คดีพระปรีชากลกาล (สำอาง อมาตยกุล) เหตุเกิด ณ ปี พ.ศ. 2421 พระปรีชาฯ เป็นข้าหลวงเมืองปราจีนบุรี
แต่ที่กลายเป็นเรื่องใหญ่โตที่ได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทย ก็เพราะพระปรีชาฯ ได้แต่งงานกับ
น.ส. Fanny ธิดาคนโตของมิสเตอร์น็อกซ์ (Knox)กงสุลเยนเนอรัลของอังกฤษประจำกรุงสยามในเวลานั้น
และที่คนไทยรู้จักกันดีเมื่ออ่านเรื่อง "แอนนากับพระเจ้ากรุงสยาม" กล่าวคือ นาย Louis Leonowens
บุตรชายของ Anna Leonowens พระอาจารย์สอนภาษาอังกฤษในพระบรมมหาราชวังสมัยนั้น
ได้แต่งงานกับบุตรสาวคนเล็กของนายน็อกซ์นี่เอง
พระปรีชากลการ ขณะเป็นข้าหลวง หรือเจ้าเมืองปราจีนบุรี ได้เบิกเงินหลวง
ไปลงทุนทำบ่อทองถึง 15,500 ชั่งเศษ แต่ส่งทองให้หลวงเพียง 111 ชั่งกว่าเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าคาดหมายมาก ประจวบกับมีราษฎรชาวปราจีนฯ
ได้มาร้องทุกข์ว่าถูกพระปรีชาฯ กดขี่ข่มเหงทารุณนานัปการ พระปรีชาฯ จึงมีความผิดถึง 3 ประการ คือ
1. ฉ้อราษฏร์บังหลวงเรื่องบ่อทอง
2. ใช้อำนาจไม่เป็นธรรมในการปกครอง
3. เป็นขุนนางผู้ใหญ่ แต่แต่งงานกับชาวต่างชาติโดยไม่ได้กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาต
ซึ่งขัดต่อพระราชประเพณีของการปกครองของไทย
จึง ๆ แล้วนายน็อกซ์ไม่เต็มใจที่จะให้ลูกสาวแต่งงานกับพระปรีชาฯ ถึงกับไม่ยอมให้จัดงานที่
สถานกงสุลอังกฤษ กับห้ามไม่ให้พระปรีชากับแฟนนี่ไปมาหาสู่ด้วย และยังทำความตกลงกันว่า
ถ้าพระปรีชาต้องโทษอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว เงิน 5,000 ปอนด์ ที่พระปรีชาต้องให้เป็นเหมือนเงิน
สินสอดทองหมั้นแก่แฟนนี่ จะเอาเป็นสิทธิของแฟนนี่ และแฟนนี่ก็ไม่เกี่วข้องกับโทษนั้นด้วย
แต่นายน็อกซ์ยังเปิดโอกาสให้ลูกสาวกลับมาอยู่บ้านพักกงสุลตามเดิมได้ ถ้ากลับใจถอนตัว
ไม่ไปอยู่กับพระปรีชา แต่เเฟนนี่ปฏิเสธ
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นพระปรีชาฯ กำลังต้องโทษและอยู่ในระหว่างสอบสวน ด้วยความเป็นพ่อ
นายน็อกซ์ถึงกับยื่นคำขาดต่อทางการไทยว่า จะเรียกเรือรบจากฮ่องกงเข้ามาบอมบ์บาร์ดกรุงเทพฯ
แล้วจับตัวสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ไปเป็นจำนำในเรือรบ จนกว่าจะปล่อยตัว
บุตรเขยให้เป็นอิสระ
เพราะคำขู่ขึงขังจริงจังดังกล่าว จึงเกิดข่าวลือเรื่องรือรบอังกฤษจะเข้ามายิงปืนใหญ่ถล่มกรุงเทพฯ
จึงเกิดความปั่นป่วนอลเวงไปทั่ว เพื่อระงับเหตุดังกล่าว ทางการไทยจึงต้องจัดส่งราชทูตชุดพิเศษ
ออกไปเจรจาความเมืองเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ยังกรุงลอนดอนโดยด่วน
ทูตที่ส่งอย่างฉุกละหุกก็มีพระยาภาสกรวงศ์ (ชุมพร บุนนาค) เพราะรู้จักขนบธรรมเนียมและ
