เรือนไทย

General Category => วิเสทนิยม => ข้อความที่เริ่มโดย: han_bing ที่ 23 เม.ย. 11, 13:25



กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 23 เม.ย. 11, 13:25
ถึงสมาิชิกเรือนไทย

              ช่วงนี้ผู้เขียนกำลังสนุกสนานกับการทำขนมไทยสองชนิดคือขนมสัมปันนี และขนมทองเอก เนื่องด้วยใช้พิมพ์สวยๆที่ซื้อจากในจีนมาำทำ เป็นพิมพ์ไม้แกะสลักอย่างงาม ราคาถ้าทำด้วยมือก็ไม่ค่อยจะถูก แต่ใช้เครื่องจักรทำก็ถูก ซื้อมาเป็นบ้าเป็นหลังเพราะว่าเมืองไทยหายาก ถึงหาได้ก็แพงกว่าที่แพงที่สุดในจีน

              ทั้งนี้ผู้เขียนสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตไปเรื่อยๆแล้วสายตาพลันไปประสบกับพิมพ์ขนมของไต้หวั่นและขนมของแถบแต้จิ๋ว สองที่นี้เหมือนกันไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะอยู่ในหน่วยวัฒนธรรมเดียวกันคือวัฒนธรรมหมินหนาน (闽南:min nan) หน้าตาเหมือนพิมพ์สัมปันนีของบ้านเราเป็นที่สุด แล้วมองไปใกล้ๆอีกแห่งที่มีพิมพ์แบบเดียวกัน คือมาเลเซียซึ่งชาวจีนบ้าบ๋าในมาเลย์ใช้ทำขนมผิง หรือที่เขาเรียกว่า kueh bang kit เพื่อนชาวมาเลย์เชื่อสายจีนบอกว่าภาษาจีนมาเลย์เรียกว่า "ฟาน โผ ปิง" (番婆饼: fan po bing) หน้าตาเหมือนขนมผิงไทยแต่ใช้พิมพ์สัมปันนีทำ

              ด้วยความสงสัยผู้เขียนเลยลองๆค้นดูว่าคนจีนมีขนมผิงหรือไม่ หานานพอดูแต่ยังไม่พบ แต่ว่าเจอพวกขนมไหว้เจ้าที่ใช้พิมก์แบบสัมปันนี ขนมประเภทนี้จะเป็นขนมนี้ใ้ช้แป้งมาพิมพ์ เรียกรวมๆว่า "เกา จ๊าย" (糕仔: gao zai) หน้าตาใกล้เคียงกับขนมโก๋ไหว้พระจัีนทร์ที่มีขายอยู่ในไทยมากๆ วิธีทำมีเหมือนบ้างไม่เหมือนบ้าง ตามแต่ชนิดไป เป็นของดีของเด่นแถวๆทางใต้อาทิ ไต้หวั่น กวางตุ้ง

              วิธีการทำก็ไม่ค่อยจะแตกต่างจากเมืองไทยทำเท่าใดนักคือใช้แป้งข้าวเหนียวที่คั่วสุึกแล้วมาทำ ผสมน้ำอุ่นนวดๆแล้วก็ห่อไส้อะไรก็ตามแต่...จบ

              นอกจากขนมสองชนิดนี้ข้าพเจ้ายังไปเจอทองม้วน และขนมปั้นขลิบทอดขายอีก โดยทองม้วนนี้ทางเมืองนานกิงก็เห็น ซูโจวก็มี ส่วนชื่อนั้นไม่ได้ไปถาม เพราะไม่ค่อยชอบกิน ส่วนปั้นขลิบนี้เห็นดังอยู่ที่ทางใต้ เรียกว่า "โยว่เจียว" (油角:you jiao)

              ไม่กล้าพูดว่าไทยรับจากเขามา แต่ดูแล้วก็พอสันนิษฐานได้อยู่

              แต่อันว่าสัมปันนีนี้สิ สงสัยของจริงว่าจะมาจากเขาหรือเปล่า เพราะพิมพ์ก็ใช่ แป้งก็คล้าย (ใช้แป้งมันหรือแป้งข้าวเหนียวคั่วจนสุก) ผสมน้ำอุ่น ส่วนเราใช้น้ำกะทิ พร้อมอัดเข้าพิมพ์

             แต่เห็นเขาเขียนกันทั่วไปว่ามาจากโปรตุเกส ข้าพเจ้าลองค้นๆยังไม่เจออะไรจากโปรตุเกสพอเทียบได้ เพราะไม่รู้ภาษาและวัฒนธรรมโปรตุเกสดีพอ

             ทั้งนี้...

             ใครทำขนมสัมปันนีเป็นบ้าง ทำมาเพื่อนบางคนบอกว่าอร่อย แต่บางคนบอกว่าแป้งไม่สุก ข้าพเจ้าจะไปทำอวดแขกเสียหน่อย ข้อสงสัยมีดังนี้
 
             ๑. แป้งที่เขาให้คั่วก่อนนี้คั่วจนสุกแต่ว่าให้กลายเป็นสีเหลืองหรือไม่ อย่างไร

             ๒. ตัวขนมจะเหนียวๆหรือว่าผืดๆละลายในปาก เพราะทำมาผลออกมาได้สองแบบ

             เมตตาด้วยเูถิด ถ้าใครผ่านมาถ่ายรูปขนมพร้อมผ่าตัวขนมให้ดูด้วย

             ทั้งนี้ภาพประกอบต่างจะลงตามมาภายหลัง ช่วงนี้รู้สึกเข้าเว็ปไซด์ของไต้หวั่นยากพอควร คงต้องใช้วิทยายุทธบางอย่างเสียแล้ว

             สวัสดี

               

             


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 เม.ย. 11, 17:56
ก่อนที่จะตัดสินว่าขนมสัมปันนีมาถึงสยามได้อย่างไร ขั้นต้นขอลงประวัติที่อ้างถึงขนมนี้ ดังนี้

"อเล็กซานเดอร์ แฮมิลตัน ชาวตะวันตกอีกผู้หนึ่งที่บันทึกการเดินทางเกี่ยวกับเรื่องของ ท้าวทองกีบม้า ว่า

"ข้าพเจ้าได้เห็นท่านผู้หญิงของฟอลคอนในปี พ.ศ.2262 เวลานี้ท่านได้รับเกียรติเป็นต้นห้องเครื่องหวานาของพระเจ้าแผ่นดิน ท่านเกิดในกรุงสยามในตระกุลอันมีเกียรติ และในเวลานั้นท่านเป็นที่ยกย่องนับถือแก่คนทั่วไป...

ท่านท้าวทองกีบม้าผู้นี้ เป็นต้นการสั่งสอนให้ชาวสยามทำของหวาน คือ ขนมทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมทองโปร่ง ทองพลุ ขนมผิง ขนมฝรั่ง ขนมผิง ขนมไข่เต่า ขนมทองม้วน ขนมสัมปันนี ขนมหม้อแกง เป็นต้นเหตุเดิมที่ท้าวทองกีบม้าทำและสอนให้ชาวสยาม"

นี่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่มีการยอมรับวัฒธรรมขนมหวานจากชาวโปรตุเกส ซึ่งมักนิยมนำมาจัดเลี้ยงในงานพิธีมงคลต่างๆ ตั้งแต่สมัยอยุธยาในครั้งกระนั้นสืบทอดมาถึงยุคปัจจุบันในทุกวันนี้ "

ส่วนสำปันนีทางฝั่งจีน รบกวนคุณหาญ หาข้อมูลมาให้อ่านกันได้ไหมครับ


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 เม.ย. 11, 18:00
"มาเลเซียซึ่งชาวจีนบ้าบ๋าในมาเลย์ใช้ทำขนมผิง หรือที่เขาเรียกว่า kueh bang kit "

1. พวกบ้าบ๋า นี้เป็นชาวจีนเชื้อสายฮกเกี้ยน ที่อยู่ในดินแดนมาเลย์ ใช่ไหมครับ
2. นำภาพขนม kueh bang kit มาให้ชมครับ
3. แม่พิมพ์ขนม แกะได้สวยงามมาก

วิธีการทำkueh bang kit
260g tapioca flour (แป้งมัน)
4 screwpine (pandan) leaves, cut into thirds (ใบเตย)
1 egg yolk (ไข่แดง)
85g icing sugar (น้ำตาลไอซิ่ง)
70-80ml coconut milk (adjust accordingly) (น้ำกะทิ)
pinch of salt
Red food colouring and toothpick to decorate

1. Stir fry tapioca flour with pandan leaves in a clean wok or large flat frypan for 75 mins over low flame, until the flour is very light (prepare yourself for a flour-covered kitchen!), slightly yellow tinged and the pandan leaves are crispy. The final weight I had was around 210g. (FYI, you might like to cook a little extra flour on the side and save it for dusting of molds/cookie cutters).

2. Cool flour over a couple of days. I left it to cool to room temperature, then stored it into an airtight jar and cooled it in the fridge.

3. Preheat oven to 160°C. Whisk egg yolk until creamy, add in icing sugar and add about 35-40ml of the coconut milk and whisk to combine.

4. In a mixing bowl, sift in the tapioca flour and add in the egg mixture.

5. Slowly and gradually add in the balance of the coconut milk into the mixture little by little, mixing by hand until mixture clings together to form a stiff dough that’s smooth, pliable and neither too wet nor dry.

6. Dust a Bangkit mould lightly with extra cooked flour, take a knub of dough and press into the mold but not too hard or it might stick. With a knife, trim excess dough and level. Angle the mould at 45° to the bench and knock the mold to remove dough. Repeat with remaining dough. Have some toothpicks on hand to scrape out any dough stuck to the crevices of the mold.

Note: I found that my dough wasn’t that sticky so I didn’t really need to dust the mold after the 1st initial dusting.

7. Bake for for 25 mins or until biscuits are fully cooked through. Cool on wire racks. When cooled, use a toothpick to dot red food colouring onto the centre of the ‘flowers’ and the eyes of the ‘animal’ shapes. Store in an airtight container in a cool and dry place.




กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 เม.ย. 11, 18:10

              วิธีการทำก็ไม่ค่อยจะแตกต่างจากเมืองไทยทำเท่าใดนักคือใช้แป้งข้าวเหนียวที่คั่วสุึกแล้วมาทำ ผสมน้ำอุ่นนวดๆแล้วก็ห่อไส้อะไรก็ตามแต่...จบ

             

ขนมของทางจีน ส่วนมากเห็น การห่อแป้งประเภทต่างๆ แล้ว นึ่ง ทอด เป็นส่วนใหญ่ แต่สัมปันนี ใช้การกวนเป็นหลัก


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 เม.ย. 11, 18:14
1.คั่วแป้งมันด้วยไฟอ่อนๆจนแป้งลื่นบนกะทะ(เหลือไว้สักนิดไว้ทำแป้งนวล) ยกลงใส่ในภาชนะมีฝาปิดเพื่ออบควันเทียนประมาณ3ครั้งต่อ15นาที


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 เม.ย. 11, 18:14
2.ผสมน้ำตาลทรายกับหัวกะทิตั้งไฟปานกลาง คนให้ละลาย ใส่เกลือนิดหน่อยก็ดี


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 เม.ย. 11, 18:15
3. นำน้ำกะทิที่กรองแล้วตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวจนเป็นข้น แล้วปิดไฟคนต่อให้นขาวเหมือนนมข้นหวาน (สีเหมือนม๊ากแต่นมข้นกว่า) ร่อนแป้งมันที่คั่วสุกแล้วใส่ลงผสมกับนม(กะทิ) คนให้เข้ากัน ตอนนี้แบ่งแป้งกวนเพื่อใส่สีที่ชอบได้
ยกขึ้นตั้งไฟ คนต่อพอเหนียวข้นหนืด ดูว่าแป้งเริ่มร่อนไม่ค่อยติดกะทะก็ยกออกจากเตา คนต่อสักพัก แล้วตั้งไว้พออุ่น โรยแป้งนวลเบาๆบางๆ แล้วอัดใส่พิมพ์ ใช้ผ้าขาวบางคลุมแป้งที่ยังไม่ได้กดพิมพ์ถ้าอัดพิมพ์ไม่ทัน ขนมเริ่มแห้งแข็ง หยดน้ำนิดหน่อย แล้วกวนใหม่


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 เม.ย. 11, 18:34
คุญหาญ อย่าลืมนะว่าอิทธิพลของโปรตุเกศนั้นได้แผ่อิทธิพลทางการค้าและอาหารมายังตะวันออกไกลและตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงคริสคตวรรษที่ ๑๖ พวกโปรตุเกศนั้นได้เข้ามาทำการค้าขายใน
เมืองกัว - อินเดีย,
เอโดะ - ญี่ปุ่น,
มะละกา - มาเลเซีย,
อยุธยา - ประเทศไทย,
หงสาวดี - เมียนม่า
มาเก๊า - จีน
เป็นต้น

ทั้งนี้ในรายละเอียดเมืองท่าทางการค้าในดินแดนประเทศไทยก็ยังรวมไปถึง ปัตตานี สงขลา นครศรีธรรมราช บางสะพาน เมืองเพชร เมืองจันทรบูร ซึ่งพวกนี้มาแล้วย่อมนำวัฒนธรรมด้านอาหารติดมาด้วย

ไทย - มีขนมทองหยิบ ทองหยอด และอื่นๆบรรดามี
ญี่ปุ่น - มีทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง (แบบแห้ง)
เป็นต้น

แม้กระทั้ง ทาร์ดไข่ ก็เป็นวัฒนธรรมที่รับจากโปรตุเกศ


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 23 เม.ย. 11, 22:18
เรียนสมาชิกชาวเรือนไทย

               เว็ปไซด์เดียวก้ันเลยที่ผมใช้ เป็นตัวอย่างการทำ kueh bang kit แล้วที่ทำขนมสัมปันนีผมก็ดูจากบล็อคดังกล่าวเหมือนกัน
                 
               โลกช่างกลมเสียนี้กระไร

               ขนมสัมปันนีที่จีนผมไม่เคยเห็น แต่หน้าตาใกล้ๆนะพอเคยเห็น ขนมที่ว่าเรียกว่า "เกา จ่าย" (糕仔: gao zai) ถ้าให้แปล คงแปลว่า "ขนมประเภทเค้กพิมพ์รูปสัตว์" ไม่รู้ว่าแปลตรงตัวหรือเปล่า เพราะ 糕 แปลว่าขนมประเภทเค้ก ส่วน 仔 แปลได้ว่าลูกสัตว์

               ขนมตระกูลนี้ที่พบมากและมีให้กินกันมากจะเป็นแบบที่ทำจากถั่วเขียวเรียกภาษาจีนกลางว่า "ลู่ โตว่ เกา" (绿豆糕:lu dou gao) ที่ทำจากถั่วเขียวบดผสมแป้งข้าวเหนียวคั่วสุก เจือน้ำมันหมูแล้วอัดใส่พิมพ์ ต่อจากนั้นก็นำไปนึ่ง บางทีก็ใช้ถั่วเขียวแช่น้ำบดแล้วนำไปบดพร้อมอัดใส่พิมพ์ก็มี วิธีการทำสำหรับวิธีแรกดูได้จากเว็ปไซด์ดังนี้ http://baike.baidu.com/view/66980.htm#sub66980

               ส่วนวิธีที่สองดูได้จากเว็ปไซด์ดังนี้ http://www.meishij.net/chufang/diy/tianpindianxin/165632.html

               ขนมชนิดนี้จะเป็นขนมขึ้นชื่ออย่างหนึ่งของเขตวัฒนธรรมหมินหนาน

               ขนมชนิดนี้มีทั่วจีน แต่ที่ดังพอตัวคือที่เมืองแต้จิ๋วซึ่งอยู่ในกลุ่มวัฒนธรรมหมินหนานเช่นกัน จะทำในเทศกาลสารทไหว้พระจันทร์ คนเขาจะเอาถั่วเขียวมาทำเป็นแป้งถั่วเขียว หลังจากนั้นก็นำแป้งถั่วเขียวมาผสมกับน้ำตาล และน้ำมันหมู นวดจนกลายเป็นแป้งก้อนๆไม่ติดมือ หลังจากนั้นก็ยัดใส่ไส้งา ไส้ถั่วตามใจ ต่อจากนั้นก็นำไปใส่พิมพ์ลวดลายต่างๆ แล้วจึงนำไปนึ่งประมาณ ๕ ถึง ๑๐ นาที หน้าตาการทำดูได้จากเว็ปนี้ ไม่ใช่แบบแต้จิ๋วแต่วิธีการคล้ายกัน ต่างกันตรงที่เขาใส่แป้งข้าวเหนียวลงไปด้วย http://www.meishichina.com/Eat/Nosh/200801/30240.html

               ส่วนวิธีการทำดั้งเดิมของทุกๆที่ดูจากเว็ปไซด์ต่อไปนี้ http://baike.baidu.com/view/66980.htm#sub66980

               


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 23 เม.ย. 11, 22:24
ส่วนภาพวิธีการทำ ข้าพเจ้าเลือกเอาจากเว็ปไซด์ของอำเภอหนึ่งในเมืองแต้จิ๋ว ชื่อว่าเมือง "หล่าว ผิง" (饶平: rao ping) โดยมีที่มาจากเว็ปไซด์ดังนี้ http://www.iraoping.com/html/rpfengsu/8399.html



กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 23 เม.ย. 11, 22:25
ภาพแรกวัสดุที่ใช้ทำ


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 23 เม.ย. 11, 22:26
ภาพพิมพ์ประดามี


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 23 เม.ย. 11, 22:30
ทำแป้งสำหรับห่อไส้ (น่าจะใช้ถ้วยนะ อย่างนี้แป้งเปื้อนเต็มเลย)


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 23 เม.ย. 11, 22:34
อัดใส่พิพม์ แต่จากรูปนี้ไม่ัยักกะเห็นไส้สำหรับห่อ หรือมันจะมีแต่แป้งหนอ...

ในเว็ปไซด์ก็มิได้อธิบายไว้เท่าไรด้วย


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 เม.ย. 11, 22:35
"ขนมตระกูลนี้ที่พบมากและมีให้กินกันมากจะเป็นแบบที่ทำจากถั่วเขียวเรียกภาษาจีนกลางว่า "ลู่ โตว่ เกา" (绿豆糕:lu dou gao) ที่ทำจากถั่วเขียวบดผสมแป้งข้าวเหนียวคั่วสุก เจือน้ำมันหมูแล้วอัดใส่พิมพ์ ต่อจากนั้นก็นำไปนึ่ง บางทีก็ใช้ถั่วเขียวแช่น้ำบดแล้วนำไปบดพร้อมอัดใส่พิมพ์ก็มี " ผมได้เข้าไปดูแล้วนำภาพวิธีทำมาให้เพิ่ม ดูแล้วเหมือนทำขนมโก๋ หรือ ข้าวตู มากว่าสัปปันนี เพราะสัมปันนีใช้การกวนเป็นหลัก


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 23 เม.ย. 11, 22:40
อันนี้คงเป็นวิธีเคาะออกจากพิมพ์ ในภาพไม่ได้อธิบายว่าเป็นน้ำร้อนหรือน้ำเย็นแต่อย่างใด



กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 23 เม.ย. 11, 22:40
เสร็จแล้ว


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 23 เม.ย. 11, 22:42
อันนี้แบบมีไส้ นำภาพมาจากเว็ปไซด์ดังนี้ http://www.ipeen.com.tw/comment/85089


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 เม.ย. 11, 22:45
ประวัติขนมนี้ กำเนิดเมื่อ 300 ปีมาแล้วสมัยราชวงศ์หมิง โดยปราชญ์ชาวจีน ดังนี้ไม่ได้รับวัฒนธรรมจากโปรตุเกศ แต่เป็นการนึ่งข้าวแล้วยีให้ละเอียด

Osmanthus cake has 300 years of history. According to legend, during the Ming Dynasty, a man named Liu auspicious Xindu county vendors, from the scholar in his study of fragrance seeds Yangsheng An inspiration will be collected fresh sweet-scented osmanthus, Jiqu grievances, impregnated with molasses, and with steamed rice, glutinous rice flour , mature oil and put sugar, mixing, cartoning forming sale, called osmanthus cake. 300 years, the succession of sweet-scented osmanthus cake candy making continuous improvement processes Square, now with refined sugar, malt sugar, flour, glutinous rice flour, vegetable oil, raw materials for the production of honey and other sweet-scented osmanthus. According to proper proportion with good, after steaming, frying, grinding, mixing, rolling, tray, knife and other refining processes. The product has a pure white jade, sweet and refreshing, delicate-based slag, cinnamon rich features.

Sweet-scented osmanthus cake created in the late Ming Dynasty. It features: quality of valuables cake moisture, color white, with rich sweet-scented osmanthus fragrance, import-based residue, taste fragrance, will mean you'll Sheng Jin phlegm, tooth buccal Liuxiang it!

http://www.mlcake.com/pages/?Ipg=pro&tSid=658&Sid=658


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 23 เม.ย. 11, 22:50
และต่อไปนี้คือภาพพิมพ์ขนมจากเว็ปไซด์ขายของทางอินเตอร์เน็ตในไต้หวั่น

เปิดไม่ได้...

