เรือนไทย

 แม้ชีวิตของ "นโปเลียน โปนาปาร์ต" จะเป็นชีวิตที่มุ่งเน้นไปในทางการทำศึกสงครามเสียมาก แต่ทว่าเรื่องรักใคร่ก็มีอยู่เช่นกัน กับสาวปารีสแสนสวยนามว่า"โยเซฟีน" ความรักของ"นโปเลียน" เป็นความรักที่ดูดดื่ม และมีการแต่งงานร่วมชีวิตกันอย่างเปิดเผย รวมถึงเป็นรักที่จริงใจ ครั้งแรกและครั้งเดียวของกษัตริย์นักรบผู้นี้

                    พระราชินีแห่งกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นใครกันเล่า มีพระสิริโฉมงดงามเพียงใด จึงสามารถกำดวงใจของนักรบผู้เก่งกล้าไว้ในกำมือของนางได้ ไปฟังกันได้เลย

 โยเซฟีนเป็นเด็กหญิงชาวเกาะมาร์ตินิค ในขณะที่เริ่มรู้จักกับนโปเลียนมีอายุอยู่ในวัย 30 ปีเศษ ซึ่งเป็นเด็กหญิงในตระกูลดี แต่มีใช่ว่าจักสวยเด่นเพียงใด  แต่ทว่ามีกริยามารยาทที่สง่างาม แม้ว่าจะมีเชื้อสายอยู่ทางเกาะมาร์ตินิค แต่นางก็ได้เจริญเติบโตในมหานครปารีส ซึมซับอารยธรรมของเมืองนี้มามาก

เมื่อนางเป็นสาวแรกรุ่นหล่อนได้แต่งงานกับชายนามว่า วิกองค์ เดอโบ ฮาร์เนย์ จนได้กำเนิดบุตรชาย หรือคือเด็กชายซึ่งภายหลังได้เข้าไปขอดาบคืนจากนโปเลียนนั้นเอง

และต่อมาโยเซฟีนได้เลิกร้างกับสามีเก่า เพราะได้ตายในคราวสงครามกลางเมืองในฝรั่งเศส สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่16 ในยุคระบอบกษัตริย์โดยการถูกประหารในข้อหาว่าเป็นพวกเข้าข้างกษัตริย์หลุยส์ ตัวโยเซฟีนเองก็ถูกจับไปด้วย แต่ตอ่มาได้รับการปลดปล่อย ซึ่งตอนนี้นางอยู่ในฐานะของ แม่ม้ายผัวตาย ซึ่งเป็นคนที่น่าสงสารมากในสังคมยุโรป

เมื่อได้รับการปลดปล่อยนางอยู่ในความทุกข์ยาก แต่ด้วยความงดงามของนาง ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นหญิงที่"เจ้าชู้" และชอบทำตามใจตนเอง หล่อนได้คบกับบุคคลสำคัญหลายๆคน บางคนในฐานะ ชุ้รัก！คือบาราสบุคคลสำคัญคนหนึ่งในคณะผู้แทนราษฏร รวมถึงพวกขุนนางใหญ่ๆ แก่ๆซึ่งล้วนแต่มีลูกมีเมียแล้ว ก็หลงเสน่ห์ของโยเซฟีน ไปมาหาสู่นางมิได้ขาด ความงามของนางจึงเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว

เมื่อนโปเลียนได้รู้จัก มักจี่ กับโยเซฟีน เพราะลูกชายของหล่อนได้มาขอดาบคืนนั้น เมื่อแรกพบนโปเลียนก็หลงเสน่ห์ของโยเซฟีนจนถอนตัวไม่ขึ้น แต่ต่อมาปรากฏว่านโปเลียนไปเป็นแขกของโยเซฟิน อยู่เสมอ

 เรื่องราวของเด็กชายที่ขอดาบคืน เป็นยังไงคะ   ขอดาบของใคร คืนที่ไหน ยังไง
คุณ vun ไม่ได้เกริ่นให้ทราบกันเลย