ภาษาอังกฤษดี และจหมื่นสราภัยสฤษดิการ (เจิม แสง - ชูโต) เป็นอุปทูต แต่จหมื่นฯ นั้นเพ่งกลับจาก
การทำแผนที่เมืองลพบุรีได้เพียง 3 วัน และยังป่วยไข้อยู่ เครื่องแต่งตัวที่ใช้ในยุโรปก็ไม่มี จะตัดเย็บก็ไม่ทัน
แต่เผอิญก่อนหน้าที่นายน็อกซ์จะก่อเรื่องนั้น ทางรัฐบาลไทยกำลังดำเนินการจัดตั้งสถานทูตขึ้นใน
กรุงลอนดอนเป็นครั้งแรก จมื่นฯ จึงได้เอาเสื้อผ้าของนายจ่ายวด ซึ่งจะไปเป็นอุปทูต ณ กรุงลอนดอน
มาใช้แทน ปรากฏว่าไม่เหมาะกับตัวจหมื่นเลย เพราะแขนเสื้อกับขากางเกงสั้นไปมาก แต่ก็จำเป็น
จะต้องนำไปใช้พลาง ๆ ก่อน
เมื่อคณะราชทูตเดินทางถึงเมืองสิงคโปร์ ก็ได้เข้าพบผู้ว่าราชการเมืองสิงคโปร์ เล่าเรื่องนายน็อกซ์
อาละวาดให้ฟัง และราชทูตก็ได้มีโทรเลขถึงพระสยามธุระพาหะ (D.K. Mason) กงสุลไทยที่
กรุงลอนดอน ให้นำความบอกกว่าวแก่ Lord Salzburry เสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษว่า
ราชทูตไทยจะมาขอเจรจาความเมืองเป็นพิเศษ และขอให้รัฐบาลอังกฤษเรียกเรือรบกลับ
รัฐบาลอังกฤษได้ยินยอมให้ราชทูตไปพบ และได้โทรเลขเรียกเรือรบให้เดินทางกลับที่ตั้งด้วย
ระหว่างนั้น เรือรบอังกฤษที่นายน็อกซ์เรียกไป ก็แล่นเข้ามาถึงกรุงเทพฯ และได้ทอดสมออวดธงอยู่ไม่นาน
ก็แล่นกลับออกไป โดยไม่ได้ยิงปืนแม้แต่นัดเดียว ต่อมาพระสยามฯ เห็นว่าข่าวคราวเงียบหายไปนาน
จึงได้ติดต่อเพื่อน ๆ ที่เป็นสมาชิกสภาล่างและสภาสูงของอังกฤษให้ช่วยเตือนท่านลอร์ดฯ
ในสภาปาเลียเมนต์ ซึ่งเป็นผลให้นายน็อกซ์ถูกเรียกตัวกลับประเทศอังกฤษ ไม่ให้เกี่ยวข้องกับ
ประเทศสยามอีกต่อไป
ร.๕ ได้พระราชทานฎีกาไปให้สภาที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน หรือ เสนาบดีสภา (Councilor of state)
พิจารณา ผลก็คือ คดีนี้เป็นคดีร้ายแรงมาก เป็นการ "ทำการดูถูกดูหมิ่นอาญาแผ่นดินนัก
ประพฤติการกำเริบหมิ่นประมาทนัก ไม่มีความยำเกรงต่อผู้ใหญ่" จึงเรียกตัวพระปรีชาฯ
เข้ามากรุงเทพฯ แล้วมีคำสั่งให้จำตรวนนำตัวไปคุมขังเพื่อทำการสอบสวนต่อไป
พระปรีชาฯ ก็ตระหนักดีว่าตนเองได้กระทำผิด ดังข้อความจดหมายที่มีถึงแฟนนี่ว่า.-
"...ด้วยตัวฉันเป็นคนไทย ในหลวงกริ้วลงพระราชอาญาเฆี่ยนแล้ว ก็จะค่อยคลายกริ้วลงทุกที
อย่าให้เเฟนนี่วุ่นวายไป ธรรมเนียมไทยก้บธรรมเนียมฝรั่งไม่เหมือนกัน จะเอาเหมือนธรรมเนียม
ฝรั่งไม่ได้ จะภาฉันมีความผิด ฉันเห็นใจแล้วว่าแฟนนี่รักฉันมาก...."
หมายเหตุ: มีหนังสือที่น่าอ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ คือ เรื่อง "ตัวตายเพราะได้เมียฝรั่ง" และ เรื่อง
"Fanny and the Regent of Siam"
http://webboard.nationgroup.com/swb/view.php?page=2&rid=6&tid=4577&PHPSESSID=8842dd4c9779fd5db20539100e41f03c