มาจากเว็ปไซด์ bakeware.com.tw


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 23 เม.ย. 11, 22:54
เรื่องว่าขนมตระกูลนี้ในจีนจะได้รับอิทธิพลจากโปรตุเกสหรือไม่ผมไม่ทราบ แต่สันนิษฐานว่าคงไม่

แต่ที่สงสัยคือขนมสัมปันนีของไทยจะมีที่มาจากที่ใด

จริงๆผมอยากทราบว่าขนมสัมปันนีนี้บางเว็ปไซด์บอกว่ามาจากโปรตุเกส แต่ไม่ได้บอกว่ามาจากขนมชนิดไหน

วานผู้รู้ลองค้นมาเทียบๆกัน

ทั้งนี้ขอบคุณนะครับที่มาแลกเปลี่ยนความรู้

สวัสดี 8)


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 23 เม.ย. 11, 22:58
โอ้...

เกือบลืมตอบไป

พวกจีนบ้าบ๋าคือพวกจีนที่สืบเชื้อสายจากจีนแถบฮกเกี้ยน (เสียส่วนมาก) และแต่งงานกับชาวพื้นเมือง

เขาเหล่านั้นยังคงรักษาวัฒนธรรมจีนของตนไว้แต่ว่าก็ได้รับอิทธิพลจากชาวมาเลย์ไว้พอดู



กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 เม.ย. 11, 13:25
มาแถมเพิ่ม จากคุณ siamese  ว่า ขนมลูกชุบก็มาจากโปรตุเกส  ชื่อในภาษาเดิมคือ  maçapão
ตัวอย่างอย่างในรูปนี้ค่ะ

 


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 เม.ย. 11, 14:38
ขนมไทย ที่มาจากขนมโปรตุเกส

(http://nongza.exteen.com/images/sweet/p2.jpg)

(http://nongza.exteen.com/images/sweet/p5.jpg)

(http://nongza.exteen.com/images/sweet/p1.jpg)

(http://nongza.exteen.com/images/sweet/p4.jpg)

(http://nongza.exteen.com/images/sweet/p6.jpg)

(http://nongza.exteen.com/images/sweet/p7.jpg)

(http://nongza.exteen.com/images/sweet/p3.jpg)

ภาพจาก http://nongza.exteen.com/20090520/entry/page/2

หมายเหตุ ชื่อขนมต้นตำรับลูกชุบคนละชื่อกับของคุณเทาชมพู

 ???


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 เม.ย. 11, 15:00
^
น่ารับประทานทั้งนั้นเลย  ;)

หาภาพฝอยทองที่วัฒนธรรมด้านอาหารจากโปรตุเกศ ถ่ายทอดไปยังญี่ปุ่น บ้านเราเรียกฝอยทอง ที่ญี่ปุ่นเรียก Keiran Somen


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 เม.ย. 11, 15:12
เพิ่งรู้ว่า นอกจากขนมแล้วยังมีของคาว ที่ญี่ปุ่นรับวัฒนธรรมมาคือ "เทมปุระ" ดัดแปลงโดยโปรตุเกส ...หันมามองเครื่องคาวของไทย คุณเพ็ญชมพูคิดออกไหมว่า วัฒนธรรมการทำอาหารของคาวที่โปรตุเกสส่งให้กับครัวไทย มีบ้างไหม  ???


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 เม.ย. 11, 21:53
เรียนคุณหาญบิง

ค.ห.เกี่ยวกับของคาวโปรตุเกสชักจะมีมาก   ดิฉันก็เลยแยกเป็นกระทู้ต่างหากไป     ระบบไม่อำนวยให้ดิฉันเอาค.ห.สุดท้ายของคุณกลับมาใส่ไว้ในกระทู้นี้ได้  เพราะกระทู้แยกแล้วแยกเลย      ถ้าแยกเฉพาะความเห็นก็จะเปลี่ยนชื่อกระทู้ไม่ได้
ดิฉันจึงต้องใช้วิธี  copy ความเห็นของคุณที่ติดไปในกระทู้ใหม่  กลับมาไว้ที่นี่ค่ะ

han_bing
ชมพูพาน
***
ตอบ: 216
   
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ วันนี้ เวลา 21:15
   
เอ้...

แล้วมีจานใดที่คล้ายๆกับขนมสัมปันนีไหมครับ

เพราะผมลองค้นแล้วหาไม่เจอ

ทั้งนี้

ขนมไทยแต่เดิมนั้นอยากทราบว่าใช้แป้งอะไรเป็นหลัก

ใช้เพียงแป้งข้าวเจ้าและแป้งข้าวเหนียวหรือไม่

หรือมีแป้งข้าวสาลีด้วย

เพราะผมลองค้นๆดู ในจีนมีแป้งข้าวสาลีเป็นปรกติ (แต่ทางเหนือ หรือกลางๆหาแป้งข้าวเจ้ายากมากกกกกกกกกกกกกกกกก)

เพราะลองค้นขนมไทยบางสูตร อาืทิ ขนมทองเอก ใช้แป้งข้าวสาลี หรือบางสูตรถึงขั้นใช้ผงอัลมอนคั่ว

จะได้พอเชื่อมๆได้บ้าง

ตอนนี้แอบคิดถึงคุณวันดีจริง

ปล. ทำขนมทองเอกร่วมงานเลี้ยง ได้รับเสียงตอบรับฮือฮามาก

   


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 เม.ย. 11, 22:03
ขนมทองเอก

ส่วนผสม

1. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1 ถ้วย
2. แป้งท้าวยายม่อม 2 ช้อนชา
3. ไข่ไก่ (ใช้เฉพาะไข่แดง) 8 ฟอง
4. กะทิ (มะพร้าวขูดขาว 200 กรัม) 1 ถ้วย
5. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
สิ่งที่ต้องเตรียม
พิมพ์ไม้สำหรับทำขนมทองเอก, ทองคำเปลว
วิธีทำ
1. ใส่กะทิกับน้ำตาลลงในกะทะทอง ตั้งไฟกลาง เคี่ยวนานประมาณ 10-15 นาที จนมีลักษณะข้นขาว ยกลง ทิ้งไว้ให้เย็น
2. ร่อนแป้งสาลีและแป้งท้าวยายม่อมเข้าด้วยกัน 2 ครั้ง
นำกะทิกับน้ำตาลาที่เคี่ยวไว้ (ส่วนผสมข้อ 1) ใส่ไข่แดง และแป้งที่ร่อนไว้ คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
3. นำขึ้นกวนไฟอ่อน ๆ จนแป้งรวมตัวเป็นก้อน กวนจนแป้งเนียนใส ยกลง คลุมด้วยผ้าขาวบางทิ้งไว้ให้เย็น
4. นำแป้งมาปั้นเป็นก้อนกลมเท่า ๆ กัน อัดลงในพิมพ์รูปต่าง ๆ ตามต้องการ เคาะออก นำมาติดทองคำเปลว

หมายเหตุ
วิธีการติดทองคำเปลว ใช้น้ำเชื่อมช่วยในการติด และทองคำเปลวต้องตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: ธีร์ ที่ 25 เม.ย. 11, 12:06
 :D เรียนถามท่านเจ้าของกระทู้ครับ

ขนมทองเอกเขาไม่ได้ใช้ถั่วทองกวนเหมือน ลูกชุบหรือเม็ดขนุนหรือครับ 


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 25 เม.ย. 11, 12:13
"มัสกอดกอดอย่างไร....................น่าสงสัยใคร่ขอถาม
กอดเคล้นจะเห็นความ.................ขนมนามนี้ยังแคลง"
(พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระราชนิพนธ์กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน)
  
เรียนถามถึง ขนมมัสกอด ค่ะ หน้าตาเป็นอย่างไร และมาจากขนมอะไรของชาติไหนคะ  ???
บางที่บอกว่ามาจากโปรตุเกส บางที่บอกว่ามาจากสกอตต์แลนด์
ชื่อของขนม มีที่มาจากอะไรค่ะ (ถามในกระทู้นี้ จขกท.คงไม่ว่านะคะ  ;D)
ดูรูปจากเน็ต เหมือน cup cake มีหน้าด้วยค่ะ น่าจะเพี้ยนไปเยอะนะคะ


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 25 เม.ย. 11, 12:29
เรียนสมาชิกเรือนไทย

            ผู้เขียนเองไม่ทราบเหมือนกันว่าดั้งเดิมแท้ๆเป็นอย่างไร เพราะเท่าที่พบสูตรในอินเตอร์เน็ตสองสูตร สูตรหนึ่งใช้แป้งข้าวสาลีผสมแป้งเ้ท้ายายม่อม อีกสูตรหนึ่งใช้เมล็ดอัลมอนล์คั่วกรอบและบดเป็นผงละเอียด อาจะเป็นไปได้เหมือนกันว่าสมัยก่อนใช้ถั่วทองทำ

           อันนี้ผู้เขียนก็ไม่แน่ใจ เพราะเคยทำแต่ใช้แป้งข้าวสาลีผสมแป้งเท้ายายม่อม

            ต้องถามผู้มีสูตรขนมไทยเก่าๆ


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 25 เม.ย. 11, 21:25
จริง เรื่องอาหารบางอย่างในไทยมีที่มาจากที่ใดก็มีที่น่าสงสัยอีกเหมือนกัน

           นั้นคือกระหรี่ปั๊บ

           แต่อันนี้ข้าพเจ้าสงสัยเองเฉยๆ เพราะว่าไม่แน่ใจว่ากระหรี่ปั๊บถือเป็นตระกูลเดียวกับขนมปั้นขลิบทอดแต่แตกสาขาไปหรือเปล่า

          ถ้าเป็นคนละชนิดก็ถือว่าแล้วไป จะพอเดาได้ง่ายๆ

          ที่ข้าพเจ้าสงสัยก็เพราะว่าในจีนจะมีขนมชนิดหนึ่งเรียกว่า "โหย่ว เจียว" (油角: you jiao)แปลว่า "เขาน้ำมัน" เขาในที่นี้หมายถึงเขาสัตว์ไม่ใช่ภูเขา จะเป็นขนมที่จะทำกินกันในช่วงตรุษจีนของแถบกวางตุ้ง (广东:guang dong) ไม่ใช่ของทำไหว้เจ้า แต่เป็นของทำกินเล่นช่วงตรุษจีน ใช้ส่งเป็นของขวัญให้ปวงญาติสนิทมิตรสหาย หรือแขกที่มาเยี่ยมเยือน เป็นขนมโบราณดั้งเดิมในแถบกวางตุ้งแ้ล้ว (ซึ่งในที่นี้ก็รวมไปถึงเมืองแต้จิ๋ว ซึ่งบรรพชนชาวจีนในไทยส่วนมากจากมา)

