิจของอเมริกาก้าวกระโดดแบบกระโดดสูง ไม่ใช่กระโดดธรรมดา   เป็นผลจากการพุ่งพรวดทะลุฟ้าของระบบอุตสาหกรรมที่ทำให้คนรวยก็รวยขึ้นอย่างมหาศาล แม้แต่เจ้าตัวเองก็แทบไม่เชื่อว่าตัวเองจะรวยได้ขนาดนี้   ส่วนคนจนก็จนกรอบเกรียมเหมือนเดิม  ไม่ใช่ว่าพลอยรวยขึ้นไปด้วย

ระบบอุตสาหกรรมที่สร้างผลิตผลได้มหาศาลจนทิ้งเกษตรกรรมไม่เห็นฝุ่นนั้น ยักษ์ใหญ่คือทางรถไฟที่ทอดยาวจากตะวันออกไปตะวันตก  จากฟากสมุทรแอตแลนติคสู่แปซิฟิค   นอกจากนี้ก็ยังมีอุตสาหกรรมโรงงาน  อุตสาหกรรมเหมืองแร่  ไล่ตามมาติดๆ   ตามการขยายตัวของบ้านเมืองที่เติบโตจากรัฐตะวันออกไปตะวันตก   ในดินแดนเถื่อนของรัฐตะวันตกนั้น ทรัพย์ในดินสินในน้ำซ่อนตัวอยู่มหาศาล อย่างเช่นเหมืองแร่ในโคโลราโด จนทุกวันนี้ก็ยังมีซากให้เห็นอยู่

อุตสาหกรรมต้องใช้แรงงานคนนับล้าน   ดังนั้นชาวยุโรปและแม้แต่เอเชียก็หลั่งไหลไปเป็นแรงงานของพี่เมกันกันนับไม่ถ้วน   ใครดูหนังเฉินหลงที่พี่เฉินไปผจญภัยในคาลิฟอร์เนีย เจอคนจีนด้วยกันอีกหลายกลุ่ม  นั่นแหละค่ะ แรงงานจากเอเชีย  ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิคไป


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ม.ค. 15, 12:22
ถ้าใครอ่านกระทู้ต้น  คงจะจำได้ว่าท้ายๆกระทู้พูดถึงเจ้าแม่ไฮโซแห่งสกุลแวนเดอร์บิลท์ ชื่ออัลวา   คนนั้นแหละมามีบทบาทต่อในกระทู้นี้
อัลวาเป็นเจ้าแม่ ที่บทบาทในชีวิตจริงสุดแสนดราม่า  จึงมีหนังชุดทางทีวีและหนังอะไรต่อมิอะไรฉวยเอาบทบาทเธอไปบรรเลงมาแล้วหลายเรื่อง
เธอมีลูกสาวชื่อคอนซูเอโล   นางเอกของเราในกระทู้นี้

คอนซูเอโลมีความแปลกเฉพาะตัว 2 ข้อใหญ่  อย่างแรกคือชื่อประหลาด เป็นภาษาสเปนทั้งๆไม่มีเลือดผสมสเปนแม้แต่น้อย     เธอควรจะชื่อแมรี่ หรือเอลิซาเบธ หรือชื่ออะไรที่มาจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ลอย่างสาวอื่นๆเขาชื่อกัน   แต่เธอได้รับชื่อนี้ตามชื่อของแม่ทูนหัวหรือก๊อดมาเธอร์ของเธอ ที่เป็นลูกครึ่งอเมริกัน-คิวบา   ก็เลยทำให้ดูแปลกแยกมาแต่แรก   อย่างที่สองคือเธอเป็นคนสวยจนไม่น่าเชื่อว่า เกิดมารวยแล้วยังสวยได้ขนาดนี้
ทั้งนี้ เพราะหญิงงามเช่นพระสนมลับหรือนางละครเด่นๆทั้งหลายมักจะถือกำเนิดมาต่ำต้อย ลำบากยากแค้นกันทั้งนั้น  ไม่มีใครรวยสวยเด่นมาแต่เกิด  คอนซูเอโลเป็นข้อยกเว้น  เธอเป็นเด็กสะสวยน่ารักมาแต่เกิด


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ม.ค. 15, 12:48
พ่อของเธอ วิลเลียม แวนเดอร์บิลท์ รวยจากอุตสาหกรรมรถไฟที่วางรางจากตะวันออกไปตะวันตก  ทำเงินให้เจ้าของสัมปทานได้มหาศาล    ทรัพย์สินส่วนตัวของลูกสาวคนเดียวที่เรียกว่า dowry คือเจ้าสาวเอาติดตัวไปเมื่อสมรส  มีมูลค่า 20 ล้านดอลล่าร์ หรือคิดเป็นเงินปัจจุบันคือสี่พันล้านดอลล่าร์     มันพอจะทำให้ชายโชคดีคนนั้นกลายเป็นมหาเศรษฐีแถวหน้าของประเทศได้ในพริบตา หากว่าสอยดอกฟ้าไปได้สำเร็จ

คุณนายอัลวาเองก็มองเห็นข้อนี้ตั้งแต่ลูกสาวคาบช้อนเงินช้อนทองออกมาจากในท้อง      ยังไม่ทันที่คอนซูเอโลจะอุแว้ได้ขาดเสียง   คุณนายแม่ก็วางแผนเรียบร้อยแล้วว่า อนาคตของลูกน้อยจะต้องเป็นสตรีแถวหน้าของประเทศ และของทวีป  หรือจะเป็นของโลกก็ได้ไม่เกี่ยงงอน   
ผลก็คือ เธอควบคุมลูกทุกกระดิกให้หมดจดงดงาม เท่าที่มนุษย์เพศหญิงคนหนึ่งจะมีได้    แม้ว่าลูกแม่สวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม่ก็ยังไม่พอใจ  ลูกจะต้องมีบุคลิกงาม เดินเหินนั่งยืนได้สง่าดุจนางหงส์    ด้วยเหตุนี้เด็กหญิงจึงโตขึ้นมาพร้อมด้วยแท่งเหล็กท่อนยาวผูกติดสันหลัง ซึ่งมีที่รัดเอวและยึดหัวไหล่เอาไว้เพื่อให้เธอเดินตัวตรง ไหล่ไม่โค้งงอ และพุงไม่ยื่น   เจ้าท่อนเหล็กจะคอยบังคับให้เธอเดินตัวตรงเป๊ะ งามสง่าทุกอิริยาบถ

นอกจากนี้ คอนซูเอโลไม่ได้เข้าโรงเรียนอย่างเด็กหญิงอื่น    แม่จ้างครูมาสอนที่บ้านเพื่อกวดขันความรู้ให้เป็นพิเศษ   เด็กหญิงต้องเรียนภาษาต่างประเทศทั้งฝรั่งเศสและเยอรมันจนพูดได้คล่องเหมือนภาษาตัวเอง ตั้งแต่ยังเยาว์
คุณนายอัลวาปกครองลูกสาวอย่างเข้มงวดมาก   ถ้าหากว่าหนูน้อยทำอะไรไม่ถูกใจแม่แม้เพียงเล็กน้อย เธอก็จะถูกหวดด้วยไม้สำหรับตีม้า  (riding whip)

หน้าตาเป็นยังงี้ค่ะ   ไม่เหมือนแส้ชนิดเขาโบยลงโทษกัน แต่ก็น่าจะเจ็บไม่น้อยสำหรับเนื้ออ่อนๆของเด็ก


