กระทู้: ศึกสายเลือด เริ่มกระทู้โดย: Sonya ที่ 11 พ.ย. 14, 23:51 ขออนุญาตตั้งกระทู้ครั้งแรกในเรือนไทยครับ หลังจากติดตามและเพลิดเพลินที่ได้ความรู้จากอาจารย์หลายท่านในบ้านหลังนี้ ปัจจุบันมีข่าวพี่น้อง เครือญาติใกล้ชิดฆ่าฟันกันเองชิงทรัพย์มรดก อาจจะด้วยสภาพสังคมที่ยึดถือวัตถุนิยม ทุนนิยม หรือโลภะนิยม จึงสงสัยว่าในมุมมองนักประวัติศาสตร์เห็นอย่างไรกับประเด็นศึกสายเลือด ในประวัติศาสตร์ ระหว่าง
หนึ่ง การถูกเลี้ยงดูแยกจากกันกระทั่งสูญเสียความผูกพัน หนึ่ง ผู้ปกครองขาดทศพิธราชธรรม หนึ่ง รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม หวาดระแวง(กระทำก่อนได้เปรียบ) หรือเหตุผลอื่นๆ ที่เป็นไปได้ ผมไม่มีเจตนาเจาะจงตัวบุคคลหรือเหตุการณ์ใด หากเจ้าเรือนเห็นว่า กระทู้นี้อาจเป็นปัญหาโปรดพิจารณาตามเห็นสมควร กระทู้: ศึกสายเลือด เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 พ.ย. 14, 08:10 ดิฉันไม่ทราบว่าคุณแฝงนัยยะอะไรไว้หรือเปล่า เพราะเรื่องพี่น้องเครือญาติใกล้ชิดฆ่าฟันกันเองชิงทรัพย์มรดก เป็นข่าวขึ้นโรงขึ้นศาลกันมากมาย อ่านหนังสือพิมพ์ก็มีข่าวให้เห็นอยู่บ่อยๆ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้อขาดทศพิธราชธรรมแม้แต่น้อย คนละเรื่องคนละทางกันเลยทีเดียว
ถ้าคุณแฝงเอาไว้ในข้อนี้ ดิฉันก็คิดว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง แต่ก็จะคิดไว้ก่อนว่าคุณใช้ภาษาผิดพลาด ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ถ้าศึกสายเลือดของคุณหมายถึงผู้ปกครองประเทศ การฆ่าฟันกันเองในหมู่เครือญาติมีให้เห็นหลายครั้งในสมัยอยุธยา เรียกว่าทุกราชวงศ์ก็ว่าได้ สาเหตุใหญ่ๆที่ซ้ำรอยกันก็คือการชิงอำนาจระหว่างอากับหลาน ใช้ภาษาง่ายๆว่า พ่อเป็นพี่ชายได้ขึ้นครองราชย์ น้องชายก็พอจะให้ความเคารพยำเกรงได้ แต่เมื่อพี่ชายตาย ลูกชายยังอายุน้อย ไม่มีอำนาจ ไม่มีผู้คนสนับสนุน ผิดกับอาซึ่งอยู่ในวัยผู้ใหญ่ ได้สะสมบารมีมายาวนาน จะให้อยู่ใต้อำนาจหลานกระไรได้ การยึดอำนาจจึงเกิดขึ้น การชิงอำนาจซ้ำๆกันเกิดมาตลอดยุค โดยเฉพาะราชวงศ์สุดท้ายคือราชวงศ์บ้านพลูหลวง เมื่ออากับหลานแย่งอำนาจกัน นายทหารที่สังกัดเจ้านายก็ต้องมารบราฆ่ากันเอง เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กำลังทัพของอยุธยาอ่อนแอลง ข้อนี้เมื่อสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้น จึงระวังกันมาก ว่าจะไม่ทำซ้ำรอยเดิม ในแต่ละรัชกาลจึงผ่านรอดปลอดภัยมาโดยไม่มีเหตุฆ่าฟันกันรุนแรงอย่างในสมัยอยุธยา แม้มีความบาดหมางบ้าง ก็ระงับกันได้ หรือหลีกเลี่ยงเหตุอันจะทำให้แตกแยกกัน ด้วยทางออกอย่างสันติ กระทู้: ศึกสายเลือด เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 12 พ.ย. 14, 11:56 แม้มีความบาดหมางบ้าง ก็ระงับกันได้ หรือหลีกเลี่ยงเหตุอันจะทำให้แตกแยกกัน ด้วยทางออกอย่างสันติ ถ้าคำว่าสันติหมายถึงไม่เสียเลือดเนื้อ(สักหยดเดียว)แล้ว เห็นจะไม่จริงนะครบ เพราะถ้าว่ากันตามประวัติศาสตร์ มีนะครับ กรณีของ เจ้านายฝ่ายพระบวรราชวังและพระยากลาโหมทองอิน ที่ถึงกับขั้นเสียชีวิตกันเลยทีเดียว ส่วนที่เหลือก็มีประปราย จะเรียกว่าสันติวิธีไหม ? ก็ต้องมาดูมุมมองอีกล่ะครับว่าจะมองอย่างไร ยังมีอีกหลายกรณี ที่เป็นความขัดแย้ง และจบลงด้วย "อำนาจ" ของใครเหนือกว่า อีกฝ่ายต้องยอมถอยไปเอง รอเวลาอย่างเดียวครับ กระทู้: ศึกสายเลือด เริ่มกระทู้โดย: samun007 ที่ 12 พ.