               ขนมชนิดนี้ในกวางตุ้งช่วงตรุษจีนจะยากดีมีจนอย่างไรก็ต้องทำ เพราะว่าถือเป็นขนมมงคล รูปของขนมจะแทนสัญลักษณ์ของกระเป๋าเงิน ส่วนน้ำมันที่ใช้ทอดขนมในช่วงตรุษจีนนี้จะเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรือง เฟื่องฟู ชุ่มโชกไปด้วยโชคลาภ ดั่งหม้อน้ำมันเดือดๆที่ใช้ทอดขนม (ฟังแล้วดูน่าตกใจดี)

              รสชาติขนมดังกล่าวจะมีรสหวาน ตัวแป้งประกอบด้วยแป้งสาลี ไข่ไก่ น้ำมัน น้ำตาล และน้ำเปล่า น้ำส่วนผสมทั้งหมดมานวดผสมกันจนเป็นก้อน (ต้องทิ้งไว้ ๓๐ นาทีก่อนจึงจะนำมาห่อได้) ตัวไส้จะประกอบด้วย ถั่วลิสงบด งาคั่วหอม น้ำตาล และมะพร้าวขูด วิธีทำคือเอาส่วนผสมทั้งหมดมาผัดรวมกันจนเข้ากันดี

             ที่มามาจากเว็ปไซด์ต่อไปนี้ http://baike.baidu.com/view/4428928.html?wtp=tt#sub4428928

             ฟังไปคล้ายปั้นสิบในไทยอย่างไรก็ไม่รู้  แต่ไม่รู้ว่าจะคล้ายกับกระหรี่ปั๊บหรือเปล่า

             ขนมดังกล่าวนี้ปรากฎอีกในมาเลเซียโดยใช้เป็นขนมไหว้เจ้าในช่วงตรุษจีน ซึ่งต่างจากเมืองจีนเพราะนี้ไม่ใช่ขนมไหว้เจ้า แต่เป็นขนมทำกินช่วงตรุษจีน

             ข้อมูลขนมไหว้เจ้าของชาวจีนในมาเลเซียมาจากเว็ปไซด์ดังนี้ http://www.got1mag.com/blogs/kimcherng.php/2007/02/24/aooa_ya_es_c

             หรือว่าปั้นขลิบในไทยที่มาคือโหย่วเจียว แต่กระหรี่ปั๊บนั้นมาจากโปรตุเกส

             อันนี้สันนิษฐานไว้เฉยๆ

             ต่อไปเป็นรูปรูปต่อไปนี้เป็นโหย่วเจียวของจีน มีที่มาคือเว็ปไซด์ http://baike.baidu.com/view/4428928.html?wtp=tt#sub4428928


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 26 เม.ย. 11, 05:55

มิตรจิตย่อมนำมาซึ่งมิตรใจ

ธุระของใครก็ไม่สำคัญเท่าธุระของมิตรผู้อยู่ห่างไกลค่ะ


มีตำรากับข้าวอยู่หนึ่งลังเอกสารโดยมิได้ตั้งใจ   ได้เทออกมาอ่านด้วยความเพลิดเพลิน  เจอข้อมูลหลายอย่างที่สนุกมาก



มีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งเก่าแก่กรอบเหลือง  ไม่มีปีพิมพ์(เป็นวิสัยในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง)  เป็นของโรงพิมพ์
บางกอกวรรณกิจ   ถนนเจริญกรุงใต้สี่กั๊กพระยาศรี  จังหวัดพระนคร  ราคาเล่มละ ๒ บาท

มีตำราผสมแป้งของขนมฝรั่งหลายอย่าง  เช่น  ขนมฝรั่งฟักทอง   ขนมฝรัางถั่วทอง  ขนมฝรั่งลูกบัว  ขนมฝรั่งกระจับ
ขนมฝรั่งเผือกเหลือง   ขนมดอกชะลูด   ขนมโปร่งไข่ขาวแป้งถั่ว   ขนมโปร่งไข่แดงแป้งถั่ว   ขนมแห้งแป้งญวนข้าวจ้าว
ขนมแป้งเม็ดมะขาม   ขนมแป้งปูนแป้งเม็ดมะขาม


ขนมผิงก็มีหลายแบบค่ะ  ชื่อเพราะมาก   ได้อ่านดูแล้วเป็นการใช้แป้งถั่วกับแป้งข้าวเจ้าสลับกันในน้ำหนักต่าง ๆ  และบางครั้งหนักเท่ากัน
หรือผสมด้วยแป้งสาลีบ้าง  แป้งญวนข้าวเจ้าบ้าง


ยังมีตำราโบราณประมาณปี ๒๔๗๐  พิมพ์ที่โรงพิมพ์สารานุกูล  เรื่องของคาวของหวาน 


ที่ไม่ค่อยได้มาเยี่ยมเรือนไทยในระยะนี้เพราะไปตามหาหนังสือมาตั้งแต่ก่อนงานหนังสือค่ะ    มีร้านหนังสือมือสองเลิกกิจการ  เพื่อน ๆ จึงบุก
ไปเลือกหนังสือกันหลายรอบ     ระหว่างงานหนังสือก็มีกรุหนังสือ(ลอตใหญ่ ๆ)หลุดมาอีก  จึงไปตามหนังสืองานศพ  เพราะท่านผู้ใหญ่เป็นห่วง
เกรงจะส่งต่างประเทศกันจนหมด        เรื่องนี้ก็เป็นความจริงอันขมขื่นของกลุ่มนักอ่าน  เพราะทุกเล่มที่พิมพ์ก่อนพ.ศ. ๒๕๐๐  ราคาเล่มละ หนึ่งพันบาทแล้ว
และการส่งนี้  ส่งกันเป็นศอก ๆ


การตามหาหนังสือเก่านี้สนุกสนานผจญภัยลี้ลับ   

คนที่รักการอ่านนั้นเหนื่อยมาก  เพราะต้องกลับบ้านมารีบอ่านแบบตาตั้ง  หาข้อมูลที่ไม่เคยมีใครพบเห็นมาก่อน
แล้วกระจายข่าวต่อไป
การกระจายข่าวนี้เหนื่อยมาก  เพราะถูกซักอย่างละเอียดโดยคนไม่ได้ไป  แต่ละคนก็อย่างรอบรู้ประมาณว่าเป็นจางวางกรมอาลักษณ์ในชาติก่อน


เรื่องขนมและของว่างไทยนั้น  พอจะแวะมาคุยได้ค่ะ  เพราะคุยตลุยไม่ต้องพัก

สาคูไส้หมูนั้นหากินไม่ได้แล้ว  มีแต่ไส้เปลือกกระเทียมใส่ถั่ว       
สมัยเด็กๆเคยปั้นลูกใหญ่ที่สุดเท่าที่จะทำได้  รู้สึกภูมิใจในตัวเอง


กะหรี่ปั๊บนั้น  คุณหาญคงจำได้ว่าต้องทำแป้งสองก้อนด้วยส่วนผสมที่ต่างกันเล็กน้อย   เมื่อนำแป้งก้อนเล็กมาใส่ในก้อนใหญ่แล้วคลึงออกไป
ก็จะทำให้แป้งแตกตัวเป็นชั้น ๆ  เมื่อทำมาห่อไส้ซึ่งทำได้ง่ายที่สุดตามใจชอบ   เรื่องจับจีบนั้นไม่ยากเย็นสำหรับคนรักการครัว หรือคนอยากกินเป็นกำลัง
เคล็ดคือผัดผงกะหรี่ให้หอม  อย่าให้ไหม้ได้เพราะจะขม     
การผัดนี้ใช้ไฟกลาง  หลังจากใส่ผงกะหรี่แล้วก็ปิดไฟ  จะทำให้หอมสุกพอดี 


เป็นห่วงนักเรียนไกลบ้านทุกคน


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 26 เม.ย. 11, 06:08
เรียนคุณวันดี

          ขอบพระคุณมากครับสำหรับความช่วยเหลือ

          อันนี้ผมอยากค้นคว้าเล่นๆ (แต่ทำไปออกงานจริงๆ) เนื่องจากทำขนมไทยบางอย่างไปอวดแขก แล้วไปค้น เขาบอกว่ามีที่มาจากต่างชาติ คือ มาจากโปรตุเกส เลยอยากทราบว่าที่เขามีนั้นเรียกว่าอะไร

จริงๆค้นไปค้นมาจะเจออาหารในไทยหลายอย่างอยู่คล้ายกับของกินเล่นของชาวแต้จิ๋ว หรือของไหว้เจ้า อาทิ กรอบเค็ม ขนมถั่ว ขนมกุ๊ยช่าย เป็นต้น

          ร่วมไปจนถึงปั้นขลิบทอด หรือภาษาจีนมีหน้าตาคล้ายๆกันเรียกว่าโหย่วเจียว

          จริงๆขนมจีนแป้งสิบที่หน้าตาคล้ายๆกันกับในจีนก็มี

          อยากทราบว่าเวลาอ่านตำราเก่าๆ พบพวกขนมปั้นขลิบทอด บ้างไหมครับ

          เผื่อจะประมาณอายุไดุู้ถูก

          สวัสดีครับ


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 26 เม.ย. 11, 07:20
ได้ข่าวว่าคุณวันดีนั้นมีฝีมือการทำอาหารคาว หวานได้อร่อยนัก อีกทั้งอาหารฝรั่งคงหาฝีมือจับตัวยาก ชักอยากจะลองเชิญเทียบ เชิญเครื่องของบรรดามี เปิดตำราทำขนมสูตรโบราณ พลิกฟื้นหน้าตา ทำกินกันในหมู่มิตร คงสนุกไม่น้อย

เบื้องต้นเห็นกระหรี่ปั๋บจากอเมริกาใต้ รับมาจากสเปน และโปรตุเกส

ขนมเอ็มปานาดา "น่าลองทำไหมคุณวันดี...หนุ่มสยามอยากกิน  ;D ;D"

คือขนมสเปนและโปรตุเกสที่ต่อมาถูกพัฒนามาเป็น Curry puff (เคอร์รี่ พัฟ) หรือกะหรี่พัฟใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (คำว่ากะหรี่พัฟเพี้ยนมาจากคำว่า เคอร์รี่พัฟ) เอ็มปานาดาของชิลีสามารถมีไว้ได้หลากหลายไส้ โดยพื้นฐานจะมีอยู่ 2 ไส้ คือ 1. ปิโน (คล้ายเนื้อบดละเอียด) 2. อาหารทะเลต่างๆ

http://historyclubsite.forumotion.com/t56-topic


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 เม.ย. 11, 09:01
ชื่อขนมที่คุณหาญตามหา รอยอินท่านว่า

สำปันนี - ชื่อขนมชนิดหนึ่งทําด้วยแป้งมัน ตั้งไฟกวนกับกะทิและน้ำตาลทรายให้เข้ากันพอปั้นได้ ตักใส่พิมพ์อัดให้เป็นรูปแล้วเคาะออก อบด้วยควันเทียนอบ.

