เรือนไทย

ขอเรียนแจ้งข่าวการบูรณวังพระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ กรมหมื่นสรรควิสัยนรบดี ซึ่งตั้งอยู่ปลายถนนนครไชยศรี ศรีย่าน ใกล้ท่าเรือท่าพายัพ สภาพที่เห็นก่อนการเริ่มบูรณะหากใครสังเกตุจะเป็นดังภาพ

จากรูปข้างบนถ้าไม่สังเกตุแทบจะไม่เห็นตัววังที่สง่างามดังภาพในอดีต เพราะมีอาคารบังด้านหน้าเกือบหมด ปัจจุบันการไฟฟ้านครหลวงดำเนินการว่าจ้างให้มีการบูรณเริ่ม มค-สค61 มีพิธีบวงสรวงโดยผู้บริหารการไฟฟ้านครหลวง

พิธีบรวงสรวง

รื้อถอนอาคารที่บังด้านหน้าออกไปเห็นวังได้ชัดเจน

สภาพวังเดิมประมาณปี พศ. 2470 (เป็นออฟฟิศไฟฟ้าหลวงสามเสน มาตั้งแต่ปี พศ.2457)

ภาพระยะไกลถ่ายจากโรงจักรไฟฟ้าสามเสน

มีภาพบรรยากาศภายในอาคารสมัยก่อนไหมครับ

กำลังเขียนนิยายเรื่องใหม่ที่ใช้ฉากถนนนครไชยศรีสมัยพ.ศ. 2475 อยู่พอดี
เห็นถนนในรูป 4-5  ขอถามว่าเป็นถนนลาดคอนกรีตเฉพาะบริเวณวัง หรือว่าเป็นส่วนหนึ่งของถนนนครไชยศรีทั้งสายคะ

เคยถามคุณหนุ่มสยามว่า ยุครัชกาลที่ 7  ถนนในกรุงเทพส่วนใหญ่ทำด้วยอะไร   คุณหนุ่มตอบมาว่า เป็นดินอัดแน่นโรยทรายข้างบน    ไม่แน่ใจว่าถนนนครไชยศรีอยู่ในข้อยกเว้นหรือเปล่า

2475 ปีนี้มีเรื่องราวเยอะแยะมากมาย แค่จั่วหัวก็อยากอ่านเสียแล้ว  :)

จากประวัติพระยาสุขุมนัยวินิต ผู้อำนวยการไฟฟ้าหลวงสามเสนคนแรก สมุห์บัญชีที่ได้ย้ายมาทำงานกับท่านได้เขียนว่า ลงจากรถรางตรงสี่แยกบ้านพายัพ(สี่แยกศรีย่านในปัจจุบัน)เดินเข้าไปเป็นเกือบถนนดินครับ

รูปถ่ายในวังดั้งเดิมเลยยังไม่สามารถหาได้ครับ มีแต่ยุคปัจจุบันที่มีโครงสร้างหลักๆอยู่เท่านั้น คุณแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นบุตรพนักงานไฟฟ้าสามเสนยุคแรก ท่านเกิดที่นี่ได้วิ่งเล่นรอบวังตั้งแต่เด็กๆแต่ไม่เคยเข้าไปดูสภาพในวังท่านยังจำสภาพแวดล้อมภายนอกได้ดี และผมมีรายชื่อพนักงานและรูปถ่าย(เก่ามากไม่สมบูรณ์นัก) จะมาขอสืบหาทายาทในยุคปัจจุบัน อาจมีการถ่ายภาพและบันทึกการทำงานสมัยนั้นเก็บไว้บ้างจะทยอยนำมาลงครับ รวมทั้งความคืบหน้าการบูรณวังด้วยครับ

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ กรมหมื่นสรรควิไสยนรบดี เป็นเจ้านายไทยพระองค์แรกที่ทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก โดยทรงสำเร็จการศึกษาจากประเทศเยอรมัน น่าเสียดายที่ทรงตัดสินพระทัยปลงพระชนม์เมื่อประชนม์ 28 พรรษา ซึ่งไม่ทราบว่าสถานที่ปลงพระชนม์จะเป็นที่วังแห่งนี้ด้วยหรือไม่ แต่เป็นเรื่องน่ายินดีที่มีการปรับปรุงวังของพระองค์ หวังว่าจะเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมได้ต่อไป

จากรูป พระองค์ที่ 2 จากซ้ายครับ รูปจาก wikipedia

จาก Facebook ของคุณ คนรักวัง บ้านโบราณ

อ้างถึง ตอนหนึ่งในจดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน วันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๕ ว่า

