สวัสดีครับ ผมเป็นสมาชิกใหม่ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ
รู้จักเว็บนี้เพราะกำลังค้นข้อมูลเรื่องทับทิมสยามอยู่ เจอเนื้อหาจากกระทู้ ว่าด้วยเรื่องรัตนชาติ
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5014.0 แล้วประทับใจจึงสมัครเป็นสมาชิกขอพูดคุยด้วยคนนะครับ
เพื่อไม่เป็นการเยิ่นเย้อขอเล่าพร้อมฝากข้อข้องใจบนบ่นไว้ในที่นี้ดังนี้ครับ
ผมเผอิญได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวของพลอยและทับทิมสยามโดยบังเอิญ พอลองค้นคว้าหาความรู้สักพักก็เกิดพบว่า มันมีมากมายที่เป็นเรื่องต่างคนต่างกระแสต่างทรรศนะ มีทั้งที่ออกจะดูแปลกๆ และขัดแย้งกันจนทำให้เกิดความสงสัยว่า
- จะหาคนที่เคยเห็นได้สัมผัสทับทิมสยามจริงๆ ได้น้อยมากจริงๆ หรือครับ มีใครเคยเห็นทับทิมสยามขนาด 20 กะรัตบ้างไม๊ครับ
- ผมทราบว่าปัจจุบันไม่มีใครนำทับทิมสยามออกมาขายหรือประมูลเลย นั่นเพราะผู้ครอบครองไม่อยากนำมาอวดมาขายให้ใครอีกแล้ว ทั้งที่สมัยก่อนทับทิมสยามเคยอุดมสมบูรณ์ มีการขุดออกมามากมายและกระจายไปทั่วโลก หรือที่เงียบหายไปนี้เป็นเพราะมันสูญหายตกหล่นไปตามกาลเวลา ไม่มีหลงเหลืออยู่แล้วกันแน่
- ทับทิมสยามดีเด่นกว่าทับทิมพม่าจริงหรือไม่แค่ใหน หรือเป็นเพราะเกิดต่างสมัยกันจึงเปรียบเทียบกันไม่ได้ครับ
ผมได้ข้อมูลมาว่าทับทิมสยามโดดเด่นกว่าทับทิมของทุกชาติ แต่พออ่านบทความของต่างชาติกลับพบว่าเค้าให้ชั้นเป็นรองทับทิมพม่าจากเมือง mogok ทั้งการตั้งเกรดตั้งราคาแล้วทับทิมสยามแพงที่สุดยังเป็นรองของพม่า หรือนั่นเป็นแค่เพราะกลยุทธ์ทางการตลาด เพราะทับทิมไทยหาไม่ได้แล้วจึงไม่มีประโยชน์ที่จะยกชั้นไว้ให้สูง ผมลองเมล์คุยกับฝรั่งบางคน ทั้งที่เป็นคนในวงการ เค้าบอกว่าไม่มั่นใจว่าชื่อทับทิมสยามนี้เป็นพลอยลักษณะใด แต่จากคำบอกเล่าของผู้รู้คนไทยกลับบอกว่า ทับทิมพม่านั้นเทียบทับทิมสยามไม่ได้เลย หรือเป็นเฉพาะความนิยมของแต่ละชาติๆ ไป
- ประวัติและชื่อชั้นของทับทิมไทยไม่ค่อยมีการบันทึกไว้มากนัก แทบจะเหลือเพียงเรื่องราวเล่าขาน เท่าที่บันทึกก็ไม่มีการเผยแพร่เป็นภาษาต่างชาติ ทับทิมไทยดีเด่นแค่ใหนจึงมีแค่คนไทยเท่านั้นที่รู้
ผมศึกษา เรื่องประวัติทับทิมสยามจากอินเตอร์เน็ตเป็นหลักครับ เรื่องทับทิมไทยที่บันทึกไว้ในเว็บไทยก็เป็นเรื่องพื้นๆ แต่กับฝ่ายฝรั่งเค้ากลับเขียนเป็นตำราเป็นที่อ้างอิง ผมศึกษาจากเว็บ
