ระหว่าง 2 ดารา คือ Deborah Kerr (DK) กับ Lana Turner (LT) ผมไม่เคยแยกออกเลยว่าคนไหนคือใคร ผมว่า 2 คนนี้หน้าตาเหมือนกันมาก แล้วก็เกิดปีเดียวกันด้วยคือ 1921 แต่คนละประเทศ LT เป็นอเมริกัน DK เป็นคนอังกฤษ
Hollywood ให้นิยามว่า DK มีความเป็นนักแสดงมากกว่าดารา ตลอดอาชีพการแสดงของเธอได้รับการเสนอเข้าชิง Oscar ถึง 6 ครั้ง ส่วนชีวิตส่วนตัวแทบจะไม่ได้เป็นข่าวเล็ดลอดออกมาให้ชาวบ้านเสพย์เลย
ในขณะที่ LT ได้รับการเสนอเข้าชิง Oscar เพียงครั้งเดียว (Peyton Place) แต่ชีวิตส่วนตัวเป็นข่าวให้ชาวบ้านเสพย์ติดต่อกันมาตลอดอายุของเธอ
เอาตั้งแต่เริ่มสาวอายุ 16 พอรู้ตัวว่าฉันต้องการจะบุก Hollywood เธอก็เริ่มการตลาดโดยไปนั่งโชว์โฉมในร้านที่ฝรั่งโบราณเรียกว่า Soda Fountain ที่มุมถนน Sunset Boulevard เพื่อล่อแมวมอง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ
เธอเป็นนักแสดงอายุน้อยมาก ๆ (18) ที่ได้รับเลือกให้ไปทดสอบบท Scarlett O’Hara
แต่เรื่องข่าวครึกโครม ดังกระหึ่มไปค่อนโลกเกิดขึ้นในปี 1958 เมื่อลูกสาววัย 14 เอามีดจ้วงฆ่าแฟนหนุ่มจิ๊กโกโลของแม่จนตาย
คนคิดว่าช่วงนั้นอาชีพของเธอจะพังทลายจากเรื่องอื้อฉาวของลูกตัวเอง แต่เปล่า กลับเป็นปีที่ดวงของเธอพุ่งกระฉูด เพราะหนังที่ออกฉายในปีนั้น (Imitation of Life) ดังสนั่น
ในชีวิตผม ผมรู้จัก LT ก่อน โดยได้ไปดูหนังเรื่อง Madame X (1966) โดยใช้ชื่อไทยว่า ‘แก้วตาแม่’ ไปกับพี่ ฉายที่โรงหนังคิงส์ ตอนนั้นผมอายุยังไม่แตะเลข 10 เลย จำอะไรไม่ค่อยได้นอกว่า หนังเศร้าสุดขั้ว ผมนั่งร้องไห้ตั้งแต่ลูกซึ่งเป็นทนายความรู้ความจริงว่าหญิงชราที่ตัวเองกำลังแก้ต่างให้อยู่นั้น ที่แท้คือแม่ของตัวเอง และที่ต้องมาติดคุกก็เพราะทำเพื่อลูกตัวเอง ฉากต่อจากนั้นจนจบเรื่อง ผมจำไม่ได้เลย เพราะเอาแต่ร้องไห้ พอหนังเลิก ออกมาจากโรงโดนพี่ด่าอีกว่าร้องไห้เสียงดังมาก จนคนข้าง ๆ ต้องหันมาดู น่าอับอาย
อีกแสนนาน เมื่อมีช่อง TCM และผมก็ได้ดูหนังเรื่องนี้อีกทีถึงรู้ว่าตอนจบเป็นอย่างไร
ช่อง TCM เอาหนังของ LT มาให้ผมดูหลายเรื่อง Peyton place, Postman always rings twice (ต้นฉบับของหนังปี 1981 ที่ทำให้นักวิจารณ์ต่างขอโทษขอโพย Jessica Lange ว่าแสดงหนังไม่เป็น เป็นแต่ร้องวี้ด ๆ ในหนัง King kong (1976) อันทำให้ต้นฉบับร้องวี้ด ๆ คือ คุณย่า Fay Wray (1933) ยังคงเป็นแม่แบบต่อไป)
แล้วก็หนังดังที่อยากดูมานาน คือหนังที่ออกฉายในช่วงเวลาอื้อฉาวของเธอ Imitation of Life (1959) เรื่องเกี่ยวกับ ดาราดังกับแม่บ้าน นิโกร ทั้งคู่มีลูกสาวในวัยเดียวกัน คนนึงเป็นลูกสาวดารา อีกคนเป็นลูกสาวแม่บ้านถามมีผิวสี แม้สีจะไม่เด่น แต่ก็เกิดปมด้อย นี่คือ theme ของเรื่อง
จุดเด่นไม่ได้อยู่ที่ LT แต่อยู่ที่แม่ลูกนิโกร ตอนจบก็ต่อมน้ำตาแตกตามเคยเมื่อแม่นิโกรตาย ตอนที่ดูนั้นผมอายุเลย 30 แล้ว แต่นั่งร้องไห้เป็นเผาเตา
นี่คือหนึ่งในฉากเศร้าสุดกู่
หนังดังทั้งรางวัล (2 แม่ลูกได้เข้าชิง Oscar) และเงิน
ข้ามมา DK ผมได้ดูหนังของเธอมากกว่า เช่น From here to eternity, Tea and sympathy, Young bess, Heaven knows Mrs. Allison ฯลฯ แต่ไม่เคยดู The king and I
ได้มีโอกาสดูหนังโศกของเธอเรื่องนึง ซึ่งปรากฏว่ากลายเป็นหนัง classic ตลอดกาลของนักวิจารณ์ คือ An affair to remember (1957) ตอนได้ดูนั้น IBC ยังไม่เกิด DVD ก็ยังไม่มี ผมดูทาง video รู้สึกพี่มนันยา นักแปล ให้เอามาดู
ร้องไห้เป็นเผาเต่าตามเคย ยิ่งฉากตอนท้าย ๆ เมื่อพระเอกเอะใจว่าทำไมนางเอกช่างเย็นชาเสียเหลือ และมาค้นพบความจริงว่า .... ผมละโฮ ๆ ๆ เลย
หนังดังขนาดเป็นแรงบันดาลใจให้กับเนื้อเรื่องของหนัง Sleepless in Seattle (1993 – นัดเจอกันที่ตึก Empire state) กับ Warren Beatty เอามาสร้างใหม่ (แต่ไม่ดัง) ในเรื่อง Love affair
ปล. DK ได้เข้าชิง Oscar 6 ครั้ง แต่ไม่เคยได้ คณะ กก. มาให้รางวัลเกียรติยศในปี 1994 ผมว่าเธอไม่ใช่แค่นักแสดงที่มีความสามารถเท่าแต่ยังเป็นดาราที่มีความสง่างามจนหยดสุดท้าย
ปล. เรื่อง Tea and sympathy ของเธอ เยี่ยมมากครับ