ย. 14, 12:15 ขออนุญาตตั้งกระทู้ครั้งแรกในเรือนไทยครับ หลังจากติดตามและเพลิดเพลินที่ได้ความรู้จากอาจารย์หลายท่านในบ้านหลังนี้ ปัจจุบันมีข่าวพี่น้อง เครือญาติใกล้ชิดฆ่าฟันกันเองชิงทรัพย์มรดก อาจจะด้วยสภาพสังคมที่ยึดถือวัตถุนิยม ทุนนิยม หรือโลภะนิยม จึงสงสัยว่าในมุมมองนักประวัติศาสตร์เห็นอย่างไรกับประเด็นศึกสายเลือด ในประวัติศาสตร์ ระหว่าง หนึ่ง การถูกเลี้ยงดูแยกจากกันกระทั่งสูญเสียความผูกพัน หนึ่ง ผู้ปกครองขาดทศพิธราชธรรม หนึ่ง รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม หวาดระแวง(กระทำก่อนได้เปรียบ) หรือเหตุผลอื่นๆ ที่เป็นไปได้ ผมไม่มีเจตนาเจาะจงตัวบุคคลหรือเหตุการณ์ใด หากเจ้าเรือนเห็นว่า กระทู้นี้อาจเป็นปัญหาโปรดพิจารณาตามเห็นสมควร ขอเดาล้วน ๆ แบบนี้ เรื่องของ การหลงในอำนาจ การกิน การเสพกาม การนอน เหล่านี้พระท่านสอนว่า ไม่เคยมีคำว่าอิ่มว่าพอสำหรับปุถุชนคนทั่วไปอยู่แล้วครับ เพราะฉะนั้นองค์สมเด็จพระทศพล จึงทรงสอนข้อธรรมที่เหมาะกับการปกครองในแต่ละรูปแบบเอาไว้ ถ้าเป็นปกครองแบบคณะหรือกลุ่ม ก็ทรงสอนอปริหานิยธรรม ๗ เอาไว้ ถ้าเป็นปกครองแบบจักรวรรดิ ก็ทรงสอนจักรวรรดิวัตร เอาไว้ ถ้าปกครองแบบพระราชา ก็ทรงสอนทศพิธราชธรรม เอาไว้ และด้วยพระบาลีที่มีอยู่ว่า อักขาตาโร ตถาคตา พระตถาคตเป็นเพียงแต่ผู้บอก ดังนั้นเมื่อบอกแล้วสอนแล้ว จะทำหรือไม่ทำ ขึ้นอยู่กับบุคคลนั้น ๆ ครับ ไม่มีการห้ามหรือบังคับแต่อย่างใด ถ้าเห็นว่าดีว่าเหมาะ ทำแล้วมีความเจริญก็ทำ แต่ถ้าบังเอิญอาจจะยังมองไม่เห็นความดีในการปฏิบัติตาม เขาก็ไม่เชื่อไม่ทำกันหรอกครับ เรื่องแบบนี้ในประวัติศาสตร์ของโลก มีมาตั้งหลายพันปีแล้ว และก็จะยังคงมีต่อไปอยู่เรื่อย ๆ แค่เปลี่ยนนักแสดงมารับบทบาทตามแต่ละยุคสมัยเท่านั้นเองครับ ตราบใดที่คนยังอยู่ในวังวนของกิเลสครับ ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของโลก(โลกียะ) ครับ ... เขียนแล้วเหมือนเทศนาเลย กระทู้: ศึกสายเลือด เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 พ.ย. 14, 09:18 ดิฉันไม่ได้นึกถึงกรณีกบฏพระองค์เจ้าลำดวน พระองค์เจ้าอินทปัต และกบฏเจ้าฟ้าเหม็นค่ะ แต่ไปนึกถึงการผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน ที่ผ่านมาได้ทุกรัชกาล
กระทู้: ศึกสายเลือด เริ่มกระทู้โดย: Sonya ที่ 16 พ.ย. 14, 01:42 สิ่งที่ผมสงสัยก็คือประวัติศาสตร์4-5ร้อยปีถอยลงไป ผมเข้าใจเอาเองว่า เรื่องสายเลือด ความผูกพันในสายเลือด มีความแน่นเฟ้น หรือความรู้สึกผิดบาป ศีลธรรม จริยธรรม มากกว่าในปัจจุบันที่ออกจะเสื่อม
หรือจริงๆแล้ว มนุษย์คิดเหมือนกัน ไม่ว่าบริบทจะเป็นอย่างไร ขอบคุณอ.เทาชมพูครับ "แต่ก็คิดไว้ก่อนว่าคุณใช้ภาษาผิดพลาด ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี" ผมถือเป็นเมตตาของครูบาอาจารย์ ครับ กระทู้: ศึกสายเลือด เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 พ.ย. 14, 10:03 ขอบคุณค่ะ
คำถามของคุณ ตอบยากมาก เพราะเป็นเชิงรูปธรรม เราไม่มีตัวเลขสถิติที่จะให้คำตอบออกมาเป็นหลักฐานยืนยันได้ค่ะ ศึกสายเลือดที่คุณเอ่ยถึง ไม่ใช่การทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นส่วนตัวในหมู่ญาติ แต่เป็นการผลัดเปลี่ยนกันขึ้นครองอำนาจโดยลบล้างอำนาจเก่าลงไป พูดง่ายๆว่าถ้าเจ้านายในสมัยอยุธยาอยู่ในประเภทเกิดมาเป็นเจ้า อยู่เฉยๆ ไม่เกี่ยวกับครองราชย์ ก็ไม่เห็นมีบันทึกหลักฐานว่าท่านเหล่านั้นเกิดศึกสายเลือดกัน มาถึงสมัยหนึ่งร้อยกว่าปีลงมาจนปัจจุบัน แม้ไม่มีศึกสายเลือด แต่การผลัดเปลี่ยนกันขึ้นมามีอำนาจ ก็ยังเกิดขึ้นได้เสมอ คุณจะอธิบายว่าอย่างไรคะ |