วันเปิดดิสนีย์แลนด์ สถานที่หลายแห่งยังไม่พร้อม  มีอะไรต่อมิอะไรขลุกขลักบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้คนย่อท้อ  ยังคงหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวไม่ขาดสาย   
    เมื่อผ่านประตูทางเข้าเข้าไป  จะเห็นถนนสายเล็กๆสองข้างขนาบด้วยอาคารรุ่นเก่าสมัยต้นศตวรรษที่ 20 เหมือนกำลังย้อนเวลาไปเดินอยู่ในเมืองเล็กๆสักแห่งของอเมริกา   ตรงนี้ชื่อว่า Main Street USA  วอลต์ให้สถาปนิกออกแบบจากเมืองMarceline ในรัฐมิสซูรี่   ถิ่นกำเนิดของเขาเอง
    ในยุคที่เปิดดิสนีย์แลนด์   บ้านเมืองเล็กๆแบบนี้มีอยู่ทั่วไปทุกรัฐ  คนเข้าชมจึงรู้สึกเหมือนเดินย้อนอดีตกลับไปวัยเด็กของตนเอง    ข้อนี้เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของดิสนีย์ คือจับใจคนอเมริกันได้ถูกต้อง

กรมอุทยานฯ-จังหวัดลพบุรี เปิดปฏิบัติการจับลิงตึก ต่อเนื่อง หลังตรวจเช็กสถานอนุบาลตำบลโพธิ์เก้าต้น พบ 27 ตัว ลอตแรกปรับตัวได้ดี ลดความดุร้าย อาหารเพียงพอ
กรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับ จังหวัดลพบุรี เทศบาลเมืองลพบุรี จับลิงที่อาศัยอยู่ตามตึกที่ส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนของประชาชน บริเวณด้านหน้าโรงแรมเอเชีย ร้านเซ่งเฮง รวมทั้งบริเวณสวนราชานุสรณ์ ในตัวเมืองลพบุรี ซึ่งใกล้เคียงกับพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี นำไปปล่อยในสถานอนุบาลลิง ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมืองลพบุรี ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา โดยจับไปแล้ว 27 ตัว โดยให้มีการติดตามสภาพความเป็นอยู่และพฤติกรรมของลิงว่าเป็นอย่างไร ซึ่งพบว่าลิงทุกตัวสามารถปรับตัวเข้ากับพื้นที่ในกรงดังกล่าวได้เป็นอย่างดี รวมทั้งลดความดุร้าย และยังมีอาหารที่เพียงพออีกด้วย

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 67 ที่ศูนย์สนับสนุนบริหารจัดการเคลื่อนย้ายลิงของจังหวัดลพบุรี บริเวณสี่แยกข้างพระนารายณ์ราชนิเวศน์ นายจำเริญ สละชีพ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี พร้อมด้วย นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง เดินทางมาติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการจับลิงและเคลื่อนย้ายลิงที่เหลือประมาณ 200-300 ตัว ตามเป้าหมายจาก 3 จุด บริเวณด้านหน้าโรงแรมเอเชีย ร้านเซ่งเฮง และสวนราชานุสรณ์ ตามเป้าหมายเพื่อนำไปปล่อยภายในสถานอนุบาลลิงตำบลโพธิ์เก้าต้น

โดยเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ได้ติดตั้งกรงลิงขนาดใหญ่ ขนาดกว้าง 1.8 เมตร สูง 1.8 เมตร ยาว 15 เมตร ตามแผนการดักจับลิง และเคลื่อนย้ายลิงตึกในเขตเทศบาลเมืองลพบุรี ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีกองทัพสื่อมวลชนทั้งของไทย และต่างประเทศหลายสำนัก มาปักหลักเฝ้าติตตามทำเข้ากันแต่เช้า และประชาชนอีกจำนวนหนึ่งที่ทราบข่าว ต่างมาคอยลุ้น และนำช่อดอกไม้ น้ำดื่ม มาคอยให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ แต่การปฏิบัติจับลิงจำนวนมาก ก็ยังเป็นไปด้วยความลำบาก ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะพยายามใช้เหยื่อล่อหลายชนิดแล้ว เพราะลิงลพบุรี มีความฉลาด เรียนรู้ได้เร็ว เมื่อเห็นติดกับดักก็จะเกิดความหวาดระแวงไม่ยอมเข้าไปกินอาหารในกรงพร้อมกันเป็นจำนวนมาก แต่จะสลับกันเข้ากรง ครั้งละ 1-2 ตัวเท่านั้น จากที่ตั้งเป้าปิดประตูใหญ่ให้ได้ครั้งละ 5-10 ตัว ในครั้งเดียวกัน จึงเป็นไปได้ยาก แต่เจ้าหน้าที่ต่างก็ทำงานด้วยความอดทน แม้ว่าจะจับได้ครั้งละ 1-2 ตัว ก็ตาม จนกว่าจะได้จำนวนลิงที่ตั้งเป้าไว้ 200-300 ตัว ภายในวันที่วันที่ 28 พ.ค. นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลิงที่ถูกจับได้กลุ่มแรกเช้านี้ จะถูกเคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลสนาม ภายในสถานอนุบาลลิงตำบลโพธิ์เก้าต้น เพื่อตรวจคัดกรองโรค ชั่งน้ำหนัก ทำประวัติ สักโค้ดที่แขนลิง และทำหมัน รวมทั้งพักฟื้นเป็นเวลา 1 คืน ก่อนปล่อยเข้ากรงลิงรวมกับลิง 27 ตัว ก่อนหน้านี้ ตามแผนควบคุมประชากรลิง ซึ่งระหว่างที่ลิงที่ถูกจับในวันนี้ ได้ถูกนำมาที่โรงพยาบาลสนามชั่วคราว ซึ่งอยู่ภายในสถานอนุบาลลิงนั้น นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผวจ.ลพบุรี ยังได้เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน รวมทั้งยังดูสภาพความเป็นอยู่ของลิงในชุดแรกอีกด้วย

นายจำเริญ สละชีพ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี กล่าวว่า จากการที่ตนได้ไปดูความเป็นอยู่ของลิงทั้ง 27 ตัว ที่จับมาก่อนหน้าที่สถานอนุบาลลิง พบว่าทุกตัวมีความเป็นอยู่ที่ดี มีความแข็งแรง ลดความก้าวร้าว กินอาหารทุกอย่างที่เราให้ แม้กระทั่งอาหารเม็ด โดยทางกรมอุทยานฯ ได้ให้คำแนะนำเรื่องพืชที่มีไฟเบอร์ เช่น กระถิน ใบไม้ อาหารธรรมชาติ ซึ่งก็มีประชาชนได้นำมาให้ลิงกินเช่นกัน ตอนนี้อยากให้ประชาชนหมดความกังกลเรื่องกรง เพราะมีความแข็งแรง มีอุปกรณ์ที่ช่วยให้ลิงออกกำลังกาย เราร่วมมือกันทำงาน ทำจริงจังเพื่อจะได้ให้คนลพบุรีสบายใจ เมื่อจับลิงชุดนี้ประมาณ 200-300 ตัวแล้ว ก็จะมีจับชุดต่อไปอีกพันตัว ที่บริเวณศูนย์การค้ามโนราห์ จุดที่มีลิงตึกอาศัยอยู่จำนวนมาก เมื่อลิงเบาบางลง ก็จะพัฒนาตัวอาคารบ้านเรือน โดยขัดตัวอาคารและทาสีใหม่ทั้งหมดให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ส่วนเรื่องงบประมาณนั้น ได้ประสานกับกรมอุทยานเรื่องของยารักษา ส่วนเรื่องอาหารได้เตรียมการเฉพาะหน้าไว้แล้ว 3 เดือน จากนั้นก็จะมีงบประมาณของทางจังหวัดมาช่วย จึงไม่น่ามีปัญหาอะไร

นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า เบื้องต้นกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยอธิบดีกรมอุทยานฯ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากลิง โดยได้ส่งเจ้าที่มาช่วยจับเคลื่อนย้ายแล้วก็มีการทำหมัน และนำไปไว้ที่สวนลิงโพธิ์เก้าต้นก่อน จากนั้นก็จะหาจุดเหมาะสม เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอนาคตต่อไป ในส่วนของพื้นที่นี้เอง ลิงซึ่งอยู่กับจังหวัดลพบุรีมายาวนาน แต่มีจำนวนปริมาณที่มากเกินไป มันก็สร้างความเดือดร้อนรำคาญ เพราะฉะนั้นต้องให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม โดยสภาพพื้นที่ที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน

https://www.dailynews.co.th/news/3465534/?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTAAAR217WAkS-TSOxAAkYvIzBA1XIhM1erwEC8kEjYOouzNcIUr8fZfg5Il0cQ_aem_AWqCa9Xour-4sqRjQOgcSlH0gIqQIDz9cFpyJ5_ykmpWe5iDb7osrQgCgLHnEe_9IYlD1HU6EwRdYihzP6wR-IH7
 

