siamese
|
ความคิดเห็นที่ 105 เมื่อ 15 ก.พ. 17, 16:15
|
|
วันจันทร์ 21 มิถุนายน 2423
ในตอนหาเครื่องตกแต่งพระเมรุสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ความว่า "แล้วกรมภูธเรศกับพระยานรรัตน์เข้าเฝ้าขอซ่อมทองคำแว่นฟ้า แล้วพระองค์เจ้าทองใหญ่เฝ้าทรงด้วยโคมไฟฟ้า ซึ่งจะติดเสาใหญ่พระเมรุกับรับสั่งให้ทำระย้าแขวนพระเมรุด้วย"
วันที่ 27 มิถุนายน 2423 เวลา 2 ทุ่มเสด็จออกหอธรรมสังเวช รับสั่งกับกรมพระยาบำราบปรปักษ์ จะทอดพระเนตรไฟฟ้าที่ท่านมีอยู่ วันนี้ท่านมาจุดทูลเกล้าฯถวายอัฏฏวิจาร ณ ศาลา ใช้แบบตารี่ 100 หนึ่ง แต่ไม่ได้ประทับทอดพระเนตรด้วยฝนตก
วันที่ 28 มิถุนายน 2423 เวลา 2 ทุ่ม วันนี้ไม่ได้ประทับอัฏฏวิจารศาลา และที่ทิมคดมหาปราสาท ซึ่งสมเด็จกรมพระบำราบปรปักษ์ทรงจัดโคมไฟฟ้าทูลเกล้าฯ ถวายครู่หนึ่งแล้วเสด็จขึ้น ใช้ 310 แบบตารี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมบัติ สุขุมาลย์
|
ความคิดเห็นที่ 106 เมื่อ 15 ก.พ. 17, 21:24
|
|
ด้วยที่มีการกล่าวมาแล้วข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามความคิดเห็นที่ 101 ที่เจ้าหมื่นไวยวรนารถได้มีหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2427 ระบุว่า "ได้ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุยาทแล้ว" แล้วจะมีคำว่า "ทรงมีพระบรมราชกระแสรับสั่งอยู่เสมอว่า ไฟฟ้าหลังคาตัดข้าไม่เชื่อ" ในปี พ.ศ. 2504 ได้อย่างไรครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 107 เมื่อ 16 ก.พ. 17, 12:54
|
|
หาไม่เจอว่าท่านจขกท. ตั้งใจจะเขียนพ.ศ.อะไร แทนที่จะเป็น 2504
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมบัติ สุขุมาลย์
|
ความคิดเห็นที่ 108 เมื่อ 16 ก.พ. 17, 18:37
|
|
ตามความคิดเห็นที่ 103 ครับ (จากหนังสือประวัติการของจอมพลและมหาอำมาตย์เอกเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. ๒๕๐๔) อยู่ในปกรณ์ ๓๐ เรื่องทำการไฟฟ้า
เข้าใจว่าประวัติไฟฟ้าไทยในช่วงแรกเริ่ม ที่มีการเผยแพร่อยู่ทุกวันนี้ ได้นำข้อมูลมาจากหนังสือเล่มนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 109 เมื่อ 17 ก.พ. 17, 08:08
|
|
อ้อ หนังสือซึ่งพิมพ์ในปี ๒๕๐๔
ไม่ใช่ "ทรงมีพระบรมราชกระแสรับสั่งอยู่เสมอว่า ไฟฟ้าหลังคาตัดข้าไม่เชื่อ" ในปี พ.ศ. 2504
ครับ แล้วไป ผมเพียงแต่จะทวนความว่าทรงมีพระราชกระแสดังกล่าวจริงๆแล้ว ปีไหน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมบัติ สุขุมาลย์
|
ความคิดเห็นที่ 110 เมื่อ 17 ก.พ. 17, 19:02
|
|
ขอตั้งคำถามบ้าง มี 3 ข้อครับ
ข้อ 1 บิดาแห่งการไฟฟ้าไทยคือใคร ข้อ 2 ได้รับการสถาปนาจากใคร หรือหน่วยงานใด ข้อ 3 เมื่อใด
มีคำตอบมากกว่า 1 ข้อ ถึงค่อยตอบนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมบัติ สุขุมาลย์
|
ความคิดเห็นที่ 111 เมื่อ 17 ก.พ. 17, 20:11
|
|
ขอตั้งอีก 1 คำถามครับ
