กระทู้: เนื่องด้วยบทความ แค้นของกวี เริ่มกระทู้โดย: แม่ลูกโอ๊ท ที่ 26 ก.ย. 00, 12:00 อ่านบทความแค้นของกวีแล้วค่ะ แทบไม่น่าเชื่อนะคะว่าเขียนกันโดยกลุ่มนักเรียน
ราวกับจะเป็นมืออาชีพ น่ายินดีด้วยจริงๆค่ะ กระทู้: เนื่องด้วยบทความ แค้นของกวี เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ก.ย. 00, 00:00 ขอบคุณมากค่ะ
กระทู้: เนื่องด้วยบทความ แค้นของกวี เริ่มกระทู้โดย: Tethys ที่ 04 ก.ย. 00, 00:00 เก็บบทพรรณนาหวานๆ จากวรรณคดี มาอีกนะคะ ซึ้งจัง..
อิอิ หนูกำลังมีความรัก อ้อ! เรื่องขนมที่ถูกลืมก็ชอบจัง อยากอ่านที่มาที่ไปของอาหารโบราณ หายาก ขออีก ขออีกนะคะ.. ปลื้ม ปลื้ม ภูมิใจกับความประณีตศิลป์ของบ้านเราค่ะ กระทู้: เนื่องด้วยบทความ แค้นของกวี เริ่มกระทู้โดย: ทิด ที่ 07 ก.ย. 00, 00:00 นี่ก็อีกเป็นอีกบทหนึ่งของ "แค้น" ระดับอมตะของกวีร่วมสมัยเลยนะครับ
........................... เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า มิหวังกระทั่งฟากฟ้า ซบหน้าติดดินกินทราย จะเจ็บจำไปถึงปรโลก ฤารอยโศกรู้ร้างจางหาย จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย อย่าหมายว่าจะให้หัวใจ ถ้าเจ้าอุบัติบนสวรรค์ ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้ สูเป็นไฟเราเป็นไม้ ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณ แม้แต่ธุลีมิอาลัย ลืมเจ้าไซร้ชั่วกัลปาวสาน ถ้าชาติไหนเกิดไปพบพาน จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า เพื่อจดจำพิษช้ำนานา ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอย ....................................... หมายเหตุ...1 ตรงช่วงบทแรกผมเคยได้ยินมาอีกลักษณะหนึ่งดังนี้นะครับ... เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง "จะหมายมุ่งสิ่งใดในหล้า" มิหวังกระทั่งฟากฟ้า ซบหน้าติดดินกินทราย หมายเหตุ...2 บท "เสียเจ้า" ข้างต้นผมคัดมาจาก http://www.geocities.com/thailiterature/ak1.htm นะครับ กระทู้: เนื่องด้วยบทความ แค้นของกวี เริ่มกระทู้โดย: แจม ที่ 07 ก.ย. 00, 00:00 ผมเห็นเค้าคุยกันเรื่องเบียร์เยอรมันอยู่ดี ๆ ที่วิชาการคาเฟ่
( http://vcharkarn.com/vcafe/show_message.php?roomname=deknok&number=4 ) ไหงกลายเป็นกวีขี้เมาไปกันหมด ก็เลยนึกถึง ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง มีคันโทงผูกสายไว้ปลายเสา โอ้ อืม..อืม..อืม.. นรกเจียวอกเรา อืม..อืม..อืม..อืม..อืม..อืม.. ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน อืม..อืม..อืม..อืม..อืม..อืม.. แต่เมาใจนั้นประจำทุกคำ่คืน แต่จำไม่ได้หมด มั่วๆ อยู่ในหัว ใครทราบ ช่วยด้วยครับ กระทู้: เนื่องด้วยบทความ แค้นของกวี เริ่มกระทู้โดย: ทิด ที่ 07 ก.ย. 00, 00:00 บางตอนจากนิราศภูเขาทอง ของสุนทรภู่ครับ
.................................... ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ สรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืนฯ ....................................... ส่วนบทเต็มลองไปดูที่ http://www.geocities.com/Paris/Library/7749/ นะครับ กระทู้: เนื่องด้วยบทความ แค้นของกวี เริ่มกระทู้โดย: Tethys ที่ 07 ก.ย. 00, 00:00 แค้นที่คุณทิด copy มา น่ากลัวจัง...