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ม.ค. 15, 12:53
คอนซูเอโลเติบโตขึ้นมาเหมือนหุ่นที่แม่บรรจงตบและแต่งให้เข้ารูปสวยงามที่สุดเท่าที่แม่จะสรรหาได้    รวมทั้งจัดการเสื้อผ้าอาภรณ์ทั้งหลายด้วย 
เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น    วันหนึ่งเด็กสาวไม่ชอบเสื้อผ้าที่แม่หามาให้สวม   ก็บอกแม่ว่าเธอคิดว่ามันไม่สวย     เธอได้รับคำตอบจากแม่ว่า
"ฉันเป็นคนคิด  เธอไม่ต้องคิด   ทำตามที่ถูกสั่งเท่านั้นพอ"

ดูหน้าตาคอนซูเอโลในรูปนี้ก็ไม่ค่อยจะเป็นสุขนักนะคะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ม.ค. 15, 17:10
คอนซูเอโลเจริญวัยขึ้นเป็นสาวงาม ร่างระหง สูงถึงห้าฟุตแปดนิ้ว  เอวบางร่างน้อยตามความนิยมสมัยปลายศตวรรษที่  19 ที่ผู้หญิงจะต้องรัดเอวเข้าไปให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้   เธอมีจมูกโด่งเรียวและผมสีเข้มดกหนาเป็นคลื่น   จริตกิริยาก็ละมุนละม่อมน่ารัก เป็นที่จับตาจับใจคนทุกคนที่เห็น

ความงามของคอนซูเอโลนั้นถึงกับเล่ากันว่า เซอร์เจมส์ บาร์รี่ นักประพันธ์ชาวอังกฤษผู้แต่งเรื่อง "ปีเตอร์แพน" ที่เด็กๆรู้จักกันดี ถึงกับออกปากว่า
" ผมยอมยืนตากฝนตลอดคืน ขอเพียงได้เห็นคอนซูเอโลเดินผ่านไปขึ้นรถม้าของเธอแวบเดียวเท่านั้น"

บัดนี้ พอเป็นสาว ก็ถึงเวลาสำคัญที่สุดคือ เตรียมตัววิวาห์   ในเมื่อคุณนายแม่บังคับมาตั้งแต่เล็ก  เรื่องนี้จะเว้นได้อย่างไร     เจ้าบ่าวของหญิงสาวผู้มั่งคั่งที่สุดในอเมริกาจะต้องไม่ใช่ผู้ชายสามัญชน  แม้แต่เศรษฐีก็ยังด้อยอยู่ดี       คุณแม่เล็งแลไปที่ผู้ชายหัวกะทิที่สุดในยุโรปเท่าที่จะหาได้   ลูกสาวชั้นจะต้องไม่ใช่ "นาง" อย่างคนอื่นๆ  เมื่อแต่งงาน  แต่จะต้องมีคำนำหน้าหรูหรากว่านี้


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ม.ค. 15, 17:27
ชายหนุ่มที่คุณสมบัติลอดผ่านนิ้วมือคุณนายอัลวามาได้   มี 5 คน  หนึ่งในจำนวนนี้ที่แม่เปิดไฟเขียวผ่านตลอดให้   คือ เจ้าชายโจเซฟ ฟรานซ์ แห่งแบตเตนเบิร์ก  เป็นพระราชโอรสองค์เล็กของพระเจ้าแผ่นดินแห่งบุลกาเรียพระองค์ก่อน   และพระราชอนุชาของพระเจ้าแผ่นดินบุลกาเรียองค์ปัจจุบันในตอนนั้น       แม้ว่าไม่ได้ครองราชย์  เจ้าชายก็ยังมีสิทธิ์อยู่ในลำดับสืบราชบัลลังก์    ที่สำคัญคือถ้าเสกสมรสกับใคร  ผู้หญิงคนนั้นก็กลายเป็นเจ้าหญิงในทันที

คุณนายอัลวาฝันหวานที่จะได้เห็นใครๆถอนสายบัวให้ลูกสาว  จะพูดจะจาด้วยก็ต้องเรียกเธอว่า "ใต้ฝ่าพระบาท" เธอจะได้เข้าร่วมในพระราชพิธีสำคัญๆของยุโรป    แต่ฝันของนางก็สลายเมื่อคอนซูเอโลยืนกรานหัวเด็ดตีนขาด ไม่ยอมแต่งงานกับเจ้าชาย เพราะเธอเกลียดเจ้าชายตั้งแต่แรกเห็น   ยังหาอ่านไม่พบว่าเจ้าชายองค์นี้มีอะไรไม่ดี   แต่ก็คงไม่เหมือนท่านชายพจน์ของปริศนาแน่ๆ   นางเอกของเราจึงไม่ไยดีกับตำแหน่งเจ้าหญิงเอาเสียเลย


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 11 ม.ค. 15, 19:09
หวั่นใจแทนนางเอกในนิยายชีวิตเรื่องนี้ซะแล้วซีคะ ไม่รู้คุณนายแม่จะเขียนบท กำกับชีวิตลูกสาวต่อไปยังไง


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ม.ค. 15, 12:57
ทั้งๆแม่ควบคุมเข้มงวดทุกกระดิก    คอนซูเอโลก็ยังดอดไปคบหนุ่มเข้าจนได้    หรือจะพูดอีกอย่างก็ได้ว่าเพราะแม่คุมขนาดนี้ ลูกสาวจึงต้องดิ้นรนหาอิสระของหัวใจ
เจ้าหนุ่มที่ว่านั้นก็ไม่ใช่ยาจกหวังปองดอกฟ้า แต่เป็นลูกชายมหาเศรษฐีอเมริกัน มีนามว่า วินธรอป รูเธอเฟิด    เป็นพ่อแม่บ้านอื่นเขาก็คงลงความเห็นว่าเป็นใบหยกมารองรับกิ่งทองอย่างลูกสาวเขา  เหมาะสมกันแล้ว   
แต่อัลวาไม่เหมือนแม่คนอื่นๆ   เธอตั้งธงชัยเอาไว้ว่า ลูกสาวเธอจะต้องเกินหน้าลูกสาวมหาเศรษฐีอื่น   ดังนั้นเศรษฐีอเมริกันจึงพื้นๆไปสำหรับยอดแม่ยาย
คอนซูเอโลดอดไปรับหมั้นเงียบกับนายวินธรอป    เพื่อจะหลุดพ้นจากแม่   แต่แม่ก็เด็ดกว่า  บังคับให้ถอนหมั้นจนสำเร็จ

คอนซูเอโลดิ้นรนไม่ยอมรับคำขอแต่งงานกับเจ้าชายเป็นการตอบแทนแม่      แม่ก็ตอบแทนกลับมาอีกที ด้วยการพาลูกสาวไปเที่ยวยุโรปตามธรรมเนียมคนรวยสมัยนั้น    ความจริงเพื่อเล็งแลลูกเขยผู้ดีมีตระกูล เพื่อจะมาเป็นฐานส่งเสริมหน้าตาให้เงินทองที่มีเหลือเฟือแล้วของตระกูลแวนเดอร์บิลท์