คำถามมีว่า ก่อนที่จะมีกระทู้นี้ ท่านทราบพระราชกรณียกิจหรือพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อย่างไรบ้าง นอกเหนือจากกับคำว่า "ทรงมีพระบรมราชกระแสรับสั่งอยู่เสมอว่า ไฟฟ้าหลังคาตัดข้าไม่เชื่อ" (โดยรวม เห็นแต่ข้ามไปเรื่องไฟฟ้าสยามคอร์ปอเรชั่นและไฟฟ้าหลวงสามเสน ซึ่งอยู่ในรัชสมัยรัชกาลที่ 6)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 112 เมื่อ 17 ก.พ. 17, 20:12
|
|
ขอตั้งคำถามบ้าง มี 3 ข้อครับ
ข้อ 1 บิดาแห่งการไฟฟ้าไทยคือใคร ข้อ 2 ได้รับการสถาปนาจากใคร หรือหน่วยงานใด ข้อ 3 เมื่อใด
มีคำตอบมากกว่า 1 ข้อ ถึงค่อยตอบนะครับ
ถ้าจะให้นึกถึงบิดาแห่งการไฟฟ้าไทย อันดับแรกที่คิดถึงก็ควรจะเป็น ผู้ที่นำไฟฟ้าเข้ามาติดที่โรงทหารให้ความสว่างไสว นั่นก็ควรจะเป็น "เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสงชูโต) และควรได้รับสถาปนาจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการไฟฟ้านั่นก็ควรจะเป็น "การไฟฟ้านครหลวง" ที่ไม่ใช่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแต่อย่างใด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมบัติ สุขุมาลย์
|
ความคิดเห็นที่ 113 เมื่อ 17 ก.พ. 17, 20:49
|
|
จึงเป็นเรื่องที่ต้องพิเคราะห์ว่าข้อมูลต่างๆ เป็นจริงหรือไม่ เป็นไปได้หรือไม่
เช่น ในหนังสือนี้ที่จัดทำเรียบเรียงโดยเครือญาติได้บอกว่า เจ้าหมื่นไวยวรนารถได้ขายที่ดินแปลงหนึ่งที่ตำบลวัดละมุดบางอ้อ ในราคาเท่าทุน คือราคา 180 ชั่ง เพื่อเอาไปซื้อสิ่งของและใช้หนี้สินเขาด้วย
แต่จากหลักฐานอื่นพบว่า ได้ขายที่ดินตำบลบางอ้อ 3 แปลง และตำบลวัดละมุด 1 แปลง รวมเป็น 4 แปลง ในราคา 144 ชั่ง จากที่ซื้อไว้ 87 ชั่ง ได้กำไร 56 ชั่ง (จากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ รหัสเอกสาร ม.ร. 5 นก/22 เลขที่ 279 หน้า 734-735)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมบัติ สุขุมาลย์
|
ความคิดเห็นที่ 114 เมื่อ 17 ก.พ. 17, 21:19
|
|
โดยส่วนตัว ผมมีความเชื่อเป็นอย่างยิ่ง ว่าเจ้าหมื่นไวยวรนารถ (เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี) ผู้มีคุณูปการต่อแผ่นดินไทยเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านเป็นผู้ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างในโรงทหารน่าหรือกระทรวงกลาโหมในปัจจุบัน แต่ผมไม่เชื่อว่าท่านจะขายที่ดินเพื่อนำมาซื้อเครื่องไฟฟ้าด้วยเหตุที่พระองค์ทรงมีพระบรมราชกระแสรับสั่งอยู่เสมอว่า ไฟฟ้าหลังคาตัดข้าไม่เชื่อ แต่เป็นเพราะเงินหลวงไม่พอ ในชั้นแรกใช้งบประมาณที่สูงมาก ท่านคงบั่นทอนตามเงินที่ท่านมีอยู่ (ท่านเพิ่มเติมกระทรวงกลาโหมเป็น 3 ชั้น จากแบบแปลนเดิม 2 ชั้น)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมบัติ สุขุมาลย์
|
ความคิดเห็นที่ 115 เมื่อ 19 ก.พ. 17, 09:05
|
|
