เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: ritti018 ที่ 03 ส.ค. 10, 16:41



กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: ritti018 ที่ 03 ส.ค. 10, 16:41
กระทู้นี้ ขอเป็นอนุสรณ์งานศพทุกประเภท ที่น่าสนใจนะครับ ท่านผู้ใดอยากแบ่งปันหนังสือเพื่อเป็นวิทยาทาน ก็สามารถนำมาลงในกระทู้นี้ได้ครับ


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ส.ค. 10, 16:45
รอคุณฤทธิอยู่นาน   ปลวกจะขึ้นแล้วค่ะ

พระประวัติสมเด็จพระราชปิตุลา   บรมพงศาภิมุข  เจ้าฟ้าฯ กรมพระยาภาณุพันธุวงศวรเดช
หม่อมเจ้าดำรัสดำรงค์  เทวกุล  รวบรวมโดยพระบรมราชโองการ
พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงพระศพ  เมื่อปีมะเส็ง พ.ศ.  2472


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: ritti018 ที่ 03 ส.ค. 10, 16:51
ขอเริ่มด้วย อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ(เป็นกรณีพิเศษ) นางบูรณวุฒิ(ทรัพย์  สาระเกษตริน) ภรรยาของขุนบูรณวุฒิ อดีตศึกษาธิการจังหวัดหลังสวนและสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีอายุยืนถึง 109 ปี(2441-2550)...สำหรับความพิเศษของหนังสือเล่มนี้ คือ ประวัติของคุณทวดทรัพย์ คือ ท่านมีบุตรเมื่ออายุ 15 ปี ดังนั้นในวันที่ท่านถึงแก่กรรม(7 ก.ค. 2550) บุตรสาวคนโตของท่าน คือคุณครูบุณยพรรณ  สงวนวงศ์ มีอายุถึง 94 ปี(2456-2552) และบุตรสาวคนที่ 2 มีอายุถึง 92 ปี(2458-ปัจจุบัน)


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: ritti018 ที่ 03 ส.ค. 10, 16:55
อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ คุณครูบุณยพรรณ  สงวนวงศ์ อดีตครูใหญ่คนแรกของโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา ซึ่งถึงแก่กรรมขณะอายุ 96 ปี

ความพิเศษของหนังสือ คือ ประวัติของคุณครูบุณยพรรณ ที่เข้ารับราชการตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปี และมีคุณแม่อยู่เคียงข้างตั้งแต่เกิดจนอายุ 94 ปี...


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: ritti018 ที่ 03 ส.ค. 10, 17:03
หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ คุณพร้อม  ณ นคร ผู้ใหญ่แห่งสกุล ณ นคร มีศักดิ์เป็นหลานสาวของเจ้าพระยาบดินทรเดชานุชิต(แย้ม  ณ นคร) ทั้งยังมีศักดิ์เป็นน้องสาวของ ท่านผู้หญิงพโยม  เสนีณรงค์ฤทธิ์(2450-2552) มารดาของท่านผู้หญิงอภิรดี  ยิ่งเจริญ คุณข้าหลวงชั้นผู้ใหญ่ในพระบาทสมเด็จฯพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9

ความพิเศษของหนังสือเล่มนี้ คือ รวบรวมเอาประวัติของต้นสกุล ณ นคร ไว้ทั้งหมด ที่มาที่ไปของตำแหน่งผู้ปกครองเมือง นครศรีธรรมราชในอดีต


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 03 ส.ค. 10, 18:20

แวะมาดูด้วยความชื่นชมค่ะ

ชอบหนังสือทุกประเภท

อ่านโดยแทบไม่เลือกเลยค่ะ   กระหายความรู้อยู่เสมอ

แต่ไม่มีหนังสืออนุสรณ์เท่าไร  เนื่องจากไม่มีที่เก็บแล้วค่ะ


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ส.ค. 10, 09:45
หนังสือเล่มนี้ มีทั้งรายชื่อข้าราชการวังหน้า(ทำเนียบนามภาค 2) วังหลัง และทำเนียบสมณศักดิ์      เป็นหนังสือสุดหวงเล่มหนึ่งในตู้    
เพราะตอนเริ่มนิยาย"รัตนโกสินทร์"   ตามหามาหลายปี ถึงขุนนางคนหนึ่งที่รู้แต่ราชทินนาม แต่ไม่รู้หน้าที่การงานและสังกัด      จนกระทั่งได้หนังสือเล่มนี้มาอย่างบังเอิญ   ก็เลยได้คำตอบพั๊วะทันที
ไม่มีหนังสือเล่มนี้ก็เริ่มนิยาย "รัตนโกสินทร์" ไม่ได้ ค่ะ


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 04 ส.ค. 10, 13:57
ขออนุญาตปรับสีเล่มนี้นะครับ......เมตตาอย่าถือสาหาความเลย....มันคือ/มือคัน...นะครับ


 ;D ;D


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ส.ค. 10, 14:20
ตามสบายเลยค่ะ   ขอบคุณมาก
ดิฉันไม่ถูกกับ window 7  ที่จำต้องใช้อยู่ขณะนี้   โปรแกรม scanner ใช้ยากมากค่ะ

ถ้าอยากทราบเนื้อความหรืออะไรที่เกี่ยวกับหนังสือที่ดิฉันสแกนมาลง เชิญถามได้นะคะ
ให้เล่าเองก็ยังไม่รู้จะเริ่มจุดไหน


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 07 ส.ค. 10, 20:36
(http://a.imageshack.us/img594/6762/scan00097174753.jpg)

กระทู้เีงียบเหงาไป
เลยเอาหนังสืออนุสรณ์งานศพที่มีอยู่ ๗-๘ เล่มมาให้ดูบ้างครับ
เล่มนี้เกี่ยวเนื่องมาจากเห็นมีการกล่าวชื่อท่านในกระทู้ จอมพล ป.๒ ไม่ผ่านขึ้น ป.๓
น.พ.เจริญ สืบแสง หรือ ขุนเจริญวรเวช อดีตนักโทษกบฎสันติภาพ
อ่านประวัติของท่านได้ที่ http://www.kananurak.com/mcontents/marticle.php?headtitle=mcontents&id=74134&Ntype=3
ท่านเป็นเพื่อนรุ่นน้องที่รักใคร่กันมากของคุณปู่ผม เคยเป็นผู้บริหารเทศบาลเมืองปัตตานีในยุคแรกมาด้วยกัน ผมเลยเรียกท่านว่าปู่ขุนเจริญฯ
พ.ศ.๒๕๑๒ คุณปู่ผมป่วยด้วยโรคหัวใจ ปู่ขุนเจริญฯไปเยี่ยม แล้วนั่งคุยข้างเตียงคุณปู่ผม
ไม่มีใครทราบว่าท่านคุยอะไรกัน รู้แต่ว่าท่านทั้งสองร้องไห้ หลังจากท่านกลับไปคุณปู่ผมก็สั่งพ่อว่าห้ามทิ้งขุนเจริญฯ
หลังจากนั้นคุณปู่ผมอาการทรุดหนักลงและถึงแก่กรรมในเดือน ก.ค. ๒๕๑๒
ส่วนคุณปู่ขุนเจริญฯป่วยหนัักและถึงแก่กรรมในเดือน ธ.ค. ๒๕๑๒ เรียกว่าตามกันไปติดๆ


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ส.ค. 10, 21:09
มาช่วยคุณหมอปั่นกระทู้อีกคน



กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 08 ส.ค. 10, 09:50
(http://a.imageshack.us/img202/5311/scan00087167558.jpg)


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 08 ส.ค. 10, 09:52
(http://a.imageshack.us/img832/9040/scan00067145142.jpg)


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ส.ค. 10, 10:11
ที่จริง เอาลงแต่ปกหนังสือ คนเข้ามาอ่านกระทู้อาจจะไม่จุใจนัก  เพราะอ่านปกเสร็จแล้ว  ก็จบ  ไม่รู้ว่าเรื่องเป็นอย่างไร  
ดิฉันก็เลยขอเสริมถึงเนื้อหาในเล่มให้ฟังนิดหน่อยนะคะ
ขอเชิญคุณหมอ CVT และท่านอื่นๆ เล่าบ้าง แล้วแต่เห็นสมควร

