เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: Sujittra ที่ 21 พ.ค. 12, 22:49



กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: Sujittra ที่ 21 พ.ค. 12, 22:49
เรียนท่านเทาชมพูผู้ดูแลเว็บที่นับถือ
ผมเฝ้าติดตามอ่านเว็บเรือนไทยด้วยความชื่นชมตลอดมาเพราะมีสาระและความรู้อย่างมากมายที่จะหาจากที่อื่นได้ แค่เพียงเรื่อง "ชะตากรรมของพระยาทรงสุรเดช" ก็ทำให้ผมได้เติมเต็มความรู้ขึ้นอีกอักโข
สิ่งหนึ่งที่ผมสนใจคือประวัติศาสตร์โลก ซึ่ง "เรือนไทย" มีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ไทย" แล้ว แต่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์โลกโดยเฉพาะของต่างประเทศนั้นยังหาค่อนข้างยาหเพราะมักจะซุกอยู่ตามหัวข้อต่างๆ
จึงอยากเรียนเสนอท่าน "เจ้าเรือน" ได้ช่วยโปรดเอ็นดูผู้อ่านโดยการเปิดหัวข้อ General Category เพิ่มคือเรื่อง "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" ซึ่งท่าน "เจ้าเรือน" ก็สามารถที่จะนำกระทู้เกียวกับประวัติศาสตร์ต่างประเทศที่มีอยู่แล้วมาใส่ใน Category ใหม่นี้
ผมเชื่อว่าจะมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นอีกมากมาย
โปรดพิจารณา


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 พ.ค. 12, 09:08
ประวัติศาสตร์ของต่างประเทศ  ไม่ว่าตะวันตกหรือตะวันออกด้วยกัน รวมอยู่ในห้อง "หน้าต่างโลก"ค่ะ     ถ้าคุณ Sujitra จะค้นก็ค้นในห้องนี้
ดิฉันส่งคำถามของคุณไปให้แอดมินแล้ว  เพราะถ้าเพิ่มห้องใหม่  แอดมินต้องทำ ดิฉันตั้งไม่เป็น

ตอนนี้เรือนไทยมี 10 ห้องแล้ว   ถ้าแยกห้องเพิ่ม  จำนวนกระทู้ในแต่ละห้องก็จะยิ่งน้อยลงไป    ถ้าไม่มีใครมาตั้งกระทู้เพิ่ม   ห้องก็จะนิ่งสนิท
ข้อนี้เป็นปัญหาข้อหนึ่งค่ะ   ไม่ทราบว่าคุณ sujitra และท่านอื่นๆมีความเห็นอย่างไรบ้างคะ เชิญแลกเปลี่ยนกัน


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 พ.ค. 12, 10:09

ผมเฝ้าติดตามอ่านเว็บเรือนไทยด้วยความชื่นชมตลอดมาเพราะมีสาระและความรู้อย่างมากมายที่จะหาจากที่อื่นได้ แค่เพียงเรื่อง "ชะตากรรมของพระยาทรงสุรเดช" ก็ทำให้ผมได้เติมเต็มความรู้ขึ้นอีกอักโข

ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ   หวังว่าคุณ Sujitra คงจะเข้ามาร่วมอ่านและสนทนากับชาวเรือนไทยต่อไปอีกนานๆนะคะ 

กระทู้ "ชะตากรรมของพระยาทรงสุรเดช" เป็นหนึ่งในกระทู้มหากาพย์ที่ท่าน NAVARAT.C แบ่งปันเป็นวิทยาการไว้ในเรือนไทย    กระทู้ของท่านทั้งกระทู้นี้และกระทู้อื่นๆ แม้ว่าตกจอไปแล้วก็ยังมีผู้เข้ามาอ่านอย่างสม่ำเสมอ  เช็คได้จากจำนวนผู้คลิกเข้ามาอ่านกระทู้พระยาทรงสุรเดช   จนถึงวันนี้ ได้  41339 ครั้ง แล้ว


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: admin ที่ 22 พ.ค. 12, 13:59
เปิดให้ใหม่ตามคำขอแล้วครับ ขอความกรุณาสมาชิกช่วยกันอุดหนุนอย่าให้เหงาเกินไปนะครับ


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 22 พ.ค. 12, 14:13
ใต้ชื่อห้องประวัติศาสตร์โลก เสนอให้เขียนคำบรรยายว่า "เรื่องราวที่ผ่านมาของเทศ"

และห้องที่ยังว่างอยู่ หากท่านเจ้าเรือนจะย้ายกระทู้ที่เกี่ยวข้องที่กระจัดกระจายอยู่ตามห้องต่าง ๆ มาไว้ในห้องนี้ ก็จะเป็นการสมควรอย่างยิ่ง