"วันนี้กรมหมื่นสรรควิสัยนรบดี ทรงประชวรพระโรคเส้นประสาทพิการมาราว ๗ เดือนเศษแล้ว ถึงกับยอมให้ หมอมาโน ชาติฝรั่งเศส เจาะตัดข้างในพระองค์ก็ไม่หาย กลับกำเริบขึ้น เวลา ๒ ทุ่มยิงพระองค์ด้วยปืนสิ้นพระชนม์ พระชนม์นับได้ ๒๙ พรรษา เดิมทีจะเกิดเหตุนี้สองสามวัน ทรงลายพระหัตถ์เปนการเลี่ยงทายให้หม่อมของพระองค์ท่านคิด เปนปฤษณา ๒ ข้อ หม่อมห้ามไม่ทราบว่าจะเปนเช่นนั้นก็ตีปัญหาไม่แตก พระองค์ท่านก็ทรงฉีกจดหมายฉบับนั้นเสียจนเลอียด ไม่ทราบว่าจะเปนข้อความกระไร แล้วพระองค์ท่านก็ทรงตัดสินในทางที่จะทำลายพระองค์ บรรทมอยู่ในที่บรรทมโดยพระอาการที่ประชวรทนทุกข์เวทนาอยู่ไม่ได้ ทรงสับนกปืนลั่นขึ้นไบนหลังคาตำหนักเพื่อลองปืนนัด ๑ แล้วทันใดนั้นทรงยิงเข้าพระองค์อีกนัดหนึ่ง ในเวลานั้นหม่อมห้ามฤามหาดเล็กของพระองค์ท่านพากันตกตลึง หาได้จับยึดยื้อแย่งปืนอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ ในเหตุนี้ทรงกำสลดพระไทยยิ่งนัก โปรดให้ข้าราชการในพระราชสำนักนิ์ไว้ทุกข์ถวายมีกำหนด ๔๐ วัน"

ขอถามคุณหมอในเรือนไทย ว่า คำว่า "ยอมให้หมอมาโน เจาะตัดข้างในพระองค์ก็ไม่หาย "  แปลว่าอะไรคะ
ดิฉันเดาว่า แปลว่าผ่าตัดสมอง  เพราะประชวรพระโรคเส้นประสาทพิการ     อาการนี้อาจทำให้ทรงเจ็บปวดพระเศียรมาก   ผ่าตัดแล้วก็ไม่ดีขึ้น อาจจะเจ็บปวดจากแผลผ่าตัดหนักขึ้นอีกจนทนไม่ได้

พระประวัติก่อนหน้านี้เล่ากันว่าทรงมีพระชายาองค์เดียวคือเจ้าศิริมา ณ เชียงใหม่  เมื่อเจ้าศิริมาประสบอุบัติเหตุสิ้นชีวิต กรมหมื่นสรรคฯ เสียพระทัยมากถึงกับปลงพระชนม์ตามไป  แต่ในพระราชกิจรายวันข้างบนนี้  ทำให้ทราบว่าทรงมีหม่อมห้ามด้วย  คอยดูแลใกล้ชิด
ดังนั้นสาเหตุการปลงพระชนม์ อาจจะมาจากพระโรคที่กำเริบหนัก ก่อความเจ็บปวดให้จนทนไม่ไหว เป็นไปได้หรือไม่?

แว้บเข้ามา ครับ

           นึกถึงโรค Trigeminal Neuralgia

Trigeminal Nerve เส้นประสาทจากสมองและก้านสมอง(Cranial Nerve) เส้นที่ห้า(จากที่มีทั้งหมด ๑๒ เส้นคู่)

Neuralgia   ปวดเส้นประสาท

     Trigeminal nerve (CN5) และเส้นอื่นๆ

           โรคนี้ทำให้มีผ.ป.บางรายมีอาการปวดอย่างรุนแรงทรมานเรื้อรังได้

บทความจากศิริราชเรื่อง Trigeminal Neuralgia

http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=838

           โรคปวดเส้นประสาทรุนแรงที่พบได้ไม่ยากอีกโรคหนึ่งคือ Herpetic, Post–herpetic neuralgia
พบในผ.ป.งูสวัด, มีอาการปวดอย่างรุนแรงที่เส้นประสาทที่ออกผื่นงูสวัด ในขณะที่มีผื่นหรือหลังจากผื่นหายแล้ว
อาจเป็นที่เส้นประสาทจากสมองบางเส้น และที่เส้นประสาทอื่นจากไขสันหลังได้