ในตอนนั้นเอง   ปลาตัวโตสุดแห่งตระกูล Marlborough ก็เดินเข้ามาในอวนของคุณนายอัลวา


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ม.ค. 15, 13:07
คำว่า Marlborough ซึ่งเป็นชื่อบุหรี่ยี่ห้อหนึ่งด้วย คนไทยออกเสียงว่า มัลโบโร   แต่ฝรั่งอังกฤษออกเสียงว่า "มาลบรา" หรือ "มัลบรา"
มัลบรา เป็นบรรดาศักดิ์เก่าแก่ของขุนนางผู้ทรงเกียรติของอังกฤษ    หัวหน้าตระกูลมีตำแหน่งเป็นถึงท่านดุ๊คหรือเราสะกดว่า ดยุค   อันเป็นขุนนางอันดับสูงสุด   ภรรยาท่านดยุคเป็นดัชเชส  เทียบอย่างง่ายๆกับไทยก็พอจะเรียกได้ว่าท่านผู้หญิง  ส่วนขุนนางรองๆลงมาคือมาควิส เอิร์ล เคานต์ อะไรพวกนี้ ภรรยาก็เป็นได้ระดับคุณหญิง

ดยุคบางคนเป็นเจ้านายเช่นดยุคออฟยอร์ค ซึ่งเป็นบรรดาศักดิ์ของพระราชโอรสองค์รองของกษัตริย์    แต่ดยุคบางคนก็เป็นสามัญชนไม่ใช่เจ้า แต่ไม่ใช่คนเดินดิน  เป็นคนที่คลานจากท้องแม่ออกมาเป็นเจ้าของปราสาทหรือคฤหาสน์ประจำตระกูล    เช่นดยุคแห่งมัลบราคนที่ 9  ซึ่งคุณนายอัลวานัดดินเนอร์ด้วย    ดยุคคนนี้สืบตำแหน่งจากพ่อ ที่ตายไปด้วยอายุค่อนข้างสั้น    ตัวเขาเองยังเป็นหนุ่มแน่น งามสง่า สติปัญญาปราดเปรื่อง จบจากเคมบริดจ์  และที่สำคัญ...คุณนายกรี๊ดสุดๆ  คือ ยังโสด


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ม.ค. 15, 20:45
ชาร์ลส์ ริชาร์ด จอห์น สเปนเซอร์-เชอร์ชิลล์   ขึ้นสืบตำแหน่งดยุคแห่งมัลบราต่อจากพ่อเมื่ออายุเพียง 21 ปี  นอกจากบรรดาศักดิ์ชั้นเลิศแล้ว   เขายังมี "วังเบลนนิม( Blenheim Palace) อันโอ่อ่าเป็นคฤหาสน์ประจำตระกูลอีกด้วย   มันเป็นบ้านของสามัญชนหลังเดียวที่ได้รับชื่อว่า "วัง"  หน้าตาก็หรูหราอลังการพอจะเป็นวังได้สบายๆ

ทั้งสองอย่างนี้ก็พอแล้วที่คุณนายอัลวาจะตัวลอยติดเพดาน  เมื่อได้มีโอกาสรู้จัก และชักนำชายหนุ่มมาพบปะทำความรู้จักกับลูกสาวคนงามของเธอได้สำเร็จ     แต่สิ่งที่คุณนายไม่รู้ หรือรู้แต่มองข้ามไป  คือ พร้อมกับความอลังการบนเปลือกนอกนี้  ตระกูลมัลบราเป็นหนี้สินรุงรังต่อกันมาสามสี่ชั่วคนแล้ว    ยิ่งวันก็ยิ่งจมปลักลงในหนี้สิน ขนาดภาพวาดงามๆฝีมือจิตรกรมีชื่อที่ประดับคฤหาสน์ถูกนำออกขายมาหลายหนเพื่อต่อไส้เจ้าของมิให้แห้งติดสันหลัง     ไม่ต้องพูดถึงเครื่องเพชรหรือของมีค่าอย่างอื่น   เรียกว่าอะไรขายได้  พ่อ ปู่ และทวดของว่าที่ลูกเขยคุณนาย ขายเรียบหมด

ด้วยเหตุนี้ ชาร์ลส์จึงไม่ขัดข้องที่จะทำความรู้จักกับทายาทสาวมหาเศรษฐีอเมริกัน    ส่วนคอนซูเอโลก็ไม่รู้เรื่อง เพราะแม่พาเธอไปรู้จักใครต่อใครในวงไฮโซนับไม่ถ้วน     เธอรู้สึกแต่ว่าท่านดยุคหนุ่มคนนี้เป็นชายที่ดูฉลาดปราดเปรื่องทรงภูมิรู้  แต่มีท่าทีหยิ่งยโสถือตัวเหลือประมาณ

ึMarlborough Palace
V
ป.ล.บ้านนี้ปัจจุบันเปิดให้ชมนะคะ     เคยไปดูมาแล้ว   ใหญ่จนเดินเมื่อยเลยละค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 16 ม.ค. 15, 22:43
ขอบขอบพระคุณอาจารย์เทาชมพูมากครับ

ช่วงนี้ผมค้นเรื่องในวังจีน เพราะว่าต้องไปบรรยาที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งแถวทุ่งรังสิต ๓ สัปดาห์ ว่าด้วยเรื่อง "ระบบศักดินาจีน - ศึกษาจากชีวิตนางในสมัยราชวงศ์ชิง" เลยต้องค้นกันเพลิน

;D



กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ม.ค. 15, 11:11
ขอบคุณค่ะ คุณหาญบิง

กลับมาเรื่องคอนซูเอโล
เธอไม่ได้ประทับใจกับท่านดยุคอะไรนี่สักเท่าใดนัก   ดินเนอร์กันไม่นาน คอนซูเอโลก็เบื่อ อยากจะกลับโฮเต็ลไปอ่านจดหมายรักของหนุ่มวินธรอปซึ่งส่งมาให้ประจำ    
เธอไม่ได้ล่วงรู้ว่า ทั้งท่านดยุค(ซึ่งก็ไม่ได้ประทับใจกับเธอเป็นพิเศษเช่นกัน) และแม่ของเธอ ได้ตกลงปลงใจเรียบร้อยแล้วว่าคอนซูเอโลจะต้องนั่งตำแหน่งท่านผู้หญิงแห่งคฤหาสน์งามเลิศ   หากโหรงเหรงเพราะเฟอร์นิเจอร์และภาพประดับงามๆถูกขายใช้หนี้ไปเกือบหมดบ้านแล้ว

เมื่อกลับมาอเมริกา แม่ลูกก็เปิดฉากดราม่ากันทันที   คอนซูเอโลตัดสินใจบอกแม่ว่าบัดนี้เธอก็โตเป็นผู้ใหญ่พอจะเลือกชีวิตของตัวเองได้แล้ว   เธออยากจะแต่งงานกับวินธรอป     คำนี้เปรียบเหมือนฟ้าผ่าลงมาบนหัวอัลม่า   เจ้าตัวก็ปรี๊ดใส่ลูกสาว  ด่าว่าวินธรอปเสียยับเยินว่า มันแต่งงานกะลูกก็เพื่อหวังสมบัติเอาเงินต่อเงิน (ข้อนี้ไม่จริง)  ไอ้ตระกูลนี้มันบ้าๆบอๆมาหลายชั่วคน(นี่ก็ไม่จริง) ไอ้หนุ่มนี่ก็ได้ข่าวว่าเป็นหมัน มีทายาทไม่ได้ด้วย(ข้อนี้ไม่จริงอีก ภายหลังเขามีลูกถึงหกคน)

อัลม่าขังลูกสาวไว้ในบ้าน สั่งพี่เลี้ยงและครูห้ามใครติดต่อด้วยเด็ดขาด    ส่วนตัวเธอก็ใช้ไม้เด็ดสุดท้าย คือทำเป็นล้มป่วยกะทันหัน ด้วยอาการเพียบหนักเหมือนจะตายมิตายแหล่