เรื่องทำเนียบนามภาค 2  ตำแหน่งขุนนางวังหลัง  เป็นรายชื่อขุนนางวังหน้าวังหลัง ว่าชื่ออะไร มีหน้าที่การงานอะไรบ้าง  ตอนอ่านครั้งแรกก็เพิ่งรู้ว่า ตำแหน่งงานนั้นทำนองเดียวกับขุนนางวังหลวง    
รายชื่อในหนังสือเล่มนี้ดีมาก  เขาจับให้ดูเป็นคู่ๆ ว่าตำแหน่งขุนนางวังหน้าเทียบได้กับขุนนางวังหลวงตำแหน่งไหนบ้าง
ขุนนางวังหน้า เป็นจตุสดมภ์ เวียง วัง คลัง นา แบบเดียวกับขุนนางวังหลวงทุกอย่าง  เว้นแต่ศักดินาน้อยกันกว่าครึ่งหนึ่ง

ตำแหน่งสูงสุด คือ เจ้าพระยามุขมนตรี   เทียบได้กับสมเด็จเจ้าพระยา วังหลวง  
พระยาจ่าแสนยากร  เทียบได้กับ สมุหนายก
พระยามหาโยธา   เจ้ากรมมหาดไทยฝ่ายเหนือ   เทียบได้กับ พระยามหาอำมาตย์
พระยามณเฑียรบาล   เสนาบดีวัง   เทียบได้กับ เจ้าพระยาธรรมาธิกรณ์
พระยาพิไชยบุรินทรา  เสนาบดีเวียง    เทียบได้กับ เจ้าพระยายมราช
พระยาเกษตรรักษา     เสนาบดีนา         เทียบได้กับเจ้าพระยาพลเทพ

พบราชทินนาม พระพินิจอักษร  ซึ่งเราคงจำได้ว่าสมัยปลายอยุธยา คือสมเด็จพระบรมราชชนกในรัชกาลที่ 1  สังกัดวังหน้าเหมือนกัน

นอกจากนี้่เจอราชทินนาม ขุนศรีสังหาร ซึ่งบางฉบับบอกว่าเป็นพ่อสุนทรภู่  ก็เป็นขุนนางวังหน้า      มาถึงตรงนี้ทำให้สงสัยว่าเหตุใดสุนทรภู่จึงไปเป็นชาววังหลัง    ถ้าจะตอบว่าแม่เป็นแม่นมพระธิดาวังหลัง   ก็ในเมื่อแต่งงานกับขุนนางวังหน้า ทำไมแม่ไม่ถวายตัวเป็นข้าหลวงวังหน้า อย่างที่ควรทำ  


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ส.ค. 10, 11:15
ไปค้นหนังสือเรื่องอื่น แต่กลับเจอหนังสือเล่มนี้เข้า  เป็นหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพคุณหญิงเผชิญ อรรถยุติ   ท่านเป็นภรรยาคุณหลวงวิสูตร วิรัชชเทศ  ท่านทูต
เป็นหนังสือเล่มใหญ่เกือบ 300 หน้า  ปกกระดาษหนาสีขาวอย่างดี  ข้างในก็เป็นกระดาษหนาและมัน  พิมพ์ภาพสีและขาวดำพราวไปทั้งเล่ม
คุณหญิงเผชิญ อยู่ในตระกูลโชติเสถียร    จึงมีประวัติของพระยาโชฎึกฯ เล่าเถียน  พิมพ์อยู่ในหนังสือเล่มนี้ด้วย
ประวัติบรรพชนของท่านลงในหนังสืออยู่ยาวเหยียด   มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยน่าสนใจ สะท้อนความเป็นอยู่ของตระกูลใหญ่เมื่อหนึ่งร้อยกว่าปีก่อนได้มากกว่าหาอ่านในตำรา
จะหาเวลามาย่อยให้ฟังค่ะ  ต้องดูก่อนว่าจะตั้งเป็นกระทู้ใหม่ หรือว่าลงในกระทู้นี้ดี

ดูรูปคุณหญิงเมื่อตอนสาว  เป็นผู้หญิงที่งามและดูทันสมัยมาก


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: ritti018 ที่ 13 ส.ค. 10, 11:50
เรียนคุณเทาชมพู คลับคล้ายคลับคลาว่า คุณหญิงเผชิญ ท่านเพิ่งเสียไปใช่หรือไม่ครับ ถ้าอย่างนั้นผมอยากทราบประวัติของท่านจังครับ รบกวนคุณเทาชมพูเล่าให้ฟังได้มั้ยครับ อีกเรื่องนึงคือ อยากทราบประวัติของคุณหญิงปฤกษ์ มารดาของท่านอานันท์  ปันยารชุน ซึ่งท่านเป็นสมาชิกแห่งสกุล โชติกเสถียรเช่นกัน ถ้าคุณเทาชมพูมีข้อมูลก็ขอเชิญลงข้อมูลด้วยนะครับ....ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ส.ค. 10, 12:28
คุณหญิงเผชิญ ท่านถึงแก่กรรมเมื่อพ.ศ. 2549 นี้เองค่ะ   ส่วนคุณหญิงปฤกษ์ ดิฉันไม่แน่ใจว่ามีประวัติของท่านหรือไม่  ต้องไปค้นหนังสืองานศพในตู้ก่อน    ใครมีก็กรุณาเล่าให้ฟังด้วย

เริ่มด้วยประวัติของคุณหญิงเผชิญ
คุณหญิงเผชิญ อรรถยุกติ หรือน.ส.เผชิญ โชติกเสถียร  เกิดเมื่อ 2 พฤษภาคม 2454  ที่บ้านซอยแม้นศรี เขตสะพานดำ กรุงเทพ
ท่านเป็นบุตรสาวคนโตของคุณพระวิทยุทูระลิขิต (หั่ง โชติกเสถียร) และคุณนายผิว(สกุลเดิม นิมิหุต)

คุณปู่ของคุณหญิงเผชิญ คือพระยาทิพยโกษา (หมาโต  โชติกเสถียร) คุณย่าชื่ออิ่ม   ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากพระยาโชฎึกราชเศรษฐี(พุก โชติกพุกกณะ) และคุณหญิงเขียน
คุณทวดของคุณหญิงเผชิญ คือพระยาโชฎึกราชเศรษฐี(เล่าเถียน หรือเถียน โชติกเสถียร)
เพราะฉะนั้นคุณหญิงเผชิญก็มีเชื้อสายของพระยาโชฎุึกราชเศรษฐีทั้ง 2 ท่านด้วยกัน ทั้งพระยาโชฎึก(พุก) และพระยาโชฎึก(เถียน)

ขอเล่าแค่นี้ก่อนนะคะ   อ่านประวัติท่านคร่าวๆแล้ว  เรื่องราวของบิดามารดาท่าน มีสีสันไม่แพ้สี่แผ่นดินเลยทีเดียว   ถ้าเล่าก็จะยืดยาวมาก  ต้องหาเวลามาโพสต์ทีละเล็กทีละน้อย


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ส.ค. 10, 17:39
นำรูปคุณพ่อของคุณหญิงเผชิญมาลง    หลวงวิทยุทูระลิขิต   รูปร่างหน้าตาและชีวิตท่านพอจะเป็นพระเอกนิยายระดับสี่แผ่นดินได้ทีเดียว
คุณพระวิทยุหรือเด็กชายหั่งเป็นบุตรพระยาทิพยโกษา ที่เกิดจากภรรยาที่ไม่ใช่ภรรยาเอก    เจ้าคุณพ่อนำท่านไปฝากให้เป็นบุตรบุญธรรมของพระสุริยะภักดี  (สนิท บุนนาค)
ชื่อพระสุริยะภักดี บุตรสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ  เราคงจำได้จากกรณีลอบรักกับเจ้าจอมอิ่มในรัชกาลที่ 3 จนถูกประหารชีวิต   ส่วนลูกชายบุญธรรมถูกส่งตัวไปเรียนที่ปีนังตั้งแต่อายุ ๘ ขวบ  อยู่ที่นั่้นจนอายุ ๑๒  ก็เป็นเวลาที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯเสด็จปีนัง    เด็กชายหั่งถูกคุณอาคือพระยาธรรมนุกูลมนตรี( อ้าว  เจ้าคุณพ่อของคุณเปรมตามเสด็จไปปีนังด้วย  คุณวันดีกับคุณหลวงเล็กทราบหรือยังคะ?) เรียกตัวมาถวายการรับใช้เพราะพูดภาษามลายูได้คล่อง
เด็กชายหั่งทำงานถวายได้ดีเป็นที่สบพระอัธยาศัยของเจ้านาย  และก็คงเป็นเด็กหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูด้วย    สมเด็จกรมพระยาเทววงศ์ฯทรงเห็นว่ามีแววดี  ก็ทรงชวนไปเรียนต่อในยุโรป     พระยาทิพยโกษาก็ปลาบปลื้ม รีบสนองพระเมตตา ถวายลูกชาย      เด็กชายหั่งจึงได้ไปเรียนวิชาวิศวกรรมเครื่องกลที่เยอรมันจนกระทั่งจบ
กลับมาสยามอีกครั้งเป็นหนุ่มเต็มตัววัยเบญจเพส     มาดโก้ขนาดไหน  กรุณาดูในรูป    คุณเปรมเองก็คงไม่โก้ได้เท่านี้


