เรือนไทย

General Category => ศิลปะวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: จ้อ ที่ 04 ม.ค. 01, 16:05



กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 04 ม.ค. 01, 16:05
หลังจากที่สอบถามหลายท่าน ทั้งบนเรือนไทย และในห้องสมุดพันทิพย์
/>
เกี่ยวกับร้านกาแฟที่ ท่านปรีดี พนมยงค์ ชอบไปนั่งทานกาแฟสมัยที่เป็น
/>
นักเรียนอยู่ในนครปารีส ผมก็ได้ไปถ่ายรูปมาฝากแฟนๆ เรือนไทยจนได้ครับ
/>


ร้านกาแฟที่ว่าชื่อ Cafe de la Paix
ตั้งอยู่ตรงจตุรัสหน้าโรงโอเปราปารีส

Paris Opera Hourse ( Opera de
Paris Garnier ) ร้านนี้มีชื่อเสียงมาก
/>
รู้สึกว่าจะสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19



เมื่อสมัยที่
ปรีดี พนมยงค์ เป็นนักเรียนกฎหมายอยู่ที่ปารีส ท่านชอบมานั่งทาน
/>
กาแฟที่ร้านนี้ และ พูดคุยปรึกษาปัญหาการเมืองกับเพื่อนฝูง
ซึ่งคาดว่าไม่เพียง

แต่เฉพาะนักเรียนไทยด้วยกัน
แต่จะมีนักเรียนจากเวียดนาม และชาติอื่นๆ ด้วย
/>
คาดว่าสมัยก่อนนั้นนักเรียนต่างชาติไม่มีมากเหมือนในสมัยนี้
ทำให้นักเรียนจาก
/>
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้รู้จักมักจี่กันเป็นอย่างดี


/>
เพื่อนๆ ชาวเวียดนามของอาจารย์ปรีดี หลายคนมีส่วนในขบวนการเรียกร้อง
/>
เอกราชของเวียดนามจากฝรั่งเศษ
และว่ากันว่าสหายเหล่านี้เคยหลบอยู่ในกรุงเทพฯ

ในช่วงหนึ่ง...
เขาว่ากันอีกแหละครับว่า ยุคนั้นกรุงเทพเป็นสวรรค์ของขบวนการ
/>
เรียกร้องอิสระภาพของชาติต่างๆ ในภูมิภาคนี้ทีเดียว

(
ก็เนื่องจากว่าผู้นำรู้จักกันเป็น อย่างดี ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน )
src='http://vcharkarn.com/reurnthai/uploaded_pics/RW266x000.jpg'>


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 04 ม.ค. 01, 01:50
หลายๆ คนอาจะสงสัยว่าทำไมต้องร้านกาแฟด้วย

ผมอ่าน Scientific American ฉบับใหนก็ไม่รู้ครับนานมาแล้ว

เขาบอกว่ากาแฟกับการเมืองนั้นเข้ากันได้ดีทีเดียว



Scientific American ยังบอกอีกว่า ในช่วงที่กาแฟเริ่มเข้ามาเป็นที่นิยมในประเทศ

อังกฤษนั้น กษัตรย์อังกฤษในขณะนั้นถึงกับสั่งห้ามขายกาแฟทีเดียว

พระองค์เกรงว่าจะโดนช่วงชิงพระราชสมบัติ เพราะคนหันมาคุยการเมืองกันมากขึ้น



เหตุก็เพราะว่าคนอังกฤษนั้นดื่มแต่เบียร์ ดื่มแล้วก็เมา พอเมาก็คุยกันเรื่องอื่น

( เรื่องผู้หญิง เรื่องฟุตบอล เรื่อง... ) ไปตามเรื่อง แต่ไม่คุยเรื่องการเมือง

เพราะถ้าคุยแล้วเป็นต้องฆ่ากัน คนสมัยก่อนแขวนดาบไว้ที่เอวอยู่แล้ว

เมาๆได้ทีถ้าคุยเรื่องการเมืองแล้วแตกคอละก็ได้ฆ่ากันง่ายๆ

แต่พอมีกาแฟเข้ามา ผู้คนเริ่มคุยกันได้อย่างสุภาพบุรุษ (อย่างน้อยก็ไม่เมาล่ะ)

ก็เลยเริ่มมีการคุยเรื่องการเมืองกัน ทำให้พระองค์รู้สึกหวั่นพระทัย

เลยแบนซะ เพื่อจะได้ปกครองประชาชน (ขี้เมา) ของพระองค์ได้อย่างสบาย

พระราชหฤทัย...



