เรือนไทย

เท่าที่ได้ศึกษามาจะพบว่าเจ้านายในสมัยรัตนโกสินทร์ส่วนใหญ่มักจะได้กำกับกรมต่างๆ ทั้งใหญ่และเล็ก

บางองค์ทรงว่าราชการหลายกรม อย่างเช่น

- รัชกาลที่ ๓ เมื่อครั้งเป็นกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ได้ทรงกำกับราชการกรมท่า กรมพระคลังมหาสมบัติ กรมตำรวจว่าความฎีกา
- พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อยังทรงเป็นเจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ได้บังคับบัญชากรมทหารแม่นปืนหน้า ปืนหลัง ญวนอาสารบ แขกอาสาจาม
- กรมพระยาบำราบปรปักษ์ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ได้กำกับกรมวัง กรมพระคชบาล กรมสังฆการีธรรมการ
- กรมขุนวรจักรธรานุภาพ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ได้กำกับกรมพระนครบาล กรมหมอ กรมช่างเคลือบ ช่างหุงกระจก กรมญวนหก กรมท่า


เท่าที่ทราบ การให้เจ้านายได้กำกับกรมต่างๆ ไม่ปรากฏหลักฐานในสมัยอยุทธยา แต่เพิ่งมีในสมัยรัตนโกสินทร์ เลยสงสัยว่าการให้เจ้านายพระองค์ต่างๆ ได้มาควบคุมกรมกองต่างๆ นั้นเป็นวิธีที่จะช่วยเพิ่มอำนาจทางการบริหารให้กับพระราชวงศ์มากขึ้นหรือเปล่าครับ

แล้วก็อยากทราบว่าอำนาจหน้าที่ของเจ้านายที่กำกับกรมเหล่านี้มีอะไรบ้าง มีอำนาจบังคับบัญชาต่างจากเสนาบดีที่เป็นเจ้ากรมนั้นๆ อย่างไรบ้างครับ


ขอบคุณครับ

หลังจากใช้คีย์บอร์ดอย่างชะล่าใจมาเป็นเวลานานหลายทศวรรษ    นิ้วที่ใช้จิ้มก็ก่อการปฏิวัติ  ยอมหักไม่ยอมงอ
สรุปว่าเกิดอาการนิ้วล็อคค่ะ
ตอนนี้ตอบได้แต่สั้นๆ    ใครช่วยตอบเรื่องกำกับกรม  จะขอบคุณยิ่ง

เรื่องเจ้านายกำกับกระทรวงราชการ ไม่ปรากฎว่ามีมาแต่ในรัชกาลที่ ๑ จึงยุติว่าพึ่งมีขึ้นในรัชกาลที่ ๒ เปนปฐม แลเปนแบบอย่างต่อมา เหตุใดจึงโปรดให้เจ้านายมีน่าที่กำกับกระทรวงราชการ ความข้อนี้ไม่พบจดหมายเหตุที่จะถือเปนหลักฐาน ได้แต่สันนิฐาน ข้าพเจ้าเข้าใจว่าจะเปนด้วยเหตุ ๒ ประการ คือ ประการที่ ๑ จะเปนด้วยเมื่อจัดกองทัพไปรบพม่า เมื่อปีมเสงเอกศก จะมีการบางอย่างไม่เปนไปได้ดังพระราชประสงค์ ด้วยข้าราชการซึ่งเปนเจ้ากระทรวงต่าง ๆ หย่อนความสามารถ ทรงพระราชดำริห์เห็นว่า ต้องการกำลังช่วยคิดอ่านอุดหนุนราชการในกระทรวงนั้น ๆ จึงทรงเลือกสรรเจ้านายซึ่งมีความสามารถ แลเปนที่ไว้วางพระราชหฤไทยไปช่วยราชการต่างกระทรวง หรือมิฉนั้นประการที่ ๒ ในเวลานั้นเจ้านายที่เจริญพระชนมายุแลความสามารถมีหลายพระองค์ จะทรงพระราชดำริห์เห็นว่า ให้มีน่าที่ประจำราชการอย่างใดเสียบ้าง ดีกว่าทิ้งไว้ให้อยู่เปล่า จึงทรงเลือกสรรเจ้านายซึ่งทรงไว้วางพระราชหฤไทยในความสามารถให้ไปช่วยราชการต่างกระทรวง ข้าพเจ้าสันนิฐานว่ามูลเหตุที่โปรดให้เจ้านายไปกำกับราชการต่างกระทรวง อาจจะเปนด้วยเหตุ ๒ ประการดังกล่าวมานี้ ลักษณที่เจ้านายกำกับราชการเมื่อครั้งรัชกาลที่ ๒ นั้น พิเคราะห์ดูตามความที่ปรากฎในหนังสือเก่า ดูเปนทำนองที่ปฤกษาของเสนาบดีหรือผู้เปนหัวน่าในกระทรวงทบวงการนั้น ๆ  คือ ถ้าเจ้ากระทรวงจะทำการอันใด ต้องทูลปฤกษาหารือเจ้านายซึ่งทรงกำกับราชการกระทรวงนั้นก่อน ส่วนกระแสพระราชดำริห์ ก็ทรงปฤกษาเจ้านายผู้กำกับกระทรวงนั้นด้วยเหมือนกัน เข้าใจว่าลักษณการกำกับเปนเช่นกล่าวนี้

จาก พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒ พระนิพนธ์ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ฉบับพิมพ์ครั้งแรก ปีมโรงอัฐศก พ.ศ. ๒๔๕๙