 ;D


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: Sujittra ที่ 22 พ.ค. 12, 16:15
ต้องกราบพระคุณท่านเทาชมพูและทีมงานเว็บมาสเตอร์ที่กรุณาครับ


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 พ.ค. 12, 20:47
ใต้ชื่อห้องประวัติศาสตร์โลก เสนอให้เขียนคำบรรยายว่า "เรื่องราวที่ผ่านมาของเทศ"

และห้องที่ยังว่างอยู่ หากท่านเจ้าเรือนจะย้ายกระทู้ที่เกี่ยวข้องที่กระจัดกระจายอยู่ตามห้องต่าง ๆ มาไว้ในห้องนี้ ก็จะเป็นการสมควรอย่างยิ่ง

 ;D


ยังไม่สนิทใจกับคำว่า "เทศ"โดดๆคำเดียว  มันห้วนไปค่ะ    นอกจากนี้ เราไม่ได้ใช้คำว่า "เทศ" ในความหมายทั่วไปว่าต่างประเทศ
ขอเสนอให้คุณเพ็ญชมพูช่วยแก้ไข    หรือท่านอื่นๆช่วยกันคิด คนละไม้คนละมือ ดีไหมคะ


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 22 พ.ค. 12, 23:18
คำว่า "เทศ" ความหมายเดิมน่าจะแปลว่า "สถานที่" เพียงเท่านั้น ไทยเราเอามาใช้ในบางที่เป็นคำขยายคำนามหมายถึงต่างประเทศ แต่ไม่ใช้โดดๆในความหมายนี้ครับ

แต่ชื่อห้องเป็น ประวัติศาสตร์เทศ คู่กับ ประวัติศาสตร์ไทย ก็เข้าทีดีครับ


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: Sujittra ที่ 22 พ.ค. 12, 23:32
ต้องขอโทษที่จะร้องว่า "ไชโย" เพราะตอนนี้มีการรวบรวมกระทู้ต่างๆที่เกี่ยวข้องเข้ามาอยู่ในหัวข้อ "ประวัติศาสตร์โลก" ถึง ๖๑ กระทู้ ทำให้ผมสะดวกขึ้นมากที่จะอ่านกระทู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์หรือเรื่องราวต่างๆต่างประเทศ
กราบขอบพระคุณท่าน "เทาชมพู" เว็บมาสเตอร์และทุกท่านอีกครั้งหนึ่งครับ


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 พ.ค. 12, 13:00
คำว่า "เทศ" ความหมายเดิมน่าจะแปลว่า "สถานที่" เพียงเท่านั้น

ความหมายเดิมของ "เทศ" देश deza มีหลายอย่าง


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 พ.ค. 12, 13:09
ไทยเราเอามาใช้ในบางที่เป็นคำขยายคำนามหมายถึงต่างประเทศ แต่ไม่ใช้โดดๆในความหมายนี้ครับ

เป็นไปตามความหมายของรอยอิน

เทศ, เทศ-, เทศะ [เทด, เทดสะ-, เทสะ] ว. ต่างประเทศ เช่น เครื่องเทศ ม้าเทศ. น. ถิ่นที่, ท้องถิ่น, มักใช้เป็นส่วนหน้าสมาส.

ภาษามีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ คำว่า "เทศ" ก็เช่นเดียวกัน

ตัวอย่างจากนิตยสารมติชนรายสัปดาห์

ชื่อคอลัมน์ "เทศมองไทย"

เทศ นี้คือ น. ต่างประเทศ

 ;D
 
 


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 พ.ค. 12, 13:20
ตัวอย่างจากรายการโทรทัศน์

ชื่อรายการ "มองเทศมองไทย"

เทศ นี้คือ น. ต่างประเทศ เช่นกัน

 ;D


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 พ.ค. 12, 14:59
ช่วยอ่านให้ถี่ถ้วนตรงประเภทของคำ ด้วยค่ะ

เทศ, เทศ-, เทศะ [เทด, เทดสะ-, เทสะ] ว. ต่างประเทศ เช่น เครื่องเทศ ม้าเทศ
คำว่าเทศ ที่แปลว่าต่างประเทศ  รอยอินบอกว่าเป็นคำวิเศษณ์  หมายความว่าใช้ประกอบนาม  ไม่ใช่คำโดดๆ    
คำว่าประวัติศาสตร์เทศ จึงถูกต้อง แปลว่าประวัติศาสตร์ต่างประเทศ

แต่ถ้าเป็นคำนาม
น. ถิ่นที่, ท้องถิ่น, มักใช้เป็นส่วนหน้าสมาส.
แปลว่าถิ่นที่  ไม่ได้แปลว่าต่างประเทศ
เหมือนในคำว่า เทศกาล  เทศบัญญัติ  
มติชนเขามีพจนานุกรมของเขาอยู่แล้ว จะใช้คำอะไรก็เป็นไปตามหลักของเขา  ไม่ขึ้นกับคนอื่น แต่คุณเพ็ญชมพูมักจะอ้างรอยอิน มากกว่าพจนานุกรมของมติชน   ดิฉันก็ขอเสนอให้ขอยึดรอยอินก่อนก็แล้วกัน