จะเห็นว่ากาแฟกับการเมืองเกี่ยวกันมาตั้งนมนานแล้วครับ

ไม่เชื่อดูสภากาแฟตามซอยต่างๆ ในบ้านเราสิครับ


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 04 ม.ค. 01, 01:54
ยังไม่เคยไปเที่ยวปารีสอย่างเป็นกิจจะลักษณะซักที เคยแต่ไปแว่บๆ แค่ 1 วัน 1 คืน
ขอถามครับ โรงโอเปราหน้าร้านกาแฟร้านนี้ คือโรงอุปรากรที่มาของนิยายเรื่อง The Phantom of the Opera รึเปล่าครับ


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 04 ม.ค. 01, 01:55
แต่ถ้าถามผมว่ากาแฟร้านท่านปรีดีอร่อยมัย
แหะๆ ไม่กล้าเข้าไปลองครับ เพราะหรูเหลือเกิน
ถ่ายรูปเสร็จนักเรียนจนๆ อย่างผมเลยต้องไปหา
คาปูซิโนทานร้านใก้ลๆกัน ฮือๆๆ


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 04 ม.ค. 01, 01:58
คาดว่าน่าจะใช่นะครับ
ต้องให้คุณเทาฯ มายืนยันอีกทีหนึ่ง แหะๆ

ว่าแต่คุณ นกข. ได้ลอง กาแฟอังกฤษหรือเปล่าครับ
หรือว่ามัวแต่ติดใจ Fish and Chip ?


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: โสกัน ที่ 04 ม.ค. 01, 02:42
ที่คุณนกข. เปรยว่าโรงมหาอุปรากรที่ Place de l'Opera นั้นใช่ที่มาของนิยาย Phantom of the Operaใหม ผมขอชิงคุณเทาตอบครับ เพราะบังเอิญชอบละครเพลงเรื่องนี้เป็นพิเศษ

ผู้ประพันธ์นิยายเรื่องนี้ คือ Gaston Leroux

(ภาพประกอบ) แกชอบดูอุปรากรอยู่เป็นทุนเดิม เมื่อทางการฝรั่งเศษ ดำริสร้างโรงมหาอุปรากรแห่งชาติขึ้นในกรุงปารีสขึ้น และให้ Charles Garnierเป็นสถาปนิกออกแบบสร้าง เมื่อปี 1860 งานก่อสร้่างมีปัญหามากมาย และกูกดัดแปลงใช้เป็นโกดัง เป็นคุก ฯลฯ  จนปี 1875 จึงใช้เปิดการแสดง ในโรงมหาอุปรากรนี้มี ทางเดินซอกแซก ห้องหับลี้ลับมากมาย และเหนือที่นั่งมีไฟแชนดาเลียร์หนัก6-7พันกิโล ห้อยอยู่  ในปี 1896 เจ้าไฟนี่พวงหนึ่งก็หลุ่นตุ๊บลงมาทับคนดูตายไปคนหนึ่ง นาย Leroux ก็เอามาผูกเรื่องแต่งเป็นนิยายว่ามี Phantom สิงสู่ในโรงอุปรากร คนโจทย์ขานกันมาจนถึงทุกวันนี้ว่า โรงอุปรากรในนิยายคือ โรงอุปรากรที่อยู่ Place de l"Opera ในปารีสนี่แหละ


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: ลำดวน ที่ 04 ม.ค. 01, 02:53
สมัยนั้น ปารีสเป็นที่นักเนียหัวก้าวหน้าไปเรียนกันมาก  ที่กลับมาแล้วมาทำการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองก็มี อดีตนายก โจวเอินไหล  เติ้งเสี่ยวผิง ทางเวียตก็มี ลุงโฮฯไงคะ  ลุงโฮฯนี่ตอนที่รวมกำลังกู้ชาตินั้น  ก็มาเข้าๆออกๆอีสานมาเหมือนกัน  และขบวนกู้ชาติลาวและเขมรนี่ก็  มีเชื้อมาจากแหล่งเดียวกันเหมือนกันมังคะ