วันเปิดดิสนีย์แลนด์ ปี  1955

ปี 1954 ดิสนีย์ตกลงซื้อที่ดินว่างๆผืนหนึ่งในเมืองแอนาไฮม์ ทางใต้ของลอสแองเจลิส  เนื้อที่  160 เอเคอร์  เพื่อจะเนรมิตสวนสนุกในฝันของเขาขึ้นมา  เขาลงทุนเอง วาดโครงการเอง  แบ่งพื้นที่เป็นโซนต่างๆให้คนดูเดินท่องเที่ยวได้หลากหลาย   หลังจากเลือกชื่อโน้นชื่อนี้มาหลายชื่อ ก็ตกลงเลือกคำว่า "ดิสนีย์แลนด์"

    นอกจากจะผลิตการ์ตูนเป็นล่ำเป็นสันแล้ว   วอลต์ ดิสนีย์ซึ่งบัดนี้เป็นนายทุนอุตสาหกรรม(หนังการ์ตูน)เต็มตัว  ไม่ได้หยุดความคิดไว้แค่ผลิตหนังออกมาโกยเงินเท่านั้น   นี่ก็เป็นข้อหนึ่งที่หาได้ยากยิ่งกว่ายากสำหรับคนเป็นศิลปิน  คือมีหัวทางธุรกิจด้วย 
     ดิสนีย์ให้สัมภาษณ์ว่า ในฐานะพ่อที่มีลูกสาว 2 คน  เขาพาลูกไปเที่ยวสวนสนุกแห่งหนึ่ง ระหว่างพ่อนั่งจับเจ่ารอลูกเล่นม้าหมุนอยู่นั้น   เขาก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า สวนสนุกที่เดิมมีเอาไว้สำหรับเด็กๆนั้น ทำไมไม่มีใครคิดสร้างสวนสนุกที่เล่นกันได้ทั้งครอบครัวบ้างล่ะ    พ่อแม่จะได้ไม่ต้องเบื่อ เอาแต่นั่งดูลูกสนุกฝ่ายเดียว
    นอกจากนี้  เมื่อหนังการ์ตูนได้รับความนิยม   ก็มีคนเขียนจดหมายมาหากันมาก ว่าอยากจะเยี่ยมชมสตูดิโอของบริษัทบ้าง   แต่ดิิสนีย์ก็รู้แน่แก่ใจว่าสตูดิโอคือออฟฟิศทำงาน  มีเอาไว้ทำงาน  ไม่มีอะไรจะให้ประชาชนได้ชมกันเป็นที่ประทับใจ
    เขาก็เลยรวมความคิดทั้ง 2 อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  คือสร้างอาณาจักรการ์ตูนของเขา ให้คนมาเยี่ยมชมได้เพลิดเพลินและเป็นสวนสนุกที่มาเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัวด้วย
    นี่ก็คือจุดกำเนิดของแดนมหัศจรรย์ชื่อ ดิสนีย์แลนด์ ในค.ศ.  1955  เกือบ 70 ปีมาแล้ว

  ตอนตั้งคำถามก็กลัวอยู่เหมือนกันว่า คำตอบคือ อีกไม่นาน AI จะพัฒนาได้ถึงขั้นรับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมกันบ้าง  คุณประกอบมาช่วยทำให้ความกลัวกลายเป็นความจริง
  ดิฉันก็คงจะมี AI ประจำตัวมาตอบในเรือนไทยให้  แทนที่จะต้องไปค้นคว้าหาคำตอบเอง ก็ถามเจ้า AI ว่าช่วยตอบให้ที   ไหนวิเคราะห์ซิว่าลุงวอลต์ ดิสนีย์แกเก่งยังไงถึงเอาการ์ตูนมาแซงหน้าพระเอกนางเอกคนจริงๆในฮอลลีวู้ดไปได้หมด     AI คิดไม่ถึงเสี้ยววินาทีก็เจาะลึกถึงสมองทุกส่วนของดิสนีย์ตามประวัติการรักษา ที่มันไปขุดเอามาได้ ให้คำตอบถูกต้องแม่นยำทั้งหลักศิลปะและการแพทย์
  แสดงว่าเทาชมพูจะตกงาน  เพราะ GPT PG (pinkandgrey) แย่งงานไปแล้ว