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 22 ม.ค. 15, 21:02
ยังมีต่อใช่ไหมคะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ม.ค. 15, 21:26
โดนทวงแล้ว  มีค่ะ
รอแป๊บ


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ม.ค. 15, 21:52
   เพื่อให้บทบาทป่วยจะตายมิตายแหล่สมจริง  อัลวาจัดฉากให้เพื่อนสนิทกระหืดกระหอบมาเยี่ยมอาการป่วย   แล้วออกไปบอกคอนซูเอโลว่า แม่ของเธอกำลังป่วยหนัก มีอาการ "ฮาร์ทแอทแถ็ก"  อันเป็นโรคหัวใจ  เกิดจากเครียดเพราะลูกสาวเป็นเหตุ   คอนซูเอโตก็เลยโดนจัดเต็มเข้าให้   เพราะเพื่อนแม่ย้ำหนักหนาว่าอย่าพูดเรื่องไม่ยอมแต่งอีก  มันมีแต่จะทำให้แม่หัวใจวายปุบปับได้
   คอนซูเอโลซื่อเกินกว่าจะนึกออกว่านี่คือแผนมารยาสาไถยของแม่บังเกิดเกล้า  เธอก็ตื่นตระหนกเสียไม่มีดี     อัลวาจัดการขั้นต่อไปให้ครูพี่เลี้ยงของลูกสาวเกลี้ยกล่อมเข้าให้อีกชั้นหนึ่ง       ระหว่างที่หญิงสาวกระวนกระวายดูหมอมาตรวจอาการแม่  ครูก็กรอกหูพร่ำพรรณนาถึงชีวิตเริ่ดอลังการในฐานะท่านผู้หญิงแห่งอังกฤษ   ว่ามันสุดแสนจะดีวิเศษ เกินหน้าผู้หญิงหมดทั้งสองทวีป
  โดนล้างสมองขนาดนี้  ผลก็เป็นอย่างที่มันต้องเป็น คือคอนซูเอโลยอมถูกลากจูงเข้าประตูวิวาห์


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 24 ม.ค. 15, 17:50
รอค่ะ รอ ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 25 ม.ค. 15, 05:42
มาทวงตอนต่อครับ


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ม.ค. 15, 19:27
ขออภัยด้วยค่ะ ช่วงนี้ไม่มีเวลาเข้าเรือนไทยเลย  กระทู้เลยคลานช้าไปหน่อย


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 30 ม.ค. 15, 14:01
ไม่ได้ทวงนะคะ แค่มาเตือนความจำค่ะ ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 30 ม.ค. 15, 14:31
รู้สึกว่าอ่านสนุกกว่าเรื่องอื่น

ถึงรวยล้ำ ก็ยังพอมองเห็นภาพนิดๆ เพราะเป็นสามัญชน ตัวอย่างในเมืองไทยก็พอมี...อย่างน้อยก็บ้านทรายทอง วนิดา ฯลฯ

 ;D ;)


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ม.ค. 15, 20:46
มาต่อ
อัลวาเป็นแม่ประเภทฮิตเลอร์ชิดซ้าย     ในเมื่อปักใจว่าตัวเองพยายามจะ "มอบสิ่งที่ดีที่สุด" ให้ลูกสาว   จึงไม่มีคำว่าปฏิเสธในปทานุกรมของคุณนาย   
เธอทำได้แม้แต่ลากลูกสาวออกจากงานเต้นรำที่มีเจ้าหนุ่มวินธรอปอยู่ในงานด้วย  เพื่อไม่ให้เจอกันอีก 
คอนซูเอโลเองแม้ว่าเป็นเด็กฉลาดเรียนเก่ง แต่เธอก็ถูกแม่ข่มเสียจนไม่มีกะจิตกะใจจะปฏิวัติด้วยการหนีตามแฟนไปเสียรู้แล้วรู้รอด     สาวน้อยจึงกลายเป็นลูกไก่ในกำมือแม่ไป

อีกฟากหนึ่งของมหาสมุทร    ดยุคหนุ่มแห่งมัลบราก็กำลังขบคิดปัญหาหนัก   

สิ่งที่คุณนายอัลวาไม่รู้คือหนุ่มเนื้อทองรายนี้ แม้ว่ายังโสด แต่ก็มีสัมพันธ์กับสาวนางหนึ่งแล้ว   เป็นสาวงามที่เขารักด้วยใจจริง  แต่เจออุปสรรคสำคัญคือเธอไม่มีเงินทองมากพอจะช่วยกอบกู้ฐานะเขาได้   อย่างที่สองคือเขาตระหนักดีว่าตัวเองมีสิทธิ์จะเลือกสาวๆได้ทั่วพระราชอาณาจักรอังกฤษ จะรีบร้อนไปไย สู้เลือกปลาตัวโตที่สุดให้ได้ชัวร์เสียก่อนดีกว่า

สมองของชาร์ลส์พล่านไปด้วยตัวเลขบวกลบคูณหาร     คำนวณอย่างหนักจนครบเวลา 6 สัปดาห์ที่เขาสัญญิงสัญญากับคุณนายอัลวาไว้ว่าจะไปเยี่ยมเธอที่นิวยอร์คเป็นการตอบแทน    ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจว่า ไม่มีใครมีสินส่วนตัวมากเท่าทายาทมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน  เพราะฉะนั้นท่านผู้หญิงมัลบราคนใหม่ ก็จะต้องเป็นคอนซูเอโลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 01 ก.พ. 15, 20:22
รออออออออออ่านตอนต่ออยู่นะคะ ;D


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.พ. 15, 20:36
รอออออออออออออต่อไปอีกนิดนะคะ   


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: luckynee ที่ 07 ก.พ. 15, 21:20
สมาชิกใหม่รออ่านอยู่นะคะ ขอบคุณค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.พ. 15, 21:14
     หลังจากทอดแหจนทั่วอังกฤษแล้ว  ซันนี่(ชื่อเล่นของดยุคแห่งมัลบรา) ก็หาได้พบปลาตัวไหนโตเท่าปลาสาวจากนิวยอร์คไม่   เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปเยี่ยมว่าที่แม่ยายตามกำหนดสัญญา    คุณนายอัลวาก็เนื้อเต้น เปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้พบปะกัน ทำความรู้จักคุ้นเคยกัน  ไปงานเลี้ยง ดินเนอร์ สังสรรค์ เต้นรำ กันตลอด เท่าที่สังคมไฮโซของนิวยอร์คจะมีคิวให้ได้   คอนซูเอโลจึงมีทางเลือกเพียงทางเดียว คือตัดสินใจแต่งงานกับขุนนางหนุ่มชาวอังกฤษ  ดีกว่าจะกลายเป็นนักโทษของแม่ไปตลอดกาล
     การขอแต่งงานเป็นไปอย่างถูกต้องตามพิธีรีตองและสวยงามสำหรับหนุ่มสาว  แต่เบื้องหลังของมันคือทนายความที่ปรึกษากฎหมายของแต่ละฝ่ายตกลงต่อรองกันอย่างเคร่งเครียดว่าเจ้าบ่าวจะได้อะไรเป็นสินสมรสบ้าง    นอกจากเงินสดก้อนเท่าภูเขาเลากาแล้ว ก็ยังมีหุ้นในธุรกิจรถไฟ อีก 2.5 ล้านดอลล่าร์ที่มีเงินปันผลรายปี ตกสู่กระเป๋าเจ้าบ่าวแต่ฝ่ายเดียว  และยังมีเงินอีกครึ่งล้านปอนด์ไว้ปลูกบ้านหรูในลอนดอน   สรุปว่าเงินที่ซันนี่จะได้ไปมีมูลค่าประมาณ 15 ล้านดอลล่าร์   
    ถังข้าวสาลีอเมริกันที่ขุนนางอังกฤษโดดลงไปนี้  เป็นถังทองคำฝังเพชรที่ทำให้การซ่อมแซมฟื้นฟูปราสาทของตระกูล ง่ายดายปานพลิกฝ่ามือ


