นายคนเขียนนี่อ่านหนังสือที่เขานำมาอ้างอิงเพียงจิ้มๆ หาข้อความที่นำจะไปบิดเบือนภายใต้ปกที่ดูเป็นวิชาการ อย่างเช่น
ในนิยายกึ่งชีวประวัติของ ม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน๒๗ เรื่องเมืองนิมิตร ได้บันทึกถึงกำเนิดของหนังสือพิมพ์นี้ว่า ร.ท.จงกล ไกรฤกษ์ เป็นผู้เสนอทำหนังสือพิมพ์ขึ้นก่อนเพื่อเผยแพร่ข่าวสารให้พรรคพวกทราบ โดยหนังสือพิมพ์นี้เป็นหนังสือพิมพ์ที่เขียนด้วยมือของ ร.ท.จงกล ไกรฤกษ์ ลงบนกระดาษสมุด ภายหลัง ม.ร.ว.นิมิตรมงคลได้เปลี่ยนวัตถุประสงค์หนังสือพิมพ์เพื่อใช้เป็นตำราการเมือง เป็นหนังสือพิมพ์ชื่อ "น้ำเงินแท้" ขึ้นแทน มีลักษณะเป็นสมุดปกแข็ง หุ้มด้วยกระดาษแก้ว
เรืองเมืองนิมิตร ความฝันของนักอุดมคติ เป็นนวนิยายที่ตัวเอกเป็นนักโทษการเมืองคดีกบฏบวรเดช แต่ไม่มีตอนใดที่กล่าวถึงหนังสือพิมพ์ชื่อน้ำเงินแท้ตามที่หมอนั่นเขียน
ม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตนเขียนบันทึกเรื่องจริงในชีวิตของตนเองขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่ง ชื่อ "ชีวิตแห่งการกบฏสองครั้ง" ในนั้นแหละที่กล่าวถึงหนังสือที่ตนเป็นบรรณาธิการ ใช้ชื่อว่าน้ำเงินแท้ ส่วนตำราการเมืองดังกล่าวมาจากคำอธิบายของม.ร.ว.นิมิตรมงคลเองว่า ในเมื่อนักโทษการเมืองส่วนใหญ่ต้องไปเกี่ยวข้องและรับโทษทางการเมือง โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่า "การเมือง" คืออะไร กล่าวคือรัฐธรรมนูญชั่วคราวของคณะราษฏรห้ามประชาชนศึกษาหาอ่านในเรื่องการเมือง หรือตั้งพรรคการเมืองใดๆมาแข่งกับคณะราษฎรทั้งสิ้น ผู้ใดละเมิดมีสิทธิ์ถูกจับไปตั้งข้อหากบฏ ดังนั้นในน้ำเงินแท้จึงมีบทความที่ให้ความรู้เรืองระบอบการเมืองต่างๆในโลก บทความเหล่านี้เมื่อม.ร.ว.นิมิตรมงคลพ้นโทษ(ครั้งแรก)แล้ว ได้พิมพ์เป็นพ๊อกเก๊ตบุค ชื่อ "พรรคการเมืองสยามและต่างประเทศ" ซึ่งเป็นบทวิชาการบริสุทธิ์ แต่ก็ถูกสันติบาลของพล.ต.อดุล อดุลเดชจรัส สมัยรัฐบาล ป.บุกไปยึดถึงโรงพิมพ์ก่อนวางจำหน่าย
นวนิยาย สารคดี และบทวิชาการทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ได้รับการตีพิมพ์รวมเล่มไว้ในวาระ ๑๐๐ปี ชาตกาลของม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน ผู้ที่ได้อ่านย่อมเข้าใจได้ด้วยตนเองว่า นี่คือเคราะห์กรรมของปัญญาชนผู้บริสุทธิ์ชัดๆ ผมจึงได้แต่ปลงว่า แม้ในยุคปัจจุบันที่อ้างประชาธิไตยจ๋า ก็ยังมีคนบาปอยู่ที่เลือกจะโกหกเพื่อป้ายสีคนอื่น ม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตนยังคงตกเป็นเหยื่อ เพียงเพราะผู้เขียนคนนั้นหมายจะชูความคิดเห็นทางการเมืองของตนเองเท่านั้น