หวาน ๆ ไม่มีบ้างหรือคะ อ้อ!! โทษทีกระทู้ว่าไว้ด้วยความแค้น แหงม แหงม เหงาจัง... กระทู้: เนื่องด้วยบทความ แค้นของกวี เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 00, 00:00 กำลังเตรียมเรื่องกวีหวานอยู่ค่ะคุณ Tethys มีมากเหลือเกิน ไม่รู้จะเลือกบทไหนดี
ใครนึกออกช่วย post มาก่อนนะคะ กระทู้: เนื่องด้วยบทความ แค้นของกวี เริ่มกระทู้โดย: แจม ที่ 07 ก.ย. 00, 00:00 ขอบคุณครับ คุณทิด
แหม! บทที่สองของผมหายไปทั้งบทเลย ดีครับจะได้จำไว้ทีนี้ กระทู้: เนื่องด้วยบทความ แค้นของกวี เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 00, 00:00 เขียนจากความทรงจำยังหาหนังสือไม่พบ อาจผิดได้บางคำนะคะ
ชาติหน้าถ้ามีจริง น้องหญิงน่าวางขาย เป็นสินค้ากลางดินกลางทราย เรียงรายข้างถนนหนทาง จะโล้สำเภาทอง มาซื้อน้องไปแนบข้าง สามวันเจ้าจืดจาง วางขายใหม่ใส่พานทอง อังคาร กัลยาณพงศ์ ประชดประชันเจ็บแสบเอาการค่ะ กระทู้: เนื่องด้วยบทความ แค้นของกวี เริ่มกระทู้โดย: Tethys ที่ 07 ก.ย. 00, 00:00 ขอบคุณล่วงหน้านะคะคุณเทาชมพู
<<ยิ้มหวานแก้มปริ>> แหม! เห็นด้วยเลยค่ะบทหลังนี้เจ็บแสบแปลบสาหัสเลย แค่สามวันเองนี่อะนะ....ใจหนอใจ แต่ว่าไปก็ยังอุตส่าห์ใส่พานทองไปขายใหม่ ไม่เขวี้ยงทิ้งคืนข้างถนนที่แหล่งเดิม อิอิ อิอิ กระทู้: เนื่องด้วยบทความ แค้นของกวี เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 00, 00:00 เขาเรียกว่ารีไซเคิลยังไงล่ะคะ คุณ Tethys ไม่ทิ้งไปเปล่าๆ
เอาบทกลอนนี้มาฝากคนมีความรักก่อนนะคะ แล้วจะไปเขียนเป็นเรื่องมาให้ค่ะ ------------------------------------------------------- โอ้สงสารสุริยาฟ้าพยับ..... จะเลื่อนลับยุคุนธรศิงขรเขา พระอาทิตย์ดวงเดียวเปลี่ยวเหมือนเรา....... กำสรดเศร้าโศกมาเอกากาย ถึงมีเพื่อนเหมือนพี่ไม่มีเพื่อน.... เพราะไม่เหมือนนุชนาฏที่มาดหมาย มีเพื่อนเล่นก็ไม่เหมือนกับเพื่อนตาย......มีเพื่อนชายก็ไม่เหมือนกับเพื่อนชม ถึงจะมีวิมานสถานทิพย์......ให้ลอยลิบเลิศมนุษย์สุดประถม ถ้าไม่มีคู่เคียงเรียงภิรมย์.....จะเตรียมตรมตรึกหาเป็นอาจิณฯ (จาก นิราศพระแท่นดงรัง ของ นายมี) กระทู้: เนื่องด้วยบทความ แค้นของกวี เริ่มกระทู้โดย: Tethys ที่ 08 ก.ย. 00, 00:00 แหม! หญิงยุค 2000 ไม่ยอมให้รีไซเคิลง่ายๆ หรอกนะคะ
นิราศที่ฝากมาโดนใจพลั่กเบ้อเริ่มเลย กำลังเหงาอยู่พอดี.... คนพิเศษไปทำงานไกลหลายวัน พึ่งจะเข้าใจความหมายของคำว่าตรมในภาษาวรรณคดีของยามที่คิดถึงเป็นอย่างนี้เอง กระทู้: เนื่องด้วยบทความ แค้นของกวี เริ่มกระทู้โดย: ปู่ ที่ 10 ก.ย. 00, 00:00 อ้าว กระทู้นี้มีเบียร์มาแจมอีกแล้ว
หลาน Tethys อย่าตรมไปเลยหนูเอ้ย มาชนแก้วกันดีกว่า ฮาาาา กระทู้: เนื่องด้วยบทความ แค้นของกวี เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 18 ก.ย. 00, 00:00 สวัสดีครับ ผมเพิ่งมาใหม่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ
แค้นของคุณเทาชมพู เอ้อ- ต้องบอกว่า "แค้นชองกวี" ของคุณเทาชมพูนี่ ยังไม่ค่อยแค้นมากนะครับ ดูยังรักๆ แค้นๆ ยังไงอยู่ (คงเป็นเพราะผู้เขียนบทความยังอยู่ในวัยหวาน) ผมอ่านหัวข้อแล้วนึกว่าจะมีบทกวีอีกสองบท ที่กวีแค้นจริงๆ หนึ่งคือบทของท่านอังคาร ที่มีท่านอื่นยกมาแล้วข้างบน สองคือบทโคลงบทสุดท้ายที่ว่ากันว่าศรีปราชญ์แต่ง (แต่ศรีปราชญ์จะมีตัวจริงรึเปล่าก็ไม่ทราบ) ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน... ไงครับ กระทู้: เนื่องด้วยบทความ แค้นของกวี เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.ย. 00, 00:00 สวัสดีค่ะคุณนิลกังขา
ขนาดของกรมหลวงภูวเนตรยังไม่แค้นอีกหรือคะ ที่จริงมีอีกบทแต่ติดเรท เลยไม่เอามาลง ส่วนศรีปราชญ์ บทสุดท้าย แค้นเจ้าพระยานคร ไม่ได้แค้นเพราะน้ำผึ้งขม เลยไม่เอามาลงไว้เหมือนกัน เอ่อ...ดิฉันไม่ได้อยู่ในวัยหวานค่ะ ถ้าหากว่าเลิกเล่นเน็ตได้ก็จะถึงวัยปลงเสียที กระทู้: เนื่องด้วยบทความ แค้นของกวี เริ่มกระทู้โดย: Tethys ที่ 27 ก.ย. 00, 00:00 แหงม แหงม!!
ขออภัยคุณปู่เจ้าขา อุตส่าห์ชนแก้วเป็นเพื่อนตั้งแต่ตรมครั้งกระโน้น พอดีหนูติดภารกิจฉุกเฉินเสีย 2 อาทิตย์ พึ่งจะเข้ามาเห็นแก้วเบียร์ อิอิ ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ ไว้รอตรมใหม่จะมาชนด้วยเจ้าค่ะ <<ยิ้มหวานขออภัย>> |