ส่วนในค.ห. 9  คุณม้าคงหมายถึงความหมายเดิมในภาษาไทย   ไม่ใช่ตามความหมายของพราหมณ์ในอินเดีย   เพราะเรือนไทยมีไว้สำหรับคนอ่านภาษาไทยเท่านั้น


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 พ.ค. 12, 15:15
มติชนเขามีพจนานุกรมของเขาอยู่แล้ว จะใช้คำอะไรก็เป็นไปตามหลักของเขา  ไม่ขึ้นกับคนอื่น แต่คุณเพ็ญชมพูมักจะอ้างรอยอิน มากกว่าพจนานุกรมของมติชน   ดิฉันก็ขอเสนอให้ขอยึดรอยอินก่อนก็แล้วกัน

ไม่มีพจนานุกรมฉบับมติชนอยู่ในมือเสียด้วย จึงไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาอธิบายว่าอย่างไร

ตัวอย่างที่ยกขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นว่า ภาษากำลังเปลี่ยนแปลงโดยเริ่มจากสื่อหนังสือและโทรทัศน์

หากก้าวให้พ้นตัวอย่างของมติชน ก็ยังมีตัวอย่างของรายการโทรทัศน์ของนักกีฬาทั้ง ๒ สี

สีหนึ่งชื่อรายการ "มองเทศมองไทย" อีกสีหนึ่งชื่อรายการ "มองไทยมองเทศ"

 ;D


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 23 พ.ค. 12, 20:17
ขออภัยครับ เป็นความผิดของผมเองที่เขียนไม่ชัดเจน

ที่ว่าเทศหมายถึงสถานที่เท่านั้น คือไม่ได้หมายถึง "สถานที่อื่น" น่ะครับ

ซึ่งก็น่าสนใจว่าคำนี้ไทยเราใช้ในความหมายนี้ได้อย่างไร

และน่าสนใจอีกด้วยว่า คำนี้ถูกนี้มาใช้ในความหมายว่า "ท้องถิ่น" เริ่มจาก เทศบาล เทศกิจ เทศบัญญัติ เทศมนตรี ฯลฯ เท่ากับมีความหมายในทางตรงข้ามกับอีก "เทศ" หนึ่งเลยทีเดียว

ส่วนข้อที่คุณเพ็ญชมพูว่ามีการนำคำว่าเทศมาใช้ลอยๆในความหมายว่าต่างประเทศนั้น ผมเห็นด้วยครับ แต่อยากจะชี้ให้เห็นว่าล้วนแล้วแต่เป็นการใช้ในคำพาดหัว ซึ่งถือเป็นลักษณะพิเศษครับ และผมคิดว่าจะไม่แปลกเช่นเดียวกันหากเราจะพบใช้ในภาษากวี แต่การใช้ในเชิงบรรยาย ผมคิดว่ายังมาไม่ถึงครับ คุณเพ็ญชมพูอาจจะเป็นผู้ริเริ่มใช้เป็นท่านแรกก็เป็นได้ครับ ถ้าคำนี้เกิดฮิตเป็นคำใหม่ขึ้นมา อาจต้องให้เครดิตคุณเพ็ญชมพูครับ

: )


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 พ.ค. 12, 20:37
ส่วนข้อที่คุณเพ็ญชมพูว่ามีการนำคำว่าเทศมาใช้ลอยๆในความหมายว่าต่างประเทศนั้น ผมเห็นด้วยครับ แต่อยากจะชี้ให้เห็นว่าล้วนแล้วแต่เป็นการใช้ในคำพาดหัว ซึ่งถือเป็นลักษณะพิเศษครับ และผมคิดว่าจะไม่แปลกเช่นเดียวกันหากเราจะพบใช้ในภาษากวี แต่การใช้ในเชิงบรรยาย ผมคิดว่ายังมาไม่ถึงครับ คุณเพ็ญชมพูอาจจะเป็นผู้ริเริ่มใช้เป็นท่านแรกก็เป็นได้ครับ ถ้าคำนี้เกิดฮิตเป็นคำใหม่ขึ้นมา อาจต้องให้เครดิตคุณเพ็ญชมพูครับ

: )

ไม่แน่ใจว่าคำว่า "ไทยเทศ" ของคุณประยอม ซองทอง ในบทกวีข้างล่างนี้ หมายถึงท้องถิ่นไทย หรือคนไทยและคนต่างประเทศ