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.พ. 15, 21:22
  ด้วยความไม่ไว้ใจลูกสาว เกรงว่าจะหอบผ้าหนีตามคนรักไป  คุณนายอัลวาถึงกับสั่งคนรับใช้ชายให้ยืนยามอยู่ตลอดคืน ในคืนก่อนวิวาห์    แต่คอนซูเอโลไม่คิดแหกคอกอย่างนั้นอยู่แล้ว    เธอเป็นเด็กดีเกินกว่าจะลุกขึ้นทำอะไรให้เสื่อมเสียวงศ์ตระกูล   
  ในเช้าวันวิวาห์   เธอสวมชุดเจ้าสาวที่เริ่ดหรูอลังการเท่าที่เงินจะเนรมิตได้    ก่อนออกจากบ้านตรงไปที่โบสถ์ซึ่งเจ้าบ่าวรออยู่ เธอไปหาพ่อ   อ้อนวอนพ่อเป็นครั้งสุดท้ายขอให้ปลดปล่อยเธอออกจากพันธะที่เธอไม่ประสงค์   แต่พ่อเธอซึ่งแยกทางกับแม่เพราะทนเมียไม่ไหวมานานแล้ว ก็ได้แต่สวมกอดลูกสาวด้วยความสงสารสุดซึ้ง   หากไม่อาจจะยื่นมือเข้าไปช่วยได้แม้แต่หนึ่งในร้อย
   เมื่อเดินไปตามทางระหว่างแขกผู้มีเกียรติทั้งสองข้างในโบสถ์   ใต้ผ้าคลุมหน้า  คือดวงหน้านองน้ำตาของเจ้าสาว  ตรงไปหาเจ้าบ่าวที่ยืนสง่ารออยู่พร้อมกับเงิน 15 ล้านดอลล่าร์ในกระเป๋า


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.พ. 15, 21:23
ชุดวิวาห์ของเจ้าสาวแห่งปี


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 09 ก.พ. 15, 19:57
สงสารน้องคอนซูเอโลสุดๆ จนต้องย้อนกลับไปอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ก็ให้นึกสงสัยว่าพ่อของเธอรวยด้วยตัวเอง ไม่ใช่หนูตกถังข้าวสาลีนี่นา แล้วทำมั้ยยยยยถึงได้กลัวยัยเมียตัวแสบนัก ไม่กล้าหืออือ ไม่กล้ายื่นมือเข้ามาช่วยลูกสาว >:(


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.พ. 15, 20:28
มีแม่อย่างอัลวา  คุณแอนนาเองก็ต้องกลัวค่ะ

วิวาห์มหาเริ่ดของคอนซูเอโลดูเอิกเกริกยิ่งกว่าหนังใหญ่รอบพรีเมียร์เสียอีก  ประชาชนชาวนิวยอร์คแห่กันมาเป็นขบวนริมถนน จนถึงโบสถ์ซึ่งอลังการไปด้วยดอกไม้สดและการประดับประดาอย่างไม่มีคำว่าสิ้นเปลือง   ชุดวิวาห์เจ้าสาวก็อลังพอกับโบสถ์    เพื่อนเจ้าสาวก็ยกพลกันมาเต็มเพียบ
ทุกสิ่งทุกอย่างสมใจคุณนายอัลวา ผู้ฝันจะเห็นงานวิวาห์ยิ่งใหญ่ที่สุด หรูสุด  โก้สุด และอะไรต่อมิอะไรสุดเท่าที่คำว่าสุดจะสุดได้  
เว้นอย่างเดียวที่ไม่อยู่ในแผนงาน คือเจ้าสาวขอให้พ่อชะลอเวลาที่จะเข้าโบสถ์ไปถึงยี่สิบนาที  เพื่อยืดเวลาที่เธอเห็นเหมือนเดินเข้าหลักประหารออกไป
แต่ในที่สุด  สาวน้อยก็ต้องเดินเข้าสู่พิธีวิวาห์   เธอเหลือบมองเจ้าบ่าวผู้ที่เธอมิได้รัก หวังว่าเขาจะมองสบตาเธออย่างอบอุ่นให้กำลังใจ  ก็พบว่าดยุคแห่งมัลบราเอาแต่จ้องเป๋งไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย  มิได้มองเจ้าสาวแม้แต่แวบเดียว


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 09 ก.พ. 15, 22:21
กระทู้นี้ช่างมาเหมาะเจาะกับกาลเวลา ไม่กี่วันนี่เอง นสพ.ฉบับหนึ่งแฉว่า ไฮโซสาวตระกูลค้ารถยนต์ออกมาประกาศทางโซเชี่ยลเน็ทเวิร์คให้สังคมได้รู้ว่า ข้าราชการหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ขอเงินไป 1 ล้านก็ให้ ไม่พอ มาขออีก 5  ล้านจะเอาไปซื้อตำแหน่ง เมื่อไม่ให้ ข้าราชการหนุ่มคนนั้นเลยขอบอกเลิก

แท้จริงแล้ว ผู้ชายแบบนี้มีมาทุกยุคสมัย น่ารังเกียจ :-\ :-\

อ่านแล้วสงสัยว่าเวลาที่ทนายของดยุคผู้ทรงเกียรติเจรจาขอเงินจากทางฝ่ายหญิง ไม่รู้สึกอัปยศบ้างหรือไร? :(


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.พ. 15, 09:28
การแต่งงานของฝรั่งทั้งอังกฤษและอเมริกันในสมัยนั้น   เหมือนประเพณีอินเดียค่ะคุณ Scarlet  คือเจ้าสาวเป็นฝ่ายมอบสินสอด(dowry อ่านว่าดาวรี่)ให้ฝ่ายชายเมื่อแต่งงาน   แต่ผู้หญิงไม่ได้ไปสู่ขอ  ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายขอแต่งงาน  ให้สาวเจ้ายอมตกลง
จากนั้นหญิงต้องเป็นฝ่ายมอบสินสอด(ทองหมั้น) ซึ่งอาจเป็นเงินทอง ที่ดิน หุ้น บ้าน ทรัพย์สินอะไรก็ได้ให้เป็นสิทธิ์ของสามีจะบริหารเงินต่อไป

เขาไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผู้ชายจะต้องกระมิดกระเมี้ยนอับอายในการเรียกร้อง  แต่ตกลงกันเปิดเผยเหมือนคุณ Scarlet มีลูกสาว  หากมีผู้ใหญ่ฝ่ายหนุ่มมาสู่ขอ  คุณก็มีสิทธิ์เรียกแหวนหมั้น หรือบ้านพร้อมที่ดิน  จากฝ่ายชายได้หากเห็นว่าเขารวยพอ
เพียงแต่ในธรรมเนียมฝรั่ง มันกลับเพศกันเท่านั้นค่ะ