อีกความหมายคือ

สำปันนี - ชื่อเรือขุดชนิดหนึ่ง รูปร่างอย่างเรือมาด แต่เพรียวกว่า หัวและท้ายแบนโตเรี่ยนํ้า.

มีคำถามให้ช่วยกับขบคิดอยู่ ๒ ข้อ

๑. ชื่อ สำปันนี นี้ใช้เป็นชื่อเรือหรือชื่อขนมก่อนกัน

๒. ชื่อ สำปันนี กับ สำปั้น เกี่ยวข้องกันหรือไม่ (ถ้าเกี่ยวจะได้ไปทางเรื่องของจีนต่อ  ;D)

 ???


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 26 เม.ย. 11, 09:17
       เป็นคนที่เห็นตำรากับข้าวมาไม่น้อยค่ะ   เรื่องทำนั้นพอทำได้  คือใช้ของที่มีในบ้าน
ทำอะไรง่าย ๆ  เรื่องทำเก่งนั้นไม่ใช่เลย

เรื่องเห็นตำรากับข้าวนั้นเมื่อประมาณปีสองปีมานี้  เห็นตำรากับข้าวของวังวรดิศ  เป็นตำราจดด้วยลายมือ
เก็บมาจากขุนนางมหาดไทยและชาวต่างประเทศ     ได้วางสมุดผ่านไปเสีย  เพราะไม่สนับสนุนของโจร
จำได้แต่สลัดมรุพงศ์  ที่มีในตำราของท่านผู้หญิงกลีบด้วย

ผักนั้นมีผักบุ้งจักฝอย  ถั่วฝักยาว  กล่ำปลี  ดอกกล่ำ  มะเขือ แตงกวา
น้ำสลัดเคี่ยวกะทิให้แตกมัน  โชลกพริก หอม กระเทียม ข่า ตะไคร้  ผักจนเครื่องหอมก็ราดน้ำพริกร้อน ๆ  โรยด้วยงาคั่ว

ตำรากับข้าวของ คุณเจือจิต  มูลศาสตร์(๒๔๖๘ - ๒๕๑๓)  ซึ่งโตมาในวังวรดิศ  เล่าเรื่อง ขนมปั้นสิบไว่ว่า
ไส้ใช้ปลาช่อนนึ่งแกะเอาแต่เนื้อ  รากผักชี  พริกไทย  ข่า  ผัด  ใส่น้ำตาล  น้ำปลา  หอมแดง

แป้งนั้นท่านใช้แป้งข้างจ้าว  ๑ กก.  แป้งมัน ๑/๒ กก.   นวดแป้งให้เข้ากันแล้วต้มเสียหน่อย

       แถมเรื่องเก่า ๆด้วยนะคะ

       คุณยายและคุณแม่ของคุณเจือจิตต์ เป็นข้าหลวงท่านหญิงพูนพิสมัย  ท่านหญิงพิลัยเลขา  และท่านหญิงพัฒนายุ
เล็กๆ  ได้เรียนรำแม่บทกับหม่อมแผ้วด้วย  มี่ซ้อมลครในท้องพระโรงวังวรดิศ   ท่านรำสวยเหลือเกิน  ใครรำไม่ได้ท่านเฆี่ยนด้วยไม้เรียวเจ็บๆ

พี่สาวของคุณเจือจิตต์เล่าว่าพากันไปดูลครชาตรีที่หน้าวังเรื่องจันทโครพ      ผู้ที่ไปห้องสมุดสมเด็จกรมพระยาดำรงจะเห็นซอยแคบๆอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัง
มีชื่อบ้านของ นายทองพูน  เรืองนนท์ด้วย(วันดียิ้มกับป้ายนี้บ่อย ๆ)

ลำตัดเรื่องเมื่อนายทองพูนเป็นพ่อตาพระเจ้าแผ่นดินเขมรนั้น  เห็นอยู่แว่บ ๆ  อ่านไม่ทันค่ะ   ขนาดอ่านเร็วอย่างนี้แล้ว




กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 26 เม.ย. 11, 09:46

ตำราของหม่อมเจ้าจงกลนี วัฒนวงศ์(๒๔๕๒ - ๒๕๐๘)  เล่าเรื่องกาหรี่ปั๊บแบบปีนังว่า

ใช้แป้งสาลี ๒ ๑/๒ ถ้วย  น้ำมันถั่ว ๑/๒ ถ้วย  น้ำ ๑/๔ ถ้วย  น้ำตาล  เกลือนิดหน่อย

เรื่องทำแป้งนั้นขอข้ามไปเพราะทำยาก

ไส้เนื้อสับ  ท่านผัดด้วยเนย  ใส่เนื้อ  ใส่มันฝรั่ง  เกลือ  ผงกะหรี่

ไส้หมูหรือปลา  ผัดกระเทียม พริกไทย รากผักชีแล้ว   ใส่เนื้อและใส่ถั่วยี่สงด้วย


เรื่องราวที่เป็นความรู้คือ   หม่อมเจ้าหญิงจงกลนี    เป็นธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ  กรมขุนมรุพงศ์ศิริพัฒน์ และหม่อมเชื้อ

เจ้าจอมมารดาบัวของกรมขุนมรุพงศ์ศิริพัฒน์ เป็นธิดาคนที่ ๓๐ ของเจ้าพระยานครศรีธรรมราช(น้อยคืนเมือง)

หม่อมเชื้อเป็นธิดาพระยาราชพงศานุรักษ์(ชม บุนนาค)และคุณหญิงสวาสดิ

เจ้าคุณราชพงศานุรักษ์เป็นบุตร พระยามนตรีสุริยวงศ์(ชุ่ม บุนนาค)


ต้องไปรายงานเรื่องหนังสือให้เพื่อน ๆ หลายคนฟังแล้วค่ะ   มีหน้าที่อ่านหนังสือค่ะ


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 26 เม.ย. 11, 12:33
เรื่องกระหรี่ปั๊บนี้ในแถบสิงคโปร์ และรวมไปถึงมาเลยเซียจะมีคำเรียกเป็นภาษาจีนว่า "กาหลี่ปู่" (咖喱卜: ga li bu)

ส่วนวิธีทำผมค้นมาเว็ปของสิงคโปร์หรือมาเซียก็ไม่รู้ http://www.kuihs.com/2011/03/blog-post.html

อธิบายสูตรเป็นภาษาจีนกับอังกฤษ แต่ดูแล้วคงไม่ใช่ของจีน เพราะขนมเป็นแบบจีนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สูตรมีดังนี้

Curry Puffs咖喱卜

Pastry
皮料

Plain flour 250g
面粉

Salt 1/2tsp


Margarine 100g
白兰她

Cold water A bit
冷水

Filling
馅料

Chicken 250g
鸡肉

Potatoes 300g
马铃薯

Bombay onion 1
大葱

Curry powder 4Tbsp
咖喱粉

Salt 1 1/4 tsp


Sugar 1tsp


Method
做法

1. Pastry : Rub margarine into flour until it resembles bread crumbs. Add water and mix to form a pliable dough. Cover and leave to rest for 30 minutes.
将白兰她油加入面料,用于轻轻搓成粒状再加入水拌成软团盖好休息30分钟。

2. Filling : Heat up oil, leaves Bombay onion until fragrant. Add potatoes, seasoning and cook until dry. Roll pastry into 2 mm thick, cut rounds. Put I tsp filling onto the pastry and fold into semi semi-circle. Pinch to make decorative edge.
将皮杠成厚,切成圆片包上馅料, 皮边用手折花边。

3. Heat up oil for deep-frying, until golden brown. Dish and drain.
起锅热油炸至金黄色便可。

จากสูตรคล้ายกับกระหรี่ปั๊บของไทยมาก

และน่าจะเป็นคนละอย่างกับปั้นขลิบทอด ทั้งนี้อยากรบกวนคุณวันดี (อีกแล้ว หวังคงไม่รำคาญมากนะครับ) ว่าปั้นขลิบทอดแต่เดิมไส้เป็นอย่างไร

เพราะสูตรใหม่ๆมีส่วนประกอบดังนี้

สูครต่อไปนี้นำมาจากเว็ปไซด์ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jjbd&month=11-03-2009&group=25&gblog=42

ปั้นขลิบทอด

ส่วนผสม ตัวแป้ง
แป้งสาลี 1/2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วยตวง
น้ำมันพืช 1/4 ถ้วยตวง
ไข่ไก่ตีเข้ากัน 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปูนใส 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. ร่อนแป้งสาลี กับแป้งข้าวจ้าวรวมกัน ใส่ไข่ไก่ น้ำมันพืชเคล้าให้เข้ากัน ค่อยๆกัน ใส่น้ำปูนใสนวดจนแป้งนุ่ม คลุมด้วยผ้าขาวบางไว้
2. ปั้นแป้งเป็นก้อนเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว คลึงให้กลมแล้วใส่ไส้ลงตรงกลางพับครึ่งจับจีบริม แป้งเหมือนกระหรี่ปั๊ทำจนหมดแป้งคลุมด้วยผ้าขาวบาง
3. เทน้ำมันใส่กระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใช้ไฟอ่อน ทอดขนมจนสุกเหลืองตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน

ส่วนผสม ไส้ปลา
ถั่วลิสง 1 ถ้วย
หอมใหญ่ 5 หัว
ปลาบด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 5 ช้อนโต๊ะ
หัวผักกาดหวานสับ 1 ช้อนโต๊ะ
รากผักชี กระเทียม พริกไทยอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนชา
ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา

วิธีทำ
ตั้ง กะทะใส่น้ำมันนิดหน่อย พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่รากผักชีที่โขลกละเอียด ตามด้วยเนื้อปลาบด ผัดให้สุกอย่าให้เนื้อปลาติดกันเป็นก้อน ใส่หัวผักกาดหวานสับ น้ำตาลปีบ ผัดจนน้ำตาลละลายเข้ากัน เติมซีอิ๊วขาวผัดพอแห้งแล้วใส่ซีอิ๊วดำเพื่อแต่งสี ใส่ถั่วลิสงผัดให้เข้ากันจนแห้ง ตักขึ้นใส่ถ้วยพักไว้