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ส.ค. 10, 21:50
พระยาทิพยโกษามีภรรยาเอกชื่อคุณหญิงกุหลาบ กับมีภรรยารองๆอีกหลายคน  รวมทั้งมารดาของนายหั่งหรือคุณหลวงวิทยุด้วย    เมื่อคุณหลวงวิทยุฯกลับมาก็เข้าใจทำตัวอ่อนน้อมให้แม่เลี้ยงเอ็นดู  จนคุณหญิงกุหลาบรักลูกชายคนนี้ของเจ้าคุณราวกับลูกแท้ๆของท่าน
เจ้าคุณมีธิดากำลังเป็นสาวอยู่หลายคน    ตามประสาชายเจ้าชู้ท่านก็หวงลูกสาวชนิดริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม  ไม่ยอมให้ออกไปไหน   แต่คุณหลวงวิทยุก็วางแผนพาน้องสาวทั้งหลายไปเที่ยวตามประสาหนุ่มๆสาวๆจนได้   คือใจกล้าชวนน้องสาวปีนลงจากบ้านไปเที่ยวหลังเจ้าคุณกับคุณหญิงเข้านอนแล้ว  ออกไปท่องราตรีกัน   เจ้าคุณและคุณหญิงจับไม่ได้
ฝีมือระดับนี้  คุณเปรมสู้ไม่ได้ค่ะ

ลูกสาวคุณหญิงกุหลาบมี ๔ คน คือ
- คุณเลื่อน  ต่อมาเป็นคุณหญิงของพระยาสุรเทพภักดี  (สกุล ณ นคร)
- คุณลัย  ต่อมาเป็นคุณหญิงของพระยาเทพาธิบดี  (สกุลบุนนาค)
- คุณเอื้อม   ต่อมาเป็นคุณหญิงพระยาเทพวิฑูร   (สกุลวณิกกุล)
- คุณปฤกษ์    ต่อมาเป็นคุณหญิงพระยาปรีชานุศาสตร์ (สกุลปัณยารชุน    บิดาของคุณอานันท์ ปัณยารชุน)

มีคำเรียกคล้องจองกันว่า   คุณเลื่อนเหลวไหล  คุณลัยเรียบร้อย  คุณเอื้อมแช่มช้อย  คุณปฤกษ์เปรี้ยวจี๋   ก็คงตั้งกันเองในหมู่พี่ๆน้องๆ  คุณหญิงเผชิญท่านท่องจำเอาไว้ได้

ตามธรรมเนียมในสมัยนั้น  บิดามารดามักจะเป็นฝ่ายหาคู่ให้บุตรธิดาของตัว     ลูกสาวมักไม่ค่อยมีปัญหา เพราะถึงเวลามีคนมาสู่ขอ เธอก็แล้วแต่พ่อแม่   แต่ลูกชายนั้นพอโตเป็นหนุ่มก็มักจะได้สาวๆในบ้านเป็นเมียเสียก่อนแล้ว     แล้วค่อยไปมีภรรยาออกหน้าออกตาที่พ่อแม่เห็นสมควร ทีหลัง     เรื่องทำนองนี้ใครอ่านสี่แผ่นดินคงจะจำได้ว่าคุณเปรมก็เจริญรอยตามนี้    หรือใครอ่าน"ความผิดครั้งแรก"ของ "ดอกไม้สด" ก็คงจะนึกออกว่าหลวงปราโมทย์สามีของวไลนางเอกของเรื่อง ก็ทำแบบเดียวกัน

กลับมาที่เรื่องคุณหญิงเผชิญอีกทีนะคะ
คุณหญิงกุหลาบเมตตาลูกเลี้ยงมาก  จึงคิดจะหาคู่ครองที่เหมาะสมให้   ในที่สุดก็ไปสู่ขอสาวชาววังให้คนหนึ่ง เป็นหญิงสาวหน้าตาสวยงาม บุคลิกดี   ชื่อผิว  เธอเป็นข้าหลวงในสมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี     คุณผิวกับคุณหลวงวิทยุก็ได้สมรสกัน
คุณผิวคือมารดาของคุณหญิงเผชิญ     ดูคุณสมบัติแล้วก็เหมือนแม่พลอย ประมาณนั้น


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ส.ค. 10, 09:02
     เช่นเดียวกับคุณเปรมก่อนสมรสกับแม่พลอย    ก็มีแม่ของตาอ้นอยู่แล้วเงียบๆในบ้าน   เมื่อกลับจากเยอรมันไม่เท่าไรคุณหลวงวิทยุก็ได้ "แม่อบ" สาวใช้ในบ้าน  แต่ไม่มีลูกด้วยกัน    ต่อมาได้ "แม่กลิ่น" คนในบ้านอีกคน จนมีลูกชายด้วยกันคนหนึ่ง
    เรื่องนี้ คุณผิวทราบตั้งแต่ก่อนแต่งงาน แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาใหญ่    เพราะสังคมสมัยนั้นเป็น polygamy  คือมีคู่สมรสได้หลายคน    การที่ผู้ชายมีเมียเดิมมาก่อนแต่งงาน ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเสียหาย ตราบใดเขายังไม่มีภรรยาเอกซึ่งผู้ใหญ่ตบแต่งรดน้ำกันตามประเพณี   ต่อไปเธอก็จะเป็นคุณหญิง ซึ่งเจ้าคุณก็มักจะมีนางเล็กๆตามมาอีกหลายคน   คุณหญิงบางคนก็หานางเล็กๆให้สามีเสียเองเพื่อจะได้ควบคุมได้ง่าย
   อีกอย่างคุณหลวงวิทยุก็หล่อออกปานนั้น    แล้วยังเป็นนักเรียนนอกในยุคที่นักเรียนนอกมีได้นับคนถ้วน   โก้กว่าคุณเปรมก็ตรงนี้
   แต่สถานการณ์ของคุณผิวเมื่อแต่งไปแล้ว ไม่เหมือนแม่พลอย    ในกรณีแม่พลอย คุณเปรมขจัดความยุ่งยาก ด้วยการให้แม่ของตาอ้นออกจากบ้านไป ก็คงมอบเงินทองไปให้มากพอจะไปตั้งตัวหาสามีใหม่ได้    แม่พลอยจึงมีตาอ้นคนเดียวไว้ให้เลี้ยงอย่างลูก     แต่ในบ้านของคุณหลวงวิทยุ  แม่อบและแม่กลิ่นไม่ได้ออกจากบ้าน     นอกจากนี้แม่กลิ่นก็ยังมีลูกชาย ซึ่งเป็นสายใยผูกพันพ่อไว้ได้มาก    จนทำให้คุณผิวยุ่งยากลำบากใจ มีปัญหาเรื่องแม่กลิ่น จนคิดหนัก เครียดจนอาจเป็นเหตุให้บุตรชายคนแรกของเธอ พี่ชายของคุณหญิงเผชิญซึ่งมีชื่อว่า "คุณชูริก" เกิดมาไม่สมประกอบ
     ปัญหาคลี่คลายลงเมื่อคุณหลวงกับคุณผิวตัดสินใจย้ายออกจากบ้านพระยาทิพยโกษาไปอยู่บ้านของตนเอง   โดยไปซื้อที่ดินผืนหนึ่งไว้ที่สะพานดำติดกับบ้านของบิดามารดาคุณผิว      เมื่อคุณหลวงกับคุณผิวไปปลูกบ้านอยู่ใหม่ติดกับบ้านพ่อตาแม่ยาย    แม่กลิ่นกับคุณหลวงก็ขาดกันไปโดยปริยาย    แม่กลิ่นก็พาบุตรชายออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่นกันสองคนแม่ลูก    ผ่านไปหลายปีจนโตเป็นหนุ่ม บุตรชายที่ชื่อคุณจรูญก็หวนกลับมาเยี่ยมบิดาที่บ้านสะพานดำ    แต่ก็ห่างเหินไม่รู้จักกับน้องๆที่เกิดขึ้นภายหลัง   มีคุณหญิงเผชิญคนเดียวเท่านั้นที่รู้จักพี่ชายต่างแม่คนนี้