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: โสกัน ที่ 04 ม.ค. 01, 02:53
ขออภัย ภาพนาย Leroux มีอาถรรพ์หรือไงไม่ทราบ
postในข้อความที่ส่งครั้งแล้วไม่ยอมขึ้นไปครับ


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: โสกัน ที่ 04 ม.ค. 01, 02:59
ใช่ครับ ผู้นำเขมรแดงก็เอาวิทยานิพนธ์ที่เขียนทำปริญญา
ในฝรั่งเศสไปใช้ เกิดเป็น Kampuchea Year Zero
และ killing Fields ขึ้นมา


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 04 ม.ค. 01, 03:17
อืม... คงคล้ายๆ กับนักเรียนจากทวีปแอฟาริกาในอังกฤษ
ช่วงปี 70-80 ละมั้งครับ

คุณอาผมเล่าว่า (ฟังเขาเล่ามาอีกแล้ว) นักเรียนจากประเทศ
อณานิคมของอังกฤษ ใน เคมบริดจ์ อ็อกฟอร์ด เบอร์มิงแฮม หรือที่อื่นๆ
ในช่วงนั้นก็จับกลุ่มคุยกันแต่เรื่องการเมือง ประกาศอิสระภาพกันทั้งนั้น
( แต่ไม่แน่ใจว่าคุยกันในร้านกาแฟหรือเปล่า เพราะไม่ค่อยเห็นคนผิวดำ
ทานกาแฟซักเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ในบาร์เบียร์แน่นอน )

พวกนี้พอเรียนจบกลับประเทศไป ก็ไปเป็นผู้นำเรียกร้องอิสระภาพให้กับ
ประเทศของตน เหตุการณ์คล้ายๆกัน เพียงแต่เกิดหลังกันหลายสิบปี

เอ ... นักเรียนไทยสมัยนี้คุยอะไรกันหว่า?


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: โสกัน ที่ 04 ม.ค. 01, 03:38
ผมว่าคนอังกฤษยุคใหนๆ จะดื่มเบียร์จับกลุ่มคุยกันตามผับมากกว่า เบียร์อังกฤษนั้นอ่อนอัลกอฮอร์ ดื่มจนพุงกางก็ยังไม่เมา ส่วนน้ำชา(และกาแฟ) นั้นส่วนใหญ่ทานกันที่บ้านกับเพื่อนที่สนิทกันไม่กี่คนเท่านั้น ฉะนั้นที่ว่ากษัตริย์อังกฤษสั่งแบนกาแฟด้วยเหตุผลที่ว่าอาจสะเทือนบัลลังก์นั้น ออกจะเกินไปนะผมว่า....แหม พูดเรื่องการเมือง แล้วคันปากอยาก"โส" ต่อเหลือเกิน แต่เกรงใจคุณเทาฯ น่ะซีครับ เราเอาเรือนไทยของเธอมาคุยเรื่องที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับเรือนไทยเท่าไร


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 04 ม.ค. 01, 03:57
คุณเทาชมพูใจดี ไม่ว่าหรอกครับ :)

เรื่องกษัตริย์อังกฤษแบนกาแฟนี่ผมก็ว่าตามหนังสือเขาว่าละครับ
แต่พูดถึงเรื่องเหล้าแล้วเปี้ยวปากครับ เหอๆๆๆ


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ม.ค. 01, 07:37
มานั่งลุ้นคุณโสกันให้เล่าต่อค่ะ  คันปากอยากออกความเห็นด้วยเหมือนกัน
ขอเปิดสภากาแฟในมุมหนึ่งบนเรือนไทย ก็แล้วกันนะคะ:)


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: คาปูชิโน ที่ 04 ม.ค. 01, 09:59
ผู้นำเขมรแดงที่กล่าวถึงในความเห็นที่8 ใช่พอลพตหรือเปล่าครับ


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: พวงร้อย ที่ 04 ม.ค. 01, 10:21
คิดว่าเป็น เขียว สัมพันธ์ นะคะ