ด้วยเหตุนี้  พ่อคนไหนมีลูกสาว ถ้าแกรวยก็ประกาศตั้งสินส่วนตัวหรือดาวรี่เมื่อลูกสาวโตเป็นสาว ว่าจะให้ดาวรี่กี่แสนกี่ล้านก็ว่ากันไป   เพื่อเลือกเจ้าหนุ่มที่สมน้ำสมเนื้อ     ลูกสาวฉันมีเงินแยะ ฝ่ายคุณก็ต้องมีอะไรมาแลกเช่นเงินพอกัน หรือยศศักดิ์ที่โอ่อ่าเชิดชูหน้าตาพอกัน   
ถ้าแกมันคนจน ก็ไปอยู่กับผู้หญิงจนๆด้วยกันเถอะไป๊


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 10 ก.พ. 15, 10:01
อ้อครับ ผมเพิ่งทราบประเพณีของคนอังกฤษว่าแบบนี้ ส่วนของอินเดียก็ทราบมาบ้างเหมือนกันว่าหญิงเป็นฝ่ายสู่ขอ สู่ขอยังไม่พอ แทบจะเหมือนทาส สามีตายต้องเผาตัวตายตาม  ส่วนฝ่ายชายไม่เคยมีใครบอกว่า ภรรยาตาย ต้องเผาตัวตามไป  :'( :(

ดีใจท่ี่่ สังคมสิ่งแวดล้อมในเมืองไทย ธรรมเนียม ค่านิยม ประเพณี ฝ่ายชายมีหน้าที่รับผิดชอบ เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ แต่ว่าหลังจากแต่งงานกันแล้ว เท่าที่ทราบ มักเป็นผู้รับมากกว่าผู้ให้ เพราะชอบเอาเงินไปบริหารจัดการมากกวาฝ่ายหญิง ซึ่งฝ่ายหญิงมักเต็มใจหรืออนุโลม ถ้าเห็นว่ามีความรับผิดชอบ

เชิญท่านอาจารย์เล่าเรื่องต่อครับ (แอบ)ติดตามอ่านมาเรื่อยๆ เล่า/เขียนอะไรก็สนุกครับ ในว่าอยู่ในอารมณ์ไหน ขออนุญาตสาธุการ ตัวจริงเป็นใครกันหนอ ;D :D ;) 8)


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.พ. 15, 11:11
อ้างถึง
ตัวจริงเป็นใครกันหนอ

รีบเข้ามาปรามไว้ก่อน
คุณเพ็ญชมพูไม่ต้องตอบ ไม่ต้องทำลิ้งค์ ไม่ต้องแปะรูปภาพ ฯลฯ อะไรทั้งนั้น
คำสั่งนี้ครอบคลุมถึงคนอื่นๆในเว็บ รวมทั้งเจ้าปางฟ้าด้วยค่ะ 


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 ก.พ. 15, 11:28
(http://f.ptcdn.info/773/026/000/1419227379-14-o.gif)


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 10 ก.พ. 15, 15:10
ไม่ยากหรอกครับ ท่านอาจารย์ อะนาวซ์เมนท์อะไรที่เฝคๆ รีเควสท์ไป ยังมีผู้อนุเคราะห์ไลน์มาให้เล้ยยยย...... ;D ;D 8)


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 10 ก.พ. 15, 18:05

รีบเข้ามาปรามไว้ก่อน
คุณเพ็ญชมพูไม่ต้องตอบ ไม่ต้องทำลิ้งค์ ไม่ต้องแปะรูปภาพ ฯลฯ อะไรทั้งนั้น
คำสั่งนี้ครอบคลุมถึงคนอื่นๆในเว็บ รวมทั้งเจ้าปางฟ้าด้วยค่ะ  

ตายแล้ว รอกระทู้นานจนเหงือกแห้งรอไม่ไหว เมื่อวานแอบไปอ่าน wiki ด้วยทักษะภาษาอังกฤษงูๆ ปลาๆ ว่าความสัมพันธ์ของสองหนุ่มสาวนี้จะลงเอยอย่างไร ว่าจะมาสปอยล์ซะหน่อย โดนคำสั่งห้ามเด็ดขาดซะแล้ว  :-X  :-X  :-X


พูดถึงเรื่องการแต่งงานฝรั่ง  คนทั่วไปผมไม่รู้เหมือนกัน แต่ตอนนี้เห็นฝรั่งรวยๆ ไม่ว่าหญิงชาย โดยเฉพาะที่ฝ่ายหนึ่งรวยกว่าอีกฝ่ายมากๆ  ก่อนแต่งงานเค้าจะจับอีกฝ่ายมาเซ็นสัญญาไว้ก่อน ว่าถ้าหย่ากันอีกฝ่ายจะมีสิทธิหรือได้รับอะไรบ้าง ตกลงกันให้ลงตัวเรียบร้อย เวลาหย่ากันอีกฝ่ายจะได้เรียกร้องเกินกว่าสัญญาไม่ได้ เช่นจะได้ค่าเลี้ยงดูปีละเท่าไหร่ก็ว่าไป แต่สินสนรสที่อีกฝ่ายหามาไม่ต้องแบ่ง อะไรแบบนี้ เจอเงื่อนไขแบบนี้ผมเลยต้องปฏิเสธ'ซุปตาร์ฮอลลีวู้ดไปหลายคนเลย  แบบว่ารับไม่ได้ เพราะรักแท้ต้องไม่มีเรื่องเงินมาขวางกั้น


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: Twingle star ที่ 11 ก.พ. 15, 06:46
สารภาพว่า แอบไปหารูป winthrop rutherfurd ด้วยความอยากรู้ค่ะ ว่าหน้าตาเป็นยังไง
หล่อกว่าท่านดยุค มากน้อยเพียงไร

แต่เจอรูปเมื่อแก่แล้วค่ะ ดูเป็นคนที่บุคลิกดีค่ะ
ในขณะที่ท่านดยุค รู้สึกหน้าตาเจ้าเล่ห์ ยังไงไม่รู้


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 11 ก.พ. 15, 20:36
นิสัยสะท้อนออกไปถึงหน้าตาไงคะ เห็นอยู่โต้งๆว่าผู้หญิงเค้าทุกข์แค่ไหนที่ต้องแต่งกับตัว ก็ยังไม่รู้สึก เพราะเงินมันบังตาย้อมใจให้เป็นสีดำ >:(


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.พ. 15, 22:25
มองในสายตาของคุณนายอัลวา    การที่เธอผลักดันลูกสาวให้เข้าประตูวิวาห์ไปเป็นท่านผู้หญิงของขุนนางอังกฤษตระกูลสูงสุดเท่าที่สามัญชนจะสูงได้ คือความรักและปรารถนาดีโดยแท้     
เธอต้องการให้ลูกสาวได้รับ "สิ่งที่ดีที่สุด" ในชีวิต   เพราะชีวิตสมรสของอัลวากับสามีล้มเหลว   สองคนนี้แยกกันอยู่ก่อนหย่าขาดกัน  การเป็นอดีตภรรยาของมหาเศรษฐีแม้ว่าไม่ยากจนเงินทองเพราะได้ส่วนแบ่งมาเพียบ แต่ก็ขาดแคลนฐานะทางสังคม     เพราะสังคมอเมริกันอ้าแขนต้อนรับก็ต่อเมื่อนางคนนั้นหรือคุณนายคนนี้ยังดำรงตำแหน่งภรรยาของเศรษฐี     แต่ถ้าเป็นแม่ม่ายร้าง ผ. เมื่อไร    เธอก็จะกลายเป็นส่วนเกินของสังคมทันที

