visitna
|
ความคิดเห็นที่ 990 เมื่อ 12 พ.ค. 15, 15:50
|
|
วัดอนงคาราม วรวิหาร มีชื่อเดิมคือวัดน้อยขำแถม เป็นชื่อท่านผู้หญิงน้อย ซึ่งเป็นภรรยาของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัด บุนนาค) หรือสมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย เป็นผู้สร้างขึ้นคู่กันกับวัดพิชัยญาติแล้วถวายเป็นพระอารามหลวงในรัชกาลที่ 3 ส่วนคำว่าขำแถมนั้นมีเพิ่มเติมมาจากนามเดิมของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์มหาโกษาธิบดี (ขำ) ซึ่งเป็นผู้ปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ ต่อมาถึงสมัยรัชกาลที่ 4 วัดนี้ก็ได้รับพระราชทานชื่อใหม่ว่าวัดอนงคารามอย่างในปัจจุบัน
พระอุโบสถที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นอาคารทรงไทย ก่ออิฐถือปูน หลังคามุงกระเบื้องเคลือบ ช่อฟ้า ใบระกาลงรักประดับกระจก หน้าบันและซุ้มประตูหน้าต่างก็มีลวดลายลงรักปิดทองสวยงาม มีพระพุทธรูปสำคัญอย่างพระพุทธจุลนาคซึ่งเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยปางมารวิชัย เป็นพระประธานในพระวิหาร และมีพระพุทธรูปพระสาวกหล่อด้วยโลหะปิดทองยืนอยู่ด้านซ้ายขวา อีกทั้งด้านหน้าพระประธานยังมีพระพุทธมังคโล ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องปางสมาธิตั้งอยู่ด้านหน้าอีกด้วย
ชุดนี้ภาพไม่ชัด เขียนบรรยายว่าคลองสาพิท บางคลองเป็นคลองสมเด็จเจ้าพระยา
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
visitna
|
ความคิดเห็นที่ 991 เมื่อ 12 พ.ค. 15, 15:54
|
|
คลองที่พาดขวางซ้ายขวาคือคลองสมเด็จ ทางซ้ายไปออกคลองบางหลวง ส่วนคลองที่ตรงไปข้างหน้าออกแม่นํ้าเจ้าพระยา มีสะพานหกที่เรียกว่าสะพานหกวัดพิชยญาติการาม
ภาพนี้ยืนถ่ายภาพที่วัดพิชยญาติการาม
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
visitna
|
ความคิดเห็นที่ 992 เมื่อ 12 พ.ค. 15, 15:58
|
|
คลองพวกนี้แต่เดิมตามรูปกว้างมากเรือเมล์ยาวยี่สิบเมตรวิ่งเข้ามาได้สบาย ตามประวัติขุดเพื่อใช้ในการสร้างวัด พิชยญาติการาม ปัจจุบันคงตื้นเขิน หรือถูกถม หมดสภาพไปแล้ว
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
visitna
|
ความคิดเห็นที่ 993 เมื่อ 12 พ.ค. 15, 17:50
|
|
เอาภาพเก่ามาดูอีกครั้ง
ภาพที่สองเมื่อมองสวนทางกับภาพแรก ภาพที่สองปี พศ.2428 ต่างสมัยกันพอสมควร คลองในภาพหลังที่บรรยายในภาพโปสการ์ด เขียนว่าคลองสมเด็จฯ
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 994 เมื่อ 12 พ.ค. 15, 19:05
|
|
เสาปูนสำหรับไว้ประทีบสวยมาก มีลักษณะเดียวกันนี้ที่เหลืออยู่ที่องค์พระปฐมเจดีย์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
visitna
|
ความคิดเห็นที่ 995 เมื่อ 13 พ.ค. 15, 10:46
|
|
เสาปูนสำหรับไว้ประทีบสวยมาก มีลักษณะเดียวกันนี้ที่เหลืออยู่ที่องค์พระปฐมเจดีย์
ขอบคุณครับ เราต้องจิตสำนึกในการอนุรักษ์ ไม่ใช่เอาอย่างง่ายๆโดยการรื้อทิ้งอย่างเดียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
visitna
|
ความคิดเห็นที่ 996 เมื่อ 13 พ.ค. 15, 11:05
|
|
ในงานเฉลิมพระชนมพรรษา พศ 2437 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ พระราชทานให้เจ้าพนักงานกระทรวงโยธาธิการ ไปสร้างสะพานข้ามคลองบางขุนพรหม ที่ถนนสามเสน พระราชทานนามว่า ตะพานเฉลิม 42
นับเป็นสะพานแรกที่สร้างด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์
ทำพิธีเปิดเมื่อ วันที่ 22 กันยายน 2437 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯมีพระชนมายุครบ 42 ปี
(ต่อมาเรียกชื่อว่า สะพานเฉลิมศรี 42)