ขอให้ อ.เทาชมพูหายไวๆ นะครับ

ขอบคุณคุณเพ็ญชมพูมากครับ รายละเอียดครบถ้วนตรงคำถามมากครับ

โรคาที่ราวี             ขอจงลี้หลบหลีกไกล
ทุกข์โศกโรคสลาย     หายไวไวนะเจ้าเรือน

ขอบคุณค่ะ  จะพยายามค่ะคุณหมอ  นิ้วได้พักก็ดีขึ้น  แต่ยังปวดกลางฝ่ามืออยู่  
น่ากลัวจะต้องถึงเข็มถึงมีดของหมอจริงๆด้วย

        เคยเป็นจนต้องฉีดยาเฉพาะที่(นิ้ว)ไปครั้งหนึ่งเมื่อนานมากแล้ว หลังจากนั้นจึงระวังมือ
ไม่ไห้เป็นอีกครับ
        ยารับประทานตัวต้านการอักเสบนั้น รับประทานแล้วอาจระคายกระเพาะ,ความดันขึ้นและ
ถ้าใช้นานๆ อาจมีบวม,ไตทำนานลดลงได้โดยเฉพาะในคนสูงวัยที่มีโรคประจำตัว ส่วนยาทาช่วย
ประทังได้ จะชอบใช้เจลพริกที่ออกร้อนๆ ทาในปริมาณไม่มากเกินไปแล้วนวดคลึงและค่อยๆเหยียด
นิ้วออก   
        บางรายอาจต้องใช้ตัวช่วย เช่น อัลทราซาวน์หรือถึงขั้นฉีดยาเฉพาะที่ ส่วนการผ่าตัดนั้นคือขั้นสุดท้าย

        ดีขึ้นแล้วต้องระวังกิจกรรมที่ทำให้เป็นใหม่ได้อีก เช่น การหิ้วของหนักๆ การกำ จับ บิด บีบไม่ว่าจะ
เป็นงานบ้านหรืออื่นๆ การกดแป้นพิมพ์ การใช้กรรไกรที่ออกแรงบีบมาก เป็นเวลานานๆ และทำท่าเดิมซ้ำๆ
        พักผ่อนการใช้มือและขยับมือโดยการการแบ - กำๆ เป็นระยะ หรือถ้าเริ่มรู้สึกเจ็บๆ ขัด ก็ใช้เจลทานวด
และเหยียดนิ้วออก และพักการใช้นิ้วมือ
        ตอนนี้ไม่มีอารนิ้วล็อคมานานจนจำไม่ได้ว่าเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อไรครับ

กลายเป็นกระทู้นิ้วล็อคไปแล้ว     ออกไปเมื่อไหร่จะไปหาเจลพริกมาค่ะ ขอบคุณคุณหมอ SILA มากค่ะ
พยายามไม่ใช้นิ้วที่มีปัญหา  ไม่หิ้วของ  ค่ะ

ผมเคยเจ็บข้อมือขวา คงมาจากใช้เมาส์เยอะ+ตัดหญ้า รักษาด้วยการใส่ตัวพยุงข้อมือ+กินยา (ซึ่งส่งผลกับกระเพาะจริง ๆ ครับ) เหมือนจะดีขึ้นแล้วก็เป็นอีกวนไปวนมา ตอนนั้นกลัวมากเพราะภารกิจเยอะป่วยไม่ได้ ตายไม่ได้ จะฉีดยาเข้าเส้นเอ็นก็กลัวเอ็นเปื่อย เรื่องผ่าตัดไม่ต้องพูดถึง


จึงตัดสินใจเลิกวาดรูปไปเลย (วาดในคอมเนี่ยแหละ ตัวใช้เมาส์เลย) กับขายที่ดินบางส่วนไปเลย และพยายามใช้มือซ้ายทำงานแทนทั้งหมดกระทั่งทานข้าว อันที่จริงว่าจะหัดเขียนให้ได้ด้วยซ้ำ ฮ่า ฮ่า


แต่ก็ยังดื้อใช้คอมทำอะไรไปเรื่อยเปื่อยเหมือนเดิมอยู่ดี จนถึงช่วงที่ต้องมาคุมงานทำรั้วบ้านจึงต้องหยุดทุกอย่างไปเลย 2-3 เดือน มันก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนทุกวันนี้หายแล้วครับ วันไหนทำท่าไม่ดีก็หยุดพักใช้ยาช่วยทานวดทุเลา


กายภาพบำบัดช่วยได้มหาศาลครับ ผมทำบ้างไม่ทำบ้างยังหายดีเลย  :D

เห็นภาพชัดค่ะ สงสัยข้อเดียว ทำไมข้อมือเจ็บถึงต้องขายที่ดินให้มันทุเลา

555 นั่นสินะ

เป็นที่ดินแปลงติดกับตัวบ้าน แล้วต้นไม้ใบหญ้ามันขึ้นเยอะน่ะครับ ผมก็ดันอยู่ไม่สุขนึกว่าตนเองเป็นระพิน ไพรวัลย์ เลยจัดการถางหญ้าด้วยมีดขอบ้าง มีดพร้าบ้าง สะสมนานเข้าเกือบ 2 ปีเลยมีอาการปรากฎ


พอมือเจ็บเลยเลิกดื้อจ้างมืออาชีพมาจัดการ ต้นไม้ใบหญ้าออกไปหมดดูดีกว่าเดิม บังเอิญมีคนสนใจจึงตัดสินใจขายดีกว่า ค่อยไปหาที่ห่างตัวเมืองปลูกสวนกล้วย เลี้ยงเป็ดไร่ทุ่ง ทำฟาร์มเห็ดในอนาคตแล้วกัน