              แปดสิบสี่พรรษาศุภมังคลาธิษฐาน
   
        กรองร้อยสร้อยบุปผา      ทิพมาลาบูชาพระบาท
นวมินทร์มหาราช         มิ่งขวัญชาติทุกชั้นชน
   ร้อยรวงพวงกุหลาบ      หลากกลิ่นซาบสีถกล
ดั่งไทยเทศทั่วมณฑล      เกริกเกียรติก้องซ้องสรรเสริญ
   กรองร้อยสร้อยฝ้ายคำ   เหลืองคลาคล่ำราชดำเนิน
แซ่ซ้อง “ทรงพระเจริญ”      เกินคลื่นครอบขอบนภา
   หกสิบห้าปีทองฉัตร      ป้องราษฎร์รัฐยุติธรรมา
ทศธรรมนำประชา         หาผ่อนพักหนักทุกข์ผอง
   ร้อยรวงฟ้ามุ่ยฟ้า      สดสีจ้าฟ้าลำยอง
รองบาทลาดสำนอง         ฉลองพระองค์ทรงเฉิดฉัน
   แต้มใจไทยทั่วหล้า      พระผ่านฟ้าฟื้นคืนพลัน
ขวัญหล้าชนานันท์         ฉัตรปกเกล้านิรันดร์กาล
   ร้อยรวงพวงชมพู      ตรูฤดีเปรมปรีดิ์มาน
ประกาศราชสราญ         โรคาพาธประลาตสลาย
   ก้าวลงทรงดำเนิน      เชิญมาลาผคมถวาย
พระชนกชนนีฉาย         เฉิดฉัพพรรณกตัญญู
   น้ำตาชนเต็มตื้น      ก้อนสะอื้นครืนพรั่งพรู
ซึ้งจิตติดตาตรู         พระเกียรติก้องเกริกสากล
   กรองร้อยสร้อยใบตอง      ขจีผองพรรณพฤกษ์ผล
ส่องฉายทิพไพรสณฑ์      พระเสกสรรค์เนิ่นพรรษา
   เฉกฉลัก “ป่ารักษ์น้ำ”      คุณค่าล้ำ “น้ำรักษ์ป่า”
รวมปลูกชีพประชา         เทิดคุณธรรมนำทวยไทย
   แปดสิบสี่ชนมพรรษา      มิ่งมหามงคลชัย
ขอพรพระรัตนตรัย         นิรัติศัยเฉลิมพระชนม์
   ตราบกาลนิรันดร      สถาวรวิมงคล
ปิ่นฉัตรรัฐมณฑล         จิรัฐิติกาลเทอญ
      ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
           ข้าพระพุทธเจ้า หนังสือพิมพ์ ไทยโพสต์
   (นายประยอม  ซองทอง  ศิลปินแห่งชาติ ร้อยกรอง)



ถ้าความหมายหลัง ถึงแม้เป็นบทกวีแต่ก็เป็นบทกวีเชิงบรรยาย

คุณม้าเห็นจะต้องในเครดิตคุณประยอมแล้วกระมัง

 ;D


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: นิลนนท์ ที่ 23 ก.ย. 12, 22:10

สิ่งของเครื่องใช้ หรือผ้าผ่อนสไบในสมัยก่อนจะเป็นของฝรั่งอาหรับหรือของอิหร่าน มักเป็นสินค้าที่อินเดียรับช่วงนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย เราเรียกสิ่งที่เรามีอยู่เดิมแต่ได้แปลกเข้ามาใหม่จากต่างประเทศ โดยมาผ่านมาทางอินเดียว่าเทศ เช่น ม้าเทศ เป็ดเทศ นกกระจอกเทส ผ้าขาวเทศ เครื่องเทศ มันเทศ น้ำดอกไม้เทศ มะนาวเทศ มะขามเทศ จันทร์เทศ พริกเทศ มะเขือเทศ ซึ่งล้วนมีความหมายว่ามาจากเมืองเทศหรือต่างประเทศทั้งนั้น ยังจำได้มาแต่เด็กว่า "อะไรเอ่ย มาจากเมืองเทศ มีจุกมีเกศ มีตารอบตัว" ท่านรู้ไหมว่าเป็นอะไร ไม่รู้โปรดถามเด็ก คนอินเดียวชาวเมืองคุชราฐ ซึ่งส่วนมากเป็นพ่อค้านำสิ่งของเหล่านี้มาขาย เราก็เรียกว่าแขกเทศด้วย มาภายหลังสินค้าจากต่างประเทศไม่เรียกว่าของเทศ มักเรียกกันว่าของนอก คงจะมาเปลี่ยนคำจากเทศเป็นนอก เมื่อสั่งของตรงมาจากยุโรป คือ เมืองนอกคู่กับเมืองเทศ ซึ่งในสมัยโน้นส่วนมากคงหมายถึงอินเดีย