www.ruby-sapphile.com ในส่วนหนึ่งครับ เจ้าของเว็บเค้าเป็นฝรั่งที่มาอยู่เมืองไทยยาวนานและเป็นผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญด้านพลอย (จากคำแนะนำตัวเองที่เค้าเขียนไว้) ทุกวันนี้เค้าเป็นเป็นมือพลอยและหินสีรวมไปถึงเพชรอันดับต้นๆ ของโลกไปแล้ว เป็นคนที่เมื่อพูดอะไรเรื่องพลอยขึ้นมาแล้วคนแทบทั้งโลกจะนิ่งฟัง ทรรศนะของเค้าต่อทับทิมสยามดูไม่ค่อยดีนักเลยครับในความรู้สึกผม
บนหน้าเว็บของเค้าก็อ้างอิงประวัติทับทิมสยามจากบันทึกเก่าๆ ของชาวฝรั่งเช่นกัน คงทำได้เท่านั้นเพราะฝ่ายไทยไม่มีบันทึกหรือมีก็เข้าไม่ถึง ฝรั่งคนนี้เค้าเขียนตำราชื่อ ruby&sapphile ที่เปรียบได้ว่าเป็นหนังสือเล่มแรกหรือหนังสือ ก. กา ที่ผู้ที่ต้องการศึกษาเรื่องพลอยระดับอินเตอร์ฯ ต้องอ่านและต้องเก็บไว้อ้างอิง ผมยังหามาอ่านทั้งเล่มไม่ได้เพราะขายหมดไปนานแล้ว แต่บางเรื่องจากหนังสือที่เผยแพร่บนเว็บนั้นมีอะไรหลายอย่างที่ขัดแย้งกับข้อมูลจากกระทู้ในเว็บนี้ที่ผมอ้างถึง แต่ตำรานั้นเรียกได้ว่าเป็นบันทึกประวัติศาสตร์โลกไปแล้ว ในอีกด้าน เรื่องราวความดีเด่นของทับทิมสยามของคนไทยกลับกลับเป็นแค่เรื่องบอกเล่า รู้กันแต่เฉพาะในหมู่คนไทยวงแคบๆ และกำลังเลือนหายไปหมดสิ้น ผมอยากเห็นบันทึกเรื่องทับทิมสยามอย่างเป็นแก่นสารและโต้แย้งชาติอื่นๆ ได้ในเรื่องที่ไม่ถูกต้องจริงๆ ครับ
- อีกเรื่องที่ได้ยินมาคือการเผาพลอย ใครจะเผาก่อนหลังไม่ใช่ประด็นหลัก แต่ที่เกิดการเผาจนกลายเป็นวิธีการแพร่หลายและมีอิทธิพลระดับโลกนี้เกิดที่ไทยนี่เอง เป็นเพราะไฟใหม้ตลาดพลอยเมืองจันทร์ฯ หลังไฟสงบเจ้าของร้านก็เข้าไปเขี่ยหาพลอยของตัวเองจากกองขี้เถ้า ความเรื่องเผาพลอยแล้วสวยขึ้นจึงเกิดและระบาดไปทั่วโลก อันนี้เคยมีไฟใหม้ตลาดจริงหรือเปล่าครับใครทราบบ้าง
- ปัจจุบันชื่อเสียงการเผาพลอยในสมัยใหม่นี้ไทยโด่งดังที่สุด ผู้ให้กำเนิดตำราเผาพลอยก็คนไทยนี่แหละ และคนเดียวกันนี้ก็ให้กำเนิดวิธีเผาพลอยแบบเติมแก้วด้วย เรื่องนี้ทำให้คนไทยมีชื่อเสียงและไถูกพูดถึงอย่างชื่นชมในความช่างคิดไปทั่วโลก แต่อีกด้าน ฝรั่งต่างชาติบางกลุ่มกลับตำหนิอย่างรุนแรงต่อเรื่องนี้ ตอนนี้ชื่อเสียงของไทยเรื่องพลอยเริ่มด่างพร้อยแล้ว กระแสนิยมกลับตีกลับไปหาพลอยธรรมชาติที่ไม่มีการเติมแต่งเป็นอย่างมาก ผมผมเองก็เห็นผู้คนบน ebay เริ่มพูดคุยกันหลายกระทู้แล้วว่า "ถ้าคิดจะซื้อพลอยหรืออัญมณีอย่าซื้อที่ทำจากจีนและไทย เพราะมันเป็นของเกรดต่ำเกือบ 100%"
ที่จริงมันก็เผากันทั้งโลกนั้นแหละ (กว่า 90%) แต่ประเทศไทยถูกตีตราไปแล้วจากผู้ซื้อนี่สิ อันนี้ว่ามันน่ากลัวมาก (แต่รัฐบาล/ผู้ค้าพลอยไทย/สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กลับกำลังมุ่งไปทางสนับสนุนการแต่งเติมนี้อย่างเต็มตัว)
ขอบคุณครับ