ดูคลิปนี้แล้ว ตกงานกันอีกหลายอาชีพเชียวละค่ะ

ณ วันนี้ศักยภาพ AI ในการแต่งชิ้นงานแบบเชคสเปียร์หรือสุนทรภู่ยังไปไม่ถึงครับ  แต่เป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น ผมเชื่อว่าอีกไม่นานก็คงทำได้ เพราะพัฒนาการของ AI ก็คือการเรียนรู้ที่เรียนรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก generation ของมัน ที่แต่ละเจนก็ใช้เวลาไม่นานด้วย ตอนนี้เราอยู่ที่  GPT-4o แต่ใน lab ของ OpenAI  ไม่รู้ไปถึงไหนแล้ว  ที่ยังไม่มีตัวที่ใหม่หรือฉลาดกว่านี้ อาจจะเพราะเค้ากำลังหาทางควบคุมมันอยู่ก็ได้ เพราะมันอาจจะเก่งจนน่าตกใจ หลอนน้อยลง ข้อมูลแม่นยำมากขึ้น จนคนเราจะหาทางไม่ให้คนตกเป็นทาสแบบไม่รู้ตัวได้ยาก

ในอนาคตอันใกล้นี่ทุกคนคงมีจาวิสส่วนตัวที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย คุยตอบโต้ได้เหมือนในหนัง และคงมีคนที่คบหาหรือมี  AI เป็นเพื่อนมากกว่าจะคบคน เพราะ AI มันฉลาดจนรู้ว่าเราเป็นคนแบบไหน ตอบโต้ยังไงเราถึงชอบ และจะปั่นเงินจากเราแบบไหนเนียน ๆ

โดยส่วนตัวพวก AI เฉพาะทางที่พัฒนาให้ฉลาด ๆ เช่นอ่านฟิล์ม Xray อ่านอัตราการเต้นหัวใจจากใบหน้า หรือ  self-driving นี่ผมยินดีมาก ๆ แต่พวก generative AI นี่บอกตรง ๆ ว่าผมกลัวมันจริง ๆ ครับ

ChatGPT 4o นอกจากจะทำให้วงการนักเขียนสะเทือนแล้ว ยังมีอีกหลายวงการที่ต้องสะเทือนไปด้วย

   ดิสนีย์บัดนี้กลายเป็นพยัคฆ์ติดปีก บินร่อนขึ้นสู่ฟ้ากว้าง ด้วยการ์ตูนยาวเรื่องที่  2     เขาเลือกวรรณกรรมเยาวชนรื่องดังจากอิตาลี เรื่อง Pinocchio ของ Carlo Collodi ซึ่งเป็นเรื่องเก่าแก่ย้อนหลังไปตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19  ความจริงเนื้อเรื่องดาร์คมาก  มีฉากโหดๆ ทารุณ เลือดตกยางออก และความตาย หลายฉากจนไม่น่าเป็นเรื่องสำหรับเด็ก   แต่คติสอนใจในเรื่องก็เหมาะกับเยาวชนในยุคนั้น เช่นถ้าหนีโรงเรียน ไม่ตั้งใจเรียนหนังสือก็จะกลายเป็นคนโง่ เป็นชนชั้นแรงงานเหนื่อยยากไปจนตาย
   ดิสนีย์จึงเอาเรื่องมาขัดเกลา ถากส่วนร้ายๆทิ้งไป เหลือแต่ความน่ารักน่าเอ็นดูไร้พิษสง  ถูกใจพ่อแม่และลูกอย่างมาก  เพิ่มบทตัวละครประกอบให้น่ารักเช่นเจ้าจิมมินี่คริกเก็ต จิ้งหรีดน้อย และบลูแฟรี่ ที่ได้ต้นแบบจากดาราสาวสวยทรงเสน่ห์ของฮอลลีวู้ดในยุคนั้น
   เจ้าตุ๊กตาไม้จึงกลายมาเป็นตัวละครอมตะอีกตัวของดิสนีย์