"อะไรเอ่ย มาจากเมืองเทศ มีจุกมีเกศ มีตารอบตัว" ใครพอจะบอกได้บ้างครับว่าท่านเสฐียรโกเศศกล่าวถึงอะไร


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ย. 12, 23:04
"อะไรเอ่ย มาจากเมืองเทศ มีจุกมีเกศ มีตารอบตัว" ใครพอจะบอกได้บ้างครับว่าท่านเสฐียรโกเศศกล่าวถึงอะไร

V
V
ยังไม่เห็นใครตอบ เลยอาสาตอบเองตามรูปข้างล่างค่ะ


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 ก.ย. 12, 09:19
สับปะรดคงเดินทางจากเมืองเทศเข้ามาเมืองไทยก่อนสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพราะในหนังสือของลาลูแบร์ก็กล่าวถึง Saparot  มีคำบรรยายอย่างละเอียดพร้อมภาพประกอบเหมือนของจริงผิดกับ รูปประกอบต้นไม้ผลชนิดอื่น ๆ (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5373.msg113230#msg113230)

The Ananas, in Siamese Saparot, has the meat white, and the taste of our Peaches. Its meat is mixed with little wood, not a wood which separates, as there is in our nuts, but with a wood that adheres thereto, and which is only the meat over-hardned; and it is at the Center that it begins to grown hard. The Ananas is believed unwholsom, because that its juice, they say, corrodes Iron. It is yellow when it is ripe, and then to smell it without opening it, it has the scent of a roasted Apple. Its Figure is like a great Pine Apple, it has little rindes curiously ranged, under which, to behold them, one would think that the kernels are. The Plant which produces it bears it at the top of its stalk, which is not three foot high. The Ananas keeps directly upon the little end; and at the great end there is a tuft of Leaves, like little Corn-flags, short, bent outwards, and toothed. Sometimes from the body of this Fruit, and at the sides, there grows like Wens; one or two other little Ananas, which have also their Tufts. Now every Tuft cut and put in the ground, may produce another Ananas, but every Plant bears only one, and bears no more than one.

 ;D


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: นิลนนท์ ที่ 24 ก.ย. 12, 17:22

สับปะรดมีมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์แล้ว ถ้าเช่นนั้นสับปะรดที่ท่านเสฐียรโกเศศหมายถึงคือสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย ไม่ใช่สับปะรดพันธุ์พื้นเมือง เป็นเพราะสับปะรดพันธุ์พื้นเมืองไม่เป็นที่นิยม คนสมัยนั้นไม่รู้จักคุ้นเคย เมื่อมีสับปะรดอร่อย ก็เลยตั้งปริศนาถามกันเล่น หรือว่าปริศนานี้มีคำตอบเป็นอย่างอื่นได้อีก

สับปะรดมีแหล่งกำเนิดจากทวีปอเมริกาใต้ มีชื่อวิทยาศาสตร์ Ananas comosus มาจาก nanas ภาษา Tupi หมายถึง excellent fruit
สับปะรดในไทย พันธุ์ปัตตาเวียมีที่มาดังนี้ "... กว่าร้อยปีที่แล้ว ประเทศไทยได้มีการติดต่อทำการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน โดยส่วนใหญ่ จะเดินทางค้าขายกันทางเรือ และในปี พ.ศ. 2455 มีแขกปาทาน จากมลายู เดินทางมาติดต่อค้าขายวัว โดยเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล ถึงอ่าวไทย และมุ่งเข้าสู่แม่น้ำปราณบุรี โดยแวะขึ้นฝั่งที่บ้านท่าข้าม (ปัจจุบันคือบ้านฝั่งท่า  หมู่ที่ 5  ตำบลวังก์พง  อำเภอปราณบุรี  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์) และพักค้างคืนที่บ้านของผู้ใหญ่ทอง  อิ่มทั่ว โดยผู้ใหญ่ทอง ได้จัดอาหารมาต้อนรับแขกปาทาน ซึ่งในสำรับนั้นมีสับปะรดพันธุ์อินทชิต ซึ่งเป็นพันธุ์พื้นเมือง มาให้แขกรับประทานด้วย เมื่อแขกได้ชิมสับปะรดแล้ว ก็บอกกับผู้ใหญ่ทอง ว่าที่เมืองของเขามีสับปะรดที่อร่อยมากกว่าที่นี่  และในระหว่างที่แขกพักค้างที่นั่น ได้เกิดเจ็บป่วย ผู้ใหญ่ทอง จึงพาไปให้พระช่วยรักษา จนหายป่วย ทำให้แขกผู้นั้นซาบซึ้งในน้ำใจ ผู้ใหญ่ทองมาก  เมื่อแขกผู้นั้นมีโอกาสมาติดต่อการค้าที่นี่อีกครั้งหนึ่ง ก็ได้นำหน่อสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย มาจำนวน 5 หน่อ ให้กับผู้ใหญ่ทอง จากนั้นผู้ใหญ่ทอง ก็นำไปปลูกบริเวณบ้าน เมื่อผลผลิตออกจึงรู้ว่ามีรสชาติดี จึงขยายหน่อให้ลูกหลานไปปลูกเพื่อบริโภคในครัวเรือน และมีการขยายหน่อไปสู่เกษตรกรในพื้นที่ปลูกเพื่อการค้าเรื่อยมา จนกระทั่ง ในปี พ.ศ. 2510 ก็มีโรงงานแปรรูปสับปะรดขึ้นมาแห่งแรก จึงทำให้เกษตรกรมีการขยายพื้นที่ปลูกกันมากขึ้นตามความต้องการของตลาด   
                จากเรื่องราวดังกล่าว ทำให้ชุมชนบ้านฝั่งท่าเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจ และต้องการเผยแพร่ให้คนทั่วไปได้รับทราบ จึงได้ดำเนินการพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้โดยจัดทำแปลงสับปะรด ไว้ ณ บริเวณบ้านผู้ใหญ่ทอง  อิ่มทั่ว ซึ่งปัจจุบันครอบครองโดยทายาทของผู้ใหญ่ทอง  คือ นางสุดจิตร  เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา"