เจ้าหมื่นไวยวรนารถคงคิดว่าเงินขายที่ดิน 144 ชั่ง เมื่อนำไปซื้อสิ่งของและใช้หนี้สินเขาแล้วนั้นเหลือไม่มากพอแก่การซื้อเครื่องไฟฟ้าไปติดตั้งในโรงทหารน่า (กรมยุทธนาธิการ) จึงได้มีหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อีกครั้ง (หลังจากที่รัชกาลที่ 5 เคยได้ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เจ้าหมื่นไวยวรนารถติดตั้งเครื่องไฟฟ้าไปแล้ว แต่ติดขัดที่ต้องใช้เงินมาก เงินหลวงไม่พอ) ตามความคิดเห็นที่ 101
คาดว่าเจ้าหมื่นไวยวรนารถคงได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้เงินหลวงไปใช้จ่ายเรื่องเครื่องไฟฟ้านี้ ในปริมาณเงินที่สูงกว่าเงินที่เจ้าหมื่นไวยวรนาถมีอยู่มาก อันสังเกตจากการที่พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงษ์ ทรงมีลายพระหัตถ์ทูลเกล้าถวายแด่รัชกาลที่ 5 เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2435 (จากการที่รัชกาลที่ 5 ทรงจะต้องพระราชประสงค์ใช้ข้อมูลแสดงความคิดเห็นจากหลายๆ ฝ่าย ว่ารัฐบาลควรจะทำอย่างไรกรณีบริษัทไฟฟ้าสยามขาดเงินลงทุน เพื่อทรงพระบรมราชวินิจฉัย มีใจความตอนหนึ่งว่า "ภายหลังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้เกล้ากระหม่อมรับราชการในกรมยุทธนาธิการตำแหน่งผู้บัญชาการยุทธภัณฑ์ จึงได้เป็นผู้รักษาและจัดการการไฟฟ้าอันมีอยู่แล้ว ได้จุดใช้ราชการหลายครั้งก็ไม่เป็นการสะดวกติดบ้างดับบ้างต้องจัดการแก้ไขกันไปต่างๆ ไม่หยุด แก้ไปแก้มาเครื่องไหม้จุดอีกไม่ได้ต่อไป ทำไม่ได้ในเมืองไทยต้องส่งเครื่องออกไปทำใหม่ที่ยุโรป ... บัญชีจ่ายในการซ่อมทำเครื่องไฟฟ้าเช่นนี้แพงมิใช่เล่น ได้เคยเห็นมาแต่ก่อนเมื่อรับราชการเป็นผู้บัญชาการใช้จ่ายในกรมยุทธนาธิการ ได้ตั้งเบิกเงินที่จ่ายในการทำเครื่องไฟฟ้านั้นด้วยร้อยด้วยพันชั่ง ซึ่งรู้สึกเต็มใจว่าไม่ได้รับประโยชน์จากทุนที่ลงไป แม้แต่หนึ่งในส่วนร้อยก็ทั้งยาก ลมเจียนจะจับทีเดียวแต่จำต้องเบิกจ่ายไป ตัดรอนไม่ได้เพราะเป็นการเก่าที่ทำแล้ว" (จากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ รหัสเอกสาร มร 5 น/93 น10/2 หน้า 77-81)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมบัติ สุขุมาลย์
|
ความคิดเห็นที่ 116 เมื่อ 25 ก.พ. 17, 09:57
|
|
ประวัติไฟฟ้าไทยในช่วงเริ่มแรก ที่มีการเผยแพร่อยู่ก่อนแล้ว ที่ว่า
เจ้าหมื่นไวยวรนารถอยากให้ระย้าที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทใช้ไฟฟ้า แต่ครั้นจะกราบบังคมทูลก็เห็นว่าคงไม่สำเร็จ เพราะเมื่อเจ้าหมื่นไวยวรนารถกลับมาจากยุโรป ได้กราบบังคมทูลว่า “ที่ฝรั่งเศสเขาไว้ใจใช้ไฟฟ้ากันทั่วทั้งเมือง อยากจะทำไฟฟ้าในเมืองไทย” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยมีพระบรมราชกระแสรับสั่งอยู่เสมอว่า “ไฟฟ้าหลังคาตัดข้าไม่เชื่อ” เจ้าหมื่นไวยวรนารถจึงต้องลงทุน ขายที่ดินของตนเพื่อนำเงินมาซื้อเครื่องไฟฟ้า (ความคิดเห็นที่ 86 ฝรั่งเศสใช้แก๊สทั่วทุกบ้านทุกเรือน)
ประเด็นสำคัญคือคำว่า “เคยมีพระบรมราชกระแสรับสั่งอยู่เสมอ”
ทำไมพระองค์ต้องรับสั่งอยู่เสมอ?