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 04 ม.ค. 01, 17:51
คิดว่าพอลพต ก็ศึกษาอยู่ในฝรั่งเศสเหมือนกันครับ
ได้ทุนจากรัฐบาลให้มาเรียนวิศวะฯ (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)
เขาใช้เกินทุนหมดไปกับการซื้อหนังสือมือสอง
คาดว่าเป็นพวกปรัชญามาร์คซิสส์อะไรทำนองนั้น
ในที่สุดก็เรียนไม่สำเร็จ... แล้วก็กลับไปบ้านเกิดเมืองนอน
ก่อวีรกรรมที่โลกไม่ลืมอย่างที่เราๆ ทราบกันครับ

เคยอ่านในหนังสือพิมพ์ช่วงตอนที่มีข่าวว่าพอลพตเสียชีวิต
ผิดถูกอย่างไรช่วยแก้ไขด้วยแล้วกันครับ


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: โสกัน ที่ 05 ม.ค. 01, 01:01
ผมหน้าใหม่ที่นี่ครับ เพิ่งเข้ามาสองสามครั้งเอง
ยังไม่คุ้นเคยกับเจ้าของบ้าน ก็ขอเจียมตัวเอาไว้ก่อน
แต่เมื่อคุณเทาฯให้ไฟเขียวมาแล้ว ก็ขอฉวยโอกาศเลยนะครับ

เรามาถกเขมรกันก่อน
พอลพตได้ทุนไปเรียนด้าน Radio Electronics
ที่ได้ทุนไม่ใช่เพราะหัวดีมีไอคิวคิวสูง แต่อาศัย"เส้นในวัง"
และพูดภาษาฝรั่งเศสได้ดีพอใช้ แต่ไปอยู่ปารีสแทนที่จะ
เรียนวิชาที่ได้ทุนเรียน กลับไปเข้าเป็นสมาชิกพรรค
คอมมิวนิสต์ฝรั่งเศส อ่านศึกษาลัทธิมาร์ก
(และเจอแฟนสาวเขมรก็ที่นี่)
เพื่อนๆนักเรียนคนเขมรไฝ่ซ้ายที่กอดคอคุยตามสภากาแฟ ก็มี เขียว สัมพันธ์ เอียง สารี และ ซอนเซ็น ล้วนเป็นผู้ที่มีบทบาทในการเมืองเขมรต่อมาทั้งนั้น พอลพตเรียนอยู่สามปี สอบตกสามปีรวด ก็อดได้ทุนเรียนต่อ ต้องกลับเขมร เป็นครูโรงเรียนราษฎร์เลี้ยงตัวเอง แต่ใช้เวลาส่วนใหญ่ชุ่มทำกิจกรรมฝักไฝ่ซ้าย จนสงครามเวียดนามลามเลอะเข้าไปใน
เขมร นายพลลอนนอลทำรัฐประหาร สหรัฐหนุนสีหนุ
พอลพตก็เข้าป่ารบกับลอนนอล เหตุการณ์ต่อมาพวกเราก็รู้กันแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

ความจริง พอลพตนี่ไม่ใช่ชื่อจริงนะครับ เป็นชื่อที่ตั้งให้ตัวเอง สมัยทีเป็นผู้นำเขมรแดงและตั้งตัวเป็นนายกฯ "กัมพูชาประชาธิปไตย"

อีกเรื่องที่อยาก "โส" กันมาก ก็ที่คุณนกข. ถามว่า
"Sherry Tree Lane" ที่บ้านของนายBanks ในเรื่อง
Marry Poppins นี่อยู่ส่วนไหนของลอนดอน
คุณเทาชมพูอนุญาตไหมครับผม


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 05 ม.ค. 01, 01:45
ผมก็ยากทราบเหมือนกันครับ