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: นิลนนท์ ที่ 24 ก.ย. 12, 17:38
ส่วนสับปะรดภูเก็ต ได้เข้ามาจากทางมลายู  คนใต้ออกเสียงว่า หยานัด เป็นสับปะรดสายพันธุ์ควีน queen ได้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวคือ เนื้อจะหวานกรอบ กลิ่นหอม มีเยื่อใยน้อย (แต่กินมากแล้วแสบลิ้น) ทำให้คนทั่วไปเรียกว่า สับปะรดภูเก็ต ตามชื่อแหล่งปลูก

นางแล เป็นสายพันธุ์ยาเคน เป็นพันธุ์ย่อยของปัตตาเวีย นำมาจากสิงคโปร์ ปี 2480 30 หน่อ 3 สายพันธุ์ มาปลูกที่ตำบลนางแล อ.เมือง จ.เชียงราย ปลูกไปปลูกมาก็เปลี่ยนจากเนื้อสีขาวหวานกรอบกลายเป็นสีน้ำผึ้งหวานฉ่ำ ได้ขยายพันธุ์เพิ่มและเป็นที่นิยม เรียกชื่อว่าสับปะรดนางแลตามชื่อตำบล

ภูแล    เป็นสับปะรดสายพันธุ์ควีน เมื่อปี พ.ศ. 2520 นายอเนก ประทีป ณ ถลาง นำหน่อจากภูเก็ตมาปลูกที่นางแล ด้วยลักษณะภูมิศาตร์ได้ลักษณะพิเศษต่างจากสับปะรดภูเก็ต จึงตั้งชื่อเป็นภูแล โดยผสมมาจากชื่อภูเก็ตและชื่อนางแล

สับปะรดศรีราชา เป็นพันธุ์ปัตตาเวีย ปลูกแถวศรีราชา


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 12, 17:51
สับปะรดนางแล


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: นิลนนท์ ที่ 25 ก.ย. 12, 07:51
โดยผู้ใหญ่ทอง ได้จัดอาหารมาต้อนรับแขกปาทาน ซึ่งในสำรับนั้นมีสับปะรดพันธุ์อินทชิต ซึ่งเป็นพันธุ์พื้นเมือง มาให้แขก

ขอแก้เป็นพันธุ์อินทรชิต ไม่ใช่อินทชิต


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 25 ก.ย. 12, 16:45
ถ้าจำไม่ผิด แม้แต่กล้วยหรือพริก ที่ปัจจุบันมันไทยมากๆ ก็มีต้นกำเนิดจากอเมริกาใต้เช่นกัน


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 25 ก.ย. 12, 20:15
ตามตำราว่ากำเนิดกล้วยอยู่ในภูมิภาคนี้

หน้าตากล้วยสมัยพระนารายณ์ในหนังสือของลาลูแบร์

 ;D


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 25 ก.ย. 12, 21:59
ฮิฮิฮิ  จำผิดจริงๆ ด้วยครับ กล้วยมีต้นกำเนิดแถวบ้านเราจริงๆ ด้วย มีแต่พริกที่มีต้นกำเนิดแถวอเมริกากลางและใต้