ส่วนผสม ไส้ไก่
เนื้อหมูสับละเอียด 1 ถ้วยตวง
รากผักชีหั่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมปอกเปลือกสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
น้ำตาลปีบ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
หัวหอมใหญ่ปอกเปลือก 1/2 ถ้วยตวง
ถั่วลิสงคั่วป่น 1/2 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. โขลกรากผักชีกระเทียม พริกไทย ให้เข้ากัน ผัดกับน้ำมันหอม ใส่หัวหอมใหญ่ ใส่หมูก่ผัดให้สุก ใส่น้ำตาลปีบน้ำปลา ผัดให้เหนียวใส่ถั่วลิสง คลุกให้เข้ากันตักขึ้น พักให้เย็นก่อนปั้นเป็นก้อนกลมๆ

* เทคนิค
1. การนวดแป้งจะต้องพักแป้งไว้เพื่อให้แป้งอิ่มตัว มิฉะนั้นแป้งจะกระด้าง
2. เวลาคลึงแป้งสำหรับห่อควรคลึงให้บางเสมอกัน เวลาทอดจะได้สุกทั่ว
3. การทอดควรใช้น้ำมันมาก ไฟปานกลาง ขณะทอดควรคนบ่อย ๆ เพื่อให้สุกที่ว
4. ไส้ที่ใช้ควรผัดให้แห้ง แป้งจะได้กรอบเก็บไว้ได้นาน

ทั้งนี้ สองเว็ปไซด์มีภาพประกอบสวยงาม น่าเข้าชมเป็นอย่างยิ่ง


 


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: ธีร์ ที่ 27 เม.ย. 11, 14:05
ไปหาหนังสือมาแล้วครับท่านเจ้าของกระทู้  ;D

จากหนังสือ ขนมลูกๆทองแดง 

มีขนมอยู่ 3 ชนิด ที่ชื่อคล้ายๆกันครับ แต่ว่ามีส่วนผสมหลักต่างกัน

1 ขนมทองชมพูนุช ท่านใช้ แป้งข้าวเหนียว กับ แป้งข้าวเจ้า
2 ขนมทองเอก  ท่านใช้ผลอัลมอนด์ (ถ้าทั่วไปอาจจะเป็นถั่วทอง)
3 ขนมทองนพคุณ ท่านใช้ถั่วทองคั่วป่นละเอียดครับ

หน้าตาขนมทั้ง 3 ชนิดนี้ก็คล้ายๆกันครับ :D


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 27 เม.ย. 11, 15:31
อันนี้ยกมาเป็นตัวอย่างเฉยๆ

กระบวนขนมอบในจีนก็มี แต่จะเผยแพร่มาทางไทยหรือไม่นั้นไม่อาจทราบได้ เพราะในไทยยังไม่เคยเห็นขนมอบหน้าตาแบบจีน

ในจีนจะมีคุ๊กกี้เหมือนกัน ที่ดังๆก็ดังที่มาเก๊า เป็นคุกกี้อัลมอนด์แบบจีน เรียกว่า "ซิ่งเหรินปิง" (杏仁饼:xing ren bing)

แต่ว่าวิธีการทำไมเหมือนกับคุกกี้อัลมอนด์แบบฝรั่งเลย

ไหนๆก็ไหนๆขอเอาสูตรทำคุ๊กกี้แบบมาเก๊าที่ขึ้นชื่อมาฝาก รายละเอียดภาพประกอบอยู่ในกระทู้เรื่องอาหารโปรตุเกส

วิธีทำคุ๊กกี้อัลมอนด์แบบมาเก๊ามีดังนี้

๑ แป้งถั่วเขียว ๓๕๐ กรัม ทั้งนี้แป้งถั่วเขียวในจีนกับในไทยไม่เหมือนกัน เพราะในไทยมันคือแป้งถั่วทอง ที่ทำจากถั่วเขียวปอกเปลือกแล้ว จะไม่มีกลิ่นถั่วแรงเท่าไรนัก แต่ของจีนนี้ไม่ปอกเปลือก เขาทำเป็นแป้งเลย กลิ่นถั่วเขียวสะใจมากๆ สีเขาก็เขียวๆ ถ้าไม่ชอบหรือหาไม่ได้ ใช้แป้งถั่วทองไทยธรรมดาๆนี้แหละดีแล้ว

๒ น้ำตาลป่น ๒๐๐ กรัม

๓ น้ำมันหมู (ถ้าไม่ชอบเอาน้ำมันเนยแทนก็ได้) ๑๕๐ กรัม

๔. อัลมอนด์คั่วแล้วป่นปริมาณพอเหมาะ คือใส่แล้วให้มันได้กลิ่นๆอวนๆ

๕ หมูแผ่น ปริมาณพอเหมาะที่จะเอามายัดไส้ ทั้งนี้หมูแผ่นก่อนใช้ ให้เอาไปแช่เหล้ากับน้ำตาลไว้ข้ามคืนก่อน พอจะใช้ให้เอามาลวกให้น้ำร้อนแล้วผึ่งไว้ให้แห้ง

วิธีการทำก็คือเอาของทุกอย่างมาผสมกัน

ยกเว้นหมูแผ่น เพราะว่าจะมาเอาทำไส้

เมื่อแป้งปั้นเป็นก้อนได้ที่

นำแป้งที่ผสมแล้วปั้นเป็นก้อน

นำมาใส่พิมพ์ขนมครึ่งหนึ่ง

แล้วก็วางหมูแผ่นที่แช่เหล้ากับน้ำตาลไว้ข้ามคืน และเอามาลวกน้ำร้อนอีกรอบพร้อมผึ่งให้แห้งใส่ลงไป

ส่วนท้ายนำแป้งอีกส่วนมาปิด กดแน่นๆให้เป็นเนื้อเดียวกัน

เคาะออกจากพิพม์ แล้วนำเข้าเตาอบเป็นเวลา ๒๕ นาที ใช้อุณหภูมิ ๑๕๐ องศา

เขาว่า ขณะอบให้เปิดฝาเตาไว้ครึ่งหนึ่ง เนื่องจากจุดประสงค์เพียงให้คุ๊กกี้แห้งลงสักหน่อยก็พอแล้ว

อันนี้ไม่เคยลองทำ

สามารถดูข้อมูลและภาพประกอบการทำมาจากเว็ปไซด์ต่อไปนี้

http://www.zhongshantour.com.cn/static/2010-04-15/1271318339865292.html

http://baike.baidu.com/view/606419

ขนมไทยมองไปก็ยังไม่มีอะไรคล้ายๆ จะว่าเหมือนกลีบลำดวนก็ไม่ใช่ เพราะเราใช้แป้งสาลี และผสมแค่น้ำมันหมู ไม่ได้ใส่หมูแผ่นลงไป

แถมเขาใส่พิมพ์อีก

ต่อไปนี้คือรูปประกอบ


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 02 พ.ค. 11, 14:57
4 ปีที่แล้ว ตอนเรียนจบปริญญาตรีใหม่ๆ
ผมเคยถูกเพื่อนไกด์ขอให้พาคนฮ่องกงคนหนึ่ง ชื่อ คุณ Sue ไป 'ตามหาอาหาร'
เพราะเพื่อนเราก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่า 'ซุปหน้าตาเหมือนกิมจิ'
ที่เธอตามหาอยู่จะหน้าตาเป็นยังไง...
ในที่สุด พวกเราก็เลยได้ลงใต้กันไป 4 วัน เพื่อชิม 'แกงส้ม' กับ 'แกงเหลือง' กันจนพุงกาง

คุณ Sue เป็นนักประวัติศาสตร์อาหารหัวสมัยใหม่ (มาก) คนหนึ่ง
การเดินทางครั้งนั้นผมเลยได้ข้อคิดดีๆจากเธอมาหลายเรื่อง

เป็นต้นว่า "อาหารพัฒนาไปตามการเปลี่ยนแปลงของโลก"
เธออธิบายว่าขนมที่ใช้ไข่ทำ เกิดขึ้นได้จากการพัฒนาการค้าทางทะเล
และการเดินเรือระยะไกลๆ เพราะคนเรือต้องเอาไก่ใส่เรือไปกินไข่
การเลี้ยงไก่ไข่ และบริโภคไข่ก็เลยเฟื่องฟูในยุคนั้น

และชาติที่เปิดศักราชการค้าทางทะเล 2 ชาติแรกของโลก คือ สเปน กับโปรตุเกส
โดยใช้ศาสนจักรเป็นเครื่องมือในการแสดงสิทธิธรรมเหนือดินแดนใหม่
สเปนเดินทางไปทางตะวันตก จนถึงอเมริกา และฟิลิปปินส์
ส่วนโปรตุเกสอ้อมแอฟริกาลงมา วกกลับที่แหลม good hope
ขึ้นเรือที่เมือง Goa เก่า แล้วแผ่นิคมทางการค้าของตัวเองไปทางตะวันออกจนถึงญี่ปุ่น

ขนมที่ใช้ไข่ทำ และพัฒนาขึ้นในยุคนั้น
คนเอเชียส่วนมากเลยมักคิดกันว่า 'เป็นอิทธิพลโปรตุเกส'
ทั้งหมดนี่ คือ ทฤษฎีเดิมๆ ที่นักประวัติศาสตร์ทั่วไปพูดกันมาหลายร้อยปี


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 02 พ.ค. 11, 15:17
แต่ Sue ใช้บริบทในการตอบคำถามทางสังคมที่ต่างออกไป
เธอตั้งคำถามกับผมว่า 'คนวาดรูปสวย กับทำกับข้าวอร่อย อะไรมีมากกว่ากัน'
แน่ล่ะครับ คนทำกับข้าวเป็นต้องมีมากกว่าอยู่แล้ว
เพราะอาหารเป็นปัจจัย 4 อย่างหนึ่งของมนุษยชาตินี่!