คิดว่าคุณโสกันไป Post ไว้ที่กระทู้ของคุณ นกข. น่าจะดีครับ

http://vcharkarn.com/snippets/board/show_message.php?dtn=dtn5&number=254


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 05 ม.ค. 01, 02:41
รอฟังเล่าอยู่ครับ ผมน่ะไม่นึกหรอกว่า เชอร์รี่ทรี เลน จะมีจริงๆ นึกว่าเป็นแต่จินตนาการของผู้แต่งเรื่องแมรี่ ปอบ- เอ๊ย ป๊อปปิ้นส์ ถ้ามีจริงก็ดี ครั้งหน้าจะได้ไปเดินดู
เข้าใจว่า ที่ถนนสายไหนก็ไม่ทราบสายหนึ่งของลอนดอน ก็มีรูปปั้นปีเตอร์แพนอยู่ ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นบ้านของเว็นดี้ในเรื่องหรือเปล่า
ผมนั่งรถผ่านสก็อตแลนด์ยาร์ดด้วยนะครับ ทั้งเก่าและใหม่ และสารภาพอย่างหน้าชื่นว่า ได้ถูกพิพิธภัณฑ์เชอร์ลอกโฮล์มส์หลอกเอาเงินไปเรียบร้อยแล้วด้วยการซื้อ "หมวกล่ากวาง" แบบที่โฮล์มสใส่มา 1 ใบ ใส่เดินลอนดอนด้วยความภูมิใจ ใครว่าบ้าก็ช่างเขาปะไร (ก็เราบ้าจริงๆ)

เชิญเล่ามาเถอะครับ แล้วผมจะพยายามลากขึ้นเรือนไทยดู สามทหารเสือผมยังลากไปเกี่ยวกับโกษาปานได้ ชอลิ่วเฮียงก็ลากไปพันกับอาจารย์คึกฤทธิ์จนได้ เดี๋ยวจะลองดูว่าจะลากแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ ให้มาเกี่ยวกับเรือนไทยท่าไหนดี


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: โสกัน ที่ 05 ม.ค. 01, 03:17
งั้นก็ตามไปที่กระทู้ของคุณนกข. ละกันครับ

http://vcharkarn.com/snippets/board/show_message.php?dtn=dtn5&number=254



เรื่องความชอบของคนนี่ไม่ว่ากันครับ

ผมเคยมีเพื่อนคนนึง เธอหลงไหล

กษัตริย์อาเธอร์และอัศวินโต๊ะกลม อย่างจริงจัง

เธอมารบเร้าและผมก็ใจอ่อนไปตระเวณ Wales

ที่ว่ากันว่าเป็นถิ่นเมือง Camelot ไปดูปราสาทที่เกิด

ของอาเธอร์ ไปยืนกรำฝนริมบึงที่เล่ากันว่าอาเธอร์ทิ้งดาบคู่บารมีลงไปแล้วมีมือเจ้าแม่ทะเลสาปยื่นขึ้นมารับ ที่เมืองอังกฤษนี่มีที่ให้คนเราบ้าไปด้วยเยอะนะครับ


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: โสกัน ที่ 05 ม.ค. 01, 03:50
กำลังจะย้ายไปคุยกระทู้เรื่องแมรี่ ป๊อบปิ้น
อ้าว...เหลือบไปดู เห็นคุณนิลกังขาเอ่ยถึง รูปปั้นปีเตอร์แพน
ที่ตั้งทางด้านตะวันออกเฉียงหนือของ Kensington Gardens ถ้าใช่นะครับ บ้านหลังที่ว่าคือ Kensington Palace ครับ ไม่ทราบว่าตอนนี้ Princess Margaret ยังประทับอยู่วังนี้มั้ย ใครรู้บ้าง

รูปปั้นปีเตอร์แพน มีหลายแห่งครับ ที่ออสเตรเลีย เอย
นิวซีแลนด์ เอย ที่นิวยอร์ค ก็ยังมีครับ

อุ๊ย...กระดานเรือนไทยนี่...ยิ่งคุยยิ่งมัน...เนาะ
ขอบคุณ คุณเทาชมพูหลายๆเด้อ


กระทู้: คาเฟ่ปรีดีฯ
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 05 ม.ค. 01, 04:05
Princess Margaret  ยังทรงประทับอยู่ที่นั้นหรือเปล่าไม่ทราบครับ
แต่ที่แน่ๆ กำลังทรงพระประชวรอยู่ครับ at the moment

จบข่าว เรือนไทยนิวส์...