เอาละครับ ได้ให้ตัวเลขความเร็วในการเดินทางไปแล้ว
ผมก็จะสรุปเป็นภาพให้เห็นได้ดังนี้นะครับ
กรณีคนเดิน....จากประสบการณ์จริงๆของตัวผม สำหรับระยะใน 1 วัน ที่เป็นการเดินทางเต็มที่แบบเช้ายันเย็น (คือแต่เช้ามืดพอเห็นหน้ากัน เริ่มหุงหาอาหารกินอิ่มท้อง แล้วก็เดิน เดิน เดิน) แบกเป้หลังที่ใส่ของของหนักประมาณ 20-25 กก. เมื่อร่างกายสมบูรณ์เต็มที่ ระยะเวลาที่ใชกำลังงานจนสุดพลังที่มีก็ไม่เกิน 10-12 ชม. แล้วก็ต้องหาที่พักและหุงหาอาหารเย็นกัน ตามปกติแล้วช่วงประมาณบ่าย 2 ถึงบ่าย 3 โมงเย็นก็จะเดินช้าลงเพราะต้องคอยเก็บหาอาหารไปด้วย ระยะทางเดินที่ได้มักจะอยู่ระหว่าง 25-40 กม.
กรณีเดินบนทางราบ - ระดับเจ๋งๆจะเดินได้ 40 - 50 กม. หากเดินเลาะตามตลิ่งแม่น้ำ ก็คงจะได้ระหว่าง 15-20 กม. และหากเดินป่าตามทางด่าน (สัตว์) ตามห้วย ข้ามเขาบ้าง ก็คงได้ระยะทางแถวๆ 15-20 กม.
ในพงศาวดารอย่างกรณีไปรบพม่าท่าดินแดง ระบุไว้ครับว่าเดินเลาะตามลำแม่น้ำไปครับ และเดินอย่างนี้จนไปถึงตัวเมืองกาญจนบุรีเก่าครับ ซึ่งต้องผ่านทุ่งลาดหญ้าก่อน จึงจะเข้าตัวเมืองกาญจนบุรีเก่าครับ
ที่น่าสนใจก็คือ คราวรบพม่าท่าดินแดง+สามสบนั้น มีพ่อค้า(จากไหนก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ) นำเอาสินค้ามาจำหน่ายให้ทางฝ่ายพม่าด้วยเช่นกัน ถึงกับขนาดตั้งเป็นร้านค้ากันได้ ดังในเพลงยาวพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงพรรณาไว้ในนิราศท่าดินแดงดังนี้
อ้ายพม่าตั้งอยู่ท่าดินแดง
ตกแต่งค่ายรายไว้ถ้วนถี่
ทั้งเสบียงอาหารสารพัดมี
ดังสร้างสรรค์ธานีทุกประการ
มีทั้งพ่อค้ามาขาย
ร้านรายกระท่อมพลทุกสถาน
ด้านหลังทำทางวางสะพาน
ตามละหานห้วยธารทุกตำบล
ร้อยเส้นมีฉางหว่างค่าย
ถ่ายเสบียงอาหารทุกแห่งหน
แล้วแต่กองร้อยอยู่คอยคน
จนตำบลสามสบครบครัน
อันค่ายคูประตูหอรบ
ตบแต่งสารพัดเป็นที่มั่น
ทั้งขวากหนามเขื่อนคูป้องกัน
เป็นชั้นชั้นอันดับมากมาย
ไม่แน่ใจว่า จะเกี่ยวกับบรรดาชุมชนปะกากญอแถว ๆ นั้นหรือเปล่านะครับ