ไม่ทราบว่าคุณ vun ลอกบทความเรื่องนี้มาจากหนังสือเล่มไหนหรือไม่
อ่านสำนวนแล้วไม่ใช่สำนวนคุณ   และน่าจะเป็นบทความที่ตัดตอนมา    เพราะข้อความบางตอนก็เชื่อมกับเรื่องไม่สนิทนัก
ที่ถามเพราะเกรงปัญหาลิขสิทธิ์ที่ทางเว็บจะต้องรับผิดชอบค่ะ

 นโปเลียนนี่ก็เจ้าชู้ไม่เบานะครับ มีบ้านเล็กบ้านน้อยเพียบ ตอนไปตีรัสเซีย ทางโปแลนด์ใช้กลสาวงามกับนโปเลียนด้วย (อย่าคิดว่าทางยุโรปใช้แผนนี้ไม่เป็นนะ    ) แต่คนที่นโปเลียนรักจริงก็คือโจเซฟีนนี่แหละ

 ใช่สิ ใครบอกไม่เจ้าชู้หละครับแหลม

 อ๋อ พอดีผมไปย่อมา จะเอาไปลงในโฮมเพจผม

 นโปเลียนจะรักจริงหรือไม่คงพูดอยากครับ หลายคนก็ตั้งข้อสังเกตว่านโปเลียนอาจจะรักเธอเพราะหวังผลทางการเมืองก็ได้

จิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง

ไปย่อมาจากไหนคะ  
ถ้าคุณ vun เอาไปลงในโฮมเพจคุณ  คุณก็รับผิดชอบคนเดียว
แต่นี่คุณเอามาลงในเว็บวิชาการ ซึ่งค้นหาได้ทาง google
สมควรจะอ้างที่มาด้วยค่ะ

 สมัยก่อน เคยมีคนใช้แผนนารีพิฆาต(กลสาวงาม) ซึ่งว่ากันว่าลงทุนน้อย แต่ได้ผลมาก(มองในด้านปริมาณ) ดังจะเห็นได้จากพงศาวดารจีน
ผมเห็นว่า แผนนารีพิฆาตมีวิธีป้องกันง่าย แต่มักไม่ได้นำมาใช้ นั่นคือ การข่มใจ จึงมักพบว่าแผนนี้ได้ผลเสมอ
แต่ที่คุณฮ็อตฟัดจ์กล่าวมา ยังไม่เคยได้ยินครับ
ป.ล.
1. นโปเลียนเคยมีคู่หมั้นคนหนึ่ง ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องสาวของภริยาโจเซฟ พี่ชายนโปเลียน
นามว่า เดซีเร กลารี
ต่อมาคู่หมั้นคนนั้นจึงแต่งงานกับชอง-บัพติสม์ แบร์นาดอต (ต่อมาได้รับการสถาปนาเป็นพระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 14 แห่งราชอาณาจักรสวีเดนและนอร์เวย์)
อ้างจากสารานุกรมประวัติศาสตร์สมัยใหม่ : ยุโรป เล่ม 2 หมวดอักษร C-D ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ครับ
2. ผมตั้งข้อสังเกตไว้อย่างหนึ่งครับ
ในสารานุกรมดังกล่าว ระบุเฉพาะพระประวัติของ
พระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 10 แห่งราชวงศ์บูร์บอง,จักรพรรดิชาร์ลส์แห่งออสเตรีย-ฮังการี,พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 14 และพระเจ้าชาร์ลส์-อัลเบิร์ตแห่งราชวงศ์ซาวอยครับ
แต่กลับไม่มีพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 และ 2 แห่งราชวงศ์สจ๊วตครับ
ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดครับ?