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ส.ค. 10, 12:09
ก่อนคุณหญิงเผชิญเกิด 1 ปี  เจ้าคุณทิพยโกษาผู้เป็นปู่ก็ถึงแก่กรรมกะทันหัน     เกิดปัญหาใหญ่กับครอบครัว  เพราะท่านจากไปในเวลาที่ทรัพย์สินทั้งหมดเอาไปจำนองหลวงไว้เพื่อลงทุนทำระบบประปาในกรุงเทพ     ในหนังสืออธิบายไว้สั้นๆแค่นี้   ไม่ได้บอกว่าทำไมสมัยนั้นระบบสาธารณูปโภค หลวงท่านไม่ทำเสียเอง    ทำไมเอกชนต้องมาทำ  ดิฉันก็ได้แต่เดาต่อว่าคงจะคล้ายสัมปทาน หรือไม่ก็เป็นกิจการของเอกชน 100%  เหมือนเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีท่านทำเรื่องไฟฟ้าละกระมัง   ใครทราบช่วยอธิบายด้วยจะเป็นพระคุณยิ่ง

ในเมื่อทรัพย์สินไปติดจำนอง ทั้งหมดก็ถูกยึดเข้าหลวง    ภรรยาและลูกๆก็เดือดร้อนไม่มีที่อยู่      คุณนายผิวผู้เป็นสะใภ้ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ วิ่งเต้นเข้าเฝ้าเจ้านายเก่าของเธอ     เธอมีญาติอยู่วังโน้นวังนี้หลายวังด้วยกัน ก็สามารถทูลขอความช่วยเหลือได้จากหลายพระองค์    ในที่สุดก็ได้ที่ดินพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าทรงอนุเคราะห์มา 7 ไร่ ด้วยกัน ที่สะพานเหลือง

คุณหญิงเผชิญเกิดแล้ว อายุได้ 5-6 ขวบ   คุณหลวงวิทยุและคุณนายผิวก็ขายบ้านที่สะพานดำซึ่งอยู่ติดกับบิดามารดาคุณนายผิว   ย้ายไปอยู่บ้านใหม่ที่สะพานเหลือง
ที่ดินใหม่เป็นที่ดินตาบอด คือไม่มีทางเข้า    เพื่อจะสร้างสะพานเข้าไป  คุณนายผิวต้องไปกู้เงินแปดถึงเก้าร้อยบาทจากคุณหญิงหุ่น ภรรยาพระยารณไชยชาญยุทธ (ศุข โชติกเสถียร)  คุณหญิงหุ่นท่านใจดีมาก ยกเงินให้เลยไม่ต้องใช้คืน    คุณนายผิวจึงถือว่าคุณหญิงหุ่นเป็นผู้มีพระคุณต่อครอบครัวของท่าน

คุณนายผิวมีหัวทางธุรกิจมากเอาการ     สร้างฐานะให้ดีขึ้นด้วยการสร้างห้องแถวให้คนจีนเช่า  มีคนมาเช่าทำโรงยาฝิ่น และโรงหมี่   ส่วนท่านก็ทำธุรกิจของท่านเองคือทำโรงฟอกหนัง
นอกจากนี้ยังรับเย็บเสื้อแต่งงาน   แม้แต่โรงภาพยนต์ก็เคยทำ

คุณหญิงเผชิญเติบโตเป็นสาวในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ  ซึ่งทำให้ธุรกิจของคุณแม่ไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร      แต่อ่านดูแล้ว คุณนายผิวก็น่าจะได้ชื่อว่าเป็นเศรษฐินีคนหนึ่ง   สมเป็นสตรีไทยแบบ "เปลก็ไกว  ดาบก็แกว่ง" โดยแท้

ประวัติชีวิตคุณหญิงเผชิญ  ถ่ายทอดจากความทรงจำอันมีค่าของท่านต่อธิดา  มีการเอ่ยถึงญาติมิตรผู้ใกล้ชิดมากมาย   บางหน้ามีรายชื่อเข้าไปเกือบ 20 ชื่อ  ให้ถอดออกมาด้วยความยากลำบาก    จะเว้นก็รักพี่เสียดายน้อง ลังเลอยู่หลายครั้งกว่าจะดำเนินเรื่องมาได้
จึงขอให้ผู้อ่านกระทู้นี้โปรดเห็นใจ    ปาเข้าไปหลายความเห็นแล้ว คุณหญิงเผชิญยังไม่ได้เจอคุณหลวงวิสูตรสักที


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 14 ส.ค. 10, 16:17
ท่านอาจารย์เทาชมพูได้กล่าวถึงบุตรธิดาของพระยาทิพโกษา (หมาโต  โชติกเสถียร) แล้ว  ต้องขออนุญาตเอ่ยถึงบุตรอีกท่านหนึ่งของท่านเจ้าคุณ คือ นายพันโท หลวงจรูญอักษรศักดิ์ (จรูญ  โชติกเสถียร)  คุณหลวงจรูญฯ นั้นจะเป็นบุตรคุณหญิงทิพโกษาหรืออนุภรรยาไม่แจ้ง  แต่เพราะพระยานริศรราชกิจ (สาย  โชติกเสถียร - ต่อมาเปลี่ยนราชทินนามอีกหลายครั้งสุดท้ายเป็น พระยาวิสูตรสาครดิษฐ) กับคุณหญิงไม่มีบุตร  จึงได้ขอเด็กชายจรูญไปเป็นบุตรบุญธรรม  เมื่อพระยานริศรราชกิจย้ายจากภูเก็จตขึ้นไปเป็นข้าหลวงใหญ่ที่เมืองนครเชียงใหม่  ก็ได้หอบหิ้วเด็กชายจรูญขึ้นไปเล่าเรียนที่เมืองนครเชียงใหม่  ได้เป็นนักเรียนหมายเลข ๑ ของโรงเรียนสอนหนังสือไทยเมืองนครเชียงใหม่ซึ่งปัจจุบันคือโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย  เมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยานริศราชกิจออกไปเป็นอัครราชทูตสยามที่กรุงโตเกียว  ก็ได้นำเด็กชายจรูญออกไปเล่าเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น  จนเป็นตนไทยคนแรกที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยประเทศญี่ปุ่น  ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๑ นายร้อยโท จรูญ  โชติกเสถียร ก็ได้รับคัดเลือกไปในกองทูตทหาร  ต่อมาในรัชกาลที่ ๗ ได้รับพระราชทานทุนเล่าเรียนส่วนพระองค์ไปเรียนวิชาเสนาธิการทหารบกที่ญี่ปุ่น  กลับมารับราชการในกองทัพบกจนได้เป็นนายพันโท  เมื่อเกิดกบฏบวรเดชได้เข้ากับฝ่ายพระองค์เจ้าบวรเดช  ถูกตีถอยร่นกลับไปโคราชแล้วต้องลี้ภัยไปอยู่อินโดจีนอยู่ระยะหนึ่ง  สงครามโลกครั้งที่สองสงบลงแล้วจุงได้กลับเมืองไทย  ท่านผู้นี้เป็นบิดาของคุณหญิงแสงดาว  สยามวาลา   


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ส.ค. 10, 18:51
ขอบคุณที่มาเล่ารายละเอียดเพิ่มค่ะ คุณ V_Mee 
พันโทหลวงจรูญที่คุณวีมีเล่ามา  เป็นคนละคนกับพี่จรูญลูกชายแม่กลิ่น  พี่ชายต่างแม่ของคุณหญิงเผชิญ   นับญาติแล้วบอกได้ว่าเป็นลุง(หรืออา)กับหลาน กัน
คุณจรูญพี่ชายคนละแม่ของคุณหญิงเผชิญ รับราชการที่กรมโยธาธิการจนเกษียณในปี 2511  ไม่มีบุตร   ในบั้นปลายไปบวชอยู่วัดภคินีนาถ จนถึงแก่กรรม

เพิ่งรู้ว่าคุณหญิงแสงดาวเป็นพวกโชติกเสถียร     ตอนเล็กๆบ้านอยู่ใกล้ท่าน ท่านสมรสกับคุณอนุมัติ  สยามวาลาและนับถือศาสนาอิสลาม    ดิฉันเข้าใจผิด   นึกว่าท่านเป็นมุสลิมมาแต่กำเนิดเสียอีก


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ส.ค. 10, 17:37
ทิ้งกระทู้ไปเสียนาน   ขอกลับมาต่อให้จบ  ก่อนจะเล่าเรื่องหนังสืองานศพเล่มต่อไป

