พระยาชัยวิชิต(นาก ณ ป้อมเพ็ชร์) ผู้รักษากรุงศรีอยุธยา ก็เวนคืนตำแหน่ง
คงหมายถึงกราบบังคมทูลลาออกจากตำแหน่งราชการ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะชราภาพหรือเจ็บป่วยจนไม่สามารถปฏิบัติราชการได้เต็มที่ จึงได้กราบบังคมทูลลาออกราชการไป ซึ่งการกราบบังคมทูลลาออกจากราชการนั้นก็ส่งใบบอกเข้ามาที่กระทรวงมหาดไทย ให้ปลัดทูลฉลองกระทรวงมหาดไทยนำความกราบบังคมทูลพระกรุณา เมื่อได้รับพระราชทานพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว ทางกระทรวงก็ทำหนังสือตอบว่าได้กราบบังคมทูลแล้ว พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ออกได้ ก็เป็นว่าท่านพ้นจากตำแหน่งราชการ ทางกระทรวงมหาดไทยก็จะต้องรีบหาคนมารั้งตำแหน่งดังกล่าวต่อไป
แม้เจ้าคุณโบราณราชธานินทร์จะได้ขึ้นเป็นพระยาเพียงอายุ ๓๐ ปี ซึ่งนับว่าเร็วมาก แต่ท่านก็ไม่ได้เลื่อนที่ให้ยิ่งกว่านี้ ทั้งๆ ที่มีความชอบในราชการมากมาย มีความรู้ความสามารถหลายด้าน พระเจ้าอยู่หัวและเจ้านายหลายพระองค์โปรดมาก รับราชการมานาน น่าเสียดายที่ไม่อาจจะได้เป็นเจ้าพระยา ทั้งที่ควรจะได้เป็น เรื่องนี้ไม่ธรรมดาครับ
พันพุฒอนุราช เป็นหนึ่งในจำนวนข้าราชการยศพันที่เป็นายเวรหนังสือของมหาดไทยสมัยเก่า อันประกอบด้วย พันภาณุมาศ พันจันทนุมาศ พันเภานุราช พันพุฒอนุราช
ด้วยว่าเป็นนายเวรที่มีราชการมากจึงมีศักดินาสูงกว่าข้าราชการยศพันทั่วไป ที่เป็นข้าราชการชั้นประทวน อันได้แก่ข้าราชการท้องถิ่นของมหาดไทยพวกกำนัน พวกพันชั้นประทวน เสนาบดีจะกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตตั้ง เมื่อพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ตั้งแล้ว เสนาบดีก็จะออกตราประทวนพระราชสีห์ตั้งได้ทันที แต่ขุนนางพันทั้ง ๔ นี้ เป็นข้าราชการชั้นสัญญาบัตร