แต่ถ้าคอนซูเอโลไปเป็นท่านผู้หญิง   สามีจะทิ้งขว้าง ดีไม่ดียังไง เธอก็ยังมีเกียรติในสังคม   สามารถเดินเชิดหน้าอยู่ในสังคมได้อย่างสง่า เพราะมีไตเติ้ลท่านผู้หญิงนำหน้าอยู่     
อีกอย่าง เงินสินสอดมหาศาลที่ท่านดยุคได้ไปจากภรรยา ก็เป็นหลักประกันความมั่นคงให้ฝ่ายหญิงอยู่แล้ว    ใครมันจะโง่ขว้างถังข้าวสาลีฝังเพชรทิ้งไปง่ายๆ


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.พ. 15, 22:39
ถ้าหากว่าเรื่องนี้เป็นละครหลังข่าว   พระเอกนางเอกวิวาห์กันเพราะจำใจแต่ง    ไม่ได้รักกันเลยแม้แต่น้อย  พระเอกอาจมีแฟนเก่าที่รักกันแต่แต่งกันไม่ได้เพราะพระเอกมีหนี้สิน ต้องรับนางเอกมาเป็นภรรยาเพื่อเอาเงินพ่อตามาจ่ายหนี้    ร้อยทั้งร้อย พระเอกก็จะต้องหลงรักนางเอกแสนสวยแสนดี      ลงเอยด้วยแฮปปี้เอนดิ้ง  ส่วนนางแฟนเก่าที่ปราศจากความผิดก็ต้องกระเด็นออกนอกทางไปในฐานะนางร้าย
แต่ชีวิตจริง ไม่เคยสวยงามอย่างนิยายอยู่แล้ว

ในเมื่อคอนซูเอโลกับซันนี่  ดยุคแห่งมัลบราไม่ได้รักกันมาแต่แรก  การสมรสก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้ทำให้ทั้งสองเกิดความรักกันขึ้นมาได้    ชีวิตคู่เต็มไปด้วยความเย็นชาเข้าหากัน    คอนซูเอโลหาทางออกด้วยการไปเล่นการเมือง ทำตัวเป็นแอคทิวิสต์ในแบบไม่รุนแรงอะไร   บำเพ็ญกุศลกับชาวบ้านในท้องถิ่น และปกครองคนรับใช้ด้วยความเมตตากรุณา ตามนิสัยอ่อนโยนประจำตัว
ก็เพราะเป็นผู้หญิงดีและอ่อนหวาน  คนรอบตัวเธอจึงรักเธอมาก    จะเว้นก็แต่คนเดียวที่ควรรักแต่ไม่ยักรัก  ก็คือสามี    
ซันนี่กับเธอมีนิสัยแตกต่างกันเกินกว่าจะเข้ากันได้     แต่เธอก็อุตส่าห์ผลิตทายาทชายให้ถึง 2 คน  เป็นอันครบหน้าที่   มัลบรามีทายาทและทายาทสำรอง( อย่างที่เธอเรียก) เรียบร้อยแล้ว   เขาและเธอก็หมดความไยดีกันอีกต่อไป  
ต่างคนดูเหมือนจะโล่งใจที่ต่างกันต่างอยู่  ไม่ต้องเกี่ยวข้องกัน   ภายใต้หลังคาเดียวกัน




กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.พ. 15, 22:40
คอนซูเอโลกับลูกชายทั้งสอง  ต่อมาลูกชายคนโตก็สืบตระกูลเป็นดยุคแห่งมัลบราคนต่อจากพ่อ


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 ก.พ. 15, 05:55
อ่านเรื่องชีวิตสมรสประกอบกับรูปข้างบน แล้วนึกถึงเจ้าหญิงไดอานา  :(


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.พ. 15, 08:49
เห็นด้วยค่ะ


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.พ. 15, 09:12
คอนซูเอโลเป็นผู้หญิงโชคดีกว่าไดอาน่า ตรงที่ไม่ได้พบจุดจบที่น่าเศร้าอย่างอดีตเจ้าหญิงผู้อาภัพ     
พระเจ้าผ่อนเพลาให้บรรเทาทุกข์ลงด้วยวิธีประหลาดที่สุด   คือให้เพื่อนหญิงที่สนิทของเธอ ซึ่งเป็นเศรษฐินีสาวชาวอเมริกันคนสวยเหมือนกัน เข้ามาเป็นมือที่สามในชีวิตสมรส
ผู้หญิงคนนั้นชื่อ Gladys Marie Deacon  ชื่อต้นออกเสียงว่า "กลาดัส"  เป็นสาวอเมริกันที่ไปเฉิดฉายอยู่ในสังคมไฮโซของลอนดอน   สาวไฮโซทั้งสองผูกมิตรกัน จนกลาดัสเข้านอกออกในคฤหาสน์มัลบราได้เหมือนบ้านที่สอง     เธอรับรู้ตื้นลึกหนาบางของสามีภรรยาดี   แม้แต่คอนซูเอโลคับอกคับใจกับสามี ก็ได้กลาดัสนี่แหละเป็นที่ระบายความทุกข์

พร้อมๆกับรับรู้ถึงความแตกร้าวของทั้งสอง    กลาดัสก็เริ่มติดเนื้อต้องใจซันนี่ สามีของคอนซูเอโลเข้าจนได้    จากการเป็นเพื่อนสนิทของครอบครัวก็คืบคลานไปสู่ฐานะที่สมัยนี้พวกเราเรียกว่า "กิ๊ก"  แต่สมัยโน้นเรียกกันตรงๆว่า "เมียลับ"
คอนซูเอโลแทนที่จะรู้สึกว่าเพื่อนทรยศ หรือเริ่มหึงหวงสามีตามประสา "ฉันเป็นเมียนะยะ"   ก็กลายเป็นว่าเธอโล่งใจที่มีผู้หญิงอีกคนมาแทนเสียได้   เธอจะได้ไม่ต้องทนรองรับอารมณ์ร้ายของสามี     ถึงขั้นที่ว่าเธอเชิญกลาดัสเข้าไปพำนักร่วมชายคากันสามคนผัวเมียเสียเลย
หลังจากนั้นเธอก็แยกตัวออกมาจากดยุคแห่งมัลบรา   แยกกันอยู่ พร้อมกับเดินเรื่องขอให้สมรสเป็นโมฆะ อันเป็นขั้นตอนแรกของการหย่าขาด


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.พ. 15, 09:16
ภาพวาดของกลาดัส   สาวไฮโซมาดแบบไหน เห็นรูปนี้คงเดาออก


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.พ. 15, 19:33
      ในยุคต้นศตวรรษที่ 20  การหย่าขาดในกลุุ่มไฮโซอังกฤษเป็นเรื่องไม่มีใครเขาทำกัน    เพราะไหนกฎหมายจะไม่เอื้อต่อการหย่าร้าง   ไหนจะถูกสังคมประณามหยามเหยียด     ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญสำหรับคอนซูเอโลและซันนี่ที่จะเดินหน้า    แถมยังไม่รวมกระแสคัดค้านจากบรรดาญาติมิตรอีกด้วย   รวมทั้งพ่อของคอนซูเอโลซึ่งควักกระเป๋าจ่ายเงินก้อนใหญ่ให้ลูกเขยเพื่อให้ลูกสาวได้เป็นท่านผู้หญิงดัชเชส  ก็ไม่เห็นด้วย เพราะลูกทำยังงี้  ไม่คุ้มทุนที่พ่อลงไป
       แต่คอนซูเอโลเดินหน้าต่อไป   เธอไม่ขอทนสามี พอๆกับเขาเองซึ่งตอนนั้นกำลังหลงกลาดัสโงหัวไม่ขึ้น ก็ไม่อยากจะทนเมียเก่าอีกต่อไป   สินสมรสก็ได้มาแล้ว   ทายาทก็มีแล้วสองคน  อยู่กันก็ชังน้ำหน้าพอๆกัน   เพราะฉะนั้นเธอก็ไสหัวไปเลย  จากกันตลอดกาลได้ยิ่งดี
        ในเมื่อการหย่าตามกฎหมายเป็นเรื่องยาก    ทั้งสองก็ตกลงกันว่า เอายังงี้  ประกาศแยกกันอยู่อย่างเป็นทางการละกัน   เธอได้ไปทาง ฉันก็ไปอีกทาง  ให้รู้กันเปิดเผยไปเลย ไม่ต้องอุบๆอิบๆ  ส่วนลูก เราก็ตกลงใช้สิทธิ์ปกครองร่วมกัน