หลังจากนั้นท่านสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างสะพานทุกปี
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
visitna
|
ความคิดเห็นที่ 997 เมื่อ 13 พ.ค. 15, 11:15
|
|
สะพานเฉลิมที่ใหญ่ที่สุดมีสองสะพานคือ สะพานเฉลิมโลก 55 กับสะพานเฉลิมหล้า 56(สะพานหัวช้าง)
สะพานเฉลิมโลก 55 นั้น "ว่าจ้างเหมานายช่างฝรั่งเศสผู้ชำนาญให้ทำอย่างมั่นคง โดยวิธีที่เรียกว่าเฟโรกองกริด ซึ่งยังมิได้เคยทำเลยในกรุงเทพ..... ได้เริ่มลงมือทำมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม รัตนโกสินทร์ศก 117 นี้ถึงว่าพระราชประสงค์ได้แล้ว"
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯเสด็จมาประกอบพิธีเปิดสะพานแห่งนี้ เมื่อวันที 21 พฤศจิกายน พศ.2451 อันเป็นวันมหามงคลที่เสด็จดำรงศิริราชสมบัติมาครบ 40 ปี
ตามภาพคนทางซ้าย ที่ยืนอ่านรายงานคือเจ้าพระยายมราช
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
visitna
|
ความคิดเห็นที่ 998 เมื่อ 13 พ.ค. 15, 11:24
|
|
ภาพทางอากาศสะพานเฉลิมโลก เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2489
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
visitna
|
ความคิดเห็นที่ 999 เมื่อ 13 พ.ค. 15, 12:08
|
|
ข้างล่างภาพเขียนว่า เวนิซ แห่งตะวันออก ในภาพ ดูเหมือนจะซบเซาเงียบเหงา
สะพานหันยังเป็นที่นิยมเรื่อยมา ตั้งแต่สมัย ร๖ จนหลังสงครามโลก แล้วสุดท้าย ในปี ๒๕๐๕ ได้รื้อสะพานหันลง เหลือแต่ภาพเก่า
อันล่างเป็นโปสการ์ด น่าจะสมัยเดียวกัน
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
visitna
|
ความคิดเห็นที่ 1000 เมื่อ 14 พ.ค. 15, 07:38
|
|
ขอย้อนกลับไปเมื่อวานอีกครั้ง เพราะความไม่รอบคอบของผมเอง
มีภาพเดิมที่เอามาทำโปสการ์ด
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
visitna
|
ความคิดเห็นที่ 1001 เมื่อ 14 พ.ค. 15, 08:57
|
|
ถนนสีลมเมื่อปี พศ 2493 ร้านสีลมโฆษณาสมาชิกของเราบางคนชี้ว่าอยู่ปากถนนมเหศักดิ์
ภาพนี้คือถนนมเหศักดิ์ตัดกับถนนสีลม
ถนนสีลมเห็นอยู่ไกลๆ มีรถราง รถเมล์ มีคลองอยู่ทิศเหนือ
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
visitna
|
ความคิดเห็นที่ 1002 เมื่อ 14 พ.ค. 15, 08:59
|
|
แถมภาพโคลสอัพ
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
visitna
|
ความคิดเห็นที่ 1003 เมื่อ 14 พ.ค. 15, 12:54
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
visitna
|
ความคิดเห็นที่ 1004 เมื่อ 15 พ.ค. 15, 09:14
|
|
วันนี้ขอแบบขายผ้าเอาหน้ารอดสักวัน เป็นเรื่องเก่าที่เคยลงในเรือนไทยมาแล้ว
เรื่องนํ้าท่วมปี ๒๔๘๕ เป็นครั้งที่ ๗ ในยุครัตนโกสินทร์ ก่อนหน้าครั้งนี้ คือนํ้าท่วมปีมะเส็ง พศ ๒๔๖๐ เป็นครั้งที่ท่วมสูงมาก แต่ในปี ๒๔๘๕ นํ้าท่วมสูงกว่าปี ๒๔๖๐ ถึงสองเท่า และท่วมอยู่เป็นระยะนานกว่า
นํ้าเริ่มหลากลงมาจากทางเหนือก่อนเหมือนปัจจุบันนี้ ทางรถไฟสายเหนือขาดเป็นช่วงๆ พอปลายเดือนกันยายนนํ้าเข้ามาถึงกรุงเทพ สูงประมาณคืบ แรกๆรถราสามล้อยังวิ่งได้ พอต่อมานํ้าสูงมากขึ้น ต้องประกาศหยุดโรงเรียน นํ้าในบางที่สูงกว่าเมตร แถวดอนเมืองที่จัดว่าเป็นที่สูงนํ้าท่วมประมาณ ๑ เมตร ที่หน้ากองรังวัดที่ดินธนบุรี นํ้าสูง ๒.๒๗ เมตร
ระยะนี้อยู่ในระหว่างสงครามพอดีแต่คนไทยไม่ทุกข์ยาก ยังพายเรือออกมาเที่ยวเตร่กันเป็นที่สนุกสนาน
นํ้าเริ่มลดตอนสิ้นเดือนตุลาคม จนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนนํ้าถึงแห้งสนิท
(ภาพอาจจะใหญ่ไปผมไม่อยากลดขนาด) ภาพที่สามข้างศาลอาญาเห็นเจดีย์วัดบูรณศิริมาตยาราม
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|