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 ต.ค. 12, 08:33
ส่วนข้อที่คุณเพ็ญชมพูว่ามีการนำคำว่าเทศมาใช้ลอยๆในความหมายว่าต่างประเทศนั้น ผมเห็นด้วยครับ แต่อยากจะชี้ให้เห็นว่าล้วนแล้วแต่เป็นการใช้ในคำพาดหัว ซึ่งถือเป็นลักษณะพิเศษครับ และผมคิดว่าจะไม่แปลกเช่นเดียวกันหากเราจะพบใช้ในภาษากวี แต่การใช้ในเชิงบรรยาย ผมคิดว่ายังมาไม่ถึงครับ คุณเพ็ญชมพูอาจจะเป็นผู้ริเริ่มใช้เป็นท่านแรกก็เป็นได้ครับ ถ้าคำนี้เกิดฮิตเป็นคำใหม่ขึ้นมา อาจต้องให้เครดิตคุณเพ็ญชมพูครับ

เพิ่งเห็น เหตุว่าเป็นห้องของกระทู้ฮอตเรื่องคำจากภาษาอังกฤษ ๑๗๖ คำ

คงต้องให้เครดิต "เรือนไทย" ด้วย

 ;D


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 ต.ค. 12, 11:37
อีกห้องหนึ่ง


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 02 ต.ค. 12, 12:38
ไทยและเทศจาก google.com (https://www.google.com/search?q=%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8#hl=en&sclient=psy-ab&q=%22%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%22&oq=%22%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%22&gs_l=serp.3...95239.99534.0.100697.14.11.3.0.0.3.388.1796.3j6j1j1.11.0.les%3B..0.0...1c.1.W1Zu2SVztzk&pbx=1&bav=on.2,or.r_gc.r_pw.r_qf.&fp=a5e0e4633565668b&biw=1366&bih=737)

ประวัติศาสตร์เทศ จาก google.com (https://www.google.com/search?q=%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8#hl=en&sclient=psy-ab&q=%22%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%22&fp=391a912bee08e1a2)

 ;D


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: Sujittra ที่ 06 ต.ค. 12, 09:45
คงไม่ได้เกี่ยวกับที่ท่านผู้รู้หลายท่านกำลังพูดคุยกันเรื่อง "เทศ" แต่เพราะไม่รู้จะฝากความเห๋นทั่วไปไว้ที่ใด จะไปฝากกระทู้อื่นก็เกรงใจ จขกท. ก็เลยมาแปะไว้ที่กระทู้ที่ผมเร่มเอง

เรื่องราวเป็นประการฉะนี้ขอรับ

คือผมดูว่า ในเว็บนี้มีกระทู้ที่น่าสนใจมากมาย นอกจากน่าสนใจแล้วยังมีประโยชน์ในการให้ความรู้ซึ่งจะทำให้เราไม่หลงเป็นเหยื่อคนอื่น (โดยเฉพาะกระทู้ของคุณลุงเนาวรัตน์ในเรืองประวัติศาสตร์การเมือง) ปลูกจิตสำนึก ปลูกฝังค่านิยมที่ดี และปลูกฝังความเป็นคนไทย

อย่างไรก็ตามกระทู้เหล่านี้ก็จะถูกดันตกไปจากหน้ากระดานหน้าแรกเพราะหลังๆมีผู้เข้าตั้งกระทู้เพิ่มเติมโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นคำถาม(ไม่ว่าจะถามทดสอบสติปัญญา หรือถามเพื่อเอาคำตอบไปทำรายงาน ซ่งกรณีหลังนี้สังเกตว่า เมื่อได้คำตอบแล้วก็จบหรืออาจมีผู้ให้ความรู้เพิ่มเติมบ้าเล็กน้อยงแล้วก็จบ) ทำให้ผู้ที่แวะเยี่ยมเข้ามาต้องพลาดโอกาสที่จะได้รับรู้เรื่องราวดีๆจากกระทู้ดีๆ หรือถ้าจะเจอกระทู้เก่าๆที่ดีได้ก็ต้องเป็นกระทู้ที่มีผู้รู้เก่าๆหยิบยกขึ้นมาพูดคุย หรือผู้มาแวะเยี่ยมเยียนต้องเปิดไปในแต่ละหน้าของแต่ละกระทู้ซึ่งบางกลุ่มมียี่สิบกว่าถึงสามสิบหน้าซึ่งยากในทางปฏิบัติ (รวมทั้งสำหรับตัวกระปมด้วย)

ผมจึงเรียนปรึกษาหารือและใคร่อยากเสนอให้จัดพื้นที่บนเว็บเพิ่มเติมจากที่มีอยู่(ไม่ว่าจะด้วยเทคนิค(เขียนถูกหรือเปล่าครับ ชักไม่แน่ใจตั้งแต่เจอ 176 คำของราชบัณฑิต)ใดๆ) เพื่อการเข้าถึงที่สะดวก โดยเพิ่ทช่องทางนำเสนอการจัดอันดับกระทู้เรียงตามลำดับที่ "มีผู้เข้าอ่านมากสุด" จากมากไปน้อย และเรียงลำดับกระทู้ที่มี "ผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นมากสุด" จากมากไปน้อย โดยเฉพาะถ้าสามารถกระทำดังที่ผมเสนอลงไปในแต่ละกลุ่ม ทุกกลุ่ม (กลุ่มวรรณคดี กลุ่มประวัติศาสตร์ไทย ฯลฯ)