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.พ. 15, 18:53
     ในที่สุด  ความปรารถนาของคอนซูเอโลที่จะหลุดพ้นจากกรงทองก็เป็นผลสำเร็จในค.ศ. 1921  หลังจากทนทุกข์อยู่ถึง 26 ปี    ที่กลับตาลปัตรอีกอย่างคือคุณนายอัลวา ผู้หนังเหนียวอยู่คงทนมาจนลูกสาวเข้าวัยกลางคน  ไม่ยักตายไปเสียก่อน    แทนที่จะดิ้นตูมตามกับการหย่าร้าง  กลับเป็นคนที่สนับสนุนให้สมรสสิ้นสุดลงได้ง่ายขึ้น    เธอเป็นคนให้การเองว่า
     " ฉันเป็นคนบังคับให้ลูกสาวแต่งงาน  มิใช่ความสมัครใจของเธอ"
     เมื่อนางยักษ์กลับใจได้ในที่สุด   นางเอกก็เลยหลุดพ้นจากคุก    เมื่อได้อิสระภาพแล้ว    แม่กับลูกสาวก็เริ่มมีความสัมพันธ์ที่ผ่อนคลายและราบรื่นดีขึ้น   นับเป็นแฮปปี้เอนดิ้งในเปลาะแรก

       ส่วนท่านดยุคลูกเขย  เมื่อหลุดจากพันธะสมรส  ก็แต่งงานกับเมียลับของตนเอง ไม่ใช่ใครอื่น ก็สาวสังคมกลาดัสนั่นแหละค่ะ   หลังจากแอบคบแบบปิดกันให้แซ่ดมาตลอด 20 ปี
       ถ้าหากว่าท่านผู้อ่านรู้สึกว่า..ไม่แฟร์เลยนี่หว่า    นางเอกเรากว่าจะหลุดจากกรงได้ เลือดตาแทบกระเด็น   ส่วนผู้ร้ายของเรื่องกลับสบายใจเฉิบ ได้ทั้งเงินจากเมียแรก และแต่งงานออกหน้าออกตากับเมียสอง   ไม่เห็นมันทุกข์ร้อนอะไร     ก็โปรดได้ทราบว่ากฎแห่งกรรมนั้นแม่นยำเสมอ โดยเฉพาะในกรณีนี้


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.พ. 15, 19:07
      กล่าวคือ ทั้งๆท่านดยุคและกลาดัส เคยปิดๆบังๆเป็นคู่ชู้ชื่นกันมาด้วยดีเกือบ 20 ปี     แต่พอแต่งงานกันเรียบร้อย  พากันออกสังคมได้อย่างสง่าผ่าเผยเท่านั้นแหละ  น้ำผึ้งก็เริ่มขมปี๋ในเวลาไม่นาน     
     ความสัมพันธ์ของผัวเมียที่เหมาะสมกันเป็นกิ่งและใบตำแยคู่นี้ ตึงเครียดไปด้วยความเกลียดชังและหวาดระแวง    ขนาดกินอาหารเย็นด้วยกัน   ท่านดัชเชสคนใหม่ต้องวางปืนพกบรรจุกระสุนเต็มไว้ข้างจาน พร้อมจะหยิบมาใช้ได้ตลอดเวลา

      สำนักข่าวก๊อสสิปเขาว่ากันว่า กลาดัสเป็นผู้หญิงเพี้ยน  ศัพท์รุ่นเก่าคือไม่ค่อยจะเต็มเต็งนัก    นางเป็นที่เกลียดชังของบริวารในคฤหาสน์มากพอๆกับคอนซูเอโลเคยเป็นที่รักและเคารพ    ยกตัวอย่างสาเหตุหนึ่ง ก็คือปล่อยหมาที่เลี้ยงไว้เพ่นพ่านทำสกปรกในคฤหาสน์อันโอ่อ่าได้ตามใจชอบ   ไม่แคร์ว่าคนรับใช้จะพากันลมใส่ไปตามๆกันเวลาไอ้ตูบไอ้ด่างพวกนี้ไปฉี่ไปอึไว้เลอะเทอะในห้องไหนบ้าง    อีกข้อคือนางมีปมด้อยเรื่องไปฉีดพาราฟินใส่จมูกเพื่อให้โด่งแบบกรีก แต่คุณภาพของมันห่วยแตก ก็เลยทำลายจมูกจนเสียรูป แถมไหลย้อยลงมาที่คาง     เธอก็เลยหาทางออกโดยห้ามติดกระจกในคฤหาสน์หมดทุกห้อง  ไม่ให้มีเงาสะท้อนตรงไหนได้เลย
      พฤติกรรมสุดเพี้ยนของกลาดัสมีผลเทียบเท่าเครื่องทรมานนักโทษสำหรับท่านดยุค    หลังจากอยู่กันอย่างตกนรกทั้งเป็น เขาก็ทนไม่ไหว  ก็เลยแสดงความเกลียดชังและตีตนออกห่างแบบเดียวกับที่ทำกับภรรยาคนแรก  แต่คราวนี้ตาคนนี้เป็นฝ่ายแพ้  ทนเมียไม่ไหวต้องหลีกทางให้นางครอบครองคฤหาสน์ตามใจชอบ   ตัวเองก็สิ้นชีวิตไปด้วยโรคมะเร็ง เมื่อค.ศ.1934    คือ 13 ปีหลังหย่าจากคอนซูเอโล


กระทู้: ไฮโซโบราณ แห่งอเมริกา(2)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.พ. 15, 17:37
นับว่าสวรรค์ยังปรานีคอนซูเอโล   ทำให้ชีวิตเธอหลังหย่าร้างไม่อาภัพอย่างเจ้าหญิงไดอาน่า      เธอได้พบชายที่รักเธอจริง เป็นนักบินชาวฝรั่งเศสชื่อ ฌาค แบลซอง  ผู้มาจากตระกูลธุรกิจสิ่งทอใหญ่ร่ำรวยไม่เบา     เขาเจอเธอตั้งแต่อายุ 17  ก่อนหน้าเธอสมรส แล้วก็หลงรักเธอนับแต่นั้น

เมื่อคอนซูเอโลหย่าขาดจากสามี  ฌาคผู้รออยู่แล้วก็ขอแต่งงานด้วยทันที    เมื่อเธออายุ 44 และเขาอายุ 53   
ทั้งคู่อยู่กันอย่างผาสุกเหมือนตอนจบในเทพนิยาย  จนกระทั่งเข้าวัยชราจึงได้จากกันไปตามอายุขัยของแต่ละคน

ขอจบเรื่องไฮโซอเมริกาเพียงแค่นี้ค่ะ