เธอถามต่อมาอีกว่า 'คนทำกับข้าวเป็นมีแต่ในประเทศเจ้าอาณานิคมมั้ย ?'
เอาล่ะครับ คำถามนี้ผมก็ต้องตอบเธออีกน่ะแหละว่า 'ไม่ใช่'
เธอพยักหน้ารับ... แล้วถามผมต่อว่า
'คิดว่าถ้าคนทั้งโลกไม่มีวัฒนธรรมของตัวเอง
สเปนกับโปรตุเกสจะอยากมาค้าขายด้วยมั้ย ?'
แน่นอน ผมต้องยืนยันว่า 'มี'... อย่างน้อยดินแดนสุวรรณภูมิ
ก็มีวัฒนธรรมขั้นสูงมาก่อนหน้าสเปนกับโปรตุเกสจะเดินทางเข้ามาเป็นพันปีแล้ว

ในที่สุด Sue ก็ยิงคำถามสุดท้ายใส่ผม เธอถามผมว่า
'ไหน เธอบอกชั้นซิ ว่าแล้วทำไมอาหารต้องมาจากเจ้าอาณานิคม
ทำไมเธอไม่คิดว่าครั้งแรกที่มันถูกทำขึ้น อาจจะเป็นที่ไหนซักที่ในโลก
บนเรือเดินสมุทรที่กำลังข้ามมหาสมุทรอินเดียอยู่,
ในนิคมทางการค้าซักแห่ง, หรือครอบครัวของคนในนิคมทางการค้า
ที่เป็นคนท้องถิ่นเป็นคนทดลองทำมันขึ้นมา,
หรือว่าคนท้องถิ่นเองน่ะแหละ ที่เป็นคนทำมัน
ก่อนที่อาหารจะถูกแพร่ออกไปสู่ที่อื่นๆในโลก"

ผมอึ้งครับ... ตอบอะไรเธอไม่ถูกเพราะจนด้วยคำถาม


แต่ Sue ยังไม่หยุดจู่โจมผม... เธอยิงคำถามชุดใหม่ใส่ผมต่ออีกว่า
"แล้วเธอรู้ใช่ไหม ว่าวัฒนธรรมเป็นสมดุลจลน์
วัฒนธรรมจะยังเป็นวัฒนธรรม ตราบเท่าที่มนุษย์ยังไม่หยุดสร้างวัฒนธรรมนั้นๆ"
คราวนี้ผมได้แต่พยักหน้า ใครๆก็รู้ครับ ว่าข้อนี้เธอถูกเห็นๆ

เธอเลยรุกเข้าใส่ตรรกะชั้นลึกที่สุดในใจผมว่า
"แล้วทำไมเธอไม่คิดว่าระหว่างการสืบทอดวัฒนธรรมนั่น
อาหารที่เธอกินวันนี้กับเมื่อ 200 ปีที่แล้ว มันจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างเลยหรือ ?"

"ฉันมั่นใจว่าอาหารที่ท้องถิ่นไหนๆทำ มันก็เป็นวัฒนธรรมของท้องถิ่นน่ะแหละ
เธอมีสิทธิ์จะพูดถึงมันได้มากที่สุดก็แค่ช่วงเวลาที่มันแพร่กระจายมาสู่ท้องถิ่น
และสาเหตุที่มันแพร่กระจายเข้ามา... แต่ทำไมเธอถึงได้ดีใจนักหนากับการไปฟูมฟายถึงอดีต
ในเมื่อเธอไม่ได้กินอาหารของอดีตเมื่อ 200 ปีที่แล้ว
แต่เธอกำลังกินอาหารที่คนปัจจุบันเป็นคนทำให้เธอกิน"

ยอมรับครับ ว่าฟังคำถามนี้เข้าไป... ผมจุกอย่างบอกไม่ถูก
มันถูกของเธอ แต่ผมไม่เคยคิดในมุมที่เธอพูดมาเท่านั้นแหละ


Sue ปิดคำถามสุดท้ายที่จี้ใจดำที่สุดใส่ผมในร้านข้าวแกงว่า
"ฉันอยากขอให้เธอเลือกดู ระหว่างลองเดินไปบอกแม่ค้า ว่าแกงที่เธอกินเข้าไป
(เธอหมายถึงแกงส้มในจานข้าวของผม) เป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลจีนสมัยราชวงศ์ถัง
กับเดินเข้าไปชมเขา ว่าเขาสามารถต้มแกงได้อร่อยมาก
แล้วกลับมาบอกฉันว่าเขาดีใจกับคำพูดไหนของเธอมากกว่ากันให้ฉันฟังหน่อยซิ"

ผมจำนนกับความคิดของเธอเข้าไปเต็มๆครับ...
ยอมรับเลย ว่าคำพูดไม่กี่นาทีของ Sue
ทำให้ความมั่นใจในความคิดตัวเองละลายหายไปไหนไม่รู้อยู่นานเหมือนกัน...
เธอเป็นคนที่น่าชื่นชมคนหนึ่งครับ (ถ้าเรารับกับความแรงของเธอได้ 555+)


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 02 พ.ค. 11, 15:26
ปล. เห็นคุยกันเรื่องขนมสัมปันนี้
ผมเลยลองเอาเรื่องอึ้งๆของตัวเองในอดีตมาเล่าแบ่งปันครับ


ส่วนใครที่สงสัยถึงความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณ Sue
ขออนุญาตตอบว่าเรายังเป็นเพื่อนที่ดีกันอยู่ครับ

ล่าสุดเมื่อต้นปี 10 ที่เธอเข้ามาถ่ายรูป 'bakery แบบตะวันออก' ในประเทศไทย
ผมก็ยังเป็นคนพาเธอไปชิมขนมอบหลายๆเจ้าที่อร่อยอยู่
คราวนี้เธอฝากคำถามไว้กับผมอีกว่า

"คนไทยน่ะ ชอบพูดกันจังว่าขนมปังมาจากยุโรปบ้าง อเมริกาบ้าง ฝรั่งบ้าง
ฉันล่ะอยากรู้นัก ว่าไอ้ที่พูดแบบนั้นเวลาไปเจอะขนมปังแบบตะวันตกเข้าจริงๆ
เขาจะกินมันลงมั้ย ? ฉันเห็นเพื่อนคนไทยฉันต้องกินทีไร เขากระเดือกมันไม่ลงทุกที
ก็อยู่เมืองไทยน่ะมีแต่ขนมปังรสชาติเหมือนหมั่นโถวให้เธอกินกันทั้งนั้นนี่!"


เออ.... เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลนะครับ
คนอ่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามแต่ใจท่าน
แต่ผมเห็นด้วยกับเธอเข้าไปเต็มๆครับ เหอะๆ


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 พ.ค. 11, 16:12
คราวนี้เธอฝากคำถามไว้กับผมอีกว่า

"คนไทยน่ะ ชอบพูดกันจังว่าขนมปังมาจากยุโรปบ้าง อเมริกาบ้าง ฝรั่งบ้าง
ฉันล่ะอยากรู้นัก ว่าไอ้ที่พูดแบบนั้นเวลาไปเจอะขนมปังแบบตะวันตกเข้าจริงๆ
เขาจะกินมันลงมั้ย ? ฉันเห็นเพื่อนคนไทยฉันต้องกินทีไร เขากระเดือกมันไม่ลงทุกที
ก็อยู่เมืองไทยน่ะมีแต่ขนมปังรสชาติเหมือนหมั่นโถวให้เธอกินกันทั้งนั้นนี่!"

ฝากคุณติบอถามคุณ Sue ด้วยว่า

คำว่าขนมปังมาจากภาษาโปรตุเกสหรือญี่ปุ่น (หรือจีน)

 ;)


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 02 พ.ค. 11, 16:37
เท่าที่รู้จักผลงานของคุณ Sue มา
ผมคิดว่าคุณเพ็ญชมพู น่าจะต้องถามนักภาษาศาสตร์
มากกว่านักประวัติศาสตร์อาหารนะครับ

สำหรับผม ชุดวัฒนธรรมเรื่องอาหาร กับภาษา
ถึงจะสัมพันธ์กันมากแค่ไหนก็เป็นความคิดคนละแก่นกัน

เพราะผมยังไม่เคยเห็นใครสามารถเอาวิธีหมักแป้งสาลีให้ขึ้นฟู
ไปอธิบายการเปลี่ยนแปลงของคำในภาษาไหนๆได้
(หรือถ้าคุณเพ็ญชมพูยินดีจะแสดงให้ดูได้ ผมก็จะดีใจด้วยครับ)


ถ้าประเด็นที่คุณเพ็ญชมพูสนใจ คือ ภาษาทั้ง 3 ที่ว่ามา
ก็น่าจะต้องหาข้อมูลทางภาษาศาสตร์ว่าภาษาไหน
เริ่มใช้คำที่มีเสียงคล้ายกันนั่นเมื่อไหร่

เมื่อเทียบตารางเวลาของทั้ง 3 ภาษาได้แล้ว
ศึกษาปฏิสัมพันธ์ในบริบทของสังคมดูต่ออีกสักหน่อย
ก็คงจะทราบได้ไม่ยาก ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นในสังคมแต่ละยุคสมัย

ที่สำคัญ วิธีแบบนี้น่าจะได้คำตอบที่ดีกว่าไปถามคนที่สนใจอาหาร
ในแง่มุมของการประกอบอาหารอย่างคุณ Sue นะครับ


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 03 พ.ค. 11, 20:57
เรียนสมาชิกเรือนไทย

           ข้าพเจ้าไม่ใช่นักภาษาศาสตร์ ไม่ใช่นักประวัติศาสตร์อาหาร แต่อยู่เรียนหนังสือในเมืองจีน ขอเสนอความเห็นเล็กๆน้อยๆ เพราะอาจทำให้นักภาษาศาสตร์ หรือนักประวัติศาสตร์อาหารค้นหาคำตอบได้กว้างไกลขึ้น

           ในภาษาจีน "ขนมปัง" ใช้คำว่า "เมี่ยน เปา" (面包:mian bao) คำว่า "เมี่ยน" (面:mian) แปลว่า หน้า หรือแป้ง ส่วนคำว่า "เปา" (包:bao) ถ้าเป็นคำกริยาแปลว่าห่อหรือเหมา หากเป็นคำนามแปลว่ากระเป๋า แปลตรงๆอาจแปลได้ว่า "แป้ง (ทรง) กระเป๋า"

         ทั้งนี้ภาษาจีนในแต่ละพื้นที่ออกเสียงแตกต่างกันไป

           ใครจะรู้อาจมาจากภาษาจีนถิ่นเล็กๆที่ใดก็ได้

            เรื่องขนมหรืออาหารมีที่มาจากไหน คิดไปก็เป็นเรื่องที่น่าติดตาม แม้ปัจจุบันขนมดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา การเห็นรูปร่างหน้าตา และรสที่คล้ายคลึงกันของอาหารสองที่ทั้งๆอยู่คนละฟากของโลก หากมองเข้าไป สิ่งหนึ่งที่จะเห็นก็คืออิทธิพลของวัฒนธรรมที่แผ่นข้ามกัน

            จะมาจากประเทศใดประเทศหนึ่ง นี้มองในหน่วยใหญ่ๆ

            หรือจะมาจากครัวที่เป็นของคนเรือ หรือเป็นของคนงาน เวลาคิดอาจะคิดกลางทะเล อาจจะคิดบนเขา