ขอบคุณค่ะคุณหมอ
เดาว่ากรมหมื่นสรรควิสัยฯ ทรงทรมานด้วยโรคปวดเส้นประสาทนี้มา 7 เดือน ผ่าตัดก็ไม่หาย อาจจะเจ็บจากแผลบวกเข้าไปอีก
เมื่อไม่มีทางดีขึ้น ท่านก็เลยตัดสินพระทัยอย่างนี้  น่าเสียดายมาก

วังสร้างไว้สวยมาก อยากเห็นตอนบูรณะเสร็จแล้ว

ศาสตราจารย์ ระพี สาคริก ท่านบรรยายสภาพบรรยากาศตอนท่านเด็กๆ ให้ฟังดังนี้

"เนื่องจากสภาพธรรมชาติในบริเวณนั้นยังเป็นทุ่งนา  ริมตรอกเศรษฐศิริก็มีสภาพเป็นสวนผักและสวนฝรั่งของคนจีนเป็นช่วงๆ ส่วนริมถนนนครไชยศรีก็มีห้องแถวเรียงรายกันอยู่และด้านหลังยังมีสภาพเป็นสวน  ลึกเข้าไปไม่มากนักจะพบกับทุ่งนาเช่นกัน  และมีตรอกออกสู่ถนนใหญ่ไว้เป็นช่วงๆ ผิวถนนของตรอกเศรษฐศิริและผิวถนนนครไชยศรีก็ยังตกอยู่ในสภาพโรยหินปูนก้อนค่อนข้างใหญ่พอสมควร
   จากภาพทั้งหมดทำให้ผมมองเห็นทางเดินไปโรงเรียนทางที่สามขึ้นมาในไม่ช้าคือ  พอขึ้นทางรถไฟก็เดินตัดออกสู่ทุ่งนาด้านทิศตะวันตก  ลัดเลาะไปตามคันนาสุดแต่จะเห็นว่าช่องทางไหนช่วยให้ย่นระยะได้มาก  แล้วไปผ่านสวน  ในที่สุดก็โผล่ออกจากตรอกช่วงกลางๆ ของถนนนครไชยศรี  การเลือกเดินทางใดทางหนึ่งในสามทางที่กล่าวแล้วคงสุดแต่ว่าวันไหนมีอะไรน่าสนใจแล้วก็ตัดสินใจเลือกเอง"
.
ที่มา ประวัติศาสตราจารย์ ระพี สาคริก

รายชื่อพนักงานไฟฟ้าหลวงสามเสน 1/5

รายชื่อพนักงานไฟฟ้าหลวงสามเสน 2/5

รายชื่อพนักงานไฟฟ้าหลวงสามเสน 3/5

รายชื่อพนักงานไฟฟ้าหลวงสามเสน 4/5

รายชื่อพนักงานไฟฟ้าหลวงสามเสน 5/5

รูปภาพพนักงานไฟฟ้าหลวงสามเสน 1

รูปภาพพนักงานไฟฟ้าหลวงสามเสน 2

รูปภาพพนักงานไฟฟ้าหลวงสามเสน 3

ผมขออนุญาตลงรูปและรายชื่อพนักงานไฟฟ้าหลวงสามเสนในขณะนั้น หากท่านใดพอที่จะรู้จักทายาทในสมัยปัจจุบัน อาจมีบางท่านที่ยังคงเก็บรูปวังและสถานที่รอบๆวังในสมัยนั้นเช่นโรงรถ เรือนคนใช้ และบันทึกการทำงานต่างๆรวมทั้งรูปขณะที่ปฏิบัติงาน เพื่อที่เป็นประโยชน์ในการบูรณะวังและรวบรวมเป็นประวัติส่วนหนึ่งของการไฟฟ้านครหลวง ขอขอบคุณล่วงหน้าด้วยครับ

เรื่องเสด็จในกรมฯ ประชวรนี้  มีความตอนหนึ่งในพระราชหัตถเลขาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานไปถึงเจ้าพระยาพระเสด็จสุดเรนทราธิบดี (ม.ร.ว.เปีย  มาลากุล)
ครั้งยังเป็นพระยาวิสุทธสุริยศักดิ์ อัครราชทูตสยาม ณ กรุงลอนดอน แลพระอภิบาลในสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ และพระเจ้าลูกยาเธอที่ประทับทรงศึกษาในประเทศอังกฤษว่า ดิลก (กรมหมื่นสรรควิสัยนรบดี)
นั้นเป็นคนสายตาสั้นและมีโรคลมชัก บางคราวยืนๆ อยู่ก็ล้มตึงลงไป  โรคที่ทรงเป็นนั้นคงจะเป็นโรคเรื้อรังที่การแพทย์สมัยนั้นยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

ป้าย Bon voyage เดินทางโดยสวัสดิภาพ นี่เป็นการส่งผู้ใดเดินทางหนอ  ???