คุณหญิงเผชิญอยู่บ้านสะพานเหลืองในซอยสองพระ  เมื่อโตพอจะเรียนหนังสือ ก็เข้าเรียนที่ร.ร.สายปัญญา ใกล้วัดเทพศิรินทร์   
ออกจากบ้านนั่งรถม้าโยกเยกโคลงเคลงไปตามถนนปูด้วยอิฐ   มีเงินติดตัวไปวันละ ๑๐ สตางค์   พอจบชั้นประถมก็ไปต่อชั้นมัธยมที่ร.ร.เซนต์โยเซฟ
อายุสัก ๑๓-๑๔  คุณนายผิวก็ให้ลูกสาวลาออก  ถือว่าเล่าเรียนเขียนอ่านได้แล้ว    ท่านไม่ได้ติดใจจะให้ลูกสาวเรียนมากกว่านี้   เพราะอยากให้มาช่วยทำกับข้าวกับปลา ดูแลบ้านและไปรับใช้ญาติผู้ใหญ่มากกว่า

ขอหมายเหตุว่าค่านิยมแบบนี้เป็นของธรรมดาสามัญในสมัยรัชกาลที่ ๕ และ ๖    เพราะผู้หญิงยังไม่มีบทบาทในสังคมนอกบ้าน   เรียนมากไปก็เกินความจำเป็นเปล่าๆ

คุณพ่อของคุณหญิงเผชิญ คือคุณหลวงวิทยุฯ ได้เลื่อนเป็นพระวิทยุทูระลิขิตในพ.ศ. ๒๔๕๕ (ในรัชกาลที่ ๖)   และได้รับพระราชทานยศนาวาเอก  ต่อมาก็ย้ายจากกองทัพเรือมาเป็นรองอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข  จนถูกดุลยภาพในพ.ศ. ๒๔๖๘   ออกจากราชการมารับบำนาญเมื่ออายุเพียง ๔๙ ปี

ส่วนคุณนายผิวเป็นข้าหลวงในสมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี ชื่อของบุตรธิดาเกือบทุกคน สมเด็จฯพระราชทานให้รวมทั้งชื่อคุณหญิงเผชิญ    เว้นแต่ชื่อพี่ชายคนโตคือ "ชูริก" เป็นชื่อพระราชทานจากสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์     
ดิฉันเดาว่าชื่อนี้เป็นภาษาเยอรมัน  ไม่ใช่ภาษาไทย


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ส.ค. 10, 17:50
การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕  มีผลกระทบต่อครอบครัว  เพราะคุณพระวิทยุฯถูกรัฐบาลของคณะราษฎร์เพ่งเล็งว่าเป็นฝ่ายนิยมเจ้า    แต่ก็ยังโชคดี ไม่ถึงขั้นโดนการเมืองเล่นงาน   คุณพระไหวทัน ตัดสินใจพาครอบครัวลี้ภัยการเมืองไปอยู่ที่จ.เพชรบุรี     อ้างว่าสุขภาพของคุณนายผิวไม่ดี  มีอาการโรคหัวใจและเบาหวาน
ปี ๒๔๗๖      หลังกบฏบวรเดช  ครอบครัวก็ไปพำนักอยู่เพชรบุรี  ที่จวนเทศาภิบาลมณฑล คือพระยาสุรพันธ์เสนี
คุณหญิงเผชิญพักอยู่ที่เพชบุรีด้วยความสุขจนพ.ศ. ๒๔๗๗  วันหนึ่ง คุณนายผิวมีอาการเพลีย  ลงนอนพักแล้วสิ้นลมไปอย่างสงบ ไม่มีอาการเจ็บป่วยมากกว่านี้
ส่วนคุณพระวิทยุฯ ไปได้หญิงสาวชาวเมืองเพชรเป็นภริยาอีกคนหนึ่ง โดยคุณนายผิวไม่ได้ระแคะระคายเรื่องนี้    เมื่อสิ้นภริยาหลวง คุณพระก็อยู่ที่เพชรบุรีต่อไปกับภริยาคนใหม่   ส่วนลูกๆย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพกับคุณแสน้าสาว ซึ่งเป็นน้องคุณนายผิว

ชะตาของคุณหญิงเผชิญ ก็พลิกผันไปนับแต่สิ้นมารดา  ตอนคุณนายผิวถึงแก่กรรม  คุณหญิงอายุ ๒๓ ปี

เกร็ดสั้นๆเรื่องคุณน้าแสของคุณหญิงเผชิญ สนุกราวกับนิยาย   น่าจะเป็นเรื่องสั้นของดอกไม้สด หรือยาขอบ ได้ทีเดียว


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ส.ค. 10, 18:13
เมื่อมารับผิดชอบดูแลหลานๆที่เป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้ว  คุณน้าแสของคุณหญิงเผชิญ เป็นผู้ใหญ่อายุ ๔๒ ปี   วันหนึ่งเพื่อนบ้านของท่านชื่อคุณหญิงเพื่อน นรพัลลภ มาปรึกษาว่าอยากจะหาภรรยาใหม่ให้ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งชื่อพลโทพระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกร (ม.ร.ว.สิทธิ์ สุทัศน์)  ซึ่งเป็นพ่อม่ายลูกติด ๑๒ คน
พระยาวิชิตฯ เป็นผู้ใหญ่มีตำแหน่งงานสำคัญในอดีตมากมาย เช่นเป็นแม่ทัพภาคที่ ๑   เป็นอัครราชทูตพิเศษ ประจำสหรัฐอเมริกา  และอัครราชทูตประจำของฝรั่งเศส  แล้วมารับตำแหน่งสมุหราชองครักษ์ ก่อนเกษียณอายุ
คุณน้าแสก็เต็มใจเป็นแม่สื่อ ชักนำเพื่อนหญิงชื่อแม่สม(หรือโสม) ซึ่งเป็นผู้หญิงงามมาก มาให้เจ้าคุณสนใจ     คุณแสก็ชวนแม่สมมาพักที่บ้านชั่วคราว   เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าคุณมาเยี่ยมเยียน  มาทีไรก็ได้เจอทั้งแม่สมและคุณแส
เจ้าคุณคงจะพอใจแม่สม จึงชวนเธอไปกินน้ำชาที่โรงแรมโอเรียนเต็ล  (โอ้โฮ  โก้มากเชียว)     พอไปถึงเจ้าคุณก็ไปเจอเพื่อนฝรั่งเข้าคนหนึ่ง  จึงบอกให้แม่สมนั่งรอก่อน  ท่านขอไปสนทนากับเพื่อนฝรั่งสักประเดี๋ยว     ไม่รู้ว่าเจ้าคุณสนทนาเพลินไปหน่อย หรือว่าแม่สมเป็นคนใจร้อนกันแน่    ปรากฏว่ากว่าเจ้าคุณจะพูดกับเพื่อนเสร็จกลับมาที่โต๊ะน้ำชา    แม่สมก็กลับบ้านไปแล้วเพราะรอไม่ไหว
เจ้าคุณวิชิตฯไม่เห็นเงาแม่สม   ท่านก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เห็นทีจะมาเป็นภรรยาท่านไม่ได้  เพราะคงไม่อยู่ในโอวาทสามี    ท่านก็เลยหันมาสนใจแม่สื่อแทน   จนให้เถ้าแก่มาสู่ขอ  จดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อย   
คุณแสจึงกลายเป็นคุณหญิงวิชิตวงศ์วุฒิไกรไปด้วยเหตุนี้   แต่งงานแล้วก็ย้ายจากบ้านเดิมไปอยู่บ้านเจ้าคุณที่ถนนราชดำเนิน ตรงที่เป็นสโมสรร.ร.นายร้อยจ.ป.ร. ในปัจจุบัน


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ส.ค. 10, 18:36
พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา  ประธานผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในตอนนั้น ประสงค์จะให้เจ้าคุณวิชิตฯเดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์เพื่อทำหน้าที่พระอภิบาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล     เหตุการณ์นี้เองทำให้ชีวิตคุณหญิงเผชิญเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง เพราะคุณหญิงแส พาหลานสาวคนโตไปอยู่ด้วยที่สวิสด้วย

พ.ศ. ๒๔๗๙ เมื่ออายุ ๒๕  ปี  คุณหญิงเผชิญก็ออกจากสยามเดินทางไปยุโรป   แวะที่ปีนัง เจ้าคุณกับคุณหญิงเข้าเฝ้าสมเด็จกรมพระยาดำรงฯที่ทรงลี้ภัยการเมืองมาประทับที่นั่น       พระธิดาของสมเด็จฯซึ่งในหนังสือไม่ได้บอกว่าเป็นองค์ไหน คงจะถูกชะตากับคุณหญิงเผชิญ  จึงทรงปรารภว่าอยากให้คุณหญิงรู้จักหลวงวิสูตร 
เป็นครั้งแรกที่คุณหญิงได้ยินชื่อคุณหลวงวิสูตร     โดยไม่รู้จักเลยว่าหลวงวิสูตรเป็นใคร

