ถึง อ. เทาชมพู ครับ
ผมได้ยินเรื่องราวที่ท่านถวายเครื่องเพชรแก่สมเด็จพระพันปีหลวงเพื่อลบคำครหาดังกล่าวนี้
ค้นดูแล้วพบว่า ตอนแรกเจ้าจอม ม.ร.ว. สดับทูลเกล้าฯ ถวายแก่ ร .6 แต่พระองค์ไม่ทรงรับเพราะเห็นว่า เมื่อพระราชบิดาพระราชทานให้แก่เจ้าจอม ม.ร.ว. สดับแล้ว ถือว่าเป็นสิทธิ์ขาด พระองค์รับไว้ไม่ได้ ต่อมาจึงถวายดังที่กล่าวมาครับ (แต่ที่ไม่มีชื่อท่านอาจเป็นเพราะท่านไม่คาดคิดว่าพระพันปีหลวงจะนำไปสมทบทุนสร้างโรงพยาบาล ท่านทราบแต่เพียงว่าพระพันปีหลวงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้านายพระองค์หนึ่งนำเครื่องเพชรไปขายเมืองนอก ไม่แน่ว่าพระพันปีหลวงอาจจะนำทรัพย์ที่ได้ดังกล่าวมาสมทบทุนในพระนามของพระองค์ก็เป็นได้ครับ ท่านก็เลยไม่มีชื่อในนั้น)
อ้างจากชีวประวัติเจ้าจอม ม.ร.ว. สดับ โดยกองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม
พ.ศ. 2527 (อ่านจากวารสาร)
มาถึงเรื่องของนายคนังมหาดเล็กต่อ (ต่อจากความเห็นที่ 18 )
"เด็กคนนี้มีความจำดีอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ใช่แต่เพียงจำท่าคนมาทำท่าล้อ ท่ารำละครไทยซึ่งค่อนข้างยากก็จำได้อย่างดี เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องเงาะป่าขึ้นแล้วทรงกำหนดให้คนังเล่นเป็นตัวของตัวเองในเรื่องนั้นจึงต้องฝึกรำ หม่อมเพื่อน บุนนาค หม่อมในสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นครูผู้สอน ทีแรกครูผู้สอนก็ออกจะวิตกว่าจะหัดยากเหมือนหัดลิงเล่นละคร แต่แล้วก็ผิดคาด ทั้ง ๆ ที่ไม่ค่อยจะได้เคี่ยวเข็ญเอาจริงเอาจังและมีเวลาฝึกน้อยแต่เมื่อเวลาออกโรงแสดงจริง ๆ นายคนังก็รำเข้าจังหวะจะโคนถูกต้องแม่นยำทุกระยะ ไม่ว่าเป็นการรำหน้าพาทย์ หรือรำใช้บท ทำเอาคนที่คุ้นเคยและเอ็นดูแกถึงกับน้ำตาไหลด้วยความสมเพชเวทนาว่า ตัวนิดเดียวซ้ำเป็นคนป่าดงยังอุตส่าห์ทำได้ดีถึงเพียงนั้น"
ป.ล. ไม่มีรูปเพราะคอมพิวเตอร์เกิดอาการผิดสำแดงครับ ไม่รู้จะเซฟไว้ที่ไหนอีกทั้งดึงออกมาไม่ได้อีกครับ