ไม่ทราบว่าพี่ๆ เพื่อนๆ ลุง ป้า น้า อา โดยเฉพาะท่านเจ้าเรือนและเว๊บมาสเต้อร์(พยายามเขียนแบบราชบัณฑิต) จะมีความเห็นประการใดบ้างครับ



กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ต.ค. 12, 15:26
เรื่องจัดอันดับที่คุณสุจิตราถาม  มีอยู่ใน database ค่ะ  แต่จะเอาขึ้นมาได้อย่างไรแบบไหน ทำได้หรือไม่
ต้องถามเว็บมาสเตอร์นะคะ   ดิฉันทำไม่เป็น


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: admin ที่ 07 ต.ค. 12, 00:16
ระบบที่คุณ Sujittra มีอยู่แล้วครับ แต่จะแยกตามหมวดหมู่ของกระทู้ สามารถใช้ได้โดยการคลิกที่ชื่อหมวดหมู่กระทู้ที่อยู่ครึ่งล่างของหน้าแรก เมื่อมีรายการกระทู้แสดงขึ้นมาแล้วสามารถเลือกเรียงลำดับตาม ชื่อกระทู้, จำนวนคคห.ตอบ, จำนวนครั้งที่มีคนอ่าน, เวลาที่มีคนแสดงคคห.ครั้งล่าสุด โดยคลิกเลือกการเรียงที่หัวข้อของรายการกระทู้ (กระทู้, ตอบ, อ่าน, ความคิดเห็นล่าสุด) คลิกครั้งหนึ่งเรียงน้อยไปหามาก คลิกซ้ำหัวข้อเดิมอีกครั้งจะเรียงจากมากไปหาน้อยครับ


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 07 ต.ค. 12, 06:37
โอ อยู่ในห้องนี้ตั้งแต่เป็นอสุรผัด(ลิงหนุ่ม) จนเป็นหนุมาน(ลิงแก่) ก็เพิ่งจะทราบนี่เอง

ขอบคุณคร้าบ


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ต.ค. 12, 21:58
ลองทำตามที่คุณม้าแนะนำ     ได้คำตอบมาว่ากระทู้ห้องประวัติศาสตร์ไทย ที่มีคนอ่านมากที่สุด 9 อันดับแรก คือกระทู้อะไรบ้าง
แค็ปหน้าจอมาให้ดูกัน   ความจริงน่าจะมี 10 อันดับแต่แค็ปได้แค่นี้เองค่ะ


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: Sujittra ที่ 07 ต.ค. 12, 23:11
ระบบที่คุณ Sujittra มีอยู่แล้วครับ แต่จะแยกตามหมวดหมู่ของกระทู้ สามารถใช้ได้โดยการคลิกที่ชื่อหมวดหมู่กระทู้ที่อยู่ครึ่งล่างของหน้าแรก เมื่อมีรายการกระทู้แสดงขึ้นมาแล้วสามารถเลือกเรียงลำดับตาม ชื่อกระทู้, จำนวนคคห.ตอบ, จำนวนครั้งที่มีคนอ่าน, เวลาที่มีคนแสดงคคห.ครั้งล่าสุด โดยคลิกเลือกการเรียงที่หัวข้อของรายการกระทู้ (กระทู้, ตอบ, อ่าน, ความคิดเห็นล่าสุด) คลิกครั้งหนึ่งเรียงน้อยไปหามาก คลิกซ้ำหัวข้อเดิมอีกครั้งจะเรียงจากมากไปหาน้อยครับ

แอะแฮ่ม! ขอบคุณมากครับ
(หน้าแหกอีกแล้วล่ะเรา)
 :-\  :'(


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: admin ที่ 08 ต.ค. 12, 00:02
คุณ Sujittra ถามถึง ผมก็ลองไปหาดู ถึงได้รู้ว่ามีเหมือนกันครับ  ;)


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 08 ต.ค. 12, 06:30
^


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ต.ค. 12, 10:30
10 อันดับที่มีคนอ่านมากที่สุด ของ หน้าต่างโลก


กระทู้: สมควรที่จะมีหัวข้อ "ประวัติศาสตร์ต่างประเทศ" เพิ่มขึ้นหริอยัง?
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ต.ค. 12, 10:34
10 อันดับฮิทของห้องวิเสทนิยม