เมื่อเดินทางไปถึงสวิตเซอร์แลนด์  ก็ได้เข้าเฝ้าทั้งสี่พระองค์ คือพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล  สมเด็จพระพี่นาง  สมเด็จพระอนุชา และพระราชชนนี คือสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี    สมเด็จพระศรีฯ ทรงอบรมสั่งสอนคุณหญิงเผชิญทุกอย่างทางด้านประเพณีฝรั่ง  แม้แต่การเก็บผ้าเช็ดหน้าไว้ในกระเป๋า

คุณหญิงไปถึงสวิสได้ ๒ สัปดาห์  อดีตเลขานุการเอกของเจ้าคุณวิชิตฯสมัยท่านเป็นอัครราชทูตที่ฝรั่งเศส ได้ข่าว ก็เดินทางมาเยี่ยมเยียนแสดงความเคารพท่าน     ข้าราชการสถานทูตคนนี้ก็คือหลวงวิสูตรวิรัชชเทศ   หรือนายวิสูตร อรรถยุกติ  บุตรพระยาเผด็จดุลยบดีศรีสรคม
หลวงวิสูตรในตอนนั้นอายุ ๓๒ ปี   มีตำแหน่งเป็นเลขานุการเอก และ Charge a'Affaires   (อ่านว่าชาร์เจ ดาแฟร์)  คือทำหน้าที่แทนราชทูต เนื่องจากตอนนั้นรัฐบาลสยามยังไม่ได้แต่งตั้งอัครราชทูตไทยประจำฝรั่งเศส

คุณหลวงวิสูตร เห็นคุณหญิงเผชิญก็ชอบใจ  จึงทาบทามผ่านทางผู้ใหญ่คือเจ้าคุณวิชิตฯ     คุณหญิงเผชิญเขียนจดหมายไปขอความเห็นจากคุณพ่อ คุณพระวิทยุ   ท่านก็ตอบกลับมาว่าแล้วแต่ลูกสาวจะตัดสินใจ  ขออย่าให้เป็นการบังคับจิตใจกัน  ส่วนตัวท่านไม่ขัดข้อง
ต่อมาอีก ๑ ปีคุณหญิงเผชิญก็เข้าสู่พิธีสมรสกับคุณหลวงวิสูตร      คุณหญิงแสก็ให้หลานสาวคนรองชื่อคุณผกายเดินทางมาอยู่กับท่านแทนคุณหญิงเผชิญ   ต่อมาก็พบกับคุณเผดิม บุนนาค  นักเรียนไทยจากฝรั่งเศส


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ส.ค. 10, 20:37
ภาพวันแต่งงานของคุณหญิงเผชิญและคุณหลวงวิสูตร  
เจ้าสาวคือหญิงสาวคนที่สองจากขวา แต่งชุดขาว   ส่วนเจ้าบ่าวยืนตรงกลาง   สุภาพสตรีในชุดสีเข้มทางขวาของเจ้าบ่าวคือคุณหญิงแส วิชิตวงศ์วุฒิไกร
โปรดสังเกตว่าในรูปนี้   สมเด็จพระศรีนครินทรฯ ทรงร่วมฉายด้วย  ทรงยืนอยู่ขวาสุด


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ส.ค. 10, 11:00
จาก 25 ปีแรกที่เป็นลูกสาวคนโตดูแลน้องๆ  แบ่งเบาภาระในบ้านจากมารดา  พรหมลิขิตก็ส่งให้คุณหญิงเผชิญเริ่มชีวิตช่วงที่ 2  ในฐานะภรรยาข้าราชการสถานทูตที่ปารีส  อยู่ท่ามกลางฝรั่งมังค่า   งานเลี้ยงต้อนรับทูตานุทูต   ตลอดจนต้อนรับนักเรียนไทยและบุคคลสำคัญจากสยาม
เกร็ดเล็กๆน้อยๆ ในหนังสืออนุสรณ์ที่ธิดาของท่านเขียนถ่ายทอดจากประสบการณ์ของมารดา สนุกและน่าอ่านมาก     ดิฉันรู้สึกเหมือนเข้าไปนั่งแอบอยู่หลังประตูห้อง ฟังแม่ลูกคุยกระหนุงกระหนิงกัน

อย่างเรื่องนี้
เมื่อมาอยู่ปารีสใหม่ๆ   คุณหญิงเผชิญต้องออกงานสังคมกับคุณหลวงตลอดเวลา    สมัยนั้นสุภาพบุรุษฝรั่งเศสแสดงคารวะกับสุภาพสตรีที่แต่งงานแล้ว ด้วยการก้มศีรษะและจูบหลังมือขวาของผู้หญิง      คุณหญิงเป็นกุลสตรีไทยมาตลอดชีวิตจึงไม่คุ้นเคยกับธรรมเนียมนี้สักที   และตกใจทุกครั้งที่ฝรั่งจูบมือ    ต้องยกมือตัวเองขึ้นมาดม  เพราะเกรงว่ากลิ่นกระเทียมจะทำเหตุ  เพราะคุณหญิงใช้มือทำกับข้าวทุกวัน

ที่ฝรั่งเศส  สม้ยมาเที่ยวครั้งแรกเมื่อหมั้นกับคุณหลวง  คุณหญิงพบญาติสนิทที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ชื่อคุณหลวงประเสริฐ (วงศ์ โชติกเสถียร)
บิดาคุณหลวงเป็นพี่ชายแท้ๆของคุณพระวิทยุบิดาของคุณหญิง
เมื่อมาอยู่ฝรั่งเศสอีกครั้งในฐานะภรรยาข้าราชการสถานทูต   ครอบครัวคุณหลวงประเสริฐและคุณหญิงก็สนิทสนมกัน  หลายปีต่อมาลูกๆของคุณหญิงก็ได้ไปอาศัยอยู่กับมาดามประเสริฐ ภรรยาชาวฝรั่งเศสของคุณหลวง  ถึง ๑๒ ปี เมื่อไปเรียนอยู่ที่ร.ร.ประถมและมัธยมทางตอนใต้ของฝรั่งเศส    มิตรภาพของสองครอบครัวก็ยืนยาวมาตลอดชีวิตของมาดามประเสริฐ

หลังแต่งงานไม่นาน  ท่านก็ฝันว่ามีผู้หญิงฝรั่งจูงเด็กชายฝรั่งเข้าประตูสถานทูตไทยมาหา  บอกว่าเด็กคนนี้เป็นลูกคุณหลวง     เมื่อตื่นขึ้นคุณหญิงเล่าฝันให้สามีฟัง  คุณหลวงก็ตอบว่าเธอน่าจะคิดอะไรมากไป     เรื่องนี้ก็ไม่มีใครพูดกันอีก   คุณหญิงมารู้ทีหลังว่าฝันนี้สำคัญมาก

หยุดแค่นี้ก่อนค่ะ   ถ้าเล่าต่อเดี๋ยวไม่ตื่นเต้น


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ส.ค. 10, 09:22
ปลายปีที่แต่งงานกัน คือพ.ศ. ๒๔๘๐   คุณหลวงวิสูตรก็ได้เลื่อนขึ้นเป็นอุปทูตไทยประจำประเทศอิตาลี    คุณหญิงเผชิญก็ต้องย้ายจากปารีสไปอยู่ที่โรม   สถานทูตที่อิตาลีมีข้าราชการประจำอยู่คนเดียว  เมื่ออุปทูตไป ก็รวมเป็น ๒ คน
ปีต่อมา คุณหญิงเผชิญตั้งครรภ์บุตรคนแรก  มีเหตุการณ์ประทับใจเรื่องหนึ่งในปีนั้นคือวันหนึ่งคนรับใช้ชาวอิตาเลียนที่จ้างมาทำงาน มารายงานว่ามีสามีภรรยาไทยคู่หนึ่ง ท่าทางเป็นผู้ดีมาก  มารออยู่เพื่อจะพบอัครราชทูต   คุณหญิงก็ลงไปที่ห้องรับแขก   ก็พบว่าแขกคู่นั้นคือพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี    คุณหญิงก็รีบลงหมอบกราบถวายบังคม ทั้งๆลุกขึ้นแทบไม่ไหวเพราะครรภ์แก่มาก
วันนั้น คุณหญิงก็เลยได้เป็นเจ้าภาพถวายเลี้ยงพระกระยาหาร  อาหารอย่างหนึ่งที่ทำถวายคือน้ำปลาหวาน  และอาหารไทย  มีผักชีที่ปลูกไว้ในสวนโรยหน้าด้วย