ดูขัดๆ แปลกๆ สมเหตุสมผล สมแก่ช่วงเวลาไหมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมบัติ สุขุมาลย์
|
ความคิดเห็นที่ 117 เมื่อ 04 มี.ค. 17, 18:12
|
|
จากที่ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยมีพระบรมราชกระแสรับสั่งอยู่เสมอว่า “ไฟฟ้าหลังคาตัดข้าไม่เชื่อ” เจ้าหมื่นไวยวรนารถจึงต้องลงทุนขายที่ดินของตน
ก็ได้มีการเผยแพร่ต่ออีกว่า เจ้าหมื่นไวยวรนารถจึงต้องลงทุนขายที่ดิน 180 ชั่ง แล้วจัดให้นายมาโยลาครูฝึกทหารม้าวัดระยะทางจากโรงทหารน่า (กระทรวงกลาโหม) ถึงพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท แล้วเดินทางไปประเทศอังกฤษเพื่อซื้อเครื่องไฟฟ้าโดยสายไฟฟ้าที่ใช้ข้ามถนนให้เป็นเคเบิ้ลฝังใต้ดิน ซื้อเครื่องไดนาโมสองเครื่องเพื่อผลัดเปลี่ยนกัน ซื้อโคมไฟขนาดใหญ่ตั้งบนหอนาฬิกา ซื้อโคมหลอดอาร์คไลท์หลายดวง เครื่องหลอดแก้วและโคมต่างๆ สำหรับใช้กับกิ่งระย้าแก้ว ให้นายมาโยลาเรียนวิชาสำหรับเข้าเป็นช่างไฟและช่างกลด้วย เมื่อกลับเข้ามากรุงเทพฯ ก็ติดตั้งที่โรงทหารน่าก่อนแล้วติดไฟฟ้าที่ระย้าแก้วในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทต่อไป........
ได้มีข้อสงสัยว่าเป็นไปได้หรือไม่ หรือเป็นเรื่องเหลือเชื่อหรือไม่ ดังนี้ 1. ถ้าหมายถึงรัชกาลที่ 5 ทรงไม่พระราชทานพระบรมราชานุญาต แล้วเจ้าหมื่นไวยวรนารถจะสามารถกระทำการต่างๆ ดังกล่าวได้เชียวหรือ 2. วิธีการต่างๆ เช่นการเดินสายไฟฟ้าข้ามถนนเป็นเคเบิ้ลฝังใต้ดิน ซื้อเครื่องไดนาโมสองเครื่องเพื่อผลัดเปลี่ยนกัน ให้นายมาโยลาไปเรียนวิชาไฟฟ้าในต่างประเทศ สำหรับในสมัยนั้นดูแปลกๆ อยู่ 3. เงินขายที่ดินจำนวน 180 ชั่งเพียงพอสำหรับการอย่างนี้หรือไม่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมบัติ สุขุมาลย์
|
ความคิดเห็นที่ 118 เมื่อ 05 มี.ค. 17, 13:53
|
|
การที่เจ้าหมื่นไวยวรนารถได้มีหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายแด่รัชกาลที่ 5 เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2427 (ตามความคิดเห็นที่ 101) ประกอบกับที่มีการเผยแพร่ว่า หลอดไฟฟ้าสว่างไสวเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2427
ได้มีข้อสงสัยว่าเป็นไปได้หรือไม่ หรือเป็นเรื่องเหลือเชื่อหรือไม่ เพิ่มอีกว่า 4. ระยะเวลาเพียงไม่ถึงสองเดือนการดำเนินการตามความคิดเห็นที่ 117 จะสามารถทำได้หรือไม่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สมบัติ สุขุมาลย์
|
ความคิดเห็นที่ 119 เมื่อ 25 มี.ค. 17, 20:48
|
|
ที่มีการเผยแพร่กันมาว่า หลอดไฟฟ้าสว่างไสวเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2427 ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันว่าก่อนหน้านั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยมีพระบรมราชกระแสรับสั่งอยู่เสมอว่า “ไฟฟ้าหลังคาตัดข้าไม่เชื่อ”
เรื่องราวต่างๆ หลายเหตุการณ์ก่อนวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2427 ที่ได้กล่าวมาแล้วในกระทู้นี้ เพียงแต่ละเหตุการณ์ก็เพียงพอที่จะกล่าวได้ว่า คำว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยมีพระบรมราชกระแสรับสั่งอยู่เสมอว่า “ไฟฟ้าหลังคาตัดข้าไม่เชื่อ” นั้นไม่เป็นความจริง
สำหรับในประเด็นนี้ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังปี พ.ศ. 2427 ก็ไม่จำเป็นต้องมีการกล่าวถึง
อีกทั้งการนำประโยคหรือสำนวนของคำที่ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยมีพระบรมราชกระแสรับสั่งอยู่เสมอว่า “ไฟฟ้าหลังคาตัดข้าไม่เชื่อ” มาใช้แสดงถึงเหตุการณ์ในช่วงแรกเริ่ม ก็ไม่สมเหตุสมผล ไม่เหมาะแก่ช่วงเวลา
จึงเป็นที่ต้องหาข้อมูลต่อไปว่า แล้วเหตุใดจึงมีการระบุในหนังสือประวัติการของจอมพลและมหาอำมาตย์เอกเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2504 ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยมีพระบรมราชกระแสรับสั่งอยู่เสมอว่า “ไฟฟ้าหลังคาตัดข้าไม่เชื่อ”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|