            แต่จะมาจากที่ใด ส่วนตัวของข้าพเจ้าคิดว่า คนคิดก็มีรากฐานจากวัฒนธรรมดั้งเดิมของตน ที่ตนจากมา

            ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่าถ้าข้าพเจ้าอยู่กลางเรือแห่งหนึ่ง ที่พึ่งออกจากท่าเรือเมืองกวางตุ้ง กับเพื่อนชาวฝรั่งตาน้ำข้าว และเพื่อนชาวจีน ใครสักคนให้เราสามคนคิดทำอาหารขึ้นมาใหม่ โดยใช้ของที่พึ่งซื้อจากท่า แน่นอน อาหารของข้าพเจ้าคงมีรสเผ็ดเนื่องจากข้าพเจ้ามาจากเมืองไทย (หลังยุคที่พริกเข้ามาแล้ว) เพื่อนฝรั่ง ถ้าสมมุติว่าเขาเป็นคนอิตาลี (เพราะเพื่อนสนิทเป็นคนอิตาลี) เธอคงพยายามทุกวิถีทางทำให้แป้งใดๆกลายเป็นเส้นพาสต้า (เหมือนที่เห็นเพื่อนอิตาลีจริงๆพยายามแทบตายเพื่อจะหาเส้นพาสต้า หรืออะไรก็ได้ที่คล้ายพาสต้า สุดท้ายถึงกับทำกินเองในเมืองที่หาเส้นแบบนี้ยาก) และคนจีน แน่นอน หากเขามาจากทางใต้แถบนานกิง หรือซูโจว เขาผู้นั้นคงเทน้ำตาลแทบจะล้นหม้อ เพราะคนแถบนี้กินอาหารหวาน แตถ้าคนนั้นเป็นทางเหนือ คนเทเกลือจนแทบสิ้นลำเรือ เพราะคนทางเหนือของจีนกินเค็ม

            ส่วนผสมอะไรจะขาดไปบ้าง ก็คงดิ้นรนทำให้คล้ายของเดิม เพื่อให้เข้ากับรสปากมากที่สุด ตามวิสัยเดิม ที่ถูกหล่อหลอมจากแหล่งที่มา จะเรียกที่หล่อหลอมนี้ว่าแหล่งวัฒนธรรมก็ได้ ถ้าไม่คิดอะไรมาก

           ตัวข้าพเจ้าคิดว่าอะไรก็ตามคงมีแหล่งที่มา คงตอบไม่ได้หรอกว่ามาจากครัวไหน แต่คงพอเดาได้ว่ามาจากบริเวณใด หากค้นไป พอจะเจอ คงเปิดโลกทัศน์ได้พอสมควร

           นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงของตัวอาหารที่ผ่านกาลเวลาก็ทำให้เราการพัฒนาของประวัติศาสตร์สังคมไปด้วย

            เพราะถ้าเรือที่ออกมา เป็นตัวข้าพเจ้าในวันนี้ หรือเป็นตัวข้าพเจ้าแบบเรื่องทวิภพเมื่อร้อยปีก่อน วิธีการปรุงอาหารคงต่างไป และรสคงต่างไป

           แล้วอาหารคนละซีกโลกจะคล้ายกันโดยไม่ต้องรับการเผยแพร่วัฒนธรรมด้วยประการใดๆเกิดได้หรือไม่

           น่าจะเกิดขึ้นได้แน่นอน

           เพราะประวัติศาสตร์นี้หลากหลายนัก แต่ครั้นจะยึดว่าทุกอย่างเป็นเรื่องบังเอิญคล้ายกัน ก็กระดากใจอยู่

           สุดท้ายนี้หากไปถามแม่ค้าขายข้าวแกง ว่าอาหารที่ท่านทำนั้นมาจากราชวงศ์ถังโน้น หรือบอกว่าอร่อย แม่ค้าจะว่าอย่างใด

           คงแล้วแต่นิสัยแม่ค้าว่าเป็นคนเช่นไร ด้วยถ้าเป็นข้าพเจ้าแม่ค้า แกงอร่อยเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ถ้าได้รู้ว่ามาจากราชวงศ์ถัง คงตื่นเต้นดี ว่าเออ...โลกมันก็กลมเนอะ หูตากว้างขึ้นเยอะเลย

           แต่ถ้าแม่ค้าคนนั้นไม่สนใจประวัติศาสตร์ คงไม่ได้คิดอะไร

           เชื่อแน่ว่านิสัยแม่ค้าคงไม่เหมือนกันทั่วโลก และคงตอบต่างกัน แล้วแต่พื้นฐานของแม่ค้าคนนั้นๆ ว่าดั้งเดิมได้รับการอบรมอะไรมาบ้าง

           พูดเรื่องแม่ค้าแล้วนี้ ส่วนตัวข้าพเจ้าคิดว่าเหมือนประวัติศาสตร์โลกด้านอาหารเสียนี้กระไร

           คงไม่เกิดบนเรือลอยๆ จากใครคนหนึ่ง โดยไม่อิงแหล่งที่มาใดๆที่ตนจากมา
 
           สวัสดี


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 03 พ.ค. 11, 22:13
           ในภาษาจีน "ขนมปัง" ใช้คำว่า "เมี่ยน เปา" (面包:mian bao) คำว่า "เมี่ยน" (面:mian) แปลว่า หน้า หรือแป้ง ส่วนคำว่า "เปา" (包:bao) ถ้าเป็นคำกริยาแปลว่าห่อหรือเหมา หากเป็นคำนามแปลว่ากระเป๋า แปลตรงๆอาจแปลได้ว่า "แป้ง (ทรง) กระเป๋า"

ในภาษาโปรตุเกส  คือ Pão

ในภาษาญี่ปุ่น      คือ パン (ปัง)

ในภาษาไทย      คือ (ขนม) ปัง

จะเห็นว่ามีคู่เหมือนอยู่ ๒ คู่

包     และ  Pão

 パン  และ  ปัง


ขออนุญาตสรุปการเดินทางของคำว่า "ขนมปัง" ดังนี้

Pão เดินทางมาจากโปรตุเกส ขึ้นฝั่งที่เมืองจีนทิ้งร่องรอยไว้ในคำว่า 包

แวะที่ญี่ปุ่น พวกซามูไรฟังเป็น パン 

ไปอยุธยา คนไทยมีหูมาตรฐานเดียวกับญี่ปุ่นฟังเป็น ปัง เช่นกัน

ใครมีความเห็นต่าง

ขอเชิญอภิปราย

 ;D






กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 04 พ.ค. 11, 15:50
ร่องรอยสำคัญน่าจะเป็นเรื่อง 包 ในภาษาจีนและญี่ปุ่นครับ

คำนี้ญี่ปุ่นไม่มีใช้ในความหมายว่าขนมปัง มีเพียงความหมายว่าห่อ หรือหีบห่อ (ซึ่งตรงกับจีน)

ซึ่งบ่งชี้ความคำนี้คนจีนน่าจะใช้ในความหมายว่าขนมปังในยุคหลังๆมานี้เอง

ถ้าพิจารณาว่ามาเก๊าคืออาณานิคมของชาวยุโรปแห่งแรกในจีน และเป็นอาณานิคมของชาวโปรตุเกสด้วย สมมติฐานที่มีความเป็นไปได้มากก็คือ คนจีนรับคำนี้มาจากชาวโปรตุเกสในยุคที่โปรตุเกสมาตั้งอาณานิคมที่มาเก๊าครับ

และเท่าที่ตรวจสอบดูคร่าวๆ จีนสำเนียงหลักๆออกเสียงคำนี้ใกล้เคียงกันหมดครับ


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 20 ต.ค. 11, 19:38
ไหนๆก็ไหนๆ อุตส่าห์หารูปพิมพ์ทำขนมได้แล้ว เลยขอเอามาเผยแพร่กันหน่อย

แม้กระทู้นี้จะผ่านไปนานแล้วก็ตาม

ตอนนี้ผู้เขียนมีความเชื่อมั่นนิดๆว่า ขนมสัมปันนีนี้ไซร้จะมาจากจีนหรือเปล่า



กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 20 ต.ค. 11, 19:41
อันนี้เป็นพิมพ์ทำขนมที่ข้าพเจ้าเคยบอกในข้างต้น

พิมพ์ไม้งดงาม ข้าพเจ้าสั่งซื้อมาทำขนม ตอนนี้ช่างสลักเขาสลักขึ้นใหม่ เขาเลยเอาลงเว็ปไซด์

ทั้งหมดสลักด้วยมือ รอประมาณครึ่งปีเอง กว่าเขาจะสลักมาขายใหม่

ราคาแพงระยับ แต่ไม่เป็นไร ความสุข...

ภาพมาจากเว็ปไซด์นี้ http://item.taobao.com/item.htm?id=7355284575&



กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 20 ต.ค. 11, 19:44
อันนี้เป็นแบบสามช่อง

http://item.taobao.com/item.htm?id=7355126731&


กระทู้: ที่มาของขนมสัมปันนีคือที่ใด - จีนหรือโปรตุเกส
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 21 ต.ค. 11, 07:04
หลังจากเห็นพิมพ์และได้อ่านคำอธิบายของบริษัทที่ขายว่าเป็นพิมพ์สำหรับทำเกาจ๊าย หรือขนมโก๋

ทั้งนี้ทั้งนั้นขนมโก๋แบบแต้จิ็วนี้ได้รับคำอธิบายว่าเก๋ไก๋เป็นที่สุดด้วยมีขนาดเล็ก น่าตาน่ารักสุดขาดใจ

วิธีทำอาจใช่แป้งข้าวเหนียวคั่ว โดยคั่วข้าวเหนียวก่อนเอามาโม้แป้ง หรือถั่วทองคั่วบทละเอียด มาผสมกับน้ำมันหมู น้ำตาล แล้วก็เอามาอัดใส่พิมพ์

ข้าพเจ้ามองๆ เลยเดาๆเอาว่า เป็นไปได้ไหมที่คนจีนในไทยทำ และภายหลังคนไทยก็เริ่มรับเอาอิทธิพลดังกล่าวมา โดยประยุกต์ให้เข้ากับตนเอง อาทิ แทนที่จะใช้น้ำมันก็กวนอย่างกวนขนมทั่วไป

อันนี้เป็นข้อสันนิษฐาน เห็นขัดแย้งอย่างไรตอบได้

แต่ส่วนตัวของข้าพเจ้าของสันนิษฐานไปก่อนว่าได้รับอิทธิพลจากจีน

สวัสดี