พระเจ้าอยู่หัวทรงคุ้นเคยกับคุณหลวง  เพราะเมื่อสละราชสมบัติ ทรงอยู่ที่ลอนดอน  คุณหลวงวิสูตรก็ได้ถวายงานรับใช้    เมื่อเสด็จอิตาลีจึงทรงแวะมาเยี่ยมเยียน      หลังจากนั้นเมื่อคุณหญิงคลอดลูกคนแรกแล้วก็ได้รับเสด็จอีกครั้ง เมื่อเสด็จมาที่โรมเป็นครั้งที่สอง     ดิฉันเดาว่าพระองค์เจ้าจิรศักดิ์ พระโอรสบุญธรรมและคุณหญิงมณี สิริวรสาร ตามเสด็จมาด้วย    ไม่ครั้งใดก็ครั้งหนึ่งในสองครั้งนี่แหละ


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 15:18
คุณหญิงเผชิญอยู่อิตาลี มาถึงก่อนช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒   ท่านได้เห็นฮิตเลอร์เยือนอิตาลีอย่างเป็นทางการด้วย   ขบวนรถยนต์แล่นผ่านสถานทูตไทยไป   ท่านเห็นฮิตเลอร์ยืนอยู่บนรถเปิดประทุนคู่กับมุสโสลินีผู้นำของอิตาลี    ในวันที่  ๓ มีนาคม ๒๔๘๑    วันนั้นบ้านทุกหลังบนถนนสายนั้นรวมทั้งสถานทูตไทยต้องปิดประตูหน้าต่างด้านที่หันออกถนนหมด   เพื่อความปลอดภัยของผู้นำ ๒ ประเทศ
แต่ท่านก็รอดพ้นจากภัยสงครามมาได้เมื่อคุณหลวงต้องเดินทางกลับมารับตำแหน่งใหม่ในกระทรวง ในปีต่อมา      ทั้งสองกลับมาอยู่บ้านที่คลองบางกอกน้อยของคุณหลวง     พร้อมกับลูกสาวคนแรกที่เกิดในอิตาลีชื่อ เวร่า หรือกุลนิติ

ในหนังสือบรรยายไว้ว่า คลองบางกอกน้อยเมื่อ ๗๐ ปีก่อน  น้ำยังใสสะอาด  มีกุ้งปลาชุกชุม   คนขับเรือของคุณปู่สามารถช้อนกุ้งในคลองเอามาให้นายกินได้ทุกมื้อ   :'(   เป็นชีวิตที่มีความสุขมาก 
คุณย่าก็เข้ากับสะใภ้ได้ดี เป็นที่ถูกใจจนยกเครื่องเพชรให้หมด  :D  และมอบเงินท่านให้ไปจัดการบริหารในบ้าน จ่ายเงินเดือนคนใช้เองแทนท่าน    เครื่องเพชรเหล่านี้เองคุณหญิงเผชิญได้อาศัยเป็นทุนไปขายเพื่อซื้อที่ดินจนตั้งตัวได้  หลายปีหลังจากคุณย่าถึงแก่กรรมแล้ว

จากคลองบางกอกน้อย คุณหลวงและคุณหญิงเผชิญย้ายไปอยู่ลาดหญ้า  ในช่วงสงครามโลก  ท่านมีลูก ๔ คนแล้วในตอนนั้น     ต่อมาท่านก็ขายบ้านที่ลาดหญ้าแล้วมาซื้อบ้านที่ซอยรื่นฤดี ถนนสุขุมวิท   ที่บ้านนี้เองท่านก็มีลูกคนที่ ๕


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 09 ก.ย. 10, 13:18
ต้องขออนุญาตเข้ามาคั่นรายการของอาจารย์เทาชมพูครับ
เนื่องจากมีหนังสืออนุสรณ์งานศพสะสมอยู่พอสมควร ก็เลยไปค้นมาได้บ้าง ขออนุญาตนำเสนอบ้างครับ

๑. สัทธรรมปุณฑรีกสูตร แปลโดย ดร. ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ ในงานพระราชทานเพลิงศพพระมหาบุญมา มหาวีโร

๒. สุภาษิตพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในงานพระราชทานพลิงศพพระยามานวราชเสวี

๓. ประชุมพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๔ และ นิพนธ์ของพระอมราภิรักขิต (เกิด) ในงานพระราชทานเพลิงศพพระธรรมดิลก (ทองดำ จนฺทูปโม)



กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 10, 13:33
ด้วยความยินดีค่ะ   เชิญแนะนำหนังสือตามสบาย
ดิฉันมัวไปดูรูปเก่าเล่าเรื่อง  เลยไม่ได้กลับมาต่อเรื่องคุณหญิงเผชิญสักที


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.ย. 10, 20:19
มาต่อเรื่องคุณหญิงเผชิญ

หลังจากตั้งถิ่นฐานครอบครัวอยู่ในกรุงเทพหลายปี   คุณหลวงวิสูตรเลื่อนขึ้นเป็นปลัดกระทรวงการต่างประเทศแล้ว  ก็กลับได้ไปประจำอยู่ต่างประเทศอีกครั้ง  คือมีคำสั่งให้ไปเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำฝรั่งเศส    ก็ต้องพาครอบครัวกลับไปอยู่ที่ปารีสอีกครั้งเมื่อพ.ศ. ๒๔๙๑

เกร็ดตอนนี้น่าสนใจ  เล่าถึงหม่อมคัทรินของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ    เป็นรายละเอียดที่เราไม่ค่อยรู้กันนัก
ในกระทู้ เจ้าวังปารุสก์  เราทราบกันว่าบั้นปลายหม่อมคัทธินสมรสใหม่กับวิศวกรชาวอเมริกันชื่อสโตน     ท่านก็เลยกลายเป็นมิสซิสสโตน หรือเรียกแบบฝรั่งเศสว่ามาดามสโตน     แต่ไม่ได้อยู่ในอเมริกา  แต่ไปพำนักอยู่ในฝรั่งเศส    ส่วนพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ อยู่ที่อังกฤษ

ก่อนหน้าเดินทาง   คุณบานเย็นทนายผู้ดูแลทรัพย์สินของพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ได้ฝากกล่องเครื่องเพชรล้ำค่าไปให้หม่อมคัทรินด้วย     คุณหญิงเผชิญต้องนำติดตัวไป ทำให้ท่านใจคอไม่ดีเลย     ระหว่างทางเครื่องบินก็เกิดเสีย ต้องแวะลงที่ไคโร   ประเทศอียิปต์ เป็นเหตุให้ครอบครัวท่านเอกอัครราชทูตได้มีโอกาสขี่อูฐชมปิรามิดและทะเลทรายฆ่าเวลา      คนอื่นๆก็สนุกกันดี แต่คุณหญิงเผชิญไม่เป็นสุขเลย เพราะต้องหอบเครื่องเพชรขึ้นหลังอูฐไปด้วย
จนกระทั่งไปถึงปารีส  ท่านก็มอบเครื่อ่งเพชรให้หม่อมคัทรินด้วยความโล่งใจ

ดิฉันอ่านประวัติคุณหญิงมาถึงตอนนี้ ก็เพิ่งรู้ว่าหม่อมคัทรินพูดคล่องทั้งภาษาฝรั่งเศสและภาษาไทย       เวลาสนทนากับท่านทูตและคุณหญิงก็พูดภาษาไทย  เก่งเสียด้วย   มีเกร็ดขำๆว่าวันหนึ่งหม่อมนั่งรถบัสในปารีส   มีคนไทยสองคนวิจารณ์ท่านเป็นภาษาไทย โดยไม่รู้ว่าท่านฟังรู้เรื่อง     ก่อนลงจากรถบัส  หม่อมก็กล่าวขอบใจคนทั้งสองที่วิจารณ์ท่าน    คนไทยทั้งสองได้แต่ตกใจเพราะไม่นึกว่าแหม่มจะพูดไทยได้ชัดเจน
อาหารไทยที่หม่อมคัทรินโปรดปราน คือหมี่กรอบ
ความประทับใจของคุณหญิงเผชิญ คือหม่อมคัทรินเป็นคนน่ารัก  เป็นผู้ดี และรักประเทศไทยมาก



กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.ย. 10, 20:33
ไปอยู่ปารีสได้ไม่นาน  ท่านทูตและคุณหญิงก็ได้รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเสด็จมาจากโลซานน์   ประทับที่สถานทูตไทย   ทำให้ท่านทั้งสองมีโอกาสรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด     จัดห้องพระบรรทมและระวังความปลอดภัยอย่างที่สุด   พระกระยาหารคุณหญิงก็ทำถวายเองทุกมื้อ    พระเจ้าอยู่หัวเสด็จปารีสหลายครั้ง   บางครั้งสมเด็จพระราชชนนีฯก็เสด็จมาพระองค์เดียว  ทรงพักอยู่ที่สถานทูตไทย

นอกเหนือจากเหตุการณ์บ้านเมือง  ก็มีเหตุการณ์ส่วนตัวในชีวิตคุณหลวงและคุณหญิงที่สีสันราวกับละครเกิดขึ้นในช่วงนี้ 
ในปี ๒๔๙๑  คุณหลวงไปราชการที่เบลเยี่ยม    มีจดหมายฉบับหนึ่งมาถึงคุณหลวง คุณหญิงเกิดสงสัยอย่างไรไม่ทราบก็เปิดอ่าน   อ่านเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ก็วานนักเรียนไทยคนหนึ่งช่วยแปลให้     
ความก็เลยแตกออกมาว่า ก่อนหน้าสมรสกับคุณหญิง  คุณหลวงเคยมีภริยาชาวฝรั่งเศส มีลูกชายด้วยกันคนหนึ่ง อายุ ๙ ขวบแล้วตอนที่ท่านมาสมรสกับคุณหญิง   แต่ปิดเรื่องนี้เงียบ  พ่อลูกก็ไม่ไปมาหาสู่กัน แต่คุณหลวงส่งเงินค่าเลี้ยงดูไปให้เพื่อนบ้านชาวฝรั่งเศสที่รับเลี้ยงเด็กชายไว้

ปฏิกิริยาของคุณหญิงที่เล่าให้ลูกฟัง คือ
" แหม จับได้ แม่ก็โมโหมาก  กินข้าวไม่ลงตั้งเจ็ดวัน"
" ตอนที่แม่แต่งงาน  เจ้านี่คงอายุ ๙ ขวบ   ตอนแม่แต่งงานไม่รู้เรื่องเลย  ปิดกันดีนัก"
ถ้าไม่เปิดจดหมายอ่าน   ท่านก็คงไม่รู้เรื่องจนแล้วจนรอด  และไม่มีโอกาสรู้จักลูกเลี้ยงของท่าน

เรื่องแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นแต่เฉพาะแม่พลอยกับคุณเปรมเท่านั้น   ชีวิตจริงก็มีเหมือนกัน


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: Diwali ที่ 11 ก.ย. 10, 02:38
คงไม่ได้เข้ามาขัดจังหวะนะครับ

แค่เข้ามาส่งเสียงว่า ยังตามอ่านนะครับ
 :-[ :-[ :-[


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 10, 09:58
ขอบคุณค่ะคุณ Diwali  :D 
ทิ้งกระทู้นี้ไปนาน มัวไปท่องอดีตในรูปเพลินไปหน่อย    นึกว่าจะไม่มีใครอ่านเสียแล้ว

จดหมายฉบับนั้นเขียนมาจากแม่ของเด็กชาย  บอกว่าลูกชายโตเป็นหนุ่มถูกเกณฑ์ทหารแล้ว  ประจำอยู่ในกรมทหาร ให้ที่อยู่มาด้วย
คุณหญิงไม่รอช้า  ชวนญาติคนหนึ่งนั่งรถไปตามที่กรมทหารเพื่อดูให้หายข้องใจ     ไปถึงก็แจ้งความจำนงขอพบทหารหนุ่มคนนั้น   พอเห็นหน้า  คุณหญิงก็ร้องว่า
"ใช่แน่  หน้าเหมือนพ่อ"
ทั้งๆช็อคไม่หาย  คุณหญิงก็สงสารลูกเลี้ยงที่เพิ่งพบใหม่มาก  รู้สึกว่า "โธ่  พ่อทิ้งไว้ได้ยังไง "จากนั้นท่านก็ต้อนรับเด็กหนุ่มด้วยดี   พานั่งรถจากกรมทหารกลับมาสถานทูต  แนะนำให้น้องๆรู้จักว่านี่คือพี่ชายคนโต    ก่อนกลับก็ให้เงินติดกระเป๋าไปด้วย    เด็กหนุ่มดีใจมาก  เข้ามาจูบแก้มซ้ายขวาแสดงความขอบคุณ   คงจะดีใจที่คุณหญิงไม่ได้รังเกียจเขา
แม่ของเด็กก็ยินดีมากที่คุณหญิงไม่ได้รังเกียจลูกของเธอ 

เรื่องนี้สอนให้รู้อีกว่า   แม่พลอยตัวจริงก็มีเหมือนกัน



กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 11 ก.ย. 10, 20:08
มาตามอ่านด้วยไม่ลดละค่ะ สนุกมาก เพราะเป็นเรื่องจริง และ เป็นตัวอย่างที่ดีค่ะ


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ก.ย. 10, 13:25
ในที่สุด ดนัย หรือ จ๊าก ( Jacque)  ลูกชายคุณหลวงที่เกิดจากภรรยาชาวฝรั่งเศสก็เข้ามาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว    คุณหญิงต้อนรับด้วยดี  แม้ว่าจากนั้นท่านเดินทางไปบรัสเซลล์เพื่อต่อว่าต่อขานสามีเป็นการใหญ่ก็ตาม  แต่ก็ไม่มีอคติต่อลูกเลี้ยง  พี่น้องก็ติดต่อกันมาด้วยดี  ดนัยเดินทางมาอยู่ในประเทศไทยระยะหนึ่ง แต่ก็กลับไปฝรั่งเศส ใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ที่นั่น

ช่วงชีวิตที่คุณหญิงเผชิญเป็นภรรยาเอกอัครราชทูตอยู่ที่ปารีส ได้ต้อนรับแขกสำคัญจากประเทศไทยหลายคน    เคยเลี้ยงฉลองงานสมรสระหว่างพระองค์เจ้าพีระพงศ์ภาณุเดชกับหม่อมชาลิต้า ชาวอาร์เจนตินา ก็หนหนึ่ง( อ่านชีวิตของท่านได้ในกระทู้ เจ้าดาราทอง)     เคยต้อนรับท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงครามที่มาพักผ่อนอยู่ที่ปารีส และต้อนรับม.ล.ปิ่น มาลากุลกับท่านผู้หญิงดุษฎี ด้วย

เรื่องเล่าในชีวิตคุณหญิงตอนนี้ เป็นเรื่องจุ๊กๆจิ๊กๆของครอบครัว  เช่นการพักผ่อนหย่อนใจ และการทำอาหาร     คุณหลวงวิสูตรทำกับข้าวเป็นเหมือนกัน  ชอบทำอยู่ ๒ อย่างคือสุกี้ยากี้และขาแกะอบ   อย่างหลังนี้คงมีคนไทยน้อยคนในยุคกึ่งพุทธกาลรู้จักอาหารชนิดนี้  คนไทยจำนวนมากไม่ชอบบอกว่ามีกลิ่นสาบ      แต่ก็กลายเป็นอาหารประจำของครอบครัวอรรถยุกติ   แม้กลับประเทศไทยหลายปีต่อมา    มีลูกหลานจนถึงเหลน ก็ยังทำขาแกะอบเลี้ยงกันอยู่ในหมู่ลูกหลานเสมอ

จนพ.ศ. ๒๔๙๗  จึงโยกย้ายกลับมาประเทศไทย    เมื่อรัฐบาลนายพจน์ สารสินขึ้นบริหารประเทศ  คุณหลวงก็ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ   ในพ.ศ. ๒๕๐๐ 
๒ ปีต่อมา เมื่อจอมพลสฤษดิ์ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ให้คุณหลวงไปเป็นเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐอเมริกา   เป็นช่วงเวลาที่ลูกๆโตพอจะเรียนระดับมหาวิทยาลัยพอดี   คุณหลวงและคุณหญิงจึงพาลูกๆ ๔ คนไปอยู่อเมริกาด้วยกัน


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์งานศพทุกประเภท
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 23 ม.ค. 12, 00:30
พิมพ์ในง่ารพระราชทานเพลิงพระศพ  กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ 2466

(http://image.ohozaa.com/i/ef7/SP2VWA.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/7p8ns)