คุณเทาชมพูทำให้ผมต้องถามกลับว่า เรื่องกษัตริย์อยุธยาชื่อพระปิ่นเกษและพระจุลปิ่นเกษ องค์หลังนี้ทำให้เสียบ้านเสียเมือง ปรากฏอยู่ในหนังสือเรื่องอะไรที่นายกุหลาบพิมพ์ ผมได้เคยถามคำถามอย่างนี้กับคนที่เขาตามอ่านงานของนายกุหลาบมาหลายปี เขายืนยันว่า ยังไม่เคยเจอข้อความที่อ้างถึงนี้ในหนังสือนายกุหลาบสักเล่มเดียว
เคยถามตัวเองด้วยคำถามนี้เหมือนกัน ได้คำตอบมา ๒ ข้อ ถึงความเป็นไปได้
๑ หาต่อไป ไม่เจอ ไม่ได้แปลว่าไม่มี โดยเฉพาะเมื่อมีคำอ้างอิงในพระนิพนธ์ ดิฉันก็ไม่เชื่อว่าสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ท่านจะลงทุน "กุ" เรื่องขึ้นมาเล่นงานนาย "กุ" ซึ่งเป็นคนบ้าสติเฟื่องในสายพระเนตร
นายกุหลาบเองก็ปัญญาชนไม่ใช่ย่อย ถ้าโดนใส่ร้ายถึงขนาดนี้คงขนหนังสือทั้งหมดที่มีมาถวายฎีกาแล้วว่า ไม่เคยเขียนคำนั้น หรือท้าให้เอาหนังสือเล่มนั้นมาพิสูจน์กันให้เห็นซึ่งๆหน้า
หรือไม่มีหนังสือแต่มีพยาน ก็เอาพยานมาพิสูจน์กันเลย
แต่ก็ไม่เห็นแกจะเถียงอะไรหรือพยายามเขียนพิสูจน์ความจริงเอาไว้ให้ลูกหลานนำมาเปิดเผยได้
๒ หนังสือนั้น ถูกเก็บไปทำลายแล้ว เพราะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ และสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ไม่น่าจะปล่อยไว้ให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ
กรณีนายกุหลาบแทรกข้อความลงในหนังสือที่คัดลอกมาแต่หอหลวง ถ้าจะเทียบได้กับการชำระพระราชพงศาวดารรัชกาลที่ ๑ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ เพื่อพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกแล้ว ยังนับว่า นายกุหลาบทำเบากว่า เพราะข้อความเดิมไม่หาย แต่กรณีพระราชพงศาวดารรัชกาลที่ ๑ มีข้อความบางแห่งหายไปอย่างมีนัยยะสำคัญ
ส่วนเรื่องเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ควรพิจารณาว่า
๑ เจตนาที่ข้อความเดิมหายไป คืออะไร เป็นเจตนาแบบเดียวกับนายกุหลาบทำเรื่องพระจุลปิ่นเกษ หรือไม่
หรือว่าเจ้าพระยาท่านทำเพราะมีเหตุผลรองรับอยู่ ข้อนี้ต้องดูที่มาที่ไปก่อนจะนำมาเปรียบเทียบเหมือนเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน
๒ ถ้ามีเจตนาแต่งเติมเปลี่ยนแปลงพงศาวดารให้ผิดเพี้ยน ตามใจชอบ หรือเป็นอุบายหาข้อแก้ตัวไม่ให้ถูกจับได้ ก็ผิด
หรือเหตุผลอื่นๆที่ท่านทำ มองเห็นได้ว่าทำผิด ก็ถือว่าผิด แต่การที่เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ผิด ก็ไม่ได้ทำให้เรื่องที่นายกุหลาบทำ กลายเป็นไม่ผิดไปได้
เหมือนบอกว่าทีขับรถฝ่าสัญญาณไฟจราจร ตำรวจจับว่าทำผิด ทีไล่ยิงถล่มอาวุธสงครามกัน ตำรวจไม่ยักจับ เหมือนไม่ผิด ถือว่าไม่ยุติธรรม
ข้ออ้างนี้ไม่สมควร ที่จริงคือต้องบอกว่าผิดทั้งสองกรณี แต่ผิดมากผิดน้อยเท่านั้น