 อาจจะไม่เหมือนกลสาวงามทั่วไปนะครับ แต่ตอนที่นโปเลียนไปตีรัสเซีย สาวโปแลนด์คนนึงเข้ามายอมเป็นหม่อมของนโปเลียน เพื่อมาขอให้นโปเลียนสถาปนาประเทศโปแลนด์กลับขึ้นมาใหม่ (หลังจากถูกรัสเซียรวบไป) นโปเลียนก็พอรู้ไต๋เหมือนกัน แต่ก็ยอม สาวคนนี้เป็นเคาน์เตส มีสามีแล้ว สามีเป็นคนกล่อมให้เธอมาถวายตัวให้นโปเลียนเองด้วย

ส่วนเรื่องพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ นั่นเป็นเพราะเป็นยุคประวัติศาสตร์ที่ไม่ใหม่เท่าไหร่หรือเปล่าครับ ย้อนกลับไปศตวรรษที่ 17 ต้นๆเลย องค์อื่นๆอยู่ศตวรรษที่ 19 แล้ว

 นโปเลียนเจ้าชู้จริง ๆ ไม่เชื่อดูที่ข้างบนครับ

"ความเห็นเพิ่มเติมที่ 5

โอ้ว... ว่าจะไปนอนแต่นึกขึ้นมาได้
ที่บอกว่านโปเลียนเรียกชือโยเซฟินเป็นคำสุดท้ายก่อนตายนี่ยังสงสัยอยู่
เพราะจริงแล้วจักรพรรดิ์นโปเลียนของเราทรงพระ PlayBoy ไม่เบา  
นอกจากโจเซฟินแล้วยังมีที่สำคัญก็ มารี หลุยส์จากออสเตรีย และอีกหลายๆคน
รวมทั้งหมดก็ 7 นางด้วยกัน (ที่ผมทราบ) ดังนี้ครับ
1) Josephine Beauharnais
2) Marie Louise of Austria
3) Marie Waleska
4) Desiree Clary
5) Giuseppina Grassini
6) Mademoiselle Georges
7) Pauline Foures
อืม ... ผมว่าจริงๆแล้วนโปเลียนอาจจะต้องการรำพันว่า
"France, the army, Josephine, Marie, Desiree, Pauline, ... etc."
แต่บังเอิญพูดยังไม่ทันจะครบนะ (หรือไม่ก็มัวแต่นึกชื่ออยู่)
โดย: จ้อ  [IP: hidden]  
วันที่ 18 เม.ย. 2545 - 09:40:48"

 http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Cid=20&Pid=5505

ป.ล.
1. ไม่รู้ว่าคุณ vun จะแวะมาอีกหรือเปล่าครับ
2. คุณฮ็อตฟัดจ์ครับ ผมคงต้องไปตรวจสอบวัตถุประสงค์ของราชบัณฑิตอีกคราวครับ

 เคยไปชมภาพ Coronation of Napoleon ที่คุณเทาชมพูกรุณานำมาให้ชมในความเห็นที่ ๑๖ เหมือนกันครับ แต่นานมาแล้ว เกือบสิบปีได้แล้วกระมัง

จำได้ว่าผู้นำชมอธิบายเกร็ดในภาพว่า สตรีในชุดสีขาวนวลที่นั่งเด่นเป็นสง่าบนเก้าอี้บุผ้าสีแดง เพื่อชมพิธีราชาภิเษกอยู่เบื้องหลังม่านสองไขนั้น คือพระชนนีของพระเจ้านโปเลียน

แท้จริงแล้วพระชนนีไม่ได้เสด็จมาทรงร่วมอยู่ในพระราชพิธีด้วย เพราะพระองค์กริ้วที่พระโอรสไม่โปรดให้สมเด็จพระสันตะปาปา เป็นผู้ทรงสวมมงกุฎอภิเษกนโปเลียน หากแต่นโปเลียนโปรดที่จะทรงสวมมงกุฎด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง อย่างไรก็ดี นโปเลียนได้โปรดให้เดวิดวาดพระรูปของพระชนนี ไว้ในภาพนี้ด้วย

 รวมลิงค์นโปเลียน ในวิชาการจุดคอมครับ
The End of The Nile
ชวนคุยเรื่องนโปเลียน โบนาปาร์ต